Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บทสัมภาษณ์น้องเชียร์ ฑิฆัมพร..มากมายอ่านแล้วจะยิ่งรัก.........  

http://www.khaosod.co.th/view_news.php? ... B3Tmc9PQ==

เซ็งข่าวเลสเบียน! "เชียร์"ยันไม่ ใช่"ทอม"

ร่ายลีลาบู๊ผสมดราม่า ในละครฮอต "รุกฆาต" ที่ออกอากาศช่อง 7 ทุกวันจันทร์-อังคารอยู่ขณะนี้ สำหรับนางเอกสาววัย 22 ปี "เชียร์"ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์

แม้หน้าตาจะออกหวาน แต่ด้วยบุคลิกห้าวเหมือนผู้ชาย ผู้จัดเลยมักป้อนบทบู๊ให้ และความห้าวนี้ยังทำให้ถูกกล่าวหาว่าเป็นทอมบอย คั่วอยู่กับเพื่อนสาวสุดซี้ "การ์ตูน"อินทิรา เกตุวรสุนทร

โดนข่าวประโคมโหมแล้วโหมเล่า วันนี้ได้โอกาสดีที่น้องหนูพักบู๊ มานั่งทำหน้าหวานพูดคุยเรื่องราว

- อยู่วงการมา 6 ปี คิดว่าข่าวไหนแรงสุดสำหรับตัวเอง?

เชียร์ - "ข่าวกับการ์ตูนค่ะ เหมือนคนจับให้เป็นคู่เลสเบี้ยน บางครั้งข่าวมันเกิดขึ้นได้ แต่บางอย่างมันเกินความจริงมากเกินไป อ่านแล้วก็เสียใจ อย่างข่าวจูบกันในร้านอาหารญี่ปุ่น เรารู้สึกว่าเราไม่ได้ทำอะไร เราอยู่ของเรา ตั้งใจทำงาน ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แต่ทำไมบางครั้งผลที่กลับมามันไม่ใช่เกิดจากการตั้งใจของเรา"

- ค่อนข้างซีเรียสกับข่าวแนวนี้?

เชียร์ - "แรกๆ ขำๆ แต่หลังๆ มันเกินไป เราเป็นเพื่อนกัน และเชียร์โดนข่าวแบบนี้นานมาก เป็นปีแล้วไม่หยุด (หัวเราะ) อาจจะเป็นจังหวะที่เชียร์ก็ไม่มีแฟนสักที และถ้าเชียร์คิดถึงประโยชน์อะไรที่มาก มายกว่านี้ เชียร์คงหาผู้ชายสักคนเปิดตัวเพื่อกลบข่าว แต่เชียร์ไม่อยากทำ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่บริสุทธิ์ใจ เชียร์ไม่อยากมาสร้างแผนกลยุทธ์อะไรที่มาปกป้องและป้องกันตัวเองด้วยความที่เราต้องไปเบียดเบียนคนอื่น"

- หลายคนยังสงสัยว่าเชียร์เป็นทอมหรือเปล่า?

เชียร์ - "ยืนยันแบบเต็มปากค่ะว่าไม่ได้เป็น แต่เชียร์โดนเสนอข่าวทอม-ดี้มาเป็นเวลาหลายปีจนใครๆ คิดว่าเราเป็นทอมแล้ว"

- ข่าวที่ออกมา ครอบครัวว่าอย่างไรบ้าง?

เชียร์ - "เชียร์ก็โดนต่อว่าเหมือนกันว่าทำไมมีข่าวแบบนี้ ป๊าเป็นห่วง กลัวคนจะมองเราอย่างไร ในลักษณะความเป็นคนจีนเรื่องแบบนี้มันรุนแรงค่ะ"

- ที่ผ่านมาคุณแม่เชียร์ไม่ค่อยชอบการ์ตูน มาถึงวันนี้เคลียร์กันหรือยัง?

