 |
ความคิดเห็นที่ 180 |
[Interview] Super Junior-M: Pretty Boys’ Super Confessions Get to know more about the super members of Super Junior-M!
บทสัมภาษณ์ Super Junior-M : ความจริงในใจของหนุ่มรูปงาม มาทำความรู้จักสมาชิก Super Junior-m ให้มากขึ้นกัน!
Super junior M กลับมาพร้อมมินิอัลบั้มแรก Super Girl ที่ประกอบด้วยเพลงทั้งหมด 5 เพลง “Super Girl”, “到了明天” (Blue Tomorrow), “告白” (Confession), “愛情接力” (You and Me), and “動情” (Only U) กลุ่มหนุ่มหล่อทั้ง 7 คนปรากฏตัวหน้ากล้องอีกครั้งเพื่อแบ่งปันเรื่องราวในการทำอัลบั้มนี้
SJ-M แต่งกายด้วยชุดสูทอย่างดีเพื่อแสดงให้เห็นด้านที่เป็นผู้ใหญ่และเปี่ยมเสน่ห์ของพวกเค้า เราเห็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของพวกเค้าเมื่อพวกเค้าจัดการตัวเองได้เป็นอย่างดีและคอยช่วยเหลือกันและกัน ระหว่างการสัมภาษณ์ ไม่เพียงแค่พวกเค้าร้องเพลงวันเกิดให้ทงเฮซึ่งวันเกิดของเค้ากำลังใกล้เข้ามา และร้องให้เรียวอุคที่เพิ่งผ่านวันเกิดไปด้วย และยังร้องเพลง Blue tomorrow ให้กับพวกเราอีก
Super Girl ในหัวใจของ Super Man
ถาม : อัลบั้มนี้ใช้เวลาเตรียมการนานเท่าไหร่คะ
โจวมี่ : ตั้งแต่การเลือกเพลงจนถึงการอัดเสียงจนเสร็จ ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนครับ เราเริ่มเตรียมทำอัลบั้มนี้กันเมื่อเดือนเมษายน ผมคิดว่าเราทำกันเสร็จปลายเดือนสิงหาคมครับ
หานเกิง : ทุกเพลงของเรา และรวมถึงการถ่ายทำ MV ทำในเกาหลีทั้งหมดครับ
ถาม : พวกคุณต้องเดินทางไป-กลับระหว่างเกาหลีกับจีน ทุกคนใช้เวลาและความตั้งใจในการเรียนภาษาเป็นอย่างมากใช่มั้ยคะ เช่นสมาชิกคนจีนก็ต้องเรียนภาษาเกาหลี และสมาชิกคนเกาหลีก็ต้องเรียนภาษาจีน
หานเกิง : ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าพวกเราจะอยู่ที่ไหน เราจะใช้ภาษาเกาหลีสื่อสารกันครับ แต่ตอนนี้ โจวมี่ เฮนรี่และผมตัดสินใจว่าตอนที่เราอยู่จีนเราก็จะพยายามใช้ภาษาจีนกันให้มากขึ้น เราสื่อสารถึงกันด้วยดีครับแต่ยังมีปัญหาบ้างนิดหน่อยเวลาให้สัมภาษณ์
ถาม : ในบรรดาสมาชิกคนเกาหลี ใครที่ใช้ภาษาจีนได้ดีที่สุดคะ
หานเกิง : ทุกคนมีจุดแข็งของตัวเองครับ อย่างซีวอนจะฟังและเข้าใจภาษาจีนได้ดีกว่า คยูฮยอนจะร้องเพลงดีมากและใช้เวลาในการอัดเสียงน้อยที่สุดครับ ทงเฮจะเรียนรู้ประโยคได้เร็วที่สุด อย่างเช่นประโยคที่เค้าจะพูดกับแฟนๆ "พวกคุณคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของผม ผมคิดถึงคุณ! คุณคิดถึงผมมั้ยครับ" เค้าจำประโยคนี้ได้เร็วที่สุดเลยครับ
