ความคิดเห็นที่ 16 |
No Regret เศร้า:ซึ้ง:อึ้ง:สะเทือนใจ
หลังจากที่ห่างหายไปนาน และถึงแม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นภาพยนตร์จะไม่ได้เคยขาดหายไปจากความกระหายของเรื่องราวและความรู้สึกที่ปรากฏในห้วงความคิดของผม แต่ดูเหมือนว่าหลายครั้งที่แม้ว่าภาพยนตร์หลายเรื่องจะยังคงวนเวียนในความรู้สึก ในความคิด ในร่างกายของผม แต่แล้วมันก็หยุดอำนาจอยู่เพียงแค่นั้น ไม่ได้สร้างแรงกระเทือนหรือสั่นคลอนความรู้สึกจนอดรนทนไม่ได้ที่จะต้องเขียนเพื่อระบายความรู้สึก
No Regret ไม่ได้เป็นอย่างภาพยนตร์หลายๆเรื่องก่อนหน้านั้น อำนาจของมันมีมาก มากจนผมเผลอปล่อยร่างกายให้สะเทือนไปกับพลังของภาพยนตร์ กับเนื้อเรื่อง และ กับชะตากรรมของตัวละคร จนผลของการวนเวียนในสมองทำให้หนึ่งคืนของผมหมดไปกับการนอนไม่หลับ และ คิดถึงความรัก
หนังอินดี้จากเกาหลีเรื่องนี้ถูกกล่าวขวัญถึงไม่น้อยจากการเปิดฉายในไม่กี่โรงภาพยนตร์ในเกาหลีและกอบโกยรายได้ไปอย่างมหาศาล มันน่าประหลาดใจที่ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายเรื่องนี้สามารถสร้างปรากฏการณ์เช่นนั้นได้ในประเทศที่ ความเป็นผู้ชายสุดโต่ง คือตัวแทนของระบอบความคิดและการดำรงชีวิตอย่างนั้นได้
จากประสบการณ์ชีวิต ผมไม่เคยสัมผัสกับความเป็นเกาหลี หรือ คนเกาหลี แม้แต่หนังเกาหลีประเภทบีบน้ำตาทั้งหลายแหล่ก็ไม่เคยได้เหยียบกรายเข้ามาในระบบการชื่นชมภาพยนตร์ของผม แต่ไม่ใช่ครั้งนี้กับ No Regret จากหลายปากของเพื่อนที่สัมผัสความเป็นเกาหลีมาอย่างเจนจัดกว่าผมนั้น บอกว่าสังคมเกาหลีคือตัวแทนสมบูรณ์ของระบอบวัฒนธรรมแบบชายเป็นใหญ่ที่อาจจะหาไม่ได้ในญี่ปุ่น หรือ แม้แต่ในความภูมิใจของความเป็นชายแบบไทยๆ ในเกาหลีผู้ชายเป็นมากกว่าผู้นำครอบครัว มากกว่าลูกชายที่ต้องสืบตระกูล และหากความเป็นผู้ชายของคุณคือการเป็นผู้ชายที่รักผู้ชายด้วยแล้ว นั่นอาจหมายถึงการต้องหลบซ่อนพฤติกรรมดังกล่าวจากพ่อแม่ เพื่อนฝูง และสังคมที่คุณต้องเกี่ยวข้อง การเป็นเกย์ในเกาหลีไม่ใช่เรื่องที่ควรภาคภูมิใจ
No Regret เล่นกับประเด็นปัญหาดังกล่าวได้อย่างฉลาดและมีชั้นเชิง หนังเล่าเรื่องของ ซูมิน ชายหนุ่มกำพร้าจากบ้านนอกที่เข้ามาหางานทำในเมืองหลวง เขาเกลียดกรุงโซล และ หลายครั้งที่เขาพูดว่า ถ้าอยากจะใช้ชีวิตที่นี่...จงอย่าไว้ใจใคร
ซูมิน หยาบ เถื่อน และไม่เคยได้รับความรัก เขาทำงาน และทำงานเพื่อหวังว่าวันหนึ่ง เงินที่ได้มาจะทำให้เขาได้เป็นอย่างที่เขาอยากจะเป็น ได้เรียนหนังสือ ได้เป็นคน แต่ที่สุดในวันหนึ่งเขาก็พบกับ เจมิน ลูกชายเจ้าของโรงงานที่ซูมินทำงานอยู่ เจมินหน้าตาดี สุภาพ และร่ำรวย เขาถูกดึงดูดเข้าหาซูมินอย่างช่วยไม่ได้ เหมือนแม่เหล็กที่ดึงขั้วตรงข้ามเข้าหาตัวเองเสมอ
