Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
<<< ดูแล้วมาคุยกัน ... ฝันโคตรโคตร , จากซิกส์แพ็คและหน้าตา มาสู่ ก้าวที่กล้า กับ ความกล้าที่สร้างสรรค์ของ'หนังพิง' >>>  

  ชอบมาก ห้ามพลาด (62 คน)
  ชอบ (61 คน)
  เฉยๆ (66 คน)
  ไม่ชอบ (43 คน)
  ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (114 คน)

 17.92%
  ชอบมาก ห้ามพลาด (62 คน)
 17.63%
  ชอบ (61 คน)
 19.08%
  เฉยๆ (66 คน)
 12.43%
  ไม่ชอบ (43 คน)
 32.95%
  ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (114 คน)

จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 346 คน


เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ + ชวนมาแสดงความเห็นกันต่อที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=09-2009&date=22&group=14&gblog=179


... อาทิตย์นี้เป็น สัปดาห์หนังดีดูสนุกsmile ทุกเรื่องที่ได้ดูรู้สึกคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น District 9 ที่ผมยกให้เป็นหนึ่งในสิบหนังโรงที่ดีดูสนุกที่สุดของปีนี้ที่ได้ดู , The Proposal หนังโรแมนติกคอมิดี้ ที่ความน่ารักล้นเหลือจนมองข้ามจุดอ่อนทุกอย่างที่หนังมี , My Sister's Keeper หนังครอบครัวน้ำตาท่วมจอที่นำเสนอคุณค่าของการมีชีวิตและครอบครัว

ตั้งใจว่าถ้ามีเวลา จะเขียนทั้งสามเรื่องข้างต้นสั้นๆลงบล็อกกับกระทู้(ส่วนเวอร์ชั่นยาวขอใช้ส่งเป็นต้นฉบับ) แต่ขอเลือกเขียนยาวๆสำหรับ เรื่องที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับตัวเองนั่นก็คือ ฝันโคตรโคตร

เพราะ สามเรื่องข้างต้น มีหลักประกันที่จะทำให้คนไปดูหนัง แต่ ฝันโคตรโคตร มีหลายเหตุผลที่จะทำให้หลายคนเมินหน้า และ ส่งตัวหนังขึ้นสู่ทำเนียบหนังเจ๊งของปี และ เป็นล้มเหลวด้านรายได้มากที่สุดของพิง ไม่ว่าจะเป็น

1.ไร้ดาราแม่เหล็กเป็นแรงดึงดูด (โคตรรักฯ มี โน้ส , คนหิ้วหัว ยังมี ภูริกับกระแต)

2.ผลงานในอดีตของพิง ทำให้หลายคนปรามาสล่วงหน้าว่า รอดูฟรีๆน่าจะดีกว่า

3.หลายคนส่ายหน้า เมื่อเห็นตัวอย่างหนังว่า พิง รับบทเป็นพระเอกหนังรักโรแมนติกที่ดูยังไงก็ขัดๆตา

ทั้งๆที่ ฝันโคตรโคตร เป็น หนังสำหรับคนที่มองหา หนังดี และ มองหาหนังไทยที่มีความคิดสร้างสรรค์หลีกหนีจากความซ้ำซากจำเจ



หนุ่มน้อยประแป้ง1.หนังพิง


... ยอมรับว่า ตัวเองไม่ใช่ แฟนหนังพิง

ในบรรดาหนังของพิง ที่ผมชอบสุดคงเป็น โคตรรักเอ็งเลย แต่ที่ว่าชอบที่สุดของหนังพิง ก็ไม่ใช่หนังที่ชอบมากมายนัก

เพราะตอนดู โคตรรักเอ็งเลย มันเต็มไปด้วยความรู้สึกว่า ‘มากเกินไป’ ไม่ว่าจะเป็นความพยายามที่จะเล่น จะหยอดมุก จะหักมุม จะโชว์ลูกเล่นการเล่าเรื่อง พอถึงจุดที่คิดว่า กำลังดี หนังก็ต้องมีอะไรมาเพิ่มจนรู้สึกว่า มันมากเกินเหตุ

การผสมอารมณ์ ตลก ผสม โรแมนติก ของหนังมันดูเปลี่ยนไปมาเร็วเกินไป ประมาณว่ากำลังจะซึ้งหนังก็ตัดอารมณ์ฉับๆ ทั้งที่ หนังสามารถทำให้อินกว่านี้ได้ หรือ พอถึงประเด็นดีๆหนังก็มีท่าที เล่น จนเหมือนเป็น หนังรักสมาธิสั้น ที่ไม่ยอมอยู่กับอารมณ์ของตัวละคร (My Sassy girl เป็นตัวอย่างที่คล้ายกันแต่ลงตัวมากกว่า สำหรับการเป็นหนังรักผสม ความตลก กับ ความซึ้ง และ มีหักมุม และ มีความเหนือจริง)

