Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
“นาธาน” ฆ่าไม่ตาย “บอส ว.ชุมชน” อุ้มเป็นดีเจ ไม่สนใครมองเอาคนไม่ดีมาทำงาน ลั่นไม่ฟังก็ช่าง  

ที่มา.....
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000111776
ของเขาดีจริงๆ “นาธาน” ฆ่าไม่ตาย “ผู้บริหารวิทยุชุมชน” อุ้มสุดชีวิต เผยเหตุทาบเป็นดีเจเพราะมั่นใจไม่ใช่คนเลว ยันเห็นสัญญาฮอลลีวูดแล้วยันเล่นหนังชัวร์ ส่วนพาสปอร์ตไม่เคยเห็นแต่ก็มั่นใจว่าเป็นลูกครึ่งเนปาล ลั่นถึงโดนหลอกก็ไม่โกรธ เรื่องคดีฉ้อโกงถูกผิดก็พร้อมช่วยเหลือ ไม่หวั่นคนมองเอาคนภาพลักษณ์ไม่ดีมาเป็นดีเจ ลั่นถ้าไม่ฟังก็ไม่เป็นไรเพราะสถานีไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์
     
      หายหน้าไปนานเลยทีเดียวสำหรับ “นาธาน โอร์มาน” หลังจากถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการโกอินเตอร์เล่นหนังฮอลลีวูด พ่วงท้ายท้ายด้วยการขุดคุ้ยประวัติว่าไม่ใช่ลูกครึ่งเนปาลอย่างที่เคยกล่าวอ้าง แต่ล่าสุดเจ้าตัวก็โผล่ไปจัดรายการ "เล่าสู่กันฟัง" คลื่นวิทยุชุมชน 91.75 TN RADIO ร่วมกับ “ชิ อนุชา ลังประเสริฐ” ผู้จัดการส่วนตัว และ “เล็ก ชนากานต์ ไชยสวัสดิ์” ผู้อำนวยการสถานี ซึ่งงานนี้ผู้บริหารสถานีถึงกับออกมาการันตรีว่า นาธานไม่ลวงโลกไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮอลลีวูด หรือเรื่องสัญชาติ เพราะเชื่อมั่นว่าเป็นคนดี และต่อให้ความจริงปรากฏว่านาธานพูดโกหก แต่ก็ยังยินดีอ้าแขนรับให้ความช่วยเหลือเสมอ ไม่หวั่นว่าหากใครจะมองว่าเอาดีเจประวัติด่างพร้อยมาร่วมงาน ลั่นถ้าใครคิดว่าเอาคนไม่ดีมาจัดก็ให้เลิกฟังไปเลยก็ได้
     
      “มันเริ่มต้นจากการที่เรารู้จักและสนิทกับชิมานานมากแล้ว ก็คุยกับชิว่าเดี๋ยวจะปิดรายการช่วง 3 ทุ่มเสาร์อาทิตย์เพราะทำไม่ไหว ชิก็บอกเดี๋ยวผมมาช่วย เราก็โอเคงั้นก็มาจัดกับเราเลยก็แล้วกัน ส่วนนาธานก็รู้จักกันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ตอนนั้นคุยกันผ่านๆ พึ่งจะมาสนิทกันช่วงหลังนี่แหละ”
     
      “คือเราคุยภาษาใต้ด้วยกันก็เลยเข้าใจกัน พอเขามีเรื่องเราก็ให้กำลังใจ ก็ถามเขาว่าอยากมาจัดรายการไหม อยากมานั่งคุยด้วยไหม ซึ่งเจ้านายของเราเปิดกว้างมากเขาไม่แคร์ เพราะเราถือคติว่า คุณจะดีหรือคุณจะร้ายกับใครก็แล้วแต่เราไม่รู้ แต่ถ้าคุณไม่ร้ายกับเรานั่นก็คือจบ”
     
      “คือเขาเป็นน้องที่เรารู้จัก เราไม่รู้ไม่สนใจว่าอะไร เราเหมือนกับพี่เอกชัย(เอกชัย ศรีวิชัย) เราคบคนที่ภาษาเหมือนกัน คือเป็นคนใต้เหมือนกัน โดยเนื้อแท้ของนาธานเนี่ย คือไม่ว่าคนอื่นจะมองยังไง แต่ทุกครั้งที่มองตาน้อง ทุกครั้งที่กอดน้องก็รู้สึกว่า ไอ้นี่มันไม่เลว เราไม่รู้ว่าคนทุกคนจะโดนกระทำอะไรมาเราไม่รู้ หรือใครจะโดนใครกระทำอะไรมาก็แล้วแต่ แต่ว่าเขาดีกับเรา และตั้งแต่รู้จักกันมาเขาก็ไม่เคยไปทำเลวที่ไหนให้เราเห็น...จริงๆ นะ คือคนเราคบกันกินเที่ยวด้วยกันถ้าเขาเอาเปรียบเราอันนี้เราไม่คบอยู่แล้ว แต่กับเขานี่ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร”
     
