 |
ความคิดเห็นที่ 44 |
เอ่อ...ที่โพสข้างล่างนี้ เคยไปอ่านเจอมาครับ เลยลองเอามาให้ดูกัน ไม่แน่ใจว่าเป็นของจริงมั้ย แต่โดยส่วนตัวก็คิดว่ามีความเป็นไปได้อยู่ คิดซะว่าเอามาประกอบอีกอันหล่ะกันครับ ถ้าใครรู้จริง ก็เข้ามาอธิบาย แ้ก้ไขเพิ่มเติมเลยครับ ที่มา: http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=62346.0
ใน link ข้อความเหมือนขาดตอนไม่สมบูรณ์ไปในบางช่วง บางตอน อาจทำให้อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ผมเลยเพิ่มคำพูดที่คิดว่า"น่าจะใช่" ลงไปเล็กน้อย ไม่กี่คำครับ และเรียบเรียงเล็กน้อย แต่โดยรวม เหตุการณ์ รายละเอียด และบรรยากาศของเรื่องยังคงเดิมครับ
***************************** 5 เบื้องหลังความโหดร้ายของนิทานก่อนนอนที่นิยมไปทั่วโลก *****************************
The Gruesome Origins of 5 Popular Fairy Tales
รู้จักพี่น้องกริมส์หรือเปล่า พวกเขาคือคนแต่งนิทานเทพนิยายที่โด่งดังไงละ เช่น หนูน้อยหมวกแดง, สโนว์ไวท์ฯ, ซินเดอเรล่า ฯลฯ
แต่... คุณรู้หรือเปล่าว่าเบื่องหลังนิทานเหล่านั้น มันมีต้นกำเนิดนะมันเป็นนิทานพื้นบ้านของยุโรป ซึ่งมีหลายเวอร์ชั่นนะครับ ซึ่งเนื้อหานี้เหลื่อเชื่อมากว่ามันเป็นนิทานก่อนนอนสำหรับเด็ก และโครงเรื่องแสนลึกล้ำยากจะจินตนาการดู
ว่ากันว่า พระน้องตระกูลกริมส์เคยคิดเอาโครงเรื่องนิทานพวกนี้มาแต่งให้คง เอกลักษณ์รส ชาติเดิมไว้ ผลเหรอ...ทางสำนักพิมพ์ก็บอกว่าเอาไปแต่งใหม่ดีกว่าเพราะเนื้อหาของมันไม่ เหมาะต่อเยาวชนเด็กและสตรีเพราะมีแต่ความรุนแรง โหดร้าย ทารุณ เซ็กต์(อีกแล้ว) ก่อนที่จะถูกแปลงให้สะอาดและทอนเนื้อหาที่รุนแรง โหดร้ายลง (อย่างน่าเสียดาย)
และนี้คือ 5 นิทานโหด ที่คุณไม่เชื่อว่าต้นกำเนิดของมันช่างน่ากลัวยิ่งนัก
อันดับ 5. หนูน้อยหมวกแดง:เล่นเซ็กต์ระหว่างสัตว์,กินเนื้อคน (Little Red Riding Hood: Inter-Species Sex Play, Cannibalism)
เวอร์ชั่นที่คุณรู้: ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 เรื่องนี้ในฉบับภาษาเยอรมัน ถูกบอกเล่าให้แก่ พี่น้องตระกูลกริมม์. โดยคนพี่ เจค็อบ กริมม์ ฟังมาจาก Jeanette Hassenpflug (ค.ศ. 1791-1860) , ส่วนคนน้อง วิลเฮล์ม กริมม์ ฟังมาจาก Marie Hassenpflug (ค. ศ. 1788-1856) พี่น้องทั้งสอง ได้รวมเนื้อเรื่องจากทั้งสองฉบับนั้น เป็นเรื่องเดียว จนเป็นฉบับปี ค.ศ. 1857 ที่เป็นเนื้อเรื่องที่แพร่หลายในปัจจุบัน ซึ่งเนื้อเรื่องค่อนข้างจะจินตนาการมากกว่าฉบับอื่น ๆ ที่ผ่านมา โดยหนูน้อยและคุณยายถูกหมาป่าจับกิน และในภายหลังคนตัดไม้ได้มาช่วย โดยการผ่าท้องหมาป่า ช่วยหนูน้อยและคุณยาย ออกมาได้โดยปลอดภัย
เวอร์ชั่นเดิม: ที่มาของเรื่องนี้นั้น เป็นเรื่องที่เล่าปากต่อปาก แพร่หลายอยู่ในหลายประเทศในยุโรป ซึ่งคาดว่าเป็นก่อนช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 แต่เท่าที่ทราบโดยทั่วไป Le Petit Chaperon Rouge เป็นฉบับแรกสุด ที่ได้รับการตีพิมพ์ จากเนื้อเรื่องนิทานพื้นบ้านของฝรั่งเศส โดยเนื้อเรื่องนั้น ได้ถูกพิมพ์ในหนังสือ ในปี ค.ศ. 1697 ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวม นิทานและเรื่องเล่าต่าง ๆ พร้อมคติสอนใจ โดย ชาร์ลส แปร์โรลต์ เนื้อเรื่องของฉบับนี้จะค่อนข้างรุนแรง เพราะมีการร่วมเพศระหว่างคนกับสัตว์ โดยหนูน้อยหมวกแดงจะระบำเปลื้องผ้าให้หมาป่าที่ปลอมตัวเป็นคุณยายดู..... ก่อนที่หนูน้อยและคุณยายถูกหมาป่าจับกิน และตายไปเลย......... ซึ่งเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า.....
