 |
ความคิดเห็นที่ 72 |
ต่อไปขออนุญาตรีวิวซ้ำนะครับ เป็นอีักหนึ่งมุมมองของผมสำหรับเรื่อง 14 Sai no haha --------------------------------------
14 Sai no Haha " คุณแม่วัย 14 " ... พยายามเข้านะ
Title (romaji): 14 Sai no Haha Also known as: 14-year-old Mother / Juyon-sai no Haha / Mother at Fourteen Format: Renzoku Genre: Family Episodes: 11 Viewership ratings: 18.55(Kanto), 20.38(Kansai) Broadcast network: NTV Broadcast period: 2006-Oct-11 to 2006-Dec-20 Air time: Wednesday 22:00 Theme song: Shirushi by Mr. Children
Cast Correlation ChartShida Mirai as Ichinose Miki (14) Tanaka Misako as Ichinose Kanako (43) Namase Katsuhisa as Ichinose Tadahiko (45) Miura Haruma as Kirino Satoshi (15) Muroi Shigeru as Kirino Shizuka (48) Yamaguchi Sayaka as Endo Kyoko (Homeroom teacher, 25) Koumoto Junichi as Mitsui Makoto (Miki's uncle, 33) Kitamura Kazuki as Hatano Taku (Chief of editor, 38) Tanimura Mitsuki as Yanagisawa Mayu (15) Kitano Kii as Kubota Megumi (14) Koike Rina as Nagasaki Sayaka (14) Koshimizu Kazuki as Ichinose Kenta (11) Ideguchi Yumiko as Okumura Yoshiko (32) Hasegawa Kiyo as Inohara Mitsue (50) Osawa Itsumi as Matsumoto Rika (40) Kaito Ken as Yamazaki Koyo (Kirino's manager, 29) Kaneko Sayaka as Mitsui Hinako (28) Isaka Shunya as Haraguchi Kazuaki (28) Takahata Atsuko as Matoba Haruko (Doctor, 52) Onodera Akira as Nakatani Eiza (School Principal, 58) Toda Naho as Ikeyama (ep8) Sorimachi Takashi as Doctor Tsuchida (ep10-11) Enjoji Aya as one of the neighbors (ep11)
"พยายามเข้านะ" ถ้าใครดูหนังละครญี่ปุ่นบ่อยๆ รับรองเลยว่าคุณจะได้เจอคำว่า "พยายามเข้านะ" บ่อยมากถึงมากที่สุด Ganbatte ne, Ganbatte yo, Ganbatte kudasai (Gan ออกเสียงเป็น กัม นะครับ) เสมือนกับคำๆนี้เป็นจิตวิญญาณที่อยู่ใต้จิตสำนึกของชาวญี่ปุ่นจริงๆ เราจึงพบหนังละครแนว สู้เพื่อฝันเยอะมากๆ และฝันมันได้ซะทุกอย่าง ตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ ไม่ว่าจะเป็น ฝันอยากเป็นแอร์ เป็นนักบิน เป็นนักดนตรี เป็นนักร้อง เป็นนักโฆษณา ฝันเข้ารอบโคชิเอ็ง กระทั่งเป็นสาวห้างขายเก่งที่สุด หรือแม้แต่เป็นสาวเชียร์ลีดเดอร์ ก็ยังฝันกับเค้าได้ แต่... ตั้งแต่ดูมาไม่มีเรื่องไหนที่รู้สึกว่า เป็นฝันที่ดูแล้วเศร้าและหดหู่ได้ขนาดนี้ซึ่ง จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ แม้ไม่ได้มาจากการไล่ล่าหาความฝัน แต่มันก็ยังเป็นละครที่ใช้คำว่า "พยายามเข้านะ" มากที่สุดเท่าที่เคยดูมา ในการพยายามเป็น "คุณแม่วัย 14"