ในขณะเดียวกัน โคตรรักเอ็งเลย ก็มีดีอยู่หลายอย่าง เช่น ผมชอบประเด็นความรักที่หนังอยากจะสื่อ ชอบเพลงประกอบและประโยคดีๆในหนัง และคิดว่า ถ้าตัดเป็นฉากๆสามารถทำเอาน้ำตาซึม ดูเป็นส่วนๆแล้วหนังมีความน่าสนใจมากกว่าภาพรวม

โคตรรักเอ็งเลย จึงเป็นหนังที่ทำให้ผมอยากจะเสี่ยงกับ ฝันโคตรๆ เพราะ ตัวหนังทำให้เห็นศักยภาพของผู้กำกับที่มีทักษะการทำหนังน่าติดตามเพียงแค่งานชิ้นแรกยังดูล้นหรือตั้งใจโชว์ฝีมือมากไป


... แต่พอได้ดู คนหิ้วหัว เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมแทบจะเปลี่ยนความตั้งใจที่จะดู ฝันโคตรโคตร

คนหิ้วหัว ยังเห็น ไอเดียดี เห็นความตั้งใจ และ เห็นกลวิธีการเล่าเรื่องที่มีชั้นเชิง แต่ ผมดูแล้วไม่สนุก มุกตลกประดักประเดิด หนังดูขาดๆเกินๆ และมี ซิกส์แพ็คที่ร่ำลือ จากการขยันโชว์จนเกือบๆจะเข้าข่ายยัดเยียด จนกลายเป็นหนังที่ผมคิดว่า พิง ใส่ ตัวเอง มาในหนังมากเกินเหตุโดยไม่จำเป็น


... นั่นทำให้ผมคิดว่า คนส่วนใหญ่ที่รู้จัก พิง ลำพระเพลิง จากงานเขียนบทละคร , งานเขียนบทหนังตระกูล’ส่ายหน้า’ หรือ เคยดูหนังเรื่องเก่าๆของเขา คงคิดว่า ฝันโคตรโคตร น่าจะออกมาในทางหนังรักเอาใจตลาด ประมาณว่า รักนะจุ๊บๆ หยอดมุกตลก ใส่เพลงซึ้ง ใส่คำพูดหวาน แล้วเล่นมุกจนหนังจบ

ที่เซอร์ไพรส์ก็คือ ฝันโคตรโคตร ยังมีเพลงซึ้งๆ มีคำพูดดีๆ แต่ ตัวหนังไม่ได้เป็น หนังรักกุ๊กกิ๊กเอาใจคนดูส่วนใหญ่

ตัวหนังยังออกจะไปอยู่ขั้วเดียวกับทางของกลุ่มหนังอาร์ตๆ ชนิดที่เรียกว่า ถ้าเปลี่ยนพระเอกแล้วตัดมุกตลกออกไป แล้วไปหลอกคนดูว่าเป็นหนังเรื่องใหม่ของเป็นเอกที่เอาใจตลาดมากขึ้น อาจมีคนหลงเชื่อเอาได้



หนุ่มสงกรานต์2.ความเป็นพิง + ตัวตนพิง ใน หนังพิง


... สองสามสัปดาห์ก่อนดูหนัง ผมนั่งอ่านกระทู้ในพันทิป พอจะสรุปได้ว่า ส่วนใหญ่เวลามีกระทู้พูดถึงหนังพิงมักหนีไม่พ้นเรื่องของ หน้าตา กับ ซิกส์แพ็ค ฮ่าฮ่าฮ่าและสามารถรวบเป็น ประเด็นหลักๆได้สองประเด็น ที่ อ่านแล้วก็เห็นด้วยบ้าง ไม่เห็นด้วยบ้าง
ประเด็น เล่นเอง กำกับเอง เขียนบทเอง ร้องเอง เจ็บเอง ฯลฯ + หน้าตา + ซิกส์แพ็ค


การรับจ๊อบเหมาจ่ายแบบ ‘เขียนบทเอง กำกับเอง เล่นเอง’ ไม่ใช่เรื่องผิดแผกแปลกประหลาด ดูอย่าง วู๊ดดี้ อัลเลน ที่ทำมากี่เรื่องต่อกี่เรื่องก็เห็นหน้าคุณลุงประกบสาวๆ แถมหนังบางเรื่องยังนำบุคลิกนิสัยหรือตัวตนของลุงมาใส่ตัวละครอีกต่างหาก หรือ อัลเฟรด ฮิตช์คอค  ก็โผล่มาแค่สมทบแบบแวบไปแวบมาในหนังตัวเองอยู่เสมอๆ บางทีก็มีไปแจมร่วมเขียนบทด้วย

