Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
"นาธาน" แถแหลต่อยังเล่นหนังฮอลลีวู้ด ไม่เคยโกงอ้างมีเงินใช้ตลอด ยันไม่ลืมกำพืด แต่พ่อแม่เป็นใครไม่จำเป็นต้องโชว์  

“นาธาน” โผล่เคลียร์ แขวะ “เจเจ” อยากเป็นข่าว ทำตีหน้าเศร้าต่อหน้าสื่อ ประกาศตัดเพื่อนพร้อมเปิดศึก แจงเรื่องปลอมตัวแค่ขำๆในกลุ่ม ยังไม่ยอมโชว์หลักฐานได้เล่นหนังฮอลลีวู้ด อ้างผิดสัญญารอให้หนังฉายความจริงจะปรากฏ ลั่นถึงไม่มีงานแต่ไม่เคยอดถึงขนาดต้องไปโกงใคร บอกเพื่อนสมัยเด็กที่ออกมาแฉล้วนเรื่องโกหก ยันไม่เคยลืมกำพืดตัวเอง เหน็บยังจำหน้าพ่อแม่ได้ไม่ต้องไปขุดคุ้ย แต่จะเป็นลูกใครไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่จำเป็นต้องพาพ่อแม่ออกมาโชว์ตัว
     
      หลังออกมาคุยโวว่าโกอินเตอร์ได้เล่นหนังฮอลลีวู้ด รับค่าตัวสูงถึง 100 ล้านบาท กระทั่งมีการสืบเสาะเรื่องราวจากเหล่านักสืบในโลกไซเบอร์ว่า หนังเรื่อง “The Prince of Red Shoe” ที่อดีตนักร้องหนุ่ม “นาธาน โอร์มาน” อ้างว่าได้เล่นประกบดาราดังอย่าง “บรู๊ซ วิลลิส” และ “คริสติน่า ริชชี่” นั้น ไม่มีอยู่ในสารบบรายชื่อหนังของแวดวงฮอลลีวู้ดเลย อีกทั้งยังมีการขุดคุ้ยไปถึงเรื่องครอบครัวและสัญชาติ ที่อดีตนักร้องหนุ่มบอกว่าเป็นลูกครึ่งเนปาล แต่เรื่องมาโอ้ละพ่อ....เมื่อ “ยายออง” ซึ่งเป็นยายแท้ๆของนาธานยืนยันว่า พ่อแม่เขาเป็นคนไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์
       
      นอกจากนี้หุ้นส่วนร้านกาแฟ “จามรี แยค คาเฟ่” ยังรวมตัวกันเข้าแจ้งความที่สน.หัวหมากว่า ถูกนาธานโกงเงินค่าเช่าร้านร่วม 8 หมื่นบาท พร้อมแฉซ้ำว่าโกงอายุ ชอบปลอมตัวเป็นคนอื่น จากนั้นมีผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่เป็นเหยื่อตุ๋นของอดีตนักร้องหนุ่ม ทยอยเข้าแจ้งความเรื่อยๆ จนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียก และพร้อมออกหมายจับทันที หากนาธานไม่ปรากฏตัว
     
      แต่ถึงจะถูกสังคมพิพากษาตั้งฉายาให้สารพัดทั้ง...จอมลวงโลก....ฉ้อโกงเงิน......สร้างภาพ....18 มงกุฎ เช่นไร นาธานก็ยังคงเก็บตัวเงียบไม่โผล่หน้ามาเคลียร์ความจริง หรือเอาหลักฐานมาโชว์ยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่นับจากนี้จะเป็นการเปิดปากบอกเล่าเรื่องราว และความรู้สึกของ “นาธาน” เป็นครั้งแรก หลังเกิดมรสุมข่าวฉาวมากมาย โดยเขาได้ชี้แจงทุกข้อกล่าวหาผ่านนิตยสาร “WHO?” ฉบับล่าสุด ซึ่งทาง “ASTV ผู้จัดการออนไลน์” ได้รวบรวมนำมาให้ได้อ่านกัน
     
