ความคิดเห็นที่ 1 Janet made a quick appearance performing her hit 'All Right', before vanishing from sight as if embarrassed for herself and everyone else on stage. She had little to do with any of her family members, and steadfastly refused to appear in the planned finale. She even checked into the Luxor Hotel, rather than take a chance on running into anyone named Jackson at the MGM Grand, where most of them were staying. Michael also wanted little to to with his father or siblings, which was not a surprise. Though Jermaine had generously offered him a suite at the MGM Grand, he chose to stay at the Mirage. 'When does the boy grow up and not have to go to the family reunions?' Lisa has said he asked her. He said that it was taking 'everyting I have' to show his face in public again after all that had happened with the Chandlers, 'and to now have to do it at one of these things is really hard for me.' If it wasn't for his mother, he said, he would never even attempt it. 'But if you weren't here, there wouldn't even be a show,' Lisa observed. 'Exactly,' Michael said, dryly. He adjusted the red arm band on his black military jacket. 'If I could, I think I would pay twenty million dollars for them to be more famous than me.' He seemed exhausted. 'What a relief it would be to accept their love and not have to wonder what they have planned for me, next.' It was then that Lisa had an uncomfortable encounter with Elizabeth Taylor, who had tried to coax Michael into performing. He didn't want to sing. Rather, he just wanted to make an appearance, present an award, and then sit in the audience. As Elizabeth tried to change his mind, an already-protective Lisa intervened. 'Look, he's not going to perform,' she told Elizabeth, 'so you might as well just leave it alone.' Elizabeth, taken aback, gave Lisa a once-over and remarked, 'Well, you're the boss, I guess, ' and walked away. (In the end, after the show was broadcast, Michael ended up getting dragged into a messy lawsuit between the producers of the show against the Jackson family.) เจเนทขึ้นโชว์ All Right เพลงฮิตของเธอ ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเธอจะละอายที่จะยืนอยู่บนเวที เธอมีส่วนร่วมในงานเพียงเล็กน้อย และไม่ปรากฏตัวในช่วงสุดท้ายของรายการ เจเนทเลือกเข้าพักที่โรงแรม Luxor แทนที่จะอยู่กับคนอื่น ๆ ในครอบครัวที่โรงแรม MGM Grand ไมเคิลเองก็อยากจะยุ่งเกี่ยวกับพ่อและพี่น้องคนอื่นของเขาให้น้อยที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ถึงแม้ว่าเจอแมนจะเสนอให้เข้าอยู่ที่ห้องสวีทที่ MGM Grand ให้ไมเคิล แต่เขาก็ยังเลือกที่จะไปพักที่ the Mirage “เด็กผู้ชายพอโตขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องกลับไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว” ลิซ่าตอบเมื่อเขาถามเธอ ไมเคิลบอกว่า มันน่าลำบากใจมากที่ผมจะต้องขึ้นไปให้ทุกคนเห็นหน้าบนเวทีหลังจากที่มีเรื่องกับครอบครัวแชนด์เลอร์แล้ว และนี่ผมไม่อยากจะทำเลยจริง ๆ “นี่ถ้าไม่ใช่เพื่อแม่ของผม ผมคงไม่คิดแม้แต่จะมาร่วมงาน” “แต่ถ้าคุณไม่มาร่วมงาน ฉันว่าอาจจะไม่มีรายการนี้เกิดขึ้นก็ได้นะ” ลิซ่าบอกกับเขา “ผมก็ว่างั้นแหละ” ไมเคิลตอบเสียงแห้ง ๆ เขาบรรจงใส่ปลอกแขนสีแดงบนเสื้อแจ๊กเกตทหารสีดำของเขา “ถ้าผมเลือกได้นะ ผมคงจะจ่ายเงิน 20 ล้านดอลลาห์ให้พวกนั้น เพื่อให้เขามีชื่อแทนผม” เขาดูอ่อนล้า “มันคงจะดีกว่านี้นะ ถ้าผมจะรับความรู้สึกดี ๆ จากพวกเขาโดยที่ไม่ต้องมานั่งระแวงว่า เขากำลังวางแผนทำอะไรกับผมอีก” ลิซ่าเองก็รู้สึกอึดอัดที่ต้องเผชิญหน้ากับอลิซาเบธ เทย์เลอร์ ซึ่งเธอเป็นตัวตั้งตัวตีในการหว่านล้อมให้ไมเคิลขึ้นแสดง เขาไม่อยากร้องเพลง เขาอยากจะแค่ไปปรากฏตัว มอบรางวัล และทำตัวเป็นคนดู แต่อลิซาเบธพยายามจะทำให้เขาเปลี่ยนใจ และลิซ่าเองก็ไม่ลังเลที่จะปกป้องเขา “ฟังนะคะ ไมเคิลจะไม่แสดง” เธอบอกกับอลิซาเบธ “และคุณก็ควรจะปล่อยให้เขาทำตามใจเขาด้วย” อลิซาเบธมองเธอด้วยสายตาไม่เข้าใจก่อนจะตอบว่า “สงสัยว่าเธอจะเป็นเจ้านายสินะ” และก็เดินจากไป (หลังจากเสร็จสิ้นรายการ ไมเคิลก็ถูกดึงไปข้องเกี่ยวกับคดีความที่โปรดิวเซอร์รายการฟ้องครอบครัวแจ๊คสัน) จากคุณ : ลูกโป่งสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 09:29:31

