ความคิดเห็นที่ 1 กระจ่างขึ้นเยอะเลยค่ะ ไม่ตั้งข้อสงสัยเลยอ่ะ ดีจังมาบอกแบบนี้ เราก็ดูแบบไม่ได้ตีโจทย์เลย จากคุณ : Colina-Angel เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:14:48

ความคิดเห็นที่ 2   เป็นคำอธิบายที่สุดยอด ชัดเจน และงดงามครับ  ตอบคำถามที่คาใจผมได้ทุกเม็ดเลยครับ  โดยเฉพาะตอนที่หนีออกมาจากถ้ำในชุดฆราวาส ชอบคำอธิบายของคุณครับ จากคุณ : ผู้ชายซอยสิบ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:15:03

ความคิดเห็นที่ 3 เคลียร์ค่ะ   ...รอแพร่งอื่นๆอยู่นะคะ.... ^^ จากคุณ : selica เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:19:22

ความคิดเห็นที่ 4 จขกท. คิดได้ลึกซึ้ง เห็นภาพเลยค่ะ ดูมา ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน จากคุณ : ติดอยู่ในฤดูอกหัก เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:20:58

ความคิดเห็นที่ 5 นี่หรือครับดูหนังแล้วไม่ค่อยคิดมาก เอิ๊กๆ... เห็นด้วยครับในเกือบๆทุกคำตอบ จากคุณ : บางเพลง เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:22:43

ความคิดเห็นที่ 6 ไปดูมาแล้ว วัน ที่ 9 เลย กั๊ก ๆ เราว่าสนุกดีนะ ฮิฮิ จากคุณ : ปลาทูซาเตี๊ยะ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:25:51

ความคิดเห็นที่ 7 เลิศ! จากคุณ : หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:26:12

ความคิดเห็นที่ 8 น่าจะตายตอนที่ สายสิญจน์ขาด ก็คือตอนที่เห็นใส่ชุดธรรมดาออกมาจากถ้ำตอนที่ จขกท บอกพอดี จากคุณ : สีใบตอง จัดกลางหน้า เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:27:26

ความคิดเห็นที่ 9 เจ๋งค่ะ ขอบคุณมาก จากคุณ : kanid3032 เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:27:30

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่ายังไม่ตายในถ้ำนะ ไม่งั้นกดโทรศัพท์หาแม่ได้ยังไงละครับ จากคุณ : guyping เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:28:21

ความคิดเห็นที่ 11 เยี่ยมเลยค่ะ จากคุณ : Jankenpyon เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:29:40

ความคิดเห็นที่ 12 จขกท.เก่งจัง ตีความหมายของหนังได้ดีมาก ๆ เลยคะ อ่านแล้วเข้าใจตัวหนังมากขึ้นเลยทีเดียว...ว่าแล้ว ไปดูอีกรอบดีกว่า.. จากคุณ : ซันนี่ (sunnypool) เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:31:35

ความคิดเห็นที่ 13 ดีครับ ดูหนังแล้วคิดและตีความ เป็นการพัฒนาหนังไทยที่ดีทางหนึ่งครับ ขอให้กีบชมเชยนะครับ เยี่ยมเลย จากคุณ : ทุ่งหัวช้าง เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:46:22

ความคิดเห็นที่ 14 คิดว่าตายตั้งแต่ตอนในถ้ำอ่ะค่ะ เพราะตอนที่โทรหาแม่ แม่ก็ไม่ได้ยินเสียงลูก ได้ยินแต่เสียงหวีดหวิววว สไตล์เสียงเปรตเวลาขอส่วนบุญอ่ะค่ะ (ว่าแต่เสียงเป็นไงก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่คิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้..มั้งคะ) จากคุณ : หนูต้อย เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:51:15

ความคิดเห็นที่ 15 อู้ววว ล้่ำลึกมากครับ ผมยังว่า ทำไมรีบร้อนขนาดนั้นยังอุตส่าห์เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาได้อีก แต่เรื่องหิน ผมสังเกตอีกอย่างนะ คือตอนแรกที่เป้ปาหินไป มันดัง วู่บ คือเข้าพุ่มไม้ แต่พอปาครั้งที่สอง มันดังพลั่ก คือมันต้องไปโดนใครสักคนแน่ๆ และไอ้นั่นแหละที่ปาหินกลับมา (อาจจะเป็นเปรต หรือผลกรรมที่ปาพ่อตัวเอง ฯลฯ) จากคุณ : CARAGIO เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:52:22

ความคิดเห็นที่ 16 อยากให้ตัดแพร่งนี้เป็นหนังยาวจัง .................................................................... เพราะโดนสปอยล์อย่างทะลุทะลวงตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ทำให้หมดอารมณ์ที่จะไปดู แต่โดยส่วนตัวเราชอบ แพร่งนี้เป็นพิเศษก็เพราะมีเนื้อหาดี และยัง เล่นกับประเด็นทางสังคมได้อย่างเนียนๆ ในอดีตมีหนังหลายเรื่องหลากแนว นำเรื่องใกล้ตัวมา ขยายผล ตีแผ่ค่านิยมผิดๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมได้ชนิดที่ เรียกว่าสร้างปรากฏการณ์ทางสังคมให้ผู้คนได้ครุ่นคิด ถกเถียง จนนำไปสู่การร่วมใจแก้ไขปัญหาได้ชะงักนัก อย่างเรื่อง เสียดาย ซึ่งตีแผ่ประเด็นเด็กมีปัญหาครอบครัว จนหาทางออกโดยการใช้ยาเสพติดเยียวยาหัวใจที่อ่อนแอ หรือจะเป็นโกล์คลับ ที่นำเสนอปัญหาเยาวชนกับการพนันบอล ได้สมจริง สะท้อนปัญหาสังคมในช่วงเวลานั้นได้เป็นอย่างดี เป็นต้น และแม้แพร่งหลาวชะโอนจะเป็นตอนสั้นๆ ที่เล่นกับเรื่องผีๆ สางๆ ตามความเชื่อของคนไทย แต่ด้วยการผูกโยงเรื่องเวรกรรมจากการปาหิน (เป็นบทหนังที่แข็งแรงและมีจุดขายในตัวเอง) ก็ทำให้หนังตอนนี้มีมิติลึกซึ้ง ตีแสกหน้าสังคมได้อย่างน่าสนใจ เราจึงอยากเชียร์ให้ผกก.ตัดแพร่งนี้มาเป็น เวอร์ชั่นหนังสเกลใหญ่ๆ เหมือนที่ครั้งหนึ่งหนังสามช่านานาชาติ Three Extremes ตอน Dumplings ที่ถ่ายทอดปัญหาสังคมเรื่องการทำแท้งเถื่อนและการล่มสลายของ ระบบทุนนิยมได้อย่างแยบคาย เป็นหนังตอนสั้นๆ ที่อัดแน่นไปด้วยบทเด็ดๆ การแสดงดีๆ แม้เส้นเรื่องไม่ได้ซับซ้อนพิศดาร หากแต่ตัวหนังเลือกเล่นกับความรู้สึกของมนุษย์ อย่าง ความไม่มั่นคงทางอารมณ์ ความทะยานอยากที่ไม่มีวันมอดดับ ตัณหาอารมณ์ใคร่ ซึ่งเรื่องใกล้ตัวอย่างนี้แหละที่เข้าถึึงจิตใจผู้ชมดีแท้ และหลังจากที่หนังเรื่องนี้ได้รับ เสียงตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้ผู้สร้างหนังเห็นสมควรในการเพิ่มบท เพิ่มเวลา ขยายเป็นเรื่องยาวให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียเลย และด้วยคุณภาพของตัวหนัง ก็ส่งผลให้ Dumplings เป็นหนังดีที่ได้ดีทั้งเงินทั้งกล่องในที่สุด ทั้งนี้ หลาวชะโอน นั้นก็มีศักยภาพของตัวบทไม่แพ้กันเลย ทั้งมีแบ็คกราวนด์หลอนเอาเรื่อง มีประเด็นความเชื่ออื่นๆ ที่รอให้หยิบใช้ให้ถูกที่ถูกทาง มีดราม่ากระชากอารมณ์ มีในส่วนของอุทาหรณ์สอนใจวัยรุ่นคึกคะนองทั้งหลาย ให้รู้จักใช้ชีวิตอย่างมีสติและระมัดระวัง ไม่หลงระเริง มัวเมาไปกับความสนุกคึกคะนองชั่วครั้งคราว ซึ่งบางทีอาจส่งผลให้ได้รับบทเรียนราคาแพง แสนแพง เป็นฝันร้ายที่คอยหลอกหลอน ทั้งชีวิตเลยก็ได้ เราเชื่อว่าถ้าแพร่งนี้ มีความยาวมากขึ้นรับรองว่าสามารถ อัดความกลัว-ความหลอนได้เต็มสตรีม มากกว่าเดิม และก็น่าสนใจมากขึ้นแน่นอน ........................................................ จากคุณ : treenatee เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 11:52:47

ความคิดเห็นที่ 17 ตอนดูนึกสงสัยอยู่เหมือนกัน มาอ่านของ จขกท. กระจ่างเลยค่ะ จากคุณ : นางสาวZantippe เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 12:00:28

ความคิดเห็นที่ 18   สุดยอดค่ะ จากคุณ : jzaaha เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 12:10:07

ความคิดเห็นที่ 19 ยอดเยี่ยมครับ จากคุณ : นี่หรือคน (rnon) เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 12:10:19

ความคิดเห็นที่ 20 จริงด้วยค่ะ แบบว่า ตอนอยู่ในถ้ำห่มจีวร แต่พอวิ่งอออกมาเป็นชุดธรรมดา ลืมเรื่องนี้ไปเลยจริงๆ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ เด็ดมาก จากคุณ : OrAnGe_SoM เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 12:12:59

ความคิดเห็นที่ 21 จขกท วิเคราะห์ได้ดีค่ะ เศร้าตรงที่ว่า พอคิดได้โทรไปขอโทษแม่ ก็สายเกินไปเสียแล้ว จากคุณ : Why-Not-T-Shirt เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 12:23:52

ความคิดเห็นที่ 22 ดูแล้ว น้ำตาไหล แพร่งนี้ จากคุณ : พระรถเสน เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 12:37:57

ความคิดเห็นที่ 23   วิเคราะห์ดีครับ อีกประเด็นที่อยาก share คือชื่อภาษาอังกฤษของตอนนี้ครับ ตอนแรกคิดว่า novice = พระบวชใหม่ นึกไปนึกมา novice อาจหมายถึง เปรตตัวใหม่ ก็ได้นะเนี่ย *-* จากคุณ : U N Owen เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 13:05:40

ความคิดเห็นที่ 24 ถูกเผง โดนใจครับ จากคุณ : bsl_neoz เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 13:12:34

ความคิดเห็นที่ 25 ชอบเป็นที่สุด ขอบคุณครับ จากคุณ : 989 (meemie989) เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 13:35:33

ความคิดเห็นที่ 26 เนื้อๆ เน้นๆ แบบนี้ซิโดนจายยย เอากิ๊ฟไปเลยค่า เพิ่มเติมข้อความ หากไม่เป็นการรบกวนเกินไป ขอบทวิเคราะห์ดีๆแบบนี้กับแพร่งที่เหลือด้วยได้เปล่าอ่ะคะ อิอิ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 52 13:40:53 จากคุณ : Reeya_Catmania เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 13:39:47

ความคิดเห็นที่ 27   จขกทคะ เขียนได้ชัดเจนดีจัง ไม่ต้องมีคำฟุ่มเฟือยเยอะๆที่อ่านแล้วงง เจ๋งและกระจ่างมากค่ะ ^^ จากคุณ : หน้าตาดีไม่ใช่ความบังเอิญ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 13:45:03

ความคิดเห็นที่ 28   ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ทำให้กระจ่างคะ ตอนที่ดูตอนนี้ ก็ชอบมากเหมือนกันคะ ร้องไห้ด้วย ตอนที่น้องโทรไปขอโทษ แม่ก็สายไปแล้ว ตอนที่เราดูเราคิดต่อยอดไปว่า น้องเค้ามีพฤติกรรมแบบนี้ เพราะมีปัญหาครอบครัวหรือเปล่า จากที่พ่อแม่แยกทางกัน มองถึงจิตใจของเณร ที่พ่อสั่งสอนลูก ในทางที่ไม่สร้างสรรค์บางส่วนตั้งแต่พ่อแม่แยกทางกัน เลยทำให้ลูกมีอคติกับแม่ ถึงได้ว่าแม่ ด้วยถ้อยคำรุนแรง และคิดเสมอว่าแม่ไม่รักตน จนทำให้ตัวเองไม่มีคุณค่าและไม่คิดตั้งใจใฝ่ดี ประกอบกับวัยรุ่นคึกคะนอง อยากรู้อยากลอง เลยทำให้มีวิถีชีวิตแบบนี้ เราว่า ถ้าจะมองย้อนกลับไปปัญหาน่าจะไม่เกิดเลย ถ้าสถาบันครอบครัว แข็งแรง คือพ่อแม่ แต่งงานด้วยความรัก และมีแนวคิดที่ดี และพร้อมจะดูแลให้ความรักความอบอุ่นความเข้าใจ ปรับตัวเองให้ทันยุคทันสมัย ในการอบรมสั่งสอน ปลูกฝั่งจิตสำนึกที่ดีตั้งแต่วัยเยาว์ สอนให้เค้าหาเหตุและ ผลของการกระทำดีและไม่ดี คุยกับลูกให้มากๆ ให้โอกาสเค้าแสดงความคิดเห็นในครอบครัวให้ความสำคัญเค้า ที่สำคัญพ่อแม่ต้องแบบอย่างที่ดีแก่ลูกด้วย ถ้าทุกครอบครัวตั้งใจและเข้าใจสภาพสังคมปัจจุบัน พยามเลี้ยงลูกดูแลลูกให้ดี เชื่อว่าปัญหาต่างๆ น่าจะทยอยหมดไปคะ ขอโทษนะคะที่อาจจะนอกเรื่องไป แต่เราดูหนังเรื่องนี้แล้วคิดต่อยอด ได้ไปแนวทางนี้จริงๆ คะ   อันนี้เป็นมุมมองของเรานะคะ อยากให้สังคมดีต้องเริ่มที่สังคมในครอบครัวของเราก่อนคะ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 52 13:52:40 จากคุณ : minttykit เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 13:50:39

ความคิดเห็นที่ 29 โดนค่ะ จากคุณ : tete-a-tete เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 14:00:01

ความคิดเห็นที่ 30 ชอบการวิเคราะห์ครับ แม้ทุกอย่างจะเป็นการคาดเดา แต่ก็ยกเหตุผลมาประกอบได้น่าสนใจครับ ทำให้ดูมีความเป็นไปได้สูง และใช้ตอบปัญหาคาใจต่างๆ ได้ดีเลยทีเดียว ลองวิเคราะห์แพร่งอื่นๆ แบบนี้ด้วยก็ดีครับ อยากอ่านมากมาย จากคุณ : wahama เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 14:08:14

