Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
<<< ดูแล้วมาคุยกัน ... The Final Destination (4) , สิ่งเดียวที่ดีกว่า(ภาคก่อนๆ) คือ เนื้อสันในตับไตไส้พุงพุ่งเข้าตา >>>  

  ชอบมาก ห้ามพลาด (10 คน)
  ชอบ (11 คน)
  เฉยๆ (22 คน)
  ไม่ชอบ (6 คน)
  ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (7 คน)

 17.86%
  ชอบมาก ห้ามพลาด (10 คน)
 19.64%
  ชอบ (11 คน)
 39.29%
  เฉยๆ (22 คน)
 10.71%
  ไม่ชอบ (6 คน)
 12.50%
  ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (7 คน)

จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 56 คน


เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ + ชวนมาแสดงความเห็นกันต่อที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=09-2009&date=06&group=14&gblog=177



... ผมเคยอ่านเจอคนเปรียบการดูหนังชุด Final Destination เหมือนนั่งรถไฟเหาะ เข้าใจว่าต้องการสื่อประมาณ วู้วว้าวสนุกตื่นเต้นเร้าใจ ไม่ต้องหวังอะไรมาก จบแล้วจบกัน

ผมเห็นด้วย

แต่ อดคิดถึงภาคแรกไม่ได้ว่า มันไม่ได้จบแค่ความวู้วว้าว เพราะนอกจาก ความสดใหม่ของพล็อต ลูกเล่นการตายของภาคแรกก็ยังใส่ใจในรายละเอียด มีคำเตือนที่ดูฉลาดๆเช่น เสียงเพลงหรือชาร์ตที่สนามบิน

และ ส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์ใกล้ตัวที่ดูแล้วเสียวสันหลังว่าตัวเองจะเจอบ้าง อย่าง เครื่องบินตก หรือ นั่งเล่นคอมแล้วตาย ไม่เหมือนภาคหลังๆที่รู้สึกชักจะตายเว่อร์ขึ้นทุกที




... แต่ ธรรมชาติของรถไฟเหาะ ถ้าเราขึ้นขบวนเดิมซ้ำๆ มันก็ย่อมจำเจ

คือ เดาได้แล้วว่า มันจะตีโค้งตรงไหน มันจะตีลังกาตรงไหน ตราบใดที่ยังตีลังกา แน่นอนว่า เราก็ยังยินดีเสียเงิน แต่ เราก็คงอยากจะได้อะไรแปลกๆใหม่ๆบ้าง

ผมคาดหวัง หนังสยองชุด Final Destination ไว้ระดับเดียวกับ Saw คือมี อะไรดีๆ มากไปกว่า การไล่ฆ่า ตามสูตรหนังตระกูล Slasher แบบ ศุกร์13 หรือ Texas Chainsaw ที่ตอบสนองคนดูแค่ นม กับ เลือด

น่าเสียดายที่ ภาค 4 เหมือนกับหนังเริ่มจะเลือกไปเส้นทางหลัง เพราะ เส้นทางรถไฟเหาะงวดนี้ ไม่เพียงแต่ไม่มีอะไรใหม่ แต่ยังแทบจะใช้เส้นทางเก่าๆ แล้วลดรายละเอียดลงเสียด้วยซ้ำ

บวกน่าผิดหวังมากขึ้นก็ตรงรู้ว่าผู้กำกับคือ David R. Ellis ที่เคยทำหนังสนุกมากๆอย่าง Cellular , สนุกเข้าท่าสไตล์หนังเกรดบีอย่าง Snakes on a Plane และเคยมีส่วนร่วมกับหนังชุด Final Destination ในฐานะผู้กำกับ Final Destination 2





... นั่งนึกภาพเล่นๆ คาดว่า ทีมเขียนบทคงใช้เวลา 1% กับการวางพล็อตเรื่อง แล้วใช้เวลาอีกกว่า 99% ไปสนใจกับวิธีการตาย ประมาณว่า

เจสัน หัวหน้าทีม : เอาละ เราจะสร้างภาค 4 เรามาคิดบทหนังกันเถอะว่าจะเล่าเรื่องยังไง

manคนเขียนบท 1 : เอางี้ดีมั้ย ให้ ตัวเอกเห็นนิมิตล่วงหน้า แล้วพาตัวเองกับคนกลุ่มหนึ่งให้รอด จากนั้นความตายไล่ล่าทีละคนตามคิวที่ตาย กลุ่มพระเอกก็เลยพยายามไล่ดูว่าคิวใครก่อนใครหลัง พอเจอแล้วก็พยายามไปช่วยเหมือนตัดห่วงโซ่โกงความตาย แล้วสุดท้าย ความตายก็ไล่ฆ่าจนครบอยู่ดี

womanคนเขียนบท 2 : มันเป็นบทหนังที่แหร่มมากๆเลยคะ แต่ เอ๊ะ มันคล้ายๆกับภาค 1,2,3 เลยนะคะ

