ความคิดเห็นที่ 1 Q.เป็นไงมาไงถึงได้กลายมาเป็นพระเอกหนังรักพูดอีสานระดับตำนานอย่าง “แหยมยโสธร2” D.คือตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเป็น “พระเอก” คือจริงๆแล้วจะให้ผมเล่นเป็นบทอะไรก็เป็น คือต้องบอกว่า “แหยมยโสธร” เป็นหนังที่ผมชอบมากๆ เหมือนได้ร่วมงานกับตำนาน เหมือนเด็กอีสานทุกคนต้องรู้จัก ต้องเคยดูหมด  อย่างผมเรียนที่ขอนแก่นด้วยไง ก็จะแปลหนังได้ง่าย แล้วก็จะมีหยิบมุกมาใช้ตลอดเวลาจากแหยมภาคแรก ก็จริงๆแล้วในเรื่องนี้จะให้เป็นอะไรก็เป็น แต่ยิ่งพอรู้ว่าเป็นพระเอกด้วยก็ดีใจและกดดันด้วย ก็พยายามทำให้ดีที่สุด เพราะพี่เขาก็เลือกเราแล้ว ตอนแรกพี่เขาก็เปรยมาว่า ดิมพูดอีสานได้มั้ย เราก็คิดว่าต้องเป็นตัวฮาสักตัวหนึ่ง ไม่คิดว่าจะเป็นพระเอก แต่พอเป็นพระเอกแล้วก็สนุกดี เพลินดี จากคุณ : หนูนา ยาจก เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 14:57:54

ความคิดเห็นที่ 2 Q.คิดว่าอะไรคือเสน่ห์ของหนังเรื่องแหยมยโสธร D.มันเป็นหนังที่ดีมากเรื่องหนึ่งที่ผมได้ดูเลยนะ  ก็คิดว่าเสน่ห์ของหนัง ถ้าดูจากชื่อยโสธร  จริงๆก็สะดุดชื่อมากกับจังหวัดนี้ พอคิดถึงยโสธร หน้าพี่หม่ำก็ลอยมาเลย  ทีนี้พอนึกถึงแหยมยโสธร มันก็จะนึกถึงหน้าพี่หม่ำ ความตลก ความเป็นอีสาน ทั้งเรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและสีสัน ถ้าให้นิยามนะ แหยมยโสธรก็น่าจะนึกถึงบ้าน  นึกถึงความสนุกสนานของคนภาคอีสาน ความตลกเฮฮาของคนภาคอีสาน  ดูซื่อๆจริงใจยิ้มๆ ไม่มีการหลอกลวง นึกถึงภาพสีจัดๆ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 52 15:05:52 จากคุณ : หนูนา ยาจก เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:00:32

