|
SPOILER!!! จ้าวหมาป่าผู้เดียวดาย ใน Bleach 374 - Kairou, Sekketsu, Kokui, Hakkotsu -
|
|
หลายคนคงเห็น Spoil ที่ข้างล่างเอามาโพสเรียบร้อยไปแล้วแฮะ เพราะงั้นคงไม่เกริ่นนำอะไรมากแล้ว นอกจาก "เชิญอ่าน Spoil กันได้เลยครับ"
อนึ่ง ชื่อตอนนี้แปลตามตัวได้ว่า "หมาป่าเทา เลือดแดงฉาน อาภรณ์ดำ กระดูกขาว" ครับ
เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่สตาร์คโดนใครบางคนจู่โจมเข้าใส่จากทางด้านหลัง เอสปาด้าอันดับ 1 เบิกตาค้างอย่างประหลาดใจ ก้มลงมองปลายดาบแหลมที่ทะลุออกทางอกของตัวเอง อวดแววไม่เข้าใจเต็มตาว่าตัวเองโดนจู่โจมเข้าได้ยังไง
เสียงซวบดังครั้งหนึ่งเมื่อคมดาบถูกกระชากออกจากแผ่นหลังโดยกะทันหัน สตาร์คเซหงายหลังก้าวหนึ่งก่อนจะยันตัวไว้ได้ แล้วเอี้ยวคอหันกลับไปมองผู้ประทุษร้ายตนเอง หมายจะรู้ให้ได้ว่าใครกันที่ร้ายกาจถึงกับลอบเข้าจู่โจมเขาจากด้านหลังอย่างรวดเร็วและเงียบกริบเช่นนี้ได้
เอสปาด้าจอมเฉื่อยต้องประหลาดใจอีกเป็นคำรบสอง เมื่อพบว่าดาบเล่มที่จู่โจมเข้าใส่เขานั้นยืดยาวออกมาจากเงาของตัวเขาเอง เงาสีเข้มสนิททอดยาวไปกับพื้นราวกับปูลาดด้วยแผ่นผ้าตัดเป็นรูปคน ปลายดาบยืดยาวออกมาจากตรงกลางส่วนที่เป็นลำตัวของเงานั้นเอง
ทันใดนั้น เงาตรงส่วนที่ปลายดาบยืดออกมาก็เริ่มบิดเบี้ยวราวกับลูกคลื่นบนผิวน้ำสีหมึก ก่อนที่จะยกตัวขึ้นมาเป็นรูปร่างของมนุษย์ มนุษย์ที่ถูกปกคลุมด้วยเงาสีดำสนิทราวกับถูกรดด้วยน้ำหมึกทั้งร่าง
และเมื่อเงาที่ปกคลุมร่างมนุษย์นั้นหายไปให้เห็นตัวจริงได้ถนัด ทุกผู้ในที่นั้นก็ต้องเบิกตากว้าง
เพราะนั่นคือ "เคียวราคุ ชุนซุย" นายเหนือแห่งหน่วย 8 แห่ง 13 หน่วยพิทักษ์นั่นเอง
"...อะไรกัน ท่าไม้ตายนั่น..." สตาร์คเอ่ยปากถาม ขณะพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ "ความสามารถซ่อนตัวในเงาเรอะ...ยังมีไม้เด็ดแบบนี้ซ่อนไว้อีกนะ"
"คาเงะโอนิ (ปีศาจเงา)" ชุนซุยบอกชื่อไม้ตายตัวเอง "ไม่ได้จะซ่อนอะไรหรอก ก็แค่เด็กคนนี้เค้าไม่ค่อยมีอารมณ์แบบนั้นเท่าไหร่ เพราะงั้นข้าเลยชักเหนื่อยที่จะเล่นกับเด็กคนนี้แล้วน่ะ"
ว่าถึงตรงนี้ ชุนซุยก็ยก "เด็กคนนั้น" ที่พูดถึงขึ้นสูงในระดับใบหน้า ให้ใบดาบมันวาวสะท้อนหน้าตัวเองจนเห็นเหมือนมีชุนซุยอยู่สองคน
