Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เฉือน : สังคมศัลยกรรม (เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)  

นี่คือผลงานที่น่าพอใจของ ก้องเกียรติ  โขมศิริ หลังจาก “ไชยา” หนังมวยไทยมาเฟียเรื่องก่อนที่ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน  ข้อดีที่โดดเด่นของ “เฉือน” คือบทภาพยนตร์ที่ผ่านการคิดอย่างรอบคอบ  คม และลึกซึ้ง  หนังวิเคราะห์เจาะลึกเพื่อทำความเข้าใจตัวละคร  ในขณะเดียวกันก็สื่อสาระบางอย่างถึงสังคมไทยปัจจุบัน  กระจายเนื้อหาออกไปทั้งด้านลึกและกว้าง  บทบาทการแสดงของดาราหน้าเก่าและใหม่ถือว่าสอบผ่านไม่มีอะไรให้ต้องติดใจเป็นพิเศษ  ประกอบกับพลังโดยรวมของหนัง  ทั้งจากฝีมือการตัดต่อ  ลีลาการลำดับเรื่องและดนตรีประกอบเป็นเสียงไวโอลินที่บาดลึกเหมือนคมมีด  ล้วนกระตุ้นผู้ชมให้มีอารมณ์ร่วมอย่างได้ผลตลอดเวลาฉาย  


พระเอกของเรื่องชื่อ “ไท”  ไทต้องการเป็นที่ยอมรับจากสังคมเล็ก ๆ ของกลุ่มเพื่อนผู้ชาย  เค้าจำต้องแสดงความแข็งแกร่งด้วยการรังแก “นัท”  เด็กชายอ่อนแอที่อยู่ข้างบ้านเพื่อให้เพื่อนกลุ่มนั้นยอมรับเข้ามาเป็นพวก  (ทำนองเดียวกับที่ “เจี๊ยบ” ทำกับ “น้อยหน่า” ในหนังเรื่อง “แฟนฉัน”)  นัทถูกไททำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ไม่เคยคิดโกรธเกลียด  นั่นเพราะเมื่อใดก็ตามที่นัทและไทได้อยู่ด้วยกัน  เค้าทั้งสองคือเพื่อนเล่นและเพื่อนแท้ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันในหลาย ๆ เหตุการณ์


ครอบครัวของเด็ก ๆ ล้วนแต่ขาดพร่อง  ไม่สมบูรณ์ ไทเป็นลูกติดพ่อซึ่งอาศัยอยู่กับแม่เลี้ยง  นัทอยู่กับพ่อขี้เมาส่วนแม่หนีไปเป็นโสเภณีที่พัทยา  ไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะแห้งแล้งความรักความอบอุ่นสักเพียงใด  เด็ก ๆ เหล่านี้ก็ยังคงมีความฝัน


เรื่องราวช่วงนี้ให้บรรยากาศแบบหนัง coming of age ทั่วไป  แสดงภาพการเปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่ทั้งทางด้านร่างกายและอารมณ์  พร้อมผูกเงื่อนปมทางจิตใจได้สอดคล้องตามหลักจิตวิทยา  ทั้งกับตัวละครหลักอย่างไทและนัท  และกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม  ก่อนเผยภาพอนาคตซึ่งสะท้อนให้เห็นเหตุกระตุ้นที่ถูกสั่งสมอยู่แล้วจากอดีต


ไทอยากโตขึ้นเป็นตำรวจเพราะนิสัยชอบช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่าโดยเฉพาะการช่วยเหลือนัทจากภัยคุกคามในครอบครัว  จนเป็นเหตุให้เค้าทั้งสองต้องหนีออกจากหมู่บ้านไปผจญภัยอยู่ที่พัทยา  แต่ก็ไม่วายถูกคุกคามจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลโดยเฉพาะจากแก็งค้าเด็กชายให้กับชาวต่างชาติ  ด้วยความช่วยเหลือของป๋าชินผู้มีอิทธิพลใหญ่ย่านพัทยา  ไทมีโอกาสได้ก้าวเข้ามาทำงานร่วมกับตำรวจดังความฝัน  แต่ก็ต้องพบความจริงว่าเค้าก็เป็นได้เพียงสายลับของตำรวจที่ต้องตามเก็บคนตามไปสั่งของป๋าชิน  ส่วนนัทต้องตกเป็นเหยื่อของสังคมทรามด้วยการติดอยู่ในวงจรอุบาทว์ของพัทยา  ภาพฝันที่เคยบริสุทธิ์งดงามของเด็กทั้งสองต้องเติบโตขึ้นอย่างพิกลพิการและผิดรูปผิดร่างจนไม่เหลือเค้าเดิม


จากการปฏิบัติภารกิจลับตามบัญชาป๋าชินครั้งหนึ่งทำให้ไทต้องติดคุกเพราะยิงตำรวจตาย  ไทจำต้องพรากจากแฟนคนรักที่มีชื่อว่า “น้อย”