ความคิดเห็นที่ 31 ชอบแพร่งนี้มาก ผมเข้าใจเหมือน จขกท.นะ แต่ ... ลืมคิดไปเรื่องที่วิ่งออกจากถ้ำแล้วเปลี่ยนชุด ตอนที่ดูไม่ทันคิด มัวแต่ลุ้นอย่างเดียว และคิดแค่ว่า ' เป้เอ่ย!! เอ็งได้เป็นเปรตแน่ๆ ' ขอบคุณ จขกท. ที่ทำให้เข้าใจกระจ่างมากกว่าขึ้นกว่าเดิม อธิบายให้เข้าใจได้ดีเลยครับ ผมอยากให้แพร่งนี้เป็นหนังยาวเหมือนกัน ยอมเสียเงินไปดู ถึงแม้จะพล๊อตเรื่องแบบเดิมก็เถอะ !! จากคุณ : รถโรงเรียน เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 14:10:30

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่าให้มาตายในชุดเณร เกรงจะไม่เหมาะสมหรือป่าวว?? เลยเลี่ยงๆหน่อย จากคุณ : ca18maru เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 14:11:25

ความคิดเห็นที่ 33 อ่านแล้วชอบครับการที่มีคนในสังคมมองเห็นปัญหาทางด้านจิตใจของสังคมมากกว่าวัตถุ.... สังเกตไหมครับว่าทุกวันนี้เราชื่นชู "ประชานิยม" ซึ่งเป็นการสนองกิเลสตัณหาของมหาชน มากกว่าเป็นการอบรมให้เป็นสุขด้วยการตัดความอยากมี อยากเป็น อยากได้... ขอบคุณทุกคนครับ... ไม่นึกว่าจะมีคนชอบเยอะขนาดนี้หรอกครับ จขกท... จากคุณ : pcplant เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 14:11:55

ความคิดเห็นที่ 34 วิเคราะห์ได้ลึกซึ้งมากเลยค่ะ เราชอบแพร่งนี้นะ ต้องชมผู้กำกับที่พัฒนาด้านบทไปเยอะ แถมไม่บ้า CG เหมือนภาคก่อน (ตอน 4 แพร่งไม่ชอบยันต์สั่งตายเอาเสียเลย) แต่ตอนเฉลยว่าคนที่ตายเป็นใครนี่....เจ็บปวดเหมือนกันเนอะ ดูจบแล้ว คุณแฟนเราบอกว่า "ไอ้พวกเกรียนปาหินทั้งหลายน่ามาดูแพร่งนี้มากๆ" เห็นด้วยยยย จากคุณ : นะโอ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 14:18:34

ความคิดเห็นที่ 35 วิเคราะห์ได้ดีมากค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : aomam_jung เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 14:26:29

ความคิดเห็นที่ 36 วิเคราะห์ได้ดีมากเลยคะ ตอนดูทู้นี้ ออกมาคุยกับเพื่อนว่า หนังทำได้ดี ครบองค์ประกอบความผิดทั้งหมด อาทิ ฆ่าสัตว์ ด่าแม่ ขโมยของ ทำร้ายพระ ทำได้ครบองค์ประกอบ จนท้ายที่สุดตกอยู่ในภาวะสะท้อนของกรรม นั่นก็คือเปรต เนื้อหาของหนังในแพร่ง หลาวชะโอน นั้นสะท้อนให้ใครๆที่ดูน่าจะระลึกที่กรรมที่เคยทำ และคิดจะทำ ให้คำนึงถึงผลนั้นมากขึ้น ขอชื่นชมวิธีการสะท้อนเนื้อหาได้เป็นอย่างดีในแพร่งนี้คะ ^_^ จากคุณ : smabbytoon เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 14:38:39

ความคิดเห็นที่ 37 ชอบค่ะ.... ปริศนาทั้งหมดคลี่คลายแล้ว... คิดเหมือนกันว่าตอนที่เณรเป้วิ่งออกมาในชุดฆราวาสนั่นสงสัยจะ"เสร็จ" ไปแล้ว... ให้กิ๊ฟเจ้าของกระทู้ค่ะ ^^ อยากให้ช่วยมาคลี่คลายแพร่งที่ 4 เรื่องน้องเต้ยเข้าไปในกระโปรงรถหน่อย ^^ สงกะสัยๆ กับ.."ทำไมนุชถึงทิ้งลูกชายตัวเองได้ลงคอ ผิดวิสัยคนเป็นแม่..." รออยู่นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^ จากคุณ : แมวน้อยนอนนิ่งในแดดอุ่น เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 14:44:34

ความคิดเห็นที่ 38   ขอแย้งครับ จขกท.คิดมากไปแล้วครับ ตอนอยู่ในถ้ำผมว่ายังไงก็ยังไม่ตายครับ เรื่องมันมีอยู่ว่า หลวงพี่(เรย์)พาเณรเข้ามาในถ้ำ เพื่อเข้าเขตปรัมพิธี ป้องกันเจ้ากรรมนายเวร ซึ่งหลวงพี่เค้าก็เตือนแล้วว่าคืนนี้คุณจะเจออะไร (แต่ไม่บอกตรงๆ) เลยให้เณรเข้ามาสวดมนต์ นั่งสมาธิทบทวนกรรมที่ก่อไว้ แต่จากกรรมที่เณรก่อไว้ ทั้งแย่งของเปตรกิน ว่าแม่ ฆ่าพ่อ และการปาหินกับคนอื่นๆ ทำให้เจ้ากรรมนายเวร พากันมาก่อกวนเณร แต่เป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น (เนื่องจากได้การช่วยเหลือจากเหล่าหลวงพี่และหลวงพ่อ ในเขตปรัมพิธี) และเป็นสิ่งที่หลวงพี่(เรย์)เตือนแล้ว แต่เนื่องจากเณรก็เป็นแค่เด็กห่อผ้าเหลืองเท่านั้น จิตไม่นิ่งพอ เลยเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วหนีภาพลวงตาที่เณรกลัว จนออกจากปรัมพิธี (เห็นได้จากการที่เณรหนีจนเตะสายสิญจน์ขาด) หลวงพ่อและหลวงพี่รู้ แต่หลวงพ่อก็ได้พูดว่า "มันเป็นเรื่องของกรรมแล้วหล่ะ" และเนื่องจากไม่มีอะไรป้องกันเณรได้อีกแล้ว เรื่องนอกถ้ำจึงเป็นมาทวงกรรมนั้นเอง และก่อนตาย(กำลังจะตาย)เณรได้โทรมาขอโทษแม่แต่พูดได้ไม่เป็นภาษาเนื่องจากกำลังจะกลายร่างเป็นผีเปตรไปแล้ว (อย่าถามอีกนะว่าตายแล้วทำไมกดโทรศัพท์ได้ ไม่ขอ Clear นะ) จากคุณ : playpooh เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 14:50:15 A:210.4.138.41 X: TicketID:228318

ความคิดเห็นที่ 39 อันนี้เอามาจาก http://www.oknation.net/blog/marlin/2009/09/09/entry-1 ค่ะ เป็นเรื่องที่คุณแม่มาเล่าให้ฟังว่า นิสัยลูกสาวน่ารักขึ้น เมื่อกลับมาจากการดู 5 แพร่ง ซึ่งเดาว่า น่าจะเป็นตอน "หลาวชะโอน" ............................................................................ .................................................. ......เรื่องนี้ต้องเขียนค่ะ......เมื่อวานลูกสาวดิฉันขออนุญาตไปดูหนังกับเพื่อนๆหลังเลิกเรียนวันรุ่งขึ้น  ดิฉันก็ถามโน่นนี่จนแน่ใจว่า  ไปดูหนังกันจริงๆไม่เสียการเรียน  ไม่ได้อ้างหนังเพื่อไปเกเรตามศูนย์การค้า  ก็โอเคให้ไปค่ะ  แล้วให้รีบเข้านอน ......ดิฉันค่อนข้างเข้มงวดกับการเข้านอนของลูกมาตั้งแต่ลูกยังเล็ก  ไม่ชอบให้ลูกนอนดึกค่ะ  เพราะไม่ดีด้วยประการทั้งปวง......หลังจากบอกให้ลูกเข้านอนก็ไม่สนใจเข้าห้องตัวเองนั่งทำงานต่อ  เที่ยงคืนเดินออกมาจะไปทานน้ำ  ปรากฎว่าคุณลูกสาวแอบเปิดคอมอยู่ค่ะ  ดิฉันอาละวาดตรงนั้นเลย  แล้วยกเลิกการดูหนัง ......ลูกร้องไห้  เกเรและไม่ฟังดิฉัน  ยืนยันว่าจะไปแม้ไม่อนุญาต  ดิฉันต้องเสียงแข็งยืนยันว่าอย่างไรก็ไม่อนุญาตเพราะลูกไม่มีวินัยในการปฎิบัติตน  ในใจดิฉันนั้นแค่เพียงจะกำราบตีกรอบให้ลูกอยู่ในวินัยเท่านั้นแหละค่ะ......ตอนเช้าขับรถไปส่งลูกดิฉันไม่พูดไม่จา  ก่อนลูกลงรถ  ดิฉันบอกลูกสายๆโทรคุยกัน......   ......ตกบ่ายลูกโทรมาขออนุญาตดูหนังอีก  ดิฉันใจอ่อนตอบตกลง  หนังเลิกลูกกลับมา  เจอหน้ากันลูกบอก  "คุณแม่ลูกขอโทษ"  ดิฉันอึ้งค่ะตื้นตันเหมือนมีอะไรมาจุกคอ  อะไรทำให้ลูกกลับมาน่ารักอย่างนี้ ......ลูกไปดูหนังเรื่อง"ห้าแพร่ง"มาค่ะ  ลูกเล่าให้ฟังว่ามีตอนนึงที่เป็นหนังเกี่ยวกับพ่อแม่ลูก  ลูกดูแล้วรู้สึกซาบซึ้งและตื้นตันเกี่ยวกับเนื้อหาของหนัง  และคิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองทำตัวเกเรไม่น่ารัก  ทั้งๆที่รู้ว่าพ่อแม่รัก  แต่ก็ไม่เชื่อฟังคำอบรมสั่งสอนของพ่อแม่   ......ดิฉันขอบคุณหนังเรื่อง"ห้าแพร่ง"ค่ะ  นอกเหนือจากความบันเทิง  และความหวาดผวาระทึกขวัญแล้ว  ห้าแพร่งยังเติมเต็มความน่ารักที่เป็นพื้นฐานของลูกสาวดิฉันกลับคืนมาให้ดิฉันด้วยนะคะ  ขอบคุณจริงๆค่ะ...... จากคุณ : Maline เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 15:04:23

ความคิดเห็นที่ 40 เราเห็นด้วยกับ จขกท. ค่ะ หลวงพ่อ กับ หลวงพี่ คงรู้ว่า น้องจะถึงฆาต ให้สวดมนต์ ต่อชะตาชีวิต ตอนเทียนดับ - สวดมนต์ต่อไม่ได้แล้ว สงสัยว่า คงไปแล้วตั้งแต่ตอนนี้ แล้วร่างก็ไม่รู้ตัว ว่าตายแล้ว วิ่งหนีออกมา กลายเป็น ชุดธรรมดา ไม่ใช่จีวร - ลืมไปเลยจริงๆ ค่ะ ต้องขอบคุณ จขกท. จากคุณ : Oh_hO-Gusso เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 15:06:05

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นด้วยกับ #38 มากกว่าครับ ถ้าตายตั้งแต่ในถ้ำ  มันจะตายจากอะไรหล่ะ ที่เปลี่ยนชุดมา ผมคิดว่าถ้าตายหรือกลายเป็นเปรตทั้งจีวรมันจะดูแปลกๆนะ ผกก เลยให้เปลี่ยน costume ก่อน ไม่น่าจะตายแล้วนะ ไม่งั้นให้แก้ผ้าออกมาดีกว่า นี่ยังมีกระเป๋า มีมือถือด้วย แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 52 15:13:21 จากคุณ : nurselover เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 15:08:14

ความคิดเห็นที่ 42 ผมก็คิดเหมือน 38 ดูแล้วก็ไม่ได้สงสัยอะไรเหมือนกัน ตายตอนไหน คิดว่าเณรเป้ก็ตายตอนโดนหินปานั่นแหละโดนซะขนาดนั้น ก่อนตายก็มีสติสำนึกโทรหาแม่ขอโทษแม่ ให้แม่ช่วยแต่ด้วยกรรมที่หนักหนา ฆ่าพ่อ ด่าแม่ แม่จึงไม่ได้ยิน พอตายก็กลายร่างเป็นเปรต ส่วนเรื่องเปลี่ยนชุด คิดว่าเป็นความเหมาะสมมากกว่า ถ้าหนีออกมากลางดึกทั้งผ้าเหลืองออกไปได้ก็มีสิทธิ์โดนตำรวจจับสิ หนีคดีมาอยู่แล้ว ออกมาทั้งผ้าเหลืองกลางดึกอาบัติเจอแจ้งจับแน่นอน เลยเปลี่ยนชุดแบบไม่เอาแล้วไม่อยู่แล้ว ทำนองนี้ แล้วก็ออกมาตาย เพราะ กรรม นั่นเอง จากคุณ : OHO HUG เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 15:38:40

ความคิดเห็นที่ 43   เห็นด้วยกับจขกท. ค่ะ เราก็คิดว่าน้องเป้ตายตั้งแต่ในถ้ำเหมือนกัน เพราะลองมานึกดูดีๆ ตอนที่น้องเป้โทรไปหาแม่ แม่เค้าได้ยินเสียงน้องเป็นเสียงวี้ๆ เหมือนเสียงเปรต จากนั้นน้องเค้าก็กลายเป็นเปรตเลย จากคุณ : นอแอนแนน เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 16:10:04 A:124.122.212.203 X: TicketID:232632

ความคิดเห็นที่ 44 ตอนแรกเราก็คิด ว่าคงตายตั้งแต่ในถ้ำตอนเทียนดับ เทียนดับ อาจเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่จบไปแล้ว(ที่หนังจะสื่อ) แต่เป็นอะไรถึงตายในถ้ำอันนี้ไม่รุ้ (ยังหาคำตอบไม่ได้จะกลับไปดูอีกที) ที่วิ่งออกมาด้วยชุดฆราวาสคือน้องไม่ได้มีจิตที่เป็นเณรอยู่แล้ว ภาพตัวเองที่ตายไปแล้วจึงกลายเป็นตอนที่อยากจะหนีออกไปจากวัดมากกว่า ทั้งวิ่งหอบเสื้อผ้า แล้วกำมือถือไว้ เหมือนที่ว่ากันว่าคนตายจะไม่รุ้ตัวแล้ววิญญาณจะอยากไปในที่ๆกำลังจะไปก่อนตาย แต่ถ้ามาตายนอกถ้ำเพราะโดนหินปา มันดูเป็นรูปธรรมเกินไป มาโดนตั้งคำถามอีกว่าใครล่ะที่ปาซะจนตายไปเลย คน-ผี-เจ้ากรรมนายเวรฯ อันนี้ได้สองแง่อีก ว่าภาพนรกที่น้องบนผนังถ้ำมีจริงหรือไม่ หรือมันจะอยู่แค่ในใจเรา อีกอย่างที่สนับสนุนคือตอนที่โทรหาแม่ ภาพที่เห็นยังเป็นคน แต่เสียงที่ส่งไปถึงแม่คือเปรต   แปลว่าน้องตายไปเป็นเปรตแล้วถึงสำนึกได้ รับกรรมแล้ว ประมาณนี้ พอลองมานั่งคิดดูอีกที เอ...แต่เป็นเปรตแล้วโทรหาแม่ได้ไงล่ะทีนี้ ฮือ งงเอง จากคุณ : มะตูมเรเดอร์ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 16:21:03

