เกาะกระแส เมื่อเราไปดูรถไฟฟ้ามาหานะเธอคนเดียว ทำไมชีวิตนางเอกเรื่องนี้เหมือนเราจัง
|
|
วันนี้ทำงานเสร็จเหลือบมองนาฬิกา บ่าย 3 โมง อยากไปดูหนังมาก แต่ทำไมชวนใครไปก็บอกว่า ดูก่อน เอาไว้วันหลังได้ไหม วันนี้ไม่ว่าง อืมๆๆ ไม่เป็นไร คิดเลยในใจ เอานะ ดูคนเดียวก็ได้ว่ะ เอาไว้วันอื่นฉันจะวางตรงพวกแกไม่เนี้ยะ ไม่รอช้า เปิดคอมดูรอบหนังรอบเร็วสุดก็ 4 โมงครึ่ง กดคลิกจอง คิดในใจ ว่าทำไมจองตั๋วหนังผ่านอินเตอร์เน็ตนี้ช่างรวดเร็วดีแท้ แล้วก็ขับรถไปเลย พอเดินเข้าห้างมันมีความรู้สึกเวิ้นเหว่อ ระแวง เพราะว่าคนเดียว มองไปทางไหน ไม่ค่อยเห็นใครเดินคนเดียวเลยไม่มาเป็นคู่ก็มากับแฟน ขึ้นลิฟต์ตรงไปยังโรงหนัง พอเห็นสภาพคนซื้อตั๋ว โอ้! พระเจ้าทำไม่คนเยอะอย่างนี้ แล้วก็รีบเข้าช่อง V.I.P ไปจอง พนักงานรับรหัสไป เห็นที่นั่งการจองแล้วถามว่า มีแค่ 1 ที่นั่ง เหรอครับ คิดในใจแปลกเหรอมี 1 ที่นั่ง พยักหัวพร้อมกับจ่ายเงิน แล้วก็ไปหาไรกิน ความรู้สึกเหวิ้นเหว่อเริ่มเข้ามา แล้วก้มีความคิดผุดขึ้นมาว่าทำไมมีแต่คนมองเรานะ คิดในในว่า "เอาน่า เดียวก็ได้เข้าไปในโรงหนังแล้ว" พอหาไรกินเสร็จก็ไปซื้อ Pop cron กับ pepsi คิดผิดอย่างแรง เพราะมาคนเดียวมีมือถือแค่ 2 ข้าง ข้างหนึ่งถือ pop corn อีกข้างถือ pepsi แล้วก็คีบตั๋วหนังไป แล้วคนเยอะมาก อายเขาจัง เสร็จแล้วก็เดินไปเขาห้องน้ำ ก็ต้องถือทั้งสองอย่างไปด้วย คนมองกันเต็มเลย ตอนนี้ยังไม่ได้ดูหนัง ยังไม่คิดนะว่าชีวิตเหมือน เหมยลี่
เอาละ เข้าเรื่องหนังดีกว่า เขาโรง 16.30 น. ตรงเป๊ะๆๆ แต่พอเข้าไปในโรงตกใจ คนเยอะจัง แล้วฉันจองแถวที่สูงแล้วนะ ได้ H5 ว่างที่เราอยู่ที่เดียว ซ้ายขาวเต็มไปด้วยผู้คน แถมไม่พอเอาส้นสูงไปเหยียบใส่เท้าเขาอีก คนทางขวามือมอง มาดนเดียวมีทั้ง popcron กับ pepsi ซึ่งแน่นอนทั้งซ้ายและขวามากับแฟน นั่งดูหนังตัวอย่างกับโฆษณานานมาก มองนาฬิกา 17.20 น. หนังยังไม่มา เริ่มถอนหายใจ แล้วเพลงสรรเสริญพระบารมีก็ออกดีใจมาก บวกกับดูข่าวเมื่อคืน เห็นหน้าในหลวงน้ำตาซึม แล้วก็หนังดูหนัง ด้วยความเพลินเพลิน ยิ่งดู ชีวิตนางเอกก็ยิ่งเหมือนเราเลย เพื่อนๆ พากันไปแต่งงาน ทำงานของตนเอง ตอนนี้เราเหมือนเหมยลี่เลย กินข้าวกลางวันคนเดียว เพราะเพื่อนร่วมงานเป็นผู้ชาย แล้วอาชีพครูเวลาพักกลางวันไม่ค่อยจะตรงกันจะเหลื่อมๆ กันไปไม่เกิน 1 ชั่วโมง เดินทางไปทำงานก็แสนลำบางแต่เราไม่เหมือนเหมยลี่นะต่อรถหลายรอบของเราที่ทำงานไกลแล้วก็รถติด เรามีกระเป๋าถือ กระเป๋าโน๊ตบุ๊ค กระเป๋าเอกสาร
