ความคิดเห็นที่ 1 1. ท่ามกลางแมกไม้ที่มืดมิดและเย็นยะเยือก...เป็นที่กำลังจะปิดฉากเรื่องราวการเดินทางของคนกลุ่มหนึ่ง...แต่บางผู้อาจกล่าวว่า ที่แท้แล้ว...มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ไร้ที่สิ้นสุดก็ไม่ปาน   ...ชายหนุ่มผู้นำ พร้อมกับมิตรอีกสอง กำลังรอช่วงเวลาเผชิญหน้ากับจอมมารผู้ชั่วร้าย นามมูโด้...การต่อสู้ตัดสินครั้งนี้ สำคัญมากพอที่จะปิดฉากทุกหายนะที่มีมา...หญิงสาวผมทองไม่รอช้า เป่าขลุ่ยประจำกาย เรียกมังกรยักษ์ใหญ่ พาทั้งสามบินทะยานผ่านท้องฟ้าอันดำมืด มุ่งตรงสู่ปราสาทของจอมมารผู้ชั่วช้าโดยทันที ...การเผชิญหน้ากับมารร้ายครั้งนั้น เริ่มต้นด้วยบรรยากาศที่อึมครืมพร้อมปะทุ ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอันทุกข์ทรมาน....และปิดฉากด้วยความเงียบสงัดที่น่าพิศวงสุดจะกล่าว... ในที่สุด...ทุกสัมผัสก็ค่อยๆลางเลือน...ภาพที่เห็นก็ค่อยๆจางลง...และบทสรุปของเรื่องราว ก็ละลายหายไปพร้อมความทรงจำ จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:21:12

ความคิดเห็นที่ 2 2. ...เป็นเวลานานนับปีผ่านพ้นมาแล้ว ที่ดินแดนแห่งนี้ ถูกรุกรานด้วยจอมมารผู้ชั่วช้า มูโด้...ทุกพื้นที่ที่กองทัพปีศาจย่างไปถึง ล้วนต้องนองไปด้วยเลือดและซากศพไม่เว้นห่าง...หากจะมีซักสถานที่หนึ่ง ที่ยังรอดพ้นจากภัยคุกคามนั้นได้ ก็อาจมีเพียงหมู่บ้านไลฟ์ก็อดอันแสนสงบสุข ซึ่งซ่อนเร้นอยู่กลางหุบเขาทึบนั่นเอง ณ หมู่บ้านแห่งนี้ ชายหนุ่มว่าที่ผู้กล้าของเรา อาศัยอยู่กับทาเนีย น้องสาวผู้งดงามและอ่อนโยน ทั้งสองใช้ชีวิตร่วมกันอย่างราบเรียบและมีความสุขมาแสนนาน...ความสงบเช่นนี้เอง ที่ชายหนุ่มหลงใหล และปรารถนาให้ดำรงอยู่ตลอดไป... หากแต่เมื่อวันแห่งโชคชะตาได้มาถึง ก็ราวกับฟันเฟืองที่เคยหยุดนิ่งได้เคลื่อนไหวอีกครั้ง...พระเอกของเรา ได้รับมอบหมายให้เดินทางเข้าเมืองไปพบช่างทำมงกุฎ ที่ทำหน้าที่แกะสลักเครื่องประดับชิ้นสำคัญในประเพณีบูชาเทพแห่งขุนเขา ที่ไลฟ์ก็อดจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี...แต่ระหว่างการเดินทางนั้น ด้วยอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ชายหนุ่มได้ไปพบกับนายช่างที่กำลังจะร่วงหล่นลงไปในหลุมขนาดยักษ์ ด้วยความรีบร้อนที่จะเข้าไปช่วยเหลือ...ตัวเขาเอง ก็พลัดตกลงไปในหลุมมหึมานั่นเสียเอง !!! จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:22:14

ความคิดเห็นที่ 3 3. เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมา ชายหนุ่มพบว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่...แต่อยู่กลางท้องทุ่งที่ไม่คุ้นเคย...ตัวเขาใช้เวลาไม่นานนัก ก็มาถึงตัวเมืองที่ไม่คุ้นตา แต่เจ้าตัวเพิ่งจะสังเกตเห็นสิ่งที่แปลกอย่างที่สุดว่า....ร่างกายของเขานั้น กลับผิดปกติไปเสียแล้ว...ตัวตนดูเลือนราง แขนขาดูโปร่งใส และไม่มีใครมองเห็นเขาเลยซักคนเดียว ! หรือเขาจบชีวิตลงไปเสียแล้ว? หรือหลุมนั้นคือทางผ่านมายังโลกหลังความตาย? แล้วทำไมทิวทัศน์หลังร่วงหล่น กลับเป็นทุ่งหญ้าท่ามกลางฟ้าคราม? ฯลฯ ท่ามกลางสารพัดคำถามที่ค้างคาใจ ชายหนุ่มเสาะแสวงหาเส้นทางผ่านบ่อน้ำและถ้ำลึก กลับมายังหมู่บ้านที่คุ้ยเคยได้สำเร็จ... คำถามมากมายในใจยังไม่ทันได้รับคำตอบ...คำถามใหม่ก็พลันประดังเข้ามาซ้ำอีกครั้ง...ในงานพิธีของหมู่บ้าน "เทพเจ้า" จากเบื้องบน ได้ถ่ายทอดคำพูดผ่านทาเนีย ผู้เป็นคนทรงศักดิ์สิทธิ์ มาเร่งเร้าให้ชายหนุ่มออกเดินทาง เพื่อค้นหาคำตอบที่ยิ่งใหญ่ เบื้องหลังดินแดนลึกลับแห่งนั้น ซึ่งถูกขนานนามว่า "แผ่นดินมายา"...และทั้งนี้ ก็เพื่อค้นหาคำตอบที่จริงแท้ เหนือชาติกำเนิดของตัวเขาเอง !! จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:23:00

ความคิดเห็นที่ 4 4. ชายหนุ่มแบกความคับข้องใจ ลาจากน้องสาวสุดที่รัก เดินทางไปยังปราสาทเรย์ด็อก เพื่อพบราชาหนุ่มรูปงาม เจ้าของฉายา ราชาไร้หลับ...ผู้ปราดเปรื่องกล้าหาญ และเป็นกำลังหลักของเหล่ามนุษย์ในการต่อกรกับจอมมารมูโด้ ทั้งยังศึกษาเรื่องลึกลับอย่าง "แผ่นดินมายา" อย่างจริงจัง ที่นั่น พระเอกของเราได้พบกับนักสู้หนุ่ม นักกล้ามจอมพลัง ฮัตซัน (Hassan) ที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก...ทั้งสองได้ร่วมเดินทาง และผ่านการทดสอบเป็นทหารหาญในสังกัดราชาด้วยกัน จนเมื่อได้สร้างผลงานเป็นที่น่าพอใจ ด้วยการจับม้าศึกอย่าง ฟาลชิออนได้สำเร็จ ก็ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญ ในการค้นหาไอเทมในตำนาน ที่อาจจะปิดฉากศึกตัดสินกับมูโด้ ที่ยืดเยื้อมาเนิ่นนานได้สำเร็จ...ไอเทมที่สะท้อนเพียงภาพความจริงที่ไม่บิดเบือน นามว่า "กระจกแห่งรา" 5. ระหว่างการเดินทาง ทั้งสองพลัดตกลงไปยังหลุมขนาดยักษ์อีกแห่งหนึ่ง สู่แผ่นดินมายา ดินแดนเบื้องล่างอีกครั้ง...และเช่นเดิม ไม่มีใครมองเห็นเขาทั้งสองเลยซักคน หากแต่ว่า ทั้งคู่ได้มาพบกับคนเพียงหนึ่ง ที่รับรู้การมีอยู่ของพวกเขาได้...หญิงผู้มีใบหน้าคุ้นตา ราวกับหลบเร้นอยู่ในซอกหลืบของความทรงจำ สาวงามผมสีทอง นามว่า มูริเอล (Muriel) สาวน้อยไม่เอ่ยปากคำใดให้มากความ แต่พาชายทั้งสองไปค้นหาไอเทมผลึกแห่งความฝัน เพื่อนำกลับมาให้แม่เฒ่าพยากรณ์ ผู้เป็นยายปรุงเสก และทำให้ร่างกายของทั้งสอง ปรากฎเป็นรูปร่าง ต่อหน้าผู้คนได้สำเร็จ ! ยายเฒ่าไม่ตอบคำถามอื่นใด แต่ขอให้หลานสาวร่วมเดินทางไปด้วย และกล่าวว่า อีกไม่นาน คำตอบทั้งหมดจะมาอยู่เบื้องหน้าของทั้งสองเอง... จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:24:23

ความคิดเห็นที่ 5 6. ยิ่งภารกิจในดินแดนมายาดำเนินไป ชายหนุ่มก็ยิ่งพบกับเรื่องราวแปลกประหลาดเพิ่มขึ้นตามลำดับ...ตัวฮัตซันเอง ค้นพบว่าตัวเองมีความสามารถในเชิงช่าง ถึงขนาดที่สร้างบ้านหลังเล็กได้ด้วยตัวคนเดียว...ทั้งๆที่ไม่เคยได้ฝึกฝนมาก่อน และยังมีเหตุการณ์ที่ถูกทักโดยคู่สามีภารยาที่ไม่คุ้นหน้า มากล่าวอ้างว่าเขาเป็นลูกแท้ๆ...หรือกระทั่งพระเอกของเรา ก็ยังถูกเข้าใจผิดว่า เป็นเจ้าชายแห่งเรย์ดอร์คที่หายสาบสูญไปเสียด้วยซ้ำ !!! แผ่นดินมายา ที่ดูผิวเผิน ไม่ต่างจากโลกเบื้องบนของพวกเขา กลับกุมเรื่องราวที่แตกต่าง และปริศนามากมายที่ขบไม่ออก...ราชาไร้หลับของเรย์ดอคแห่งแผ่นดินมายานี้ ก็กลายเป็นเพียงพระราชาและพระราชินีสูงอายุ ที่หลับไหลมาตลอด จากอำนาจของมูโด้ไปเสียแล้ว !! ---- อย่างไรก็แล้วแต่...ภารกิจตามหากระจกแห่งราต้องดำเนินต่อไป ทั้งสามเดินทางไปยัง "หอคอยกระจก" ที่ซึ่งพวกเขาได้พบกับสาวน้อยบาบาร่า (Babara) ผู้ซุกซนและลึกลับ เธอเป็นอีกหนึ่งผู้ ที่มีอาการตัวโปร่งแสง เหมือนกับคนที่หลงมาจาก"โลกเบื้องบน" เช่นชายหนุ่ม...หากแต่ว่า สิ่งที่เธอสูญเสียไป ไม่ใช่เพียงแค่กายเนื้อ แต่เป็นถึง"ความทรงจำ" ที่เลือนรางยิ่งกว่าตัวชายหนุ่มและฮัตซัน...เธอจดจำสิ่งใดเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้เลย แม้แต่อย่างเดียว มูริเอลได้ช่วยให้ร่างกายเธอกลับมาเป็นปกติ และให้บาบาร่าร่วมเดินทางไปด้วยกัน...ทั้งสี่นำกระจกแห่งรากลับไปยังดินแดนเบื้องบน เพื่อมอบให้กับราชาไร้หลับแห่งเรย์ดอค...กษัตริย์หนุ่มดีใจเหลือจะกล่าว รับกระจกวิเศษไปถือ และมั่นใจว่า การศึกครั้งนี้ จะต้องถึงบทสรุปเป็นแน่แท้ ...แต่วินาทีนั้นเอง กระจกที่สะท้อนเพียงภาพความจริง กลับเปล่งแสงสาดส่องไปยังราชา และฉับพลัน ร่างกายของเขาก็เปลี่ยนไป...ราชาหนุ่มไร้หลับแห่งเรย์ดอค ได้กลายสภาพเป็นหญิงสูงอายุหน้าคุ้นตา...พระราชินีผู้หลับไหล ที่นอนนิ่งอยู่ที่เรย์ดอคของแผ่นดินมายาเบื้องล่างนั่นเอง !! จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:25:39