ความคิดเห็นที่ 45 ดีครับ อ่านแล้วได้อะไรเยอะดี กระทู้นี้ จากคุณ : หลังโรง เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 16:25:35

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณค่ะคุณ pcplant   รบกวนช่วยสปอยแพร่งอื่นๆด้วยค่ะ จากคุณ : ฉันตื่นขึ้นมากับโลกใบเก่า เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 16:49:29

ความคิดเห็นที่ 47 แจ่มเลยค่ะ จากคุณ : คุณป้าแจ๋ว เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 16:55:00

ความคิดเห็นที่ 48 คิดเหมือน 38 42 พระเรให้บทสวดต่อชะตา พระร่วมกันสวดให้ แต่เมื่อเณรครองสติไม่ได้ วิ่งผ่านสายสิญจ์ออกมา พระท่านก็ช่วยไว้ไม่ได้อีกต่อไป (เมื่อหนีครั้งแรก หลวงพ่อรั้งไว้ ขอให้ผ่านพ้นคืนนี้ไปก่อน เณรก็ไม่ฟัง) เรื่องเปลี่ยนชุด ไม่ติดใจ เพราะเณรอยากออกจากวัดไปตั้งแต่ครั้งก่อนแล้ว แต่มาถูกพระเรพาเข้าถ้ำเสียก่อน ครั้งนี้เลยตัดสินใจเด็ดขาด ไม่อยู่แล้ว แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 52 17:25:45 จากคุณ : Beฯ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 17:19:49

ความคิดเห็นที่ 49   #44 คิดมากกว่า จขกท.อีกนะครับเนี่ย ลองอ่าน #38 ของผมซิครับ เอางี้ถ้าเอาแนวทาง จขกท.เป็นหลักนะครับ ผมมีคำถามดังนี้ 1.น้องเป้ตายตอนไหนครับ และตายเพราะอะไร 2.หลวงพี่(เรย์)เป็นพระเห็นผีได้เหรอครับ (ไม่มีเหตุผลมากๆ) 3.ผกก.เค้าจะให้น้องเป้ ตายแล้วตายอีกทำไมครับ ปล.ที่เราถกกระทู้กันเพราะอะไรรู้ไหมครับ แค่ตอนออกจากถ้าเณรเปลี่ยนจีวรเป็นเสื้อเท่านั้นเองครับ (-*-) (อันนี้เห็นด้วยกับ คห.32 ครับ มันไม่เหมาะสมครับ กำลังจะใช้กรรมอยู่แล้ว เลยใส่เสื้อดูเหมาะสมกว่า) จากคุณ : playpooh เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 17:22:14 A:210.4.138.41 X: TicketID:228318

ความคิดเห็นที่ 50 ผมไม่รู้นะว่าที่ จขกท คิดจะเป็นแบบเดียวกับที่ผู้กำกับแพร่งนี้เค้าคิดมั้ย ผมรู้แต่ว่าพอลองมาคิดแบบที่คุณคิด แล้วมันดูดีมากๆเลยครับ ชอบๆ จากคุณ : *omega* เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 17:49:34

ความคิดเห็นที่ 51 #44 คิดมากกว่า จขกท.อีกนะครับเนี่ย ลองอ่าน #38 ของผมซิครับ เอางี้ถ้าเอาแนวทาง จขกท.เป็นหลักนะครับ ผมมีคำถามดังนี้ 1.น้องเป้ตายตอนไหนครับ และตายเพราะอะไร // ตายในถ้ำ วิญญาณหลุดจากร่าง ไหลตายไป.... 2.หลวงพี่(เรย์)เป็นพระเห็นผีได้เหรอครับ (ไม่มีเหตุผลมากๆ) // ในหนังให้เราเห็นภาพว่าหลวงพี่ (เรย์) มองไปที่สายสิญจน์ที่กระตุกหลุดครับ 3.ผกก.เค้าจะให้น้องเป้ ตายแล้วตายอีกทำไมครับ // ตอนออกมานอกถ้ำแล้วน้องเป้ไม่มีตายซ้ำแล้วครับ เพียงแค่โดนหินเจ็บปวดจนล้มลง เท่านั้นเอง แล้วดวงจิตก็เปลี่ยนรูปให้อัปลักษณ์เป็นเปรตไปครับ =============================================== ไม่ได้ห้ามคิดต่าง ไม่ได้บอกว่าผมถูกนะครับ แค่มาขยายความเพิ่มครับ .... จขกท.... ============================================ จากคุณ : pcplant เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 18:01:49

ความคิดเห็นที่ 52 ให้กิ๊ฟท์ จกขท เลยครับ จากคุณ : บราวนี่ชีสเค้กท็อปปิ้งวิคครีม เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 18:20:52

ความคิดเห็นที่ 53 ... แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 52 23:20:48 แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 52 18:28:40 จากคุณ : ละลายใจ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 18:27:53

ความคิดเห็นที่ 54   ขอเห็นต่างอีกความเห็นนะ จขกท. (ไม่ได้ตั้งใจให้ จขกท.โมโหนะครับ แต่แนวคุณมันไม่มีเหตุผลเกินไปนะครับ ผมว่า) ต่อจาก คห.51 1."ไหลตายไป" เอาแบบนี้จริงๆ เหรอครับ 2. ถ้าเราว่าเรื่อง "กายหยาบ" กับ "กายจิต" กายจิตเตะสายสิญจน์ได้เหรอครับ 3.ต่อจากข้อ 2 แล้วกายจิต กดโทรศัพท์ ได้เหรอครับ (ไม่น่า) สรุปแนวคิดผมนะ น้องเป้ตายเพราะ เจ้ากรรมนายเวรปาหิน, เป็นเปตรเพราะฆ่าพ่อ ว่าแม่ ขโมยของเปตรกิน, ตอนออกจากถ้ำน้องเป้เปลี่ยนจีวรเป็นเสื้อ เท่านั้นเองครับ (เพื่อความเหมาะสม) **ปล.รักและเคารพ จขกท.นะครับ จากคุณ : playpooh เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 18:36:47 A:210.4.138.41 X: TicketID:228318

ความคิดเห็นที่ 56 [กระทู้ 5 แพร่ง] ห้องเตียงรวม... ทำไมต้องเป็น "ตี้" [สปอยส์] เชิญติดตามต่อได้ครับ (ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ) จากคุณ : pcplant เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 18:56:50

ความคิดเห็นที่ 59 ถึงคุณ playpooh ครับ... ทำไมเขียนเหมือนกลัวผมวีนอย่างไรอย่างนั้น (ฮา) คนเราคิดต่างได้นี่ครับ ไม่เห็นแปลก ... ถ้าทุกคนเห็นเหมือนกันหมด จะมีคำว่า "กระทู้" และ "ความคิดเห็นที่" ทำไมล่ะครับ :) ส่วนเรื่องกายหยาบกายจิตนะ.... อันนี้ผมแบ่งภาค มองโลกมนุษย์ให้มันไม่ใช่ เรื่องของอภินิหารครับ จะเห็นว่าอภินิหารต่างๆ ที่มันดูเหนือธรรมชาติ ผมขอผลักไสไปอยู่โลกหลังความตายทั้งหมด... แล้วถ้าเป็นวิญญาณ... จะสะดุดสายสิญจน์ได้อย่างไร....? ผม "คิดว่า" ... น่าจะเป็นเรื่องของพลังแห่งจิตในชั่วขณะนั้นมันยังแรงอยู่ แม้แต่มือถือก็ยังวิ่งถือไปได้.... หรือแม้แต่ฝาบาทยังลอยอยู่ได้! จะว่ามั่วก็ได้นะครับ... ก็พยายามอธิบายให้เข้าเค้าเรื่องของเขาน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 52 19:17:45 แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 52 19:14:21 แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 52 19:12:19 จากคุณ : pcplant เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 19:08:56

ความคิดเห็นที่ 60 # จขกท. เคลียร์ครับ กระจ่างเลย ก็ตะหงิดใจแล้วว่า หนีออกมาทำไมมีอารมณ์เปลี่ยนชุดอีก แต่ก็น่าหนีอยู่ เพราะ ถ้านั่นก็น่ากลัวไม่ใช่น้อย #16 ข้อความคุณเรียงตัวกันเป็นรูปลูกศรสวยเชียวครับ จากคุณ : ayres เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 19:29:33

ความคิดเห็นที่ 61 # 55 หาย # 56 57 หาย คาดว่าเป็น คห เรา ฮ่ะๆๆๆ เกิดอะไรขึ้นหว่า ไม่เข้าใจ เอ๊ะ หรือว่าหน้าจอคอมผีหลอก จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 19:54:52

ความคิดเห็นที่ 62 ผมไม่เกี่ยวนะคุณ... :~ จากคุณ : pcplant เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 20:10:24

ความคิดเห็นที่ 63 ให้เป้ถูกกรรมตามล่าตามล้างในขณะเป็นเณรไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวจะไม่ได้ฉาย สังเกตไหม ฉากที่เป้จะโดนทำร้าย จะอยู่ในชุดเด็กแว๊นท์ ซึ่งมีอยู่สองครั้ง หนังคงไม่อยากให้มีภาพเณรโดนทำร้ายออกมา เป้ น่าจะตายตอนโดนหินค่ะ เพราะปาหินไปโดนคนอื่นตาย เลยต้องตายด้วยโดนปาหิน ตายก็กลายเป็นเปรตทันที สปีชีส์ สูจิมุขาเปรต+นิชฌามกเปรต จากคุณ : Atomic_bomb เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 20:19:18

ความคิดเห็นที่ 65 ผมกลับคิดว่าเรื่องเปลี่ยนชุดคงเพราะความเหมาะสมเหมือนกัน ถ้าเป็นหนังประเทศอื่นคงไม่ต้องเปลี่ยนชุด ผกก เองก้อคงถูกบรีฟมาเรื่องชุดเหมือนกันเลยต้องยอมๆไป จากคุณ : นายฮ้อย แห่ง หงซิ่ง เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 20:39:49

ความคิดเห็นที่ 66 เรื่องภาพจีวรโดนทำร้าย..... ปรากฏชัดในแพร่ง 3 เลยครับ....... ถ้าทีมสร้างมีการสกรีนเรื่องนี้ ... ก็ไม่น่าจะหลุดมาได้ซักแพร่งนะครับ ปล. คุณยิ้มเดียว... ผมทันอ่าน คห. 64 ของคุณแล้วนะครับ... แต่ไม่ทราบว่าทำไมโดนลบในพริบตา แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 52 20:43:30 จากคุณ : pcplant เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 20:41:58

ความคิดเห็นที่ 67 อย่างที่คุณ จขกท. ว่ามา ดูดีมากๆ เล่ยค่ะ อ่านแล้วเห็นด้วยเลยนะ แต่ที่ คห.38 ว่ามาก็ดูเข้าเค้าอยู่ค่ะ คือไม่ว่าจะอธิบายแบบไหน มันก็จะมีคำถามที่ตอบไม่ได้ทั้งหมดเนอะ อ่านทู้ไปมา ก็นึกขึ้นได้ ว่าเราเคยอ่านหนังสือความเชื่อเกี่ยวกับเปรตมาเรื่องนึง จำชื่อหนังสือไม่ได้แล้วจริงๆ ค่ะ น่าจะอ่านสักเมื่อตอนม.ต้น หลายปีผ่านมาแล้ว จำได้ว่าเค้าเคยพูดถึงเปรตดิบ หรือ เผตดิบ รึไงเนี่ยล่ะค่ะ ตัวอย่างที่ในหนังสือยกมาประมาณว่าชายคนหนึ่งทำงานอยู่กับวัดน่ะค่ะช่วงที่มีคนปฏิบัติธรรมกันมากมาย ชาวบ้านที่มาก็เอาข้าวของเครื่องใช้ อาหารการกินมาบริจาคให้วัดกัน ลุงคนนั้นแกก็เอาของพวกนั้นมาเป็นของตน บทสุดท้ายก็จบลงที่ลุงแกออกมากวาดลานวัดตอนดึกๆ แล้วแกก็กลายเป็นเปรตไปทั้งร่างคนเลย เป็นไปได้ไหม ที่น้องเก้าจะเป็นแบบนี้ มาเสนอแนะค่า จากคุณ : binpaibinma เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 20:46:17

ความคิดเห็นที่ 68 ก๊ากกก # 64 นั่นก็คาดว่าเป็นของเรา ผีหลอก ..งง ไม่เข้าใจ ... ตอบเรื่อง จีวรก่อนนะ คือแบบ อารมณ์ จีวรโดนกัด (คือพระอาจไม่ผิดเลย แต่กลายเป็นเหยื่อ พอให้อภัย) แต่แบบ จีวร ทรานฟอร์เมอร์เป็น เปรต นี่...แรง! บางคนรับไม่ด๊ายยยยย จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 20:46:36

ความคิดเห็นที่ 69 ^ ^ มารอดูว่ารีพลายคุณยิ้มจะโดนอุ้มไหม? จากคุณ : pcplant เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 20:54:15

