Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
The Box : เราสำรวจพื้นผิวของดาว เค้าสำรวจก้นบึ้งของใจ (เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)  

จะบอกว่าเป็นหนังแนะนำก็พูดได้ไม่ถนัดปาก  แต่สำหรับคนที่สนุกคิดกับสิ่งละอันพันละน้อย  The Box  อาจกลายเป็นของเล่นชิ้นใหม่ให้เราได้จับพลิกเพื่อมองหาแง่มุมต่างๆ ได้ค่อนข้างจะสนุกอยู่เหมือนกัน  ถือเป็นการสำรวจหนังเพื่อทำความเข้าใจเจตนาของผู้สร้างโดยที่ผู้ชมก็มีโอกาสได้สำรวจจิตใจของตัวเองไปด้วยพร้อมกัน  


หนังเล่าเรื่องของครอบครัวชนชั้นกลางที่เหมือนมีความสุขตามอัตภาพ  สามีทำงานที่นาซ่าและกำลังรอผลสอบเพื่อเลื่อนชั้นขึ้นเป็นนักสำรวจดาวอังคาร  ภรรยาเป็นครูสอนวิชาวรรณกรรมและกำลังจะเข้ารับการผ่าตัดอาการพิการที่เท้า  ส่วนลูกก็อยู่ในวัยรุ่นตอนต้นที่มีความอยากรู้อยากเห็น หนังเริ่มวางปมปัญหาแจกจ่ายให้กับตัวละครอย่างครบถ้วน  สามีผิดหวังกับผลสอบ  ภรรยาถูกตัดส่วนลดค่าเรียนของลูกอันเป็นอุปสรรคต่อไปถึงค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด  ลูกที่มีความอยากรู้อยากเห็นก็ไม่เคยได้รับคำตอบจากพ่อแม่ไม่ว่าเค้าจะซักถามเรื่องอะไร


ตัวละครได้รับการทดสอบจากชายแก่ลึกลับ  กล่องใบหนึ่งถูกนำมาวางไว้ที่หน้าบ้านตอนเช้ามืดพร้อมเงื่อนไขง่ายๆ ว่าหากกดปุ่มสีแดงในกล่องแล้วจะได้รับเงินหนึ่งล้าน  ผลที่ตามมาคือคนที่ครอบครัวนี้ไม่รู้จักจะตาย  แน่นอนว่าตัวละครในเรื่องจะต้องกด  (มิฉะนั้นก็จะไม่มีหนังเรื่องนี้เกิดขึ้น)  พวกเค้าได้รับเงินตามที่ชายแก่คนนั้นเสนอ  การทดสอบยังไม่จบแค่นั้น  ชายแก่นำกล่องใบนี้กลับเพื่อจะใช้ทดสอบกับครอบครัวต่อไปโดยแต่ละครอบครัวจะต้องไม่รู้จักกัน...


หลังจากครอบครัวนี้ได้รับเงินก้อนใหญ่  ความหนักอึ้งในจิตใจก็โถมทับตามเข้ามาด้วยโดยเฉพาะความกังวลว่าอาจตกเป็นเหยื่อรายถัดไปของการทดสอบ  สามีและภรรยาพยายามสืบหาที่มาที่ไปของเรื่องที่ชักไม่ชอบมาพากล  จนนำมาสู่การตัดสินใจตอนท้ายเรื่องเมื่อชายแก่มายื่นข้อเสนอกับพวกเค้าอีกครั้ง  ให้สามีเป็นผู้เลือกระหว่างความพิการของลูกชายซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่กับความตายของภรรยา  จุดจบของครอบครัวนี้วนเป็นจุดเริ่มของอีกครอบครัวหนึ่งซึ่งเพิ่งกดปุ่มในกล่องปริศนานั้น


หนังสร้างกำแพงกันผู้ชมอย่างเรา ๆให้ถอยห่างออกจากคำอธิบาย  หลายส่วนกลายเป็นเพียงปริศนาลึกลับให้ผู้ชมต้องตกที่นั่งเดียวกับลูกชายของครอบครัวที่พ่อแม่ไม่ยอมเปิดเผยความจริงให้รับทราบ  ในความเห็นของผม  ผู้กุมอำนาจในการทดสอบมนุษย์อาจเป็นมนุษย์ต่างดาวหรือพระเจ้าในน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน  ที่ว่าอาจเป็นมนุษย์ต่างดาวก็เพราะแนวหนังที่ลึกลับคล้าย The X-File  แง่มุมทางจิตวิทยาแบบ  The Invasion  เจตนาแบบเดียวกับผู้ทรงปัญญาต่างดาวจาก  The Day the Earth Stood Still  ประกอบกับเนื้อหาในเรื่องที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อวกาศ  การสำรวจดาวอังคารของนาซ่า  ส่วนอีกซีกหนึ่งของสมองที่เห็นว่าเป็นพระเจ้าก็เพราะเนื้อหาในเรื่องที่เกิดขึ้นในวันคริสต์มาส  การตั้งคำถามเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา  เรื่องนรก-สวรรค์  ชีวิตหลังความตาย  และสาระหลักที่เน้นย้ำคุณค่าทางจิตวิญญาณและศีลธรรมของมนุษย์


แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคำถามว่าใครเป็นผู้ทดสอบและมีวิธีดำเนินการอย่างไรนั้น  The Box โฟกัสมาที่ปฏิกิริยาของมนุษย์  วิเคราะห์วิธีคิดและการใช้เหตุผลผสมอารมณ์แบบมนุษย์ ๆ  โดยผู้ทดสอบเป็นเพียงกระจกเงาหรือแผ่นน้ำ  ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามก็ล้วนแต่ทำหน้าที่สะท้อนและเสียดสีให้เราเห็นพฤติกรรมของตนเอง  


The Box  นิยามตัวเองผ่านคำบอกเล่าของชายแก่ว่าทุกสิ่งในโลกก็ล้วนแต่เหมือนกล่อง  ทั้งบ้าน  รถ  โทรทัศน์  ร่างกาย  หรือแม้แต่โลกใบนี้  หนังไม่ได้กล่าวต่อถึงสิ่งที่ควรจะอยู่ภายในกล่องใบนั้นและนั่นอาจทำให้เราหลงลืมที่จะใคร่ครวญถึงมัน  เหมือนที่พระเอกเงาะกล่องปริศนาเพื่อที่จะดูกลไกการทำงาน  ทว่าภายในกล่องกลับปรากฏเพียงความกลวงเปล่า  ความกลวงเปล่าที่เหมือนสะท้อนถึงภาวะภายในของทุกสิ่ง  ชีวิตคู่ที่ไร้รัก  บ้านที่ไม่มีความเป็นครอบครัว  ร่างกายที่ขาดจิตวิญญาณ  หรือโลกที่ปราศจากสิ่งมีชีวิตที่มีคุณสมบัติของความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง


เมื่อมีทางเลือกมาปรากฏอยู่ตรงหน้า  มนุษย์มักตัดสินใจพุ่งเข้าหาความสำเร็จเชิงรูปธรรม  (เปลือกนอก)  มากกว่าคุณค่าบางอย่างที่มองไม่เห็น  (แก่นแท้)  และนี่ก็คือความพิการสากลของมนุษย์ซึ่งเป็นปมด้อยทางจิตใจและกลายมาเป็นบททดสอบของผู้มีอำนาจ  ปมด้อยที่น่ารังเกียจยิ่งกว่าความพิการใดๆ ซึ่งพร้อมจะลอกเปลือกแสดงธาตุแท้ออกมาเมื่อได้รับการทดสอบ  


อย่างที่ The Box นำเสนอในฉากจบ  ผู้ที่จะตัดสินว่ามนุษย์ควรมีชีวิตอยู่หรือไม่  ไม่ใช่ผู้ทรงอำนาจที่ไหนหากแต่เป็นเราที่จะพิพากษาคุณค่าของชีวิตตัวเอง  เหมือนที่นางเอกเลือกไถ่บาปด้วยความตายเพื่อช่วยเหลือลูกชายผู้บริสุทธิ์  วงจรของการทำร้ายผู้บริสุทธิ์และการช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์จะยังคงหมุนเวียนไปไม่จบสิ้น  (มีฉากหนึ่งในโทรทัศน์ที่หนังแสดงให้เห็นภาพของตึกแฝด World  trade Center )  หากมนุษย์ยังไม่หยุดการให้ค่าแก่เปลือกภายนอกเหนือกว่าคุณค่าในจิดใจ  ภาพแห่งการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติก็คงไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย


เราจะยอมเลือกชีวิตที่เป็นเหมือนกล่องชำรุดพิกลพิการเพื่อรักษาไว้ซึ่งจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์  หรือจะเลือกชีวิตที่หรูหราเหมือนกล่องผิวงามทว่าภายในนั้นกลับกลวงโบ๋  ไม่รู้ว่าถ้าชายแก่ให้ภาพทางเลือกที่ชัดเจนขนาดนี้เรายังจะยังเลือกอย่างหลังกันรึเปล่าน่ะ ?

แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 52 00:03:19

จากคุณ : beerled
เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 16:01:33




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com