Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สันติ เสวตวิมล คือคนที่แอบถ่ายเพชราตอนใส่บาตรเมื่อสิบเจ็ดปีก่อน ภูมิใจเป็นปาปาราสซี่รุ่นแรก ไม่กลัวโดนฟ้อง  

http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000114860



แอบถ่าย “เพชรา” ในความทรงจำ (ตอนที่ 3)

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กันยายน 2552 13:52 น.



คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น









เล่มนี้แหละ แอบถ่าย ฉบับที่ วันที่ 50 6-12 พย. 36


หน้า 2 ในฉบับ


หน้า 3 ในฉบับ


หน้า 4 ในฉบับ


ฉบับที่ 52 เล่มนี้เล่นข่าวต่อ


สันติ เศวตวิมล


อิงคศักย์ เกตุหอม


ประเสริฐ เจิมจุติธรรม




เพชรา เชาวราษฎร์ น่าจะเป็นนางเอกคนแรกของวงการภาพยนตร์ไทยที่โดนแอบถ่าย กรณีนี้เกิดขึ้นที่หน้าบ้านเธอในเช้าวันหนึ่ง เหตุการณ์นั้นสร้างความสะเทือนใจให้กับเธอเป็นอย่างมากจนแทบอยากจะปิดความสัมพันธ์กับบุคคลภายนอกไปตลอดกาล

วันนี้ สันติ เศวตวิมล เปิดใจ "คำต่อคำ" กับซูเปอร์บันเทิงออนไลน์ถึงกรณีแอบถ่าย "เพชรา" ในปีนั้น เขาเป็นบรรณาธิการนิตยสาร "ชีวิตต้องสู้"
...
"ปาปารัสซี" รุ่นแรก
นิตยสาร "ชีวิตต้องสู้" (รายสัปดาห์) ที่เปิดตัวเล่มแรกเมื่อ 26 พย. – 2 ธค. 2535 น่าจะถือได้ว่า เป็น "ปาปารัสซี" รุ่นแรกของเมืองไทย เนื่องจากปีที่ 1 ฉบับที่ 50 ประจำวันที่ 6 - 12 พย. 2536 ทางกองบรรณาธิการซึ่งนำทีมโดย สันติ เศวตวิมล ได้สัมภาษณ์เพชรา เชาวราษฎร์ และมีรูปแอบถ่ายขณะที่เธอกำลังใส่บาตรอยู่ที่หน้าบ้านพักในซอยแพทย์ปัญญา รามคำแหง จนถึงวันนี้ ...สันติ เศวตวิมล กล่าวกับซูเปอร์บันเทิงออนไลน์ว่า "ยังโกรธผมอยู่หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้เจอกันเลย"... นั้นคือเรื่องราวเมื่อ 16 ปีที่ผ่านมา
...

เหตุการณ์ตอนทำหนังสือชีวิตต้องสู้ แล้วไปแอบถ่ายรูปเพชรา
"คุณเพชราเขาไม่เคยให้สัมภาษณ์ใครเลย นับตั้งแต่เขาไม่สบาย นัยน์ตาเจ็บ เป็นเวลามากกว่ายี่สิบกว่าปี ไม่เคยให้สัมภาษณ์ใคร และไม่ยอมพบ ทั้งที่ผมกับคุณฉึ่ง (ชรินทร์ นันทนาคร) สามีของเขาสนิทกัน เพราะพี่ฉึ่งเป็นลูกศิษย์ของน้าผม ไสล ไกรเลิศ ที่แต่งเพลงผู้ชนะสิบทิศน่ะ ผมก็เคยไปนอนบ้านคุณเพชราที่หลังอำเภอ จังหวัดระยอง ทีนี้เราก็มองว่าชีวิตต้องสู้มันขายสกู๊ป ไม่มีใครเข้าหาคุณเพชราได้"

"สุดท้ายผมก็เลยเอาล่ะ ผมจะทำสกู๊ปขายชีวิตต้องสู้ ด้วยการติดต่อขอสัมภาษณ์เพชรา ปรากฏว่าเพชราให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ คุยได้ทุกเรื่องก็ลงในชีวิตต้องสู้หมดทุกอย่าง ถึงเบื้องหลังว่าทำไมตาบอด ไปรักษาอย่างไร อยู่อย่างไร สภาพทุกวันนี้เป็นอย่างไร มีความหวังอะไร แต่ว่าไม่ยอมให้ถ่ายรูปอย่างเด็ดขาด"

