PANTIP.COM : A8459320 มหาลัย`สยองขวัญ อาจไม่สยองอย่างที่คิด [ระวังสปอย] [ภาพยนตร์]

ความคิดเห็นที่ 12

ไปดูมาแย้วค่ะ โดยภาพรวมของหนังที่ต้องขอชมเชยคือสามารถทำให้คนดูต้องลุ้นระทึกได้ตลอดเวลา
เ่ก่งมากนะคะ ขอชมเชย ความน่าลุ้นของหนังไม่มีสะดุด แต่ว่าเปิดเรื่องมาไม่ค่อยชวนให้น่าติดตามเท่าไร ไม่บอกที่มาที่ไป ดูแล้วงงหน่อยๆ

ส่วนนักแสดงของเรื่อง ตอนแรกคาดว่าจะเป็นคุณเป้ยที่เป็นตัว main หลัก แต่คิดผิดถนัดเลยค่ะ กลับกลายเป็นนักแสดงในแต่ละเรื่องที่เป็นจุดเด่น คนที่ต้องขอชมเชยที่สุด คือคนที่เล่นเป็นคุณประเสริฐ นศ.แพทย์ในเรื่องตอนห้องดับจิต ใครไปดูแล้วต้องฮากลิ้งกับตอนนี้แน่นอน ไม่อยากเล่าต้องไปดูเองค่ะ น่าได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงชายสมทบ

ทีนี้มาดูส่วนที่เป็นข้อด้อยของหนังเรื่องนี้กันบ้าง เป็นเรื่องของน้ำหนักบทภาพยนตร์ค่ะ มันยังมีจุดด้อยหลายจุดที่ทำให้คนดูไม่อาจเชื่อถือได้ เช่น ตอนศาลในห้องน้ำหญิง หลังจากชายหญิงคู่หนึ่งได้เข้าไปยาไอซ์ที่เก็บไว้ในม.ให้แก่แก๊งมาเฟียแล้ว พอเดินออกมา ก็ทำท่ากลัวสุดขีด ทั้งๆที่ยังไม่เห็นจะมีอะไรชักนำ ตอนเอายาก็ไม่ได้ขึ้นไปที่ชั้น 5 คือถ้าทำท่ากลัวตั้งแต่ตอนเดินขึ้นตึกไปเอายานี่มันน่าเชื่อถืออ่ะ แต่นี่เดินขึ้นตึกก็แล้ว ไปเอายาเสร็จก็แล้ว พอใกล้จะกลับขึ้นรถ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ากลัว เง็งอ่ะ คนกลัวมันต้องแสดงท่าทางลุกลี้ลุกลนว่าอยากจะกลับ แต่นี่นักแสดงทำท่ากลัวแบบลนลาน ตื่นกลัว ยังกะผีอยู่ตรงหน้าแล้วงั้นอ่ะ บทตอนนั้นก็บท่าทางนักแสดงมันไม่ประสานกันพอที่เชื่อได้ และกะอิแค่นักแสดงนศ.ชายหญิงสองคนทำท่ากลัว ชนวนเพียงแค่นี้ก็กลับทำแก๊งมาเฟีย 2 คนอยากดูผีขึ้นมางั้นอ่ะ ตามหลักแล้ว พวกเล่นยาส่วนใหญ่ พอได้ของแล้วก็กลับอ่ะ เหมือนตอนตามล่าหานศ.ชายคนที่เอายาไอซ์ไปอ่ะ โอ้โหตามล่าไม่หยุด เรียกว่าไม่มีอะไรจะหยุดยั้งเขาได้ ซึ่งพอได้ยาแล้ว ก็น่าจะรีบกลับไปทำภารกิจอื่นอ่ะ ไม่ใช่มาหาผี เสียเวลาทำมาหากินแบบน เอาเวลาไปส่งยา เก็บตังค์ดีกว่า น้ำหนักของเหตุผลที่อุตส่าห์ปีนกลับขึ้นไปชั้น 5 ไม่หนักแน่นพอ

