ความคิดเห็นที่ 1 กิลกาเมซนี้คือ เรียกว่าข้าแกรร่งซะอย่างมีไรไหมจะใช้ก็อยากใช้ แปลว่า ประมาทโดยแท้จริง จากคุณ : rame เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:22:32

ความคิดเห็นที่ 2 กิลกาเมซ มี สกิล "ประมาททุกเวลา" อยู่ครับ อย่างว่าคนมันเก่งเกินชาวบ้านไปซะเยอะก็อย่างงี้แหละครับ จากคุณ : Arata เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 13:37:21

ความคิดเห็นที่ 3 บทเฟทมันยังไม่ปัญญาอ่อนขนาดนี้เลยครับ... ส่วนรินนี้ความร้อนแรงไม่ถึงครึ่งเซเบอร์เลย(หนูเซเบอร์ยังใจถึงกว่าอีกรินนี้ไปไม่เป็นเลย...55+) จากคุณ : ยังไง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 14:14:51

ความคิดเห็นที่ 4   ถ้าให้อธิบายเชิงเปรียบเทียบ ก็ขอเปรียบวีรวิญญาณเป็นหนังสือ และเปรียบบัลลังก์วีรชนเป็นหอสมุดนะครับ ในหอสมุดบัลลังก์วีรชนจะเก็บหนังสือต้นฉบับไว้ เมื่อมีการเรียกไปทำหน้าที่แต่ละครั้ง หอสมุดก็จะส่งหนังสือฉบับคัดลอกไปให้(ตัวจริงยังอยู่เหมือนเดิม) แต่สิ่งที่ส่งออกไปพร้อมกันด้วยก็คือ"บันทึกแนบท้าย" ซึ่งตัว"บันทึกแนบท้าย"นี้เองที่จะเขียนระบุข้อมูลว่า"ถูกส่งออกไปเพราะอะไร ได้ทำอะไรลงไปบ้าง"ซึ่งจะบันทึกไว้เพียงคร่าวๆเท่านั้น ไม่ได้บันทึกอย่างละเอียด(ตัวอย่างเช่น"ถูกส่งไปยุติความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ฆ่าคนไปทั้งสิ้นสองพันยี่สิบเอ็ดคน" อันนี้สมมุตินะ) เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว บันทึกแนบท้ายก็จะถูกส่งกลับคืนมายังหอสมุดบัลลังก์วีรชน ส่วนหนังสือฉบับคัดลอกก็จะถูกทำลายทิ้ง เมื่อมีการยืมหนังสือเล่มเดิมออกไปอีกครั้งก็จะส่งฉบับคัดลอกออกไปพร้อมกับบันทึกแนบท้าย(ซึ่งมีบันทึกก่อนๆอยู่ด้วย) ซึ่งอาเชอร์(หลังจากถูกอัญเชิญออกมาแล้ว)ก็จะรู้ได้ว่าตนเองเคยทำอะไรไว้มั่งจากตรงนี้เอง ปล. โซ่สวรรค์ไม่ค่อยมีประโยชน์กับมนุษย์ธรรมดาเท่าไหร่นักหรอกครับ(มันเป็นโซ่ต่อต้านเทพเจ้าโดยเฉพาะ) จริงๆถ้ากิลมันใส่เกราะสู้ก็แทบจะไร้เทียมทานแล้วล่ะครับ(โดนExcaliburในระยะใกล้ยังแต่มีประกายไฟนิดหน่อย ต้องสะพายแล่งในระยะประชิดเท่านั้นถึงจะผ่านเกราะมันได้) จริงๆจะว่ามันไม่รู้จักใช้ก็ไม่ถูกนัก แต่เพราะว่ามัน"เลือกใช้"ครับ ถ้าอยู่ต่อหน้าศัตรูที่ไม่คู่ควร มันก็ไม่สนใจจะใช้ของดีๆหรอกครับ (ตัวอย่างเช่นตอนแคสเตอร์ในเฟทซีโร่รวมร่างกับอสูรยักษ์ โทคิโอมิของร้องแทบเป็นแทบตาย กิลมันก็แค่โยนดาบใส่สี่เล่มแล้วก็เลิกสนใจเพราะว่า"ตูไม่อยากให้ดาบของตูต้องแปดเปื้อนไปมากกว่านี้" แต่ว่าก็ว่าเถอะ ดาบสี่เล่ม เล่นเอาอสูรยักษ์ตัวแหว่งไปหนึ่งในสาม(ขณะที่ลุงไรเดอร์ขับรถลากไล่เหยียบแล้วยังแทบไม่มีรอยขีดข่วน) แรงบัดซบจริงๆ (ถึงแม้ว่าสาเหตุจริงๆจะมาจากการที่อสูรยักษ์นั่นมีอัตราการฟื้นตัวที่สูงบัดซบจนฟื้นตัวขึ้นมาทันก่อนที่สายฟ้าระลอกถัดมาจะกระหน่ำใส่ก็เถอะ แต่แบบนี้มันก็โกงเกินป๊าย)) ปล.2 เรื่องริน... ยังไงเธอก็ยังเป็นสาวบริสุทธิ์นะครับ ถ้าแรงสิแปลก(แต่ก็ใช่ว่าเธอจะไม่เคยมีประสบการณ์อย่างว่าเลยนะ เพราะว่ากันตามจริง เธอยูริมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะครับ) แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 14:19:00 จากคุณ : ไม้หลอน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 14:14:59