"ความสามารถของกะเท็นเคียวคตสึ (บุปผาสวรรค์กระดูกคลุ้มคลั่ง) ก็คือการทำให้เกมการละเล่นของเด็กเป็นความจริงขึ้นมา" นายเหนือแห่งหน่วย 8 อธิบายความสามารถดาบฟันวิญญาณตัวเอง "กะเท็นเคียวคตสึเป็นผู้กำหนดกฎการเล่น ใครก็ตามที่ก้าวเข้ามาในรัศมีพลังกดดันวิญญาณของกะเท็นเคียวคตสึจะถูกบังคับให้อยู่ภายใต้กฎการเล่นนั้นทั้งหมด แน่นอนรวมทั้งตัวข้าด้วย"
"กฎของทาคาโอนิ (ปีศาจสูง) คือใครขึ้นไปได้สูงกว่าก็ชนะ กฎของคาเงะโอนิคือใครโดนเหยียบเงาก่อนแพ้ ถ้าชนะก็รอด ถ้าแพ้ก็ตาย เอาแต่ใจตัวเองน่าดูเชียวละ" อธิบายพลางทำสายตาไม่น่าไว้ใจ "ถึงจะน่ารักก็เถอะ แต่โชว์ออฟมากเกินไปก็มีสิทธิ์เจ็บหนักได้เหมือนกัน"
พูดถึงตรงนี้ ชุนซุยก็เปลี่ยนท่าจับดาบเป็นให้ปลายดาบชี้ลง แล้วแทงสวบใส่เงาของสตาร์ค ปลายดาบยาวเฟื้อยสีดำสนิทแทงพรวดขึ้นมาจากใต้ตัวสตาร์คทันที แต่สตาร์ครู้ทัน รีบโผนร่างกระโจนขึ้นสูงหลบปลายดาบไปได้หวุดหวิด แล้วกระโจนต่อขึ้นไปเป็นทอดๆ จนสูงพอที่จะไม่เหลือเงาทิ้งไว้บนพื้นข้างล่าง ชุนซุยเห็นดังนั้นก็ออกปากชื่นชมไหวพริบของสตาร์คที่เข้าใจความสามารถของกะเท็นเคียวคตสึได้รวดเร็วจนถึงกับหาวิธีป้องกันไม่ให้ถูกเหยียบเงาได้ในเวลาสั้นๆ แล้วทะยานตามไปจู่โจมซ้ำทันที สตาร์คเกร็งมือขวายกขึ้น แสงสุกขาวสว่างวาบจากแผงกระสุนบนไหล่เข้ามารวมกันที่มือ แล้วแปรรูปเป็นดาบแสงเล่มยาวสะบัดออกรับการฟาดฟันของชุนซุยในระยะประชิด
พริบตาที่ดาบของทั้งคู่ปะทะกันนั้นเอง
"อิโระโอนิ --- 'สีเทา' "
สตาร์คชะงักวูบเมื่อเห็นอีกฝ่ายเรียกชื่อ "การละเล่นอย่างใหม่" ออกมาจนเผลอเปิดช่องว่าง ชุนซุยฉวยโอกาสนั้นตวัดดาบฟาดเข้าใส่แขนขวาของอีกฝ่ายเต็มเหนี่ยว คมดาบแหวกอากาศเสียงหวีดหวิวน่ากลัว บอกถึงความรุนแรงของการโจมตีนั้นได้เป็นอย่างดี แรงถึงขนาดแขนขวาของสตาร์คถึงกับสะบัดตามแรงฟาดเลยทีเดียว
ทว่าที่สตาร์คได้รับกลับเป็นเพียงรอยแผลตื้นๆ บนท่อนแขนเท่านั้น
เอสปาด้าลำดับสูงสุดงงงันวูบ เขาแน่ใจว่ากำลังที่อีกฝ่ายใส่มาขณะฟันแขนเขาเมื่อกี้นั้นแรงพอจะทะลุ "ฮิเอโร่" (ผิวเหล็กไหล) ที่คุ้มกันร่างของเขา ตัดผ่านกล้ามเนื้อแขนขวาเป็นแผลลึก แต่นี่กลับได้แผลแค่รอยมีดบาดเท่านั้น
"อิโระโอนิ" เป็นการละเล่นแบบไหนกันแน่?
อิโระโอนิ...
