<รถไฟฟ้ามาหานะเธอ>~คิดไม่ผิดที่ตั้งใจไปดูคนเดียวจริงๆ..เหงาสะใจ ได้อารมณ์คนโสด....โปรดส่งใคร๊มาร้ากกช้านนนนถี!!!![spoil]
|
|
ตั้งแต่เห็นตัวอย่างหนังเรื่องนี้ครั้งแรก ผมก็คิดไว้เลยว่า
"ไอ้นี่แหละ ตูต้องไปดูคนเดียว"
ธีมคนโสดมาร้อยวันพันปีอยากมีคู่นี่แหละ ทำไมมันโดนกะตัวเราแบบนี้ฟร่ะ แต่ยังดีต่างกันหน่อยที่เคยมีแฟนมาแล้ว (เคยมีมา2คนเท่าตาลุงเล้ย 555) ณ ปัจจุบันก็อารมณ์คนทำงานออฟฟิศเหมือนกันเด๊ะ..
เป็นหนังเรื่องแรกที่ทำให้รู้สึกว่า "อยากมาดูคนเดียว" ได้ยังไงไม่รู้ ซึ่งปกติ เราก็คงไม่ไปคนเดียว ไปกะเพื่อนเยอะๆบ้าง ไปกะแฟน(เก่า)บ้าง เห็นหลายๆ คห. ในห้องหนังนี้ไปดูคนเดียวบ่อยเลย ผมก็เลยอยากรับรู้ความรู้สึกแบบนี้บ้าง และก็ได้ซึมซับในที่สุด เพื่อนที่ทำงานผมชวนไปดูกันหลายคนเลย บ้างก็ไปแพ็คคู่ บ้างก็ไปเป็นก้อนกลุ่ม ทั้งหนุ่มทั้งสาว แต่ผมก็ตั้งใจว่าจะไปดูคนเดียวให้ได้ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะไปวันไหนดี ไม่ได้ตั้งใจจะไปดูวันแรก เพราะไม่ได้อยากไปดูจัดๆอะไรขนาดนั้น เลยกะว่าว่างๆ หรือรอสักอาทิตย์หน้าให้คนน้อยๆลงหน่อย... แต่สุดท้ายออกมาธุระข้างนอก ไม่ได้แต่งองค์ทรงหล่ออะไรเลย-*- ในที่สุดก็ลากอีแตะ เดินคนเดียวไปที่เมเจอร์ซื้อตั๋วรอบ 20.45 ดูเฉยเลยซะยังงั้น มีที่นั่งว่างอยู่ด้านขวาสุดพอดี ฮ่า....
ฟ้าดลใจผมให้มาดูจนได้...
เข้าเรื่องหนัง
ไม่รู้จะเขียนหรือวิจารณ์อะไรหนังได้มากมายเพราะไม่ใช่เซียนหนังแต่ก็พอจะบรรยายความรู้สึกของตัวหนังได้..
จุดที่ผมชอบมากๆ จุดแรกคือ หนังเรื่องนี้ทำให้พี่เคน กลายเป็นผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง..จริงๆ เป็นผู้ชายบ้านๆคนหนึ่งซึ่งมีอารมณ์และความรู้สึกอ่อนไหวแอบซ่อนอยู่ในความนิ่ง เป็นผู้ชายคนหนึ่งซึ่ง แอบรักผู้หญิง.. ขี้อาย ใจป๊อดด้วยนิดหน่อย ความคิดแรกต่อหนังเรื่องนี้คือ คงจะมีพี่เคนเข้าไปโชว์ความหล่อเทพเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆที่ไปดูกระมัง.. เปล่าเลยครับ ตรงกันข้าม ไอ้ความเป็นธรรมชาติแบบ"เอื้อมมือถึง"หรือ ดูแล้ว จับต้องได้ ของพี่เคนในเรื่องซึ่งไม่ใช่เทพบุตร ทำให้สาวๆที่ไปดู ยิ่งหลงรักผู้ชายคนนี้มากกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ..