ความคิดเห็นที่ 5 อืมอย่างนี้นี่เอง...แล้วรินไปยูริตอนไหนเหรอครับ... แล้วบันทึกนี่มันละเอียดขนาดไหนครับ อีกนิด ผมไม่ติดใจเรื่องพลังเหนือมนุษย์ของเซอร์เวนร์ละ พออ่านบทนี้ เรื่องพลังถูกอธิบายว่าใช้พลังเวทย์เข้าช่วย งี้ไต่ตึกไม่มีปัญหา555+ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 14:37:03 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 14:34:49 จากคุณ : ยังไง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 14:31:33

ความคิดเห็นที่ 6   ู^ ^ ^ ที่ถูกระบุว่าใช้พลังแวทเข้าช่วยนี่มีแค่อาเชอร์บ่ใจ้กา? อาเชอร์ใช้เวทเสริมพลังให้กับลูกตาอย่างต่อเนื่องจนมีสายตาที่สุดยอดปานนั้น ส่วนเซอเวนท์อื่นๆ เท่าที่เห็นมาจะเป็ขีดจำกัดสายเลือดเสียส่วนมาก แล้วก็มีพวกที่ฝึกฝนตนเองจนสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ ตัวอย่างเช่นTsubamegaeshiของแอสแซสซินที่"ไม่ได้ใช้พลังเวทเลยแม้แต่น้อย"แต่สามารถฟันด้วยความเร็วสูงจนเกิดปรากฏการณ์มิติเวลาบิดผันจนสามารถ"ฟันสามดาบจากสามทิศทางพร้อมๆกัน"ได้ สำหรับเรื่องของริน เรียกได้ว่าบอกเป็นนัยๆล่ะนะครับ ไม่ถึงกับบอกโต้งๆหรอก ในRealta NuaบทHFก็มีcgภาพนี้เหมือนกัน จากคุณ : ไม้หลอน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 14:54:54

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ครับดูได้จากเซเบอร์ บท2 ตอนไปตีเบสบอลกันครับ ชิโร่บอกเลยว่าประสิทธิร่างกายของเซเบอร์ตอนไม่ได้ใช้เวทย์ช่วยนี่ น้อยกว่ารินกับชิโร่อีก แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 15:00:37 จากคุณ : ยังไง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 14:59:43