เชียร์ - "ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ที่ผ่านมามันเหมือนมีอะไรหลายๆ อย่างที่เข้าใจผิดกัน ทุกวันนี้มันคลี่คลายและจบลงด้วยดีแล้ว หม่าม้าก็คุยกับตูนได้อยู่แล้วค่ะ"

- นอกจากมีข่าวกับผู้หญิงแล้วก็ยังมีข่าวกับนักแสดงชายหลายๆ คนอีก?

เชียร์ - "(หัวเราะ) ก็เยอะเหมือนกันค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นคนใกล้ชิดที่เคยร่วมงานกัน อย่าง พี่บิ๊ก-ภุชิสสะ, พี่ซี-ศิวัฒน์, พี่น้ำ-รพีภัทร และล่าสุดกับพี่เต๋อ-ฉันทวิชญ์ เราก็รู้สึกว่าตายแล้ว (หัวเราะ) เราเป็นข่าวกับผู้ชายได้แล้วหรือ รู้สึกเซอร์ไพรส์ แต่ไม่ได้ดีใจเพราะเขาก็มีเจ้าของอยู่แล้ว ข่าวกับพี่เต๋อนี่มาแบบงงๆ เราเล่นละครศึกวันชูใจด้วยกัน มีความสนิทสนมในระดับหนึ่ง แต่ไม่เคยไปไหนด้วยกันเลย ถือว่าเซอร์ไพรส์มากและไม่ควรด้วย แต่ก็ดีที่พี่เต๋อเข้าใจและคนสนิทของพี่เต๋อก็เข้าใจดี เราก็สบายใจค่ะ"

- ในเรื่องความรักเชียร์ไม่ไขว่คว้าเลยหรือ?

เชียร์ - "มันก็มีแบบผ่านมาผ่านไปบ้างค่ะ แต่เหมือนเชียร์คิดเยอะ จะเลือกคบแต่ละคนก็ต้องดูหลายๆ อย่างประกอบ ไม่ใช่แค่ว่าเราชอบ ถูกใจแล้วคบเลย เรียกว่าไม่ปุบปับ ไม่ใช่แบบว่าต้องกิ๊กกันก่อน (หัวเราะ) ไม่กิ๊กค่ะ ถ้าจะคบก็ขอเป็นแฟนเลย แต่ตอนนี้ยังไม่ถูกใจใคร ต้องค่อยๆ เรียนรู้กันไป และเราไม่อยากเป็นกิ๊กใคร ถ้ารู้ว่าคนที่มาจีบไม่ได้คุยกับเราคนเดียว เชียร์ก็ไม่เอาแล้วนะ ถือไม่จริงใจกับเรา ด้วยการเลือกของเชียร์ด้วยล่ะที่เด็ดขาด (หัวเราะ)"

- มีวางสเป๊กหรือเปล่า?

เชียร์ - "เชียร์ชอบผู้ชายสูง ดูสมาร์ตดี ในส่วนหน้าตาเฉยๆ ไม่ต้องหล่อขั้นเทพ (หัวเราะ) มันไม่จำเป็นสำหรับเชียร์ มันอยู่ที่เหตุผลการพูดคุยเป็นหลักค่ะ"

- เป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน พ่อ, พี่ชาย และน้องชายหวงเชียร์มากไหม?

เชียร์ - "ป๊าหวงมาก แต่เฮียไม่ค่อยเท่าไหร่ เฮียเป็นคนที่ไม่แสดงออก แต่สำหรับป๊าจะเป็นคนที่แสดงออก และเป็นคนที่พูดกับเราตลอดเวลาว่าเป็นห่วง โดยเฉพาะเรื่องหนุ่มๆ ป๊าจะเป็นห่วงตั้งแต่เชียร์เด็กๆ แล้วค่ะ ตั้งแต่เรียนประถม แค่เชียร์มีเพื่อนผู้ชายโทร.มาถามคุยเรื่องการบ้าน ป๊าจะถามเลยว่าไม่ใช่แฟนนะ ใครโทร.มา โทร. มาทำไม คุยอะไร จีบเหรอ ยิ่งเราโตยิ่งทำงาน ยิ่งเจอใคร ป๊าจะสอนตลอด ย้ำเรื่องวินัยการทำงาน เขาจะเป็นห่วงทุกเรื่องค่ะ"

- เคยมองถึงเรื่องการแต่งงาน ได้ใส่ชุดเจ้าสาวหรือเปล่า?