โจวมี่ : การออกเสียงของเรียวอุคยอดเยี่ยมมากครับ มีครั้งหนึ่ง เค้าอัดเพลงมาให้ผมฟังโดยที่ไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากครูสอนภาษาด้วย ตอนที่ผมฟังผมรู้สึกว่าการออกเสียงของเค้าเป๊ะมากครับ
หานเกิง : การฟังของเค้าดีกว่าคนอื่นเพราะเค้าเคยเรียนมาบ้างครับ ดังนั้นเลยเก่งกว่าคนอื่นเล็กน้อยด้านฟังและการพูด แต่ว่าบางครั้งเค้าก็ยังมีข้อผิดพลาดติดจากที่เคยเรียนมา และยังต้องแก้ไขอยู่ครับ
ถาม : อัลบั้มล่าสุดของพวกคุณ Super Girl ผู้หญิงสมบูรณ์แบบในใจของพวกคุณเป็นยังไงคะ มีมาตรฐานยังไง หานเกิงคุณต้องตอบก่อนเลยค่ะ มีหลายๆคนรวมถึงคุณแม่ของคุณด้วยที่สนใจคำตอบของคุณมาก
หานเกิง : แม่ของผมก็แอบกังวลนิดหน่อยครับ แต่ผมไม่เลย (หัวเราะ) ผมมีมาตรฐาน 3 ข้อในการเลือกแฟนครับ 1. เธอต้องเป็นคนใจดีและมีความเข้าใจในตัวผม 2.เธอต้องเป็นคนใส่ใจคนอื่นและเชื่อใจผม 3.เธอต้องเป็นคนกตัญญูครับ
โจวมี่ : สำหรับพวกเราทุกคน สิ่งแรกและสำคัญที่สุดคือเธอต้องเป็นคนจิตใจดีครับ และถ้าเธอเป็นคนสวยด้วยก็ยิ่งสมบูรณ์แบบไปเลยครับ
คยูฮยอน : ผมชอบผู้หญิงที่มีหน้าผากและขาสวยครับ Super Girl ของผมคือแฟนๆของผมเอง (แล้วถ้าแฟนของคุณเป็นผู้ชายล่ะ) ก็ต้องเป็น Super Boy! Super Man! สิครับ (ขำ)
ซีวอน : เราต้องเป็นคนที่คอยช่วยเหลือและใส่ใจกันและกันครับ และต้องเป็นคนกตัญญูด้วย ผมพูดไม่ได้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกไม่สำคัญแต่ว่ามันก็ไมได้สำคัญที่สุดนะครับ
เฮนรี่ : Super Girlของผมคือคุณแม่ครับ เพราะแม่เป็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม แต่เพราะผมยังเด็กอยู่เลยยังไม่คิดจะหาแฟน ผมเลยยังไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนี้มากและยังไม่เคยเจอใครที่พิเศษเลยครับ
ทงเฮ : ผมคิดว่า Super Girl ของผมต้องเป็นคนที่ชอบคอมพิวเตอร์มากครับ (คุณหานแซวว่าด๊องรักโน้ตบุ๊คของเค้ามากที่สุด)
ถาม : เรารู้มาว่าทงเฮเกลียดการอยู่คนเดียวมากโดยเฉพาะตอนทานอาหารเย็น จริงรึเปล่าคะ
ทงเฮ : ครับ ผมเกลียดการอยู่คนเดียวมากเลย
ถาม : งั้น Super Girl ของคุณก็ต้องเป็นผู้หญิงที่สามารถไปทานอาหารเย็นกับคุณได้ และไม่ปล่อยให้คุณอยู่คนเดียวสิคะ
เรียวอุค : (เหงื่อออกเพราะตื่นเต้น) คุณไงครับ! (ชี้มาที่คนสัมภาษณ์)
ความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน
