The Box : เราสำรวจพื้นผิวของดาว เค้าสำรวจก้นบึ้งของใจ (เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)
|
|
จะบอกว่าเป็นหนังแนะนำก็พูดได้ไม่ถนัดปาก แต่สำหรับคนที่สนุกคิดกับสิ่งละอันพันละน้อย The Box อาจกลายเป็นของเล่นชิ้นใหม่ให้เราได้จับพลิกเพื่อมองหาแง่มุมต่างๆ ได้ค่อนข้างจะสนุกอยู่เหมือนกัน ถือเป็นการสำรวจหนังเพื่อทำความเข้าใจเจตนาของผู้สร้างโดยที่ผู้ชมก็มีโอกาสได้สำรวจจิตใจของตัวเองไปด้วยพร้อมกัน
หนังเล่าเรื่องของครอบครัวชนชั้นกลางที่เหมือนมีความสุขตามอัตภาพ สามีทำงานที่นาซ่าและกำลังรอผลสอบเพื่อเลื่อนชั้นขึ้นเป็นนักสำรวจดาวอังคาร ภรรยาเป็นครูสอนวิชาวรรณกรรมและกำลังจะเข้ารับการผ่าตัดอาการพิการที่เท้า ส่วนลูกก็อยู่ในวัยรุ่นตอนต้นที่มีความอยากรู้อยากเห็น หนังเริ่มวางปมปัญหาแจกจ่ายให้กับตัวละครอย่างครบถ้วน สามีผิดหวังกับผลสอบ ภรรยาถูกตัดส่วนลดค่าเรียนของลูกอันเป็นอุปสรรคต่อไปถึงค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด ลูกที่มีความอยากรู้อยากเห็นก็ไม่เคยได้รับคำตอบจากพ่อแม่ไม่ว่าเค้าจะซักถามเรื่องอะไร
ตัวละครได้รับการทดสอบจากชายแก่ลึกลับ กล่องใบหนึ่งถูกนำมาวางไว้ที่หน้าบ้านตอนเช้ามืดพร้อมเงื่อนไขง่ายๆ ว่าหากกดปุ่มสีแดงในกล่องแล้วจะได้รับเงินหนึ่งล้าน ผลที่ตามมาคือคนที่ครอบครัวนี้ไม่รู้จักจะตาย แน่นอนว่าตัวละครในเรื่องจะต้องกด (มิฉะนั้นก็จะไม่มีหนังเรื่องนี้เกิดขึ้น) พวกเค้าได้รับเงินตามที่ชายแก่คนนั้นเสนอ การทดสอบยังไม่จบแค่นั้น ชายแก่นำกล่องใบนี้กลับเพื่อจะใช้ทดสอบกับครอบครัวต่อไปโดยแต่ละครอบครัวจะต้องไม่รู้จักกัน...
หลังจากครอบครัวนี้ได้รับเงินก้อนใหญ่ ความหนักอึ้งในจิตใจก็โถมทับตามเข้ามาด้วยโดยเฉพาะความกังวลว่าอาจตกเป็นเหยื่อรายถัดไปของการทดสอบ สามีและภรรยาพยายามสืบหาที่มาที่ไปของเรื่องที่ชักไม่ชอบมาพากล จนนำมาสู่การตัดสินใจตอนท้ายเรื่องเมื่อชายแก่มายื่นข้อเสนอกับพวกเค้าอีกครั้ง ให้สามีเป็นผู้เลือกระหว่างความพิการของลูกชายซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่กับความตายของภรรยา จุดจบของครอบครัวนี้วนเป็นจุดเริ่มของอีกครอบครัวหนึ่งซึ่งเพิ่งกดปุ่มในกล่องปริศนานั้น
หนังสร้างกำแพงกันผู้ชมอย่างเรา ๆให้ถอยห่างออกจากคำอธิบาย หลายส่วนกลายเป็นเพียงปริศนาลึกลับให้ผู้ชมต้องตกที่นั่งเดียวกับลูกชายของครอบครัวที่พ่อแม่ไม่ยอมเปิดเผยความจริงให้รับทราบ ในความเห็นของผม ผู้กุมอำนาจในการทดสอบมนุษย์อาจเป็นมนุษย์ต่างดาวหรือพระเจ้าในน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน ที่ว่าอาจเป็นมนุษย์ต่างดาวก็เพราะแนวหนังที่ลึกลับคล้าย The X-File แง่มุมทางจิตวิทยาแบบ The Invasion เจตนาแบบเดียวกับผู้ทรงปัญญาต่างดาวจาก The Day the Earth Stood Still ประกอบกับเนื้อหาในเรื่องที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อวกาศ การสำรวจดาวอังคารของนาซ่า ส่วนอีกซีกหนึ่งของสมองที่เห็นว่าเป็นพระเจ้าก็เพราะเนื้อหาในเรื่องที่เกิดขึ้นในวันคริสต์มาส การตั้งคำถามเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา เรื่องนรก-สวรรค์ ชีวิตหลังความตาย และสาระหลักที่เน้นย้ำคุณค่าทางจิตวิญญาณและศีลธรรมของมนุษย์