      “คือถ้าคุณได้รู้จักส่วนตัวกับน้อง ได้มองตาได้สัมผัสจะรู้ว่า ไอ้นี่มันไม่เลว มันไม่ใช่คนเลว เรานี่รุ่นแม่เขาเลยนะห่างกันกับแม่เขาแค่ไม่กี่ปี ก่อนจะมีเรื่องเนี่ยเวลาที่เขากลับมาเมืองไทยเขาจะกอดเราเหมือนกอดแม่ทุกครั้ง เขาจะบอกว่าอบอุ่นๆ ในความรู้สึกของเราก็คือ ถ้าเป็นญาติพี่น้องของเราหรือใครก็แล้วแต่ที่โดนกระทำแบบนี้ เราก็ต้องช่วยเขา”
     
      ยัน “นาธาน” เล่นหนังจริงเพราะเห็นสัญญามากับตา
      “เราไม่เคยถามอะไรจากเขา ถ้าเขาอยากเล่าก็ให้เขาเล่า เขาเองก็เล่าในบางเรื่อง ถามว่าเขาเล่นหนังไหม ภาษาอังกฤษเราอ่านออก เราเชื่อว่าเขาเล่น เรามีโอกาสได้เห็นตัวสัญญาเลย เขาเอามาให้ดูโดยที่เราไม่ได้ถาม เขาให้ดูเพราะเขาเห็นว่าคนที่นี่จริงใจกับเขามาก เจ้านายเราบอกว่า ถามซักคำเถอะ ถ้าคนที่เรารู้จักหรือไม่รู้จักถ้าเขาทำผิดจริงหรือไม่จริงก็แล้วแต่ แล้วเขาโดนกระทำแบบนี้ เราจะไม่มีที่ให้เขายืนเลยเหรอ เอางี้ดีกว่า คือบอกได้คำเดียวว่า นาธานไปเล่นหนังจริง พูดได้คำเดียวเลยนะ ไม่ว่าใครจะคิดยังไงก็แล้วแต่ สำหรับเราแล้วนาธานคือคนดีสำหรับเรา”
     
      มั่นใจว่า “นาธาน” ได้เล่นหนังฮอลลีวูดแน่เพราะได้เห็นสัญญาว่าจ้างกับตา ส่วนเรื่องสัญชาติเจ้าตัวก็มั่นใจ ถึงแม้จะไม่ได้เห็นหลักฐานหรือพาสปอร์ตก็ตาม
      “คือเรารู้แต่ขอไม่พูดดีกว่า อันนี้มันเรื่องส่วนตัวของน้องให้น้องเขาพูดเองดีกว่า คือถามนิดนึงนะถ้าคนที่เขาโกหกเขาต้องโกหกทุกวันไหม แล้วมันจะไม่พลาดเลยเหรอถ้าเขาโกหก(เชื่อว่าเขาเป็นคนเนปาล) เชื่อ....คือถ้าโกหกมันโกหกกันตายเลย แต่ถามว่าชีวิตใครมันอาจจะซับซ้อนก็ต้องมี คนเราไม่ได้มีพ่อมีแม่คนเดียวที่เลี้ยงเรา”
      เขาให้ดูพาสปอร์ตหรือเปล่า
      “เอาเป็นว่าเราเชื่อ....ขอตอบว่าเชื่อว่าเขาเป็นลูกครึ่ง(เชื่อว่าเขาเกิดและโตที่เนปาล) เราเชื่อในสิ่งที่นาธานบอกมากับความเป็นไปของตัวเอง แต่ความที่ไปใช้ชีวิตกับใครมีปัญหาอะไรตรงนั้นเราไม่รู้เราไม่สน(เคยเห็นหลักฐานเอกสารหรือพาสปอร์ตเขาบ้างไหม) ไม่ดูหรอก ไม่เคยขอดู เขาไม่จำเป็นต้องเอาพาสปอร์ตมาให้ดูว่าพ่อแม่ผมเป็นใคร เราเชื่อเพราะเรารู้จักเขา เราคุยกับเขา เรามั่นใจ และเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะโกหกเราเพื่ออะไรในเมื่อเราก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเขา”
     
      “ที่ผ่านมาเราก็ติดตามข่าวอ่านข่าวบ้าง แต่พอทำใจไม่ได้ก็จะไม่อ่าน เพราะรู้สึกว่าคนที่พูดไม่ใช่คนที่รู้จักนาธาน(งั้นเราก็คิดว่าสิ่งที่สื่อนำเสนอมันไม่ใช่ความจริง) คือเราไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกันอยู่ ไม่รู้จุดประสงค์ว่าพวกเขาทำอะไรกันอยู่ เราเข้าใจได้ว่าคนมันอยู่ในที่สว่างแต่บางครั้งการอยู่ในที่สว่างมันต้องโดนขนาดนี้เลยเหรอ”

จากคุณ : ตุ๊งเหน่งเต็งนุ้ง
เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 08:52:02




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com