ความคิดเห็นที่ 8   ู^ ^ ^ อ้างอิงจากขีดจำกัดสายเลือดของเธอ ร่างกายของเธอทำหน้าที่เป็น"เตาพลังเวท"อยู่แล้ว ดังนั้นการปลดปล่อยพลังเวทของเธอจึงเป็นเรื่อง"ปกติ" ขณะที่การยับยั้งไม่ปล่อยพลังเวทออกมาต่างหากจึงถือเป็นเรื่อง"ไม่ปกติ" ถ้าให้เปรียบเทียบกับคนปกติ ก็เหมือนกันการวิ่งโดยไม่งอเข่านั่นล่ะครับ จะบอกว่าเป็นธรรมชาติของเธอก็ได้ล่ะมั้ง(ก็เหมือนพวกครึ่งเทพทั้งหลายที่พอโดนโซ่กำราบเทพมัดเข้าแล้วก็แทบจะง่อยรับประทาน เป็นธรรมดาของพวกครึ่งเทพที่จะแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ และก้เป็นธรรมดาของผู้สืบสายเลือดมังกรอย่างเซเบอร์ที่จะปลดปล่อยพลังเวทอยู่ตลอดเวลา) จากคุณ : ไม้หลอน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 15:16:50

ความคิดเห็นที่ 9   ว่าแต่ทำไม Rho Aias จึงเป็นอาวุธป้องกันที่ดีที่สุดของอาเชอร์หละ จริงๆแล้ว อาเชอร์มันน่าจะเทรซ อวาลอน ออกมาได้ไม่ใช่เหรอครับ (บทเฟท ทั้งที่ชิโร่มันคืนอวาลอนไปแล้ว มันก็เทรซออกมาสู้กับคิเรย์เลยหนิ) จากคุณ : kentaroman (kentaroman) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 15:23:38

ความคิดเห็นที่ 10 แต่ตอนสู้กับ Assasin พอเสริมพลังเวทย์เข้าไปก็ทำให้ดาบแรงขึ้น พูดง่ายๆคือถึงเป็น เตาพลังเวทย์แต่ถ้าใช้ไม่เป็นมันก็เปล่าประโยชน์นะครับ ดังนั้นตอนเซเบอร์ปล่อยออกมาระดับปกติ(ในเมื่อมีสายเลือดมังกรที่กล่าวว่าลมหายใจเข้าออกเป็นพลังเวทย์ดังนั้นตัวเซเบอร์เองยังไงก็ไม่สามารถระงับระบบร่างกายไม่ให้ใช้พลังเวทย์ได้ครับเพราะกระแสเลือดของ เซเบอร์นั้นน่าจะมีพลังเวทย์ ไหลเวียนอยู่แล้วดังนั้นตอนเล่น เบทติ้ง ต่อให้เหมือนกับว่าไม่ใช้พลังเวทย์ยังไงระบบร่างกายก็ต้องหมุนเวียนโดยมีพลังเวทย์เกี่ยวด้วยแน่นอน) กับตอนต่อสู้นี่มันต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นความแข่งแกร่งขึ้นอยู่กับพลังเวทย์แน่นอน ที่โล่ป้องกันไม่ใช่อวาลอน อาจจะพูดได้ว่า Archer ไม่ใช่ชิโร่ในบทเฟทครับ ถ้ามันคนเดียวกันแล้วมีโล่เป็น อวาลอนนี่คงจะหาคนปราบหมอนี่ได้ยากน่าดูเลยครับ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 15:38:13 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 15:37:46 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 15:32:41 จากคุณ : ยังไง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 15:30:57