ความคิดเห็นที่ 3 Q.โดยส่วนตัวแล้วรู้จัก “หม่ำ จ๊กม๊ก” มาก่อนหน้านี้ไหม D.จริงๆแล้วพี่หม่ำกับผมอายุต่างกันมากอยู่แล้ว ถ้าจะบอกว่ารู้จักเขาตั้งแต่เกิดก็คงไม่แปลกอะไร  แล้วยิ่งสมัยก่อน วีดีโอตลกมันดังเหลือเกินก็เช่ามาดูกัน  เปิดเวทีทองก็มาเจอพี่หม่ำอีก ก็ชั่งทองกันเข้าไป จนมาถึงวันหนึ่งเราได้รับการติดต่อจากทางพี่หม่ำว่าอยากจะให้แทททูคัลเลอร์ขึ้นไปเป็นแขกรับเชิญบนเวทีพี่หม่ำ เราก็คิดว่าพี่หม่ำแกคิดอะไรอยู่ เอาเราขึ้นไปทำไม เขาก็บอกว่าเขาชอบเราตั้งแต่เราไปออกหม่ำโชว์แล้ว  คือตอนนั้นเราก็ยังไม่เห็นอะไรเขามาก เห็นแค่ว่าออกมา พอคัทปุ๊บก็เข้าห้อง  แต่พอหลังจากหม่ำออนสเตจเสร็จแล้วมาเจอแหยมเต็มๆนี่ คือเขาเป็นคนไม่ตลกเลย ชีวิตเขามีแต่ ฟิล์มหนัง เครียดนั่นนี่  แสงได้มั้ย เสียงได้มั้ย ทุกอย่างได้มั้ย  คือรู้สึกว่าพี่ไม่ตลกเลยนะ พี่จะตลกก็ต่อเมื่อสั่งแอ็กชั่น  พี่ก็ตลกเลยนะเนี้ยะ  คือผมคิดว่าพี่เขาคงตลกจนเบื่อแล้วครับ เขาก็คงเป็นนักธุรกิจ เป็นศิลปินสร้างงานแล้วตอนนี้  อาจจะตลกไม่ได้แล้ว เพราะเป็นลูกพี่คน เป็นหัวหน้าคน  แต่พอได้เห็นอีกมุมหนึ่งของหัวหน้าครอบครัว เพราะครอบครัวเขาเป็นครอบครัวใหญ่ไงครับ  เขาดูเป็นคนน่าเกรงขาม คงไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเอาถาดมาฟาดหัวเขา   คือแค่จะคิดเรียกเขาว่า ไอ้หม่ำตอนลับหลัง ยังกระดากปากเลย เขาดูมีบารมีมีออร่าบางอย่างของเขา  แต่พอมาอยู่ในกล้องเขาก็จะมีออร่าบางอย่างที่ทำให้เราไม่เกร็ง  คือถ้าอยู่กันตามปกติผมไม่คุยเลยนะครับ เพราะไม่กล้าคุย ไม่รู้จะคุยอะไร เป็นไงพี่ สบายดีไหม นี่ยังไม่กล้าถามเลย แต่พอเขามาอยู่หน้ากล้อง มันเหมือนมีไอเย็น ใจเย็นลูก คือทำให้นักแสดงแต่ละคนที่ร่วมงานด้วย ผ่อนคลายลงไป  พอคัทปุ๊บ ไปอยู่หน้ามอนิเตอร์ก็จะเป็นไอร้อนมาอีกแล้ว   เขาเป็นคนที่แบบ งานก็งาน เล่นก็เล่น แล้วพอเวลาทานข้าวก็เป็นไอเย็นอีกแล้ว กลายเป็นคนตลกไป งานก็ทิ้งไว้ด้านหลัง  ก็ดีครับ มันก็เป็นชีวิตของคนๆหนึ่งที่น่ามาเป็นตัวอย่าง  เขาจริงจังกับงานดี เป็นนักแสดงที่มีคุณภาพ และก็เป็นผู้นำครอบครัวที่ลูกน้องยำเกรง คือคุมคนได้ด้วย ไม่ใช่แบบตลกไปวันๆ แล้วก็พาลูกน้องไปเฮกันแล้วไม่มีใครกลัว นี่ไม่ใช่ แต่นี่แบบว่า นกเป็นนก ไม้เป็นไม้ทันที จากคุณ : หนูนา ยาจก เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:09:23

ความคิดเห็นที่ 4 Q.ช่วยขยายความกับประโยคที่เรามองว่า  “หม่ำ จ๊กม๊ก” คือฮีโร่ของคนอีสานตัวจริง D.จริงๆแล้วฮีโร่ของคนอีสาน ถ้าพูดกันตรงๆเลยถ้านึกถึงอีสานแล้วก็จะนึกถึงความแห้งแล้ง ความกันดาร ความยากไร้ แต่ทีนี้ คนนี้เขามีบ้าน 100 ล้านแล้ว เขาไปทำไรมา คือผมเพิ่งได้ยินมาคำหนึ่ง แล้วถึงได้รู้ว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นฮีโร่ ก็คือความจนไม่ใช่กรรมพันธุ์ แล้วเขาทำมาขนาดนี้ได้อย่างไร  แล้วเราต้องศึกษาชีวิตเขารึเปล่า เขาไปทำอะไรมา  ก็เห็นเล่นตลกคาเฟ่อยู่ดีๆแล้วกลายมามี 100 ล้านได้อย่างไร เขาเหมือนเป็นฮีโร่ที่สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นมาได้ แต่เป็นฮีโร่แบบดำเนินชีวิตจาก0-100 ล้านได้ เขาทำยังไง ก็ศึกษาการทำงานดูวิธีการทำงาน ดูการวางตัว  แล้วเขาคือฮีโร่จริงๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ  ยิ่งถ้าเป็นคนที่แบบ จนแล้วก็จนไป  คือจนเป็นกรรมพันธุ์ แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช้กรรมพันธุ์ จากคุณ : หนูนา ยาจก เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:21:06