"ผมก็ใช้วิธีสืบไปว่า ทุกเช้าคุณเพชราจะต้องออกมาตักบาตรหน้าบ้านเขา อยู่แถวรามคำแหง ผมก็เลยให้ช่างภาพไปดักถ่าย เพราะว่าผมไปไม่ได้ เพราะถ้าผมไป เขาจำผมได้ ไปดักถ่ายก็ได้รูปเพชราออกมาตักบาตร ในสภาพไม่ได้แต่งตัว เป็นชาวบ้านธรรมดา ก็ได้รูปมา ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกของวงการบันเทิงที่มีการถ่ายรูปเพชรา หลังจากที่เขานัยน์ตาบอด แล้วก็สัมภาษณ์เพชราได้เป็นครั้งแรกหลังจากที่เพชราไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใคร แต่ก็สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์นะ ไม่ได้สัมภาษณ์ตัวต่อตัว"

ตอนนั้นปี พ.ศ. อะไร?
"พ.ศ. 2535 น่าจะประมาณยี่สิบกว่าปีที่เขาเก็บตัวไม่ยอมให้สัมภาษณ์เลย ผมเคยถามพี่ฉึ่ง ว่าทำไม เขาบอกว่าเพชราอยากให้ทุกคนจำภาพเพชรานัยน์ตาน้ำผึ้ง ไม่อยากให้เห็นสภาพเพชรานัยน์ตาเสีย นัยน์ตาพิการ ก็เลยกลัวมาก เพราะคุณเพชราเขาเป็นคนรักษาภาพลักษณ์ตัวเองมากๆ เลย(เน้นเสียง)"

เหตุผลที่ไปทำสกู๊ปและถ่ายรูปนั้น ต้องการนำเสนอออกมาในทิศทางไหน?
"วันนี้ของเพชราเป็นอย่างไร ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เพียงแต่ว่าคนอยากรู้ว่าวันนี้เพชราทำอะไร ยี่สิบกว่าปีที่ไม่ได้ออกวงการ ไม่ให้ใครพบหน้า เพชราวันนี้ตั้งแต่ตื่นนอนถึงเข้านอน เพชราทำอะไร ผมรายงานอย่างละเอียด แล้วก็อยากได้รูปเพชราในสภาพที่ไม่ได้เป็นนางเอก แต่เป็นแบบชาวบ้านธรรมดา"

ตอนไปถ่ายรูป คุณเพชรารู้ตัวไหม?
"ไม่รู้ๆ"

หลังจากตีพิมพ์ออกไปแล้ว คุณเพชราทราบเรื่องนี้เขาเป็นอย่างไร?
"เขาโกรธๆ (ขั้นไหน) ก็ต่อว่ากัน ว่าผ่านพี่ฉึ่งว่าทำไมต้องมาแอบถ่ายด้วย เราก็บอกว่าถ้าไม่แอบถ่ายก็ไม่ได้รูป เพราะเพชราไม่ยอมให้ถ่ายเลย ถ้าไม่แอบถ่ายมันก็ไม่ได้รูปสิ แต่เราก็ไม่กลัว แม้ว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่เราเชื่อว่าเราพูดกับเพชราได้ กับพี่ฉึ่งได้ ว่าถ้าเขาจะฟ้อง นี่พูดกันแบบนักหนังสือพิมพ์นะ ถ้าเขาจะฟ้องว่าเราละเมิดเขา ไปถ่ายรูปเขานะ ผมคิดว่าก็น่าจะเคลียร์ได้ ก็คงจะพูดกับพี่ฉึ่งว่าขอร้องล่ะ แต่โกรธก็เรียกว่าโกรธน่ะ ทุกวันนี้ยังโกรธผมอยู่หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้เจอกันเลย"

หลังเหตุการณ์นั้นยังไม่มีการเคลียร์อะไรกันเลย?
"ไม่มีเคลียร์ๆ เพราะว่ามันไม่ได้ผิดอะไร สัมภาษณ์เขาก็ให้สัมภาษณ์ผม แต่เขาขอร้องไม่ให้ผมถ่ายรูป แต่ผมก็แอบถ่ายน่ะ ถ้าเป็น ปาปารัสซี ก็คงจะเป็นปาปารัสซีรุ่นแรกมั้ง (หัวเราะ) แต่เราไม่ได้ทำลาย ไม่ได้เป็นรูปจูบกัน กอดกัน หรือเป็นเรื่องทางชู้สาว อย่างที่ปาปารัสซีทำกันในทุกวันนี้ นี่เป็นเรื่องชีวิตประจำวัน แต่งตัวแบบชาวบ้าน แล้วก็ตักบาตรตอนเช้าหน้าบ้าน ผมว่า น่ารักจะตาย"

ไม่ถึงขั้นฟ้องร้อง?
"ไม่ฟ้องๆ แต่โกรธน่ะโกรธแน่ๆ"

จากคุณ : es
เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 21:23:22 A:125.24.124.90 X: TicketID:234658




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com