ความคิดเห็นที่ 11   ^ ^ ^ เลือดที่มีพลังเวทไหลเวียนอยู่=/=ทำการสนับสนุนร่างกายด้วยพลังเวทครับ ทุกส่วนในร่างกายของนักเวทมีพลังอยู่แล้ว เพียงแต่จะใช้หรือไม่ใช้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง(ตัวอย่างง่ายๆ การเติมมานาครับ ที่ต้องทำแบบนั้นก็เพราะว่า"การส่งผ่านทางของเหลวมันสะดวกที่สุด"ครับ อีกรณีหนึ่งก็ในเฟทซีโร่ อุริว ริวโนะสุเกะไม่มีวงจรเวทอยู่ในตัวแม้แต่น้อย แต่ก็ยังอัญเชิญแคสเตอร์ออกมาได้เพราะบังเอิญว่าครอบครัวที่มันลอบเข้าไปฆ่าเป็นครอบครัวนักเวท เมื่อมันใช้เลือดของคนในบ้านมาวาดวงจรเวทจึงสามารถอัญเชิญแคสเตอร์ออกมาได้เพราะในเลือดมีพลังเวทอยู่) ถ้าจะให้เปรียบ พลังงานก็ทำงานเหมือนพลังงานต่างๆนั่นล่ะครับ แค่ไหลเวียนน่ะไม่ก่อให้เกิดงานหรอก แน่นอนว่าตอนต่อสู้ เซเบอร์ระเบิดพลังเวทมาใช้มากกว่าปกติอยู่แล้วล่ะครับ(อย่าว่าแต่เซเบอร์เลย มนุษย์สามัญก็เถอะ ในเวลาอย่างนั้นก็ต้องใช้พลังมากกว่าปกติอยู่แล้วล่ะ และยิ่งกับคนที่รู้แน่ว่า"ไม่มีหนทางในการเอาชนะด้วยฝีมือ"แล้ว ยังไงก็ต้องทุ่มสุดตัวล่ะครับ(แต่ทั้งที่ถึงขนาดนั้นแล้วก็ยังเกือบไม่รอด ถ้าไม่ใช่เพราะดาบของแอสแซสซินพังซะก่อนก็คงดับแหงแซะ)) ถ้าจะสรุปออกมาก็อาจจะกล่าวได้ว่า เซเบอร์ใช้พลังเวทเพิ่มพละกำลังของร่างกายจริง แต่เนื่องจากคุณสมบัติทางร่างกายของเซเบอร์สามารถผลิตพลังเวทได้เองอยู่แล้ว ดังนั้นจะกล่าวว่าเซเบอร์แข็งแกร่งขึ้นด้วยพลังเวทก็ไม่เชิงนัก แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 16:06:44 จากคุณ : ไม้หลอน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 15:49:55

ความคิดเห็นที่ 12 พูดได้ว่าสายเลือดดีมีชัยไปกว่าครึ่งสินะ นอกเรื่องสุดๆ คิดว่าภาคหนังโรงที่จะฉายเนี่ยตอนจบจะเป็นอย่างไรครับ ผมคิดว่าน่าจะเป็นการรวมกันระหว่าง True End กับ Bad End..นะครับ แต่เรื่องรินเนี่ย ถ้ามีอะไรแบบนั้นมาก่อนมัน ก็ไม่น่าจะอายม้วนจนไปไม่เป็นขนาดนั้นนะครับ...555+ =w= ชะอ้าวพิมพ์ผิดต้อง Good สินะ... แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 16:33:59 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 16:06:28 จากคุณ : ยังไง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 16:05:07

ความคิดเห็นที่ 13   Bad Endอันไหนล่ะครับ ไม่ใช่น้อยนะ (แต่โดยส่วนตัวแล้วก็ต้องTrue Endนั่นแหละ ไหนๆก็จะทำทั้งที) รินเธออาจจะเคยมีอะไรแบบนั้นมาก่อนก็จริง แต่อย่าลืมสิขอรับว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอ(มันคงไม่เหมือนกันนักหรอก ชายกับหญิงน่ะ) ปล. สายเลือดดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เห็นด้วยครับ แต่ก็ยังมีพวกที่"ฝึกฝนจนแข็งแกร่งเหนือมนุษย์"อยู่ล่ะนะ จากคุณ : ไม้หลอน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 16:26:14