ถาม : เพลงที่คุณชอบที่สุดจากเพลงทั้งหมดในอัลบั้มคือเพลงอะไรคะ
หานเกิง : ผมชอบเพลง “Blue Tomorrow”ครับ ผมคิดว่าเนื้อเพลงถูกเขียนออกมาดีมากและทำนองก็ไพเราะมากครับ
ถาม : เนื้อเพลงนี้น่าสนใจมากค่ะ มันพูดถึงความรู้สึกของการแยกจากกันได้ดีมาก
หานเกิง : ครับ มันสามารถสร้างภาพในใจและทำให้ผมนึกย้อนกลับไปยังอดีตที่ผ่านมา ไม่ได้เจาะจงใครเป็นพิเศษครับ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ผมเคยร่วมงานด้วยในหนัง ละคร หรือเป็นเสียงที่ผมเคยได้ยิน ได้กลับมาปรากฏในใจของผมอีกครั้ง เมื่อคุณได้อ่านเนื้อเพลงอีกครั้งจะทำให้คุณนึกถึงภาพทรงจำที่สวยงามในใจของคุณครับ
ถาม : มีบางสิ่งที่ได้ผ่านพ้นไปและคุณทำได้แค่ชื่นชมมันหลังจากนึกถึงเท่านั้น พวกคุณช่วยแบ่งปันเรื่องราวที่คุณไม่อาจลืมให้พวกเราฟังได้มั้ยคะ
ทงเฮ : ผมมีเรื่องราวที่ไม่อาจลืมกับเพื่อนๆและแม้แต่ตอนที่เลิกกับแฟนครับ แต่เรื่องที่ผมไม่สามารถลืมได้จริงๆคือเรื่องที่คุณพ่อผมเสียครับ
โจวมี่ : ผมไม่ค่อยมีประสบการณ์ด้านความรักเท่าไหร่ครับ แต่ผมจะจดจำผู้คนรอบข้างไว้เสมอ เมื่อผมเขียนเพลงผมก็จะเอาความรักจากพวกเค้ามาใช้ครับ ตอนที่ผมเขียนเพลง “愛情接力” (You and Me)ผมใช้เรื่องราวความรักของเพื่อนผมเอง พวกเค้าต้องอยู่ห่างกันไกล คนหนึ่งอยู่ต่างประเทศ อีกคนอยู่ที่ปักกิ่ง แต่เค้าก็รักกันมากเลยครับ ดังนั้นผมเลยเขียนในเพลงว่า "ระยะไกลแห่งรักทำให้ใจเราชิดใกล้ ให้รักเราขีดเขียนเป็นเพลงรัก" ผมหวังว่าเนื้อเพลงของผมจะเป็นของที่ระลึกให้กับรักของพวกเค้าครับ
หานเกิง : เรื่องที่ผมไม่อาจลืมได้คือ การแสดงตอนจบการศึกษาครับ ผมเข้าเรียนที่สถาบันการเต้นตอนอายุ 13 ผมฝึกเต้นกับเพื่อนร่วมชั้นและใช้เวลาด้วยกันตลอด เราอยู่ด้วยกัน 6 ปีจนเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆ คืนวันจบการศึกษา พวกเราต่างรู้กันดีว่ามันหมายถึงการแยกจากกันด้วย ทุกคนเลยแสดงกันอย่างสุดความสามารถ ยิ่งไปกว่านั้น คุณแม่ของผมก็มาดูการแสดงด้วย ท่านร้องไห้และทำให้ผมรู้สึกตื้นตันมากครับ เป็นเรื่องที่ลืมไม่ได้เลยจริงๆ
โจวมี่ : พี่หานเกิงให้ความสำคัญกับมิตรภาพมากๆครับ ไม่ว่าเราจะไปแสดงที่ไหน จะต้องมีเพื่อนๆของพี่เค้าแวะมาหาบ่อยๆ เช่น เราอัดรายการเมื่อวานเสร็จกันตอนตี 2 แล้ว แต่พี่หานเกิงยังมีเพื่อนจากฉางชามาหา ผมได้ยินพวกเค้าคุยกันตอนที่ผมเล่นอินเตอร์เนท พวกเค้าคุยกันรื่องความฝันในอดีต นี่ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังนะครับ!