จุดเริ่มต้นของการดูเรื่องนี้ของผม ขอบอกว่ามาจากเหตุผลเดียวเลยครับ คือหนู Shida Mirai รู้จักเรื่องนี้ก่อนรู้จัก Mirai อีก แต่ก่อนนั้นไม่เคยคิดจะดูเพราะรู้สึกหดหู่ที่จะดูเรื่องที่เด็กวัยละอ่อนท้อง แต่บังเอิญว่าเมื่อปีก่อน ได้ดูเรื่อง Sapuri แล้วชอบหนู Mirai มากๆ เหมือนตัวขโมยซีนเลย ทำให้อยากหาผลงานเรื่องอื่นๆมาดูด้วย ในที่สุดก็เลยได้เรื่องนี้มาจนได้ แต่กว่าจะทำใจดูได้ ก็เป็นเดือนเลย ดูเรื่องอื่นก่อนไปหลายเรื่อง เรียกว่าต้องตั้งสติพร้อมรับความเศร้า
เรื่องนี้ออกอากาศในปี 2006 ปีเดียวกับ Sapuri เลย ไม่น่าเชื่อว่าใน Sapuri เพิ่งแสดงเป็นเด็กประถม มาเรื่องนี้กลายเป็นเด็ก ม.2 ซะแล้ว แต่หนู Mirai ก็ยังดูเด๊กกกก เด็กมากๆ (ตอนแสดงอายุ 13) หน้าก็ดูเด็กกว่าเพื่อนๆทุกคนในห้อง แถมยังตัวเล็กกว่าใครเลย ยังสงสัยอยู่ว่านี่หนูจะแสดงเป็นคนท้องเหรอเนี่ย
Series เรื่องนี้คงตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อสะท้อนสภาพสังคมญี่ปุ่นในปัจจุบันอย่างแรง "มิกิ" นางเอกของเรื่องเป็นสาวน้อยแก่นแก้ว อายุ 14 มีความฝันอยากเป็นดีเจ ซึ่งเธอก็เริ่มไขว่คว้าฝันโดยการเป็นดีเจกระจายเสียงของโรงเรียนเอกชนหญิงล้วนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เธอได้พบกับซาโตชิ รุ่นพี่ ม.3 อายุ 15 ที่โรงเรียนกวดวิชา ซึ่งในละครไม่ได้ปูพื้นความสัมพันธ์ก่อนหน้าของทั้งสองคนมากนักว่า สนิทกันมากน้อยระดับไหน แต่เท่าที่ดูผมว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคน ยังดูห่างไกลจากคำว่าแฟนอยู่พอสมควร คือดูแล้วยังคบกันแบบเด็กๆอยู่มาก แต่ละครไม่ได้ให้เวลาเราคิดมากนัก เพราะฉากที่ไปจนถึงจุดความสัมพันธ์ที่เกินเลย มันก็มาเร็วมากซะจนรู้สึกว่า มันง่ายเกินไปมั้ย หากเทียบกับคาแรกเตอร์ของมิกิเอง และพื้นฐานการเลี้ยงดูของครอบครัวที่มีพ่อแม่ และน้องชายอีกคน ซึ่งดูอบอุ่นมากๆ ก็ไม่แทบไม่น่าเชื่อว่าความสัมพันธ์มันจะไปเร็วขนาดนี้ แต่ผู้เขียนบท อาจต้องการสื่อให้เห็นว่า พ่อแม่ของมิกิอาจจะมองข้ามในการที่จะสั่งสอนและตักเตือนถึงเรื่องแบบนี้ เนื่องจากมองว่ามิกิยังเด็กอยู่ คงไม่มีเรื่องผู้ชายมาข้องเกี่ยว ประกอบกันมิกิเองก็เรียนโรงเรียนหญิงล้วน
จากความสัมพันธ์เพียงครั้งเดียว คงไม่ต้องบอกว่าท้องหรือไม่ ละครก็พาเราเข้าสู่โหมดหดหู่ทันที ตั้งแต่มิกิสงสัยว่าตนเองจะท้อง จนถึงตอนที่แม่และพ่อรู้ ดูแล้วรู้สึกอึดอัดเหมือนจะหายใจไม่ออก รู้สึกเศร้าและหัวใจสลายแทนพ่อแม่ แต่นับว่าเป็นโชคดีของมิกิมากๆ ก็คือ การที่มีพ่อแม่ที่ดี เข้าใจ และเป็นกำลังใจเคียงข้างลูกอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ของมิกิ ทำให้ผมเสียน้ำตาอยู่หลายๆฉาก ส่วนทางด้าน ซาโตชิเอง ก็เป็นเด็กไม่มีพ่อ มีเพียงแม่ ซึ่งเลี้ยงลูกด้วยเงิน เมื่อได้รับรู้ก็จะหาทางแก้ปัญหาด้วยเงินเช่นกัน ตัวซาโตชิ ก็ไม่เคยมีความคิดอะไรเป็นของตัวเอง การที่มีอะไรกับมิกิ ไม่แน่ว่าแม้แต่คำว่าชอบก็อาจยังไม่อยู่ในหัว ไม่ต้องพูดถึงความพร้อมในการเป็นพ่อ เป็นที่สิ่งที่กล่าวได้ว่าเป็นไปไม่ได้ ครอบครัวของมิกิจึงเสมือนต้องต่อสู้กับปัญหาเพียงลำพัง