ความคิดเห็นที่ 2 When they got back from Las Vegas, on 21 February, Michael invited Lisa to Neverland. The two spent hours walking hand in hand on the well-manicured property, as Lisa's children, Denielle, five, and Benjamin Storm, eighteen months, played with their nanny. Workers at the estate recall seeing Michael and Lisa kissing while high atop the Ferris wheel. them nodding graciously to the Neverland staff members as they sauntered from one ride to the next. There were times when Michael seemed unable to contain his laughter; he seemed to appreciate Lisa's sharp and clever mind as much as he relished her new role as protector and sounding board. 'I can run anything by her,' he said, 'and she has a good point of view about it. She's on top of everything, she knows so much. I've never known a person like her. He made sure all of her needs were met in an instant. If she got thirsty, he would clap his hands once and, as if by magic, a waiter would appear with an aperitif. If she was too tired to walk, someone driving a golf cart would appear to take her back to her room for a nap. หลังจากกลับจากเวกัส ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ไมเคิลก็เชิญลิซ่าไปที่ไร่เนเวอร์แลนด์ ทั้งสองคนก็ใช้เวลาด้วยกันอยู่ในบ้านที่ถูกตกแต่งมาอย่างดี โดยที่ลูก ๆ ของลิซ่า (แดเนียล วัย 5 ขวบ และเบนจามิน สตอร์ม วัย 18 เดือน อยู่ในความดูแลของพี่เลี้ยง) คนงานในบ้านของไมเคิลจำได้ว่าเห็นไมเคิล จูบกับลิซ่าในขณะที่ชิงช้าสวรรค์ (Ferris Wheel) หมุนขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุด พวกเขาพยักหน้าทักทายคนงานในไร่เนเวอร์แลนด์ก่อนที่จะเดินอย่างใจเย็นไปเล่นเครื่องเล่นชิ้นต่อไป บางช่วงเวลาไมเคิลก็หัวเราะท้องคัดท้องแข็ง ดูเหมือนว่าเขาจะถูกใจกับความฉลาด และเฉลียวของลิซ่า เขามอบหมายให้ลิซ่าเป็นผู้คุ้มครองและเป็นคนช่วยคิดเรื่องต่าง ๆ “ผมทำอะไรก็ได้ถ้ามีเธอนะ” เขาบอก “เธอมีความคิดที่ดี เธอเก่งในทุก ๆ เรื่อง เธอฉลาดจริง ๆ ผมไม่เคยเจอใครเป็นแบบเธอเลย” เขาตามใจเธอทุกอย่าง ถ้าเธอกระหายน้ำ ไมเคิลจะตบมือของเขา และทันใดนั้น ราวกับมีเวทมนตร์ ก็จะมีคนเสิร์ฟเครื่องดื่มดับการหายให้เธอ และถ้าหากเธออ่อนล้าเกินกว่าจะเดินละก็ จะมีคนขับรถกอล์ฟมารับ และพาเธอกลับไปพักผ่อนทันที จากคุณ : ลูกโป่งสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 09:31:23