เชียร์ - "ไม่ได้มองถึงขนาดนั้นค่ะ ตอนนี้เรามองอะไรที่ค่อนข้างตัดสินใจก่อน มันเป็นความสำคัญที่มาก่อน อย่างเรื่องเรียน เรื่องงาน เป็นอะไรที่ใกล้ตัวมากกว่า และอีกอย่างตอนนี้เชียร์ยังไม่มีแฟน ถ้ามีแฟนก็อาจจะฝันถึงตรงนั้นได้ ตอนนี้เรายังไม่มีใครก็ไม่รู้ว่าจะไปสตาร์ตจุดฝันตรงนั้นที่ตรงไหนค่ะ"

- เรื่องข่าวทอมมีผลหรือเปล่าทำให้ผู้ชายไม่ค่อยกล้าเข้าหา?

เชียร์ - "ไม่นะคะ มันอาจจะมีผลต่อการมอง แต่สำหรับผลในการเลือกที่จะมาคุยหรือพอได้คุยกับเราแล้วคิดอะไรอีกอย่าง ตรงนี้มันเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า มันไม่ได้มีผลขนาดที่ว่ามองแล้วไม่กล้าเข้ามาคุยเลย"

- เชียร์วาดอนาคตไว้อย่างไรบ้าง?

เชียร์ - "ถ้าคิด ณ ตอนนี้ คือเรียนจบปริญญาตรีใน 3 ปีครึ่ง ปริญญาโทเป็นสิ่งที่ตั้งใจตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่าอย่างไรต้องเรียนให้จบปริญญาโท สำหรับงานในวงการบันเทิงก็ทำให้เต็มที่เท่าที่จะได้รับโอกาส เพราะเป็นอาชีพที่เชียร์รักและผูกพัน มีบุญคุณต่อเชียร์ เป็นอาชีพที่เชียร์เคารพมาก แล้วถ้ามีโอกาสเชียร์ก็อยากทำอยู่ค่ะ"

เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ทุกอย่างได้

งานซาดาราใหม่เกิด-เข้าใจวัฏจักร"บันเทิง"

ทํางานในวงการบัน เทิงมาแล้ว 6 ปีเต็ม จากที่เป็นน้องเล็ก มาวันนี้นางเอกสาว "เชียร์-ฑิฆัมพร" กลายเป็นพี่ใหญ่ที่มีนางเอกรุ่นน้องยกมือไหว้กันเป็นแถว

ซึ่งเจ้าตัวยอมรับ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ที่อยู่วงการ มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นประสบ การณ์ อายุ การศึกษา ซึ่งทุกอย่างสอนเธอหมด

"จากเด็กๆ ที่มีนิสัยทโมน มาตอนนี้นิ่งขึ้น รู้สึกตัวเองมีมุมที่เป็นผู้ใหญ่ คิดเยอะขึ้น วางแผนชีวิตมากขึ้น ชีวิตเริ่มเป็นระบบระเบียบ ลำดับขั้นตอนมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากช่วงเรียนรู้ที่อยู่ในวงการ" เชียร์กล่าว

แรกที่เข้าวงการ มีนางเอกรุ่นเดียว กันอยู่ไม่กี่คน แต่มาวันนี้นางเอกรุ่นน้องเกิดใหม่กันให้พรึ่บ ส่งผลให้จำนวนงานลดลง ถามว่าน้อยใจไหม นางเอกสาวกล่าวว่า