ความคิดเห็นที่ 14 กลายเป็นกระทู้ลีลาเติมมาน่าของรินไปซะแล้ว อิอิ จากคุณ : welzer เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 18:15:02

ความคิดเห็นที่ 15 คห.11 ครับ เจ้าอุริวเนี่ย ไม่ใช่ว่าตระกูลมันเป็นจอมเวทเก่าที่ละทิ้งการศึกษาเวทไปหรอกเหรอ ผมเพิ่งอ่านนิยายไปรู้สึกมันจะว่างั้นนิ แถมหนังสือวีธีอัญเชิญเซอร์แวนท์เองก็ได้มาจากห้องเก็บของในบ้านมันเองด้วย ของเก่าเป็นร้อยปี คงจากสงครามที่3รึ2นู่นมั้ง ส่วนรินนี่ อยากให้เป็นแบบบทเฟทมากกว่าจริงๆด้วย ร้อนแรงกว่ากันเห็นๆ จากคุณ : Eisen เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 18:47:30

ความคิดเห็นที่ 16   #15 เป็นเชื้อสายจอมเวทที่"สิ้นสุด"แล้วครับ เจ้าอุริวก็เทียบได้กับชินจินั่นล่ะครับ สืบเชื้อสายจอมเวทก็จริง แต่ไม่มีคุณสมบัติแล้ว(ไม่มีมาตั้งแต่รุ่นพ่อแล้วล่ะ อุริวนี่อาจจะไม่มีมาหลายรุ่นแล้วด้วย) จากคุณ : ไม้หลอน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 19:02:44

ความคิดเห็นที่ 17 *-*...จะว่าไปทำไม ชิโร่ สร้างRho Aias ได้ครับมันไปเห็นตอนไหนรึ แต่ไอ่เวทย์ ดินแดนดาบไร้สิ้นสุดเนี่ย แค่มองก็ก็อบได้เลยใช่ไหมครับ... แล้วก็สามารถเรียกมาใช้ได้เลย...โกงมากๆเลยนะเนี่ย จากคุณ : ยังไง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 19:41:51

ความคิดเห็นที่ 18   ไปเห็นตอนไหน... อันนี้ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ จะว่าเห็นในคลังก็ไม่น่าใช่... สรุปแล้ว ลุงนาสุแกลืมเองหรือเปล่านี่(แต่จริงๆถ้าอ่านSide Material ลุงนาสุจะกล่าวถึงตัวละครที่โดนคัดออกตัวหนึ่งว่าเป็นเซอเวนท์จากสมัยสงครามครั้งก่อน และเป็นผู้ใช้Rho Aiasตัวจริง ซึ่งก็นะ...) UBWมันเป็นReality Marbleนี่ครับ เป็น"โลกภายใน"ที่มีกฏเกณท์เฉพาะเป็นของตัวเอง จะทำอย่างนี้ได้ก็ไม่น่าแปลกนักหรอกครับ จากคุณ : ไม้หลอน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 20:13:47

ความคิดเห็นที่ 19 จริงๆเจ้าอุริวนี่ก็เข้าคู่กับเเคสเตอร์ได้เหมาะมากเลยนะ โรคจิตพอๆกัน เอ เเต่ไม่ได้ตามเฟทซีโร่ เจ้าเเคสเตอร์มันไม่มีปัญหาเดรื่องMANAเรอะ ถ้าจะใช้เยอะใช้เล่นนะ ขนาดเจ้าหนุ่มตระกูลมาโต้นั่นยังรากเลือด จากคุณ : ไล่ฮก เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 20:17:55

ความคิดเห็นที่ 20 Reality Marble มีมนุษย์คนอื่นนอกจากชิโร่ มีใครสร้างได้ไหมครับ ส่วนใหญ่ที่เห็นก็พวกชิโตะ ซะส่วนใหญ่... ถามหน่อยนะชอบ BGM เพลงไหนครับสำหรับผม NewDawn รองมาก็ Emiya กับ Lightning swordsman แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 20:36:07 จากคุณ : ยังไง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 20:25:36

