 |
เมื่อละครช่อง 3 "หลงทาง''
|
|
มีพรรคพวกถามไถ่ความเห็นของ สนจ. หลังจากที่เห็น ''ว่างงาน'' ไม่มีหนังกำกับฯ มาห้าปีเข้าไปแล้ว....ฮา กับปรากฏการณ์ นั่งรถไฟฟ้าไปหา ''อีหมวย'' กับการฟาดเงินคนดูไปร้อยห้าสิบกว่าล้าน มันถาม สนจ.ว่า ''ทำเป็นไหม หนังแบบนี้น่ะ หนังที่ดูแล้วฟิลกู๊ด แล้วได้เงินน่ะ กูเห็นมิงทำแต่หนังฟิลปวดกบาล แล้วมีแต่คำชมแต่คนไม่ดู.....ฮา
สนจ.ก็ได้แต่สารภาพกันด้วยเสียงขึงขังไม่มีอ่อยๆ ว่า ''ทำไม่เป็นว่ะ ถึงได้ทำหรือนายทุนเขาให้ทำ ก็ทำออกมาได้ไม่ดีเท่าไอ้น้องที่มันกำกับ'' ก่อนจะอธิบายต่อว่า ''คนรุ่นกู เขาไม่มีรถไฟฟ้านั่งโว้ย แล้วหญิงสาววัยสามสิบสมัยกูส่วนใหญ่เขาก็แต่งงานมีผัวมีคนรักหรือโดนมาแล้วทั้งนั้น ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ ผู้หญิงไม่ต้องง้อผู้ชาย เพราะมีสติปัญญามีฝีมือ แล้วงานทุกอาชีพผู้หญิงก็ทำได้หมดแล้ว แม้กระทั่งต่อยมวยหรือเตะบอล มีอยู่อย่างเดียวที่ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็นต่อหรือเป็นรองก็คือ ผู้หญิงมีมดลูกและต้องมีประจำเดือน ส่วนผู้ชายมีแต่ไอ้เจ้าจำปี''...ฮา มันถามต่อว่า แล้วทำไมหนังมันถึงได้เงินเยอะขนาดนี้... สนจ. บอกว่า ''กูจะไปรู้เรอะ มันคงถูกจริตกับพวกสาวออฟฟิศมั้ง อีกอย่างมันเป็นเรื่องใกล้ตัว แต่ที่แน่ๆ คือ เพราะ ''พี่เคน'' ไม่ได้ทำ...อะไรเลย นอกจากเอาหน้าหล่อๆ มาเดินในหนัง''...ฮา พูดถึงเรื่อง ''ใกล้ตัว'' สองวันก่อน นั่งถองเบียร์อยู่ในร้านลาบส้มตำ แล้วถูก ''บังคับ'' ให้นั่งดูละครของช่อง 3 เรื่อง มงกุฎแสงจันทร์ ไอ้ที่บอกว่าถูกบังคับคือ เจ้าของร้านเขาเปิด แล้วเขาก็ไม่เปลี่ยนช่อง สนจ. ดันนั่งหันหน้าเข้าหาทีวี จะบอกให้เขาปิดก็ใช่ที่ เพราะเด็กเสิร์ฟในร้านก็ดู ลูกค้าสาวๆ ก็ดู สนจ.ก็เลยนั่งดูแกล้มเบียร์คอมมิวนิสต์ดาวแดงไปเรื่อยๆ เปื่อยๆ คือดูแบบสบายๆ ไม่ได้คิดจะจับผิดหรือเอาสาระอะไร ดูเพราะมันดันเปิดอยู่ตรงหน้า ก็เหมือนนั่งฟัง ไอ้หมึกวสันต์กับไอ้เกม พี่รอน พี่หนิง บ่นๆ อะไรๆ ให้ฟัง.... คือ นั่งๆ ดูไปแล้วก็ อดรนทนไม่ได้ ต้องยกหูไปหาลูกพี่เก่า บริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ์ เพื่อถามไถ่ว่าละครเรื่องนี้ของใครเป็นผู้จัด ใครกำกับฯ ฯลฯ คำถามแรกเมื่อได้รับโทรศัพท์กลับมากลางดึก เพราะ ปชส. ช่อง 3 รุ่น ''ตอกเสาเข็ม'' ซึ่งไปราชการที่เชียงใหม่ ถามไถ่ว่า ''มิงมีปัญหาอะไรโทร.มากลางดึก'' สนจ. ก็ได้แต่บอกไปว่า พอดีโดนบังคับให้ต้องนั่งดูละครเรื่องที่ว่า เลยอยากรู้ว่า ของใครทำ .. คำถามต่อมาก็คือ ทำไม มิงติดใจอะไร จะด่าอะไรเขาอีก....