Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
<<<<<<< ดูแล้วมาคุยกัน ... 5 แพร่ง , 3 แพร่งที่ชอบ กับ 2 แพร่งที่เฉย >>>>>>>  

  ชอบมาก ห้ามพลาด (166 คน)
  ชอบ (229 คน)
  เฉยๆ (73 คน)
  ไม่ชอบ (9 คน)
  ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (9 คน)

 34.16%
  ชอบมาก ห้ามพลาด (166 คน)
 47.12%
  ชอบ (229 คน)
 15.02%
  เฉยๆ (73 คน)
 1.85%
  ไม่ชอบ (9 คน)
 1.85%
  ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (9 คน)

จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 486 คน


เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ + ชวนมาแสดงความเห็นกันต่อที่ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=16-09-2009&group=14&gblog=178



... ความจริงผมเขียนถึง 5 แพร่ง ตั้งแต่หนังฉายใหม่ๆ แต่เพราะเจองานเข้า หรือจะเรียกให้ถูกคือ งานคั่งค้าง มาจี้ไล่หลัง บวก ใช้เวลาไปกับการติดใจ Twitter ที่ไม่ต้องใช้เวลามาก แต่สามารถสื่อสารถึงหนังที่ได้ดู เลย ทำให้ต้องหยุดค้างเติ่งจนนึกว่า blog 5 แพร่ง จะแท้งไปแล้ว

แต่ตอนนี้เริ่มสะสางงานเสร็จและอยากคุยถึงหนังเรื่องนี้ เลยมาสานต่อจนจบ

มันคงจะเป็นเรื่องยาก ถ้าจะให้เขียน 5 แพร่ง แบบไม่พูดถึงตอนจบ

ดังนั้น ผมจึงขอสรุปสั้นๆตั้งแต่ต้น โดยไม่เปิดเผยใจความหลักของหนังว่า

ถ้าคุณชอบหนังผีแบบ 4 แพร่ง หรือ หนังผีตะลุ้งตุ้งแช่ ... ควรไปดู 5 แพร่ง  แถมยังควรดูในโรงเสียด้วยซ้ำ เพราะ บรรยากาศประเภท วี๊ดว๊ายเว้ยเฮ้ย ร่วมกันในโรงหนัง มันช่วยเสริมอารมณ์ร่วมกว่านั่งดูคนเดียวที่บ้าน


เนื้อหาถัดจากนี้ exclaimสปอยล์ : บอกเล่าตอนจบและจุดสำคัญในหนัง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
... จากที่ผิดหวังหนักๆมากับหนังไทยหลายเรื่องของปีนี้ ทำให้ผมลดความคาดหวังกับ 5 แพร่ง ไปเยอะ จึงทำให้ตอนดูแล้วรู้สึกว่าน่าพึงพอใจ คือ ไม่มีแพร่งไหนที่ถึงขนาดชอบสุดๆๆ แต่ ภาพรวมของหนัง ก็ไม่มีแพร่งไหนที่เรียกว่าห่วยหรือน่าผิดหวัง มีแค่ ชอบ กับ เฉยๆ

สิ่งหนึ่งที่พัฒนาขึ้นจาก 4 แพร่ง  นอกจากจำนวนแพร่ง ยังเป็นในแง่ความเนี้ยบลงตัวที่ 5 แพร่ง มีมากกว่า , มีจุดเชื่อมโยงที่เนียนกว่า และ

การกำหนดธีมร่วมกัน อันว่าด้วย กรรมสนอง ตัวละครนำส่วนใหญ่ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการ ทำกรรมชั่ว และ รอรับผลที่จะตามมาในตอนจบ

ปาหิน / ขโมยของ+ปาหิน / ค้ายาค้ามนุษย์ / โกหกหลอกลวง --> รับกรรมที่ตัวเองกระทำ



smile 3 แพร่งที่ชอบ


ผีคอยาว 1.หลาวชะโอน



... ชอบ ตรงที่หนังเปรียบ ความพยายามที่จะทำกรรมดี มาแก้ต่างหรือชดเชยบาปที่ทำไว้ ผ่าน การบวชของตัวเอกที่หวังจะเป็นการล้างบาปที่เคยทำในอดีต

ถึงจะมีข้อถกเถียงในหลักคำสอนเรื่อง บุญจะล้างบาป ได้หรือไม่ ? แต่สิ่งหนึ่งที่แท้ ที่เห็นชัดจากเรื่องนี้คือ จะอย่างไร เราก็ไม่สามารถหนีผลของสิ่งที่เรากระทำ

เช่น ถ้าโกงเงินบริษัท ต่อให้เอาเงินไปทำบุญ ก็ไม่ได้แปลว่า ทำบุญแล้วจะรอดพ้นโทษฐานขโมย เช่นเดียวกับ การสร้างกรรมดีก็คงเป็นเหมือนการสะสมสิ่งดีๆ แต่ กรรมชั่วที่ทำไว้ก็ต้องรับผลตามมา