      “เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความสนิทสนม และไว้ใจเพื่อนมากกว่า เป็นคนไว้ใจคนง่าย ไม่เคยคิดร้ายกับใคร กับคู่กรณีรู้จักกันมาราว 2-3 ปี เป็นเพื่อนกลางคืนที่สนุกสนานเฮฮาปาร์ตี้ เพราะชอบมีเพื่อน และไม่คิดว่าคนสนิทจะมาทำร้ายเราได้ขนาดนี้ อยู่วงการมาก็นาน แต่ไม่เคยเจอเหตุการณ์ร้ายๆแบบนี้ คนไหนที่รู้สึกว่าไม่โอเคก็เฟดตัวเองออกมา ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงเหมือนอย่างกรณีนี้ คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ ใช้ไม่ได้ผลแล้ว ดูไม่ออกเลยจริงๆ ต้องฉีกหน้าออกมาแล้วเข้าไปดูข้างในลึกๆถึงจะเห็น แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะศาสนาอิสลามสอนให้ไม่เคียดแค้น ไม่อาฆาต ปล่อยวางอย่างเดียว ไม่ได้โทษใคร เป็นกรรมของตัวเองที่ทำไว้มากกว่า”
     
      “ไม่เคยเดินหนีหรือวิ่งหนีนักข่าว วันนั้นเดินตามปกติ เพียงแต่รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เลยไม่ได้สนใจหรือมองสิ่งต่างๆรอบด้าน ไม่รู้ว่ามีช่างภาพหรือนักข่าวตาม ความรู้สึกมันจุกอก ร้องไห้อยู่ข้างใน ฝ่ายนั้นต่างหากที่ส่งซิกกับนักข่าว ถ้าย้อนเทปไปตั้งแต่ที่สถานีตำรวจ เขาเป็นคนแจ้งความ และเรียกนักข่าวให้มา สุดท้ายเรื่องราวก็ใหญ่โต เหมือนเปิดศึกมหากาพย์ชีวิตนาธานเลย”
       
      “สำหรับเรื่องทัวร์ไม่ได้ทำนานแล้ว เป็นการเข้าใจผิดกันมากกว่า พอดีเป็นเพื่อนของเพื่อนกับคู่กรณีคนนี้อีก เลยผสมโรงผนวกเป็นเรื่องเดียวกัน หาว่าโกง...ช่วยกันปรุงช่วยกันแต่งยกใหญ่ เอาคดีนั้นมาพ่วงกับคดีนี้ เกาะทุกอย่างทำให้มีกระแส ขอเอี่ยวที่จะเป็นข่าวด้วยตลอดเวลา แล้วก็ทำหน้าเศร้า ตอนนี้พูดได้เต็มปาก เพราะไม่ต้องรักษาน้ำใจกันแล้ว ไม่มีความรู้สึกเป็นเพื่อนอีกต่อไป ตัดใจพร้อมเปิดศึก อยากจะปล่อยอะไรก็ปล่อยออกมาให้เต็มที่”
     
      ที่ว่านาธานเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม ใช้ชื่อใหม่เพื่อตบตาและหลอกลูกค้าคนอื่นๆ ที่เข้าไปอุดหนุนในร้านกาแฟนั้นเล่าเป็นเช่นไร
       
      “เปลี่ยนชื่อเป็นคนนั้นคนนี้ ปลอมเป็นคนนั้นคนนี้ จริงๆแล้วด้วยความที่เล่นกันในกลุ่ม มีคนแปลกหน้าเข้ามาตีสนิท โดยเฉพาะผู้ชาย ไปช่วยเป็นไม้กันหมาให้ ยังจะมาว่าเราอีก...ฝ่ายนั้นถามมาว่าชื่ออะไร ทำไมหน้าคุ้นๆ ใช่นาธานหรือเปล่า เราก็ไม่ใช่ เป็นลูกครึ่งชื่อ อรัญ ชื่อนู้นชื่อนี้ก็ว่าไป คนปกติเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก เอาเรื่องเล่นๆขำๆที่อำกันในกลุ่มมาพูดว่าเป็นเรื่องจริง แบบนี้ก็แย่สิ...ในฐานะพีอาร์ที่ช่วยโปรโมตประชาสัมพันธ์ร้าน พานักข่าวมาทำคอลัมน์ ยังมีเลือกหนังสือ ต่อหน้าทำเป็นยิ้ม แต่ลับหลังเมาท์กระจายล่ะ ร้านรวงก็ช่วยออกแบบ ตกแต่งให้ แล้วก็เป็นคนบอกให้เอาของมาขายในร้านได้เอง ยังจะมาว่าเราอีก พอมีปัญหาก็ขนของออก”
     
