ความคิดเห็นที่ 1 ในมุมมองของฝรั่ง โตแล้วยังอบู่กับพ่อแม่ = เกาะพ่อแม่กิน ครับผม เด็กฝรั่งส่วนใหญ่พอถึงวัยประมาณ ม.ปลาย แล้วก็จะออกจากบ้าน เช่าห้องอยู่เองและทำงาน part time ส่งเสียตัวเองเรียน ซึ่งจะต่างจากคนไทยส่วนใหญ่ที่มักจะอยู่กับพ่อแม่จนมีความมั่นคงทางการงานหรือการเงินในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ฝั่งพ่อแม่ฝรั่งเอง ก็ต้องการให้ลูกย้ายออกไปเหมือนกันครับ เพราะจะได้ใช้ชีวิตส่วนตัวจริงๆซะที จากคุณ : the scholar เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 10:10:25

ความคิดเห็นที่ 2 สังคมฝรั่งเขาใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตนเองค่ะ การย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ไปใช้ชีวิตด้วยตนเองถือเป็นอีกก้าวนึงของชีวิต การที่โตแล้วแต่ยังอยู่กับพ่อแม่มันก็คล้ายๆว่า ยังต้องพึ่งพาพ่อแม่อยู่ ยังต้องอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ยังทำมาหากินไม่เป็น ยังไม่มีความรับผิดชอบพอที่จะใช้ชีวิตตัวคนเดียว อะไรประมาณนั้น จากคุณ : i love summer rain เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 10:10:58

ความคิดเห็นที่ 3 เหอๆ เวลาเพื่อนแม่ (ที่เป็นคนต่างประเทศ) มาที่บ้านเค้าก็ชอบพูดแบบนี้ เหมือนกัน 'อ้าว นี่ลูกยังอยู่กับคุณอีกหรอ' ขอโทษครับมาดาม - -; จากคุณ : Tharkorn THE LaTTE เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 10:12:56

ความคิดเห็นที่ 4 ธรรมเนียมฝรั่งเขาต่างจาก เอเชียน่ะครับ พอลูกโตขึ้น พ่อแม่ก็จะให้ย้ายออกไป อย่างผู้จัดการผมเขาบอกเลยว่าโดนพ่อไล่ออกมาตอนอายุ27(ซึ่งถือว่าอายุมากแล้วสำหรับฝรั่งที่อยู่กับพ่อแม่) แต่เขาบอกว่า เขาชอบแบบเอเชียมากกว่า เพราะที่โน่นพอย้ายออกไป ตอนพ่อแม่ยังไม่แก่ก็ไม่มีปัญหา แต่พอแก่ชรากลายเป็นว่า พ่อแม่ต้องไปอยู่บ้านพักคนชรา เพราะไม่สามารถปรับตัวเข้าหากันได้ หายากที่พ่อแม่จะอยู่กับลูกหลาน ดูอย่างในซีรีส์ฝรั่งสิ จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 10:24:20

ความคิดเห็นที่ 5   แบบฝรั่ง พ่อแม่แก่ก็ไปอยู่บ้านพักคนชรา ตัวเองก็เตรียมตัวอีก30ปีก็ต้องมาอยู่เหมือนกัน คนฝรั่งบอกว่าเกาะพ่อแม่ ดูที่การกระทําดีกว่า อยู่แบบเกาะหรืออยู่แบบดูแลเป็นห่วง สังคมฝรั่งมันเห็นแก่ตัว อะไรเป็นภาระมันตัดทิ้งหมดแบบเอเชียดีกว่าเยอะ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 10:46:35 A:110.164.63.71 X: TicketID:242193

ความคิดเห็นที่ 6 มุมมองของ ฝรั่ง ต่างประเทศ อายุ 18 จะแยกตัวออกมาแล้วครับ คือออกมาอยู่หอพัก ตามมหาวิทยาลัย จะอิสระได้เต็มที่ กว่าอยู่กับพ่อแม่ และเป็นการบอกว่าตนเอง โตพอที่จะรับผิดชอบตนเองได้แล้ว กล้าแล้วที่จะออกมารับผิดชอบตัวเอง ใครที่ยังอยู่กับพ่อแม่ เขาจะมองว่าเป็นลูกแหง่ ทำอะไรเองไม่ได้ ยังไม่โตพอ รับผิดชอบตนเองยังไม่ได้ ต้องพึ่งพ่อแม่ ประมาณนี้ครับ เป็น ค่านิยมนะครับ อย่างในหนัง TF 2 แม่ของ แซมถึงได้ ร้องไห้หนักไงครับ เพราะว่าออกไปคราวนี้ คือออกไปถาวร จะกลับมาบ้างก็ ช่วง หยุดเทศกาล เช่น คริสมาสต์ เท่านั้น จากคุณ : Wastrel เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 10:46:52