อันดับ 4. สโนไวท์: เจ้าชายล่อลวงเด็ก,มนุษย์กินคน (Snow White: Prince Pedophile, More Cannibalism)
เวอร์ชั่นที่คุณรู้: (Snow White in her coffin, Theodor Hosemann, 1852) โดยมีเนื้อเรื่องย่อคือ แม่เลี้ยงใจร้ายอิจฉาสโนไวท์ที่สวยกว่าตนเลยวางแผน ให้นายพรานพาเธอไปฆ่าที่ป่าทึบ และนำหัวใจกลับมาให้เธอดูเป็นหลักฐาน แต่นายพรานกลับปล่อยสโนเวท์ เธอหนีเข้าไปยังบ้านคนแคระทั้ง 7 พอแม่เลี้ยงทราบข่าวว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ เธอเลยปลอมตัวเป็นหญิงชราเอาแอ็ปเปิ้ลพิษให้เธอกิน และสโนไวท์ก็หลับและนอนในโลงแก้ว จนเจ้าชายผ่านมาและก็จูบเธอ และสโนไวท์ก็ตื่นและอยู่ด้วยกันกับเจ้าชายอย่างมีความสุข
เวอร์ชั่นเดิม: ต้นฉบับดั้งเดิมเป็นนิทานพื้นบ้านที่มีเค้าโครงเรื่องจริง สิ่งที่ต้นฉบับเดิมแตกต่างไปจากเวอร์ัชัันที่เรารู้ ๆ กันก็คือ แม่เลี้ยงที่บอกนายพรานให้ฆ่าเธอ นอกจากการนำหัวใจให้เธอดู ยังมี ตับ, ปอด, ลำไส้, อวัยวะภายใน และรวมเลือด 1 ขวด กับนิ้วเท้าของเธอและแม่เลี้ยงจะนำไปกิน(คงแค้นมากนะนั่น) ส่วนเหตุการณ์หลังการฆาตกรรมด้วยแอ็ปเปิ้ล แม่เลี้ยงถามกระจกอีก แล้วกระจกบอกว่าสโนไวท์ไม่ได้ตาย และในตอนจบสุดท้ายสโนไวท์ ก็แก้แค้นกระทำของแม่เลี้ยงโดยให้เลี้ยงใส่รองเหล้าเหล็กร้อนๆ และบังคับให้แม่เลี้ยงเต้นรำไปจนขาดใจตาย...
ที่น่าสนใจคือสโนไวท์ในฉบับดั่งเดิมนั้นอายุ 7 ขวบเท่านั้น(โอ้แม่เจ้า) แต่เธอต้องแต่งงานกับเจ้าชายที่แก่กว่าตนหลายเท่า ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของยุโรป(หรือเปล่า?)