ความคิดเห็นที่ 5 รูปในความเห็นที่3 นั่นดิมหรือเปล่าคะ จากคุณ : สาวน้อยฮอลลี่ เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:23:16

ความคิดเห็นที่ 6 คือคนนี้บอกได้เลยว่าเป็นคนที่จนโดยไม่ใช่กรรมพันธุ์ แต่ในขณะเดียวกันกลับไปที่ยโสธร ไปเจอเพื่อนเขา ก็ยังเป็นอย่างเดิมอยู่ คือถ้าไม่เรียกพี่หม่ำว่าฮีโร่ ก็ไม่รู้ว่าอะไร คือเป็นตัวอย่างทั้งเด็กๆ  วัยรุ่น หรือคนที่กำลังท้อแท้อยู่ก็ได้ ชีวิตนี้หมดแล้วนะ สิ้นเนื้อประดาตัว แต่เขาเริ่มสร้างตัวมาตั้งแต่อายุเท่าไร  เขาไม่ได้สร้างตัวมาตั้งแต่ 4 ขวบ แต่เขาสร้างมาตั้งแต่ 20 โดยที่เขาก็ไม่ได้ไปเรียนเมืองนอกมา  ไม่ได้จบกำกับหนังด้วยซ้ำ แต่ทำไมหนังทุกเรื่องมันถึง 100 ล้านได้ล่ะ คือคนๆนี้มันต้องมีอะไรบางอย่างแล้ว คนๆนี้ต้องเรียกว่า ฮีโร่ ถูกแล้ว  แล้วยิ่งทำหนังรักพูดอีสานทั้งเรื่องอีกต่างหาก  คือต้องบอกก่อนเลยว่าภาคแรกไม่ได้ดูที่โรง  ตอนที่เช่าวีซีดีมาจากร้าน แล้วใส่แผ่นเข้าไป มันไม่คิดว่าจะมีหนังพูดอีสานทั้งเรื่องขนาดนี้  คือชีวิตมันจะไม่พูดไทยเลยรึไง คือนั่งดูแล้วแบบ เฮ้ย เจ๋งว่ะ กล้าดีนะ คือมันไม่มีหรอก ปกติจะมีก็แค่ตัวโจ๊กตัวเดียวที่พูดอีสานตลอดเวลา  แต่นี่ทุกคนทั้งเรื่อง ทั้งพระ หรือใครก็ตาม  แล้วพอมาภาคนี้ก็ยังทั้งเรื่องอยู่  แต่ก็มีผมที่พูดอีสานไม่เป็นเพราะมาจากกรุงเทพ  มันก็จะเป็นแบบ พูดไทยก็ได้ แต่เป็นไทยกวนๆ  เป็นแบบโบราณเก่าๆคือเขากล้าที่จะทำ แล้วมันได้ 100 ล้านด้วย  ทั้งความกล้าและความคิดสร้างสรรค์เขา มันมีอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้หนังประสบความสำเร็จ แล้วยิ่งภาคนี้ ความเข้มข้น หักมุมหรือชั้นเชิง จะมีมากขึ้นไปอีก ก็ส่งผลให้หนังพูดอีสานทั้งเรื่องหรือพูดง่ายๆว่าหนังของคนอีสานจะไปได้ไกลในระดับไหน ก็ต้องคอยดูกัน จากคุณ : หนูนา ยาจก เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:24:27