ถึงตัวเอกในหนัง จะหนีตำรวจมาบวช แต่ สิ่งที่หนีไม่พ้น คือ ความรู้สึกผิด ที่มันบาดลึกรุนแรงจนยากที่ใครจะช่วยเหลือ เมื่อ ความผิดที่ตัวเองทำคือการฆ่าพ่อตัวเอง(โดยไม่ตั้งใจ)


... ชอบ ตรงที่ คาแรคเตอร์ของตัวเอกไม่ได้แบนราบ แบบ พระเอกกลับใจ แต่ ยังคงเหลือเนื้อแท้ของคนที่หยาบกระด้าง ที่ยังกลัวแต่ก็ยังไม่ได้กลับตัวแบบร้อยเปอร์เซ็นต์

... ชอบ การกำกับของปวีณ จากที่เคยรู้สึกว่า ยันต์สังตาย  เป็นการโชว์ล้น (เหมือนหนังอย่าง ความสุขของกะทิ  ที่รู้ว่าผู้กำกับมีฝีมือแต่เน้นโชว์จนเกินพอดี) จังหวะหนังของ ยันต์สั่งตาย  เร่งและดันไปข้างหน้าแบบบ้าพลังมากไป บวกกับ มี CG ที่ดูโดดเกินหน้าเกินตาหนัง คล้ายๆกับ บอดี้ศพ19  (สังเกตว่าหนังของปวีณมักจะมีบทหนังดีๆร่วมด้วยเสมอ)

หลาวชะโอน  เป็นเหมือนงานที่โชว์ฝีมือการกำกับที่บ่มเพาะพัฒนามาจากสองเรื่องก่อนชัดเจน

ผกก.สามารถคุมให้หนังลงตัวกลมกล่อมได้มากที่สุด ปล่อยในจังหวะที่ควรปล่อย เก็บในส่วนที่ควรเก็บ ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตา ผ่างๆๆ ใส่คนดู

บทหนังตอนนี้ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ต่างจากสองเรื่องก่อน แต่ ผกก.ใช้เทคนิกภาพยนตร์หลากหลาย ทั้ง มุมกล้องเอย การเล่นกับเสียงเอย ฯลฯ ผสมผสานกับ ความเชื่อและอารมณ์แบบไทยๆได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ คุมคนดูได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม จึงดูเป็นตอนที่ใช้เวลาได้อย่างแม่นยำ มีความเป็นหนังสั้นที่ดีที่สุด เมื่อเทียบกับตอนอื่น


และอีกจุดที่ทำได้ดีคือ ปกติ เปรต ทำให้น่ากลัวยาก เพราะส่วนใหญ่จะทำออกมาดูตลก แต่เรื่องนี้ เปรตแอคติ้งผ่าน ฮ่าฮ่าฮ่า


... ข้อคิดสอนใจจากหนังเรื่องนี้และการนำเสนอที่แรงกระแทกความรู้สึก จนคิดว่า น่าจะใช้เป็นหนังเตือนใจฉายให้เยาวชนแก๊งซิ่ง ได้เห็นว่า กรรมชั่วที่ทำไป บางที ไม่ต้องรอชาติหน้า มันตามมาชาตินี้นี้แหละ





เจสัน2.Backpacker

...แปลกใจที่หลายคนไม่ชอบ เพราะนึกว่าคนส่วนใหญ่จะสนุกกับซอมบี้ฝีมือไทยๆ ส่วนตัวแล้วชอบ แพร่งนี้ ตรงความตื่นเต้น แปลกใหม่(สำหรับหนังไทย) และ เล่นรายละเอียดหลายอย่าง เช่น ตัวละครญี่ปุ่น , การค้ายาค้ามนุษย์ , ซอมบี้ ฯลฯ ซึ่งมันเสี่ยงต่อการทำให้หนังออกมา แปร่งๆ ที่ยำหลายอย่างด้วยกัน แต่กลับคลุกเคล้าได้เข้ากันกำลังดี

ตอนดูนั่งนึกเลยว่า แพร่งนี้ดูจะเหมาะกับปวีณ ผกก.จากแพร่งแรก ถ้าเขามากำกับ คงจะเมามันส์เป็นอย่างมาก แต่มาเป็นของ ผกก.ทรงยศจาก เด็กหอ ก็สนุกไปอีกแบบ

ดูจบแล้วคิดว่า คนไทยทำหนังซอมบี้ได้ไม่เลวเลย คือ ได้กลิ่นอายกำลังพอดีๆ ไม่ใช่ซอมบี้ฝรั่งจ๋าแต่พูดภาษาไทย เป็นตอนที่ผมคิดว่า น่าจะขยายต่อเป็นหนังยาวมากที่สุด เพราะ หนังมีประเด็นให้เล่นอีกเยอะ

... ตอนจบของหนัง ตอนแรกนึกอยากให้จบแบบรถไฟเคลื่อนผ่าน แล้วจบเลย ไม่ต้องมีเสียงปืน ไม่ต้องบอกว่า สิ้นสุดยังไง ให้จินตนาการคนดูเล่นสนุกเอง