ความคิดเห็นที่ 6 7. ท่ามกลางความสับสนของคนทุกผู้ ราชินีกล่าวเพียงว่า ราชาไร้หลับนั้น ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง เป็นตัวของเธอนั่นเอง...และที่ยิ่งกว่านั้น จอมมารมูโด้ที่กำลังรุกรานโลกเบื้องบนแห่งนี้...ที่แท้จริงแล้ว ก็คือพระราชาแห่งเรย์ดอค พระสวามีของเธอ ที่เราเคยเห็นหลับไหลอยู่ข้างเคียงกัน !!! พระราชินีขอพักทุกคำถามไว้ และให้คณะเดินทาง รีบมุ่งไปกำจัดมูโด้...จนเมื่อถึงวินาทีเป็นตาย จอมมารมูโด้กำลังจะพ่ายแพ้ลง มันร่ายคาถาลวงตา พร้อมจะหลบฉากไปเช่นทุกที...ผู้กล้าใช้กระจกแห่งราโดยไม่รอช้า เผยร่างจริงของจอมมารมูโด้ ว่าเป็นพระราชาแห่งเรย์ดอคอย่างที่กล่าวไว้จริงๆ ...จอมมารสิ้นสูญไปแล้ว...โลกเบื้องบนกำลังจะเข้าสู่ความสงบสุข แต่ทุกคนรู้ว่า ปัญหายังไม่จบสิ้น...เมืองเรย์ดอคที่นี่ ไร้ซึ่งผู้ปกครองไปเสียแล้ว...คณะเดินทางได้ลงไปยังโลกเบื้องล่าง เพื่อเข้าพบพระราชาและพระราชินีแห่งเรย์ดอคของแผ่นดินมายา พร้อมกับได้รับฟัง"ความเป็นจริง" เบื้องหลังนามเรียกขานอันไม่น่าพึงใจนี้ในที่สุด "โลกเบื้องล่าง - แผ่นดินมายา" แห่งนี้ โดยแท้แล้ว มันคือ "โลกแห่งความเป็นจริง" ที่ซึ่งจอมมารมากมาย นำโดยมูโด้ ได้ยาตราทัพปีศาจร้าย รุกรานผู้คนมานานนับปี.... และโลกเบื้องบน ที่ชายหนุ่มจากมา หากจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมาแล้ว มันก็คือ "โลกแห่งความฝัน"...เป็นดินแดนคู่ขนาน ที่เป็นศูนย์รวมของความฝัน ความหวัง และความปรารถนาของผู้คนจากโลกแห่งความเป็นจริงนั่นเอง !!! ----------   *: Realms of Reverie   ...พลังอันกล้าแข็งที่มนุษย์ทุกผู้ครอบครองไว้ และเหล่าปีศาจได้แต่เพียงริษยา ก็คือสิ่งที่เรียกว่า "ความฝัน" ซึ่งเป็นทั้งบ่อเกิดของความกล้าหาญ ความรัก และแรงบันดาลใจ...สิ่งที่ตกผลึกมาจากความปรารถนาที่แรงกล้าเหล่านั้น ก็คือ"กายจิต"ที่ก่อเป็นรูปร่าง อาศัยอยู่ที่ "โลกเบื้องบน-โลกแห่งความฝัน" ในฐานะของอีกชีวิตหนึ่งนั่นเอง ในโลกแห่งความฝัน ลูกชายช่างไม้ผู้เบื่อหน่ายอย่างฮัตซัน ก็กลายมาเป็นนักเดินทางเร่ร่อนที่ทรงพลัง พระราชาที่หมายครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่เพื่อพิชิตทุกศัตรูร้าย ก็กลายมาเป็นจอมมารตัวฉกาจไปเสียเอง พระราชินีที่ต้องการทั้งเวลาและพลังชีวิตที่ล้นเหลือมาช่วยผู้คน ก็กลายมาเป็นพระราชาหนุ่มผู้ไร้ซึ่งการนอนหลับ.. ฯลฯ ทั้งหลายเหล่านี้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่ของความฝัน ซึ่งสามารถมอบ"ความเป็นไปได้"อันไร้สิ้นสุดให้กับผู้คน...นี้เอง คือสิ่งที่จอมมารทุกตนแสนหวาดกลัว และหวังจะครอบครองมา โดยการเล่นสนุกกับผู้คนในโลกแห่งความฝัน ทั้งกัดกิน ทั้งสังหาร และชิง"พลังแห่งฝัน"อันยิ่งใหญ่นี้ ไปจากพวกเขาในที่สุด !! จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:28:40

ความคิดเห็นที่ 7 8. ตัวต่อหลายๆชิ้นๆ ค่อยๆถูกจัดเรียงลงไป ในหัวใจที่เต้นระรัวของชายหนุ่ม...เขาค่อยๆนึกได้แล้วว่า เรื่องราวทั้งหลายนั้น เป็นมาเช่นไร...สิ่งที่มูริเอลปิดปากเงียบมาตลอดการเดินทาง...คือเรื่องราวการต่อสู้ของตัวเขา ฮัตซัน และสาวน้อย ที่เคยเผชิญหน้ากับจอมมารมูโด้ตัวจริงมาเมื่อก่อนหน้า ทั้งสามเคยเข้าต่อสู้อย่างมุ่งมั่น และพบว่าพลังแห่งความมืดนั้นยิ่งใหญ่เกินจะกล่าว...มูโด้ใช้พลังตรึงทั้งสามไว้อย่างไร้ทางสู้ สาปเพื่อนพ้องให้กลายเป็นหิน และซัดชายหนุ่มจนสิ้นสภาพไป...ร่างจิตใจของฮัตซันและมูริเอล ไปปรากฎตัวอยู่ที่โลกแห่งความฝัน...สำหรับชายหนุ่มเองก็ไม่ต่างกัน...ร่างเนื้อของเขา หายสาบสูญไปตั้งแต่ศึกครั้งนั้น...สิ่งที่เหลือไว้ ก็มีเพียงความหวาดกลัวต่อการต่อสู้ ความหวาดหวั่นที่จะสูญเสีย และความโดดเดี่ยวที่ไร้สิ่งพึ่งพิง... ร่างจิตของผู้กล้า ก่อเกิดขึ้นที่โลกแห่งความฝันเบื้องบน...ในดินแดนกลางขุนเขา ไลฟ์กอด ที่ซึ่งเต็มไปด้วยความสงบสุข ไร้ซึ่งการต่อสู้ รายล้อมด้วยผู้คนมากมาย และน้องสาวผู้น่ารักและอ่อนโยน ตัวแทนของน้องสาวที่แท้จริง ที่ชายหนุ่มสูญเสียไปตั้งแต่วัยเยาว์นั่นเอง..."ตัวเขา" ในตอนนี้ เป็นผลผลิตที่ได้จากความอ่อนแอในจิตใจของร่างเนื้อ ที่แม้ปัจจุบัน ก็คงยังวิ่งหนีหายนะที่คุกคามโลกใบนี้ โดยไม่ทำอะไรเลย !!! จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:29:42

ความคิดเห็นที่ 8 9. แม้ราชาและราชินีแห่งเรย์ดอค จะอยากให้ระลึกได้ในทันทีว่า ผู้กล้าของเรา เป็นลูกชายที่แท้จริงของพวกเขา และเป็นเจ้าชายผู้ชอบธรรมของเรย์ดอค ซึ่งกล้าหาญพอที่จะไปเผชิญหน้ากับจอมมารด้วยตัวเอง ในยามที่พวกเขาถูกคำสาปให้หลับไหล...แต่ดูท่าว่า ผู้กล้าจะยังไม่ยอมรับในตัวตนของตัวเอง และสิ้นหวังกับความอ่อนแอของร่างเนื้อ...ทั้งสองจึงให้ชายหนุ่มออกเดินทางอีกครั้ง เพื่อค้นหาตัวต่อชิ้นสุดท้ายด้วยตัวเอง...และเผชิญหน้ากับจอมมารมูโด้ รวมทั้งจอมมารคนอื่นๆ ที่ก่อการร้ายอยู่ทั่วทุกมุมของโลก ภายใต้คำสั่งของจักรพรรดิปีศาจ...ราชาฝัน เดธตามัวร์ !!! ผู้กล้าได้ออกเดินทางไปยังเผ่าศักดิ์สิทธิ์เกนโด้ (Gent) และได้ผูกมิตรกับจอมเวทย์ผู้แข็งกล้า จาโมโร่ (Chamoro) จนได้รับเรือใบเวทย์ แล่นไปยังปราสาทที่แท้จริงของจอมมารมูโด้ได้ในที่สุด ฮัตซันได้พบกับร่างเนื้อของตัวเองที่ถูกสาปเป็นหิน และได้หลอมรวมกายจิตเข้ากับกายหยาบ เรียกความทรงจำและความสามารถแต่ดั้งเดิมออกมา...การต่อสู้กับมูโด้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แต่ราวกับประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย...จอมมารตรึงทุกคนไว้ด้วยพลังอันแข็งกล้า...และใช้เวทย์ชั่วร้ายเข้าจู่โจม ซัดคณะผู้กล้าของเรา กระเด็นกลับไปยังโลกแห่งความฝันอีกหน !!! แต่ครั้งนี้ ชายหนุ่มไม่ยอมพ่ายแพ้อีกต่อไป กระจกแห่งราเปล่งแสงออก ภาพความฝันค่อยๆเลือนหายไป ชายหนุ่มบอกลาน้องสาวสุดที่รัก และพุ่งกลับมายังโลกแห่งความจริงพร้อมกับเพื่อนพ้อง ก่อนร่วมแรงกัน กำจัดจอมมารมูโด้ได้ในที่สุด จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:31:02

ความคิดเห็นที่ 9 *: Dark Emperor   จักรพรรดิปีศาจ เดธตามัวร์ ผู้เป็นราชาแห่งความฝัน หมายจะกัดกินความฝันมากมายของเหล่ามนุษย์ ที่ล้วนทรงพลังและไร้ขีดจำกัด แต่อีกเหตุผลสำคัญก็คือ เพื่อขจัดเสี้ยนหนามที่อาจก่อการเหนือความคาดหมายของตนได้นั่นเอง...เพื่อการนั้น จอมมารทั้งสี่ ลูกน้องคนสนิทของเดธตามัวร์ จึงถูกส่งไปรุกรานดินแดนต่างๆ และผนึกสถานที่สำคัญทั้งหลายไว้ ไม่ให้ปรากฎแม้แต่ในโลกแห่งความฝัน มูโด้ ผนึกวิหารดาร์มา สถานที่ถ่ายทอดคำสอน และทักษะแห่งสายอาชีพทั้งปวง จามีราส ผนึกปราสาทราชาเหรียญเล็ก ที่เก็บสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์อันล้ำค่าและทรงพลัง กราคอส ผนึกเมืองเวทย์คาลเบอร์โรนา บ่อเกิดแห่งมหาเวทย์มาดันเต้ ที่ทำลายทั้งภาพฝันและความจริงให้แหลกเป็นจุล และสุดท้าย ดูรัน ผนึกปราสาทลอยฟ้า สถานที่ที่รวบรวมเหล่านักรบจากทั่วแผ่นดิน และเป็นเส้นทางเดียว ที่เชื่อมต่อไปยังวิหารแห่งอาชาสวรรค์...พาหนะเพียงหนึ่ง ที่จะเดินทางสู่โลกแห่งความมืด...ที่กบดานของจักรพรรดิเดธตามัวร์ !!! ----------   10. หลังจากกำจัดจอมมารไปที่ละคน พวกเขาก็สามารถค้นพบชาติกำเนิดของบาบาร่า ว่าเป็นร่างจิตที่สืบทอดสายเลือดของนักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองคาลเบอร์โรน่าแล้ว เธอก็ได้เรียนรู้มหาเวทย์มาดันเต้...พลังที่ไร้ขีดจำกัดซึ่งมารร้ายหวาดกลัวเป็นที่สุดมาได้สำเร็จ...ภาพสุดท้ายของการเดินทาง ก็ดูจะชัดเจนขึ้นตามลำดับ ...และแล้ว ผู้กล้าของเรา ก็ได้มาพบกับ"กายหยาบ" หรือร่างเนื้อของตัวเองซึ่งเฝ้าค้นหามานาน ในเมืองไลฟ์กอดแห่งโลกจริงนั่นเอง...หากจะบอกว่า ความกล้าหาญและมุ่งมั่น สถิตอยู่กับร่างจิตที่ไร้ซึ่งพลังเช่นเขาแล้ว...พละกำลัง และความสามารถ ก็มาอยู่กับร่างเนื้อ ที่ไร้ซึ่งแรงบันดาลใจ และเต็มไปด้วยความหวาดกลัวคนนี้นี่เอง เมื่อครั้งที่พ่ายแพ้ต่อมูโด้ ร่างเนื้อของพระเอก ได้ซมซานมาถึงกลางเขา และได้พบกับทาเนีย สาวน้อยผู้โดดเดี่ยวที่ปรารถนาจะมีพี่ชายเสมอมา...ทั้งสองจึงอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขมาตลอด...แต่ครั้งนี้ เมื่อร่างจิตได้เดินทางมาถึง และเรียกสติให้ร่างต้นเช่นเขา กล้าที่จะก้าวเดินต่อ เพื่อทำเป้าหมายเดิมให้บรรลุเสียที...ชายหนุ่มจึงรู้สึกตัว และตัดสินใจหลอมรวมกับร่างจิต กลายมาเป็นเจ้าชายแห่งเรย์ดอค-ผู้กล้าที่สมบูรณ์อีกครั้ง พร้อมกับเรียกขานเวทย์ประจำตัว สายฟ้าจากฟากฟ้า "ไรดีน" ได้สำเร็จ จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:34:35

