Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Dorama Review: Buzzer Beat หากคุณกำลังรอคอยความรัก ขอเชิญทางนี้ (ไม่สปอยล์)  

หากใครติดตามเป็นแฟนละครญี่ปุ่นอย่างเหนียวแน่น คงจะทราบดีว่าแนวเรื่องที่เน้นเกี่ยวกับความรักจริงๆ จะมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่ละครญี่ปุ่นจะเป็นแนวอาชีพ ซึ่งต้องมีการต่อสู้เพื่อความฝันของตนเอง คำว่า กัมบัตเตะ หรือพยายามเข้านะ เป็นคำที่แทบจะเรียกได้ว่า ถ้าไม่ได้ยินในหนังหรือละครญี่ปุ่น ก็ดูจะไม่ใช่ญี่ปุ่นแท้ๆ Buzzer Beat ก็เช่นกัน ไม่หนีจากแนวนี้เท่าไร แต่ที่ต่างก็คือ เรื่องนี้ถือเป็นละครรักที่มีแนวอาชีพมาเสริม ต่างจากเรื่องอื่นๆ ซึ่งมักเป็นแนวอาชีพที่มีเรื่องความรักมาเสริม Buzzer Beat เป็นเรื่องเกี่ยวกับบาสเกตบอล มันคือ การชู้ตลูกบาสเก็ตบอลในเสี้ยววินาทีสุดท้ายก่อนเสียงนกหวีดหมดเวลาและสามารถทำแต้มชนะได้ บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของชนชาติญี่ปุ่นซึ่งจะไม่ยอมละทิ้งความพยายามใดๆ อย่างง่ายๆ จะต้องต่อสู้ให้ถึงที่สุดไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน กีฬา หรือความรักก็ตาม

นาโอกิ รับบทโดย ยามะพี เป็นนักบาสเกตบอลอาชีพ ซึ่งยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก ทีม ARCS ที่เขาสังกัดอยู่ ตกรอบในการแข่งขัน จึงส่งผลให้เขาโดนลดค่าตัว ทำให้แผนการที่จะแต่งงานกับคนรักของเขาคือ นัทสึกิ ต้องชะลอออกไป สำหรับนาโอกิแล้ว การไล่ตามความฝัน ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและช่วยหล่อเลี้ยงและเป็นกำลังใจให้สู้ในฐานะนักบาสมืออาชีพ นัทสึกิสำหรับเขาแล้ว เป็นคนรักที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบ เรียบร้อย น่ารัก ดูเป็นแม่บ้านแม่เรือน สามารถเข้ากับครอบครัวของนาโอกิได้เป็นอย่างดี และยังเป็นสาวออฟฟิสที่ทำงานเก่งด้วย เธอทำหน้าที่หลักในการจัดการด้านการประชาสัมพันธ์ของทีม ในขณะเดียวกันก็เป็นเชียร์ลีดเดอร์ของทีมในยามที่มีการแข่งขันด้วย นัทสึกิ รับบทโดย ไอบุ ซากิ ซึ่งคงคุ้นหน้าคุ้นตากับเธอดีจากหลายๆเรื่อง เช่น Regatta, Attention Please, Love & Farm  ส่วนใหญ่เธอมักรับบทเป็นคนเรียบร้อย น่ารัก ออกจะโก๊ะๆหน่อย สำหรับเรื่องนี้ แรกๆก็ดูเป็นเช่นนั้น แต่จริงๆแล้ว มันถือว่า พลิกบทบาทของเธออย่างมากทีเดียว เพราะภายใต้หน้ากากที่เป็นสาวสมบูรณ์แบบ เธอกลับรู้สึกว่า นาโอกิ ไม่สมบูรณ์แบบ และดู "เด็ก" ที่ยังรีรอกับการวิ่งไล่ตามความฝัน โดยไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในความเป็นจริง หากคุณเคยดูซากิจากเรื่องอื่น เมื่อมาดูเรื่องนี้ อาจจะไม่เชื่อว่านื่คือ ซากิคนเดิมคนนั้น เพราะมันเหมือนเป็นมุมด้านมืดที่เราไม่เคยมองเห็น แต่เธอแสดงออกมาให้เราได้เห็นเป็นครั้งแรก

ริโกะ รับบทโดย คิตะคาวะ เคโกะ หากใครยังจำได้ เธอเคยรับบทเป็นเซลเลอร์มาร์ส จาก Sailor Moon Live Action ตั้งแต่สมัยเข้าวงการใหม่ๆ จากตำแหน่ง Miss Seventeen เธอมีผลงานภาพยนตร์ และการเป็นพรีเซนเตอร์นางแบบโฆษณามากกว่าละคร แต่เมื่อผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว ผมคิดว่ามันน่าจะเข้าตาให้ผู้จัดเลือกเธอมากขึ้น เพราะเรื่องนี้เธอแสดงดูมีเสน่ห์เหลือล้นจริงๆ ริโกะเป็นนักไวโอลินซึ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยดนตรี ด้วยความฝันว่าจะได้เป็นนักไวโอลินในวงดนตรีมืออาชีพ ระหว่างที่หางานทำเธอก็ทำงานพิเศษในร้านขายหนังสือกับมาอิ เพื่อนสนิทของเธอซึ่งเล่นฟลุ้ต เธอเกือบมีโอกาสก้าวสู่มืออาชีพครั้งหนึ่ง แต่เธอก็เลือกที่จะไม่เดินเข้าไปด้วยเหตุผลของศักดิ์ศรีในวิชาชีพ