อิโระ... (สี)
สีเทา...?
ตอนนั้นเองที่สตาร์คฉุกใจคิดขึ้นมาได้ เขามองแขนทั้งสองข้างของตัวเอง แล้วหันไปกวาดตาสำรวจชุนซุยตั้งแต่หัวจรดเท้า
...แขนของเราเป็นขนสัตว์สีเทา...
...ส่วนเจ้านั่น... เสื้อผ้าหน้าผม กระทั่งอาวุธที่ถืออยู่...ไม่มีส่วนไหนที่เป็นสีเทาเลยแม้แต่นิดเดียว...
...หรือว่า...
"เป็นอะไรไป?" เสียงเรียบเฉยแต่แฝงแววยั่วเย้าของชุนซุยดังขึ้น เรียกให้สตาร์ครู้สึกตัวจากภวังค์ความคิดทันที "ตาเจ้าแล้วนะ ลองบอกสีที่อยากฟันมาสิ สีอื่นนอกเหนือจากที่บอกมา ถึงฟันไปก็ไม่ขาดหรอกนะ"
เอสปาด้าอันดับ 1 เข้าใจแจ่มแจ้งถึง "กฎ" ของการละเล่นครั้งนี้ทันที เขาหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างแน่วแน่ แล้วออกปากสั้นๆ เพียงสองคำ
"สีขาว"
ชุนซุยถึงกับหน้าเปลี่ยนสีทันทีที่ได้ยินดังนั้น ความตกตะลึงทำให้ยมทูตหนุ่มเผลอตัว ปล่อยให้สตาร์คใช้โซนีดวกเข้าฟันทางด้านหลังได้ หากไม่ใช่เพราะชุนซุยมีปฏิกิริยาว่องไวบิดตัวเอี้ยวกลับไปป้องกันได้ทันท่วงที ดาบนี้ของสตาร์คคงฟันร่างของชุนซุยขาดสองท่อนไปแล้ว แต่ถึงแม้จะรับไว้ได้ ความเร็วและความแรงของการฟันก็ยังแหวกการ์ดของชุนซุยเข้าไปได้นิดหน่อยพอบาดเนื้อเป็นแผลยาวๆ ตื้นๆ แผลหนึ่ง
แต่ที่ปรากฏแก่สายตาของสตาร์คนั้น คือภาพเลือดแดงฉานพุ่งกระฉูดจากแผ่นหลังเป็นฝอยๆ แผลที่คาดว่าเป็นเพียงแผลตื้นๆ แค่พอเลือดซิบ กลับกลายเป็นแผลขนาดใหญ่บาดลึกเข้าไปเกือบถึงกระดูก
หัวหน้าหน่วยเจ้าสำราญนิ่วหน้าเล็กน้อยพลางเดาะลิ้นขัดใจ ทั้งด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผลและด้วยความเจ็บใจที่ถูกอีกฝ่ายเอากฎการละเล่นมาย้อนศรเล่นงานตัวเองซะแสบแบบนี้
"...จริงๆ เลยน้า" เขายอมหลุดปากอธิบายกฎการละเล่นของอิโระโอนิในที่สุด "เข้าใจถูกแล้ว กฎของอิโระโอนิ (ปีศาจสี) คือเมื่อถูกคู่ต่อสู้ฟันใส่สีที่ระบุก็จะได้รับบาดเจ็บ และยิ่งเป็นสีที่มีความเสี่ยงสำหรับตัวเองมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างอาการบาดเจ็บได้มากเท่านั้น เพราะงั้นสำหรับเจ้าแล้ว 'สีขาว' ก็คือเป็นทั้งสีที่ทำให้ตัวเองมีโอกาสสร้างอาการบาดเจ็บและสีที่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บได้สาหัสที่สุดสินะ"
สตาร์คไม่ยอมตอบ เพียงแต่ยืนนิ่งปล่อยให้ชุนซุยพูดต่อไป
"ข้าแค่บอกใบ้ให้นิดเดียว แต่กลับเข้าใจกฎได้ทันทีแบบนี้ เจ้านี่มันรับมือยากจริงๆ นะ..."
จากคุณ |
:
Drake
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ก.ย. 52 21:19:11
|
|
|
| |