ส่วนคริส แทบไม่ต้องพูดถึง เล่นได้ธรรมชาติและน่ารักที่สุด ยกนิ้วให้เลยครับ ทำให้ผมเชื่อได้จริงๆว่า ตัวละครนี้มันโคตรจะจริงเลย มีอยู่เยอะแยะในสังคมนี่ล่ะ รอคอยความรักด้วยความหวัง ชีวิตเหมือนผมเด๊ะ!!! 
ไม่รู้ว่า ฉากแบบที่นางเอก คุยกะตัวเอง คิดอยู่ในใจ เหมือนในการ์ตูน เคยมีหนังไทยเรื่องไหนทำรึเปล่า แต่ผมชอบตรงนี้มากๆเลยครับ แนวได้ใจ แหวกดี ให้อารมณ์ตัวการ์ตูนมากๆเลย
จุดที่สอง ตัวประกอบขโมยซีน.. ฮาทุกตัว.. แต่ตั้งแม่ ม่า ป๊า เพื่อน.. คุณชาวี..จะฮาไปถึงไหน ..เรทโทรเรี่ยนบอย สุเทพ(แน็ค) น้องแว๊นได้มันส์มาก เดฟครองโลก ถึงอารมณ์มากๆ กรูชอบบบเมิงงงงงว่ะ  (สรุปว่า จากหนังปิดเทอมใหญ่ฯ คนที่โทรไปถึงแพตตี้ก่อนคือแน็คชิมิ..) นอกจากนี้ยังมีตัวอื่นๆอีกมาก แถมฮาทุกตัว แอฟ ร่างมาร(ได้ใจโคตร 55555).. พีค ปากแดง จากน้ำตากามเทพ เป็ด..ชีแรง แร๊งงงงง แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย woman on top  น้ายามก็รับมุขซะ.. เพลงนั้นผมร้องไม่ได้แล้วนะเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆๆ เก่าแล้วอ่ะ .. น้องแอร์ภาคพื้นดินที่สุวรรณภูมิก็น่าร้ากกกก แฟน(เต๋อ)เลิกติดสาวยุ่นรึยัง ...  เอ้อ..ทีน้องคนนี้ยังเอามา แล้วทำไมเรื่องนี้ไม่เอาอาโออิกลับมาเล่นด้วยฟะ!!   
.. น้องแพ็ตตี้ คนนี้ไม่พูดถึงไม่ได้ สวยโคตรรรร น้องโตแล้วนะเนี่ยยย แฟนแต่ละคนในเรื่อง พี่ชายมาริโอ้งี้ แน็คงี้ พี่โอ๊คลูกอดีตนายกงี้ ของเค้าดีจริงๆแฮะ  เด็กฮิปฮอปนี่ก็ฮาใช่ย่อย ฮ่าๆๆๆๆๆ ฮาสเกตบอร์ดโคตรๆ ..