อีกสักแปบก็เห็นหน้าพี่เคน เริ่มคิดถึงแฟน แฟนเราไปดูงานที่สิงคโปร์ 5 วันไปเมื่อวาน แล้วมันก็เป๊ะเลยตรงที่เรากับแฟนไม่ค่อยได้เจอกัน ไม่ค่อยได้กินข้าวด้วยกันเพราะเราทำงานไม่ตรงกัน แล้วเหมยลี่ก็ไปหาเป็ด ถามเป็ดว่า "เป็นแฟนกันต้องกินข้าวพร้อมกันไหม แล้วมีไหมที่ไม่กินข้าวด้วยกัน" แล้วก็มาสะดุดคำพูดที่ว่า "เป็นแฟนกันแล้วไม่มีเวลาให้กันจะมีแฟนไปทำไม" โอ้ใช่เลย เหมยลี่พูดถูก แล้วก็ร้องไห้ไปกับเหมยลี่ แต่คำพูดของเป็ดยิ่งทำให้คิดได้มากกว่า "เป็นแฟนกันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันก็ได้ เขามีแฟนเพียงแต่ให้รู้ว่ามีคนที่รักและห่วงใยเราอยู่" โอ้คิดบวกอย่างนี้ดูดีจังยิ่งร้องไห้ใหญ่เลย ไม่ไหวอะคิดถึงแฟนจัง แล้วดูไปก็ยิ่งเหมือนเราอีกเหมยลี่ทำทุกอย่างที่จะไม่ไปเมืองนอก แต่จะไปกับคุณลุง เหมือนเราเลยพอแฟนจะมาหาเราที่จะเคลียร์ทุกอย่างให้เขา เพื่อที่ให้ได้อยู่กับเขาแล้วก็วางแผนกันว่าจะไปเที่ยวไหน กินอะไร ทำอะไรบ้างดี แล้วก็มีพักผ่อนตามอัธยาศัยเหมือนกันเลย
พอดูนั่งจบความรู้สึกตอนออกจากโรงหนัง หนังจบแต่คนไม่จบ ทำไมเศร้าอะ เป็นไรไปเนี้ยะ แล้วโทรศัพท์ก็สั่น พอดูปุ๊บดีใจจัง แฟนโทรมาถามว่าทำไรอยู่ บอกเขาว่ามาดูหนังคนเดียว เหงามาก เขาก็พูดออกมาเขาก็เหงาอยู่ที่โน้นคิดถึงเราจัง น้ำตาซึมเลยไว้กลับมาจะพาไปกินข้าว ดูหนังด้วย
นี่ใช่ไหมที่เขาบอกว่า "ดูหนังดูละคร แล้วย้อนดูตัวเอง" มันใช้ได้กับเราก็วันนี้
ป.ล เพิ่งเห็นแอ๊ฟเล่นร้ายได้ก็ดูหนังครั้งนี้แหละ
ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาเสียเวลาอ่านนะค่ะ เผื่อว่ามีใครที่อาจจะมีความรู้สึกเดียวกับเราบ้างไหม เล่าให้ฟังก็ได้นะ
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 52 21:33:34
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 52 21:27:49
จากคุณ |
:
jaloe
|
เขียนเมื่อ |
:
24 ต.ค. 52 21:27:20
|
|
|
|