ความคิดเห็นที่ 3 For the first two days, Lisa and her children styed in one of the visitors' units on the property. On the third night, Michael ordered a dinner of poached salmon and cucumber salad to be served to him and Lisa on one of the candle-lit terraces. Afterward, he presented Lisa with a gift: a three-strand, pearl choker with a diamond clasp at the front, worth about $50,000. That evening, while her children and their nanny slept in the guest quarters, Lisa stayed with Michael in his bedroom. Did they make love? Lisa, say her friends, is a woman who enjoys physical intimacy and would not become involved in a relationship that was not sexual. She was aware that her mother and father had stopped being intimate shortly after she was conceived. Elvis met Priscilla when she was just fourteen; he was twenty-four. The two lived together for six years before marrying in Las Vegas, but were never intimate. Then, on their honeymoon, Priscilla got pregnant. Eight months later, Lisa was born. After that, Elvis would never touch Priscilla again saying he felt weird haveing sex with his child's mother. 'I was young and accepted his way of life as normal, Priscilla recalled. Though she was one of the most publicized women in America, Priscilla then lived in sexless marriage for a couple of years before she got involved with her karate instructor-and that was pretty much the end of her marriage to Elvis. Lisa was not about to find herself in the same situation. ในช่วงสองวันแรก ลิซ่าและลูก ๆ ของเธอพักอยู่ในเรือนรับรองหลังหนึ่งในไร่ แต่ในคืนที่สาม ไมเคิลเตรียมเมนูอาหารค่ำใต้แสงเทียนเป็น poached salmon และสลัดแตงกวาไว้สำหรับตัวเขาเอง และลิซ่าที่บริเวณระเบียง หลังจากนั้นเขาก็มอบของขวัญให้กับลิซ่าเป็นโชกเกอร์ไข่มุกล้อมเพชร มูลค่าประมาณ 50,000 เหรียญ ในคืนนั้นเองเด็ก ๆ นอนอยู่กับพี่เลี้ยงในเรือนรับรอง ในขณะที่ลิซ่าอยู่กับไมเคิลในห้องของเขา พวกเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันหรือไม่ ลิซ่าเล่าให้เพื่อน ๆ ของเธอฟังว่าเธอเอง นิยมชมชอบความสัมพันธ์ทางกาย และจะไม่คบกับใครโดยที่ไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคน ๆ นั้น เธอรู้ดีว่า แม่และพ่อของเธอเลิกมีความสัมพันธ์กันตั้งแต่เธอเกิดมา เอลวิสนั้นพบกับพริสซิลล่าเมื่อเธออายุได้ 14 ปี และเอลวิสมีอายุ 24 ปี ทั้งสองใช้ชีวิตร่วมกันเป็นเวลา 6 ปีก่อนทีจะตกลงแต่งงานในลาส เวกัส แต่พวกเขาไม่เคยมีความสัมพันธ์กัน หลังจากดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ พริสซิลล่าก็ตั้งครรภ์ ในอีกแปดเดือน ลิซ่าก็เกิดมา หลังจากนั้น เอลวิสเองก็ไม่แม้แต่จะแตะต้องพริสซิลล่าอีกเลย โดยอ้างว่าเขากลัวที่จะมีความสัมพันธ์กับแม่ของลูกของเขา “ตอนนั้นฉันยังเด็ก เลยคิดว่ามันคงเป็นเรื่องปกติ จากคำบอกเล่าของพริสซิลล่า แต่ยังไงก็ตาม พริสซิลล่าก็เป็นผู้หญิงที่ได้รับการกล่าวขวัญมากที่สุดคนหนึ่งในอเมริกา เป็นเวลาสองสามปี ที่พริสซิลล่าจึงใช้ชีวิตแต่งงานของเธอโดยปราศจากเรื่องเซ็กซ์ ก่อนที่จะมีความสัมพันธ์กับครูสอนคาราเต้ของเธอ ซึ่งนั่นก็เป็นช่วงท้ายของชีวิตคู่ของเธอร่วมกับเอลวิส ลิซ่าไม่อยากจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับแม่ของเธอ จากคุณ : ลูกโป่งสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 09:33:11