แฟรงเก้นคนเขียนบท 3: ถ้าอย่างนั้นก็ใช้บทเดิมของสามภาคก่อน แล้วมาเปลี่ยนชื่อตัวละครเสียซิ

hohoทีมเขียนบท: เยสสสสส


จากนั้น พวกเขาก็ใช้เวลาที่เหลือไปนั่งคิดฉากตายเก๋ๆไก๋ๆแทน




.... เมื่อหยิบ Final Destination 4 เทียบกับภาคก่อนๆ

ดีกว่า - มีอย่างเดียวคือ ทะลุเข้าหน้าแบบสามมิติ

ดีที่สุดของ Final Destination 4 - ฉากที่ร้านตัดผม เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า ฝีมือการกำกับที่ดี มีลูกล่อลูกชน ทำให้คนเสียวสยองได้มากกว่า CGที่ดีหรือเศษเนื้อที่มาก , ชื่อร้านกาแฟ

เท่าทุน - การออกแบบการตายที่ก็ไม่ได้ดีไม่แย่อะไร , หน้าตาตัวละครดีกันทั้งเรื่อง(ขนาดแม่ยังสวยสะดิ้ง) , ฉากดูหนังสามมิติในโรง เข้าใจคิดเล่นกับ คนดูจริงๆที่นั่งดูอยู่ แต่มันน่าจะทำได้อารมณ์ร่วมมากกว่านี้ , ฉากเปิดเรื่อง (ด้อยกว่าสองภาคแรก แต่สูสีกับภาคที่แล้ว)

แย่กว่า - บทที่แทบจะไม่มีอะไรเลย , แอคติ้งของนักแสดง , หน้าตาดีแต่ไม่มีเสน่ห์ คือ หน้าตาดีกันหมดแต่ดูระนาบเดียวกันหมด ไม่มีใครโดดเด่น แทบจะจำตัวไหนไม่ได้เป็นพิเศษ , บทที่แบน ไม่ได้อยากได้ลึก แต่มันก็ แบนมากๆ เรารู้จักตัวละครนำคู่นี้น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับสามภาคก่อนๆ

หรือแทบจะเรียกว่าไม่รู้อะไรเลย(ชีวิตครอบครัว , การเรียนการทำงาน,นิสัยใจคอฯลฯ) จนไม่รู้สึกผูกพันอยากเอาใจช่วยเท่าไหร่ เพราะ ชีวิตของพระเอกนางเอก มีอยู่ด้านเดียวทั้งเรื่อง คือ ออกตามเรื่องความตาย



สรุป ... สำหรับแฟนๆดูมาตลอดก็ไม่น่าพลาด แต่แนะนำว่า ควรทุ่มเงินดู3มิติ เพราะสิ่งเดียวที่ภาคนี้ดีกว่าภาคก่อนๆคือ ความรู้สึกตอนเห็น เนื้อสันในตับไตไส้พุงพุ่งทิ่มตา แต่ ถ้าจะดูแบบธรรมดา รอแผ่นก็พอไหว


idea แอบนึกเล่นๆว่า งวดหน้า ทีมงานน่าจะลองทุ่มจ้าง ทีมเขียนบทเรื่อง Lost มาเขียนบทให้

เพราะ ประเด็น โกงความตาย ในหนังชุดนี้ ดูจะเข้ากันได้กับ ประเด็น Fate VS. Free Will ในเรื่อง Lost ซึ่งน่าจะมีอะไรให้เล่นได้อีกมาก

ไม่แน่ว่า เราอาจเห็น ความตายมาในรูปแบบของ ควันดำ ในภาค 5 ก็ได้



... นึกถึงความประทับใจจากสามภาคที่ผ่านมา

ชอบฉากเปิดเรื่องของภาค 2 มากที่สุด

เสียวการตายแบบฝังใจในชีวิตจริง จาก ฉากในอ่าง กับ โต๊ะคอมในภาค 1 มากที่สุด

ชื่นชม กิมมิก ที่เป็นคำใบ้ก่อนตายในภาค 1 มากที่สุด



รักคุณ จขกท. มี Twitter แล้วเน้อในชื่อ http://twitter.com/ibehindu สนใจ อัพเดตหนัง อัพเดทบทความ หรือเรื่องทั่วๆไป ก็ตามไปด้วยกันกับทวิตเตอร์ได้โลด



ideaบทความที่อ้างอิงถึงในกระทู้
(บทความเหล่านี้เคยนำมาลงในกระทู้แล้ว)

Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=08-2006&date=23&group=1&gblog=32

Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=aorta&date=25-01-2005&group=1&gblog=105

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 16:26:27




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com