"ไม่ได้น้อยใจค่ะ เพราะเราเข้าใจวัฏจักร ตอนที่เราเข้ามา เราก็เหมือนเป็นน้องใหม่ มีโอกาสต่างๆ นานา แต่มา ณ วันนี้ถึงแม้โอกาสที่ได้รับอาจจะน้อยลงไปบ้าง แต่เราก็ยังได้รับโอกาสทำงานตรงนี้อยู่ ประโยชน์ที่ได้มามันหล่อหลอมและสอนให้เราเป็นส่วนหนึ่งของวงการบันเทิง ยังคงเป็นสิ่งที่ดึงความสำคัญให้เชียร์มีความผูกพันกับวงการนี้อยู่ เชียร์มองแล้วเข้าใจ ไม่ได้คิดมากค่ะ"

แต่ถ้ามองบุคลิกที่ค่อนข้างห้าว ตรงนี้เหมือนเป็นข้อจำกัดไหม เชียร์พยักหน้า "มันก็มีส่วนบ้าง แต่ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับบทบาทที่ได้รับด้วยว่าได้รับมาแล้ว เราทำได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งบทห้าวๆ ที่ได้รับ มันจะมีความแตกต่างของแต่ละบทค่ะ"

"ซึ่งจริงๆ เชียร์ก็อยากลองเล่นบทใหม่ๆ เหมือนกัน เหมือนเป็นการพัฒนาการแสดงไปด้วย แต่ ณ ตอนนี้บทบาทอะไรก็แล้วแต่ที่ได้รับ เราก็ทำให้มันเต็มที่กับตรงนั้นไปค่ะ"

ตอนนี้นางเอกสาวยังเหลือสัญญาอยู่กับช่อง 7 อีก 2 ปี ซึ่งการต่อสัญญานั้น เธอว่าเป็นเรื่องในอนาคต

"ถามว่ารักอาชีพนักแสดงมั้ย รักมาก เพราะเป็นอาชีพที่ให้ทุกอย่างกับเชียร์ แต่ ณ ตอนนั้นโอกาสและความเหมาะสมจะไปอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า ไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น"

แย็บถามถึงโอกาสในการข้ามช่อง ที่ตอนนี้มีกระแสนักแสดงข้ามช่องกันเยอะ เจ้าตัวว่า "โอกาสและจังหวะของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน บางครั้งการเปลี่ยนแปลงการทำงานอาจจะไปสู่อะไรที่ดีขึ้น ตรงนี้มันเป็นสิ่งที่เขาเลือก"

"ส่วนตัวเชียร์ ก็ไม่รู้ว่า ณ ตอนนั้นจะไปทำอะไรอยู่ (หัวเราะ) ตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะ"

เพราะอนาคต ไม่มีใครกำหนดได้

เพื่อครอบครัว

เพิ่งเห็นเป็นเฟรชชี่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อยู่แวบๆ แป๊บเดียวหนู "เชียร์-ฑิฆัมพร" ก็ขึ้นปี 4 คณะสังคมสงเคราะห์ ศาสตร์ จวนเจียนจะรับปริญญาอยู่รอมร่อ

ขนาดเจ้าตัวยังบอก "เร็วมากเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะเร็วขนาดนี้ จำได้ว่าเข้ามาเล่นละครเรื่องแรกปี 2546 เชียร์อยู่ ม.4 ตอนนี้ปี 2552 เรียนปีสุดท้ายแล้ว"

อะไรที่เป็นแรงใจให้ทั้งเรียนและทำงานไปด้วย "ครอบครัวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นป๊ะป๊า (กิตติ) หม่าม้า (รัตนวรรณ) เฮียแชมป์ (เชิดเกียรติ) และน้องชู้ต (เชิดชนินทร์) เป็นแรงกายแรงใจที่ดีมากๆ ทุกวันนี้เชียร์ทำทุกอย่างก็เพื่อครอบครัว"