แต่ฉากจบกระโดดเข้างับกลางชุมชนแบบนั้น ก็สะใจได้ใจไปอีกแบบ แถมยังชวนให้เชื่อมโยงกับ แพร่งแรกด้วย

(เป็นฉากที่หมิ่นเหม่สำหรับหลายๆคนแน่ ที่เห็น

ซอมบี้/เด็ก -- กระโดดงับ/ทำร้าย -- พระ/ผู้ใหญ่ )


... เรียกได้ว่า แพร่งนี้ สนุกสร้างสรรค์สไตล์หนังซอมบี้ ประเภท คนใกล้ตัวไว้ใจไม่ได้ และ สุดท้ายมันก็กัดหมดโลกsmile




ผีผ้าห่ม3.คนกอง


... เหมือนไร้สาระเอาฮา แต่ว่าจะว่าจริงๆแล้วนี่คือตอนที่ บทหนังทั้งฉลาดทั้งคม รู้จังหวะที่จะปล่อยจะยิงจะเข้าทำประตูได้เหมือนนักฟุตบอลเวิล์ดคลาส คือ ไม่ได้ดีแต่ป้อ เพราะพอจะยิงก็ตรงเป้า

ชอบยิ่งขึ้นก็ตรงการเล่นกับ ความจริง VS. ความลวง ประมาณว่า ‘สิ่งที่คุณเห็นไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดเสมอ’ โดยมนุษย์ถูกหลอกได้ง่ายๆจาก ความคุ้นเคย และ ภาพเปลือกนอก ซึ่งหนังก็เปรียบเปรยตัวอย่างจาก ผี และ นักแสดง

ผี - (คนดูและคนในกอง เชื่อว่าตัวละครหญิงสาวเป็น ผี เพราะ ภาพลักษณ์และคำบอกต่อที่ได้ยินมา แต่ปรากฎว่า เราต่างก็ถูก ความคุ้นเคยและภาพเปลือกนอก หลอกให้เชื่อโดยอัตโนมัติ)

นักแสดง ( ตอนสัมภาษณ์ใช้คำพูดสวยหรูดูดีสร้างภาพลักษณ์ แต่ตัวตนแท้จริง กลับคิดตรงกันข้าม)


... จาก ผี (ผีจริง , ผีปลอม) , ตัวตนของมาช่า (เฟคแอ๊บแบ๊ว/จริงกวนๆเซ็งๆ) จนถึงตอนจบ หนังก็ยังเล่น ‘สิ่งที่คุณเห็นไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดเสมอ’ ซ้ำอีกที ตรงที่

หนังผี – เรามีความเชื่อจากความเคยชินว่า หนังผีต้องมีผีอยู่ในหนัง หรือ ตัวละครสำคัญๆที่เป็นตัวเอกซักคนเป็นผี แต่ หนังเรื่องนี้ก็มาหักมุมตรงที่ หนังเรื่องนี้ไม่มีผีเลย



... ผมคิดว่าการเลือก มาช่า มาพลิกบทแบบนี้ ถือว่า ฉลาดเลือก และ มาช่าเองก็ฉลาดเล่น เพราะ ภาพลักษณ์ที่คนดูรู้จักมาช่า จะไม่ใช่มาในสไตล์พูดเฮฮาปาร์ตี้เหมือนเพื่อนร่วมรุ่น นั่นทำให้การเล่นแบบ คนทั่วไป ของมาช่า ไม่ใช่เล่นแบบดารา สามารถสร้างเซอร์ไพรส์เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอด

ที่สนุกอีกอย่าง คือ การจิกกัดเหน็บทั้งคนดูกับคนทำหนังแบบพอแสบๆคันๆเกี่ยวกับขนบหนังผี ได้อย่างเข้าที

ข้อด้อยเพียงอย่างเดียวของ คนกอง ที่ต่างจาก คนกลาง  คือ งวด 4 แพร่ง แต่ละเรื่องดูตัวใครตัวมัน ดังนั้น คนกลาง  จะแหวกก็ไม่รู้สึกแปลกอะไร

แต่ 5 แพร่ง หลายเรื่องเหมือนจับอารมณ์เดียวกัน ธีมเดียวกัน คนกอง  เลยเหมือนส่วนแปลกแยกมากเกินไป และ ความสดใหม่ก็ลดน้อยลงไปบ้าง เพราะเห็นไปแล้วใน 4 แพร่ง

... กระนั้นก็ดี นี่ก็เป็นตอนที่สนุกมากกกก และ ฉลาดมากกก ทำให้ไดอะล็อคที่ดีที่สุดก็มาจากแพร่งนี้ ที่ทั้งภาพและเสียงยังติดตา จากจังหวะการพูดที่ลงตัว กับคำว่า
.
.
.
.
.
.
.
.
.

‘กรูเมื่อย’ ฮ่าฮ่าฮ่า




(มีต่อ)

แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 16:10:29

แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 16:04:41

แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 16:02:22

แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 15:20:56

แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 15:19:09

แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 15:17:26

แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 14:47:28

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 14:30:50




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com