ความคิดเห็นที่ 7 เทียบง่ายๆ ก็นึกถึงเด็กผู้ชายม.ปลายหรือมหาลัย ที่พ่อแม่ยังขับรถมารับที่รร.ทุกวันอะคับ เพื่อนๆ ส่วนมากก๋จะล้อ ถามว่ามันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ ก็คงไม่หรอก เพียงแต่เด็กม.ปลายคนอื่นส่วนมากจะมองว่าโตขนาดนี้แล้วก็น่าจะกลับบ้านเองได้แล้ว ไม่น่าจะเป็นลูกแหง่อยู่อีก จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 10:52:48

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่อง The Librarian ที่เป็นแนว ๆ Indiana Jones พระเอกยังอยู๋กะแม่อยู่เลยครับ อายุปาเข้าไป 30 แล้ว จากคุณ : SuperTee (itCrazy) เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 10:55:22

ความคิดเห็นที่ 9 เคยดูซีรีีส์ฝรั่งแต่ออกแนวตลกนะคะ ประมาณว่าพี่น้องสามคนเกี่ยงกันว่าใครจะเอาแม่ที่ถังแตกไปอยู่ด้วย (คือถ้าแม่ไม่ถังแตกก็จะอยู่เองได้ แต่นี่ถังแตกเลยต้องมาขออยู่ักับลูก) ต่างคนต่างไม่อยากให้แม่อยู่ด้วย ทำแผนผลักภาระให้กับพี่น้องคนอื่นสารพัด แล้วบทก็จะเขียนแบบว่าแม่เป็นตัวนำมาซึ่งปัญหา พอเข้ามาอยุ่ในชีวิตเขาแล้วมีแ่ต่ปัญหา.....นี่ขนาดเป็นซีรี่ส์ตลก แต่เราดูแล้วเราสะท้อนใจค่ะื เศร้ายังไงไม่รู้ค่ะ นี่เขาสื่อว่าพ่อแม่ที่แก่เป็นตัวปัญหาขนาดนั้นเชียวหรือ จากคุณ : willwadee เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 11:00:15

ความคิดเห็นที่ 10 เด็กฝรั่งส่วนใหญ่พอถึงวัยประมาณ ม.ปลาย แล้วก็จะออกจากบ้าน เช่าห้องอยู่เองและทำงาน part time ส่งเสียตัวเองเรียน เพราะงาน part time นั้นมีเงินพอที่จะ อยู่หอ + กิน +เสียค่าเทอม สบายๆได้ เด็กไทยไปล้างจานที่อังกฤษ1ปียังมีเงินเก็บเป็นแสนบาทได้เลย แต่เมืองไทย งาน part time นั้น อยู่หอ + กิน ก็ไม่พอแล้ว สังคมมันต่างกันครับ จากคุณ : จบชลชายรุ่นไฟใหม้น้ำถ่วม เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 11:11:31

ความคิดเห็นที่ 11 เคยเถียงกับเพื่อนฝรั่งเหมือนกันครับเรื่องนี้ แต่มันคนละสังคมกันพูดยากครับผม  จะทะเลาะกันเปล่าๆ จากคุณ : I Love someone on internet เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 11:33:03

ความคิดเห็นที่ 12   เงินเดือนเด็กล้างจานอังกฤษ1ปีมีเป็นแสนไม่แปลก แต่เจอแซนวิชชิ้นละ200บาทเสื้อลดราคาตัวละ2500บาท ค่ารถเมล์60บาท ค่าเช่าห้อง10000บาท เอาจริงๆ1ปีไม่มีตังเหลือแค่เอาไว้จ่ายค่าใช้จ่ายทั่วไปก็หมดแล้ว ค่าเรียนที่บ้านต้องส่งมาให้อยู่ดี จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 11:34:13 A:110.164.63.71 X: TicketID:242193

ความคิดเห็นที่ 13 เอ่อ เสื้อผ้าเมืองนอก ถ้าไม่แบรนด์เนม ราคาก็ไม่แพงนะครับ ราคาถูกๆเขาก็มีเหมือนกัน มันไปหนักค่าเช่าที่พัก กับค่าอาหารนั่นแหละ และค่าอื่นๆนั่นแหละ จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 11:37:43