ทางแก้ปัญหาของครอบครัวมิกิ ทางเลือกเพียงหนึ่งเดียว ก็คือ "การทำแท้ง" ซึ่งญี่ปุ่นมีกฎหมายอนุญาตให้เด็กทำแท้งได้ หากพ่อแม่ยินยอม ตรงนี้ขอนอกประเด็นนิดนึง หากประเทศไทย จะมองสภาพความเป็นจริงบ้าง ผมว่าก็น่าจะมีกฎหมายแบบนี้เหมือนกัน เพื่อให้เยาวชนของชาติส่วนหนึ่งที่ผิดพลาดไป ไม่ต้องไปพึ่งพาหมอเถื่อน ซึ่งหากบางคนที่กลัวยอมปล่อยมีลูกทั้งๆที่ไม่พร้อม ก็จะเป็นภาระให้สังคมเพิ่มขึ้นไปอีก หากจะกลัวว่า แล้วถ้าเปิดให้ทำแท้งกันง่ายๆ สังคมมันจะเหลวแหลกขึ้นอีกมั้ย ผมว่า มันคงไม่ได้แตกต่างจากสภาพความเป็นจริงทุกวันนี้หรอก
สำหรับมิกิ การที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ทำให้เธอได้รับรู้ความรู้สึกของแม่มากขึ้น สิ่งหนึ่งที่เธอได้รับรู้ก็คือ ความรู้สึกเมื่อครั้งแม่ได้มีเธอ และได้เห็นเธอเป็นครั้งแรก นี่เองเป็นการจุดประกายให้เธออยากที่จะเก็บเด็กคนนี้ไว้ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของทุกๆคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อแม่ของเธอเอง เนื่องด้วยมิกิยังเรียนไม่จบการศึกษาภาคบังคับด้วยซ้ำ อีกทั้งยังไม่เคยได้รับรู้ถึงความยากลำบากของการเลี้ยงดูเด็กในชีวิตจริงๆ
ปัญหาได้สุมรุมเร้าเข้ามาอีก เมื่อมีสื่อมวลชนได้แอบรู้เรื่องของเธอ เอาไปเป็นสกู๊ปข่าว แม้จะได้ไม่ได้มีการระบุตัวตนว่าเป็นเธอก็ตาม แต่ก็ทำให้คนรอบข้างได้รับรู้กัน ทั้งทางโรงเรียนซึ่งรู้สึกว่าเป็นที่เสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก เพื่อนซึ่งมองเธอกลายเป็นคนแปลกหน้า เพื่อนบ้านที่ซุปซิปนินทา ฯลฯ
อย่างไรก็ดี ยังถือว่ามีความโชคดีในความโชคร้ายก็คือ มิกิมีครอบครัวที่อบอุ่นเป็นกำลังใจ มีคุณหมอซึ่งเหมือนเป็นแม่พระคอยช่วยเหลือสนับสนุน ในวันที่เธอตัดสินใจว่า จะคลอดเด็กคนนี้ออกมา มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามครั้งยิ่งใหญ่ที่จะเป็นแม่คนในวัยเพียง 14 ปี โดยที่ไม่มีพ่อ แม้จะมีเสียงคัดค้านมากมาย แต่เธอก็ได้ตัดสินใจแล้ว ที่จะก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ก่อนวัยอย่างแน่วแน่ และพร้อมที่จะเผชิญอุปสรรคทุกอย่างในอนาคต
เรื่องนี้ถือได้ว่า Shida Mirai เกิดได้เต็มๆ กับบทชีวิตหนักๆ ด้วยวัยเพียง 13 (ในขณะนั้น) อีกคนที่ผมประทับใจอีกคน คือ Tanaka Misako ซึ่งรับบทคุณแม่ได้อย่างสมบทบาทมากๆ เหมือนเป็นแม่ของมิกิจริงๆเลย ละครเรื่องนี้ถือว่าเรทติ้งสูงทีเดียว เฉลี่ยถึง 18.55 ทั้งๆที่ไม่มีดาราระดับแม่เหล็กเลยซักคนเดียว (มีแค่ Sorimachi Takashi รับเชิญอยู่สองตอน) คงไม่ต้องบ่งบอกถึงคุณภาพและความนิยมของเรื่องนี้ บทก็เขียนได้ดี และน่าติดตามทุกตอน โดยเฉพาะตอนท้ายๆ ก็ทำให้เสียน้ำตาไปหลายหยดจริงๆ แต่ถ้าถามว่า แล้วผมจะแนะนำให้ใครดู บอกตรงๆ ลำบากใจเพราะมันสลดหดหู่เหลือเกิน แต่นอกจากคุณจะเป็นแฟนๆของหนู Mirai แล้ว ถ้าคุณชอบละครชีวิตหนักๆ บีบเค้นอารมณ์ความรู้สึกแทบทุกตอน ถ้าคุณกำลังเป็นคุณแม่ ถ้าคุณเป็นพ่อแม่คน ก็อยากแนะนำให้ดูเรื่องนี้ครับ ......พยายามเข้านะ ^_^
จากคุณ |
:
โอบ๊อท
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ต.ค. 52 09:16:53
|
|
|
|
 |