ความคิดเห็นที่ 21 คห.16 ในหนังสือมีบอกชัดเจนเลยครับว่า "วงจรเวท" ของอุริวยังคง"หลับไหล"อย่ในตัวของมันเอง(หน้า184 เล่ม1) ตอนเชิญแคสเตอร์ออกมาได้ก็มีบรรยายเรื่องการส่งพลังเวทไว้ในหน้าเดียวกันนั่นแหละครับ บอกไว้ว่ามันรับพลังจากบรรยากาศเข้ามากรองผ่านวงจรของมันแล้วส่งไปให้แคสเตอร์ รุ่นปัจจุบันของตระกูลนี้ลืมไปหมดแล้วว่าตระกูลตัวเองเคยเป็นจอมเวท ส่วนครอบครัวที่มันฆ่าไปนั่นเป็นคนธรรมดา แต่ที่ต้องฆ่าเยอะเพราะเดี๋ยวเลือดไม่พอเีขียนวงเวทเท่านั้นเอง ถ้าครอบครัวนั้นเป็นจอมเวทจริง เจ้าอุริวนั่นแหละจะตายก่อนได้ฆ่าเขา พวกจอมเวทมันธรรมดากันซะที่ไหนล่ะ จากคุณ : Eisen เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 20:32:06

ความคิดเห็นที่ 22 ต่ออีกหน่อย เจ้าอุริวมันจะเข้าคู่กับแคสเตอร์ได้ดีก็ไม่แปลกหรอก เพราะมันใช้บุคลิกของตัวเองเป็นสื่ออัญเชิญนี่นา กรณีที่ไม่มีสื่ออัญเชิญเพื่อเจาะจงวีรชนที่จะเรียก ก็จะใช้บุคลิกของคนเรียกเป็นสื่อ เพราะฉะนั้นก็จะได้คนนิสัยราวๆเดียวกันออกมานั่นแหละ แบบไรเดอร์ของครั้งที่5ไง ส่วนเรื่องมานาเนี่ย ผมยังอ่านไม่ถึงแฮะ แต่คงเหมือนแคสเตอร์ของครั้งที่5มั้ง ดูดจากชาวบ้านเอา ป.ล. บอร์ดนี่Editได้มั้ยนี่ หาปุ่มeditไม่เจอแฮะ จากคุณ : Eisen เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 20:41:03

ความคิดเห็นที่ 23 ปุ่ม Edit อยู่ตรงแก้ไขครับ ออกความเห็นด้วยไม่ได้เพราะยังไม่ได้อ่าน..555+ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 20:46:37 จากคุณ : ยังไง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 20:46:03

ความคิดเห็นที่ 24   #21 While searching for different, more "amusing" ways to commit murder, he discovers a book at his parents' house with instructions on summoning a Servant. Shortly before the fourth Holy Grail War begins, Ryuunosuke murders [B]an entire family with magical potential[/B], with the exception of a child to feed the demon he intends to summon, and uses their blood to perform the summoning ritual outlined in the book. ก่อนหน้าที่จะทำการอัญเชิญสำเร็จ อุริวก็ได้พยายามอัญเชิญมาก่อนอย่างน้อยสี่ครั้ง และจริงอยู่ที่ว่าอุริวมีวงจรเวทในตัว แต่ในเมื่อมันหลับไหลมาตลอด=ไม่มีการผลิตOdและไม่มีการรับเอาManaเข้ามา ดังนั้นก็ไม่น่าจะทำการอัญเชิญได้ จนกระทั่งครั้งหลังสุดที่ใช้เลือดของครอบครัวที่มีศักยภาพทางเวท(อันนี้ยอมรับว่าผมจำผิดเองครับ ไม่ใช่ครอบครัวนักเวท แค่มีศักยภาพ) แต่อาจบางที ผมเองอาจจะเป็นฝ่ายเข้าใจข้อมูลผิดเองก็ได้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากถกเถียกข้อมูลบความรู้กันต่อไปล่ะนะครับ ปล. มนุษย์คนอื่นนอกจากชิโร่... ยังไม่พบคนที่"ขยายขอบเขต"ได้ครับ ปล.2 เรื่องมานา Preleti's spell book โนเบิลของแคสเตอร์ทำหน้าที่เป็นแหล่งมานาภายนอกและอุปกรณ์จัดการเวทให้ครับ ถ้าว่ากันตามตรง แคสเตอร์ไม่ได้ใช้เวทเองเลย แต่"สั่ง"ให้หนังสือจัดการให้ครับ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 20:49:07 จากคุณ : ไม้หลอน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 20:46:50