ความคิดเห็นที่ 14 1.สังคมเอเชียกับตะวันตกเป็นคนละแบบ อย่างทางไทย จีน หรืออะไรแถว ๆ นี้ มีการปลูกฝังวัฒนธรรมดีงามที่เน้นการผูกสัมพันธ์ในครอบครัว วงศ์ตระกูล และการอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น แต่ฝั่งตะวันตกไม่มี เน้นการอยู่กินด้วยตัวเองเป็นหลัก 2.สำหรับสังคมไทย ค่าครองชีพต่ำ แต่รายจ่ายสูง อยู่หอพัก ทำงาน Part Time ไม่พออยู่พอกินแน่นอน นอกเสียจากต้องทำงานประจำที่มีรายได้พอสมควร (แล้วจะเอาเวลาไหนไปเรียน) สรุป สังคมต่างกันครับ คนที่เข้าใจเขาก็จะเข้าใจ คนที่ไม่เข้าใจ เขาก็จะไม่เข้าใจ จากคุณ : นักกวีจากเงามืด เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 11:40:02

ความคิดเห็นที่ 15 ปกติค่าเรียน เด็กฝรั่งหลายๆ คนเค้าก็ใช้ student loan กันทั้งนั้นนะคับ แล้วจบมาก็นั่งผ่อนอีกซักสิบปีอะ ไม่ได้ขออะไรขนาดนั้นหรอก จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 12:03:59

ความคิดเห็นที่ 16   จากที่ทราบที่ออสเตรเลียเด็กเกิดมารัฐจ่ายเงินให้ค่ะ แรกเกิดก้อนนึง แล้วให้พ่อแม่เป็นค่าเลี้ยงดูลูกอีกจนกว่าเด็กจะจบ ม.ปลาย (ถ้าจำไม่ผิด) คาดว่าที่อเมริกาก็น่าจะเหมือนกัน แล้วเด็กเรียนโรงเรียนรัฐฟรีจนจบ ม.ปลายเหมือนกัน บางบ้านนิยมมีลูกเยอะๆ ก็จะได้ค่าเลี้ยงดูเพิ่มตามจำนวนเด็ก พ่อแม่ก็สบาย ทำงานแค่อาทิตย์ละ 2-3 วันก็อยู่รอดกันทั้งบ้านแล้ว เพราะฉะนั้นพอเด็กจบม.ปลาย รัฐหยุดจ่ายค่าเลี้ยงดูผ่านทางพ่อแม่ เด็กก็จะออกจากบ้านเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง หรือไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย ซึ่งต้องหาเงินเรียนเอง แต่รัฐก็จะช่วยผ่านทางทุนต่างๆ หรือไม่ก็ให้กู้เงินเรียน กรณีที่เด็กที่เรียนมหาวิทยาลัยคือคนที่ตั้งใจจะเรียนจริงๆ แล้วหาเงินเรียนเอง เด็กฝรั่งจะตั้งใจเรียนมากเวลาอยู่ในห้องเรียนหรือที่มหาวิทยาลัย เลิกเรียนก็ต้องไปทำงานพิเศษ ไม่ค่อยว่างกัน ต่างจากเด็กบ้านเราที่เรียนเพราะค่านิยม หรือไม่ก็ตามความต้องการของพ่อแม่ นี่เห็นจากประสบการณ์ที่เรียนร่วมกับเด็กฝรั่งค่ะ จากคุณ : แมงปอ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 12:09:50 A:137.154.16.31 X: TicketID:197237

ความคิดเห็นที่ 17   ค่านิยมต่างกันเอามาเปรียบเทียบไม่ได้หรอกครับว่าแย่หรือไม่แย่ ชาติที่เจริญแล้วอย่างญี่ปุ่น ลูกชายถึงทำงานมีครอบครัวแล้วก็ยังอยู่บ้านพ่อแม่เลย จากคุณ : Furusato เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 12:19:21