ถาม : พวกเราก็เป็นอย่างนั้นกันเนอะ เราอยากจะโตตอนที่เรายังเด็กอยู่ วาดฝันอนาคตกันไว้ เมื่อผ่านเรื่องราวและประสบการณ๋มาในระดับหนึ่ง คุณก็จะหวนกลับไปคิดถึงอดีต
หานเกิง : ก็เหมือนตอนที่ผมและโจวมี่ทำการแสดงที่โรงเรียน พวกเราก็จะคิดถึงการไปโรงเรียน ปี 1999 เป็นปีที่มีความหมายกับผมมาก ผมได้ทำการแสดงนอกประเทศครั้งแรกและป็นครั้งแรกด้วยที่ผมได้เข้าร่วมงานศิลปวัฒนธรรมของชนเผ่าพื้นเมืองแห่งชาติ เพื่อนร่วมชั้นของเราได้เหรียญทอง เงินและทองแดง และเราได้แสดงในพิธีการส่งคืนมาเก๊าด้วยครับ และที่สำคัญที่สุดพวกเราได้แสดงในงาน 50 ปีของกองทัพด้วย ทั้งน่าประทับใจและวิเศษมากครับ
เฮนรี่ : เพราะว่าครอบครัวของผมอยู่ที่แคนาดา ผมเลยเจอพวกเค้าได้แค่ปีละครั้งครับ ปีที่แล้วผมได้เจอพวกเค้าแต่ก็แค่ 2 วันเท่านั้น ผมเลยคิดถึงพวกเค้ามากครับ
ถาม : คุณทำอะไรคะเวลาที่คุณคิดถึงคุณแม่ คุณร้องไห้หรือบ่นอะไรมั้ยคะ
เฮนรี่ : ผมไม่ได้ร้องไห้หรอกครับแต่ก็มีบางครั้งที่ผมโทรไปหาแม่ แต่พอผมโทรไปพวกเค้าจะพูดว่า "ค่าโทรศัพท์ทางไกลมันแพงนะ มันแพงมากด้วย แค่นี้นะ!" (หัวเราะ)
เรียวอุค : เรื่องที่ผมไม่อาจลืมคือช่วงโปรโมทอัลบั้มปีที่แล้วน่ะครับ พวกเราได้พบกับเพื่อนๆและแฟนชาวจีนมากมาย เป็นเรื่องที่ผมไม่สามารถลืมได้จนถึงตอนนี้ครับ ผมหวังว่าปีนี้ก็จะเป็นแบบนั้นนะครับ
ถาม : คำตอบของคุณเรียวอุคเหมือนกับคำสารภาพรักของ SJ-M ต่อแฟนๆเลยนะคะ
หานเกิง : ครับ ผมคิดว่าของขวัญที่ดีที่สุดและวิธีที่ดีที่สุดที่จะตอบแทนแฟนๆของพวกเราคือทำการแสดงที่ดีเยี่ยมที่สุดและทำงานอย่างเต็มที่ครับ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอัลบั้มเต็มหรือมินิอัลบั้มพวกเราจึงเตรียมตัวอย่างดีและหวังจะนำเสนอสิ่งแปลกใหม่ทุกครั้งครับ เรามีทั้งเพลงเร็วและเพลงช้า และพท่าเต้นของพวกเราก็ยังเต้นตามได้ง่ายด้วยครับ ซึ่งเราตั้้งใจออกบบมาเป็นท่าเต้นหลัก (ตามที่คนสัมภาษณ์ขอ SJ-M ร้อง Blue Tomorrow)
คำสารภาพจากหนุ่มรูปงาม
ถาม : พูดถึงการสารภาพรัก มีเพลงหนึ่งในอัลบั้มที่ชื่อว่า “告白” (Confession) เนื้อเพลงเขียนโดยโจวมี่ และพูดถึงวิธีการสารภาพรัก การสารภาพรักครั้งแรกของพวกคุณเป็นยังไงคะ เริ่มที่โจวมี่ก่อนเลย...