ในระหว่างที่ไทต้องโทษจำคุก  เกิดเหตุฆาตกรรมคดีกระเป๋าแดง  ฆาตกรฆ่าเหยื่อเพศชายอย่างโหดเหี้ยมด้วยการตัดอวัยวะเพศและหั่นศพยัดใส่กระเป๋าเดินทางสีแดงใบใหญ่  ศพแล้วศพเล่าที่ต้องสังเวยความวิปริตของฆาตกรรายนี้จนกระทั้งลูกชายของรัฐมนตรีต้องตกเป็นเหยื่ออย่างน่าสังเวช  ป๋าชินในฐานะตำรวจซึ่งรับผิดชอบสำนวนคดีนี้ถูกขีดเส้นตายจากรัฐมนตรีให้ต้องสืบสวนหาตัวคนผิดให้ได้ภายใน 15 วัน  


จากการสัมภาษณ์นักโทษเพื่อประเมินสภาพจิตของแพทย์ตำรวจทำให้มองเห็นจุดเชื่อมโยงบางอย่างระหว่างความทรงจำในฝันร้ายของไทและการฆาตกรรมคดีกระเป๋าแดง  ป๋าชินคิดหาทางออกด้วยการตกลงกับไทให้เค้าออกจากคุกชั่วคราวเพื่อช่วยติดตามฆาตกรรายนี้  พร้อมข้อเสนอว่าหากงานครั้งนี้สำเร็จไทจะได้รับอิสรภาพ  ไทซึ่งเป็นสายลับให้กับตำรวจอยู่แล้วแม้แต่ตอนอยู่ในคุก  ตอบรับข้อเสนอนี้ด้วยหวังจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับหญิงสาวสุดรักของเค้าอีกครั้ง  


หลังจากไทออกมาปฏิบัติภารกิจยังคงปรากฏเหตุฆาตกรรมอย่างต่อเนื่อง  ปมจากเหยื่อแต่ละรายคล้ายเป็นการส่งสัญญาณถึงตัวไทโดยตรงให้เค้าหวนระลึกถึงจุดเกาะเกี่ยวบางอย่างในอดีต  


เฉือนดำเนินเรื่องอย่างน่าติดตามและขมวดเข้มข้นขึ้นทุกขณะเมื่อจุดเฉลยใกล้เข้ามา  หนังหักมุมด้วยพล็อตแสนฉลาดและหาได้ยากยิ่งในวงการหนังไทย  มองในองค์รวม  หากไม่นับงานสร้างที่เป็นไปด้วยความตั้งใจเต็มร้อย  พระเอกตัวจริงของเฉือนคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ก้องเกียรติ  โขมศิริ และ วิศิษฐ์  ศาสนเที่ยง  ผู้รับผิดชอบบทซึ่งถือเป็นกระดูกสันหลังที่แข็งแรงของหนังเรื่องนี้


ก้องเกียรติ  โขมศิริ  ผู้กำกับไฟแรง  ฉลองการจัดเรตหนังไทยด้วยภาพความรุนแรงและอาจสุ่มเสี่ยงต่อเงื่อนแง่ทางศีลธรรม  เช่น  ฉากจ้วงแทงเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำอีกหรือการปาดคอเลือดสาดที่เผยให้เห็นกันแบบไม่เกรงใจผู้ชม  ฉากเซ็กส์แฟนตาซีที่ฉูดฉาดไม่แพ้แสงสีในห้องนั้น  ภาพนักศึกษาขายตัวและโสเภณีเกลื่อนถนน  ฉากเปลือยกายโชว์ก้นของพระเอกในคุกที่กินเวลานานไปหน่อย  รวมถึงการกระทำทารุณต่อเด็กทั้งจากบุพการีและจากครูบาอาจารย์  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อบอกเล่าเนื้อหาสำคัญของหนังและยังเป็นการผูกปมเหตุผลก่อนที่นาทีของการเฉลยจะมาถึง


(เนื้อหาในย่อหน้าต่อไปนี้อาจทำให้ผู้อ่านเดาฆาตกรในเรื่องได้)

