 |
ความคิดเห็นที่ 31 |
|
กิลกาเมช (ชื่อ/เซอแวนท์) สูง 182 เซนติเมตร น้ำหนัก 68 กิโลกรัม
เป็นเซอร์แวนท์ของโคโตมิเนะ คิเรย์ ที่เหลือรอดอยู่จนท้ายสุดในสงครามฯครั้งที่4พร้อมกับเซเบอร์ มีคลาสเป็นอาเชอร์ ถูกอัญเชิญมายังโลกโดยโทซากะ โทคิโอมิ โดยมีตัวเชื่อมคือซากฟอสซิลของคราบงูที่ลอกคราบเป็นครั้งแรกของโลก ลักษณะพิเศษคือมีเงินมาก ชอบพลังอำนาจ และเกลียดงู ทั้งชอบและไม่ชอบตัวเองอยู่ในเวลาเดียวกัน ,เนื่องจากวิญญานมีสีทองจึงได้รับชื่อของ“ทองคำ” ,ค่าความถ่วงจำเพาะของวิญญานกิลกาเมชนั้นว่ากันว่ามากเทียบเท่ากับคนหลายแสนคน ได้ชื่อว่าเป็น『มือสังหารวีรวิญญาณ』เนื่องจากยิ่งเซอร์แวนท์ฝ่ายตรงข้ามยิ่งมีชื่อเสียงหรือเรื่องเล่าขานมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต่อสู้อย่างได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น เป็นกษัตริย์ผู้กล้าองค์แรกของโลกที่ปกครองอุรุค ในเมโสโปเตเมียโบราณ ,ว่ากันว่าได้เป็นผู้ครอบครองโลกนี้ไว้ทั้งหมด และค่ารวมทั้งหมดของทรัพย์สินที่มีก็เกินกว่าที่เจ้าตัวจะจำได้หมด ,กิลกาเมชรู้สึกช็อคจากการตายจากของเพื่อนรักเอนคิดูว์ จึงได้เริ่มออกตามหาความเป็นอมตะ แต่สุดท้ายแล้วกลับถูกงูแย่งดื่มยาแห่งความเป็นอมตะที่หามาได้ ,กิลกาเมชมีส่วนประกอบเป็นเทพ2/3 และมนุษย์อีก1/3 โดยตัวเองแล้วไม่มีความสามารถในการต่อต้านพลังเวทย์สูงมากนัก แต่เนื่องจากใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อรวบรวมชุดเกราะอย่างดีที่สุด ซึ่งทำให้เวทย์ส่วนใหญ่ไร้ผล ,ส่วนเกราะทองคำและทรงผมในตอนนั้น ทำเพื่อตั้งใจจะไปพบกับเซเบอร์โดยเฉพาะ ยังคิดอยู่ว่าทุกสิงในโลกนี้เป็นของตัวเองเหมือนในสมัยก่อน จึงมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเองมากๆ โดยเรียกสิ่งมีชีวิตอื่นๆว่าเป็น『พวกพันธ์ทาง』และฆ่ามนุษย์ไปด้วยเหตุผลเพียงว่า"มีมากเกินไป" หรือบางครั้งก็ว่า"จะได้ไม่ต้องอยู่ต่อไปให้ลำบาก" แต่นอกจากตนเองแล้วกิลกาเมชไม่ยอมรับให้ผู้อื่นฆ่าคนได้ ถ้าดูเพียงเท่านี้จะเห็นเหมือนกับว่ากิลกาเมชเป็นผู้ร้าย แต่ที่จริงแล้วเขามีปรัชญาในแบบของตนเอง และเป็นพวกHeroType ,ชอบตัวเองและพลังอำนาจ แต่เกลียดงูที่สุด, เคยพูดไว้ว่า「ถ้าไม่เท่ห์ก็ไม่ใช่ราชานะสิ」ในตอนต้นของสงครามฯครั้งที่4 กิลฯเป็นราชันย์ผู้กล้าแสนเพอร์เฟคที่มีทั้งความเท่ห์และไม่ประมาทเลยสักนิดเดียว , สามารถเปลี่ยนแปลงโยกย้ายสิทธิความเป็นเจ้าของในสิ่งต่างๆได้อย่างอิสระ กิลฯชอบงานเลี้ยง สมกับที่เป็นราชา แต่ว่านั่นเป็นเพียงเพื่อจะสนุกกับสภาพอันน่ารังเกียจของเหล่าคนที่มารวมตัวกันเพื่อหาความสุขชั่วคราว หลังจากเหล่าผู้ร่วมงานเมามายกันจนได้ที่แล้ว กิลฯก็จะยิ้มเยาะแล้วจัดการOverKillทั้งหมดเสีย กิลฯชอบคนที่หยิ่งผยอง สำหรับกิลฯแล้วคิดว่าความหยิ่งผยองนั้นมีอยู่2ประเภท พวกแรกคือคนที่ไม่มีความสามารถแต่ทำอวดเก่ง กับพวกที่2คือคนที่มีความสามารถแต่ใฝ่ฝันจนเกินตัว และกิลฯก็ชอบพวกคนประเภทที่2นี้ ส่วนเซเบอร์นั้นก็จัดเข้าประเภทหลังนี้เช่นกัน กิลฯมี กฎทองคำ ในการใช้ชีวิต จึงมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ กิลฯมีNpได้แก่『คลังสมบัตแห่งราชา (เกท ออฟ บาบิโลน) และ 『ดาบแห่งการผ่า・EA 』 กับโฮวกุ ปริศนาอีกอันที่ชื่อ『การทดสอบอันเรียบง่ายทั้งมวล(บลูเวิร์คเกอร์)』ที่ใช้ในการฝึกฝนร่างกาย , กิลฯไม่ใช่นักดาบ แต่จะใช้เกทออฟบาบิโลน เพื่อดึง"อาวุธ"ที่เป็นต้นแบบของโฮวกุออกมา และใช้ยิงเป็นกระสุน จึงได้คลาสเป็นอาเชอร์ โดยมีพลังทำลายมากกว่าเซอร์แวนท์5ตัวเสียอีก ในสงครามฯครั้งที่4เนื่องจากกิลฯได้สกิลในการออกปฏิบัติการโดยลำพังมาพร้อมกับคลาสอาเชอร์ กิลฯจึงเตร็ดเตร่ไปในเมืองฟุยุกิโดยลำพังโดยไม่สนใจโทคิโอมิ เลย , ยิ่งกว่านั้นด้วยความเย่อหยิ่งสูง จึงปฏิเสธเวทย์ร่วมรับรู้สัมผัสของโทคิโอมิ ไปด้วย ,แม้ในขณะที่ยังทำสัญญากับ โทซากะ โทคิโอมิ อยู่ แต่ก็ยังไปปรากฎตัวทั้งในโบสถ์ฟุยุกิ รวมทั้งในห้องส่วนตัวของ โคโตมิเนะ คิเรย์ ด้วย , ได้พูดคุยกับคิเรย์บ่อยๆ จึงได้ให้ความร่วมมือในการจับตาดู, และเมื่อโทคิโอมิได้ทำสัญญาพร้อมเงื่อนไขในการสงบศึกกับไอน์ซเบร์น แล้ว ก็ได้หักหลังโทคิโอมิมาร่วมมือกับคิเรย์แทน ในสงครามฯครั้งที่4 ด้วยหลักการที่ว่า"สมบัติทั้งหมดในโลกเป็นของข้า" จึงคิดเอาเองว่าตัวเองเป็นเจ้าของจอกฯด้วย ถึงจะไม่มีความปรารถนาอะไรที่จะขอกับจอกฯ แต่ก็เข้าร่วมสงครามเพื่อกวาดล้างเหล่าโจรที่ขโมยสมบัติ(จอก)ของตัวเองไป ,ถ้ากิลฯต่อสู้อย่างจริงจังแล้วสงครามฯครั้งที่4คงจะจบไปภายในคืนเดียวเท่านั้น แต่กิลฯประมาทไม่เอาจริงเอาจังกับแค่การต่อสู้เพื่อเครื่องสารพัดนึก จึงทำให้พลาดโอกาสคว้าชัยชนะไปได้ ได้เลี้ยงเหล้าทิพย์จากสมัยเทพในงานเลี้ยงของ3ราชาที่จัดขึ้นที่ปราสาทไอน์ซเบร์น