ความคิดเห็นที่ 10 11. จอมมารคนสุดท้าย อาศัยอยู่ที่โลกแห่งฝัน พร้อมผนึกปราสาทลอยฟ้าขนาดมหึมาเอาไว้อย่างแน่นหนา...ปราสาทอันเป็นที่สถิตแห่งกายจิต ของเหล่านักรบที่รวบรวมมาจากทั่วแผ่นดินแห่งความเป็นจริง...แม้ในยามนี้ สถานที่แห่งนี้ จะถูกยึดครองโดยเหล่ามอนสเตอร์นับไม่ถ้วน จนได้รับฉายาว่าเป็นปราสาทนรก...หากแต่โดยแท้แล้ว ย่อมไม่อาจบดบังความศักสิทธิ์ ที่สั่งสมมาแต่หนหลัง ในชื่อที่รู้จักโดยทั่วกันว่า "ปราสาทนภา" นั่นเอง !! ทว่า การจะเข้าถึงปราสาทนภาได้นั้น จำเป็นจะต้องรวบรวมเซตอุปกรณ์ในตำนาน ที่สืบทอดมาจากยอดนักรบแต่กาลก่อนให้ได้จนครบทั้งสี่ชิ้น...โดยไม่รอช้า คณะผู้กล้าของเราออกเดินทางท่องโลก เพื่อค้นหามรดกตกทอดจากเหล่าวีรชนคนกล้าโดยทันที... ดาบแห่งราเมียส ที่ผนึกอยู่กลางขุนเขาหิมะอันหนาวเน็บ โล่แห่งสฟีด้า ที่ซ่อนเร้นอยู่ใต้ถ้ำลึกไร้สิ้นสุด   เกราะแห่งออโก้ ที่หลงเหลืออยู่ในเมืองที่ถูกเพลิงนรกแผดเผา   หมวกแห่งเซบาส ที่ถูกเก็บรักษาไว้โดยราชาต้องสาป และแล้ว อุปกรณ์แห่งตำนาน ก็ถูกวางบนแท่นบูชา...คณะผู้กล้า เรียกขานปราสาทนภาจากโลกแห่งฝันมาได้สำเร็จ และขึ้นไปเผชิญหน้ากับจอมมารดูรันโดยไม่รอช้า ! จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:35:35

ความคิดเห็นที่ 11 12. ...ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา มีนักรบคนกล้าอีกหนึ่ง ที่คณะเดินทางได้พบเจอเป็นระยะ ทั้งปะทะ ทั้งแข่งขัน ทั้งช่วงชิง...นักดาบมากฝีมือ นามเทอรี่ (Terry) ซึ่งมักจะก้าวนำผู้กล้าของเราไปหนึ่งก้าวเสมอ...ตัวเทรี่เอง ปรารถนาความแข็งแกร่งเป็นที่สุด ทั้งดิ้นรนแสวงหาทั้งพลัง และยุทโธปกรณ์ทั้งหลาย ให้ได้มาซึ่งความสามารถที่จะปกป้องคนสำคัญได้ ไม่ให้ตัวเองต้องสูญเสียใครไป เหมือนที่เคยพรากจากพี่สาวของตนเมื่อครั้งเยาว์วัย ความกระหายนั้น นำพาเทอรี่มายังปราสาทนภา และถูกครอบงำโดยพลังด้านมืดของดูรัน...ผู้กล้าของเรา จำต้องต่อสู้กับเทอรี่ และเรียกสติกับความทรงจำของเขากลับคืนมา ว่าเป็นเพียงเด็กน้อยผู้โดดเดี่ยว ที่ใช้ความพยายามอย่างมากในการเติบโตด้วยตัวคนเดียว...ตั้งแต่เมื่อครั้งพรากจากพี่สาวสุดที่รัก...มูริเอลนั่นเอง !! เรื่องราวแต่หนหลังกลับคืนสู่ทั้งสอง พี่น้องได้พบกันอีกครั้ง คณะเดินทางได้เข้าปะทะกับดูรัน และปลดปล่อยปราสาทแห่งนภา ผนึกสุดท้ายได้สำเร็จ จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:36:23

ความคิดเห็นที่ 12 13. แผนการที่ดูรัดกุมและรอบคอบของเดธตามัวร์ ถูกผู้กล้าทำลายจนหมดสิ้น ทั้งหมดเดินทางไปยังหอคอยเปกาซัส พร้อมกับปลุกความทรงจำที่หลับไหลของฟาลซิออน...อาชาสวรรค์ลืมตาตื่น สยายปีกขาว ทะยานไปสู่โลกปีศาจโดยทันที !! โลกปีศาจ มืดมนและหม่นหมองสมชื่อ...ที่แห่งนี้ เป็นที่รวมของเหล่าผู้ที่ถูกกัดกินความฝันไปจนสิ้น ไร้ซึ่งความหวังและแรงบันดาลใจใดๆ ได้แต่จ่อมจมอยู่ท่ามกลางความสิ้นหวัง ตัณหา และความโศกเศร้า ผู้กล้าได้เข้าปฏิวัติ ปลดปล่อยวิญญาณทั้งหลายจากความมืด และเข้าเผชิญหน้ากับจักรพรรดิเดธตามัวร์ ราชาแห่งความฝันโดยทันที !! การเผชิญหน้ากับความชั่วร้าย ที่เล่นสนุกกับความฝันและความหวังของผู้คน กำลังจะเริ่มต้นขึ้น โลกทั้งสามกำลังสั่นคลอน...บทสรุปสุดท้าย ของการเดินทางคู่ขนาน ระหว่างร่างกายกับจิตใจ มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว !!                               ~ Dragon Quest 6 ~                                       ~ Fin ~ จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:37:34

ความคิดเห็นที่ 13 *: Missing Piece ดราก้อน เควส 6 "แผ่นดินมายา" เป็นการปิดฉากไตรภาคแห่งนภาลงโดยสมบูรณ์...หากดูเพียงผิวเผินแล้ว ดูจะเป็นเนื้อเรื่องที่แตกแขนงแยกย่อยออกมา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสองภาคก่อนหน้าเสียเลย แต่ที่แท้แล้ว ตลอดทั้งเรื่อง ได้สอดแทรกเบาะแสที่สำคัญ ที่บ่งชี้ให้เห็นว่า ภาคสุดท้ายนี้เอง ที่มาทำหน้าที่เป็นกรอบที่สำคัญยิ่ง และเป็น"จุดเริ่มต้น" แรกสุด ของตำนานผู้กล้าแห่งนภา ว่าหมายถึงผู้กล้าแห่งดรากอน เควส 6 คนนี้นี่เอง !! ...เซตอุปกรณ์ในตำนานทั้งสี่ใน DQ6 มีความเป็นมาและระบุเจ้าของอย่างชัดเจน...การที่มันมีพลังในการเปิดเส้นทางสู่ปราสาทนภาจากฟากฟ้า ก็ทำให้เข้าใจได้ว่า อุปกรณ์เหล่านี้นี่เอง ที่ภายหลังถูกเรียกขานตามชื่อตัวเอกของเรา (ผู้ปลดปล่อยปราสาทลอยฟ้า และรั้งตำแหน่งผู้กล้าแห่งนภา) จนถูกตั้งชื่อใหม่ว่า "เซตอุปกรณ์แห่งนภา" ที่ผู้เล่นคุ้นหูมาตลอดภาคก่อนหน้า (เป็นรูปแบบการถ่ายทอดเรื่องราว เช่นเดียวกับที่อุปกรณ์ในไตรภาคโรโตะ ถูกเปลี่ยนชื่อตามผู้กล้าใน DQ3) ----------   ปราสาทแห่งนภา เป็นสถานที่แห่งเดียวกับสองภาคก่อน ซึ่งผู้ปกครอง ณ ตอนนี้ เป็นราชาแห่งนภาที่เราไม่คุ้นตา...หากแต่ที่ชั้นใต้ดินของปราสาท จะมีผู้เฝ้า "ไข่" ใบยักษ์อยู่...ราชาแห่งนภาได้กล่าวว่า สิ่งนี้คือ"ความหวัง" ที่จะสืบทอดอนาคตของชาวนภา ที่เป็นผู้ปกครองดินแดนแห่งความฝันทั้งปวง...ในฉากจบสุดท้ายของเกมส์ ไข่ใบนี้ได้แตกออก และแสงจ้าก็สาดส่องออกมา พร้อมกับรอยยิ้มของผู้คนที่มีต่อ"ความหวังใหม่" ที่กำลังจะมาถึง...และเรื่องราวก็จบลงตรงฉากนี้ ผู้เล่นจำนวนมาก เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า จากไทม์ไลน์ที่เกิดก่อนหน้า รูปฉากที่สอดคล้อง แล้วก็ตำนานเรื่องเล่าทั้งหลายนั้น...สิ่งที่ฟักจากไข่ใบใหญ่นั้น ก็คงมิใช่อื่นใด นอกไปจาก "มาสเตอร์ดราก้อน" (Zenith Dragon) ผู้ปกครองปราสาทนภา ผู้กำจัดปีศาจสุดยอดสิ่งมีชีวิตที่ก่อภัยพิบัติ และผู้นำทางแก่ผู้กล้าของดราก้อน เควส 4 และ 5 ในอนาคตนั่นเอง !! ด้วยทฤษฎีสนับสนุนที่ชัดเจน ทำให้มุมมองนี้ ถูกยอมรับอย่างกว้างขวาง แต่ชิ้นส่วนสุดท้ายที่ขาดไป ก็คือ"การยืนยัน" จากผู้สร้าง ที่ไม่ได้ให้มาอย่างตรงไปตรงมาเหมือนคราว DQ3...ทำให้ผู้เล่นต่างคาดหวังว่า การรีเมคครั้งสำคัญ ที่ลงให้กับเครื่องเกมส์ Nintendo DS นี้ จะตอบปัญหาที่ค้างคามากว่า 14 ปี และปิดฉาก "ไตรภาคแห่งนภา" ได้สมบูรณ์เสียที แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 52 08:40:06 จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:39:29