อันดับ 3.รัมเปลสติลล์สกิน: ตัดเป็นชิ้นๆ, ตาย (Rumpelstiltskin: Dismemberment, Dead Toddlers)
เวอร์ชั่นที่คุณรู้: เรื่องนี้คนไทยอาจไม่รู้จักเท่าไหร่ แต่ถ้าอ่านก็อาจคุ้นๆ (Illustration of Rumpelstiltskin from Andrew Lang's The Blue Fairy Book, ca. 1889) คือกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เจ้าของโรงสีมีลูกสาวสวยที่สามารถม้วนฟางให้เป็นทอง จนเรื่องนี้เข้าหูพระราชาโลภมากเข้า เลยจับขังหอคอย และบอกให้เธอปั่นทองให้ได้เท่านี้ถ้าทำไม่ได้เอ็งตายอย่างเขียด แต่ใครจะบ้าทำได้ในขณะที่หญิงสาวกำลังม้วนฟางกลุ่มนั้นอยู่ คนแคระก็เข้ามาหา มันเสนอข้อแลกเปลี่ยน กับการแลกบุตรที่เธอคลอดคนแรกให้กับมัน และจะช่วยให้เด็กสาวสมความปรารถนา จนกระทั่งเด็กสาวทำสำเร็จ ได้แต่งงานพระราชาโลภมาก(ดีไหมนั้น) มีบุตรคนแรก และคนแคระก็มารับเด็กตามข้อตกลงแต่เด็กสาวกลับคำ คนแคระเลยเพิ่มข้อแลกเปลี่ยนเพิ่มโดยทายชื่อเขาให้ถูก โดยมีเวลา 3 วัน (บางเล่มบอกว่าให้ทายแค่ 3 ชื่อในเวลา 3 วัน) เจ้าหญิงเดาชื่อคนแคระไปเรื่อยๆ ทั้ง 2 วันก็ไม่ถูกสักที จนกระทั่งมีคนผ่านไปแอบได้ยินมนุษย์แคระที่ร้องเพลงบอกชื่อของตนว่าเขาชื่อ "รัมเปลสติลล์สกิน"คนผ่านมาเลยไปบอกเจ้าหญิง และสุดท้ายคนแคระเลยอดได้เด็ก
เวอร์ชั่นเดิม: ที่ มาของเรื่องนี้นั้น เป็นเรื่องที่เล่าปากต่อปากจนกระทั่งพี่น้องตระกูลกริมส์นำมาแต่งใหม่ ซึ่งเวอรชั่นเดิมนั้นหญิงสาวไม่สามารถหาชื่อจริงของคนแคระคนนี้ได้เลย จนสุดท้ายเธอแก้ปัญหานี้โดยต้องเอาลูกคนอื่นสวมรอย พอคนแคระจับได้มันเลยวิ่งจับลูกคนแรกของเด็กสาว(รวมถึงเด็กสาวด้วย)กระทืบด้วยเท้า จนขาคนแคระจมพื้นดิน จากนั้นคนแคระกระชากขาดขาและแขนเธอและลูกจนฉีกขาด ซึ่งทหารผู้พิทักษ์ทั้งหมดต้องมาเอาคนแคระออก แต่สายไปเสียแล้วเพราะสิ่งที่เหลือจากนั้นคือซากของเด็กสาวและลูกที่ตายคาที่ เหมือนก้อนเนื้อ จนมีคำถามตามมาว่าคนแคระนั้นคือซอมบี้สัตว์ประหลาดปลอมตัวหรือเปล่า
อันดับ 2. เจ้าหญิงนิทรา:โคม่า เซ็กต์ (Sleeping Beauty: Coma Sex)
เวอร์ชั่นที่คุณรู้: เวอร์ชันที่คุณรู้ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1697 เป็นเรื่องราวของเจ้าหญิงหนุ่มที่ถูกสาปแช่งโดยแม่มดที่เจ้าหญิงไม่เชิญเธอ ในงานเลี้ยง โดยแม่มดแช่งว่าเธอจะต้องโดนเข็มเย็บผ้าทิ่มแทงนิ้วมือ และตายเมื่อวันเกิดครบรอบ 15 ปี และเมื่อเธอโดนสาป เธอหลับมานานกว่า 100 ปี(ไม่ยายเหรอนั้นแถมไม่ตื่นอีกแสดงว่ายานอนหลับแรงจัด) และแล้วเมื่อถึงวันคลายคำสาปเจ้าชายเด็กก็บุกป่าผ่าดงและพบเจ้าหญิงอายุกว่า 100 ปี จากนั้นก็จูบ เจ้าหญิงตื่นและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข(อิจฉาจังคุณยายได้คั่วเด็ก)
เวอร์ชั่นเดิม: คุณรู้หรือเปล่า ว่าในนิทานพื้นบ้านฉบับดั้งเดิมนั้น เจ้าหญิงนิทราไม่ได้ตื่นเพราะเจ้าชายจูบ โดยเธอถูกทำให้หลับโดยพระราชาที่มีมเหสีแล้ว โดยใช้เศษไม้ทิ่มที่ใต้เล็บ และเธอก็หลับไม่ตื่นอีกเลย ทำให้พระราชาร่วมประเวณีกับเธอหลายครั้งมานานกว่า ร้อยกว่าปี(พ่อกับลูก!!) ขณะที่เธอยังหลับนั้นก็ได้ตั้งครรภ์ให้กำเนิดลูกแฝด? หลังจากที่เธอได้ให้กำเนิดลูกแฝด แฝดคนหนึ่งต้องการดูดนมแม่ แต่กลับไปดูดเศษไม้ออกจากนิ้วโป้งของเธอ ทำให้เธอได้ตื่นจากนิทราที่ถูกสาป จนเราต้องตั้งคำถามว่ายานอนหลับนี้ยี่ห้ออะไรนี้ถึงหลับนานกว่า 100 ปี โดยไม่ตื่น