ความคิดเห็นที่ 7 ดิม แหยมมากๆค่า 555+ จากคุณ : วี้ดวิ้ว เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:31:39

ความคิดเห็นที่ 8 Q.เป็นอย่างไรบ้างกับผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต D.สำหรับเรื่องแรกก็ได้คาแรกเตอร์ที่ใกล้เคียงตัวจริงมากๆก็ทำให้ผ่านไปได้ด้วยดี  แล้วพี่หม่ำก็จะดูในเรื่องของแอ็กติ้ง การพูดการจา ต้องพูดยังไง ลงน้ำหนังเสียงช่วงไหน เร็วไปดีมั้ย ช้าไปเป็นอย่างไร  พอเริ่มเล่นจริงๆมันก็คล้ายๆการร้องเพลง ก็คือการกล้าแสดงออก  การพูดการจาก็เหมือนพูดกับคนดู คือพูดให้รู้เรื่อง พูดเร็วไปเขาก็ไม่รู้เรื่อง ช้าไปก็น่าเบื่อ  และโชคดีที่ไปเรียนแอ็คติ้งมาด้วย ก็ทำให้ได้ concept บางอย่างมา มันทำให้การแสดงบางอย่างเราดีขึ้น แต่ก่อนเราคิดว่า ท่องๆๆๆ มองจริงมองหลอก หรือรับอารมณ์เขามาบ้างรึยัง ก็ไม่รู้ ก็ต้องขอบคุณครูเงาะด้วย ที่สอนคอร์สแอ็คติ้งถึงแม้จะเป็นเวลาสั้นๆแต่ก็จะมีประสิทธิภาพมากๆ หนังเรื่องแรกก็ดีครับ ไม่เคยได้ยิงปืนมาก่อนก็ได้ยิงแล้ว ไม่เคยยิงกระสุนปลอมมาก่อนก็ได้ยิง ก็เรียกว่าครบรส ทั้งร้องไห้ ตลก ยิงปืน ฆ่าผู้ร้าย กวนตีน ปีนบ้านคน  โดดลงทุ่งนา ครบรสเลยครับ เล่นเรื่องแรกก็เหมือนแสดงไปซัก 10 เรื่องได้ จากคุณ : หนูนา ยาจก เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:37:58