ความคิดเห็นที่ 70 ตื้อเท่านั้นที่ครองโลกกกกกกกกกกกกกกกกกก .... กรั่กๆๆ ถ้าไม่ได้ ก็แบบว่า บ้ายบาย นะครับ แหะๆ ... เสร่อ อยากให้อ่าน ไหนๆ ก็อุตส่าห์พิมพ์ T_T .... งึ่มๆๆๆ อืมมมม พอเข้าเค้า น้องเณรตามหลวงพี่เรย์ ไปในถ้ำ ตอนนั้น น้องเณรยังไม่ตาย ชิมิ พอพี่เรย์กลับมาวัด ก็ล้อมวงสวดมนต์กัน (ฉากนี้ไม่มี...คิดเพิ่มเอาเอง) (คราวนี้ตัดมาที่น้องเณรแล้ว) น้องเณรในถ้ำใกล้บ้าแล้ว แล้วก็สติแตกที่เห็นพ่อตัวเองหน้าเละมาหลอกหลอน ในนิมิตร ว่าแล้วจิตก็กระเจิง... ตัดฉาก ปุ๊ป ต่อไปเป็นการเคลื่อนไหวของจิตในภวังค์ของน้องเณรมากกว่า (เหมือนเรากำลังดูว่า น้องเณรคิดอะไรอยู่ มากกว่าที่จะดูว่า น้องเณรกำลังทำอะไร) เป็นน้องเณรในชุดธรรมดา เพราะจิตไม่ได้เชื่อมโยงเข้ากับความเป็นเณรเลย เลย ชิมิ ดังนั้นการโดนปาหิน จึงเป็นอุปทานของจิต เสมือนว่า นรกอยู่ในอกของน้องเณรเอง แล้วจิตของน้องเณรก็เกิดใหม่ ในภพของสัตว์-นารก(รึเปล่าหว่า ที่โดน...) ทิ้งร่างเดิม ที่คาดว่า ถ้าหากเป็นตามนี้ น้องเณรยังอยู่ในถ้ำอ่ะ อาจจะตายด้วยหัวใจล้มเหลว จากการช็อค มาว่าต่อเรื่องสายสิญจน์...พระกำลังทำพิธี คาดว่าสายสิญจน์คงโยงเชื่อมไปถึงที่พระตั้งพิธีอยู่ พอสายสิญจน์ด้านโน้นขาด ด้านพระก็รู้ ขาดได้ยังไง อาจจะเพราะ น้องเณรสติตแกวิ่งพล่านในถ้ำก็ได้ (แล้วก็ช็อคตาย) ทีนี้ลองมาค้านกันเองบ้าง แบบว่า สายสิญจน์ที่ถ้ำ อาจจะมีจริง แต่สายสิญจน์ ที่พันขาน้องเณรอยู่เป็นสายสิญจน์ในนิมิตร นัยว่าสายใยสุดท้ายของชีวิต ซึ่งอาจจะเป็นภาวะของจิตใฝ่ดีขณะกำลังจะตายของน้องเณรเองก็ได้ ว่าเฮ้ย เอ็งอย่าไป แต่ก็สู้แรงกรรมไม่ได้ จิตเลยกระเจิง (ลองคิดสภาพคนใกล้ตายสิคะ ที่เค้าให้นึกถึงพระพุทธพระธรรมก่อนตายน่ะ เพราะความคิดของคนใกล้ตายมันตีกันมั่ว ทั้งห่วงคนข้างหลัง ทั้งกลัวตาย สารพัด) แล้วคุณปะเรต โทรหาแม่ได้ไง แรงของจิตอธิษฐานค่ะ จบ ไม่ได้ยกหูโทรศัพท์ โทรไปเอง เพราะในวัดไม่มีคลื่น น้องเณรเคยเดินงุ่นง่านหาคลื่น แล้วก็ไม่มี ถ้าเรียกง่ายๆ คุณแม่ของน้องเณร กำลังโดนผีหลอกโดยไม่รู้ตัวค่ะ ฮ่ะๆๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เชื่อป่ะว่า ... เราว่า ผกก ตั้งใจให้น้องเณรออกมาทั้งจีวรนั้นแหละ แต่ได้แค่คิด เพราะกลัวภาพจะแรงเกินไป จากร่างในชุดนั้น>>>คุณปะเรต จะมีแตกประเด็นไปอีกว่า มีนัยยะอย่างไร ชวนให้ขัดแย้งกะ....มาก แหะๆ เดี๋ยวจะไม่ได้ฉาย เลยเปลี่ยนดีกว่า จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 21:04:13

ความคิดเห็นที่ 71 กี๊ดดดดดดดดดดดดดดด งง อยู่ตั้งนาน ห้วย จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 21:12:38

ความคิดเห็นที่ 72   จีวรถูกทำร้ายแบบแพร่งสาม กับจีวรถูกทำร้ายเพราะชดใช้กรรมกลายเป็นเปรต ให้ความรู้สึกต่างกันมากอยู่นะคะ(อย่างแรกถูกทำร้ายแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ อย่างหลังดูรุนแรงกว่า) ส่วนตัว คิดแบบ38ค่ะ ส่วนเรื่องหินมาจากไหนไม่ค่อยได้คิดเท่าไหร่ เพราะคิดเป็นว่า นั่นคือกรมสนอง พอใช้กรรมจากการปาหิน น้องก็กลายเป็นเปรตค่ะ(ส่วนตัวไม่คิดว่าเปรตเป็นกายจิต คิดว่าน่าจะกลายร่างไปทั้งกายหยาบค่ะ) จากคุณ : Kikuri เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 21:26:31

ความคิดเห็นที่ 73   ยังไม่เคยดูนะ แต่ค่อนข้างเห็นด้วยกับข้อมูลของ *70 มากที่สุด เพราะโดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างเชื่อในเรื่องของการอุปาทานและแรงของจิต คิดว่าแม่เป้คงไม่ได้โดนผีหลอกแต่อย่างใด แต่เป็นแรงของวิญญาณที่ต้องการติดต่อกับแม่เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็ต้องคิดว่าผกก เขาทำการบ้านมาดีเรื่องแรงจิต เพราะว่าในสมัยมี10 ปีก่อน เรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างจะบูมคือเรื่องที่แม่-ลูกจะมีจิตที่สื่อถึงกันได้ง่าย ส่วนเรื่องสายสิญจ์นั้น จะว่าไปแล้ว มันมองได้สองแง่สองง่ามคือเรื่องของสัญลักษณ์และความจริง หากจะมองในแง่สัญลักษณ์นั้น สายสิญจ์คงไม่ต่างอะไรกับความดีความงามของคนที่คงเหลืออยู่ อย่างที่กล่าวกันว่าเด็กเป็นผ้าขาวบริสุทธิ์ เรื่องนี้หากจะโทษเป้คนเดียวก็ไม่ได้เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะเป็นคนเช่นนั้นเอง แต่เกิดจากการที่ครอบครัวขาดความอบอุ่นจึงทำให้เกิดเป็นเป้อย่างนี้ อีกอย่างหนึ่งที่คิดว่าน่าจะคิดได้คือ ถ้ามองในแง่เรื่องของกรรมแล้ว จริงอยู่ที่กรรมของการฆ่าพ่อแม่จะแรงมาก แต่ไม่ได้เกิดจากความคิดในการฆ่าพ่อตั้งแต่แรก เลยอาจจะทำให้ผลของกรรมไม่อาจตัดสายสิญจ์ขาดได้ในทันที อันนี้มองในเรื่องของสัญลักษณ์ ส่วนในเรื่องของรูปธรรมก็คงเหมือนหลาย ๆ คนบอก แต่ค่อนข้างจะคิดไปในทางโลกวิญญาณมากกว่านะ จริงอยู่ที่ว่ากายจิตอาจจะไม่สามารถทำให้สายสิญจ์ขาดได้ ไม่สามารถแตะสายสิญจ์ได้ แต่ถ้าเขาจะเล่นผีสางขนาดนั้น พระเรจะไม่สามารถมองเห็นวิญญาณไดเลยเหรอ? จะไม่มีสัมผัสเลย? คิดว่าไม่นะ เพราะจากเท่าที่อ่านมาแล้วก็จะพบว่า หลายๆ ครั้งที่พระเรสามารถบอกในสิ่งที่ผีจะกระทำได้อย่างชัดเจน แสดงว่าพระเรเห็นเจตนาแล้วนั่นเอง จากคุณ : chpiyatas เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 22:05:09

ความคิดเห็นที่ 74 ส่วนตัวคิดไม่ออกเหมือนกันว่าตายตอนไหนยังไง แต่ว่าตอนที่หลวงพี่เรย์พาเณรเข้าถ้ำ ทำไมเหมือนหนัง ตั้งใจให้ดูที่เงาสะท้อนเวลาเดินของเณรเลยอะ เพราะมันดูแปลกๆตัวยาวๆ ส่วนตัวเริ่มคิดได้ว่าน้องเก้าจะมาเป็นเปรตแน่ๆก้อตอนนี้แหละ จากคุณ : m a r i a h s c a r y เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 22:17:02

ความคิดเห็นที่ 75 เห็นด้วยครับ จากคุณ : หลายมิติ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 22:28:02

ความคิดเห็นที่ 76 เห็นด้วยกับ 38 นะ ของ จขกท ก็ดี แต่ยังติดเรื่องถ้าตายในถ้ำ จะตายเพราะสาเหตุอะไร ไหลตายมันยังดูแปลกๆ หนังก็ไม่ยอมเฉลยนะ !! 55+ จากคุณ : ล็อกอินนี้เป็นฮิปปี้ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 22:50:28

ความคิดเห็นที่ 77 ^ ^ ^ (จิ้มไปที่คห.ที่ 68) ฮาตรงคำว่า "จีวร ทรานฟอร์เมอร์เป็น เ ป ร ต" นี่แหละ จากคุณ : kiosk-batt เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 23:06:15

ความคิดเห็นที่ 78   ง่า คุณ จขกท. ผม playpooh เอง 555+ คุณ จขกท.ไม่โกรธ ก็ดีใจครับ แต่ไม่เข้าใจจริงๆ ครับ ทำไม จขกท.ถึงคิดว่า น้องเป้ "ไหลตาย" ตั้งแต่ตอนอยู่ในถ้าครับ หนังมันสื่อตอนไหนครับว่า น้องเป้"ไหลตาย" อธิบายมันต้องมีทั้งเหตุและผลนะครับ คือไม่อยากให้เครียดนะครับ คห.38 ของผม ถ้ามีสมมุติฐานใหม่มาแย้ง ผมก็รับฟังนะครับ ของผม คือ น้องเป้ ตายเพราะ เจ้ากรรมนายเวร มาฆ่าโดยการปาหินจนตาย (มีเหตุและผล สมบูรณ์) แต่ของ จขกท. คือ ไหลตายในถ้ำ ??? แล้วผมก็หัวเราะอีกครั้งด้วยความงง คือไม่มีคนแย้งเลยเหรอ อ่านแล้วเชื่อเลยเหรอ? คือมันเป็นสมมุติฐานที่ไม่มีอะไรอ้างอิงเลยนะครับ พูดมาลอยๆ หมดเลยนะ และถามว่าพระช่วยไหม? ช่วยครับ ช่วยสุดความสามารถแล้วด้วย ขออ้างอิง กระทู้ A8309170 นะครับ นี่เป็นบทสวดป้องกันภัยอันตรายครับ แล้วก็ถาม จขกท.อีกว่า ถ้าน้องเป้เค้าไหลตาย จะสวดบทนี่ให้ทำไมครับ เอาหล่ะครับ จริงๆผมไม่อยากให้ซีเรียสนะครับ คห 67 ถ้าผมไม่ตอบโต้เลย เดี๋ยวผมจะเป็นคนไม่มีเหตุผล เห็นต่างได้ แต่ไม่แตกแยกครับ รัก จขกท.นะ ^^ ปล.ดีนะมีกระทู้ A8309170 มาช่วยอ้างอิง ไม่งั้นดื้อไม่ได้เลย 555+ จากคุณ : playpooh เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 23:38:57 A:58.9.10.87 X: TicketID:228318

ความคิดเห็นที่ 79 แล้ว งูกะตุ๊กแก สื่ออะไรหรอครับ อยากรู้ๆ จากคุณ : Lognezzy เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 23:45:07

ความคิดเห็นที่ 80 จขกท ก็มีเหตุผลนะครับ แต่มันตอบไม่ได้ว่าอะไรทำให้เณรเป้ตายในถ้ำ ถ้าตอบว่าแค่วิญญาณหลุดไป ทำไมถึงหลุดล่ะครับ อีกอย่างถ้าตายไปแล้วจะโทรหาแม่ได้ยังงัย ตอนนี้เลยต้องเชื่อตาม 38, 42, 48 ไปก่อน จากคุณ : Lucky Bull เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 23:47:33

ความคิดเห็นที่ 81   อย่างหนึ่งที่ยังไม่มีคนกล่าวถึง เราดูแล้ว สงสาร คุณแม่ของน้อง น่ะค่ะ ไม่ทราบว่าคนอื่นคิดยังงัย แต่การที่เอาลูกไปฝาก ก็รัก ห่วง และ อยากดัดนิสัย ใช่มั้ยอ่ะคะ ? หรือ แม่ ไม่ได้รู้สึก อะไร กับน้องเป้ เท่าไหร่ ? จากคำพูดที่ หลวงตา บอกว่า คุณ...(ชื่อผู้ชาย).. ฝากไว้ อ่ะค่ะ ถ้ายังเป็นแม่อยู่ คุณแม่เขาไม่น่าสงสารกว่าน้องเป้ ที่กลายเป็นเปรต เหรอคะ ? จากคุณ : Nattie* (nattiez438) เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 00:02:46

ความคิดเห็นที่ 82   จขกท. กับหลายๆคน คิดคล้ายๆผมเลย จากคุณ : อั้ม ติ่งเหลือม เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 00:08:42

ความคิดเห็นที่ 83   ขอให้ความเห็นในส่วนของแพร่งสามนะครับ ที่ว่าจีวรโดนทำร้ายในแพร่งสาม ผกก อาจจะสื่อว่า ปิศาจที่มาทำร้ายพระคือยาเสพติด เพราะเดิมทีก่อนที่จะกลายมาเป็นปิศาจดังกล่าว เด็กคนนั้นโดนให้กลืนถุงยางที่บรรจุผงขาวหรือเฮโรอีนเพื่อขนย้ายแล้วไม่โดนจับ ปิศาจกัดพระอาจจะสื่อถึงยาเสพติด(ใช้สัญลักษณ์เป็นปิศาจในเรื่อง)เข้ามาทำลายพระพุทธศาสนา(ในเรื่องแทนด้วยสัญลักษณ์คือพระสงฆ์) ปิศาจทำร้ายชาวต่างประเทศ อาจจะหมายถึงยาเสพติดเข้ามาทำร้ายคนบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวหรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดต้องมาตายเพราะยาเสพติด ปิศาจฆ่าคนขับรถและเด็กรถสื่อถึงว่ายาเสพติดก็ทำลายผู้ที่ข้องเกี่ยวกับกระบวนการยาเสพติดไปด้วย ปล.ความคิดส่วนตัวนะครับ ใครเห็นต่างก็บอกกันบ้างว่าคิดยังไง จากคุณ : oatdaniel เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 00:16:59 A:118.174.38.223 X: TicketID:232734

ความคิดเห็นที่ 84   ขอตอบ คห.81 ผมมองว่าคุณแม่น้องเป้ รักน้องเป้มากนะครับ(แม้จะรักในทางที่ผิด โดยไม่ให้น้องเป้มอบตัว) เลยพาไปบวธ มีอยู่ 2 สาเหตุใหญ่ๆ เลยครับ คือ 1.หนีคดี 2. บวธให้คุณพ่อไปในตัวด้วย ส่วนที่ถามช่วงท้าย คุณแม่เค้าให้มาบวธแต่ไม่รู้ว่า ลูกจะต้องมาใช้กรรมเป็นเปตรนี่ครับ ให้ลูกใช้กรรมแบบนี้ ไม่มีแม่คนไหนรับได้แน่นอนครับ จากคุณ : playpooh เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 00:37:52 A:58.9.10.87 X: TicketID:228318

ความคิดเห็นที่ 85   เห็นค่อนไปทาง คห.ที่ 38 ...แต่ว่า บวช ไม่ใช่ บวธ จากคุณ : มิ่ง เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 01:53:34 A:110.164.40.36 X: TicketID:197373