      “เพื่อนฝูงแต่ละคนที่คบ ธานไม่เคยถามชื่อ พ่อแม่พี่น้อง ปู่ย่าตายาย บ้านช่องห้องหับอยู่ซอกไหนซอยไหน ใช้ตังค์ยังไง พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทำให้มองย้อนกลับไปเหมือนกัน ไม่น่าโง่เลยเรา กลายเป็นว่าทุกอย่างที่ถามคือข้อมูลเพื่อนำมาแฉ นำมาฆ่าตัวเองตอนหลัง”
       
      “ขอบคุณสำหรับฉายาต่างๆที่ตั้งให้ ใครสนุกก็ทำกันไป ถือเป็นช่วงชีวิตที่หลอนสุดๆ เสียใจสุดๆทำอะไรไม่ถูก มืดแปดด้าน ขอตั้งสติ ตั้งหลักเพื่อทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นหน่อย ไม่รู้อะไรเป็นอะไร รุมเข้ามาแบบไม่ยั้ง เหมือนใครเอาอะไรมาแทงที่หัวใจ แล้วตายทันที เหมือนโดนผลักให้ตกหน้าผาตายโดยไม่ทันตั้งตัว แต่เอ๊ะ...ตายไปก็คงไม่พ้น เพราะยังไงก็โดนขุดขึ้นมาพูด ขุดขึ้นมาเขียน มาว่าอีกอยู่ดี คิดว่าตายไปก็คงไม่คุ้ม จะฆ่าตัวตายก็บาปอีก เพราะฉะนั้นก็อย่าตายเลย หนีไปพักผ่อน หนีไปเที่ยวต่างจังหวัดดีกว่า เผื่อจะเจอทางสว่างบ้าง”
     
      ส่วนกรณีที่เป็นข่าวว่าโกหกเรื่องไปเล่นหนังฮอลลีวู้ดเรื่อง “The Prince of Red Shoe” เขาโชว์หนังสือสัญญาที่บอกว่ามีข้อตกลง และลายเซ็นตามที่เป็นข่าวจริง โดยระบุว่าได้รับค่าเหนื่อย 2.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะมีการแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ หากถ่ายทำเสร็จไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่ไม่สามารถนำเสนอรายละเอียดต่างๆได้ เขาว่าผิดสัญญา เผยแพร่และนำเสนอเรื่องราว ภาพ รวมทั้งบรรยากาศต่างๆในกองถ่าย ต้องชดใช้ค่าเสียหายที่ตกลงไว้
     
      “จริงๆต้นตอของเรื่องราวทั้งหมด หนังฮอลลีวู้ดที่รับเล่นก็เป็นส่วนหนึ่ง กลายเป็นว่าเป็นเรื่องที่กุขึ้นมา ใครจะเลือกคนไทยไปเล่นหนังฮอลลีวู้ด ขณะที่เราเองรู้อยู่แก่ใจ ทุกอย่างมีขั้นตอน มีระยะเวลาของมัน ไม่ใช่ไปแคสครั้งเดียวผ่าน แต่เมื่อพูดอะไรก็ไม่ได้ เลยรู้สึกอึดอัด พอไม่มีการอธิบายก็ขุดคุ้ยเรื่องราวครอบครัวขึ้นมาแทน พอไม่มีงานแสดง ไม่ออกงาน ไม่โชว์ตัว กลายเป็นว่าเงินไม่มี ต้องไปโกง ไปทำอะไรไม่ดีอย่างนั้นเหรอ ธานไม่มีงานแสดง แต่ก็มีงานทำ หาเงินได้ตลอดเหมือนกัน ไม่เคยอดตาย เพราะเป็นคนไม่งอมืองอเท้า เอาอะไรมาวัดความเป็นอยู่ของธาน เอาบรรทัดฐานอะไรมาประเมินหรือวัดเรื่องรายได้ไม่ทราบ....ไปทำงานกับฝรั่งทำให้รู้อะไรมาเยอะ อย่างน้อยๆก็รู้เรื่องการเคารพสิทธิมนุษยชน ห้ามก้าวล้ำหรือให้ร้ายคนอื่นก่อนที่จะพิสูจน์ความจริง เมืองไทยเรื่องสิทธิมนุษยชนยังเข้าไม่ถึงหรือยังไง หรือว่าเข้าถึงแค่บางกลุ่มเท่านั้น”
     