พอมาตอนที่ 2 ตอนลิฟท์แดง เปิดเรื่องมาผู้หญิงนส.สาวนามสกุลดังที่ปู่ของเธอเคยเป็นนายพลใหญ่สั่งฆ่านศ.ตอนเดือนตุลาฯได้เข้ามาเีรียนในม.แ่ห่งนี้
ถูกรุ่นพี่ไม่ชอบขี้หน้า กล่าวหาว่าเป็นลูกฆาตรกร ก็เลยผลักเธอเข้าไปดูรอยเปื้อนเลือดในลิฟท์แดง โอ้พ่อเจ้าประคูณ รุ่นพี่ด่าสาดเสียเทเสียอย่างกะเป็นนศ.เดือนตุลาที่เผชิญเหตุการณ์ซะเอง มันยังไม่เห็นมีฉนวนที่น่าจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนั้น ด่าถึงญาติวงศ์ตระกูล อืมมถ้าเป็นนศ.รุ่นพี่ที่จบออกไป แล้วเป็นคนเดือนตุลาแล้วมาช่วยรับน้อง แล้วเผอิญรู้ว่านศ.หญิงคนนี้เป็นหลานนายพลที่สั่งฆ่า แล้วเกิดความโกรธแค้นก็ว่าไปอย่าง เรื่องเล่าลิฟท์แดงที่น่ากลัว ก็เลยเหลวอ่ะ ไม่หลงเหลือเค้าแห่งตำนาน

ถัดมาเป็นตอนห้องดับจิต ถ้าเทียบก็เป็นตอนที่ตลกที่สุด เหมือนตอนคนกลางของ 4 แพร่ง ตลกเพราะคนแสดง ไม่ใช่ตลกเพราะเนื้อหา นศ.แพทย์ที่ชื่อประเสริฐ ตลกด้วยหน้าตา และบุคลิก ตลกหน้าตายด้วยนะ ไม่ใช่ตลกธรรมดา อย่าง 4 แพร่งเนี่ย ผู้กำกับเก่ง คนเขียนบทเยี่ยม คนแสดงเป็นธรรมชาติ ทุกอย่างเลยกลมกลืนลื่นไหล แต่เรื่องประเสริฐเล่นเนี่ยมีนักแสดงหลักอยู่ 2 คน คือประเสริฐ กับเพื่อนเรียนหมอด้วยกัน ทีนี้ในเรื่องที่เป็นข้อด้อยของตอนนี้ คือ เิปิดเรื่องมานายประเสริฐก็โดนเพื่อนนศ.หมอด้วยกันล้อว่ากลัวผี ซึ่งบุคลิกนศ.แพทย์ ไม่เหมือนอ่ะค่ะ เหมือนเด็กเรียนช่างกลเลย คนที่จะเป็นว่าที่แพทย์ มันต้องมีอะไรมากกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าลุคต้องดูเรียบร้อย แต่ภาพที่ออกมามันไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นแพทย์ ทีนี้ตัดมาตอนที่ประเสริฐต้องพลิกดูรอยสักของศพหญิงจมน้ำ ก็ไม่มีการใส่ถุงมือยาง จริงๆมันผิดหลักอ่ะค่ะ ก็เลยไม่น่าเชื่อเท่าไร แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก ตอนนี้ได้ใจที่สุด