ความคิดเห็นที่ 9 Q.เป็นนักร้องแล้วมาเป็นนักแสดง คนใกล้ชิด ครอบครัวที่บ้าน เพื่อนฝูงรอบข้างช่วยสนับสนุนมากน้อยแค่ไหน D.หลังจากรู้ว่าได้เล่นแหยมยโสธร2 แน่นอนแล้ว ตอนแรกก็บอกแม่ แม่ก็ตกใจ ไม่เชื่อ เราก็บอกว่าจริงๆ แล้วแม่ก็ถามว่าต้องแต่งตัวอย่างไร เสื้อผ้าหน้าผมต้องดูดีมั้ย หน้าเป็นสิวต้องรักษานะ ฟันเหลืองนะเรา นอนน้อย ก็เหมือนผู้จัดการส่วนตัวเราคนหนึ่งเลย พี่พีอาร์ที่บริษัทจะไม่เข้มเท่านี้ นี่จัดการให้หมดต้องตื่นกี่โมง แล้วพอเวลาได้มาทำงานจริงๆที่กองถ่าย  ก็มาเยี่ยมกัน คือตอนแรกก็บอกไม่ต้องมาหรอกแม่ ร้อน ไม่มีห้องพัก ไม่มีอะไรหรอก แต่พอตอนบ่ายก็โทรมา บอกว่าจะมา ผมก็ถามเขาว่าจะเซอร์ไพรส์เหรอ  เขาก็บอกว่าเปล่า แม่มาเที่ยวตลาด 3 ชุกไม่ได้มาดูเราหรอก แค่แวะมา แล้วแวะมามันใกล้กันมั้ยแม่ คือแม่เขากลัวเสียฟอร์ม เขาอยากจะมาดูลูก  แล้วที่บ้านเขาปลื้มพี่หม่ำอยู่แล้ว คือดูพี่หม่ำมาตั้งแต่เด็ก ทั้งระเบิดเถิดเทิง หรือว่าคาเฟ่  แล้วพอเจอพี่หม่ำเขาก็จะกรี๊ดกร๊าดกัน ก็วิ่งไปขอบคุณพี่หม่ำกันที่ให้ลูกได้มาทำงานอย่างนี้ ก็ดีใจที่ได้เห็นพ่อแม่ดีใจ ที่ได้มาเจอฮีโร่เขา ก็มีตามไปถึงยโสธรเลยนะ คุณแม่และคุณป้า 2 พี่น้อง ไม่มีอะไรทำ ก็เลยขับไปดูที่ยโสธร พอดีเขาขับกลับบ้านจากที่กรุงเทพไปที่อุดร พักกันคืนหนึ่ง แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปยโสธรนะ ซื้อของไปฝากพี่มด พี่หม่ำ ก็ซื้อน้ำพริก ปลาร้า พวกเนื้อทอด เวลานั่งทานข้าวกัน เขาก็จะใส่ใจทุกรายละเอียด คือเขาไม่เคยกินข้าวกับพี่หม่ำ เขาก็จะเกร็งๆ ดูว่าเขาทานข้าวกันอย่างไร ผมก็บอกแม่อย่าไปดูเขามาก พี่หม่ำเขาทานข้าว เขาเกร็ง  ก็ดูน่ารักดี ผู้ใหญ่ไม่เคยเห็นดารา ก็ตลกๆดี จากคุณ : หนูนา ยาจก เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:40:00

ความคิดเห็นที่ 10 Q.เล่าให้ฟังแล้วว่าบทบาทและคาแรคเตอร์ใน “แหยมยโสธรภาค2" เป็นอย่างไร D.ก็รับบทเป็นปลัดธนู เป็นหนุ่มเมืองกรุงที่พกความมั่นใจสูงมาก ทั้งการพูดการจา หรือการวางตัว คาแรกเตอร์ก็จะดูกวนๆทะเล้นๆ มีความมั่นใจสูง ไม่ค่อยกลัวกำนันแหยมเท่าไร ก็จะกัดกันตลอดเวลา เพราะด้วยยศทางราชการที่เราจะใหญ่กว่าเขา แต่ด้วยความที่เราต้องไปจีบลูกสาวเขา เราก็จะเล็กกว่าเขา ก็จะกัดกันไปกัดกันมา ไม่มีใครยอมใคร  ราชการส่งมาให้พัฒนาจังหวัดยโสธร แต่สุดท้ายแล้วต้องมาพัฒนาความรักของเรา แทนที่จะพัฒนาท้องถิ่น  ด้วยความที่เราเป็นปลัด แล้วชาวบ้านเวลาเจอปลัดเขาก็จะเลื่อมใสศรัทธา ยิ่งจบจากกรุงเทพมาน่าจะพัฒนาบ้านเมืองได้ ก็คือทุกคนจะมองเราในแง่บวก  แต่จะมีคนเดียวที่ไม่ชอบเลยคือกำนันแหยมและเกษตรอำเภอที่เป็นคู่แข่งที่ต้องจีบแว่แข่งกัน ก็เป็นคนที่น่าเลื่อมใส แต่ถ้ารู้จักจริงๆก็จะเหมือนเด็ก มนุษยสัมพันธ์ก็จะดี มีมุกกวนๆมาให้ชาวบ้านได้หัวเราะตลอด  ก็เป็นคนดี แต่พี่หม่ำไม่ชอบเรา เพราะลุคส์ที่ดูกวนๆ เหมือนเป็นจิ๊กโก๋เพลย์บอยมาจากกรุงเทพ ขับรถเบนซ์ บ้านรวย กำนันก็จะคิดว่าคนๆนี้มันจะมาพัฒนายโสธรได้อย่างไร มันรู้จักความลำบากรึเปล่า ชีวิตมันดูหรูหราเหลือเกิน  แต่พอดูจริงๆแล้ว คือเราก็กะล่อนนั่นแหละ แต่เราก็เป็นคนสู้งานเหมือนกัน หนักเอาเบาสู้ แต่ก็จะมีแม่เจ้ย และก็น้องคำผาน ที่ชอบเรา อย่างคำผานโดยส่วนตัวเราจะมีใต้โต๊ะกันตลอดเวลา  อย่างแม่เจ้ย พูดง่ายๆก็เราเป็นคนกะล่อนปากหวานเข้าทางผู้ใหญ่ แม่เจ้ยก็รักก็เอ็นดู ประมาณนั้น จากคุณ : หนูนา ยาจก เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:44:36