ความคิดเห็นที่ 14 *: System ระบบต่างๆใน DQ6 ได้ยิบยก และตัดทอนจากภาคก่อนๆไปหลายอย่าง...มาครั้งนี้ เราไม่มีระบบกลางวัน-กลางคืน แบบภาคก่อนหน้าอีกแล้ว แต่จะใช้การนำเสนอเรื่องราวชีวิตของคนในโลกแห่งความจริง-โลกแห่งความฝันแทน ซึ่งจุดนี้ เป็นจุดที่สนุกอีกจุดหนึ่งของภาค...การที่เราได้พบเจอเหล่าชาวบ้าน ที่เป็นตัวละครประกอบในโลกความเป็นจริง ได้พูดถึงความฝันของตัวเองในแง่มุมต่างๆ ว่าฝันอยากเป็นยังงั้น ฝันอยากทำอย่างนี้...หลายคน เราจะได้มาพบ"ร่างจิต" ของพวกเขา ในโลกแห่งความฝัน และพบว่า กลายเป็นคนอย่างที่ฝันไว้จริงๆ...เป็นมุขยิบย่อย แสดงความละเอียดอ่อนในการวางบทตามสไตล์ DQ ได้เช่นเดิม ส่วนระบบหลัก ใหม่สด ที่เป็นจุดขายสำคัญ และเรียกเสียงชื่นชมมากที่สุด ก็เป็น " Class System" หรือระบบอาชีพอันลือลั่น...จากเมื่อครั้งแรกเปิดตัวในภาค 3 ที่เปิดโอกาสให้เราเลือกอาชีพของเพื่อนร่วมทางได้อย่างอิสระ ก่อนที่จะค่อยๆพัฒนาความสามารถไปตามสายอาชีพ มาครั้งนี้ เราจะสามารถใช้ตัวละครตัวเดิม ผสมผสานหลายๆอาชีพ ที่เรียนรู้จนถึงระดับสูงสุดแล้ว มาทำให้เกิดเป็น'อาชีพใหม่' ที่แกร่งขึ้นไปอีกระดับ ให้เลือกเรียนรู้ได้ หรือที่เรียกว่า Hybrid Class นั่นเอง ! จากอาชีพพื้นฐานเช่น นักรบ นักเวทย์ นักกังฟู ขโมย ก็สามารถค่อยๆพัฒนา สั่งสมความสามารถ กลายเป็นอัศวินพาลาดิน นักรบเวทย์ จอมปราชญ์ ซูเปอร์สตาร์ หรือกระทั่งเป็น "ผู้กล้า" ได้ในที่สุด ! มินิเกมส์ยิบย่อย ก็ยังคงพบได้ทั่วไป ทั้งคาสิโน การสะสมเหรียญเล็ก ลานประลองสไลม์ และการประกวดความงาม ที่เป็นการประชันระดับความดูดี มีสไตล์ของตัวละครกันนั่นเอง ...และที่ลืมไม่ได้ ก็คือนี่เป็นภาคแรกของซีรีย์ ที่ตัวละครศัตรู มีอนิเมชัน ขยับได้อย่างจริงจัง !! จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:41:39

ความคิดเห็นที่ 15 *: After Ending ในฉากจบสุดท้าย จะตัดไปมา แสดงเรื่องราวของเพื่อนพ้องแต่ละคนของเรา แต่จะมีความลับซุกซ่อนอยู่ เมื่อฉายไปถึงตัวเทอรี่ ที่พบกับ"แสงลึกลับ" บางอย่างในถ้ำที่ผู้เล่นคุ้นตา...หากเปิดเซฟมาใหม่ และกลับไปค้นตรงจุดนั้น จะพบกับไอเทมพิเศษ ในการเปลี่ยนเป็นอาชีพสุดยอดอันสุดท้าย "Metal Bubble" หรือก็คือ อาชีพสายเมทัลสไลม์ที่สุดยอดแข็งแกร่ง และคนในยุคนั้น คุ้นเคยกับชื่อไอเทม "จิตฮาคุเร" นั่นเอง ที่ใต้ดินวิหารดาร์มาซึ่งเอาไว้เปลี่ยนอาชีพ จะมีห้องลึกลับห้องหนึ่ง เต็มไปด้วยโคมไฟจำนวนมาก...ที่หากผู้เล่นเรียนรู้อาชีพต่างๆให้เติบโตไปถึงระดับหนึ่ง โคมไฟก็จะติดขึ้นทีละดวงๆ...และเมื่อผู้เล่นได้เรียนรู้อาชีพเมทัลสไลม์ที่ได้มาอันสุดท้ายนี้จนสำเร็จ...ไฟโคมสุดท้ายก็จะติดขึ้น เปิดทางสู่ดันเจียนลับ หลังจบเกมส์ในที่สุด !! ----------   เราจะฝ่าฟันศัตรูสุดโหดไปถึงโลกพิศวงอีกแห่ง ที่หลอมรวมโลกจริงกับโลกฝันเข้ากันอย่างพิลึกพิลั่น และยังพบกับมุขตลกสอดแทรกมากมาย ที่อ้างอิงถึงตัวละครเก่าๆจากภาคก่อนหน้า เช่นนักเต้นรำมีนา-มายา พ่อค้าทอร์เนโค หรือกระทั่งลุงซันโจกับเด็กน้อยฝาแฝด ผู้ตามหาพ่ออีกด้วย ! ที่ปลายทาง เราจะมาโผล่ยังเมืองเกรซ...ที่ซึ่งก่อนหน้านี้ พระราชาได้ทำพิธีเรียกสุดยอดปีศาจจากโลกใต้พิภพขึ้นมา หมายจะให้ไปกำจัดเดธตามัวร์ แต่ก็ถูกมารผู้โมโหร้าย เข่นฆ่าและแผดเผาคนทั้งเมืองจนสิ้น (ซึ่งตามเนื้อเรื่อง เราจะได้รับเกราะแห่งออโก้จากซากเมืองแห่งนี้นั่นเอง) มาคราวนี้ ปีศาจร้ายสุดยอดแห่งความแข็งแกร่ง ดาร์ค ดรีม (Dark Dream) ก็ถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง และเข้าต่อสู้กับผู้กล้าทันที บอสลับสุดโหดตัวนี้ เก่งกาจสมชื่อ...แค่ปราบธรรมดาก็ยังไม่พอ หากเรากำจัดฝันร้ายนี่ได้ภายใน20 เทิร์น ดาร์คดรีมจะยอมรับเรา และพาเราวาร์ปไปหาเดธตามัวร์ เพื่อปิดฉากศึกครั้งสุดท้ายให้...โดยที่เราทำหน้าที่เพียงเฝ้าดูการต่อสู้เท่านั้น !! ---------- การต่อสู้ระหว่างเดธตามัวร์ กับดาร์คดรีม (ซึ่งชาวเมืองเล่ากันมาทั้งเรื่องว่า เก่งกาจยิ่งกว่าราชาฝัน !) เริ่มต้นขึ้น และอาจถือเป็นการต่อสู้ที่น่าสงสาร-น่าสมเพช และน่าเศร้าที่สุดในเกมส์ เนื่องด้วยความเก่งกาจของนายฝันร้าย ทำให้ราชาฝันทำอะไรไม่ได้แม้แต่แผลแมวข่วน ทั้งเวทย์สุดยอด มหาเวทย์ต้องห้าม และท่วงท่าไม้ตายมากมาย ล้วนไร้ผล...คำบรรยายในช่วงนี้ จะเน้นการทับถมและบลัฟกันอย่างแหลกราญ... เดธตามัวร์ใช้อิโอนาซึ่ม !! เดธตามัวร์ร่ายเบกีราก้อน !! เดธตามัวร์เผยร่างที่แท้จริง !! ฯลฯ ดาร์คดรีมไม่ได้รับความเสียหาย !! ดาร์คดรีมยืนหัวเราะร่า !! ดาร์คดรีมสะท้อนการโจมตีกลับไปอย่างสมบูรณ์ !! ฯลฯ ...และเมื่อปิดฉากด้วยพลังโจมตีสุดยอดของดาร์คดรีม ที่ทำความเสียหายได้ถึง 9999 ดาเมจ ผิดขนบของซีรีย์กระจุย...เดธตามัวร์ก็สิ้นชีวิตลง และฉากจบที่แท้จริงก็เริ่มต้นขึ้น...ไปสู่สุขคติเถอะนะ ราชาฝัน... จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:43:26

ความคิดเห็นที่ 16 *: Personal comments - ภาค 6 นี้ ถูกแปลงเป็นฉบับหนังสือการ์ตูน ในชื่อ Dragon Quest 6 - แผ่นดินมายา (ลิขสิทธิ์ไทย สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ ทั้งหมด 10 เล่มจบ) ซึ่งแม้จะมีการตัดทอน แปลงเรื่อง และปรับลดสิ่งต่างๆไปมาก แต่ก็ต้องถือว่า เป็นฉบับหนังสือ ที่พยายามถ่ายทอดองค์ประกอบของตัวเกมส์ได้ดีมากที่สุดภาคหนึ่งเลยทีเดียว - สำหรับผู้กล้าแห่งนภา...หลังจากพวกเรามีสุดยอดสิ่งมีชีวิต เป็นตัวประหลาดสีเข้ม ที่สามารถงอกแขนขาออกจากหัว...มีรากเหง้าแห่งความชั่วร้าย เป็นพิคโคโล่ตัวเขียวแล้ว....มาคราวนี้ พวกเราก็จะได้พบกับ ราชาแห่งความฝัน ที่เป็นตาแก่สีชมพูนั่นเอง....ยิ่งใหญ่กันซะไม่มี....สวัสดี โลกปีศาจ - มหาเวทย์มาดันเต้ เป็นท่าโจมตีที่จะสร้างความเสียหายที่ยิ่งใหญ่มหาศาลให้กับศัตรู...แม้จะต้องแลกมาด้วยพลังเวทย์มนตร์ทั้งหมดของผู้ใช้ แต่ในหลายสถานการณ์ก็ต้องบอกว่า คุ้มค่า และยิ่งใหญ่สมคำร่ำลือจริงๆ...เมื่อครั้งที่ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างของเวทย์นี้ ผมนึกไปถึง มหาเวทย์อัลทิม่า แห่งซีรีย์ใกล้เคียง ไฟนอล แฟนตาซี 2 ....ที่อวยสรรพคุณกันมาทั้งภาคเช่นกัน (ด้วยเซตติ้งที่อลังการงานสร้างระดับเดียวกัน ว่าเป็นเวทย์เพียงหนึ่ง ที่ขับไล่กองทัพปีศาจกลับไปยังดินแดนเดิมได้ทีเดียวเชียว !)....แต่อย่าให้พูดเลยครับ ว่าคุณภาพของอัลทิม่านั้น เป็นระดับไหน เล่นเอาผู้เล่นตกไปอยู่ในดินแดนแห่งความสิ้นหวังกันก็มิปาน !!! - หากจะว่ากันอย่างตรงไปตรงมาแล้ว แม้ภาค 6 นี้ จะมีระดับของ"ความซับซ้อน" สูงมากกว่าทุกๆภาคที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของระบบ และในส่วนของเนื้อหา ที่จริงจังลงลึก ละเอียดยิบสุดๆ เล่นไปก็แอบอึ้งทึ่งเสียวไปว่า...มันจะซีเรียสเกินมาตรฐานซีรีย์ไปแล้วนะ ภาคนี้จึงมีสเกลเนื้อเรื่องที่ใหญ่โตกว่าทุกภาคที่เคยออกมา ข้อดีก็คือ ให้ความรู้สึกร่วมกับผู้เล่นได้ดี ว่าศึกคร้งนี้ เป็นปัญหาใหญ่ ที่คุกคามดินแดนทั้งหลายอย่างแท้จริง...แต่น่าแปลก ที่พอเพิ่มความจริงจังลงไปเพิ่มเติมแล้ว กลับสร้างอิมแพคให้กับผู้เล่นได้น้อยกว่าที่เคย...เสียงตอบรับจาก"การเดินเรื่อง"ที่ไม่คุ้นตานี้ เลยออกไปในทางที่"เงียบ" กว่าภาคก่อนหน้า ซึ่งเน้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร และไปมุ่งชมแต่เพียงเรื่องของ"ระบบ" ที่ยืดหยุ่น และประยุกต์ได้สนุกเสียแทน - และที่จะต้องหยุดขำ และลืมพูดไปไม่ได้ ก็คือเรื่องของ"ตัวละครลับ" พิเศษ ที่เราสามารถนำมาเป็นเพื่อนได้ นาม "อามอส" (Amos) ชายหนุ่มผู้ถูกสาป และกลายร่างเป็นมังกรได้นั่นเอง...อามอสเป็นตัวละครที่สามารถไปเคลียร์เควส ลุยดันเจียน แก้ปูมหลัง และนำมาเป็นเพื่อนได้ ซึ่งเขามีความสามารถสูงมากขนาดที่ใช้เล่นจนจบได้จริง ...แต่ด้วยความที่เป็นลูกเมียน้อยหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ ทำให้ตัวเกมส์ไม่เคยได้ให้ความสำคัญกับเขาเลยซักนิด...หน้าตา Sprite ของเจ้าตัว ก็เป็นแค่อัศวินสีน้ำเงินบ้านๆ เหมือนตัวประกอบ...แม้แต่อาร์ตเวิร์คซักรูปของเขา ก็ยังไม่เคยถูกเขียนขึ้นมา....หวังว่าภาคใหม่จะมีชะตาชีวิตที่ดีกว่านี้....สู้ต่อไปนะ ! อามอส ! จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:45:40