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคำถามว่าใครเป็นผู้ทดสอบและมีวิธีดำเนินการอย่างไรนั้น The Box โฟกัสมาที่ปฏิกิริยาของมนุษย์ วิเคราะห์วิธีคิดและการใช้เหตุผลผสมอารมณ์แบบมนุษย์ ๆ โดยผู้ทดสอบเป็นเพียงกระจกเงาหรือแผ่นน้ำ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามก็ล้วนแต่ทำหน้าที่สะท้อนและเสียดสีให้เราเห็นพฤติกรรมของตนเอง
The Box นิยามตัวเองผ่านคำบอกเล่าของชายแก่ว่าทุกสิ่งในโลกก็ล้วนแต่เหมือนกล่อง ทั้งบ้าน รถ โทรทัศน์ ร่างกาย หรือแม้แต่โลกใบนี้ หนังไม่ได้กล่าวต่อถึงสิ่งที่ควรจะอยู่ภายในกล่องใบนั้นและนั่นอาจทำให้เราหลงลืมที่จะใคร่ครวญถึงมัน เหมือนที่พระเอกเงาะกล่องปริศนาเพื่อที่จะดูกลไกการทำงาน ทว่าภายในกล่องกลับปรากฏเพียงความกลวงเปล่า ความกลวงเปล่าที่เหมือนสะท้อนถึงภาวะภายในของทุกสิ่ง ชีวิตคู่ที่ไร้รัก บ้านที่ไม่มีความเป็นครอบครัว ร่างกายที่ขาดจิตวิญญาณ หรือโลกที่ปราศจากสิ่งมีชีวิตที่มีคุณสมบัติของความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง
เมื่อมีทางเลือกมาปรากฏอยู่ตรงหน้า มนุษย์มักตัดสินใจพุ่งเข้าหาความสำเร็จเชิงรูปธรรม (เปลือกนอก) มากกว่าคุณค่าบางอย่างที่มองไม่เห็น (แก่นแท้) และนี่ก็คือความพิการสากลของมนุษย์ซึ่งเป็นปมด้อยทางจิตใจและกลายมาเป็นบททดสอบของผู้มีอำนาจ ปมด้อยที่น่ารังเกียจยิ่งกว่าความพิการใดๆ ซึ่งพร้อมจะลอกเปลือกแสดงธาตุแท้ออกมาเมื่อได้รับการทดสอบ
อย่างที่ The Box นำเสนอในฉากจบ ผู้ที่จะตัดสินว่ามนุษย์ควรมีชีวิตอยู่หรือไม่ ไม่ใช่ผู้ทรงอำนาจที่ไหนหากแต่เป็นเราที่จะพิพากษาคุณค่าของชีวิตตัวเอง เหมือนที่นางเอกเลือกไถ่บาปด้วยความตายเพื่อช่วยเหลือลูกชายผู้บริสุทธิ์ วงจรของการทำร้ายผู้บริสุทธิ์และการช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์จะยังคงหมุนเวียนไปไม่จบสิ้น (มีฉากหนึ่งในโทรทัศน์ที่หนังแสดงให้เห็นภาพของตึกแฝด World trade Center ) หากมนุษย์ยังไม่หยุดการให้ค่าแก่เปลือกภายนอกเหนือกว่าคุณค่าในจิดใจ ภาพแห่งการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติก็คงไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย
เราจะยอมเลือกชีวิตที่เป็นเหมือนกล่องชำรุดพิกลพิการเพื่อรักษาไว้ซึ่งจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ หรือจะเลือกชีวิตที่หรูหราเหมือนกล่องผิวงามทว่าภายในนั้นกลับกลวงโบ๋ ไม่รู้ว่าถ้าชายแก่ให้ภาพทางเลือกที่ชัดเจนขนาดนี้เรายังจะยังเลือกอย่างหลังกันรึเปล่าน่ะ ?
แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 52 00:03:19
จากคุณ |
:
beerled
|
เขียนเมื่อ |
:
9 พ.ย. 52 16:01:33
|
|
|
|