ความคิดเห็นที่ 86 ตามมาจากบอร์ดเรานะคะแพน ยินดีกับเพื่อนด้วยนะคะที่มีคนกิฟเธอเยอะแยะเลย งานนี้ขอบอกว่าเจ๋งจริงค่ะเพื่อน พูดถึงหนังดีกว่า สำหรับ 5 แพร่ง ดิชั้นนับวันนับคืนรอดูเรื่องนี้เลยค่ะแพนเค้ก เพราะอยากดูคนกองมาก แพร่งแรก ตอนดูงงมากเลยอ่ะ งงว่าอิวัดนี้มันเป็นอะไรกันแน่ แล้วหลวงพี่เรย์เป็นใคร อยากสงสารน้องเป้ แต่นิสัยก็แย่อ่ะ เห็นด้วยกับแพนนะคะ ว่าน้องเป้น่าจะตายก่อนแล้ว แต่ทำไม ดวงจิตยังมาโทรศัพท์หาคุณแม่ได้อยุ่ ยังงงมาก วี๊ด วี๊ด วีด ตอนดู ไม่คิดอะไร นึกว่าแค่สัญญาณไม่ดี พอออกมานึกได้ว่า นั่นจงให้เป็นเสียงเปรตนี่หว่า ก็บรื๋อ แสดงว่าตอนโทรศัพท์ น้องเป้ น่าจะตายแล้วจริงๆแหละ ส่วนแพร่งอื่นชอบแพร่ง2 ที่สุด เพราะว่าตอนที่จบตอน งงมากอ่ะ ลำดับความคิดไม่ทันจริงๆ ไม่ทันนึกเลยว่าจะ Skeleton Key กันแบบนี้ เรื่องสั้นมาก เลยนึกว่าจะยังไม่รีบสรุป แต่ดันรีบรวบรัดจบซะงั้น แต่ถือว่าเป็นตอนเดียวในภาคนี้นะที่เราเห็นว่า หักมุมชัดเจนมาก แพร่งสามนี่ ทำใจไว้ก่อนละเลยพอโอเค ส่วนแพร่งนิโคลนี่ ไม่น่ากลัวเท่า Last Fright ภาคที่แล้วนะเราว่า เห็นคุณผู้กำกับบอกว่า ภาคที่แล้วจบได้ติดตา ภาคนี้เลยอยากให้ติดตามกว่า แต่เราว่าภาคนี้จังหวะมันบอกเราล่วงหน้าแล้วอ่ะ ว่าเจ้จะเจออะไรที่กระโปรงรถ เลยเตีรยมใจรับภาคที่เกิดได้ แต่ยังไงก็สยองจริงๆอ่ะ ส่วนคนกองนี่ รู้สึกว่าไม่หักมุมนะ เพราะมันเหมือนย้อนรอยภาคที่แล้ว ทุกคนรู้แล้วว่าภาคที่แล้วมันหักมุม ภาคนี้เลยคิดว่าการหักมุมมันไม่จังงังเท่าภาคที่แล้วเท่าไหร่ แต่ไปเน้นที่ความขำมากกว่า หยั่งกะบ้านผีปอบ ความขำ บางฉากมันดูอืดๆไปบ้าง แต่ก็ดีใจที่เหมือนแพร่งนี้จะได้เวลานานสุดนะ เจ้ช่าสวย และสุดตรินจริงๆ ตอนดูจบในโรงแต่ละตอน คิดว่าอึ้งค่ะ คุณจะจบเยี่ยงนี้กันจริงๆเหรอคะแต่ละตอน งงค่ะ ยังไม่อยากคิดหาเหตุผลตอนอยุ่ในเรื่อง เพราะเดี๋ยวดูตอนใหม่ไม่รู้เรื่อง เลยรู้สึกมึนๆเหมือนโดนเขย่าหัว แต่พออกมา เริ่มคิดว่า การทำแบบนี้ ทำให้ชั้นต้องมานั่คิดต่อ จนนึกได้ถึงความไม่สมเหตุสมผลมากมาย หรือรูโหว่ที่เกิดจากตอนที่เราดู ไม่ทันสังเกต ไม่เหมือนภาคแรกที่ดูจะเคลียร์มากกว่า พอดูจบเลยสรุปว่าประทับใจ ไม่ได้เก็บเอามาคิดต่อ เพราะไม่สงสัย เลยไม่ทันชำแหละรูโหว่หลายๆจุดที่ก็มีเหมือนภาคนี้แหละ สรุปว่า ยังไงจะ 6 แพร่ง 8 แพร่ง ชั้นก็จะรีบไปดูต่อไปค่ะ ตราบใดที่หนังเรื่องนี้ยังมีเด็กแวนซ์ทั้งหลายให้การสนับสนุนกรี๊ดนำผีอยู่ ๙มีฉากให้ปรบมือ กระทืบโรงแบบนี้ ยังไงก็เป็นความสนุกที่หาไม่ได้จากที่บ้านค่ะ ยินดีกับความสำเร็จนะคะแพนซ์ จากคุณ : ifwudo เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 02:00:57

ความคิดเห็นที่ 87 เราคิดว่าเป้น่าจะออกมาตายนอกถ้ำ สาเหตุที่คิดแบบนั้นเพราะถ้าเป้โดนปาหินใส่ทั้งที่ยังเป็นคนหนังมันจะแรงกว่าเยอะ  เราว่าหนังอยากให้คนดูอึ้ง ทึ่ง สะอึกกับจุดจบของเรื่องที่ว่า กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง แต่ถ้าให้เป้จิตหลุด ตายไปง่าย ๆ อยู่ในถ้ำ มันก็ดูจะเบาไปนะ ไม่รู้สิ...คิดแบบนี้อะ... จากคุณ : IrisGiRL เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 03:24:47

ความคิดเห็นที่ 88 สุดยอดค่ะ เก็ทแล้ว ดูเฉยๆไม่เคยได้คิดตามเลย จากคุณ : Edit My Life เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 04:40:04

ความคิดเห็นที่ 89 ตอบคุณ Playpooh ครับ ============== อย่างที่บอกนะครับ ว่าเป็นความคิดเห็นของผมเน้อ เพราะผมไม่ใช่ผู้เขียนบทครับ ก็ได้แค่เดากันไปตาม "เหตุและผล" ซึ่งเราต่างคนก็ยกมาประกอบต่างกันไป ทั้งนี้ผมไม่ค่อยยกเรื่องของคำว่า "ไม่น่าจะเป็น....." มาใช้ เนื่องจากเราไม่รู้ใจ ของคนเขียนบทจริงๆ ดังนั้นเขาอาจจะอยากทำเรื่องออกมาประหลาดอย่างไรก็ได้ ผมเลยไม่ค่อยคล้อยตามกับคำว่า "ไม่น่าจะให้ไหลตาย ง่ายไป" หรืออะไรก็ตามแต่ แต่ผมมองที่เหตุผลจากภาพที่ออกมา.... "เสื้อผ้าที่เปลี่ยนไป" นั่นเอง คือเหตุผลของผม (จะว่าไร้เหตุผลก็บ่ได๋กา) เหตุผลแย้งที่หลายๆ คนให้มาว่า "อาจจะเป็นเพราะภาพจีวรกลายเป็นเปรตอาจจะแรงไป" ถ้าอย่างนั้นผมขอบอกอีกครั้งว่า "ผมไม่ใช่คนเขียนบท" ครับ..... ถ้าอย่างนั้น เพื่อความสมจริงของหนัง ผมขอใช้คำว่า "เป็นไปได้ไหม?" - "Is it possible?" สมมติว่าคนเขียนบทตัวจริงตั้งใจออกมาในแบบนั้นจริงๆ คือ "ยังไม่ตายในถ้ำ" แต่เมื่อภาพออกมาแบบนี้.... จะดีไหม ถ้ามองเรื่องราวเป็นแบบ "ตายในถ้ำ" จะเป็นการกำจัด conflict ของภาพเสื้อผ้าใน 2 ฉาก และเป็นการทำให้หนัง มีความสมเหตุสมผลมากขึ้น ========================================== ไม่เอาอ่ะ... ไม่ชอบ.. ตายง่าย.... ไหลตาย... ไม่จี๊ด!! ------------------------------------------------------- สำหรับผมแล้ว ผมว่าหลายๆ คนมองแยก "กายจิต" กับ "กายหยาบ" ได้... ดีเลย สำหรับผม การบาดเจ็บทางกายจนตาย... ดวงวิญญาณก็ยังสวยงามปกติอยู่.... เรียกว่า บาดเจ็บอย่างไร พอตายปุ๊บ จิตหลุดจากตัว "รูป" (ร่างกาย) คุณก็สบาย แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำลายดวงจิตของเราอย่างแท้จริงล่ะ? -------------------------------------------------------- "อกุศลกรรม" ไงล่ะครับ พูดสั้นๆ คือ "บาป" พูดง่ายๆ คือ "ความคิดชั่ว/ทำชั่ว" นั่นเอง เป็นไปได้ไหม? - Is it possible? ว่าหนังสื่อออกมาว่าน้องเป้วิ่งทิ้งร่างออกมาจากถ้ำ แล้วกรรมที่ก่อไว้ "ด้วยหิน" ก็เข้ามาทำให้ดวงจิตเสียหายในฉากนั้น จนใบหน้าบูดเบี้ยว แทบไม่เหลือเค้าหน้าเดิม ผมว่าก็เข้าเค้าอยู่นะครับ! ========================================== ถามว่าโหดร้ายดีไหม? ... หรือว่าน้อยไป...? --------------------------------------------- ในความคิดของผมแล้ว คนทั่วไปมองเจอเณรเป้ไร้ลมหายใจอยู่ในถ้ำ หรืออาจจะ เป็นเจ้าชายนิทราอยู่อย่างนั้นอาจจะดูไม่ได้ทะเทือนขวัญอะไรก็จริง แต่ความทรมานมันก็เกิดกับดวงจิตแล้วไม่ใช่หรือ? ต่อให้เอาเข็มไปทิ่ม "รูป" นั้นอย่างไร... ก็ไม่เจ็บ แม่ของเณรเป้เองก็คงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกตัวเอง.... ไม่มีใครรู้.... คงไม่มีใครช่วย.... และคงไม่สามารถไปหาใครมาช่วยได้.... ผมว่าน้องเป้คงต้องทรมานในร่าง Perez (ชอบคำนี้จัง.. ยืมมาใช้หน่อย) ไปอีกนานเลยครับ --------- การตาย... เป็นเพียงการเริ่มต้นไปสู่อีกหนทางหนึ่งเท่านั้น---------- จากคุณ : pcplant เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 06:59:44

ความคิดเห็นที่ 90 ตอนแรกก็คิดว่า เป้ยังไม่ตายตอนออกจากถ้ำ แล้วโดนหินปาจนตาย แต่พออ่านกระทู้นี้ จึงเข้าใจเหมือน จขกท. ค่ะ หนังน่าจะสื่อแบบนั้นมากกว่า (ลึก แยบคายมาก) ส่วนสาเหตุที่ตาย อันนี้ไม่ทราบ แต่คงถึงเวรถึงกรรมจริงๆ จู่ๆ มันก็ตายเอง ส่วนที่โดนปาหินอย่างหนักและแรงนั้น น่าจะเป็นการรับกรรม เหมือนปาไป 1 เท่า แต่ต้องชดใช้กลับ 100 เท่า (เสียงในโรงดูหนักและแรงมาก แอบเจ็บแทนเลย) ก็จะสรุปได้ทันทีเลยว่า ใครเป็นคนปา? = เวรกรรมนั่นเอง เหมือนพวกที่ตายไป ต้องไปลงกะทะทองแดง หรือปีนต้นงิ้ว ที่ว่า ตาย 100 รอบในกะทะทองแดง ตายซ้ำตายซากเพื่อชดใช้กรรม ชอบแพร่งนี้มาก เอากลับมาคิดที่บ้านได้หลายวันเชียว จากคุณ : S@iYoJang เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 11:54:43

ความคิดเห็นที่ 91 อืม ขอมั่วอีกนิด ถ้าจำไม่ผิด ..... เรื่องการกลายร่าง ...เปรต นี่เป็นแบบว่า เกิดเองได้เลย...จะร่างจริง หรือแค่จิตก็ดี แล้วแต่ตีความ ถ้าร่างจริง คงออกแนว มนุษย์หมาป่า เสื้อขาด เนื้อเยื่อมิวเตชั่นเป็นเพิ่มจำนวน แล้วกลายร่างเป็นเปรต ถ้าเป็นจิต ก็แค่เกิดใหม่ในชาติใหม่ เป็นเปรตฝึกหัด แต่ยังเดินบนภพมนุษย์ภูมิ แต่จิตจากเป้จะกลายเป็นเปรตเลย โดยไม่ผ่านครรภ์ (ถึงเรียกว่าเกิดเองได้เลย) แบบนี้เห็นภาพยากหน่อย ถ้าตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า เป้หลังออกจากถ้าเป็นดวงจิตนะ แต่เราว่า คงเป็นดวงจิตนะ ไม่ว่าจะเกิดแบบจากกายเนื้อ ไปเป็นเปรต หรือแค่จิต แปรสภาพเป็นเปรต แต่เพราะไม่ผ่านครรภ์ ความทรงจำจังยังอยู่ คงทุกข์ทรมาณ กับความผิดที่ยกโทษให้ตัวเองไม่ได้ ไปจนกว่าจะมีคนชี้ทางสว่างให้ เปรตนี่ยังดีนะ...ยังมีโอกาสพบพระอรหันต์ ถ้ามีบุญเก่าสักหน่อย ........ เรื่องความเจ็บปวด เค้าว่ากันว่าจิตเจ็บได้ไม่แพ้ร่าง ไม่ใช่แค่ร่างโดนต่อยถึงจะเจ็บ สิ่งที่ทำร้ายจิตก็คือพวกที่ไม่มีจริงทั้งหลาย หรืออุปาทานของจิตเอง จิตโดนเฉือดได้ จากมีดที่ไม่มีตัวตน(หากเราจะเอาตาเนื้อมอง) ............ ความตาย แต่คิดไปคิดมา เราชักคิดว่าเป้ฆ่าตัวตายเอง เพราะทนกับความผิดที่ตัวเองทำไม่ได้ ผนวกจิตใจอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สายสิญจ์ที่เห็นพันขา คงเป็นจิตสำนึกสุดท้ายว่า อย่าทำ มากกว่าจะเป็นอิทธิฤทธิ์ปฏิหาริย์ พอสุดท้ายของลมหายใจ ถึงรู้ว่า ต่อให้ตายไป ก็ไม่ได้ตายจริง ยังมีภพภูมิใหม่ ให้เดินต่อ น่ากลัวไม่แพ้กัน สังเกตจากตอนที่เณรบวชใหม่ แล้วเดินบินฑบาตไม่ทัน ภาพฉายให้เห็นเณร ยืนอยู่คนเดียว มีช่องอุโมงค์ป่าใม้ รกครึมแค่นั้น รู้ได้เลยว่า อนาคตเณรต้องไปคนเดียว ไม่มีคนชี้ทาง ตอนนั้นใกล้สิ้นลม ถึงจะอยากโทรหาแม่ ก็โทรไม่ทันแล้ว ไม่มีแรงแม้แต่จะกด เพราะเปลวเทียนชีวิตริบหรี่เต็มที่ ได้แต่อธิษฐานอยากโทรหาแม่ ด้วยแรงสุดท้ายแห่งชีวิต ...แม้แม่รับโทรศัพท์ ได้ยินแค่เสียงหวีดหวิว อาจจะเป็นแค่เสียงลมพัด จากถ้ำ หรือเป็นเสียงเปรตเป้ ก็ตาม (ภาพที่เราเห็นทั้งหมด นับแต่เป้เดินออกจากถ้ำ จึงเป็นการเดินทางของจิตภาวะสุดท้ายของชีวิต ซึ่งจิตก็ไม่ได้เดินจริงหรอก เอ๊ะ ทำไมล่ะ ... ก็พี่เรย์แกบอกนี่ว่า อะไรที่เห็น มันมี แต่ไม่จริง....พี่เรย์ไม่ได้เตือนเป้อย่างเดียว แต่เตือนคนดูด้วย ฮ่ะๆๆ ) .... ท้ายที่สุด คนเป็นแม่เองก็ได้รับกรรมไปด้วย ลูกตาย หรือลูกหายคงเป็นกรรมของแม่ด้วย พ่อเอง เพราะเลี้ยงลูกไม่ดี จนลูกกลายเป็นเด็กกวนเมือง ทำร้ายคนอื่น ก็เลยต้องโดนลูกย้อนสอนมาทำร้ายเหมือนกัน มันเหมือนวังวนอุบา...ทว์นะ พากันดิ่งลงเหวกันไปหมดน่ะ เรื่องแบบนี้โทษพ่อ แม่ หรือเด็ก ฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องรวมๆ กันรับผิดชอบ สุดท้ายเรื่องจริงไม่มีใครรู้เนอะ ต้องลากคนเขียนบทมาถกกันล่ะ แค่เดินออกจากถ้ำแล้วสวมชุดธรรมดานี่นะ เกือบ 100 คห แย้ว ฮ่ะๆๆ ถ้าฆ่าตัวตาย นี่ครบองค์แห่งความเลวตามคติพุทธเลย จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 12:14:35

