 |
ความคิดเห็นที่ 5 |
ถ้าพอมีเวลา และภาษาอังกฤษแข็งแรงพอสมควร ลองไปอ่าน livejournal นี้ดูนะคะ รวบรวมข้อมูลไว้ละเอียดทีเดียว http://gsama.livejournal.com/274509.html ไล่มาตั้งแต่ตอนลุงจอห์นเริ่มตั้งบริษัทใหม่ๆจนถึงยุค Golden Age นู่น คนเขียนเค้าแบ่งเป็นสี่บทด้วยกัน คือยุคก่อน SMAP, ประวัติ SMAP, ยุค SMAP และวงหลังจากนั้นมา, แล้วปิดท้ายด้วยเรื่อง Golden Age ของ Jr.
ที่เค้าใช้ SMAP เป็นตัวแบ่งยุค เพราะเค้าให้เหตุผลว่านี่คือจุดเปลี่ยนการปั้นไอดอลของค่ายนี้ จากที่วงก่อนหน้าจะเน้นร้องเพลงเป็นหลัก มีงานละครบ้าง อะไรบ้าง แต่ SMAP เป็นวงแรกที่ทำอย่างอื่นนอกเหนือจากการร้องเพลงอย่างจริงจัง แล้วก็เป็นวงแรกที่ฉีกแนวจาก idol ในยุคก่อนหน้า คือไม่ได้ขายเพลง และเน้นหล่อ เน้นเท่ แต่กล้าที่จะขายและโชว์ความบ้า ทำให้ดูเป็นคนธรรมดาๆที่จับต้องได้ เลยเข้าถึงคนได้มากกว่า และแยกกันไปทำงานในจุดเด่นของแต่ละคน ซึ่งวงยุคหลังจากนั้นมาก็เดินตามรอยสูตรนี้เหมือนกันหมด คือแสดงตัวตนออกสื่อให้คนรู้จักและผูกพัน จนกลายมาเป็นแฟนคลับ แฟนละครและแฟนเพลง ถ้าจะหาภาพที่ใกล้เคียงกันกับในเมืองไทย ก็ลองนึกถึงเด็กเอเอฟดูก็ได้ค่ะ คือแสดงตัวตนให้คนได้เห็น ได้รู้จักตลอด 24 ชั่วโมงในชั่วระยะเวลาหลายเดือน คนที่ตามดูยังไงมันก็เกิดความผูกพันอะนะ รู้สึกเหมือนเป็นเพื่อน เหมือนลูก เหมือนพี่ ฯลฯ ที่ต่างคือ ของค่ายลุงจอห์นเค้าออกสื่อในวงกว้าง ไม่ได้จำกัดแต่ทรูเหมือนเด็กเอเอฟ และผลงานของเด็กค่ายลุงจอห์นก็ออกมาประณีตกว่า คือตั้งใจทำกันจริงๆ ให้ขายได้ในวงกว้าง ไม่ใช่สักแต่ว่าทำแบบสุกเอาเผากินกะจะขายแค่แฟนคลับไปวันๆเหมือนที่ทรูทำกับเด็กเอเอฟ
เรื่องการเลือกคนมา debut ของลุงจอห์น อันนี้เราว่าเป็นพรสวรรค์ล้วนๆเลยนะ บางทีมันไม่มีหลักเกณฑ์อะไรหรอก แต่เราว่าลุงเค้ามี sense ทางนี้อะค่ะ คือมองๆเด็กคนนี้แล้วลุงแกคงเห็นอะไรสักอย่าง แล้วแกก็จับคนนู้นมาผสมคนนี้ตามความรู้สึก (หรือบางทีก็ตามสะดวก ประเภทว่าอ้อ นายมี passport เหรอ เออดี งั้นขึ้นเรือไปด้วยเลย 555) นอกจากสายตาของลุงจอห์นแล้ว ส่วนตัวเรายกเครดิตส่วนนึงให้ Iijima Michi ผู้จัดการของ SMAP ค่ะ เพราะที่ SMAP ฉีกแนวออกมาจนกลายมาเป็นต้นแบบแนวทางของเด็กค่ายนี้ในยุคปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามาจากผลงานและมันสมองสองมือของผู้หญิงคนนี้ ทั้งๆที่ร่ำๆว่าจะไม่รอดในตอนแรก แล้วแนวนี้ก็เวิร์คจริงๆใช่มั้ยล่ะคะ หลายๆคนในห้องซากุระเองก็ตกหลุมเด็กของตัวเพราะเหตุนี้แหละ บางคนก็ติดใจเพราะละคร บางคนก็ติดใจเพราะความรั่วที่ได้เห็นในรายการ ฯลฯ ไม่ใช่แค่เพราะฟังเพลงแล้วชอบ เสียงเทพ เต้นเทพ หล่อเทพอะไรแบบนั้น
จากคุณ |
:
NAJ
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ก.ย. 52 17:19:42
|
|
|
|
 |