โดยความคิดของไรเดอร์ในสงครามฯครั้งที่ 4 , ในช่วงสงครามฯครั้งที่ 4 เกิดตกหลุมรักเซเบอร์และขอแต่งงาน แต่ถูกปฏิเสธ ด้วยความแค้นจากที่ได้รบกันครั้งแรก จึงเคยประกาศว่าจะสังหารเบอร์เซอร์เกอร์ด้วยตนเอง , แต่หลังจากได้รู้ชื่อจริง(ลานสลอต)แล้ว ก็เปลี่ยนความคิดไปว่า "ปล่อยให้ลองประมือกับเซเบอร์ดูก็ไม่เลวเหมือนกัน"กิลฯตามมาขัดขวางเซเบอร์ที่กำลังจะไปถึงจอกฯที่ด้านหน้าหอประชาชนเมืองฟุยุกิ แต่กลับถูกโคลนที่รั่วไหลจากอาทิตย์สีดำที่ขาดเสถียรภาพจากการที่ภาชนะของจอกถูกทำลายไปอาบจนทั่วร่าง และถูกดูดกลืนไป แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่สามารถจะย่อยสลายกิลฯไปได้ และโคลนนั้นก็ได้ขับสิ่งแปลกปลอม(กิลฯ)ออกมาในรูปของผลึก ทำให้กิลฯก็สามารถกลับมายังโลกนี้ได้อีกครั้ง แม้ในตอนนี้จะสามารถรอดพ้นจากการถูกดูดกลืนไปสู่อังรีมันยูได้ แต่ที่ในRouteของซากุระกลับถูกดูดกลืนไปนั้น เป็นเพราะความแตกต่างของพลังทำลายระหว่างโคลนในตอนแรกซึ่งถูกตัดขาดออกจากร่างหลัก(มีพลังน้อย) กับเงาที่ยังเชื่อมต่อกับร่างหลักอยู่(มีพลังมากจนกลืนกิลฯได้) หลังจบสงครามฯคิเรย์ได้ใช้เด็กกำพร้า เพื่อเติมพลังเวทย์ จึงทำให้กิลฯคงร่างอยู่ในโลกนี้ได้ตลอดเวลา10ปีจนถึงสงครามฯครั้งที่5 แต่ที่จริงเมื่อได้อาบเนื้อในของจอกแล้ว กิลฯก็ได้รับร่างเนื้อเพื่ออยู่ในโลกนี้อย่างสมบูรณ์ และไม่จำเป็นต้องเติมพลังเวทย์อีก หลังสงครามครั้งที่4จบลง ได้ดื่มNPอย่างหนึ่ง(ซึ่งน่าจะเป็นยาย้อนอายุ) เพื่อเปลี่ยนทั้งนิสัยและรูปร่างของตัว เพื่อไม่ให้ก่อปัญหาขึ้นแก่โลกนี้ เมื่อตอนสู้กับซาซากิโคจิโร่ เนื่องจากพลังที่ต่างกันมาก จึงไม่ต่อสู้กันด้วยวิชาดาบ สมมุติว่าเกิดเข้าไปอยู่ในระยะของท่า ซึบาเมะกาเอชิ ก็คงป้องกันได้ด้วยเกราะหรือเครื่องป้องกันการหักเหมิติได้อยู่ดี ในช่วง4วันแห่งการจำลองสงครามครั้งที่3 ได้ทำสัญญากับคาเรน ออร์เทนเชีย ร่วมกันกับแลนเซอร์ กิลฯบอกว่า"สถานการณ์ตอนนี้เหมือนเด็กๆเล่นกัน ข้าไม่ยุ่งด้วยหรอก"แล้วก็ดื่มยาย้อนอายุ และทำให้กลายเป็นร่างเด็กผมทองไป เนื่องจากถูกห้ามไม่ให้บอกคำตอบแก่คาเรนที่เป็นมาสเตอร์ จึงได้บอกใบ้ให้กับชิโร่แทน กิลฯไม่ว่าจะอยู่ในร่างไหนก็รักเด็กๆและเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป ร่างเด็กถึงแม้ว่าจะเป็นตัวกิลฯเองก็ตาม แต่ก็ต่างกับร่างหนุ่มมาก จนเหมือนเป็นคนละคนกัน