ความคิดเห็นที่ 17 จ... จบรึยังครับ... เล่นเอาไม่กล้าปาด... จากคุณ : Sydt เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:45:51

ความคิดเห็นที่ 18 - หากให้เปรียบเทียบในไตรภาคที่สองนี้ ส่วนตัวเอง ก็ชอบภาค 5-6-4 ตามลำดับ เพราะชอบการเดินเรื่องที่เน้นตัวละครเป็นหลัก มากกว่าเน้นปัญหาวงใหญ่ที่ผู้เล่นไม่เห็นภาพ...แต่คะแนนที่ให้ไปเต็มๆกับภาคนี้ คือเรื่องของระบบ และองค์ประกอบยิบย่อยที่ถูกใส่เข้ามาอย่างพิถีพิถันมากเป็นพิเศษ รวมถึงการทำหน้าที่เป็นบทสรุปของไตรภาคที่สมบูรณ์ครับ น่าเสียดาย ที่บทความนี้ต้องเขียนก่อนหน้าการรีเมคครั้งสำคัญของภาค ในชื่อ "The Realms of Reverie" ทำให้ผมอาจไม่มีโอกาสได้มาพูดคุยถึงหัวข้อสำคัญ พวกสิ่งเพิ่มเติม และข้อสรุปของความขัดแย้งหลายสิบปีของคนเล่น ว่าด้วยการเป็น "จุดเริ่มต้น"ของไตรภาคนภา และ"การเชื่อมโยง"กับไตรภาคโรโตะ (ที่ในภาคนี้ มีการเปิดตัว "เทพเจ้ารูบิส" แห่งไตรภาคโรโตะ ว่าเป็นผู้สร้าง และดูแลโลกแห่งนี้เช่นกัน !)  ผมก็ได้แต่หวังว่า เมื่อเวลานั้นมาถึง เพื่อนๆทุกคนคงได้ร่วมกับค้นหาข้อความซ่อนเร้น และตอบโจทย์ปัญหาที่ค้างคา ที่ไม่สามารถสรุปอย่างแน่ชัดได้ในตอนนี้กันทุกคนนะครับ ... ... ผู้กล้าโรโตะจากไป ผู้กล้านภาห่างหาย หายนะครั้งใหม่กำลังจะมา...ตอนหน้าพบกับ ความชั่วร้ายอันแสนสิ้นหวัง ในดินแดนที่พระเจ้าดับสิ้น และผู้กล้าสาบสูญ ในดรากอน เควส 7 นะครับ แล้วพบกันใหม่ แท่ด แท่ด แท่ด ********** Source - My Blog: http://zieghart.exteen.com/20090920/dragon-quest-6 จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:47:37

ความคิดเห็นที่ 19 ..... ....... .........จบแล้วครับ ยาวมากจริงๆด้วย  ^^" ยิ่งมาแปะเป็น rep.ๆ แบบนี้ ยิ่งดูยาวเหยียด...ไม่กล้าอ่านเลยนะเนี่ย ฮา ก็สวัสดีทั้งเพื่อนๆที่คอยแวะมาเยี่ยมเยียน ทั้งในกระทู้ๆเก่าๆ และในบล็อกด้วยนะครับ แล้วก็ ขอบคุณคนที่ช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้ให้ด้วยนะครับ ตอนแรกยังหวั่นๆอยู่ นึกว่าภาคเก่าๆจะสลายไปหมดแล้ว แต่ก็ยังอยู่ครบเลย ดีจัง ^^ จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:50:20

ความคิดเห็นที่ 20 เอ๋า ปาดไปแบบไม่น่าปาด... ยังเยี่ยมยอดเหมือนเดิมนะครับ... รับสิ่งเหล่านี้ไปด้วยครับ แตน แตน แต็น แตน แต่น แต๊น แต็น! .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) ได้รับ 1 Gift!!! .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) ได้รับ 1 โหวต!!! .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) ได้รับ 1 เก็บเข้าคลังกระทู้!!! .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) ได้รับ 1 ปล่อยต่อทวิตเตอร์!!! จากคุณ : Sydt เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:55:56

ความคิดเห็นที่ 21 ยูจิ โฮริอิ เทพ แฟนตาซีญี่ปุ่นจริงๆ แค่อ่านแล้วนึกตามสมัยที่เล่นยังรู้สึกอินได้... จากคุณ : A... เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 10:02:16

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านถึงตอนที่บอสลับสู้กับบอสใหญ่นี่ฮาแตกเลยแฮะ บอสใหญ่กลายเป็นขนมไปซะงั้น แต่หา DQ ภาคอื่นมาสู้กับภาค 5 นี่ลำบากจริงๆละนะ เห็นได้จากโดทั้งหลายที่มักเป็นภาค 5 ตามด้วย 3 จากคุณ : หมาข้างถนนคนบ้าการ์ตูน เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 10:18:51

ความคิดเห็นที่ 23 เป็นภาคที่ชอบมากๆ อีกภาคนึงเลย (^ ^ ) จากคุณ : Noah_1_of_4lnw เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 10:52:52

ความคิดเห็นที่ 24 โอ้ว  เมื่อก่อนอ่าน ดาร์ค ดรีม เป็น ดาร์ค เดอัม  55555555555555 อ่านแล้วคิดถึงอดีต  ตอนเล่นเควสมอนเตอร์ เอาดาร์คเดอัมสู้กับ เดสตามัวร์ร่าง 3   พลังเท่ากันเป๊ะๆ  5555 จากคุณ : mootomoosun เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 10:55:29

ความคิดเห็นที่ 25   ผมนี่แหละคนในยุคนั้นคนนึงที่เรียก"จิตฮาคุเร" ต้องขอบคุณซีรี่ยDQที่ทำให้ผมตั้งใจศึกษาภาษาญี่ปุ่นจนทำให้พอรู้เรื่องนะครับ จากคุณ : Hiphop_NeverdiE เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 11:47:31

ความคิดเห็นที่ 26 test จากคุณ : A... เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 11:48:27

ความคิดเห็นที่ 27 รอมานาน ภาค 6 เป็นภาคที่ผมชอบมากที่สุดเลยครับ จะรออ่านภาค 7 ต่อนะครับ  ขอบคุณ จขกท. มากๆเลยครับ จากคุณ : ROTO เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 12:10:55

ความคิดเห็นที่ 28 ภาคนี้ไม่เคยเล่นด้วยฝีมือตัวเองเลย ใช้สูตรช่วยตลอด ถ้าให้เล่นเองจริงๆน่ะรึ นู่นแน่ะ 2 ปีมั๊ง กว่าจะเคลียร์จบได้อย่างถูกใจคนเล่น... จากคุณ : i love summer rain เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 12:19:01

ความคิดเห็นที่ 29 มีโงกุนด้วย จากคุณ : แมงปอซ่า เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 12:33:14

ความคิดเห็นที่ 30 สนุกมากกก คุ้มค่ากับที่รอมานานจริงๆครับ ก็มารอภาค7 กันต่อไป ขอบคุณครับ จากคุณ : Terminal Love เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 14:13:34

ความคิดเห็นที่ 31 มีกระทู้มา 6 ภาคแล้วเหรอเนี่ย พึ่งเห็น (เรานี่ตาถั่วแท้ =  =."a ) ขอถามหน่อยครับ ตอนดูการ์ตูนจำได้ว่ามีตัวละคร 2 ตัว ตัวนึงเป็นครึ่งไหครึ่งน้ำแข็ง อีกตัวเป็นอัศวิน เกราะเป็นรูปกระดูก คืออยากทราบว่า 2 ตัวนี้มีความสามารถอะไรครับ จากคุณ : Red Quartz (Red Quartz) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 17:32:50

ความคิดเห็นที่ 32   คห.31 อันนั้นเป็น DQ ภาคได ตะลุยแดนเวทย์มนต์ ไม่ใช่เกมครับ เป็นหนังสือการ์ตูนล้วนๆ เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องในเกม แต่อิงเวทย์ อาวุธและ Monster จากเกมครับ ( เป็นการ์ตูน Classic อีกเรื่องนะ เชื่อว่าคนรุ่นอายุ 20+ คงติดเรื่องนี้พอๆ กับดราก้อนบอล ) เจ้าครึ่งไฟครึ่งน้ำแข็งคือเจ้า " เฟรย์ซาร์ด " ( มาจากคำว่า Fire ที่แปลว่าไฟ+ Blizzard ที่แปลว่าพายุหิมะ ) ใช้เวทย์ได้ทั้งสายเปลวไฟและสายน้ำแข็งครับ ส่วนอัศวินเกราะกระดูก " ฮุนเคล " เป็นนักดาบที่เก่งมากครับ เรียนวิชาดาบทั้งด้านสว่าง ( จากอวาน ) และด้านมืด ( จากมิสเวิร์น ) ความสามารถก็พวกวิชาดาบนั่นล่ะครับ ( จะบอกว่าหมอนี่เอาจริงๆ มันเท่ที่สุดในเรื่องแล้วมั้ง ) DQ6 หรอ อืม เป็นเกมภาษาเกมแรกที่ผมได้เล่นเลยนะ ( สมัยนั้นยุคท้ายๆ ของเครื่อง Snes แล้ว เพราะ PS1 กำลังมาแทนที่ด้วยเกมในตำนานอย่าง FF7 ที่ช่วงนั้นเลื่อนแล้วเลื่อนอีกกว่าจะออกได้ ทำให้เครื่อง Snes ราคาถูกจนบ้านผมซื้อได้ ) - จำได้ว่านั่งลุ้นแทบตายกับ Boss ตัวสุดท้าย ร่าง 3 สู้จน Item ทั้งเติมเลือดและชุบชีวิตหมดแล้ว พวกก็ตายเกลื่อน เหลือพระเอกคนเดียว กะแล้วได้แพ้แหงๆ ( ขนาดแต่ละคน LV 60+ แล้วนะ ) แต่พอ Turn เรา ตีไปทีแล้วชนะแค่นั้นละ เผลอเฮลั่นบ้านทั้งที่มันตี 1 กว่าแล้ว - -! - อาชีพ " ฮากุเร " เป็นอะไรที่เวอร์มาก ( ถ้าเก็บ Lv อาชีพครบ ได้เวทย์มาดันเต้มาใช้ ) พอๆ กับเจ้าตัวฮากุเรเมทัล ที่ให้ Exp สูงที่สุดถ้าไม่นับพวก Boss - นอกจากอามอส ตัวละครลับที่เป็นได้แค่ตัวประกอบ ( แต่ผมเอามาใช้ตลอดเพราะชุด 4 คน ผมมีจาโมโร่ยืนเป็นตัว Heal คนเดียว นอกนั้นบ้าพลังหมด ) ยังมีไดโนเสาร์อีกตัวที่เอามาเป็นพวกได้ ก็คือตัวที่เมืองๆ หนึ่งกำลังขุดอุโมงค์ลอดภูเขา ทำให้ต้องจ้างยอดฝีมือไปจัดการกับไดโนเสาร์ตัวนี้ ( แน่นอนว่าพอเราไปถึงก็จะเห็นเทอร์รี่โชว์เทพเรียบร้อย ) พอได้พวกครบแล้ว ก่อนจะไปโลกปีศาจเพื่อสู้กับบอสใหญ่ ให้กลับมาที่เมืองที่ขังเจ้า Monster ตัวนี้ไว้ พาเทอร์รี่มาด้วยแล้วไปคุยกับมัน มันจะมาเป็นพวกเราอีก 1 ( เรื่องนี้มีตัวละคร 7 คน + 1 ตัวครับ ) - เชื่อเถอะ ปราบบอสใหญ่ ถ้าไม่มีเวทย์เติมเลือดเต็มๆ อย่าง " เบโฮมาซัน " แล้วปราบได้นี่เก่งมาก แน่นอนว่าอาชีพไหนๆ ก็ไม่มีเวทย์นี้ เว้นแต่ต้องไปจับเจ้า " โฮมี่สไลม์ " ( Slime ที่มีหนวดแบบแมงกะพรุน ตัวสีน้ำเงินนะครับ ) เอามาปั้นเก็บ lv ให้เก่งเพื่อไปสู้กับบอสใหญ่ครับ ( ศึกสุดท้ายเลยต้องเอาจาโมโร่ออก เอา Mon ตัวนี้เข้าไปแทน ) - เสน่ห์อีกอย่างคือ " การสำรวจบ่อน้ำ " และ " สถานที่แปลกๆ ใต้ทะเล " บ่อน้ำทุกๆ บ่อสามารถลงไปสำรวจได้ และบางทีมันก็อยู่ในสถานที่แปลกๆ เช่นกลาง Map ที่ไม่มีเมืองอยู่ใกล้ๆ หรือแม้แต่ที่แปลกๆ ใต้ทะเล เมื่อเราได้ " พิณดำน้ำ " มาใช้ทำให้เรือเราดำน้ำได้ ก็จะเจอสถานที่แปลกๆ เช่นกันครับ - เวทีประกวดความหล่อ/สวย ใครชอบก็ชอบนะครับ แต่ผมไม่ชอบ มันน่าเบื่อมาก ( จำไม่ได้ว่าต้องไปเอา Item อะไรสักอย่างตามเนื้อเรื่องนั่นล่ะ เล่นตั้งนานกว่าจะผ่าน ) - บ่อน ใครเล่นไพ่ใน DQ เป็นมั่งครับ ตอนนั้นผมไม่ได้เล่นเลย โยกแต่ SlotMachine อย่างเดียว - ยานพาหนะในเกมนี้ ที่ตลกๆ คือ " เตียงบิน " นี่ล่ะ พอก่อน ผมนึกถึงเกมนี้แล้วอดนึกถึงวัยเด็กไม่ได้ทุกที จากคุณ : Avatar of TonyMao_NK51 เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 18:14:45 A:58.9.100.203 X: TicketID:219398

