 |
ความคิดเห็นที่ 2 |
ฉับพลันนั้น.. เสียงคำรามกึกก้องของท้องฟ้าดังกระทบหูของเธอ ซึ่งไม่ใช่แค่เสียงดังสนั่นแต่วงจรเวทย์ทั่วล่างของเธอต่างกรีดร้องประสานเสียงขึ้นมาในทันที แรงกดดันในฉับพลันนั้นทำเอาอิริสเวลจวนเจียนจะหมดสติเอาซะง่ายๆ
เสียงคำรามนั้นตามมาด้วยเสียงของสายฟ้าจำนวนมาก พลาน่าจำนวนมากถูกสาดเข้าใส่เขตแดนของเธอที่เป็นป่ารอบตัวปราสาทอย่างรุนแรง แน่ชัดอย่างยิ่งว่าเขตแดนของเธอกำลังถูกโจมตี แม้ว่าอนาเขตที่เธอสร้างอย่างประณีตจะไม่ถูกทำลายอย่างง่ายๆ แต่อาคมหลายส่วนก็ได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน "เกิดอะไรขึ้น...บุกกันซึ่งๆหน้ารึ??" แขนคู่นึงที่แข็งแรงจับบ่าของอิริสเวลไว้ .. เซเบอร์นั่นเอง ผู้ที่ปรากฎตัวอย่างปัจจุบันทันด่วนเมื่อเหตการณ์เริ่่มไม่น่าไว้วางใจ "เป็นอะไรไหม, อิริสเวล?" "อืม แค่ตกใจเท่านั้นแหละ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีแขกที่หยาบคายเช่นนี้มาเยี่ยมเยียน" "ข้าจะออกไปต้อนรับเอง ท่านคอยอยู่ข้างๆข้าไว้ละกัน" อิริสเวลได้แต่พยักหน้ารับคำ เซเบอร์กำลังจะเข้าประจัญบาน นั่นหมายถึงพวกเธอกำลังไปเผชิญหน้ากับศัตรู ทว่าในสนามรบกับเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับอิริสเวบในตอนนี้ซะแล้ว เพราะนั่นคือสถานที่ซึ่งเซอร์แวนท์ที่แข็งแกร่งที่สุดจะยืนเคียงข้างเธอ "เสียงสายฟ้า แล้วก็กลยุทธ์ไร้เหตผลแบบนี้... คู่มือของพวกเราคงเป็นไรเดอร์" "ข้าก็เห็นด้วย"
อิริสเวลยังคงจำได้ถึงพลังทำลายของอาวุธวิเศษ "รถศึกแห่งกอร์เดียส" เธอเองก็เป็นหนึ่งในพยานของการต่อสู้ที่ถนนคลังสินค้าเมื่อสองสามวันก่อน รถศึกอัศนีบาตที่เทียมด้วยโคศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ -- อาวุธวิเศษรูปแบบ Anti-Army เช่นนั้นหากปลดปล่อยพลังทั้งหมดของมันเมื่อไหร่ เขตแดนเวทย์มนต์ของเธอไม่ว่าจุดใดก็ตามก็สามารถถูกทำลายได้ในพริบตาเดียว แถมขณะนี้่อนาเขตที่ว่ายังไม่ฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ด้วยซ้ำจากการต่อสู้กับคาสเตอร์และ เคย์เนทตลอดวันสองวันที่ผ่านมา
"โอ้!!! จ้าวววววอัศวินนนนน!! วันนี้ข้ามาพบเจ้าแล้ว จะออกมาหรือไม่ ฮ่ะ!!! " เสียงนั่นดังมาจากห้องโถงกลาง เหมือนกับว่าผู้มาเยือนได้เดินผ่านประตูมาเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าศัตรูคือ ราชาผู้พิชิต "อเล็กซานเดอร์" ตัดสินได้ง่ายๆจากน้ำเสียงที่ทรงพลังและถ้อยคำที่ไม่มีอ้อมค้อม แต่ในน้ำเสียงนั้นกลับไม่เหมือนเสียงของนักรบที่กำลังจะเข้าต่อสู้อยู่เลย
แต่เซเบอร์ไม่ใส่ใจที่จะคิดมาก ทั้งอิริสเวลและเซเบอร์วิ่งผ่านระเบียงยาวสู่บันไดใหญ่ เธอเรียกชุดเกราะสีเงินขึ้นมาประทับร่างและวิ่งเข้าใส่ราชาผู้พิชิต....