ความคิดเห็นที่ 92 โห แต่ละ คห. วิเคราะห์ระดับเทพ เลยอ่ะ ผมเห็นด้วยกับ จขกท. แม้จะเป็นเพียงการคาดเดา ซึ่งอาจวิเคราะห์ได้ 2 ประเด็น โดยส่วนตัว ในบรรดา 5 แพร่ง ผมชอบแพร่งหลาวชะโอนที่สุด เพราะเป็นหนังผีเรื่องเดียวที่เป็นหนังผีจริงๆ สะท้อนสังคม และเมกเซ็นส์ กว่าเรื่องอื่นๆ อีกทั้งมีคติแง่คิดในเรื่องของกรรมเวรได้ชัดเจน ในเรื่องความน่ากลัว ที่ถ่ายทอดออกมาตามสภาพบรรยากาศของหนังทำให้คนดูรู้สึกขนลุก และหลอนไปในตัว อีกทั้งยังสะท้อนสังคมในภาวะตอนนี้เป็นอย่างดี(ที่สุด) เปิดฉากมาด้วย การปาหิน ทำให้รู้สึกได้เลยว่า เรื่องนี้ไม่ธรรมดา ที่ผกก. กล้าจะนำเสนอประเด็นการปาหินสะท้อนสังคม พฤติกรรมของเด็กวัยรุ่นที่คึกคะนอง ถูกเลี้ยงมาแบบผิดๆ ปัญหาหย่าร้าง เด็กที่ขาดวุฒิภาวะ ไม่เคารพบิดามารดา ฯลฯ ล้วนส่งให้ตัวเอก เก้า จิรายุ ซึ่งแสดงเป็น เป้ มีคาแรคเตอร์เป็นเด็กก้าวร้าว ออกไปในทางรุนแรงและขาดความยั้งคิด เพราะในสังคมไทย บางครั้งสิ่งที่เยาวชนกระทำมันร้ายแรงเกินกว่าจะแก้ไขได้ยิ่งกว่าผู้ใหญ่บางคนเสียอีก เช่น การปาหิน เป็นต้น เปิดเรื่องมาเป็นการหนีความผิดด้วยการไปบวชเป็นเณรที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งวัดนี้ก็ขึ้นชื่อในเรื่องเปรตเสียด้วย จนออกจะเป็นแนวไสยศาสตร์ เหตุการณ์อาเพศได้เกิดขึ้นตั้งแต่มีดโกนบาดแล้ว ด้วยความเสียใจทำให้เป้โทษด่ามารดาของเขาด้วย เพราะความเขลาและไม่สำนึกในการกระทำของเขาเอง นอกจากนี้ยังสอดแทรกแง่คิดด้วยว่า ครอบครัวสมัยใหม่ที่มีปัญหาหย่าร้าง มักไม่ค่อยให้ความใส่ใจในการอบรมดูแลบุตรให้ดี เมื่อบวชเป็นเณรวันแรก สิ่งที่น่าขนลุกขนพองมากคือ ของเซ่นไหว้ตามรายทางที่ชาวบ้านนำมาเลี้ยงผีเปรต พาลให้นึกถึงหมู่บ้านตามชนบทที่ยังเชื่อเรื่องผีสางอยู่ เณรที่บวชเพียงเพื่อหนีความผิด ก็นับว่าผิดพระวินัยแล้ว แต่เจ้าอาวาสก็เมตตาบวชให้ แต่กลับไม่สำนึกในผ้าเหลือง วันแรกก็โหยหิวตามวิสัยคนบวชใหม่จนต้องแอบย่องไปหาอาหารกลางดึก ประกอบกับไม่เชื่อในเรื่องผีสาง ทำให้ไปเอาของเปรตมากิน แต่ด้วยความเมตตา หลวงพี่เรจึงได้ตักเตือนให้นึกถึงพระวินัยที่ต้องยึดไว้ แต่จนแล้วจนรอด ก็หาได้พ้นบ่วงกรรมที่ก่อไว้ได้ ต่อมาก็ได้มีอาเพศต่างๆมากมาย เช่น หลาวชะโอนล้ม งูเขียวกินตับตุ๊กแก ตุ๊กแกเกาะผ้าเหลือง เหยียบตุ๊กแกตายคาตี-น ฯลฯ ล้วนบ่งบอกถึงบ่วงกรรมที่ทำเอาไว้ว่าหนักหนาสาหัสทีเดียว แต่กระนั้นพระท่านก็มิได้ตักเตือนกันตรงๆ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะ เณรอยู่ในอวิชชาตามืดบอดประกอบกับไม่เชื่อในเรื่องเวรกรรม ตักเตือนไปก็ไร้ประโยชน์ จึงได้ให้หลวงพี่เรจึงนำไปหลบสวดมนต์ภาวนาอยู่ในถ้ำเพื่อพิจารณาสิ่งที่ได้กระทำ อีกทั้งยังได้เตือนสติให้ละทิ้งความกลัวและได้มอบบทสวดเพื่อป้องกันภัยเอาไว้ และเอาไว้สวดต่อชะตาซึ่งอาจจะช่วยลบล้างบาปกรรมที่ทำเอาไว้ได้บ้าง แต่กระนั้นก็ไม่เป็นผล ยากที่จะห้ามเอาคนที่อยู่ในผ้าเหลืองที่ขาดจิตตั้งมั่นมิให้หวาดกลัวได้ จึงได้หนีออกจากถ้ำอันเป็นการบ่งชี้ว่า ชะตาได้ขาดลงเสียแล้วเป็นเพราะกรรม จะฉุดรั้งเอาไว้ก็หามิได้ ตรงนี้เอง กว่าจะสำนึกได้ก็สายไปเสียแล้ว  ข้อนี้จงระวังให้จงหนักบางสิ่งกระทำไปแล้วแก้ไขอะไรมิได้ สิ่งที่เป้ได้ทำมันร้ายแรงเกินกว่าจะอภัยได้ นั่นอาจเป็นเพราะกรรมเวรที่ก่อไว้แต่ชาติปางก่อนหรือเหตุเพราะความคึกคะนอง บางครั้งเหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นจริงๆกับใครก็ได้ เพราะอาจปาถูกญาติพี่น้องตัวเอง หรือที่ร้ายแรงคือปาโดนบิดามารดานกลายเป็นอัตวิบาตกรรม ซึ่งเป็นกรรมหนักที่สุดยิ่งกว่าด่าพ่อแม่เสียอีก เพราะพลาดพลั้งทำร้ายบิดามารดาหรือทำชีวิตให้ตกล่วงไป ผลกรรมอันนั้นจะส่งให้ไปอบายภูมิทนทุกข์ในนรกกว่าหลายกัปป์กัลป์ ด้วยเหตุนี้เอง พระก็ช่วยไม่ได้ สุดท้ายจึงกลายเป็นเปรต อยู่ในอบายภูมิเร่ร่อนไปจนกว่าจะได้ผุดเกิด เป็นเปรตประเภท ผอมโซ ปากเท่ารูเข็ม เพราะความไม่รู้เท่าทันในบาปกรรมแท้ ประเด็นที่ว่า เณรเป้ ตายเมื่อไหร่นั้น อาจเห็นพ้องตามจขกท. ที่ว่า ชีวิตตกล่วงไปเมื่อครั้งยังอยู่ในถ้ำ เพราะจิตหลุดออกจากร่างไปแล้วกลายเป็นเปรต รับโทษตามกรรมที่กระทำไว้ หรืออีกประการหนึ่ง ตอนที่เณรตามหลวงพี่ไปสงบสติอารฒณ์ในถ้ำ สังเกตว่าเณรแบกกระเป๋าไปด้วย จึงเป็นเหตุว่า เณรอาจผลัดจีวรเป็นฆราวาส หนีออกจากถ้ำจนตายกลายเป็นเปรตก็เป็นได้ ในเรื่องของบ่วงกรรม บางครั้งก็อยู่เกินวิสัยที่คนจะรู้ได้ บ้างอาจรับกรรมในทันท่วงที หรือ รับผลกรรมในชาติต่อไป ผลกรรมอาจจะได้รับในรูปแบบต่างกัน บางคนสบอุบัติเหตุ บางคนโดยยิงตาย บางคนหัวใจวายตาย หรือบางคนตายไปเฉยๆ ข้อนี้ หนังอาจไม่ตีโจทย์ให้เคลียร์ว่าตายตอนใหน ซึ่งก็ไม่สำคัญเท่าตอนที่รับผลกรรมคือถูกหินปาจนตาย และกลายเป็นเปรต ซึ่ง ผู้ที่จะเป็นเปรต ต้องละจากโลกนี้ไปแล้ว หาใช่จู่ๆก็กลายร่างเป็นเปรตไม่ ดังนั้น ก่อนกลายเป็นเปรต วิญาณหรือภาวะจิต ต้องหลุดออกจากกายร่างเนื้อแน่นอน ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งหลุดออกจากถ้ำหรือ หลุดตอนโดนหินปาก็ได้ เพราะหนังก็มิได้บอกว่า ศพจริงอยู่ที่ใด แต่มิได้หายไปเฉยๆ แน่นอน ส่วนขณะที่โทรหาแม่แล้วเสียงเป็นเสียงหวีด เพราะ วิสัยเปรตปากเท่ารูเข็ม อีกทั้งล่วงเลยเวลาที่จะสำนึกได้เสียแล้ว ดังนั้น สิ่งที่กล่าวออกมา ผู้เป็นมารดาจึงไม่อาจรับรู้ได้ แม้ว่าเป้เองจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม !!!! บาปกรรมนั้นมีจริง ผลกรรมบางอย่างกระทำไปแล้ว ยังพอแก้ไขได้ เช่น วิบากกรรมของพระองคุลีมาลเถระ วิบากกรรมบางอย่าง เมื่อทำไปแล้ว แก้ไขไม่ได้ เช่น วิบากกรรมของพระเทวทัต ,วิบากกรรมของพระโมคคัลลานะ เป็นต้น จากคุณ : Cho_shang เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 12:34:23

ความคิดเห็นที่ 93 ความคิดเห็นที่ 91  เปรต เป็นสัตว์จำพวกหนึ่ง เกิดในอบายภูมิ หรือ นรก นั่นแหละ ว่าด้วยการกำเนิด เปรต กำเนิก แบบ โอปปาติกะ คือ ไม่ผ่านครรภ์ เกิดแล้วโตเลย เช่นเดียวกับ ภพภูมิ เทวดา อสูรกาย เป็นต้น ดังนั้น เปรต จะเกิดได้ จิตต้องละจากภพเดิม หรือ ที่เรียกว่า ตาย นั่นแหละ จึงจะไปเกิดในภพใหม่ได้ เป็นภพภูมิที่ต่ำกว่า ทุกข์ทรมานกว่า เปรตจะต้องรับผลกรรมไปตามที่ตนก่อไว้ ซึ่งแบ่งแยกได้หลายประเภท อาทิ เปรตที่ด่าพ่อแม่ หรือ ทำร้ายพ่อแม่ ตายไปจะไปเกิดเป็น เปรต เรียกว่า  ปรทัตตูปชีวิเปรต คือเปรตที่ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยส่วนบุญที่มีผู้ทำอุทิศให้ ต้องรอส่วนบุญจากคนอื่นจึงจะไปผุดไปเกิดได้ ส่วนจะใช้เวลานานเท่าใด ขึ้นอยู่กับผลกรรมที่ตนกระทำไว้ บ้างยาวนานกว่า สี่ อสงไขยกัปป์เลยทีเดียว (โดยประมาณว่ามีพระพุทธเจ้ากำเนิดถึง สี่พระองค์ ก็ยังมิพ้นบ่วงกรรม  เช่น เปรตญาติของพระเจ้าพิมพิสาร ที่เพิ่งจะพ้นวิสัยเปรตก็ในสมัยของพระพุทธเจ้าสมโคดม) ดังนั้น เรื่องที่ เปรตพบพระอรหันต์ ในสมัยพุทธกาล ก็เนื่องจาก บุญของพระอรหันต์ มีมาก ย่อมทำให้เปรต้นบ่วงกรรมได้เร็ว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ บ่วงกรรมของเปรตแต่ละตนด้วย เช่นเดียวกับมนุษย์ เรื่อง สายสิญจ์ที่เห็นพันขา น่าจะเป็นสายสิญจน์ที่ผูกจิตเอาไว้ หรือลากล้อมเอาไว้ เพราะเมื่อ เป้ หนีออกจากวงสายสิญจน์ ทำให้สายสิญจน์ขาด นิมิต จึงปรากฏแก่หลวงพี่เร ดุจเดียวกับลางสังหรณ์ เช่น แก้วแตก กระจกกรอบรูปแตก นั่นแหละ เรื่องอิททธิปาฏิหาริย์ นอกเหนือวิสัยปุถุชนจะรับรู้ได้ ส่วนพระถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา หากจิตที่ฝึกมาดีแล้ว ย่อมเห็นในสิ่งที่คนไม่เห็นได้ หรือสัมผัสได้ จึงรับรู้ว่า สิ่งต่างๆล้วนเป็นมายาคติ เนื่องด้วย กุศลบุญเก่าของเณรไม่มีเลย จึงเกิดความหวาดระแวง เมื่อจิตไม่ตั้งมั่น วิบากกรรมจึงแทรกแซงโดยง่าย ผิดกับการยอมจำนนต่อวิบากกรรมด้วยความไม่เกรงกลัว เพราะจิตไม่ยึดมั่นถือมั่นสิ่งใดเลย ... ที่หลวงพี่เรย์บอกว่า อะไรที่เห็น มันมี แต่ไม่จริง....พี่เรย์ไม่ได้เตือนเป้อย่างเดียว แต่เตือนคนดูด้วย  อันนี้เป็นสัจธรรม เพราะสิ่งที่เราเห็นก็ดี ไม่เห็นก็ดี มีอยู่จริง แต่ไม่ไปยึดมั่นถือมั่น เมื่อละได้ จึงปรากฏว่าเป็นเพียงมายา ไม่จริง เมื่อรู้ว่าไม่จริง จิตก็จะหลุดพ้น เลื่อมใสศรัทธาในพระศาสนา หากเณรเชื่อมั่นในคำสอน และจิตเป็นสมาธิ ทางที่เณรพอจะผ่อนหนักเป็นเบาได้ คือ บวชตลอดชีพ เท่านั้น จึงจะพอแก้ได้ แต่นั่น เณรต้องรู้เองเท่านั้น เรื่องเสียงหวีด เข้าใจว่าเป็นเสียงเปรตแน่นอน เพราะเกินกำลังที่จะกลับคืนสู่วิถีมนุษย์ได้แล้ว จักต้องตายตกล่วงไปกลายเป็นเปรต ดังนั้น จึงคิดได้สองแง่คือ อำนาจจิตสุดท้ายสามารถสั่งให้โทรศัพท์ได้หลังจากตายไปแล้ว  หรือ เณรเป้ยังไม่ตายแต่วิบากกรรมบดบังมิให้มารดาได้ยินคำสารภาพของเณรเป้  จะอย่างไรก็ดี เชื่อว่า ชีวิตของเณรเป้ ได้ตกล่วงไปนับแต่ หลาวชะโอนล้มลงมาแล้ว เพียงแค่รอเวลานับถอยหลังลงเท่านั้น เช่นเดียวกับคนดวงตกจริงๆอย่างแรง นั่นเอง จากคุณ : Cho_shang เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 14:06:59