ความคิดเห็นที่ 11 Q.ฟังๆดูแล้วคาแรคเตอร์ “ดิมแทททูคัลเลอร์” กับ “ปลัดธนู” ค่อนข้างใกล้ตัวเหมือนกัน D.ปลัดธนูผมยาวกว่าแค่นั้นเองครับ(หัวเราะ)แต่ความกวนๆทะลึ่งทะเล้นจะคล้ายๆกัน แต่ในชีวิตจริงแล้วผู้ใหญ่เราก็ต้องมีสัมมาคารวะอยู่ดี แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 52 15:45:52 จากคุณ : หนูนา ยาจก เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:45:26

ความคิดเห็นที่ 12 Q.แล้วคิดว่าอะไรคือเสน่ห์ของคาแรคเตอร์ “ปลัดธนู” ที่เราเล่น D.คือตอนแรกที่อ่านบทไปแล้วได้รับบรีพ ก็โห มันกวนใช้ได้ แล้วบุคลิกของผมมันก็กวนอยู่แล้วซึ่งก็น่าจะแสดงได้ง่าย เพราะมันเหมือนตัวเรามาก แล้วด้วยความที่ต้องตลก ไปเชือดเฉือนกับพี่หม่ำ คือไม่ค่อยมีใครในหมู่บ้านที่กล้าไปแหยมกับเขา  แต่ผมกล้าไปแหยมกับเขา มันก็ต้องมีความกล้าแสดงออก มีความกล้าที่จะพูดกับผู้ใหญ่ในมุมของวัยรุ่นที่คิดว่าตัวเองถูก  แล้วยิ่งผู้ใหญ่ที่หัวโบราณหวงลูกสาว แต่เราก็มีความกล้าอยู่ ถ้าเรื่องกะล่อน เราก็ใช่ครับ จีบหญิงเก่งก็ใช่ครับ แต่สุดท้ายในใจเขามีแค่คนเดียวคือแว่ ดูได้จากท้ายเรื่องที่ต้องจากกัน อาจจะคิดว่าต้องไม่เสียใจ แต่สุดท้ายแล้วคือกลายเป็นแว่ที่ไม่เสียใจเลย แต่กลายเป็นเราที่ต้องเสียใจร้องไห้จะเอาแว่อยู่นั้นแหละ ก็ต้องรอดู จากคุณ : หนูนา ยาจก เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:46:51