ความคิดเห็นที่ 4 In truth, Lisa and Michael had an intense and active sex life, which came as a surprise to many people. According to all available evidence, it was the first time he had ever experienced such chemistry with a woman, or with anyone, for that matter. His associates say the early stages of the romance impacted his personality in positive ways, in terms of his self-confidence and self-image. 'Apparently, Michael Jackson is a freak in bed,' and Lisa's friend Monica Pastelle. 'Lisa said he was amazing, and she's been around. Everyone was saying "No way, Lisa. It can't be true. Michael Jackson? Are we talking about the Michael Jackson, the one with the glove:" However, she wasn't joking, and it wasn't long before she didn't think it was funny either.  Who knows why it become so intense for Michael with Lisa However, it was this surpising - some may think of it as astonishing sexual component that most cemented the relationship between Michael and Lisa. ในความจริงแล้ว ลิซ่ากับไมเคิลก็จริงจังในเรื่องแบบนั้นทั้งคู่ ซึ่งนั่นทำให้คนหลายคนแปลกใจ และจากหลักฐานทั้งหมดทั้งมวล ทำให้เราสรุปได้ว่า นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ไมเคิลรู้สึกคลิกกับผู้หญิง หรือกับทุกคน ด้วยเหตุนี้ ผู้ช่วยของเขาจึงเล่าว่า ในช่วงแรกที่ทั้งคู่คบกัน ส่งผลทางบวกกับตัวของไมเคิลเอง นั่นคือทำให้เขามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น มั่นในมากขึ้นในรูปลักษณ์ของเขา “จริง ๆ แล้ว ไมเคิลเอง ก็ค่อนข้างแปลกกับเรื่องทำนองนั้น” โมนิก้าเพื่อนสนิทคนหนึ่งของลิซ่าเล่าว่า “ไมเคิลนั้นช่างยอดเยี่ยม ลิซ่าเองก็ประหลาดใจมากที่ได้รู้” ใคร ๆ ก็พากันกล่าวว่า “ไม่มีทางหรอกลิซ่า เป็นไปไม่ได้เลย ไมเคิล แจ๊คสัเนี่ยนะ นี่เรากำลังพูดถึงไมเคิล แจ๊คสันเดียวกันอยู่รึป่าว คนที่ใส่ถุงมือน่ะนะ” แต่ยังไงก็ตาม ลิซ่าไม่ได้ล้อเล่น และก็เป็นเวลาเพียงไม่นาน ก่อนที่เธอจะคิดว่ามันไม่ตลกเหมือนกัน” ใครเล่าจะเข้าใจว่าเพราะเหตุใดไมเคิลถึงจริงจังกับลิซ่า บางคนอาจจะคิดว่าเซ็กซ์ที่ไม่เหมือนใครนั่นเองที่เป็นโซ่ทองคล้องใจระหว่างไมเคิลกับลิซ่า -----------พิมพ์ไป อ่านไป เขินไป---------- จากคุณ : ลูกโป่งสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 09:34:27

ความคิดเห็นที่ 5   มารออ่านต่อค่ะ...... เฮ้อ ตอนจบแล้วสินะกับความรักของคู่นี้ จากคุณ : ssdd500 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 09:35:16