โจวมี่ : ที่จริงเนื้อเพลงที่ผมเขียนต่างจากสิ่งที่ผมเป็นนะครับ ผมชอบเขียนสิ่งที่ผมอยากจะทำแต่ไม่กล้าลงในเนื้อเพลง ตอนผมอยู่ชั้นประมัธยมผมแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง ผมแอบส่งของให้เธอในแต่ละวันเช่นให้ยางลบบ้าง แต่ผมไม่กล้าบอกว่าเป็นผมเอง จนถึงตอนนี้ถ้าเป็นผู้หญิงที่ผมชอบผมก็จะซื้อของให้เธอ และถ้าผมรู้สึกว่าเธอก็ชอบผมเหมือนกันผมก็จะสารภาพรักกับเธอครับ
หานเกิง : ผมยังขำตัวเองอยู่เลยครับพอนึกถึงการสารภาพรักครั้งแรก เพราะว่ามันเป็นครั้งแรกของผม ผมเลยรู้สึกอายและตื่นเต้นมาก ผมเลยเอาเพื่อนไปด้วย 2 คน และในที่สุดผมดันทำให้ผู้หญิงคนนั้นอายด้วย!! เลยลงท้ายด้วยการถูกปฏิเสธครับ ( นี่ก็ทำไปได้ -*- สารภาพรักสาวดันหนีบเพื่อนไปซะงั้น : คนแปล)
ซีวอน : ถ้าเป็นการสารภาพรัก คนส่วนมากจะสารภาพรักกับแฟนตอนชวนเธอไปเดทใช่มั้ยครับ แต่การสารภาพรักที่ผมไม่อาจลืมได้เลยคือสารภาพรักกับพ่อแม่ครับ ก่อนที่ผมจะเดบิวท์ ผมไม่เคยแสดงออกถึงความรักที่มีต่อพวกท่านเลย หลังจากทำการแสดงบนเวทีครั้งแรกจบ ผมพูดกับคุณแม่ว่า "แม่ครับ ผมรักแม่นะ!"
หานเกิง : คล้ายๆกับผมเลยครับ ผมไม่ค่อยแสดงออกกับพ่อแม่เท่าไหร่นัก หลังจาการแสดงครั้งแรกผมร้องไห้และพูดกับแม่ แต่ตอนนี้ผมสามารถพูดกับท่านได้อย่างง่ายดายไม่ต้องเขินแล้วครับ
ทงเฮ : ตอนที่ผมอยู่ป.6 ผมขอบผู้หญิงคนหนึ่งมากๆ และเป็นครั้งแรกด้วยที่ผมสารภาพรัก ถ้าคุณไม่มีความกล้าก็ไม่มีทางจะได้สาวน่ารักมาเป็นแฟนหรอกครับ (คุณหานพูดแทรกขึ้นมาว่า: ทงเฮเป็นคนโรแมนติก เช่นเค้าจะขี่จักรยานให้แฟนซ้อนไปที่ชายทะเลด้วยกัน)
เรียวอุค : การสารภาพของผมมักจะเกิดขึ้นระหว่างการทะเลาะหรือหลังจากมีการเข้าใจผิดกันน่ะครับ ผมจะทำอาหารอร่อยๆและเมื่อเรากินกัน ผมก็จะบอกขอโทษ
คยูฮยอน : ผมแป้กตอนที่สารภาพรักครั้งแรกครับ ผมแอบชอบผู้หญิงตอนอยู่ม.ปลาย แล้วผมต้องทำการแสดงในวันนั้น ผมเลยแอบไปซื้อดอกไม้ให้เธอ หลังจากทำการแสดงเสร็จ ผมให้กุหลาบกับเธอแต่ก็โดนปฏิเสธครับ
โจวมี่ : ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่สารภาพรัก ตัวผมเหมือนกับเด็กผู้ชายที่เพิ่งตกหลุมรัก ผมทั้งประหม่าและใจเต้นแรงมาก ผมให้กุหลาบกับเธอแต่ก็โดนปฏิเสธเหมือนกันครับ
Cr: CpopAccess.com Thai Trans by AeH @SuJu Sapphire Blue Together@Pantip Plz. Take Out with Full Credit!!
---------------------------------------------
แปลเสร็จแล้วค่าาาา ขอตัวไปขำคุณหานต่อเรื่องสารภาพรัก และหม่ำๆก่อนนะคะ
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 52 12:34:37
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 52 12:32:18
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 52 12:30:00
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 52 12:24:37
จากคุณ |
:
Mike_Holmes
|
เขียนเมื่อ |
:
19 พ.ย. 52 11:59:19
|
|
|
|
 |