อ้อ พี่เรนด้วย ถุงมือพี่เรนได้ใจมากครับ ตูว่าแระว่ามันต้องเต้นท่านี้ 5555
จุดที่สาม ประเด็นต่างๆในเรื่อง - ผมชอบความโรแมนติคของตาลุงตอนที่ส่งกล่องของทิ้งไว้ให้เหมยลี่ เป็นเหมือนกันเลย ผมจะเก็บสิ่งของทุกอย่างที่มีความทรงจำเกี่ยวกับคนที่เรารัก
เชื่อมั้ยครับ กระดาษทิชชู่ที่ผมเคยซื้อมาจากแผงริมถนน ห้าบาท เอามาซับเหงื่อให้เธอคนนั้น ผมก็เก็บ
หลอดเทอร์โมมิเตอร์แตกๆ ที่เคยทำหล่นพื้น ตอนที่พาเขาคนนั้นไปส่งโรงพยาบาลตอนตีสาม ผมก็เก็บ
กระดาษซับเลือดกำเดา ตั๋วหนัง ใบเมเปิล ตั๋วรถเมล์ ฯลฯ อะไรที่พอจะทำให้ผมนึกถึงความทรงจำเก่าๆได้ ผมเก็บหมด ไม่ว่ามันจะเละขนาดไหน... โดนจริงๆ มุขนี้
ชอบประเด็นตอนท้ายเรื่องที่ ทั้งสองคน หลังจากสองปี ก็เปลี่ยนเวลาทำงาน คนนึงยอมเปลี่ยนจากทำงานกลางวันปกติ ไปทำงานกลางคืนเป็นค้างคาวสาว อีกคน กลับมาจากต่างประเทศก็กลายมาเป็นมนุษย์กลางวัน .. หลังจากสองคนได้ถามและรู้เวลาทำงานของกันและกันแล้ว ผมเชื่อว่า มันทำให้ทั้งสองคนรู้ว่า ต่างฝ่ายต่างยังคิดถึงกันอยู่ ผมเชื่อว่า เรื่องราวหลังจากนั้น ทั้งสองคนจะไม่เปลี่ยนเวลา เปลี่ยนกะอีกทีแน่ๆ ทั้งสอง คงคบกันทั้งๆที่เวลาต่างกันแบบนั้นชัวร์.. ก็บอกแล้วไง ระยะห่างและเวลามันไม่สำคัญ สำคัญที่หัวใจตะหาก..
จุดที่สี่ แง่คิดของความรักและการมีแฟน.. .. ถ้ามีแฟน แต่เค้าไม่มีเวลาให้ ไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย จะมีแฟนไปทำไม??.. ......................................................... ประเด็นที่ทำให้ผมเกือบจะเสียน้ำตา มันอยู่ตรงที่ประโยคนี้ "การเป็นแฟนกันมันไม่ได้หมายถึงว่าตัวติดกันตลอดเวลา แต่มันหมายถึงการที่มีอีกคนเค้าเป็นห่วงเราตะหาก"
..มันโดนชีวิตผมมากเลยครับ และมันก็ถูกต้องที่สุดเลยด้วย
คนเราจะรักกันคบหาเป็นแฟนกัน มันไม่จำเป็นต้องได้อยู่ด้วยกันหรือตัวติดกัน ได้เจอกันบ่อยๆ..
ขอแค่ได้รับรู้ว่า มีอีกคนนึงคิดถึง เป็นห่วง และรักเราอยู่ตลอดเวลา มันก็เพียงพอแล้ว..
พิมพ์ไป ก็อยากร้องไห้ไป ส่วนตัวผมเองก็ผิดหวังกับความรักในลักษณะนี้มา ถึงเข้าใจได้ และจะนำประสบการณ์มาเผื่อแผ่
บางครั้ง คนเรา คบกัน อยู่ด้วยกัน ตัวติดกันตลอดเวลา ถึงมันจะอบอุ่นใกล้ชิด แต่เพราะความใกล้ชิดกันเกินไปนี่แหละ จะทำให้เราสูญเสียอะไรบางอย่างไป ประสบการณ์กับแฟนคนแรก ตัวติดกันตลอดเวลาโดยที่ไม่ได้เว้น"ที่ว่าง"ให้แก่กันเลย มันทำให้เราเสียอะไรไปหลายๆอย่าง
บางครั้งเสียเวลาที่จะแบ่งปันไปให้กับเพื่อนๆอีกกลุ่ม ซึ่งบางครั้ง ความสุขที่ได้รับจากเพื่อน มันก็มีค่าพอๆกับความสุขที่ได้อยู่กับแฟน.. ..ใกล้กันมากไป เจอกันทุกวัน โทรหากันทุกวัน บางครั้ง การอยู่ห่างกัน มันจะทำให้เรารู้คุณค่าของความรัก รู้จักคำว่าเหงาและ"คิดถึงกัน" มันจะยิ่งทำให้คนเรารักกันมากขึ้น..