นิสัยของร่างเด็กและร่างหนุ่มก็ต่างกันหน้ามือเป็นหลังมือ คือเป็นเด็กดีที่ติดคนได้ง่ายๆ สำหรับในร่างเด็กกิลฯบอกว่าสิ่งที่ไม่เข้าใจมากที่สุดก็คือตัวเองที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ถึงแม้จะพูดอย่างนั้น แต่สุดท้ายแล้วลึกๆก็ยังเป็นคนเดียวกันอยู่ดี เป็นไอดอลในหมู่เด็กๆ ส่วนสเป็คคนรักของกิลฯในร่างเด็กนั้นไม่ใช่เซเบอร์ แต่เป็นซาเอะงุจิ ยูคินะ ในร่างเด็กกิลฯมีพลังเวทย์น้อยจึงเรียกNP จำนวนมากๆไม่ได้ แต่ก็สามารถใช้NP เท่าที่เรียกมาได้เป็นอย่างดี กิลฯเด็กไม่มีสกิล"เย่อหยิ่ง" กิลฯเด็กดูเหมือนว่าพักหลังๆจะเริ่มเรียนรู้การเล่นฮานะฟูดะด้วย และชื่อนั้นก็คือ ลอร์ด ออฟ บาบิโลน ในช่วง4วันชุดเปิดพุงที่ร่างหนุ่มใส่ถือเป็นชุดอย่างเป็นทางการของกิลฯ เนื่องจากเป็นของอย่างดีจึงทำท่าโพสได้เพียงท่าเดียวเท่านั้น ส่วนเบ็ดตกปลาที่ร่างหนุ่มใช้คือเบ็ดเด็นโด กามา○สึ 2006ที่ถูกยกเลิกการผลิตไปในระหว่างขั้นตอนการพัฒนา ซึ่งได้มาโดยให้เด็กๆที่เป็นลูกน้องไปจิ๊กของพ่อมาให้
ในอันลิมิเต็ดโคดส์ ได้สังหารมาโต ซากุระ เป็นร่างแห่งจอกศักดิ์สิทธิ์เทียม ล้มเซเบอร์ลงได้และสาดโคลนที่เป็นเนื้อในของจอกใส่เธอ พลังด้านต่างๆแบ่งตามคลาสมีดังนี้
ป้องกันเวทย์ E - ไม่สามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์ แต่อาจลดดาเมจลงได้เล็กน้อย
การทำงานด้วยตนเอง A+ - ถึงแม้มาสเตอร์จะไม่อยู่ก็สามารถทำงานได้เอง
พลังในตอนสงครามครั้งที่4 ดังนี้
ป้องกันเวทย์ C - สามารถป้องกันเวทย์ที่ใช้คาถาสั้นๆ(น้อยกว่า2วรรค)ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ไม่สามารถป้องกันเวทย์ใหญ่ๆอย่างมหาศาสตร์เวทย์,เวทย์พิธีกรรมได้
การทำงานเอง A - แม้มาสเตอร์ไม่อยู่ก็ทำงานได้ แต่ถ้ากรณีที่ต้องการพลังเวทย์จำนวนมากเช่นเวลาใช้โฮวกุต้องมีแบ็คอัปจากมาสเตอร์
มีสกิลดังต่อไปนี้
อัตราส่วนทอง A - มีเงินมากขนาดผลาญใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมด
บารมี A+ - ในระดับนี้เรียกว่าเกินกว่าเสน่ห์ตามปกติ แต่อาจเรียกเป็นพลังเวทย์หรือคำสาปชนิดหนึ่งได้ ความเป็นเทพ B ( A+- ) - มีความเป็นชินเรย์อย่างมาก แต่เจ้าตัวเองรังเกียจเหล่าเทพ จึงทำให้พลังด้านนี้ลดลง
จากคุณ |
:
Yawgmoth ' Celebrity of Death
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ต.ค. 52 23:53:27
A:124.121.189.7 X: TicketID:203087
|
|
|
|
 |