ขอชื่นชม คุณครูจูหลิง สักครั้ง
|
|
พึ่งจะมีโอกาสได้ดูเมื่อวาน ในโรงก็มีสักประมาณ 5 คนได้ ยังไงก็ขอให้โรงหนังเฮ้าส์อยู่กับเราไปนานๆนะครับ ผมยังอุดหนุนอยู่เสมอ เอาหละ มาพูดคุยเรื่องหนังกันดีกว่า
[ตลอดกระทู้อาจสปอยล์เล็กน้อยถึงปานกลาง แต่มันก็ไม่น่ามีผลให้เสียอรรถรสเท่าไหร่กับการดูหนังเรื่องนี้]
- เปิดเรื่องด้วยการซักถามคนหลายๆกลุ่มถึงเรื่อง "ครูจูหลิง" หลายๆคนคิดว่าเข้าไปถามในชุมนุมคนเสื้อเหลือง แต่ผมว่า ไม่ใช่นะ มันน่าจะเป็นงาน 60 ปีในหลวงครองราชย์ มากกว่า ซึ่งคือวันที่ 9 มิถุนายน 2549 หลังจากวันที่ ครูจูหลิง ถูกทำร้าย (วันที่ 19 พฤษภาคม 2549)
- ถ้าผมโดนถามเรื่องครูจูหลิง ผมก็คงตอบไม่ต่างอะไรกับที่คนอื่นๆตอบเหมือนกันคือ ไม่ได้รู้อะไรมาก รู้น้อยกว่าน้องๆบางคนเสียอีก ว่ากันตามตรง ในช่วงนั้นก็ค่อนข้างอิ่มจนเบื่อกับข่าวความรุนแรงใน 3 จังหวัด รู้ว่าเผาโรงเรียน รู้ว่าทำร้ายครู จึงไม่ได้สนใจ ก็คิดว่า "ครูจูหลิง" ก็เป็นหนึ่งในครูที่ถูกทำร้าย แต่ ... หนังเรื่องนี้ทำให้เรารู้อะไรมากกว่านั้น ... มาก
- จุดด้อยอย่างหนึ่งของหนัง คือเรื่องกล้อง/ภาพ/ลำดับภาพ/การตัดต่อ ซึ่งผมให้คะแนนแค่พอใช้ แต่ก็ยอมรับได้ เรื่องความสั่นไหวมันก็เป็นธรรมดาของการลงพื้นที่ด้วยกล้องแฮนดีแคม แต่การแช่กล้องหรือภาพวิวทิวทัศน์จากรถตู้หรือความเงียบบางอย่างที่มันเกินจำเป็นน่าจะตัดออกไปบ้าง
- หนังทำได้ดีในแง่ของการเจาะลึกเรื่องราวหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งกับคนในท้องที่รวมถึงมีคนในท้องที่ด้วยก็ทำให้ข้อมูลที่ได้มากกว่าที่เราได้รับจากสื่อทั่วไป และการเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวอย่างนี้ก็สื่อได้ดีถึงอารมณ์ของคนในพื้นที่ ซึ่งไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ
- หนังนำเสนอได้ครอบคลุมภาพรวมทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ผมว่าเรื่องราวและเนื้อหาน่าจะครอบคลุมมากกว่า 85% ของประเด็น/เรื่องราวทั้งหมด ของครูจูหลิง ซึ่งมันสำคัญตรงที่ ทั้งหมดที่นำเสนอ มาจากการสัมภาษณ์จริงกับคนที่เกี่ยวข้องจริง
- สิ่งที่น่าเสียดายไปหน่อย คือ การนำเสนอเรื่องอื่นที่นอกเหนือจากครูจูหลิง และการใส่ความคิดเห็นทางการเมืองของผู้สร้าง/ผู้กำกับ ซึ่งหากจะมองว่าเป็น source หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับประเด็นก็ได้ แต่... สำหรับผม มันเป็นส่วนเกินของหนัง
- ชอบเพลง ครูจูหลิง โดย นายฉาย ดีฆอลาฆู มาก บอกเล่าเรื่องราวได้ครบถ้วนดี ฟังแล้วกระแทกใจใช้ได้
- ประทับใจในสิ่งที่ ครูจูหลิง ได้ทำ ไม่ใช่แค่มีอุดมการณ์และทำตามอุดมการณ์เท่านั้น แต่ ครูจูหลิง มีผลงานระดับยอดเยี่ยมมากมายเกินกว่าผู้หญิงวัย 27 ปีคนอื่นๆจะทำได้ หากมีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ คงมีโอกาสได้เป็นศิลปินแห่งชาติ
- สิ่งที่น่าชื่นชม ไม่ได้มีเพียงแค่อุดมการณ์หรือผลงานเท่านั้น ทั้งความประพฤติและการวางตัวของครูจูหลิงที่บ่งบอกออกมาจากคนรอบข้างก็น่าชื่นชมไม่แพ้กัน
- ขอขอบคุณผู้สร้าง/ผู้กำกับ/ทีมงานและผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ให้สัมภาษณ์ในหนัง ที่ทำให้เราได้ทราบเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับครูจูหลิงและวัฒนธรรม/ความเป็นอยู่ของคนใต้มากยิ่งขึ้นอย่างที่เราคงไม่มีโอกาสไปรับทราบด้วยตัวเอง
- ขอยกย่องและชื่นชม ครูจูหลิง ด้วยใจจริง ใครยังไม่รู้จัก ครูจูหลิง ก็ไปที่ http://th.wikipedia.org/wiki/ แล้วหาคำว่า "จูหลิง" นะครับ (รูปปลากรอบจาก ที่เดียวกัน)
ป.ล. ไม่ได้บอกว่า "คนไทยต้องดู" แต่ "ได้ดูก็ดี" ป.ล.2 เรื่องความเห็นทางการเมือง ถ้าคนดูเป็นกลาง ก็จะไม่เครียด มันก็แค่ความเห็นหนึ่ง หรือหากคุณเป็นฝ่ายเสื้อแดง ก็ต้องกล้าที่จะเข้าไปฟังความเห็นที่ต่างจากตัวเอง กล้าพอไหม? (ซึ่งผมว่า มันก็ไม่ได้ถึงกับมากตลอดทั้งเรื่อง อาจจะแค่ 10% หรือน้อยกว่า) ป.ล.3 หนังยาวจริงๆ (3.42ชั่วโมง) เตรียมน้ำเตรียมขนมเตรียมเข้าห้องน้ำให้พร้อม และเตรียมที่อาจจะเบื่อในช่วงเข้าสู่ชั่วโมงที่ 3
จากคุณ |
:
จุใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.ย. 52 00:05:44
|
|
|
|