เมื่อซูมินถูกไล่ออกจากโรงงาน เขาหมดหนทางจนต้องไปเป็นเด็กออฟในบาร์ก้นซอย เขาเปลื้องผ้า นอนเปลือยปล่อยร่างให้ผู้ชายที่ซ่อนตัวเข้ามาในบาร์ก้นซอยนั้นปลดปล่อยความจริงที่หาไม่ได้จากสังคมข้างนอก และเขาเริ่มปิดตัวเอง
เจมิน มาพบเขาที่นี่และใช้เงินซื้อความสัมพันธ์ครั้งแรก
คุณมันน่ารังเกียจ น่ารังเกียจตั้งแต่เริ่มต้น ซูมินบอกอย่างนั้น เขาปิดตัวเองมากขึ้น และหนีจากการตามหาของเจมินในครั้งต่อมา ครั้งแล้วครั้งเล่าเขาปฏิเสธเจมินอย่างรุนแรง และเมื่อเจมินถามว่า อย่างน้อย ซูมินไม่อยากที่จะรู้แม้แต่ชื่อของเขาเลยหรือ ซูมินดึงเจมินเข้ามาจูบและบอกว่าใช้นี่เป็นตัวแทนของการพบกันครั้งสุดท้ายเถอะ แต่ก่อนที่ซูมินจะเดินหนีจากไป เจมินตะโกนไล่หลังบอก ฉันยินดีที่รู้จักเธอนะซูมิน ซูมินวิ่งหนีประโยคนั้น เขาฟาดมือตัวเองเข้ากับต้นไม้ และร้องไห้
จากคนที่ไม่เคยได้รับความรัก จากความหยาบและเถื่อน ซูมินตัดตัวเองขาดจากอารมณ์ทั้งหมด ในขณะเจมินที่เคยสุภาพ อ่อนโยน กลายเป็น คุ้มคลั่ง เขาตามหาซูมิน เว้าวอน และฟูมฟายจนก้อนหินละลาย
ในเช้าวันที่ทั้งคู่เปลือยกายกอดก่ายกันบนเตียงครั้งแรก ซูมิน กระซิบข้างหูเจมินแล้วบอก ทุกครั้งที่ฉันตื่นและตื่นตัว เธอจะเป็นคนแรกที่ฉันคิดถึง
ถ้าความรักมันง่ายแค่นั้น มันก็คงจะจบลงที่ตรงนั้น แต่เจมิน มีครอบครัวที่ต้องการให้เขาแต่งงาน มีครอบครัวที่ต้องการให้เขาสืบตระกูลและรับทอดกิจการ หน้าที่ลูกผู้ชายที่เขาไม่สามารถที่จะปฏิเสธ บางครั้งการเป็นเด็กกำพร้า มันก็ดีตรงนี้นี่แหละ เขาบอกกับซูมิน
เจมินเลือกที่จะต้องทำตามหน้าที่ และ ซูมินถูกปฏิเสธ ก้อนหินที่เคยละลาย ถ้ามันจะแกร่งขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้อาจจะเพื่อจุดหมายสุดท้าย ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนจากบาร์ก้นซอย เขาลักพาตัวเจมิน ยัดร่างคนรักใส่ท้ายรถ ลากไปกลางป่า เพียงเพื่อฝังร่างคนที่เขารักลงกลางหลุม เขาเกลียดโซล และ การที่จะมีชีวิตอยู่ ต้องไม่ไว้ใจใคร ไม่ว่าใครคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม
ก้อนหินเลือกที่จะไม่ละลายอีกต่อไป และผมเลือกที่จะหยุดเล่าเรื่อง เพราะความรักมีมากมายกว่านั้น
ความรักเหมือนหิมะที่เลือกที่จะตกลงมากลางป่าในคืนนั้น เลือกที่จะตกลงมากลางหลุมที่ซูมินขุดขึ้นเพื่อฝังร่างคนรัก เลือกที่จะตกลงมากลางหลุมที่ซูมินนอนมองร่างของคนรัก และในที่ไกลออกไป เมื่อเจมินเอื้อมมือมาวางลงที่หว่างขาของเขา ปราศจากความหยาบและเถื่อน ซูมินยิ้มให้คนรักอีกครั้ง เขาบอก ฉันยินดีที่รู้จักเธอนะ...เจมิน และ จากรอยยิ้มนั้น ผมคิด มันคงจะไม่มีคำว่า เสียใจ
ขอบคุณข้อมูลจากblogของคุณ :Luckymelodie
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=doppelganger&month=02-2007&group=1
จากคุณ |
:
ตะละแม่ซาหริ่ม
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ต.ค. 52 11:22:57
|
|
|
|