กับแฟนคนที่สอง ผมก็มีปัญหากัน หลังจากอะไรหลายๆอย่างมันเปลี่ยนไป ต้องห่างกันมากขึ้นกว่าเดิม เขาไม่มีเวลาให้เพราะทำงานที่มันต้องแบกงานกลับมาทำที่บ้าน งานเยอะ เหนื่อย ไม่มีแรงหรือเวลา.. ได้เจอกันน้อยลงกว่าเดิมมาก
มันจะไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ ถ้าคนสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกัน หรือได้ติดต่อพูดคุยกันน้อยขนาดไหน
ถ้าเรารับรู้ได้ว่า อีกฝ่ายยังคงรักและคิดถึงเราตลอดเวลา
เรื่องราวของผม มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นครับ ผมรอแล้วรอเล่า ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อยู่ห่างกัน แต่ก็สัมผัสไม่ได้ว่าอีกฝ่ายยังต้องการหรือยังอยากคบกับเราอยู่... ในที่สุดผมก็ยอมแพ้ และมันก็จบลง เหตุการณ์เริ่มมาจากวันวาเลนไทน์ แทนที่จะเป็นวันที่ผมได้เอาดอกกุหลาบไปให้เธอ แต่มันก็..นะ
จริงๆแล้วสำหรับผม ไม่มีเวลาก็ไม่เป็นไร ผมรอจนกว่าจะถึงสักวันที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน วันที่ทุกอย่างมันพร้อม..
เพียงแค่เขาทำให้ผมรับรู้ได้ว่า เขายังรักเราอยุ่ ต่อให้ห่างกันกี่แสนกิโลเมตร ติดต่อกันลำบากแค่ไหน ผมก็พร้อมจะรอ.. แต่มันก็จบไปแล้วล่ะครับ ไม่เป็นไร ^ ^
นี่ละครับ ข้อคิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้ หนังfeel good เข้าไปดูน้องคริสและความตลกสำหรับผม
ไม่คิดเลยว่า มันจะโดนตัวเองอะไรขนาดนี้..- -''
จัดRateให้เล่นๆ ถ้าคะแนนเต็ม10 ผมให้ 9.5 ไปเลย เป็นหนังไทยน่ารักอีกเรื่องที่ดูแล้วรู้สึกดี และมีความสุขหลังจากออกมาจากโรง บอกได้เลยว่า ไม่ใช่หนังที่ขายดาราหรือตัวแสดงนำแน่นอน ทุกอย่างลงตัวกันอย่างที่สุดในหนังเรื่องนี้ ความหล่อของเคน กลายเป็นอะไรที่ธรรมดาไปเลยกับความเนียนของบท
หวังว่า หลังจากสาวๆหลายๆคนดูหนังเรื่องนี้แล้ว คงจะกล้าจีบผู้ชายก่อนกันมากขึ้นนะครับ รออยู่ หุหุหุ ...
หลังจากนั่งดูคนเดียวในโรง รอบ20.45
เดินออกมาคนเดียวในชุดอยู่บ้านที่ไม่ได้เตรียมตัวไปดูหนัง เซอร์มาก (เดี๊ยนไม่แคร์สื่อ)
.. ห้าทุ่มกว่าละ
หยิบเฮดโฟนออกมาเปิดเพลง "โปรดส่งใครมารักฉันที" ให้มันวนลูปซ้ำอยู่เพลงเดียว รอรถเมล์ขึ้นกลับหอ ตามสไตล์คนอยู่ กทม. อารมณ์เดียวกับเหมยลี่
กระแทกหูให้สะใจความโสด
เมื่อไหร่ฟ้าจะส่งเนื้อคู่ลงมาให้ผมสักทีครับ..
คอยปลอบตัวเอง ต้องมีสักวัน.. ที่เจอคนที่เขาจริงใจ ยังคอยบอกตัวเอง ว่าต้องมีสักวัน แต่ว่ามันก็ไม่รู้เมื่อไหร่
เดินลงมา
จากเมเจอร์เอกมัย...
อ๊ะ.... นั่นมันท้องฟ้าจำลองนี่หว่า..
แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 52 01:57:40
แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 52 01:50:24
จากคุณ |
:
หัตถาครองพิภพ
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ต.ค. 52 01:40:44
|
|
|
|