อันดับ 1. ซินเดอเรลลา ตัดนิ้วเท้า, เซ็กต์, สิ่งที่มากกว่าตัดนิ้วเท้า (Cinderella: Mutilation, Sex, More Mutilation)
เวอร์ชั่นที่คุณรู้: (Gustave Doré's illustration for Cendrillon) เป็นเทพนิยายปรัมปราที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงทั่วทั้งโลก มีการดัดแปลงเป็นรูปแบบต่างๆ มากมายกว่าพันครั้ง โดยที่โด่งดังสุดเป็นของชาร์ลส แปร์โรลต์ นักเขียนชาวฝรั่งเศส รวมถึงสองพี่น้องตระกูลกริมม์ชาวเยอรมัน เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กสาวกำพร้าผู้หนึ่งที่อยู่ในอุปถัมภ์ของ แม่เลี้ยงกับพี่สาวบุญธรรมสองคน แต่ถูกทารุณและใช้งานเยี่ยงทาสเพราะเกลียดที่เธอสวยกว่าพวกตน จนกระทั่งวันหนึ่งเทพธิดาก็ปรากฏตัวและเสก ซินเดอเรลลาสวยใส่เสื้ออาภรณ์ที่แสนหรู และรถม้าสี่ล้อขนาดใหญ่จากฟักทอง และพบรักกับเจ้าชาย แต่เจ้ากรรมมนต์นั้นจะหมดฤทธิ์เที่ยงคืนเวลา 24:00 นาฬิกา เธอรีบจนลืมรองเท้าแก้ว(บางเรื่องรองเท้าขนสัตว์) เจ้าชายจึงการออกไปและ พบซินเดอเรลลา, รองเท้าเหมาะสม, และเขาอาศัยอยู่อย่างมีความสุขหลังจากนั้น
เวอร์ชั่นเดิม: นิทานเรื่องนี้มีเวอรชั่นที่หลายหลายมากมายซึ่งเก่าแก่เท่าที่พบ พบว่ามันอยู่ในช่วง 850 ก่อน คริสตกาล ก่อนที่เจค็อบกับวิลเฮล์ม กริมม์ (สองพี่น้องตระกูลกริมม์) ซึ่งประพันธ์ขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 แต่ครั้งแรกนั้น เด็กสาวในเรื่องนี้ชื่อว่า แอนน์ เดล ทาโคล หรือ แอนน์แห่งทาโคลบัน ใช้ชื่อตำนานว่า Aschenputtel ผู้มาช่วยเด็กสาวไม่ใช่นางฟ้าแม่ทูนหัว แต่เป็นผลจากคำอธิษฐานต่อต้นไม้วิเศษซึ่งงอกงามขึ้นบนหลุมฝังศพของแม่ของเธอ (ปลาบู่ทองเรอะ) และเมื่อเจ้าชายไปตามหาเจ้าของรองเท้า แม่ก็ให้พี่เลี้ยงใจร้ายทั้งสองลองรองเท้า ปรากฏว่าใหญ่เกินไป แม่เลี้ยงเลยจัดการเอามีดตัดส้นเท้าทิ้งแล้วบังคับให้ลูกใส่รองเท้าลงไปให้ ได้ จนเจ้าชายเกือบจะหลงเชื่อ แต่ดันมีเจ้านกแถวนั้นผู้รู้เห็นเหตุการณ์มาบอกเจ้าชาย และเมื่อเจ้าชายทราบเรื่องในภายหลังก็แต่งงานกับนางเอก ส่วนพี่เลี้ยงแต่เลี้ยงต่อมานกพิราบสองตัวจิกลูกตาของพวกนาง ทำให้กลายเป็นขอทานตาบอดไปตลอดชีวิตถือว่าเป็นการลงโทษ(??)ที่เหมาะสมแล้ว สำหรับความชั่วของพวกเธอ ************************************* ลองอ่านเช็คแล้วเช็คอีก ก็ยังมีที่ผิดอยู่อีกเพียบแฮะ -"-*
แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 05:57:19
แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 05:48:18
แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 05:42:49
แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 05:39:10
แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 05:07:42
จากคุณ |
:
วิฬาบนจันทรา
|
เขียนเมื่อ |
:
1 ก.ย. 52 05:05:13
|
|
|
|
 |