ความคิดเห็นที่ 33 โดยส่วนตัว ผมเห็นว่าDQIVเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานนภาครับ แล้วค่อยสืบทอดไปDQVและVIต่อไป เพราะชาติกำเนิดของพระเอกDQIV ที่มาสเตอร์ดราก้อนสั่งให้หญิงสาวชาวนภาลงมาให้กำเนิดผู้กล้านภา และเมื่อผู้กล้านภาอายุครบ17ปีก็จะได้รับพรแห่งผู้กล้าจากพระเจ้า โดยในDQIVจะไม่เคยมีการกล่าวถึงผู้กล้านภามาก่อนพระเอกแต่อย่างไร และในDQVI พระเอกก็ได้ทราบเรื่องราวของศาสตราของผู้กล้าแห่งตำนานจึงได้ตามหาและได้พบกับดาบแห่งนภาที่เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาจนขึ้นสนิมแล้ว และได้ซ่อมแซมอีกครั้งและได้ชื่อว่า ดาบรามิอัส ในDQIVนั้นพระเอกได้พบดาบแห่งนภาที่บนยอดของต้นไม้แห่งพิภพ ซึ่งทั้งในDQIVและVนั้น ดาบแห่งนภามีพลังในการสลายข่ายเวทย์ต่างๆ แต่ในDQVIดาบรามิอัสมีพลังในการเพิ่มพลังโจมตีให้ผู้ใช้ ซึ่งถ้าดาบรามิอัสกลายมาเป็นดาบแห่งนภา พลังของดาบแห่งนภาควรที่จะเป็นการเพิ่มพลังโจมตีมากกว่าที่จะเป็นพลังสลายข่ายเวทย์ จริงๆมีอีกหลายจุดที่ผมเห็นว่าDQVIเป็นภาคที่กาลเวลาในเรื่องตามต่อมาจากภาคV ถ้าหากDQVIเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานผู้กล้านภา ทำไมถึงไม่มีผู้กล้าไปจัดการจอมราชาปีศาจเอสทาร์ค จนต้องให้มาสเตอร์ดราก้อนเป็นผู้ลงมือด้วยตัวเอง ในDQIV ดาบแห่งนภาที่ได้มานั้นพลังก็ยังไม่สมบูรณ์อีกด้วยจนถึงขนาดต้องให้มาสเตอร์ดราก้อนเป็นผู้เพิ่มพลังให้อีกครั้ง อีกเรื่องก็คือถ้าหากมีผู้กล้านภาก่อนแล้ว ทำไมมาสเตอร์ดราก้อนต้องส่งหญิงสาวชาวนภาลงมาเพื่อให้กำเนิดผู้กล้านภาขึ้นมาใหม่อีกล่ะ รอคอยทายาทของพระเอกDQVIต่อไปก็ได้ไม่ใช่เหรอ เพราะยามที่มีปีศาจมารุกรานและทำลายมนุษย์เมือนั้นผู้กล้าก็จะปรากฎตัวขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเหล่ามนุษย์จากปีศาจเหล่านั้นและนำสมดุลกลับคืนสู่โลกมนุษย์ นี่เป็นกฏเหล็กของDQเลยนะ เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของพระเอกDQคือเรื่องของ"สายเลือด" เพราะพระเอกDQทุกคนล้วนมีสายเลือดที่แตกต่างจากคนอื่น แต่ที่มีเหมือนกันคือ สายเลือดจากพวกเทพนั่นเอง ตำนานโรโตะ DQI - III สายเลือดโรโตะ ซึ่งโรโตะเป็นทายาทของเทพแห่งดินกับมนุษย์(จากภาคตำนานเทพเจ้ารูบิส) ภายหลังโรโตะได้รับคำสั่งจากเทพเจ้าให้ลงมาปกป้องโลกมนุษย์จึงได้มีทายาทสืบต่อมา ตำนานนภา DQIV - VI สายเลือดชาวนภา ซึ่งพระเอกของภาคIVเป็นลูกครึ่งมนุษย์และชาวนภา ทำให้ทายาทรุ่นต่อๆมามีสายเลือดชาวนภาต่อมาด้วย ส่วนDQVพระเอกมีสายเลือดเทพที่สืบทอดมาจากแม่ที่เป็นชาวเอลเฮเวนซึ่งเป็นสายเลือดเทพอีกสายหนึ่ง เมื่อสายเลือดชาวเอลเฮเวนผสมกับสายเลือดชาวนภาในตัวเบียงก้า จึงทำให้กำเนิดผู้กล้าขึ้นมาอีกครั้ง ตำนานเอเดน มีหลายเลือดก็ขอแบ่งเป็นคนๆครับ DQVII สายเลือดเทพวารี(ตรงนี้จะเป็นสปอยของภาคComic) พระเอกเป็นผู้สืบทอดสายเลือดของเทพวารีมาจากชาร์คอายแห่งตระกูลเทพวารีและมีสายเลือดกษัตริย์ของคอสทาลจากเจ้าหญิงอานิเอส ซึ่งเจ้าหญิงได้ตั้งครรภ์ลูกของชาร์คอายไว้ หลังจากที่ชาร์คอายไปสู้กับจอมราชาปีศาจออลโกลเดมิร่าและถูกแช่แข็งไว้ เจ้าสมุทรได้เห็นใจต่อโชคชะตาของทั้งคู่จึงได้มารับตัวเจ้าหญิงอานิเอสให้ไปอยู่ใต้สมุทรด้วยและเปลี่ยนเจ้าหญิงเป็นเงือกเพื่อจะได้มีชีวิตยืนนานจนกระทั่งถึงวันที่คำสาปที่แช่แข็งชาร์คอายสลายไป แต่เพื่อการนั้นเจ้าหญิงจึงต้องจำใจใช้เวทย์โบราณย้ายเด็กทารกในท้องของเธอให้ไปอยู่ในท้องของภรรยาชาวประมงคนหนึ่ง ซึ่งจุดเด่นของทายาทแห่งเทพวารีคือ สัญลักษณ์วิญญาณวารีและคุณสมบัติแห่งการเป็นผู้นำ นั่นเอง ภายหลังหญิงสาวชาวประมงได้คลอดเด็กคนนั้นออกมาซึ่งก็คือ พระเอกของDQVIIนั่นเอง DQVIII สายเลือดเทพมังกร พระเอกของภาคนี้เป็นลูกครึ่งมนุษย์และชาวเทพมังกร จึงทำให้พระเอกมีพลังในการต่อต้านคำสาปทุกชนิด และมีพลังของชาวเผ่าเทพมังกรแฝงอยู่ในตัวอีกด้วย DQIX สายเลือดชาวสวรรค์ พระเอกของภาคนี้เป็นชาวสวรรค์ซึ่งได้พบกับเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่คาดคิดทำให้ตัวเองตกลงมาจากสวรรค์มายังโลกมนุษย์ ขอเขียนไว้แค่นี้ล่ะสำหรับภาคนี้ เพราะคาดว่าหลายๆคนคงยังไม่ได้เล่น ถ้าบอกมากไปจะเสียอรรถรสหมด ดังนั้นจากที่ได้กล่าวมา พระเอกDQVIจึงไม่พ้นที่จะต้องมีสายเลือดเทพอยู่ในตัวอย่างแน่นอน ถ้าพระเอกDQVIเป็นผู้กล้านภาคนแรก ก็ไม่ควรที่มาสเตอร์ดราก้อนจะต้องส่งหญิงสาวชาวนภาลงมาให้กำเนิดผู้กล้านภาคนใหม่และต้องมีการรับพรแห่งพระเจ้าหรอกครับ แต่ที่สงสัยจริงๆเห็นจะเป็นเรื่อง พระเอกDQVIIมีสายเลือดโรโตะด้วยหรือไม่ เพราะในเกมส์ พระเอกก็สามารถใส่ดาบราชันย์ที่เก็บไว้ที่ปราสาทเอสตาร์ดได้เช่นกัน ซึ่งดาบเล่มนี้ถ้าอ้างอิงจากภาคComic มันก็คือดาบแห่งโรโตะนั่นเอง ซึ่งในเกมส์จะใส่ได้เพียงสามคนเท่านั้นคือ พระเอก คีฟาและไอร่า ที่คีฟาและไอร่าใส่ได้ก็เพราะทั้งคู่เป็นทายาทโรโตะจึงไม่แปลกอะไร แต่พระเอกดันใส่ได้ด้วยนี่สิ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 52 21:34:02 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 52 21:29:19 จากคุณ : Kudo Kai เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 21:26:33

ความคิดเห็นที่ 34   ภาคนี้เทอรี่เป็นพระเอก อิอิ ตอนผมเล่นเจ้านี่ได้กลายเป็นผู้กล้าก่อนชาวบ้านเค้าเลย แถมยังเด่นจนได้ไปออกซีรี่ส์ของตัวเองด้วย จากคุณ : Ace เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 21:31:51 A:124.122.202.87 X: TicketID:191918

ความคิดเห็นที่ 35 ภาคนี้เป้นภาคแรกที่เล่นเลยครับ งงๆอยู่มูริเอลนี่มันใครหว่า มิเรยูนี่เอง สนุกดี ชอบตรงที่ตัวมอนสเตอร์มันขยับได้นี่แหล่ะ ภาคก่อนๆมีแต่แสงแว็บๆ ดาร์คดรีม ลองเข้าไปยังไม่ทัน 20 เทิร์นโดนมันสอยเรียบยกกลุ่ม จากคุณ : คนรักมิวฟิล เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 22:25:50