การพบกันของริโกะกับนาโอกิ เสมือนเป็นด้ายแดงแห่งพรหมลิขิตที่ผูกพันทั้งสองให้มาได้เจอกัน อย่างไรก็ดีด้ายแดงเส้นนั้นได้ชักนำอีกบุคคลหนึ่งให้มาพบกับริโกะก่อนที่จะได้พบกับนาโอกิเสียอีก นั่นคือ คาวาซากิ โทโมยะ โค้ชทีมบาสเก็ตบอลของนาโอกินั่นเอง โค้ชคาวาซากิตกหลุมรักริโกะตั้งแต่แรกพบ ริโกะก็เหมือนจะพยายามเปิดใจรับ แต่ด้วยเหตุที่เธอมีความหลังฝังใจที่ไม่ดีต่อความรัก ทำให้เธอไม่สามารถเปิดใจได้เต็มที่ แต่เธอก็พยายามที่จะรักษาสัมพันธ์กับโค้ชคาวาซากิซึ่งเป็นคนที่สามารถพึ่งพิงได้ สำหรับการพบกับนาโอกิเป็นครั้งแรกนั้น ดูละเมียดละไมมาก เพราะเป็นการพบกันเนื่องจากพรสวรรค์ด้านประสาทสัมผัสของนักดนตรีที่ดีเลิศเป็นพิเศษของริโกะ การพบกันครั้งแรก นาโอกิอยู่ในสภาพที่หมดกำลังใจ แต่เหมือนสายสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่เริ่มก่อเกิดโดยไม่ทันรู้ตัว ทำให้เมื่อลาจากกัน นาโอกิกลับมีพลังขึ้นโดยไม่รู้ตัว อาจเนื่องเพราะริโกะได้ปวารณาตัวขอสมัครเป็นแฟนคลับคนแรกของนาโอกิ ซึ่งเป็นนักบาสโนเนมที่ไร้ตัวตนคนหนึ่ง

แต่ละคนจะมีหนทางอย่างไรในการไล่ตามความฝัน  ริโกะจะจัดการความสัมพันธ์ของเธอกับนาโอกิและโค้ชคาวาซากิอย่างไร ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ของนาโอกิกับนัทสึกิและริโกะจะเป็นอย่างไร เป็นสิ่งที่ต้องขอเชิญชวนให้ติดตาม แม้ละครเรื่องนี้เนื้อเรื่องจะดูเหมือนละครน้ำเน่าเรื่องหนึ่งซึ่งไม่ค่อยพบในละครญี่ปุ่น แต่ก็นับว่าสามารถทำได้อย่างลึกซึ้งกินใจอย่างยิ่ง ผมดูยามะพีมาหลายเรื่องมากๆ แม้จะไม่ครบทุกเรื่อง แต่ส่วนใหญ่ยามะพีมักจะแสดงเป็นคนนิ่งๆ เก๊กหน้าหล่อๆ ไม่ค่อยได้เห็นฉากแสดงอารมณ์มากนักแม้กระทั่งละครรักล้วนๆอย่าง Proposal Daisakusen แต่เรื่องนี้ผมคงต้องขอยกให้เลยว่ายามะพีสามารถทำให้ผมเชื่อได้จริงๆว่า เขากำลังมีความรัก เขากำลังมีความสุข หรือเขากำลังเจ็บปวด

อย่างไรก็ดี สุดยอดที่สุดสำหรับผมต้องขอยกให้เคโกะ ฉากแสดงความรักของเคโกะ มันดูธรรมชาติ อบอุ่น และลึกซึ้งจริงๆ น้ำตาของเคโกะก็เหมือนหลั่งรินมาจากใจ หากใครที่ชอบละครแนวโรแมนติก แล้วพลาดฉากบอกรักของเรื่องนี้ ถือได้ว่า คุณได้พลาดสิ่งสำคัญไปอย่างหนึ่งในชีวิตทีเดียว ดูแล้วรู้สึกได้ว่าเคโกะได้ทุ่มเทจริงๆกับเรื่องนี้ เสมือนเธอกับริโกะได้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ และสุดท้าย สิ่งที่ถือว่าสุดยอดอีกอย่างสำหรับเรื่องนี้ ในฐานะที่เป็นละครเกี่ยวกับดนตรีด้วยส่วนหนึ่ง ก็คือดนตรีประกอบที่สามารถฟังแล้วให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศของความรักอย่างอบอวลท่วมท้น กลมกลืนไปกับบทบาทของนักแสดงได้อย่างดียิ่ง ฟังแล้วให้รู้สึกถึงบรรยากาศของการโหยหาความรัก หากคุณกำลังรอคอยความรักให้พัดผ่านเข้ามาในชีวิต เรื่องนี้อาจจะช่วยเติมเต็มความอบอุ่นในจิตใจของคุณได้ไม่มากก็น้อย Highly Recommended

Credit รูป: popcornfor2

แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 52 19:04:18

 
 

จากคุณ : โอบ๊อท
เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:02:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com