"เชียร์อยากเรียนดีๆ ให้ครอบครัวได้ภูมิใจ และทำงานเพื่อมีรายได้ให้ครอบครัวได้อยู่แบบสบายๆ มันเป็นหยาดเหงื่อแรงกายที่เราตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อคนที่เรารัก ไม่ใช่ทำเพื่อชื่อเสียง เงินทอง เชียร์ไม่เคยหวังตรงนั้นเลย ทุกวันนี้เชียร์เรียนได้ตามที่เชียร์พอใจ และทำงานตามที่ทำได้เพื่อเลี้ยงครอบครัวให้อยู่สบาย แค่นี้เชียร์ก็พอใจแล้วค่ะ"



รายได้ที่ได้จากการทำงานทั้งหมด ดาราสาวยกให้หม่าม้าเป็นผู้ดูแล

"เชียร์เห็นป๊ะป๊าหม่าม้าเหนื่อยมามาก สมัยก่อนด้วยความที่เราเป็นเด็กยังไม่รู้จักคุณค่าของเงิน บางครั้งได้เงินมาง่ายๆ ก็ใช้ไปง่าย แต่ ณ วันนี้เรารู้แล้วว่าการหารายได้เลี้ยงครอบครัวมันเหนื่อยแค่ไหน เพราะฉะนั้นอะไรก็แล้วแต่ที่เชียร์ช่วยได้ เชียร์ก็ช่วยทางบ้านทุกอย่างค่ะ อยากให้ป๊ะป๊ากับหม่าม้าได้พักผ่อนด้วย ซึ่งตอนนี้พี่ชายคนโตก็เรียนจบและทำงานแล้ว เหลือน้องชู้ตที่กำลังเรียนอยู่ค่ะ"

เรียนใกล้จบแล้ว เชียร์ได้วางแผนอนาคตข้างหน้าให้กับตัวเอง โดยมีหลายทางเลือกด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือการทำงาน

"อย่างเรื่องเรียนโทก็กำลังดูอยู่ว่าจะเรียนที่เดิมหรืออาจจะเปลี่ยนที่เรียนหรือจะไปเรียนต่างประเทศ จะเรียนด้านสังคมสงเคราะห์เหมือนเดิมหรืออาจเรียนบริหารธุรกิจซึ่งเอามาประยุกต์ใช้ได้"

แต่ทุกอย่างที่วางไว้ เธอว่า "ยังไม่มีอะไรแน่นอนค่ะ"



ใน"ความทรงจำ"

เข้าวงการมา 6 ปี มีผลงานละครหลากหลายเรื่อง แต่ผลงานที่หนู "เชียร์-ฑิฆัมพร" ยกให้เป็นชิ้นเด่นของตัวเองนั่นคือ "เบญจา คีตา ความรัก" กับละคร "คมแฝก" และ "รุกฆาต"

"เบญจา คีตา ความรัก เป็นละครเรื่องแรกของเชียร์ เป็นจุดแรกที่ทำให้เชียร์ได้ก้าวต่อๆ มาเรื่อยๆ ถึงทุกวันนี้ เป็นเหมือนผลงานที่เราเริ่มคลานมาเรื่อยๆ จนมาถึงทุกวันนี้"

"ส่วนคมแฝกและรุกฆาต เป็นผลงานละครที่เชียร์ไม่เคยรู้สึกเหมือนได้รับผลตอบรับที่ตื่นเต้นขนาดนี้ เหมือนเป็นสัญ ลักษณ์ที่เราไปไหนก็มีคนชื่นชอบและติดตาม ไม้คมแฝกเหมือนเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมา (หัวเราะ)"

"อย่างเบญจาฯ ตอนเราเริ่มคลานมาจนถึง คมแฝก มันเป็นสิ่งที่เชียร์ตั้งใจทำมากที่สุด ที่มันกำลังใกล้ๆ จะประสบความสำเร็จไปพร้อมๆ กับการเรียนของเชียร์"

"ขอเป็นความเหนื่อยที่เราจะเก็บในความทรงจำแล้วกันค่ะ"

http://www.khaosod.co.th/view_news.php? ... B3Tmc9PQ==

น้องเชียร์น่ารักเสมอ  รักน้องเชียร์

 
 

จากคุณ : pumiparpan2523
เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:09:37




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com