ความคิดเห็นที่ 25 ผมอ่านในหนังสือภาคญี่ปุ่นดูอีกทีแล้วก็ยังไม่มีส่วนไหนระบุว่าครอบครัวนั้นมีศักยภาพทางเวทอยู่ดี ก่อนจะอัญเชิญสำเร็จ เจ้าอุริวทำฆาตกรรมไป3ครั้ง แต่อัญเชิญไม่สำเร็จเพราะวงเวทต้องใช้เลือดสดๆเขียน แล้วแต่ละครั้งก็ฆ่าไปแค่คนเดียว เลือดเลยไม่พอ จนครั้งที่4เลยเปลี่ยนแผน เล่นมันทั้งครอบครัว 4 คนเลย จะได้มีเลือดพอใช้ แต่ฆ่าไปแค่สามคนก็ได้เลือดพอเขียนวงเวทเสร็จแล้ว เลยเก็บคนที่4ไว้เผื่อเป็นเครื่องสังเวยปีศาจที่จะเรียกออกมา(มันเข้าใจผิดว่าเป็นพิธีเรียกปีศาจ) ส่วนเรื่องพลังเวทที่จะใช้อัญเชิญนี่ จอกจัดให้ครับ ขั้นตอนการอัญเชิญทั้งหมดนี่จอกจัดการให้หมดครับ มาสเตอร์แทบไม่ต้องทำอะไรเลยก็ยังได้ ขอแค่มีความตั้งใจที่จะอัญเชิญก็พอแล้ว แต่ที่ต้องทำพีธีอะไรนี่ก็เพื่อความแน่นอนเท่านั้น(อ้างอิงจากหนังสือหน้า185) แล้วจอกก็น่าจะเป็นคนทะลวงเปิดวงจรของอุริวให้ด้วย เรื่องข้อมูลของคุณ ผมว่าเขาน่าจะเข้าใจผิดเรื่องครอบครัวไหนมีพลังเวทกันแน่นี่แหละ อุริว รึครอบครัวที่โดนฆ่า  จริงๆคือตระกูลอุริวมีพลังครับ ขอยืนยันด้วยหนังสือที่มีอยู่ในมือผมนี่แหละ (ถ้าท่านอ่านjapออกจะสแกนให้ดูก็ได้) จากคุณ : Eisen เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 22:58:53

ความคิดเห็นที่ 26   ู^ ^ ^ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกครับ คงจะเป็นข้อมูลทางผมผิดพลาดเองนั่นล่ะ(หนังสือน่ะผมก็มีอยู่ แต่เก็บขึ้นหิ้งไว้เฉยๆ(ความสามารถภาษาญี่ปุ่นเกือบเป็นศูนย์ อาศัยอ่านที่เขาแปลแล้วซะส่วนใหญ่ล่ะนะ)) เอาเป็นว่าในประเด็นนี้ผมยอมรับผิดครับผม ปล. ช่วงนี้กระทู้ไทป์มูนมีเยอะดีจริง เป็นโอกาสอันประเสริฐที่จะได้อัพเดทข้อมูล จากคุณ : ไม้หลอน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 23:05:41