[SPOILER!!!] World Embryo ตอนที่ 47 - ผลสุดท้ายของการโกหก -{แตกประเด็นจาก A8279848}
|
|
กลับมาพบกับ Spoil World Embryo ประจำเดือนนี้กันอีกครั้งนะครับ
ตอนนี้ถือเป็นตอนสุดมันส์อีกตอนหนึ่งของเรื่อง World Embryo เลยละครับ ยิ่งในช่วงที่การ์ตูนสุดโปรดของผมอย่าง Bleach กำลังหลุดสายป่านจนแทบทนอ่านไม่ไหวไปแล้วแบบนี้ การได้มาอ่านอะไรสนุกๆ ไม่ต้องขนตัวละครออกมาเตะถ่วงยืดเยื้อให้เสียเวลาแบบนี้ถือเป็นความสุขเดือนละครั้งของชีวิตเลยละครับ
และจะสนุกยิ่งขึ้น ถ้าได้มาแชร์ความสนุกกับความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อเรื่องของตอนนี้กับท่านผู้อ่านอีกครั้ง
ว่าแล้วก็เชิญรับชม Spoil ตอนนี้ต่อได้เลยครับ :)
เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่เนเน่ "เชื่อมต่อ" กับใครบางคนสำเร็จ จากนั้นจึงบังเกิดแสงสว่างเจิดจ้าสาดส่องไปทั่วบริเวณดาดฟ้าโรงพยาบาลคาซาม่า สว่างจนแม้แต่คนที่อยู่ในเมืองห่างไกลจากภูเขาออกไปก็ยังมองเห็นแสงนั้นได้
ท่ามกลางแสงสว่างแสบตานั้น เนเน่ลอยตัวอยู่กลางอากาศราวกับยานโฮเวอร์คราฟเร่งเครื่องจอดอยู่นิ่งๆ ดวงตาหลับสนิทไม่รับรู้สภาพรอบตัว...ที่บัดนี้กำลังปั่นป่วนอย่างรุนแรง ภาพหน้าต่างแสดงความทรงจำรูปร่างคล้ายหน้าจอโทรทัศน์ขนาดเล็กนับสิบนับร้อยบานหมุนวนรอบตัวเนเน่ราวจักรผัน ส่องแสงวุบวับเหมือนไฟดิสโก้ จังหวะหมุนรวดเร็วเสียจนไม่อาจมองเห็นได้ว่าหน้าต่างเหล่านั้นสะท้อนภาพอะไรบ้าง
แม้จะไม่เข้าใจว่านี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น แต่ริคุก็แน่ใจว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ เขาเลิกสนใจเรื่องอื่นรอบตัว รีบหันไปทางเนเน่ แล้วตะโกนห้ามสุดเสียง
"อย่าไปนะ!!" เขาเพิ่มความดังของเสียงเมื่อเห็นเนเน่ยังคงมีทีท่าไม่รับรู้ "ไม่ได้ยินรึไง!! ตื่นเร็วเข้าเนเน่!!!"
ว่าพลางขยับตัวจะเข้าไปหา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเสียงเรียกของพี่เทพทาคาโอะดังไล่หลังมา
"อย่า" สำเนียงเฉียบขาดแฝงแววเตือนเต็มเปี่ยม "อยากตายรึไง!?"
"อย่ามายุ่ง!!" ริคุหันกลับมาตวาด ยิ่งร้อนใจเมื่อเห็นว่าแสงรอบตัวเนเน่ยิ่งสุกสว่างขึ้นทุกขณะ "เนเน่อยู่ตรงนั้น..."
"ก็บอกให้ฟังก่อนไงเล่า..." ทาคาโอะคำราม ปราดเข้ามาคว้าแขนริคุไว้แน่นหมายจะดึงไว้ให้หยุด
พริบตานั้นเอง ความรู้สึกเหมือนถูกไฟช็อตก็แล่นพล่านไปทั่วร่างกายของริคุ จุดตั้งต้นของอาการอยู่ที่มือของทาคาโอะซึ่งคว้าแขนของเขาไว้แน่น เด็กหนุ่มใจหายวาบ นึกได้เมื่อสายว่าบัดนี้พวกเขาอยู่ในรัศมี 'อำนาจควบคุมความทรงจำ' ของเนเน่แล้ว!!
ความทรงจำมหาศาลไหลบ่าเข้ามาในร่างของริคุอีกครั้ง ไม่ต่างอะไรกับเมื่อครั้งที่เขา 'แอบเห็น' ความทรงจำของเรน่า หากครั้งนี้ไม่ใช่แค่ฉากมืดมนของผู้ไร้ความทรงจำเหมือนอย่างครั้งนั้น แต่เป็นความทรงจำแท้ๆ ของมนุษย์คนหนึ่ง
มนุษย์ผู้เกลียดการ 'โกหก' เหนือสิ่งอื่นใด
มนุษย์ผู้มีสายตามองเห็นแต่ 'ความจริง'
มนุษย์ผู้ยอมทำผิดนานับประการ ไม่มีวันบิดเบือน 'ความจริง' แม้ครึ่งคำ
...ความทรงจำของ 'มิชิม่า ทาคาโอะ' ถึงเรื่องราวในวันนั้น...