      “ทุกคนได้แต่คาดเดา ไม่เคยถามหรือมองความเป็นจริง เกิดเป็นเสื้อผ้า เกิดเป็นเส้นผมของธานเหรอ ถึงรู้ว่าทำอะไรอยู่ ทุกอย่างที่ทำไม่เคยสร้างภาพ ไม่จำเป็นต้องโปรโมตตัวเอง เพราะทุกวันนี้อยู่อย่างพอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่ใช้ของแบรนด์เนม เพราะธานเป็นมุสลิมที่อยู่อย่างประหยัด มัธยัสถ์ที่สุด ไม่เคยลำพองตัวว่าเก็บเงินได้เยอะ ต้องซื้อรถเบนซ์ รถวอลโว่ หรือใช้ของแพงๆ พ่อแม่ธานก็ไม่ได้จัดอยู่ในประเภทที่มีลูกเป็นศิลปิน-ดาราแล้วต้องออกมาโชว์ ออกมาพรีเซนต์ว่านี่ลูกฉัน เพราะพ่อแม่ธานไม่ได้อยู่ในประเภทนั้น คนเราเกิดมาตัวเปล่า กลับไปก็ตัวเปล่า สุดท้ายก็ตายเหมือนกัน”
     
      “อยากจะบอกว่าคนที่มาแอบอ้างว่าเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กๆ มีรูป มีหลักฐานมายืนยันเยอะแยะ ใช่ของจริงหรือเปล่า หาว่าธานไม่ใช่ลูกครึ่งเนปาล ตามหาพ่อแม่ให้เสร็จสรรพ...อันนี้ก็ขอขอบคุณที่เป็นห่วง ความจำธานยังดีอยู่ ยังจำหน้าพ่อแม่แท้ๆของตัวเองได้ จำสัญชาติของตัวเองได้ หากจำไม่ได้ พ่อแม่คงออกมาด่า ออกมาประณามว่าไปแล้ว ใครจะไปนั่งโกหกกำพืดตัวเอง ทั้งนี้และทั้งนั้นธานจะเป็นลูกใครก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน หรือจะบอกว่าธานเป็นดารา เป็นคนของประชาชน อยู่ในที่สว่าง ต้องชี้แจงได้หมด ซึ่งอันนี้ก็เข้าใจ แต่บางเรื่องยังมีข้อยกเว้น ขอความเป็นส่วนตัวบ้างไม่ได้เชียวเหรอ ทำไมต้องจ้องทำร้ายกันขนาดนั้น ไม่เข้าใจเลยจริงๆ”
     
      “ธานพูดเสมอ ข้าวเม็ดเดียวก็ต้องทดแทนคุณ ถ้าโกงจริงคงรวยกว่านี้แล้ว การเป็นหนี้ใช่ว่าจะถูก และการไม่เป็นหนี้ใช่ว่าจะบริสุทธิ์ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายคน เริ่มแรกก็ต้องผ่านเรื่องราวต่างๆทั้งดีและไม่ดีทั้งนั้น สำหรับธานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดเพราะความผิดพลาดในการสื่อสารที่ไม่ตรงกันบ้าง เลยบานปลายไปกันใหญ่ กลายเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตที่ควรค่ากับการจดจำมากๆ”
     
      “การกระทำจะพิสูจน์สิ่งต่างๆที่พูด หนังฉายเมื่อไหร่ ความเป็นจริงถูกเปิดเผย ทุกคนก็จะรู้ความจริง แล้วยังไง สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ข่าวต่างๆพลิกไปในทางที่ดี ใครจะรับผิดชอบ ซึ่งธานรู้ไดอะล็อกดี ทุกคนก็จะพูดว่า อ้าว...เหรอ พี่ก็ว่าแล้ว ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ตอนที่เรากำลังแย่ จิตใจห่อเหี่ยว มีใครมาปลอบหรือให้กำลังใจเราบ้าง อยากจะถามแค่นี้เอง ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริง อย่ามาวัดหรือตัดสินคนจากสิ่งรอบข้างดีกว่า เพราะคำพูดทุกคำล้วนฆ่าคนได้ทั้งนั้น”


http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000108433

ภาพจาก WHO?

 
 

จากคุณ : คนวงใน+นอก
เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 13:49:31




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com