ความคิดเห็นที่ 13 Q.เห็นบอกว่าต้องมีการเปลี่ยนลุคส์แปลงโฉมพอสมควรเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าหน้าผม D.จริงๆแล้วแฟชั่นในแหยมยโสธรจะเป็นในยุค 60-70  จะเป็นแนวอัฟโฟร์ หัวฟูๆอันใหญ่ๆ รองเท้าหนาๆการพูดการจา หรือการเสยผมแต่ละครั้ง มันก็จะมีสไตล์ของมัน สมมติถ้าเป็นสมัยนี้ก็จะยีผมข้างหลังกันจังเลยอย่างพวกเกาหลี แต่สมัยนั้นเขาจะแบบเนี๊ยบ  อย่างการไหว้ที่มีท่วงท่า จะเป็นอย่างนั้นอยู่  ด้วยตัวผมเองก็ดูหนังในยุด60-70 มามากพอสมควร  ก็จะรู้ว่ายุคนั้นเขาทำอะไรกันอยู่ ทั้งการร้องเพลง การพูดจาหรือว่าการเดิน คือถ้าเดินในยุคปัจจุบันก็คงโดนรุมกระทืบ แต่ว่าในสมัยนั้นเขาเดินอย่างนั้นจริงๆ มีเดินช้าๆ มีดีดนิ้ว  คือเราทำการบ้านมาดี พี่ๆคอสตูมท์เขาทำการบ้านเรื่องการหาเรื่องเสื้อผ้าแต่ละชุดก็ดีๆเจ็บๆทั้งนั้น  คือใส่ในชีวิตประจำวันไม่ได้แน่   แล้วเรื่องรองเท้าส้นตึกนี่ตอนแรกผมกลัวมาก เพราะก่อนถ่ายทำ 1อาทิตย์ ผมข้อเท้าพลิก  แล้วตอนไปฟิตติ้งเสื้อผ้าก็เห็นแล้วว่ามันหนามาก คือ 3 นิ้ว  แล้วในขณะเดียวกันมันก็ไม่ได้เดินตามห้าง แต่มันเดินตามท้องนา ซึ่งมันก็ไม่ได้เรียบเลย  ซึ่งมันก็มีหลายครั้งที่จะพลิกบ่อย แต่ว่าพอหลายๆครั้งมันก็จะค่อยๆชินเองครับ จากคุณ : หนูนา ยาจก เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:48:21

ความคิดเห็นที่ 14 ภาพนี้เหมือน คุณยอดชาย เมฆสุวรณตอนหนุ่มๆมากๆ จากคุณ : หนูนา ยาจก เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:49:22

ความคิดเห็นที่ 15 กลัวจะจำกันไม่ได้ เอารูปถอดวิกที่ถ่ายกับน้องเอ็มลูกสาวคนสวยที่หน้าเหมือนพ่อหม่ำมั๊กมั๊ก มาให้ดูกัน  ระหว่างดูมอนิเตอร์ไปขำไป จากคุณ : หนูนา ยาจก เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:51:30

ความคิดเห็นที่ 16 ใส่วิกเอานี่เอง นึกว่าไว้ผมจริง - -" จากคุณ : nothingman เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 16:42:48

ความคิดเห็นที่ 17 555 ตลกรูปกางเกงแดง ปล. พี่ดิมก็เป็นความภูมิใจของคนขอนแก่นเหมือนกันนะพี่ จากคุณ : bobbery girl เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 17:13:01

ความคิดเห็นที่ 18 "ความจนไม่ใช่กรรมพันธุ์ " อืม... เป็นคำพูดของวัยรุ่นหรอเนี่ย  ดูเป็นคนมีความคิดความอ่านมากกว่าพวกนักร้องที่เท่ไปวันๆนะ จากคุณ : ซอสมะเขือเทศหมด เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 19:40:47

ความคิดเห็นที่ 19 รูป คห. 1 ยิ้มน่ารักมากกก   >.< จากคุณ : tomiko_v เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 23:00:14

ความคิดเห็นที่ 20 นางเอกนี่ลูกคุณหม่ำเหรอคะ?? ชอบมากมากดิม แทททู จากคุณ : princess of rock เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 01:44:09

ความคิดเห็นที่ 21 ดูตังอย่าง  ไม่ฮาเลยคับ  อมยิ้มบ้าง  แต่ไม่ฮา   ระวังแป็กน่ะคับ จากคุณ : koonpalm เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 05:21:59

ความคิดเห็นที่ 22   มักเจ้าหลาย...........อ้ายดิม....... ม่วนหลายเด้อ จากคุณ : Edward Cullen เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 16:18:40

ความคิดเห็นที่ 23   หน้าตลกดีแฮะ ท่าทางหมำ่คงประทับใจในตัว ดิม ล่ะมั้งงน่ะ ^^ จากคุณ : Straw3maenii เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 20:45:24