ความคิดเห็นที่ 94 เราว่าคิดมากไปนะ เรื่องนี้จะสื่อเรื่องบาปบุญมากกว่าค่ะ เราว่าหนังสื่อชัด เข้าใจตั้งแต่แรกเลยนา คือเป้เป็นพวกปาหิน ทำบาป ด่าว่าพ่อแม่ แม่พามาบวชหนีคดีแต่ใจก็ยังไม่สำนึก พวกพระรู้แล้วว่าเป้จะถึงฆาตเลยให้ไปสวดมนต์ต่อชะตาชีวิต แต่ด้วยความหลอนของตัวเองอาจจะเรียกได้ว่า มารจะมาเอาชีวิตเลยมาทุกรูปแบบแล้ว คือ ทั้งเสียงร้องจากนอกถ้ำ ทั้งลมพัดมาให้เทียนดับ ถ้ามีใจสำนึกบาปหน่อยคงอยู่ในถ้ำต่อ แต่คิดได้แต่อะไรแย่ๆเลยวิ่งออกมาข้างนอกแล้ว ไม่ครองผ้าเหลืองแล้ว พอได้ยินเสียงน่ากลัว สันดานเก่าก็กลับมา ปาหินที่ตัวเองถนัดซะ หินที่ปากลับมา ก็กรรมนั่นแหละค่ะ...ไม่ต้องคิดมาก ไม่มีใครปาหรอก แต่เราว่าหนังจะสื่อว่า กรรมตามสนองนั่นเอง จุดสุดท้ายที่จะตาย ไม่ต้องสงสัยว่าตายหรือยัง แต่เราว่าหนังอยากสื่อว่า คนมันจะตายอะ มันสำนึกผิดแล้ว อยากคุยกับแม่ อยากขอโทษแม่แต่ว่า บาปกรรมไม่มีคำว่าลดทอน เพราะงั้น แม่ก็เลยได้ยินเป็นเสียงหวีดของเปรตไปแล้ว เราเห็นด้วยกะ คห.บนนะคะที่ว่า เหมือนชีวิตเป้มันดับตั้งแต่หลาวชะโอนล้มแล้ว (แต่ส่วนตัวแอบคิดว่า ชะตาขาดตั้งแต่ไปเหยียบของเซ่นเค้าแล้วล่ะ แถมยังไปกินโดยไม่สำนึกเลยอีกด้วย) =_=''' ดูหนังอย่าคิดมากเลยเน้อ มันก็สมเหตุสมผลในระดับนึงแล้วล่ะ จะมาเดาว่าตายหรือยังไม่ตาย เราว่าไม่ใช่ประเด็นหลักเท่าไรอะค่ะ หนังสื่อเรื่องบาปกรรม ให้คนกลัวบาปกลัวกรรมที่ทำไปเพียงเพราะโมโห หรือ กิเลสสั้นๆ ก็ชัดเจนแล้วนิ เป็นแพร่งที่ทำดีมากๆเลยค่ะ ขนลุกตอนหินเด้งกลับมามากเลย รุ้สึกว่า นี่มัน "กรรมตามทัน" ของจริงเลยขัดๆ =w='' จากคุณ : SICKHEART เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 23:52:39

ความคิดเห็นที่ 95 ตายแล้วทำไมโทรไม่ได้ ก็เมื่อ 4 แพร่งยังแมสเสจคุยกันตั้งนาน แล้วไฟดับในถ้ำ ผีหลอกอีก คงไม่มีใครอารมณ์ดีเปลี่ยนเสื้อก่อนวิ่งออกมาจากถ้ำหรอกมั้งครับ ถ้าไปแอบในห้องน้ำ ไม่ต้องอาบน้ำ แปรงฟันวิ่งออกมาเลยเหรอ จากคุณ : Valefor เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 00:18:21

ความคิดเห็นที่ 96 สุโค่ย.... จากคุณ : Korean_Girl เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 00:24:23

ความคิดเห็นที่ 97 " สิ่งที่เห็น เคยเห็น  และจะได้เห็น . . มันมีอยู่จริง . . แต่ไม่มีจริง " ฮี่ๆๆๆ   .. .  มี ใคร เข้า ใจ เรา ไหม  ๕ ๕  . .  O_o" จากคุณ : `aMiZpAnDa~* เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 00:44:48

ความคิดเห็นที่ 98 รู้แต่ว่าแม้เรื่องจะแข็งๆ เดาง่าย แต่เป็นเรื่องที่รัดกุมที่สุด มีเหตุมีผลรองรับมากที่สุดครับ ส่วนตัวก็ชอบอันนี้มากที่สุด ผิดกับแพร่งอื่นๆ ที่ก็ดีแต่อาจจะเอามันส์จนขาดเหตุึผลรองรับครับ จริงๆ ถ้าตอนต้นของหนังแสดงพฤติกรรมที่เด็กคนนี้ปาหินใส่คนอื่นที่ไม่ใช่พ่อด้วย ก็จะครบถ้วนทีเดียวกับความผิดที่เขาก่อไว้ครับ เพราะพ่อคงไม่คิดที่จะกลับมาทำร้ายลูกแน่ๆ เลยคิดว่าบาปที่โดนหลายครั้งไปนิ๊ด โดยไม่มีเหตุผลรองรับ และอีกอย่างมองให้เป็นธรรมอาจจะเห็นว่าเด็กนั้นยังไม่รู้เรื่องบาปบุญคุณโทษ หรือผ่านการสั่งสอนมาบ้าง ก็ดูไม่เป็นธรรมเท่าใดนัก เพราะความคะนองก็อาจจะเดินทางผิด แต่ถ้าเป็นเด็กที่ทำตัวไม่ดีอยู่แล้ว อันนี้สิจะสมควรโดนเป็นอย่างยิ่ง แต่ผมไม่คิดมากนะ เพราะหนังมีเวลาจำกัด แค่นี้ผมก็ว่าหนังไทย ทำได้ดีแล้วครับ ขอชมมากๆ :) จากคุณ : Bion@l_Fantasy_X เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 00:54:15

ความคิดเห็นที่ 99 สุโค่ยด้วย... น้ำตาซึม จากคุณ : เกิดมาซุย เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 00:57:36

ความคิดเห็นที่ 100 นรก/เปรต เป็นซับเซตของ อบายภูมิ นะครับ อบายภูมิ 4 คือ ที่อยู่ของสัตว์ที่ต่ำชั้นกว่ามนุษย์ ได้แก่ เดรัจฉาน เปรต อสูรกาย นรก ถ้าหากว่าไปตามหลักที่เปรตจะตายจากภพภูมิหนึ่งแล้วไปเกิดเป็นเปรตเลยแล้วหละก็ เปรตตัวนี้ก็ตายด้วยหินแหละครับ ไอ้ที่เห็นว่าค่อยๆยืดขาขึ้นไปก็เป็นแค่ภาพให้คนดูเข้าใจ/หลอนเฉยๆ ตามหลักแล้วมันก็โผล่ปิ๊งมาเป็นเปรตเลย ไม่มีการกลายร่าง ส่วนว่างั้นหินใครจะเป็นคนปา ก็น่าจะตอบได้ 2 อย่าง 1. จิตของเขาเองเป็นคนปา คือ ปาหินใส่ตัวเองนั่นเอง มีพบเห็นได้บ่อยที่จิตเราเลือกที่จะทำร้ายตัวเอง เช่น บางคนรู้สึกว่าตัวเองทำผิดแล้วก็คิดติดอยู่กับความผิดนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก นั่นก็เป็นวิธีการที่จิตทำร้ายตัวจิตเองวิธีหนึ่ง แล้วพอทำร้ายตัวเองมากๆเข้าก็กลายเป็นบ้าไป 2. อาจมีแรงผสมนอกจากจิตเขาเอง ก็อาจผสมด้วยแรงของกรรมที่เคยทำมาด้วย คำว่าแรงของกรรมนี้บางทีมันก็แรงจนออกมาเป็นรูปธรรมได้ อย่างใน Final Destination อย่างงั้นแหละ อันนี้มันก็อาจมาในรูปของลมก็ได้ ก็ในสมัยพุทธกาล ยังถึงกับมีแผ่นดินไหวจนแผ่นดินแยก หรือที่เราเรียกว่า ธรณีสูบ ได้เลย อันที่จริงผมว่าการโดนปาหินกลับนี่ ที่หนังทำออกมามันก็สุ่มเสี่ยงเหมือนกัน หากเป็นเจตนาดีก็จะให้เราเห็นผลของกรรมและเกรงกลัว แต่หากเราไปสะใจกับเคราะห์กรรมของเขา อันนี้ก็เป็นบาปของเราเหมือนกัน ส่วนที่คุยโทรศัพท์แล้วฟังไม่รู้เรื่องก็ไม่แปลก เพราะอยู่กันคนละภพภูมิแล้ว รูปคือทั้งภาพและเสียงมันสื่่อกันไม่ได้แล้ว จากคุณ : จุใจ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 11:27:30

ความคิดเห็นที่ 101 ลืมไปอย่าง เรื่องนี้มีจุดด้อยเรื่องเดียว คือ การเล่าเรื่องราวของเปรต หนังไม่ได้บอกเรื่องราวของเปรตเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดมาเป็นเปรต เชื่อว่าคนดูต่างชาติคงไม่รู้จักเปรต แม้แต่คนไทยก็คงมีบ้างที่ไม่รู้หรืองงเหมือนกัน น่าจะมีภาพเปรตขายาวให้เห็นบ้าง และบอกเล่าเรื่องราวบ้าง จะดีกว่านี้ครับ จากคุณ : จุใจ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 11:45:49

ความคิดเห็นที่ 102 เห็นฉากที่เฉลยว่าหินที่ปาเข้าไปถูกรถแล้วรถคันนั้นเป็นพ่อของตัวเองแล้วรู้เลยว่าเป้ไม่รอดแน่ เพราะเป้ได้ก่ออนันตริยกรรมหนึ่งเข้าให้แล้วคือบาปหนักในการทำปิตุฆาต ซึ่งเป็นกรรมหนักที่สุด เห็นผลทันตา และแน่นอนว่าทันใจไม่ต้องรอถึงชาติหน้า ตัวอย่างเห็นๆก็พระเทวทัตที่ทำพระวรกายพระพุทธเจ้าห้อเลือด บั้นปลายชีวิตเทวทัตประสงค์จะไปเฝ้าพระพุทธเจ้าสักครั้งแต่ก็เพราะผลกรรมหนักทำให้ไม่ได้พบพระพุทธเจ้า และถูกธรณีสูบและตามปะวัติกล่าวว่าเมื่อถูกสูบก็ไปบังเกิดในนรกทันที ซึ่งอาจารย์บางท่านอธิบายว่า ความจริงแล้วอาจจะเป็นถูกชาวบ้านรุมประชาทันฑ์กระทืบเสียจมดินก็ได้ ภายหลังจึงเพี้ยนเป็นธรณีสูบ อันนี้ก็ไม่รู้ แต่เห็นในหนังคือเป้พยายามโทรหาแม่ แต่เสียงที่เปร่งออกมาคือเป็นเสียงหวีดของเปรตที่ปากเท่ารูเข็มร่างสูงเท่าต้นตาล ก็คงเป็นแบบเดียวกับพระเทวทัตคือกรรมนั้นมาบังไว้ไม่ให้สามารถกล่าวขอโทษแม่เป็นครั้งสุดท้ายได้ บางทีนั่นอาจจะไม่ใช่การโทรศัพท์ แต่อาจจะเป็นจิตของตัวเป้เองที่ส่งออกไปก็ได้(ใครจะรู้เพียงแต่สื่อออกมาในรูปนี้) แต่ประเด็นจิตออกจากร่างนั้นก็เพิ่งเก็ทจากมาอ่านที่นี่แหละ ตอนดูไม่ทันคิดอะไรหรอก ตามเรื่องไปอย่างเดียว ส่วนหินที่ปาออกมาเชื่อว่ามาจากกรรมมากกว่าที่จะมีใครปา ก็คนที่ทำบาปหนักถึงขนาดฆ่าพ่ออย่าว่าแต่ผู้คนจะรังเกียจเลย แม้แต่ผีสางก็คงขยะแขยง จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 13:35:08

ความคิดเห็นที่ 103 คห.91 ตอบกระจ่างมากๆเลย เย้ คือเราอยากอธิบายแบบนี้แต่เราไม่ได้มีความรู้มากขนาดนั้น ขอบคุณค่ะ จุ๊กกรู๊ววววววววว จากคุณ : มะตูมเรเดอร์ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 15:06:06