วันสุดท้ายในชีวิตของเด็กสาวที่ชื่อ 'อากาซึมะ ยูอิ'
---------------------------------------------------
ฉากตัดอีกครั้งไปยังภาพในความทรงจำของริคุ
ริคุได้ยินเสียงเสียงหนึ่ง เสียงแหลมแสบแก้วหูคล้ายระฆังสัญญาณถูกตีกระหน่ำรัวไม่นับ ภาพดาดฟ้าโรงพยาบาลเปลี่ยนไปเป็นภาพถนนข้ามทางรถไฟยามโพล้เพล้ ผีตากผ้าอ้อมอาบท้องฟ้าจนแดงฉาน ไม้กั้นรางรถไฟขนาดใหญ่เลื่อนลงช้าๆ คลอกับจังหวะกระหน่ำของระฆัง
เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองกำลังอยู่ในเหตุการณ์ในวันที่เขากับยูอิแยกจากกัน จำได้ชัดเจนว่าหลังจากร่ำลากันตามมารยาทเสร็จ เขาก็หันหลังเดินจากมาทันที ระบายลมหายใจอย่างโล่งอกที่ทำให้เด็กสาวเลิกเกาะติดเรื่องทาคาโอะได้สำเร็จด้วยดี
"นี่ คุณอากาซึมะ..." จำได้ว่าในตอนนั้นเขาปลอบใจตัวเองเช่นนี้ "ผมไม่อยากดึงคุณเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้ ก็เลย..."
"ก็เลยโกหกสินะ?"
เสียงเย็นเยียบแต่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหลังริคุอย่างกะทันหัน เด็กหนุ่มตัวเกร็งวาบ ใบหน้าซีดเผือด ขณะค่อยๆ หันหัวคืน
เขาเห็นร่างบอบบางของอากาซึมะ ยูอิ ยืนอยู่ตรงนั้น ยังสวมชุดแบบเดียวกับครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นเธอมีชีวิตอยู่ไม่มีผิดเพี้ยน เสื้อแขนกุดสีดำทับด้วยเสื้อแขนกุดลายทางตรง กระโปรงสั้นสีดำ สะพายกระเป๋าหิ้วแบบผู้หญิงใบใหญ่ เด็กสาวไม่มีทีท่าจะขยับเข้ามาหา เพียงแต่ยืนอยู่ตรงนั้น จ้องมองเขาด้วยสีหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์ ดวงตาเย็นชาแฝงแววกล่าวโทษกล่าวหาไว้เต็มเปี่ยม
"เพราะเธอโกหก" น้ำเสียงยูอิเย็นชาไม่แพ้แววตา "ชั้นถึงเป็นแบบนี้ไงล่ะ"
พลัน ภาพยูอิเบื้องหน้าก็เปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นภาพยูอิอีกภาพหนึ่ง ชุดที่สวมเปลี่ยนจากชุดเดิมไปเป็นชุดกระโปรงวันพีซกลีบพลิ้วสวมทับเสื้อแขนกุดกับกระโปรงยีนส์ตัวสั้น แขนขาเด็กสาวนิ่งค้างอยู่ในท่าตะกายเปะปะราวกับลอยอยู่ในน้ำหรือกลางอากาศ ข้อมือข้างหนึ่งถูกใครบางคนยุดเอาไว้ ท่วงท่าดูคล้ายกับกำลังยึดมือคนที่กำลังจะร่วงลงจากหน้าผา สีหน้าของเด็กสาวนิ่งแข็งราวกับรูปปั้น ปากอ้าค้าง ดวงตาเบิกกว้างราวกับกำลังตกตะลึงกับบางสิ่ง
แต่ที่น่าตะลึงยิ่งกว่า คือบาดแผลขนาดใหญ่ที่ท้องของเด็กสาว ปากแผลเรียบสนิทราวกับถูกตัดด้วยของมีคมที่คมกริบ เลือดแดงฉานพุ่งกระจายเป็นฝอยๆ ในอากาศ
ความเจ็บปวดถาโถมเข้าเล่นงานริคุในทันใด ความรู้สึกผิดกลืนกินผัสสะทั้งหลายจนพร่าเลือนไม่อาจมองเห็น สัมผัส หรือได้ยินอะไรได้
แล้วสติของริคุก็ดับวูบลงในที่สุด
จากคุณ |
:
Drake
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ต.ค. 52 16:55:46
|
|
|
|