ความคิดเห็นที่ 6 The 'first time' for them was in Florida, during a weekend stay at Donald Trump's Mar-A-Lago estate in Palm Beach. Donald recalls seeing Michael and Lisa walking hand in hand on his estate, seeming lost in a mutual dream. In a photograph taken that day, Lisa was elegantly dressed in a severely tailored, black silk dress that fell in fluid lines around her shapely figure. Michael was wearing a sharp, black suit, scarlot-coloured shirt and matching tie. At one point, he dropped to one knee and kissed her hand. She urged him to his feet; the two embraced. Michael gazed at her intensely, mesmerized by her face. They kissed. He pulled from his vest pocket a small, wrapped box. When she opened it, Lisa's face lit up. Pearls.  'It was romantic,' Donald Trump recalled. 'Later, I asked Michael how things were going and he said, "Great. I just got to kiss the most beautiful girl in the world. I hope I'm worthy of her. I think I might marry her." '   On 26 May, 1994, Michael and Lisa were finally married in the Dominican Republic after a brief and, according to her, 'uneventful', courtship. Lisa's divorce from Danny Keough had been finalized twenty day earlier. ----------The  End-------(จบแล้วคร้าบบบบบบบบบบ Love Story) 555 ครั้งแรกของพวกเค้าอยู่ในฟลอริด้า, ระหว่างสุดสัปดาห์พักที่ Mar-A-Lago ของ Donald Trump ใน Palm Beach. Donald หวนรำลึกตอนที่เค้าเห็นลิซ่ากับไมเคิลเดินเล่นจูงมือกันไปในสวนที่ดินของเค้า เหมือนว่าเค้าหายเข้าไปในห้วงความฝันของสองเรา.ในภาพถ่ายวันนั้น ลิซ่าอยู่ในเดรสชุดหรูหราจากช่างฝีมือหลายคนที่ตัดให้ ชุดผ้าไหมสีดำนั้นดูกลืนไปกับสัดส่วนรูปร่างของเธอ ไมเคิลอยู่ในชุดสูทสีดำทันสมัย เสื้อเชิ้ตตัวในสีเลือดหมูเข้ากับเนคไท ในช่วงหนึ่ง เค้าคุกเข่ายกขาตั้งข้างหนึ่งแล้วบรรจงจูบลงบนฝ่ามือของลิซ่า เธอดันเค้าให้ลุกขึ้น ทั้งสองสวมกอดกัน ไมเคิลจ้องมองเธอแบบจริงจัง สะกดใจเธอด้วยใบหน้านั้น พวกเค้าจุมพิตสวาทกัน เค้าหยิบกล่องของขวัญออกมาจากเสื้อกั๊กข้างใน เป็นกล่องที่ห่ออยู่ เมื่อเธอเปิดมันออกมา ใบหน้าของลิซ่าเปล่งประกายความสดใส..นั่นคือไข่มุก "มันโรแมนติกเหลือเกิน" Donald Trump หวนรำลึกช่วงเวลานั้นให้ฟัง ต่อมา ผมถามไมเคิลว่าเป็นอย่างไรบ้างเล่า และเค้าบอกว่า "ยอดเยี่ยมเลย ผมได้จุมพิตกับผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกนี้ ผมหวังว่าผมมีค่าพอสำหรับเธอ ผมคิดว่าผมจะแต่งงานกับเธอ" ในวันที่ 26 พฤษภาคม 1994 ในที่สุด ไมเคิลและลิซ่าก็ได้แต่งงานกันในสาธารณรัฐ โดมินิกัน โดยสรุปแล้วและตามแต่ที่เธอเห็นว่ารักครั้งเก่าไม่เอาถ่าน ลิซ่าได้หย่ากับ Danny Keough ก่อนหน้าวันแต่งงาน 20 วันนี้เอง. --------------------จบบริบูรณ์----------------------------- บทความนี้แปลโดย  คุณ  NarzizuZ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 09:39:56 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 09:39:26 จากคุณ : ลูกโป่งสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 09:35:58

ความคิดเห็นที่ 7   ขอบคุณสำหรับบทความดีๆอ่านแล้วเย็นๆนะคะ ทำให้คิดถึงไมเคิลขึ้นอีกหลายกองเลย เขาสมควรที่จะเป็นผู้ชายที่คนทั้งโลกตกหลุมรัก เขาน่ารักจริงๆ We love U!, MJ จากคุณ : ssdd500 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 09:57:51

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณจขกท. มากค่ะ  คิดถึง MJ จากคุณ : ท่านชายทัด เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:08:09

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณค่ะ เพิ่งได้มาอ่าน ต้องขอไปเก็บกระทู้ก่อนหน้านี้ซะหน่อย ประทับใจจัง.... จากคุณ : เมื่อไหร่จะมีชื่อที่ใครพอใจ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 16:30:01

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณค่า ^^ จากคุณ : OiChiz* เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 18:17:27