เพียงแต่ว่า สองคนดังข้างต้นรับจ๊อบเหมาแล้วไม่มีคนว่า เพราะทั้งคู่เลือกทำอย่างมี ความเหมาะสม พอดี

ลุงวู๊ดดี้ มีความสามารถในการแสดง และ เลือกบทที่ตัวเองเหมาะกับบุคลิก ส่วน ฮิตช์คอค อาจรู้ว่าตัวเองไม่ได้แจ่มแจ๋วในด้านแอ้คติ้งก็โผล่มาเป็น cameo ให้คนดูสนุกกับการมองหา

แต่ การปรากฏตัวของพิงใน คนหิ้วหัว เป็นการใส่ ตัวพิงและความเป็นพิง แบบเกินพอดี จนทิศทางหนังเสียไป

นั่นทำให้ตอนแรกที่เห็นตัวอย่าง พิง ใน ฝันโคตรโคตร ผมก็คิดว่า เขาไม่เหมาะกับบทพระเอกแน่ๆ ไม่ใช่เพราะความไม่หล่อ แต่ เพราะนึกว่า ตัวหนังคงเป็น โรแมนติกคอมิดี้ประมาณ My Sassy girl ซึ่ง ความไม่หล่อ ไม่ใช่ปัญหา แต่ ตัวพระเอกควรจะมีความเข้ากันกับบทหนัง และ มีเสน่ห์ที่จะขายได้ ซึ่งพิง ไม่ใช่

จุดที่เซอร์ไพรส์คือ เมื่อได้ดู ฝันโคตรโคตร ต้องกลับมาสรุปว่า นักแสดงที่เหมาะกับหนังเรื่องนี้ต้อง พิง คนเดียวเท่านั้น



เกล็ดหิมะ3. ฝันโคตรโคตร

3.1 ฝันโคตรโคตร - ความฝัน - ความจริง



... ถ้าว่ากันเฉพาะบท นี่คือ พล็อตหนังที่สร้างสรรค์ที่สุดประจำปีนี้ และ อยู่ในกลุ่มบทหนังที่ดีที่สุดของปีได้อย่างไม่ต้องสงสัย

ฝันโคตรโคตร มีตัวละครหลักๆอยู่แค่สองคนคือ ด่าง  กับ เปิ้ล

ด่าง เป็น หนุ่มใหญ่ที่สูญเสียภรรยาไปหลายปีก่อน ใช้ชีวิตลำพังไปกับการโชว์ตลกตามสถานที่สาธารณะและรับจ้างเดี่ยวไมโครโฟนเป็นจ๊อบๆ ถูกเมินจากทุกๆที่สมัครงาน

เปิ้ล เป็น เด็กที่ถูกอุปการะจากชายแปลกหน้ามาตั้งแต่เล็กจนได้เป็นดาราใหญ่ เมื่อสืบรู้ว่าเป็นใคร เธอก็แอบตามสะกดรอยโดยไม่ให้เขารู้
จุดสำคัญมาถึงเมื่อ ทั้งคู่เข้ามาอยู่ในร้านนาฬิกา และ ด่าง ซื้อนาฬิกาทรายปริศนามาเก็บไว้

หลังจากนั้น เหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น


...จากที่ ด่าง กับ เปิ้ล ไม่เคยปริปากสนทนากัน

เปิ้ล เริ่มก้าวเข้ามาในชีวิตของด่าง ตามมาถึงที่บ้าน แล้วจู่ๆด่างก็หลับแล้วตื่นมา พบว่าตัวเองเป็นผู้กำกับชื่อ พิง ที่มีเปิ้ลเป็นภรรยา

ด่าง เข้าใจว่า ทุกครั้งที่เจอเปิ้ล เป็น ความฝัน แต่ความสับสนเกิดขึ้นเมื่อ เปิ้ล บอกว่าส่วนที่ด่างคิดว่าฝัน มันคือ โลกความจริงของเปิ้ล

หรือสรุปจากปากตัวละครตอนต้นๆจะได้ภาพคร่าวๆว่า

โลกความจริงของด่าง = โลกที่เขาเป็นหนุ่มใหญ่ตกอับ จมอยู่กับความหลังครั้งภรรยาเสียชีวิต อยู่ที่บ้านริมทะเล ซื้อ ส่วนโลกความฝันคือโลกที่เขาได้เป็นผู้กำกับและมีเปิ้ลเป็นภรรยา