ทว่าสิ่งที่ทั้งคู่เห็น คือ แสงจันทร์ที่สาดส่องจากท้องฟ้าทาบทับเซอร์แวนท์ร่างมหึมาในชุดลำลองง่ายๆยืนอยู่กลางห้องโถง ซึ่งทำเอาพวกเธอพูดไม่ออก "..." "..." "โย่ !! หวัดดี เซเบอร์ พอดีข้าอยากมาดูแถวๆนี้หน่อย พอดีได้ยินมาว่ามีปราสาทอยู่แถวนี้ -- ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่เนี่ย พับฟ่าสิ.." ไม่ได้เอ่ยขอโทษใดๆทั้งสิ้น ไรเดอร์ยิ้มกว้างโชว์ฟันขาว บิดคอไปมา แต่พยายามทำเหมือนตัวเองกำลังซีเรียส "มันลำบากเอาเรื่องที่จะเข้าจะออกบ้านของเจ้าทั้งที แล้วดันมามีต้นหมากรากไม้ยุบยับเยอะแยะเต็มสวนไปหมด ... ข้าเกือบจะหลงทางตอนแรกด้วยซ้ำ จนกระทั่งมาถึงประตูหน้าได้ ข้าเลยตัดพวกมันทิ้งลงมั่ง พวกเจ้าน่าจะขอบคุณข้ามั่งนะ ตอนนี้สวนของพวกเจ้าดูดีขึ้นเยอะทีเดียว ฮ่าฮ่า.." "ไรเดอร์ ...เจ้ามัน..."
เซเบอร์กัดฟัน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่คอยทำให้เธอเสียความตั้งใจในการต่อสู้ เธอก็ไม่รู้จะตอบโต้ยังไงเช่นกัน แล้วเธอก็เห็นไรเดอร์ขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจแล้วพูด "โอวว จ้าวอัศวิน ไฉนาเจ้าไม่แต่งตัวอะไรให้มันดูดีทันยุคสมัยมั่งหละคืนนี้?? อย่าบอกข้าเชียวนา ว่าเจ้าเอาแต่ขลุกอยู่กับชุดเกราะสุดบุร่ำบุราณหลุดแฟชั่นแบบนี้ตลอดเลย.."
....ถ้า ชุดเกราะของเซเบอร์ถูกปรามาศว่าเป็นแฟชั่นตกยุค แล้วจะว่ายังไงกับไรเดอร์ที่ใส่เสื้อทีเชิร์ตกับกางเกงยีนส์ตัวเบ่อเริ่มเล่า?? ชุดเกราะที่เธอสวมนั่นถือได้ว่าเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งของเซเบอร์ทีเดียว ทว่ารอยร้าวเล็กๆบนเกราะอกของเธอก็เป็นสิ่งที่ทำให้เธอพูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำนัก
เวฟเวอร์ แอบอยู่ด้านหลังร่างยักษ์ของไรเดอร์เขาจ้องเป๋งไปที่ตัวอิริสเวลด้วยสายตาปฎิปักษ์หรือความหวาดกลัวในตัวของพวกเธอ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหน้าซีดๆของเขาบอกเป็นนัยๆว่าเขาอยากจะกลับบ้าน, อย่างรวดเร็วซะด้วย
ในกาลครั้งหนึ่ง ราชาอล็กซานเดอร์เคยเป็นผู้นำในเครื่องแต่งกายแถบเอเชียมาก่อน เพราะตัวเขาสนใจในวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นของดินแดนที่เขายึดครองได้ ซึ่งบางคราวก็ทำให้เหล่าผู้ติดตามของเขามองเขาอย่างแปลกๆราวกับเชื้อโรคเหมือนกัน อิริสเวลเคยได้ยินเรื่องเหล่านี้ผ่านตำนานต่างๆ แต่ไม่เคยจินตนาการมาก่อนเลยว่าไรเดอร์จะเปลี่ยนรสนิยมขนาดนี้เพราะเห็นเซเบอร์ใส่สูทแล้วดูเท่ห์บาดใจ
และสิ่งที่ทำให้ทั้งสองสาวงงขึ้นอีกหลายเท่า นั่นคือสิ่งที่อยู่ในมือของไรเดอร์... ไม่ใช่ทั้งอาวุธหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ใช้ในการสัประยุทธ์ . . มันคือกล่อง...ดูยังไงๆ สายตาของทั้งคู่ก็มองว่ามันคือกล่องใส่ไวน์แดงชัดๆ
ไรเดอร์, ซึ่งหิ้วลังไวน์ใต้แขนมหึมาของเขาแบบสบายๆ ตอนนี้ดูเหมือนเจ้าของร้านไวน์ที่เดินทางมาส่งของให้ลูกค้าอย่างยิ่ง "เจ้า..." เซเบอร์ อีกครั้งหนึ่งที่อยู่ๆก็พูดไม่ออก ได้แต่หายใจลึกๆ ตั้งสติใหม่แล้วพูดอย่างสุขุมขึ้น "ไรเดอร์ เจ้ามาทำอะไรที่นี่??" "อ้า...เจ้าดูไม่ออกรึไง?? ข้ามาที่นี่เพื่อดื่มกับเจ้าไง -- โอ่ยโหยว หยุดยืนนิ่งเป็นท่อนซุงแล้วนำทางข้าที ปราสาทนี่มีสวนสักแห่งที่เหมาะสำหรับงานเลี้ยงบ้างไหม? เราคงดื่มในปราสาทไม่ไหวซะแล้ว มีแต่ฝุ่นเต็มไปหมดข้างในนี่.." "...."