เอาล่ะมาถึงตอนสุดท้ายกันแล้ว ตอนป็อกๆ ครืดๆ โอ! พระเจ้า เสียวสยองน่ากลัวดีแท้ ไม่ได้หมายถึงผีนะคะ แต่หมายถึงบทแสดงที่เหมือนจริงของฆาตรกรที่ชอบฆ่าคน เอฟเฟกการแต่งหน้าเยี่ยมค่ะ ที่ไม่สมจริงคือ หลังจากที่เพื่อนของเป้ยหิว แล้วออกไปหาอะไรกิน ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างห้องก็โผล่มาขอรอเพื่อนเป้ยอยู่ในห้องของเป้ย แล้วก็ส่งสายตาหื่นกาม คุณเป้ยเองก็ยอมให้เขามาค่ะ แล้วชายคนนั้นก็ถามคุณเป้ยว่า “จำผมไม่ได้เหรอ” พอเป้ยจำได้ว่าเป็นคนที่เล่นแชตกับเพื่อนของเธอ ชายโรคจิตคนก็ตกใจที่เป้ยจำได้ และก็วิ่งออกไป รู้สึกมันไม่มีน้ำหนักอ่ะค่ะ อุตส่าห์เดินเข้าไปถามเป้ยว่าจำผมไม่ได้เหรอว่าผมเป็นใคร เพื่อวิ่งหนีเป้ยเนี่ยนะ ไม่สมเหตุสมผล ถ้าเดินเข้าไปถามเป้ย แล้วพอเป้ยจำหน้าได้ แล้วผู้ชายก็ตบตีหรือข่มขืน หรือแสดงอาการอะไรที่ทำให้เป้ยกลัว อันนี้ค่อยน่าเชื่อหน่อย ไม่ใช่วิ่งตาลีตาเหลือกหนีเป้ย ทั้งที่ตัวเองเป็นผู้ชายมีแรงเยอะกว่าเหนือว่า เป้ยต่างหากที่น่าจะหนี แต่กลับกลายเป็นว่า เป้ยเพิ่งผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญ กลับล้มตัวลงนอนต่อได้อีกแบบสบายใจหายห่วง

อีกด้านหนึ่งของหนังเรื่องนี้ค่อนก็คือความล่อแหลมทางสังคม เช่น ตอนศาลในห้องน้ำหญิง นศ.วิศวะ ใส่เสื้อชอปขายยาไอซ์ ไม่จำเป็นต้องสื่อขนาดนี้ก็ได้ ให้ใส่เสื้อชอปเพื่อที่จะเน้นย้ำคำว่า “มหาลัย” สยองขวัญหรือ? ไม่ควรค่ะ และก็ตอนสุดท้ายป๊อกๆครืด นี่ค่อนข้างล่อแหลมสำหรับพวกจิตวิปริตไม่ปกติ หากได้ไปดูแล้วเหมือนเป็นการกระตุ้นให้เกิดการกระทำเลียนแบบ ตอนจบแม้ว่าวิญญาณของผู้หญิงที่โดนฆ่าจะตามหาเจอ แต่ก็เจอในลักษณะที่ฆาตรกรขับรถไปเจอนศ.สาวสวยยืนอยู่คนเดียวกลางสี่แยก แล้วก็ทำทีว่าเป็นห่วงยืนคนเดียวให้ขึ้นรถมาด้วยกัน แค่เนี้ย ไม่เห็นบทลงโทษที่ฆาตรกรจะโดนเลยอ่ะ แต่ทีฉากที่มันทั้งข่มขืน ทั้งเอาฆ้อนตีผู้หญิง ทั้งหั่นศพ ทั้งโยนทิ้งน้ำ หรือฉากที่ฆาตรกรที่ชื่อ gongto จับผู้หญิงมัดมือมัดเท้า เอาลูกกอล์ฟวางไว้ที่ปากผู้หญิง แล้วใช้ไม้ที่ดัดแปลงให้เหมือนไม้กอล์ฟตีไปที่ปากผู้หญิง มันช่างโหดร้ายค่ะ หากคนดูที่มีจิตใจเอียงเอนไปด้านนั้นได้ชม ก็เหมือนเป็นการกระตุ้น หรือปลุกเร้ากลายๆ แต่ยังไงถ้าใครชอบชมภาพยนตร์แนวหนังผีก็ไม่ควรพลาดนะคะ องค์ประกอบของหนังไม่ได้เลวร้ายค่ะ แต่น้ำหนักของบท และความน่าเชื่อถือยังด้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง

จากคุณ : princess online

เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 13:37:22