โลกความจริงของเปิ้ล = โลกที่เธอมีพิงเป็นสามี อาศัยในบ้านทรงโมเดิร์น ส่วน โลกความฝันของเธอ คือ การที่เธอสะกดรอยตาม ด่างผู้อุปการะมาตั้งแต่เล็ก


... ดังนั้นจากที่เราแน่ใจว่า ด่างไอ้ขี้แพ้ คือ ความจริง ส่วน พิงผู้กำกับดัง เป็น ความฝัน

เส้นแบ่งของหนังเริ่มเลือนราง เมื่อ ส่วนที่เป็นความฝันดูเป็นความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ , เมื่อตัวละครทั้งสองแยกไม่ออกระหว่างความจริงความฝัน และ เมื่อทั้งคู่เริ่มมีความสุขในความฝันมากกว่าความจริง

หน้าที่ในการตัดสินว่า อะไรจริง อะไรฝัน จึงเป็นของคนดู

แถมเมื่อหนังดำเนินไปถึงช่วงกลางถึงท้ายๆ หนังไม่ได้แค่ ความจริง/ความฝัน ของ พิง กับ เปิ้ล แต่ตัวหนังยังเริ่มซ้อนทับระหว่าง ชีวิตจริง (ของผู้กำกับพิง ลำพระเพลิง) กับ หนังฝันโคตรๆ (ตัวละคร ด่าง ที่ทำหนัง โคตรรักเอ็งเลย )



... แง่มุมที่น่าสนใจของหนังอยู่ตรงที่ว่า

idea หากความฝันตามทฤษฎีทางจิตวิทยา คือ จิตใต้สำนึกที่โลดแล่นของแต่ละคน แล้ว ลองวิเคราะห์หนังในอีกมุมหนึ่ง โดย ให้เหตุการณ์หลังจากร้านนาฬิกา ที่ด่างกับเปิ้ลพบกัน ไม่ว่าจะเป็น โลกของด่าง-บ้านริมทะเล หรือ โลกของพิง-บ้านโมเดิร์น ล้วนเป็น ความฝันทั้งหมด

ส่วน ความจริง มีอยู่แค่ช่วงต้นก่อนเข้าร้านนาฬิกา กับ ช่วงท้ายของหนัง ที่ทั้งสอง ไม่เคยคุยกันเลย

เราจะเห็นว่า ความฝันที่ได้พบกันไม่ว่าจะเป็นโลกของบ้านริมทะเล หรือ โลกของบ้านโมเดิร์น ได้ทำหน้าที่ของมันเต็มที่ สำหรับการเติมเต็ม ความปรารถนาในจิตใจของคนสองคนที่โหยหาบางสิ่ง

ความปรารถนาของเปิ้ล คือ การได้พบใครสักคนที่ ‘ให้’ เธอด้วยความบริสุทธิ์ใจมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต โดย ผู้ให้ คนนั้นไม่เคยตามหาตัวเธอหรือหวังผลตอบแทน และ สิ่งที่เธอต้องการคือ ความรักที่ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ เธอจึงชดเชยความปรารถนาในความฝัน ด้วยการได้ พบปะสลับกับชีวิตแต่งงานกับคนๆนั้นที่เธอตามหา

ความปรารถนาของด่าง คือ การที่ชีวิตได้เดินไปข้างหน้าหลังการสูญเสียภรรยา และ ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่เขากลัวเกินกว่าที่จะก้าวไป เขาจึงชดเชยความปรารถนาในฝัน ด้วยการ พบหญิงสาวที่เป็นดาราและตัวเองได้เป็นผู้กำกับที่ประสบความสำเร็จ


... ตัวละครทั้งสองคนได้เรียนรู้ว่า


แต่งงาน ความฝันมันช่างสุขสม แต่ การที่พวกเขาอยู่ในความฝันมากเกินไป มันยิ่งทำให้เขาห่างไกลความสุขแท้จริง

เพราะทุกครั้งที่ตื่นมา นอกจากจะทำให้โหยหาความฝันจนไม่อยากจะมีชีวิตในโลกความเป็นจริง ยังทำให้ความกล้าและเข้มแข็งในชีวิตจริงน้อยลงไปทุกที เพราะหวังแต่จะมีชีวิตอยู่ในความฝันอยู่อย่างเดียว

และ คนที่เลือกจมอยู่กับความฝันตลอดเวลาไม่หันมาพบปะความจริง สุดท้าย หากไม่ เจ็บป่วยทางจิต ก็ ทิ้งชีวิตเพราะรับไม่ได้กับโลกความจริง(ซึ่งตัวด่างเองก็เกือบๆไป)


(มีต่อ)

แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 52 11:20:58

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 11:18:23




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com