ฮา สนจ. ก็ได้แต่บอกว่า ไม่ได้คิดจะด่าอะไร เพราะเขียนไปจนเบื่อแล้ว ล่าสุดก็เขียนไปแล้วว่า ไม่ติดใจหรอกเรื่องคนทำละครและผู้กำกับฯ ลุกขึ้นมา ''ออกตัว'' กันในงานสัมมนาของผู้คนในแวดวงทีวีวิทยุ คือจะทำอะไรก็ทำไป แต่อย่า ''ชุ่ย'' หรือทำเหมือนเอา ''ตีนข้างซ้าย'' ทำกันให้เห็นบ่อยนักกับ ''คุณภาพ'' ของ ''งานสร้าง'' แต่พอมาเห็นละครเรื่องที่ว่า ก็เลยตั้งคำถามกับตัวเองในฐานะ คนเขียนเรื่อง คนกำกับฯ แถมยังเคยอยู่ ''ช่อง3'' มาก่อนว่า ''ทำไมช่อง 3'' ไม่ทำในสิ่งที่ตัวเอง ''ถนัด'' ต้องบอกว่า ช่อง 3 เป็นทีวีของ ''คนชั้นกลาง'' ไม่ใช่คนระดับ ''รากหญ้า'' ช่อง 3 ไปทำละครแบบ เจ้าชายตะวัก เจ้าหญิงตะบวย เหมือนช่อง 7 เขาไม่ได้หรอก แล้วไปทำละครบู๊แบบ ''เชยแต่มีเสน่ห์'' แบบที่ช่อง 7 เขาทำออกมาก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน ไอ้ประเภทยิงกันด้วยเอ็ม-16 กระสุนเป็นร้อยถากต้นไม้แต่ไม่โดนใครเลย หรือเห็นเอฟเฟกต์ฟุ้งกระจุยกระจายเพราะใส่ดินปืนเยอะไปหน่อย...ฮา หรือติดหนวดปลอมหนาเป็นพืด ดูแล้วตลกและทุเรศ...ฮา ไอ้แบบนี้ คนดูเขาไม่ด่าแม่ช่อง 7 และคนทำ เพราะเขาคุ้น แต่ถ้าช่อง 3 ทำ ภาษาบ้าน สนจ. เขาพูดกันว่า ''มันไม่คือ...'' คือมันสร้างความ ''น่าเชื่อถือ'' ไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเอามุมจริงจัง หรือมุมบันเทิงตลกโปกฮาแบบว่าอย่าหาสาระและความน่าเชื่อ เหมือนพลอตเรื่องแบบ ประเทศสมมติ ราชวงศ์สมมติ การแย่งชิงรักหักสวาทราชบัลลังก์สมมติ ชุดแต่งกายสมมติ ธงชาติสมมติ ในมงกุฎแสงจันทร์ คือ ละครของพี่ตู่น่ะไม่ต้องไปพูดถึง ''ความเนี้ยบ'' พี่ตู่เขาละเอียดอยู่แล้วกับเรื่องพวกนี้ แต่ ''เรื่อง'' มันโคตรจะ ''ลอย'' เลยพี่ตู่ มันไกลตัวแล้วไม่น่าเชื่อถือ มันประดักประเดิด ตั้งแต่ไดอะลอกซ์ ''ราชาศัพท์'' ไปจน ''เครื่องกาย'' นั่นแหละ ทำไมไม่หาเรื่องอะไรก็ได้ที่มันใกล้ตัว คนดูรู้สึกจับต้องได้ อีหรอบเดียวกับ ''รถไฟฟ้า'' นี่แหละ แม้กระทั่งพลอตเรื่องรักอันเกิดจาก การเข้าร้านสะดวกซื้อ กดมือถือผิดเบอร์ หรือการพูดคุยกันทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ไอ้ประเด็นแบบนี้ มันยังจะน่าสนใจกว่า ไปเอาเรื่องเจ้าที่ไหนก็ไม่รู้มาผูกเป็นเรื่องเป็นราว สู้กลับไปเอานิยายเจ๋งๆ เก่าๆ มาทำให้มันเป็น เมโลดรามาเนี้ยบๆ เสียยังจะเข้าท่ากว่า ไม่ว่าจะเป็น น้ำเซาะทราย, ฟ้าจรดทราย, พระจันทร์สีน้ำเงิน, ความรักครั้งสุดท้าย, ชั่วฟ้าดินสลาย ฯลฯ อ้อ.. ทั้งหมดนี้ ''ผอ.ประชาสัมพันธ์'' ของช่อง 3 บอกว่า ''กูขอให้การชั้นศาลได้ไหม ชั้น สยามดารากับมิงนี่ ไม่มีความเห็น กูแก่แล้ว พูดจนขี้เกียจพูดแล้ว''..ฮา ''อ้อ.. เขา ก็คนที่เขาได้ยินกูพูดนั่นแหละ เขาบอกว่า เขารู้'' เขาไม่ได้กินหญ้าเขากินข้าว แต่เขาทำไมไม่กลับไปหา ''ตัวตน'' ที่แท้จริง อันนี้กูไม่รู้ และไม่ใช่เรื่องของกู มันเป็นเรื่องของนโยบาย...ฮา นึกว่ามีแต่ ''การเมือง'' เท่านั้นที่มีนโยบาย ทำ ''ละครทีวี'' ก็มีด้วย แต่ขอโทษเป็นนโยบายที่เข้ารกเข้าพงและเหมือนกระทงหลงทาง...
*****ขอโทษครับ ลืมลงเครดิต จากเว็บสยามดาราครับ*******
แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 52 11:50:36
จากคุณ |
:
Mr.Tao
|
เขียนเมื่อ |
:
26 พ.ย. 52 10:52:40
|
|
|
|  |