ความคิดเห็นที่ 36 ในคลิปเค้ายก NDS ขึ้นมาทำไมกันอะครับ จากคุณ : Am_hilo (Am_hilo) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 00:25:03

ความคิดเห็นที่ 37 ภาคนี้กำลังขุดมาเล่นเลยครับ สนุกดีๆ จากคุณ : นายเบียร์ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 01:46:48

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณครับ DQ นี่เล่นสนุกทุกภาคจริงๆ เนื้อเรื่องแต่ละภาคก็ดีไปคนละแบบ รอชมภาคต่อไป DQVII Eden no Senshitachi จากคุณ : kruto เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 07:47:29

ความคิดเห็นที่ 39 ไปตามหารอม ENG มาได้ละครับ กำลังเล่นอยู่ ยังไงๆ ก็ติดว่าภาค 5 อยู่ดี เหอๆๆ จากคุณ : whiteaquamarine เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 10:00:48

ความคิดเห็นที่ 40 คุณ Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์ ไม่คิดทำหนังสือแข่งกับ FFมั้งหรือครับ ผมว่าความหนามันอาจใกล้เคียงกันแล้วนะนี่ฮุๆๆ จากคุณ : phichai2002 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 10:11:25

ความคิดเห็นที่ 41   เห็นด้วยกับ คห. 33 นะครับ  หลายๆ อย่างบ่งบอกว่าภาค 4 นั้นเป็นต้นกำเนิดมากกว่า  แล้วผมก็คิดว่า enix คงไม่เล่นมุขเดิมหรอกนะ ที่จะเอา episode ที่สามมาเป็นจุดกำเนิดอีกครั้ง จากคุณ : Shake&Bake เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:37:31

ความคิดเห็นที่ 42 เรื่องไทม์ไลน์นี่ ก็อย่างที่บอกครับ ว่าตัวเกมส์(ยัง)ไม่ยอมบอกมาอย่างชัดเจนซักที ทำให้เกิดเป็นทฤษฎีเอาไว้ถกกันสนุกๆในหมู่แฟนๆเกมส์มาตลอด หลายคนก็ว่าเป็นจุดเริ่มต้น หลายคนก็ว่าเป็นจุดสิ้นสุด...ตอนนี้ก็คงได้แต่คุยกันสนุกๆ แล้วแต่ความมคิดแต่ละคนน่ะครับ ^^ ส่วนตัวผมเองก็คิดอย่างที่เขียนในบทความว่า ถ้าภาคนี้เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานนภาจริงๆ ก็น่าจะเข้าแก๊ปในหลายๆประเด็น เพราะ"อุปกรณ์ในตำนาน"ของภาคนี้ ก็มีชื่อเจ้าของ และแหล่งที่มาชัดเจนอยู่แล้ว กระจายกันไปถึงสี่เรื่องราว ไม่ใช่ว่าสืบทอดมาเป็น"เซตอุปกรณ์นภา" จาก"ผู้กล้านภา"เดี่ยวๆ เหมือนตอนภาค 4-5 แถมยังน่าจะทำให้ตอบคำถามเรื่อง"ไข่แห่งความหวัง" ที่ทิ้งไว้ลอยๆ ตอนจบเกมส์ได้อีกด้วย ผมเพิ่งได้ไปคุยเพิ่มเติมกับคุณ Nihil (nihil.exteen.com) ที่เป็นแฟนซีรีย์อีกท่านหนึ่ง และได้มุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเพิ่มอีก ก็ขอเอามาแปะตรงนี้เพิ่มด้วยละกันครับ Quote - "เกมมันไม่บอกตรงๆ ตอนแรกผมก็ลังเลนะว่ามันคือจุดเริ่มหรือตอนจบของบทนภากันแน่ แต่เมื่อดูจากข้อความโดยนัยในเกมแล้ว ผมเทนน. ว่าเป็นภาคแรกของบทนภามากกว่านะครับ เรื่องอุปกรร์ในตำนานทั้ง 4 นั้นเป็นของที่มีในโลกมาก่อนแล้ว ในเกมและในหนังสือบอกเราว่า อุปกรณ์ทั้ง 4 เป็นของผู้กล้าในตำนานทั้ง 4 คนมาก่อน และชื่อของอุปกรณ์นั้นก็ตั้งตามชื่อของผู้กล้าคนนั้นๆ เลย คือ ลาเมียส เซบัส ออลโก้ สฟีด้า แต่เป็นตัวเอกภาค 6 ที่รวบรวมของผู้กล้า 4 คนมาไว้กับตัวเองคนเดียว และใช้กอบกู้ปราสาทเซนิสสำเร็จจนทำให้อุปกรณ์พวกนั้นถูกเรียกว่าอุปกรณ์นภาภายหลัง และเป็นคำอธิบายว่าของพวกนั้นอยู่ในโลกมาก่อนนั้นได้ยังไง และทำไมถึงอยู่สภาพเสื่อมสลาย ส่วนสายเลือดที่ใช้ของนภา ผมว่าเกิดจากการรวมสายเลือดแผ่นดินมายาเข้ากับมนุษย์เหมือนที่ตัวเอกมีทั้งร่างมนุษย์และหลอมรวมกับร่างความฝันของตัวเอง หมายความว่าคนที่มีพลังแห่ง "ฝัน" หรือสายเลือดนภารวมกับมนุษย์นั่นเองจึงสามารถใช้อุปกรณ์นภาได้ เพราะยังไงชาวนภาก็มาจากแผ่นดินความฝันอยู่แล้ว ถ้าสรุปแบบน้ผมว่ามันเข้าทีกว่านะครับ " อันนี้ก็ถือว่า อ่านๆหลายๆความคิดเห็น และลองตั้งทฤษฎีของตัวเองไว้คุยกันสนุกๆในหมู่แฟนๆละกันนะครับ ^^ ถ้าอีกซักพัก ภาครีเมคออกมาแล้ว มีความชัดเจนเพิ่มเติมยังไง คงได้มาคุยกันครื้นเครงอีกทีนึง ------- ส่วนในคลิป DQ6 DS นั่น...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าชูทำอะไรกัน อาจจะถ่ายคลิปเก็บไว้(ด้วย DSi...ความละเอียดเท่าที่มี?) อาจจะแค่ใช้กล้องดูผ่านหัวคนข้างหน้า หรืออาจจะหาสัญญาณ Wi-Fi...เล่น DQ9 อยู่ก็ได้นะ ^0^ จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 12:42:50

ความคิดเห็นที่ 43 DQ6 ตอนปราบ Boss ถ้าใช้ ดาปที่เพิ่ม HP ได้ ... และ เกราะที่เพิ่ม HP ได้ ... จะง่ายขึ้นมากครับ โจมตีไม่เยอะ ป้องกันไม่เยอะ ก็จริง ... แต่เมื่อมันเพิ่ม Auto ได้ ... เราก็จะ Heal น้อยลงไปเยอะ เรียกว่าแทบจะพลังไม่ลดเลยในแต่ละ turn ก็ว่าได้ครับ ลองดูครับ จากคุณ : golfs2000 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 13:16:05

ความคิดเห็นที่ 44   ทำไมถึงเรียกมิเรยูว่ามูริเอลละครับ DQ Monster(GBC) ที่มีเทรี่เป็นพระเอกก็มิเรยู แปลมาภาคภาษาอังกฤษ(Dragon warrior Monster)ก็มิเรยู ภาคการ์ตูนก็มิเรยู จากคุณ : Bz เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 14:17:46 A:61.90.30.108 X: TicketID:172244

ความคิดเห็นที่ 45 #44 ROM ภาษาอังกฤษ เขียนชื่อตัวละครคนนั้นว่า Muriel ครับ แต่ตัวคาตาคานะในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น เขียนว่า มิเรยู ชัดเจน ผมเองก็ชอบ มิเรยู มากกว่านะ ฟังดูเป็นผู้หญิงดี จากคุณ : Vladimir Putan เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 14:35:29

ความคิดเห็นที่ 46 ชื่อญี่ปุ่นใช้มิเรยูอย่างที่ว่าแหล่ะครับ ตอนเล่น ผมก็คุ้นชื่อมิเรยูมากกว่านะ แต่ไหนๆผมก็แปลเนื้อเรื่องหลักมาจากเวอร์ชัน eng แล้ว ก็เลยใช้ชื่ออังกฤษน่ะครับ ^^ จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 16:39:33

ความคิดเห็นที่ 47 ขอคอมเมนท์เรื่อง ไทม์ไลน์ด้วยคนละกัน แน่นอนว่า จากความเข้าใจส่วนตัว สมัยที่เล่น DQ6 SFC ตอนนั้น อ่านญี่ปุ่นได้ค่อนข้างรู้เรื่องแล้ว หลังจากรู้เนื้อเรื่อง ของ ภาค 6 ผมก็เก็บความสงสัยเรื่อง ไทม์ไลน์มาตลอดเช่นกัน จนมีโอกาสได้เล่น รีเมค ของ 4-5 และ 1-2-3 บน GBA ส่วนตัวเชื่อว่า ภาค 6 เป็น บทสุดท้ายของตำนานนภา และเป็นบทเริ่ม(ก่อน)ของ ตำนาน โรโต้ครับ ที่จริงไม่อยากเรียกว่าบทสุดท้าย เพราะ อารยธรรมชาวสวรรค์ ก็เหลือแต่ซากไปแล้ว ตาม #42 เลยครับว่า ดาบในตำนาน ในยุคนั้นกลายเป็นของขึ้นสนิมไปแล้ว น่าจะเป็นดาบแห่งนภา ส่วนที่ว่าเป็นของผู้กล้า 4 คนมาก่อน ก็ไม่แปลกเพราะ อาจจะไม่ได้มีผู้กล้านภาแค่คนเดียว ในยุคก่อนนั้น ขนาดจอมมารยังมีตั้ง 4 ตัวได้เลย และส่วนตัวคิดว่า สาเหตุที่มัน ไม่ได้ถูกเรียกว่า อาวุธแห่งนภาแล้ว เพราะ ปราสาทสวรรค์ พังทลาย และถูกจอมมารดูรัน ยึดครองไปแล้ว ถ้าสังเกตจะพบได้ว่า แผนที่ในปราสาทสวรรค์ ภาค 4-5 จะเหมือนกันทุกอย่าง ส่วนปราสาทเซนิสในภาค 6 ก็แผนที่เหมือนกัน แต่ อยู่ในสภาพที่พังทลาย ตำแหน่งที่ จอมมารดูรัน นั่งอยู่คือบัลลังก์ ของมาสเตอร์ดรากอน และไข่ที่ฟักในตอนจบของภาค 6 ผมเชื่อตามที่ตัวเองอ่านได้ว่า นั่นคือไข่ของ มาสเตอร์ดรากอน ที่หมดอายุขัยตามธรรมชาติ ส่วนมังกรที่ฟักออกมา จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากเผ่าราชามังกร ใน ซีรีย์ โรโต้ เพราะ พระเอกใน DQ 3 ก่อนที่จะกลายเป็นผู้กล้าโรโต้ ยังต้องไปขอความช่วยเหลือในการสร้างลูกแก้วแห่งแสง เพื่อเอามาปราบ จอมมารโซม่า จาก ราชินีมังกรที่หลงเหลือเป็นคนสุดท้ายของเผ่าราชามังกร สุดท้ายที่ยืนยันได้อีกอย่างแต่เป็นการสปอยล์ภาค 9 คือ . . . . ภาค 9 มี อาวุธแห่ง โรโต้ แต่ไม่มีอาวุธ แห่งนภา อาวุธแห่งนภาอาจจะกลายเป็น...ไปแล้ว จากคุณ : น้ำมะนาว4-0 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 17:25:53