ความคิดเห็นที่ 104 โดยส่วนตัวแล้ว ในหนังมันบอกว่า เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน  แล้วค่อยหนีออกจากถ้ำครับ ในตอนนั้นยังไม่ตายแน่ๆ เพราะผมเห็นฉาก กำลังใส่รองเท้าผ้าใบ ก่อนออกจากถ้ำชัดๆ เลย ^^ จากคุณ : mr.wisdom เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:21:29

ความคิดเห็นที่ 105   อืมมม ดูๆไปเราไม่ได้คิดอะไรมากขนาดนั้นเลย แต่พอมาอ่านกระทู้นี้แล้วมันมีอะไรที่ลึกๆกว่าที่เราคิดแฮะ จากคุณ : Metataras เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:58:50

ความคิดเห็นที่ 106   #104 แต่ผมคิดว่าตอนใส่รองเท้าผ้าใบนั่น สื่อให้รู้ว่าจิตใจ เป้ รีบร้อน ลนลาน แตกกระเจิงมากกว่านะครับ ดูจากท่าทางการเขย่งๆ(เขียนถูกรึเปล่า)ตอนใส่อ่ะครับ จากคุณ : จึงเดินเรียบๆ เงียบๆคนเดียว เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:54:42

ความคิดเห็นที่ 107 ไปใหญ่แล้ว ไปดูรอบสองมา มีฉากใส่รองเท้าเห็นๆ ตายนอกถ้ำนั่นแหละ คิดเลยคนเขียนบทไปเยอะเลย จากคุณ : ล็อกอินนี้เป็นฮิปปี้ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:01:49

ความคิดเห็นที่ 108   รู้สึกติดเมือนกันที่เปลี่ยนชุดจากผ้าเหลืองมาเป็นชุดฆารวาส แต่ก็เข้าใจวงการเซ็นต์เซอต์ของเมืองไทย เพราะพระ-เณร ในหนังไทยวิ่งไม่ได้,เล่นกีต้าร์ไม่ได้ บางที ผกก. อาจจะคิดแค่นี้ก็ได้ เพราะถ้าไม่เปลี่ยนชุดในถ้ำ ฉากเณรวิ่ง ฉากเณรปาหินคงโดนหั่นออกแน่นอน ถึงจะทำให้หนังไม่สมจริงและดูไม่ต่อเนื่องก็คงต้องยอม เพราะหนังไทยที่เล่นกับพระ ก็โดนหั่นกันมาแล้วหลายเรื่อง จากคุณ : คิดมากเกินไปรึเปล่า เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 03:20:08 A:124.120.169.33 X: TicketID:043672

ความคิดเห็นที่ 109 สำหรับคนที่สงสัยว่า "ผมคิดมากไปหรือเปล่า" "คิดเกินผู้กำกับไปหรือเปล่า..." ขอให้ย้อนไปอ่าน คห. 89 ครับ จขกท... ขอบคุณครับ จากคุณ : pcplant เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:29:06

ความคิดเห็นที่ 110 โอ้โห  จขกท. คิดละเอียดมาก สุดยอดเพื่อน แอบคิดว่าเป้ตายไปตั้งแต่ตอนที่เทียนดับในถ้ำแล้ว อาจจะเป็นไปได้ไม๊ว่า ตอนเทียนดับคนที่จิตตก อ่อนยวบอยู่แล้วอาจจะช็อคกับภาพที่เห็นและสิ่งที่เกิด ณ ตอนนั้นจนช็อคตายไม่รู้ตัว แต่จิตยังคงลนลานไม่รู้ตัวเอง ภาพหลังจากนั้นคือการสะท้อนให้เห็นว่าจิตใต้สำนึกของเป้ยังคงร้อนรนอยากจะหนีให้พ้นความผิดแม้จะเปลี่ยนภพภูมิไปแล้วก็ตาม ทำไมถึงเชื่อว่าเป้ตายในถ้ำ เพราะตอนที่โทรหาแม่ แม่ไม่ได้ยินเสียงเป้กลับได้ยินแค่ เสียง วี้ดๆๆๆๆ ซึ่งตามความเชื่อเสียงแบบนี้คือเสียงของเป รต จึงเดาว่าหนังกำลังจะสื่อให้เห็นถึงกฏแห่งกรรมว่าถึงยังไงก็ต้องชดใช้ เพราะตอนท้ายจู่ๆร่างเป้ก็ขยายสูงขึ้นมาเลยผิดวิสัยเป รต เพราะเป รต คือวิญญาณชนิดนึง นั่นหมายความว่าต้องละทิ้งจากภพภูมิเดิมเสียก่อนถึงจะเข้าสู่ภพภูมิใหม่ได้จุดนี้จึงมั่นใจว่าเป้ตายไปนานแล้ว ความตายไม่น่ากลัวหรอกแต่ชีวิตหลังความตายตะหากที่น่ากลัว เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าภพภูมิใหม่ที่กำลังจะมานั่นจะเกิดจากผลของบุญหรือกรรมที่ทำมากันแน่ ปล.ส่วนเรื่องโทรศัพท์ถ้ามองในมุมไสยศาสตร์ตามความเชื่อเก่าๆแล้วก็ไม่แปลกนะ  ที่วิญญาณจะมีพลังทำได้ ส่วนเรื่องสายสิญจ์น่าจะเป็นการสื่อในแง่สัญลักษณ์มากกว่า ส่วนเทียนดับน่าจะสื่อถึงอายุขัยของเณรว่าดับและหมดลงแล้ว คนดวงถึงฆาตหมดอายุขัยจะตาย ไม่เห็นต้องหาเหตุผลเลยว่าตายเพราะอะไร ทำไมถึงตาย ชอบ 5 แพร่งมากๆ ชอบทุกแพร่งเลย แต่สุดๆมากๆกับ หลาวชะโอนนี้แหละ แยบยล ลึกซึ้งและตีแสกหน้าสังคมมากๆ จากคุณ : Por_dragonfly เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:14:28

ความคิดเห็นที่ 111   เสียงเปรตที่แม่ของเป้ได้ยินในโทรศัพท์อาจจะเป็นเสียงเปรตตัวอื่นที่วนเวียนอยู่รอบตัวเป้ในขณะนั้นก็ได้นะ เหมือนกับว่าแค่จะขอโทษแม่ครั้งสุดท้ายก็ยังไม่มีบุญพอที่จะได้ขอโทษแม่ไง เพราะเปรตมันกลบไปหมด จากคุณ : winter เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 52 09:52:15 A:58.9.55.112 X: TicketID:093545

ความคิดเห็นที่ 112 ... ผมวิจารณ์หนังไม่เก่งนะครับ แต่พออ่านหลายๆ คห. แล้วอยากจะพูดบ้าง คือ (สปอย์ละเอียดนะครับ  ผมเตือนคุณแล้ว) โดยส่วนตัว เท่าที่เห็น   เรื่อง หลาวชะโอน หลาวชะโอน คือ ต้นไม้ชนิดหนึ่ง หลาวชะโอนมีทั้งหลาวชะโอนทุ่งและหลาวชะโอนเขา มักอยู่ตามเขา มีลำต้นสูงมาก มองไกลๆชาวบ้านมักมองว่าเหมือน “ผีเปรต” และตัวต้นนิยมทำเอาทำเป็นเสาเพราะมีความแข็งแรง ใบใช้มุงหลังคา ตามวัดที่อยู่บนป่าเขา ชอบเอามามุงทำกุฏิ เรื่องมันเกิดจากว่า   เป้ (ที่อยู่กับพ่อ 2คน ส่วนแม่ไปอยู่กับคนอื่น) ได้ทำอนันตริยกรรม  คือ ปิตุฆา  บิดา ของตนเอง จากการเป็นแก๊งปาหิน  แล้วขว้างหินใส่รถพ่อตัวเอง โดยไม่ตั้งใจ(เพราะเข้าใจว่าเป็นรถคนอื่นทั่วไป เหมือนที่ผ่านมา) เพื่อจะเอามือถือ หลังจากนั้นเป้ก็ได้มือถือของพ่อเป้มา  โดยหล่นมาจากกระจกที่เปิดไว้จากในรถนั้น(ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ามันบังเอิญหล่นมาเอง หรือ พ่อเป้ยังพอมีลมหายใจโยนออกมา) แล้วเป้ก็เก็บเอาไว้ พอแม่เป้รู้  แม่เป้จึงให้เป้ หนีมาบวชเณร ที่ทางใต้  (แต่ที่ถ่ายทำฉากนี้คือที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ จ.กาญจนบุรี) เพื่อหนีให้เรื่องเงียบ แล้ว เพื่อลดกรรมของเป้ (แต่เป้ยังไม่วายที่จะด่าว่าแม่ตัวเอง จนโดนแม่ตบปาก) และเป้ก็ได้ไปธุดงด์กับพระในป่าเขา ป่านั้น  มีของที่เขาวางเซ่นไหว้เปรต  ตามประเพณีชิงเปรต ของชาวนครศรีธรรมราช และชาวปักษ์ใต้มีความเชื่อว่าบรรพบุรุษจะถูกปล่อยขึ้นมาจากนรกภูมิ เพื่อรับส่วนบุญกุศลที่ลูกหลานอุทิศไปให้ เพื่อนำกลับไปไถ่ถอนบาปให้ลดน้อยลงหรือหมดไปจนมีโอกาสได้ไปผุดไปเกิด บรรพบุรุษที่ถูกปล่อยขึ้นมาจะมีในรูปร่างต่าง ๆ หรือเรียกว่า ‘เปรต’ ซึ่งใจเป้ไม่ได้อยากบวชอยู่แล้ว เมื่อตอนตกดึกท้องหิว จึงแอบพระรูปอื่น ออกไปแอบขโมยกินของที่เขามาเซ่นไหว้เปรต  จนต้องเจอเปรต และทำให้เสาที่เขาไว้ทำพิธีนั้นหัก พระที่มาด้วยบอกว่า  เปรตตัวเก่งกำลังจะไปเกิด เปรตตัวใหม่จะมาแทน เป้โดนหลอกแบบนี้ เป้ถึงได้ตัดสินใจเปลี่ยนชุดแล้วหนีออกจากที่พัก แม้พระจะขอให้อยู่ต่ออีกคืน ก็ยังไม่ยอม จนหนีไปเจอพระหนุ่มอีกรูปที่มาด้วยกัน จึงจับใส่จีวร และ พาไปอยู่กรรมในถ้ำ เพื่อให้ปลงอาบัติตัวเอง ซึ่งตกดึก จิตเป้โดนหลอนด้วยความทรงจำพ่อที่ตายแล้วของเป้ รวมทั้งเปรตที่อยู่แถวนั้น เป้จึงตัดสินใจเปลี่ยนชุดแล้วหนีออกมาจากถ้ำเพื่อหนีออกจากป่า เหมือนอย่างคราวที่แล้ว และตอนนี้เองที่เป้โดนกรรมสนอง (หรือว่าโดนเปรตปาหินกลับ) จนหน้าตาปูดบวมช้ำ  และโทรไปหาแม่ แต่แม่ไม่ได้ยินเสียงคน แต่กลับได้ยินเป้นเสียงวี้ๆของเปรต แทน แล้วจึงวางไป หลังจากนั้น  เป้ก็ได้กลายเป็นเปรตตัวใหม่เสียแทน อ้างอิง http://hit.tidtam.com/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-%E0%B8%A0%E0%B8%B2.html http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16809 ผมว่าที่ผมเห็นมันก็น่าจะชัดแล้วครับ "ผมก็แค่ดูให้ละเอียดก่อน"  แล้วค่อยคิดก็เท่านั้นเอง  ไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่ ใครจะคิดยังไงเพิ่มเติม หรือ ปรุงแต่ง  ให้หนังสนุกมากขึ้นยังไง  ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของคนนั้นครับ และโดยส่วนตัว  ผมก็คิดว่า หนังสอนเรื่อง เวรกรรม มาดีแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 52 19:11:06 จากคุณ : mr.wisdom เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 52 19:09:44

ความคิดเห็นที่ 113   เห็นด้วยว่าเป้น่าจะเปลี่ยนชุดออกมามากกว่า 1. ภาพเณรอยู่ในชุดผ้าเหลืองแล้วกลายเป็นเปรตบ้างล่ะ ถูกปาหินบ้างล่ะ ไม่เหมาะสม 2. พระเตือนแล้วแต่เณรเลือกที่จะแก้ปัญหาแบบง่ายๆ ตามนิสัยเดิม คือละผ้าเหลืองมาใส่ชุดฆราวาสแล้วหนี แทนที่จะตั้งสมาธิ อดทน สวดมนต์ แผ่นเมตตา ฯลฯ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากผลกรรมที่ฆ่าพ่อ ทำให้เกิดอาการ "ผ้าเหลืองร้อน" (เหมือนเรื่องประมาณคนคล้องสร้อยพระ แต่ถ้ามีกรรม บางทีมีอะไรมาดลใจให้ถอดสร้อย) ถ้าบาปไม่หนักขนาดนี้ เณรอาจรอด 3. หน้าสิ่วหน้าขวานแล้ว ยังจะเปลี่ยนชุดอีกเหรอ --- > คงเป็นเรื่องของกรรม เณรเลือกที่จะใช้วิถีฆราวาส อย่างน้อยถ้าอยู่ในผ้าเหลืองโดยมีพระช่วยกันสวดและเณรช่วยตัวเองด้วยอีกแรง ก็จะผ่านไปได้ เมื่อเปลี่ยนชุดวิ่งหนึ การสะดุดสายสิญจน์ ก็คือ พ้นวิถีที่จะช่วยได้แล้ว 4. โทรหาแม่ คือ ความตั้งใจครั้งสุดท้ายที่อยากจะขอโทษแม่ แต่อย่างว่า ตอนนั้นกำลังกลายเป็นเปรต (มันสายเกินไปแล้ว) จึงกลายเป็นเสียงร้อง ที่เจ้าของกระทู้ว่า ที่เณรตัดสินใจวิ่งออกจากถ้ำ เขาได้ตัดสินใจละทิ้งร่างกายของเขาไปแล้ว นั้น เราคิดว่า เขาได้ตัดสินใจละทิ้งหนทางแห่งธรรมไปมากกว่า จึงตายแล้วกลายเป็นเปรต ปล. เพียงแค่แสดงความเห็นนะจ๊ะ ไม่ได้ต้องเถียงเอาชนะกัน จากคุณ : รถฟักทอง เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 00:24:13 A:125.24.67.193 X: TicketID:206241

ความคิดเห็นที่ 114 ชอบดูหนังแล้วคิดมาอ่ะ สนุกดี ยิ่งได้มาอ่านกระทู้ดีๆ แบบนี้ ยิ่งได้อะไรกลับไปสอนใจตัวเองและคนรอบข้างอีกมากทีเดียว ขอบคุณทุกท่านที่มาช่วยกันถกให้เราได้มีอะไรกลับไปคิดต่อค่ะ จากคุณ : dogsma เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 02:05:21