นอกจากเรื่องราวที่เข้าใจได้ทันทีแบบไม่ต้องใช้กระได  เฉือนยังใช้วิธีเล่าเรื่องผ่านสัญลักษณ์  เช่น  การย้อมสีผมของตัวละครเพื่อผสมความเป็นคนไทยกับวิธีคิดแบบตะวันตก  ชื่อของตัวละครหลักว่า “ไท” และเพื่อนในวัยเด็กตัวโตที่ชื่อว่า “หรั่ง”  การที่เด็กไทยต้องตกเป็นเบี้ยล่างให้กับชาวต่างชาติหื่นกาม  การประกอบอาชีพโสเภณีทั้งชาย-หญิงที่ขายตัวแลกเงินเปรียบกับการขายที่ดินของชาวบ้านให้แก่นายทุนต่างชาติเพื่อสร้างรีสอร์ท  การตัดสินใจเลือกที่ผิดพลาดของไท  (ไทย) ที่เค้ามักทำร้ายสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจเพียงเพราะต้องการเป็นที่ยอมรับในสังคมทรงอิทธิพล  (สากล)  ทั้งการยอมฆ่าเพื่อนในคุกเพื่อให้ป๋าชินเห็นผลงานและการกลั่นแกล้งนัทในวัยเด็กเพื่อให้เพื่อนรับเข้ากลุ่ม  ภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยจากชนบทที่สงบสวยงามจนกลายเป็นสังคมเมืองที่ฉูดฉาดไปด้วยตัณหาราคะจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมของความเป็นไทย  การเปลี่ยนแปลงไปของนัททั้งการเปลี่ยนชื่อหลายครั้งและการทำศัลยกรรมแปลงเพศอันเป็นจุดหักมุมของเรื่อง  แต่ที่กินใจผมมากที่สุดเห็นจะเป็นสัญลักษณ์ของตัวละครหญิงแก่เจ้าของร้านขายของชำที่เป็นโรคท้าวแสนปม  (มีปุ่มปมเป็นก้อนเนื้อขึ้นเต็มไปทั้งตัว) ถือเป็นภาพเปรียบเทียบเพื่อสื่อความหมายโดยตรงถึงสภาพจิตใจของฆาตกร  ทั้งความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนน่ารังเกียจของสังคม  และปมต่างๆ ในความทรงจำที่ฆาตกรเคยต้องตกเป็นเหยื่อผู้ถูกกระทำครั้งแล้วครั้งเล่า  ทั้งปมจากพ่อที่ทุบตีอยู่เสมอรวมทั้งขืนใจกระทำทารุณกรรมทางเพศ  ปมจากเพื่อนชายที่ตั้งแง่รังเกียจ  ปมจากครูที่กระทำอนาจาร  รวมทั้งปมจากสังคมทรามในยุคปัจจุบันที่สกปรกไม่ต่างกันในทุกๆ วงการ


เฉือนเปรียบเทียบพฤติกรรมของมนุษย์และสังคมไทยที่เปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างคมชัดและคมคาย  แม้พล็อตทำนองนี้จะเคยคุ้นกันมาบ้างจากเรื่อง Transamerica  ที่เปรียบการแปลงเพศกับการเปลี่ยนไปของสังคมอเมริกาจนไม่เหลือเค้าเดิม  แต่สำหรับหนังแนวสืบสวนจิตวิทยา  เฉือนยังคงมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนโดยเฉพาะจากลายเซ็นของผู้กำกับที่ถึงวันนี้ต้องนับเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องจับตามอง  


สิ่งหนึ่งที่ผมมองเห็นจากงานของ ก้องเกียรติ  โขมศิริ คือสาระน้ำดีที่รินรดถึงสังคม  ทั้งจากไชยาเรื่องก่อนที่ผู้กำกับแฝงแนวคิดเชิงอนุรักษ์ความเป็นไทย  สะท้อนศิลปะในการรับและการรุกของมวยไทยไชยาเทียบกับชั้นเชิงของสังคมไทยในการรับมือกับวัฒนธรรมตะวันตก  (โดยเฉพาะฉากการต่อยสุดท้ายของเรื่องซึ่ง “เผ่า” เอาแป้งมาทาหน้าและปัดป้องไม่ให้นักมวยฝรั่งมาลบแป้งจากใบหน้าของเค้าได้ )  และเรื่องราวของเฉือนก็เช่นกัน  ก้องเกียรติ  โขมศิริ ยังคงเป็นห่วงความเป็นอยู่ของสังคมที่โสมมขึ้นทุกวัน  ความไม่เป็นตัวของตัวเองที่มักต้องขึ้นอยู่กับชาติมหาอำนาจ  อิทธิพลสกปรกในสังคมทั้งระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับชาติ  รวมถึงปัญหาเรื่องอัตลักษณ์ความเป็นไทยที่เหมือนผ่านการศัลยกรรมมาแล้วหลายครั้ง  หน้าตาของสังคมที่เปลี่ยนไปไม่ต่างกับชีวิตของตัวละครที่เจริญขึ้นทางด้านกายภาพแต่จิตวิญญาณนั้นกลับเสื่อมถอย


เช่นเดียวกับที่ไชยาทำได้  เฉือนยังคงผนวกความบันเทิงเพื่อเอาใจตลาดวงกว้างให้เข้ากับเนื้อหาสาระที่ค่อนข้างหนักอึ้งได้อย่างลงตัว  และหากจะกล่าวกับแบบสั้นๆ ถึงคุณภาพหนังไทยในช่วงนี้  ผมว่าเรื่องนี้เฉือนทุกเรื่องที่เคยเป็นกระแสแบบกินขาด  


ถือเป็นเกียรติอีกครั้งที่มีโอกาสได้ดูหนังดี ๆ จากผู้สร้างสรรค์คนไทยที่ทุกวันนี้ก็มีฝีมือไม่น้อยหน้าคนชาติไหนในโลก


ป.ล. สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรักแห่งสยามก็น่าที่จะปลื้มหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยากนะครับ

แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 09:30:33

แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 52 10:45:01

แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 52 10:44:18

แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 52 10:42:36

จากคุณ : beerled
เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 10:38:17




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com