ความคิดเห็นที่ 48 เรื่องความเชื่อมโยงกับไตรภาคโรโตะนี่ ก็รอดูอยู่เหมือนกันครับ ^^ แต่เรื่องไข่ในปราสาทนภา ภาค 6 นี่ ผมว่าไม่น่าจะใช่ราชามังกรนะ ถ้าหมายถึงราชามังกร จาก DQ1 นี่ คิดว่าน่าจะเป็นไข่ที่อยู่ใน DQ3 มากกว่าครับ DQ3 เป็นเนื้อเรื่องที่ระบุชัดว่า เกิดก่อน DQ1 แน่ๆ...ตอนอีเวนท์ที่เราไปเอาลูกแก้วแห่งแสงจากราชินีมังกรนั่น ทุกคนในปราสาทต่างก็บอกว่า ราชินีป่วยหนักมาก กำลังจะตายแล้ว แต่ก็จะขอ...เอ่อ ออกไข่ของลูกน้อยก่อน พอเราเอาลูกแก้วแห่งแสงมาได้ไม่นาน ราชินีก็ตายไป เหลือไว้แต่ไข่หนึ่งใบ...ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นการพยายามเชื่อมโยงเรื่อง และบ่งชี้ว่า นี่เป็นไข่ของราชามังกรแห่ง DQ1 ที่ในอนาคตจะก่อการร้ายให้กับทายาทของโรโตะต่อไปนั่นเอง ...ไอเดียข้างบนนั้น เป็นที่พูดๆกันในหมู่แฟนเกมส์สมัยนั้นนะครับ แต่คิดว่า ถ้าอิงจากในการ์ตูนภาค สัญลักษณ์แห่งโรโตะ ก็สนับสนุนแนวคิดนี้เหมือนกัน และเขียนบอกโต้งๆเลยด้วยล่ะ ^^ (ผมก็เลยกลับมาคิดประเด็นเดิมว่า ไข่ภาค 6 ก็น่าจะเป็นมาสเตอร์ดรากอนนั่นเอง~) กระทู้ภาคนี้ คุยกันสนุกดีครับ จากคุณ : .doc (Dot-Doc โอตาคุในเสื้อกาวน์) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 18:06:45

ความคิดเห็นที่ 49 เห็นคุยกัน อยากคุยมั่ง แต่เล่นไปแบบไม่รู้เนื้อเรื่องเลย ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆ ภาคนี้ จากคุณ : whiteaquamarine เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 21:10:42

ความคิดเห็นที่ 50 ไข่ในภาค6 อาจจะเป็นไข่ของมาสเตอร์ดราก้อนตัวใหม่ก็ได้ครับ อาจจะเป็นไปได้ว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไป มาสเตอร์ดราก้อนเองก็มีสิทธิ์ที่จะตายได้เหมือนกัน เลยให้ชาวนภาเป็นผู้ดูแลปราสาทนภาต่อไป แต่ก็ได้ทิ้งไข่เอาไว้เพื่อที่จะกลายมาเป็นมาสเตอร์ดราก้อนตัวใหม่ แตก็อาจจะใช้เวลานานมากๆกว่าจะฟักออกมา ระหว่างนั้นก็โดนราชาปีศาจดูรันเล่นงานไปก่อน เลยยืดเวลาที่ไข่จะฟักออกไปอีก หรือไม่ก็ไข่ฟองนั้นมีความหมายแฝงอยู่คือ เป็นตัวแทนของความฝันของมนุษย์ทุกคน พลังแห่งความฝันของมนุษย์นั้นเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่และมอบความหวังให้กับเหล่ามนุษย์ที่จะใช้ชีวิตกันต่อไปนั่นเอง ส่วนเรื่องไทม์ไลน์ ตำนานนภาดูเป็นตำนานที่แตกแยกไม่เกี่ยวข้องกับตำนานอื่นๆครับ คืออย่างที่เรารู้กันว่า โลกของDQนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นโลกต่างมิติกัน แต่สามารถไปมากันได้อยู่ด้วยแล้วแต่กรณี ดังนั้นตำนานแต่ละตำนาน(โรโตะ นภา เอเดน) จึงไม่สามารถเอามานับไทม์ไลน์ไล่กันไปได้นัก ถ้าจะเชื่อมกันได้ก็เห็นจะมีแต่ตำนานโรโตะกับตำนานเอเดนเท่านั้น จากที่เราทราบกันคือ ตำนานโรโตะนั้นเป็นตำนานเริ่มแรกอย่างแน่นอน เพราะอ้างอิงจากภาคตำนานเทพรูบิส ตำนานโรโตะนั้นเดินเรื่องต่อมาจากตำนานเทพรูบิส ซึ่งเดินเรื่องโดยเรียงจากDQ3 - 1- 2 ต่อมาจากComicของDQVII ทำให้เราได้ทราบกันว่า พระเอกของDQII ได้เดินทางจากโลกโรโตะมายังโลกเอเดนโดยนั่งบอลลูนผ่านมาทางรอยแยกของมิติ และก็มีลูกหลานสืบต่อมาเป็นคีฟานั่นเอง ตรงนี้เราจึงสรุปได้ว่า ไทม์ไลน์ของตำนานเอเดนนั้นเกิดมาหลังตำนานโรโตะแน่นอน แต่จากในเกมส์DQVIII ตอนที่เราประลองมอนสเตอร์กับโมรี่ โมรี่ได้บอกว่าได้เชิญแขกรับเชิญพิเศษมาด้วย นั่นคือ ไรอันและทอลเนโก้ นั่นเอง ซึ่งทั้งคู่มายังโลกเอเดนตามคำเชิญของโมรี่(คาดว่าน่าจะมาด้วยประตูเดินทาง) จากตรงนี้จึงตั้งข้อสังเกตได้ว่า ช่วงเวลาของDQVIIIซึ่งเป็นโลกเอเดนนั้น ตรงกับช่วงเวลาของDQIVที่เป็นโลกนภา จึงเป็นไปไม่ได้ที่เมื่อตำนานนภาจบลงแล้วจะไปสานต่อเป็นตำนานโรโตะ เพราะDQVIIIเป็นเนื้อเรื่องหลังDQVII ซึ่งDQVIIก็เป็นเนื้อเรื่องหลังจากDQIIแล้ว แต่ช่วงเวลาของDQVIII = DQIV ส่วนเรื่องเผ่าเทพมังกรในDQVIIIนั้น มาสเตอร์ดราก้อนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลยครับ แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยเต็มๆคือ ราชินิมังกร(DQIII)และราชามังกร(ริวโอ - DQI)ต่างหาก เพราะเป็นเผ่าเดียวกันนั่นเอง สังเกตได้จากร่างสุดท้ายของราชาเทพมังกรซึ่งก็คือร่างมังกรนิรันดร์ มีรูปร่างเดียวกับร่างแปลงมังกรของริวโอไม่มีผิด(สังเกตุได้จากตอนที่ราชาเทพมังกรร่างสุดท้ายชาร์จเทนชั่น จังหวะในชั่วพริบตาจะเห็นเป็นพิมพ์เดียวกับริวโอร่างมังกรเป๊ะ) จึงบอกได้ว่า ราชาเทพมังกรและชาวเผ่าเทพมังกรนั้นเป็นทายาทรุ่นหลังต่อมาจากริวโอนั่นเอง และพระเอกของDQVIIIเองจึงเป็นผู้เกี่ยวข้องกับริวโอในตำนโรโตะมากที่สุดเพราะเป็นทายาทของเผ่าเทพมังกรเช่นกัน(ท่าDragon Soul เห็นแล้วเท่ห์มาก น่าจับไปอยู่ในDragon Ball จริงๆ) จากตัวอย่างของเกมส์ DQ Monsters Battle Road นั้นจะมีภาพที่พระเอกภาคVIIIสะพายดาบโรโตะไว้ที่หลังด้วย ผมจึงคิดอยู่ว่าพระเอกของDQVIIและDQVIIIนั้นก็สืบทอดสายเลือดโรโตะมาด้วยเช่นกัน แต่ภาพท่ากีก้าเบรคของอาเรล(DQIII)นี่เท่ห์มาก เรียกสายฟ้ามาที่ดาบโรโตะแล้วง้างฟัน พลังทำลายไม่ด้อยไปกว่ากีก้าสทรัชของไดเลย ลองหาดูในyoutubeได้นะครับ ท่าหลายๆท่าสวยมาก เช่น มินาดีน จะมีสองแบบคือแบบโรโตะและแบบนภา แบบโรโตะจะเป็นกลุ่มของDQIIนั่งราเมียมาแล้วกระโดดลงมาบนพื้น จากนั้นทุกคนจะยิงพลังเวทย์สามสี(น้ำเงิน เขียว แดง)ไปบนท้องฟ้าแล้วรวมกันเรียกมินาดีนลงมา ส่วนแบบนภาจะเป็นพระเอกDQIVกระโดดลงมาจากหลังมาสเตอร์ดราก้อน จากนั้นพระเอกและพรรคพวกอีก7คนก็จะยิงพลังเวทย์แปดสายไปบนท้องฟ้าเรียกมินาดีนลงมา ฉากการต่อสู้บางทีดูแล้วก็นึกถึงดราก้อนบอลไปเลย เห็นแล้วอยากเล่นมากๆ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 52 21:38:32 จากคุณ : Kudo Kai เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 21:30:45

ความคิดเห็นที่ 51 ภาคนี้ตอนที่ผมเล่น มีแต่ภาคภาษาญี่ปุ่น ดีที่ช่วงนั้นเริ่มอ่านญี่ปุ่นแบบดำน้ำได้บ้างแล้ว เลยเล่นไปสนุกไป - ภาคนี้บ่อน้ำเยอะมาก แถมมีอะไรๆในบ่อเยอะด้วยครับ - ภาคนี้เป็นภาคที่ผมใช้เวลาเล่นนานที่สุด เพราะมัวแต่เก็บเลเวลอาชีพ แทนที่จะเดินเรื่องต่อซะที ตอนนั้นได้ผู้กล้ามา4คน บ็อช บาบาร่า อามอส แล้วก็ สไลม์ครับ(เพราะต้องเอาไปสู้ในลานประลองเลยเก็บให้มันเยอะไปหน่อย) - ระบบอาชีพสนุกมาก พอกับFF5แต่เป็นการสะสมสกิลไว้ใช้แทน  ซึ่งสกิลที่ใช้บ่อยที่สุดคือฮัสเซิลแดนซ์ เพราะเติมพลังฟรีๆได้เรื่อยๆ - ฉบับการ์ตูนของVBKสนุกในระดับหนึ่งครับ เพราะตัดทอนอะไรๆไปเยอะ แต่ก็ถ่ายทอดอารมณ์ของเกมได้แบบเข้าถึงจริงๆ ยิ่งฉากที่ต้องใช้มาดันเต้แล้ว รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่จริงๆครับ (แต่ใช้ในเกมน่ะเรอะ...ใช้เสร็จแล้ว สิ้นหวังสุด MPหมดของซีรีย์นี้ใช่ว่าจะเติมกันง่ายนะ) ส่วนเรื่องไทม์ไลน์นั่นผมไม่ค่อยซีเรียสนะ เพราะจากภาคDQ Monsterทำให้ผมได้รู้ว่า ถ้าเดินทางผ่านประตูเดินทางแล้ว จะไปโผล่ในช่วงเวลาของภาคต่างๆได้โดยอาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเวลาจริงเลย (ในภาคนั้นเทอรี่ไปสู้กับมังกรในภาค1 หรือไปสู้กับพวกบอสเก่งๆในหลายๆภาคได้ครับ) จากคุณ : Stryder เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 22:10:56

ความคิดเห็นที่ 52   ขอพูดถึงเรื่องประเด็น อาวุธของผู้กล้าทั้ง 4 นะครับ ถ้าเรามองย้อนว่าภาค IV เป็นต้นกำเนิด  หลังจบภาค V แล้ว  ก็มีผู้กล้านภาอีก 4 คนแยกเอา อาวุธกันไปใช้แล้วต่อมาคนอื่นก็เรียกอุปกรณ์เหล่านั้นตามชื่อของ ผู้กล้านภาที่ถืออุปกรณ์นั้นไว้แทน  อย่างนี้ก็น่าเป็นได้นะครับ อีกจุดหนึ่งที่น่าสงสัยคือรูปร่างของมันที่เปลี่ยนไป  ตรงนี้ถ้าจะคิดเรื่องไทม์ไลน์จะเป็นอย่างไร ??? จากคุณ : Shake&Bake เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 18:52:45