เซเบอร์ถอนหายใจแบบช่วยไม่ได้ ความโกรธที่กองสุมอยู่ในอกเธอก็พลอยหายไปด้วย เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ดูเหมือนจะไม่มีแรงจูงใจอะไรเลย เธอก็พบว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่บิวด์อารมณ์ให้ฟาดฟันกันกับราชาผู้นี้ "อิริสเวล พวกเราจะเอายังไงดี.." อิริสเวลเองก็ออกอาการเอ๋อไปไม่ต่างกับเซเบอร์นัก เธอเองก็โกรธมากที่อยู่ๆ เขตแดนรอบป่าของเธอโดนระเบิดทิ้งแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ท้ายสุดเธอก็พบว่าเธอทำใจให้เกลียดชายคนนั้นไม่ลงเมื่อเห็นรอยยิ้มเบิกบานบนใบหน้า "เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะวางกับดักใดดๆ อาจเป็นไปได้ว่าเขาอยาจะมาดื่มกับเราจริงๆ.."
ครั้งหนึ่งไรเดอร์เคยพูดว่าเขาเชื่อฟังในสัญญาระหว่างวิญญาณของเหล่าวีรชน ด้วยเกียรติยศและความภาคภูมิใจ แถมท้าทายทั้งเซเบอร์และแลนเซอร์ให้ตัดสินผู้ชนะกัน แต่อย่างไรก็ดีการที่อยู่ๆมาปรากฎตัวชวนดื่มเช่นนี้ก็ยากที่จะเข้าใจได้ "หรือว่าเขามาที่นี่ เพื่อจะเกลี้ยกล่อมหรือปลอบใจเซเบอร์ ??" "ไม่ นี่แหละคือการท้าประลอง" เซเบอร์ ซึ่งสูญเสียความมุ่งมั่นในการต่อสู้ไปเรียบร้อยแล้ว อยู่ๆกลับมาทำท่าขึงขังแบบแปลกๆ "ประลอง ??" อิริสเวลยิ่งงงเต๊กเข้าไปใหญ่ "ถูกต้องแล้ว .... ข้าเป็นราชา เขาก็เป็นราชาเช่นกัน ถ้าพวกเราสามารถหาผู้ชนะได้บนโต๊ะ นั่นก็คือ"สงคราม" ที่ไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้อระหว่างกัน" เมื่อได้ยินคำพูดของเซเบอร์ที่อธิบายให้นายของตนเองฟัง ไรเดอร์ก็พยักหน้าพร้อมยิ้มกว้าง
"โฮ๊ะ โฮ๊ะ โฮ่่....ยอดเยี่ยมที่เจ้าเข้าใจเรื่องนี้ดี ในเมื่อพวกเราไม่สามารถปะทะกันด้วยดาบ ดังนั้นเรามาประลองกันด้วยไวน์ ... จ้าวอัศวิน, ข้าจะไม่ออมมือให้เจ้าเด็ดขาด เตรียมใจไว้ให้ดี" ไรเดอร์สำทับ "น่าสนใจดี ข้ารับคำท้าเจ้า!!" เซเบอร์ ตอบกลับทันควัน จุดประกายวิญญาณอันคมกล้าของการประลองให้ลุกโชน, จนกระทั่งตอนนี้อิริสเวลพึ่งจะเข้าใจว่าที่ทั้งคู่พูดไม่ใช่เรื่องโจ๊ค แต่เป็นการต่อสู้อันแท้จริง
แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 52 04:36:59
จากคุณ |
:
Kross_ISC
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ต.ค. 52 04:35:23
|
|
|
|
 |