ความคิดเห็นที่ 18 ในความเห็นของผมนะครับ ร้อยละ80 ที่ผมเห็น ถ้าอยู่เมืองไทยทำงานแล้วตั้งตัวได้ ผ่อนบ้านผ่อนรถเองได้ตั้งแต่เรียนจบได้เงินเดือน5หมื่น ผมว่าหลายคนก็ออกมาอยู่เอง ซื้อคอนโดเอง แล้วผมว่าพ่อแม่สมัยปัจจุบันก็เข้าใจว่าลูกเลี้ยงได้แต่ตัวยังไงเขาต้องออกไปใช้ชีวิตของตัวเองอยู่ดี มันไม่ได้หมายความว่าเราทื้งพ่อแม่ แต่มันคืออีกขั้นของชีวิต แต่ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นก็ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะจบใหม่ทำงานกันได้เงินหมื่นกว่า ซึ่งมันทำอะไรไม่ได้เลยในกรุงเทพ อย่าว่าแต่ซื้อของแบรนด์เนม ข้าวจะกินก็ยังต้องประหยัด แล้วอย่างนี้จะให้ไปซื้อคอนโดอยู่ได้ยังไง มันก็ต่างกับอยู่อเมริกาโดยสิ้นเชิง จบใหม่อย่างน้อยก็ 2-30000$ นี่เงินเดือนราชการนะ ไม่ต้องพูดถึงเอกชนมากกว่านี้แน่นอน และค่าใช้จ่ายที่ต่างประเทศก็ไม่ได้แพงอะไรขนาดนั้น โอเคอาจจะอาหารแพง แต่ว่าถ้าทำเองไม่ต้องซื้อจะถูกมาก และลองเทียบกับรถยนต์ หรือสินค้าเทคโนโลยี facilities จำเป็นต่างๆ ราคาถูกกว่าบ้านเราอีก เช่นโน้ตบุค มือถือ สรุปว่าที่ฝรั่งมีธรรมเนียมแบบนี้ก็เพราะมันมีสาเหตุว่า เขาสามารถหาเงินแบบเลี้ยงตัวเองได้จริงๆ ไม่ว่าจะมีอาชีพอะไรก็ตาม จะใช้แรงงานต่ำต้อยขนาดไหนก็มีเงินเก็บได้ขอแค่มีงานทำ ฉะนั้นถ้าใครงอมืองอเท้าไม่ทำอะไรก็จะโดนมองไม่ดี จากคุณ : พัท เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 12:20:28

ความคิดเห็นที่ 19 มองด้านพ่อแม่ บางทีมันเป็นความจำเป็น เพราะทำให้ลูกรู้จักความรับผิดชอบตัวเองค่ะ พร่ำสอนเท่าไหร่ ไม่เท่ากับให้เจอความลำบากด้วยตัวเอง ทีนี้เริ่มรู้จักประหยัด เริ่มรู้จักแคร์งาน ไม่เที่ยวเตร่ เพราะมีค่าใช้จ่ายจำเป็นมารออยู่ เหล่านี้ สอนยังไงไม่เห็นภาพ  ต้องเจอด้วยตัวเองนั่นแหละ จากคุณ : เชื้อไม่ทิ้งแถว เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 13:02:33

ความคิดเห็นที่ 20 เด็กฝรั่ง โตแล้วออกจากบ้าน รับผิดชอบตัวเอง เด็กไทยบางกลุ่มที่โอกาสเรียนน้อย  ยังไม่โตก็ต้องออกจากบ้านหางานทำ รับผิดชอบชีวิตตัวเอง  แล้วยังส่งเงินมาให้ทางบ้าน ช่วยพ่อแม่เลี้ยงน้องอีกด้วย  คิดดูใครรับผิดชอบมากกว่ากัน จากคุณ : azurite เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 14:02:38

ความคิดเห็นที่ 21   เสริมคคห 16 ค่ะ เนื่องจากเป็นคุณแม่ของออสซี่สองคน ครอบครัวไหนมีลูกคนที่สาม รัฐให้หนึ่งแสนต่อคนค่ะเป็นโครงการแค่ช่วงเดียวค่ะ(ตอนนี้ไม่แน่ใจว่ายังได้หรือเปล่า แต่คิดว่ายังคงมีอยู่) เพราะช่วงนั้นได้มีผลวิจัยว่าในอีกยี่สิบห้าปี ประชากรในวัยทำงานซึ่งถือว่าเป็นวัยที่พัฒนาประเทศจะมีจำนวนต่ำกว่าเกณฑ์ รัฐฯก็เลยส่งเสริมให้คนมีลูกเยอะๆ ค่ะ ส่วนค่าเลี้ยงดูให้พ่อแม่นั้นไม่มีนะคะ แต่เด็กๆ ออสซี่ทุกคนจะได้เรียนฟรีในโรงเรียนของรัฐอยู่แล้ว โดยรัฐฯจะให้ค่าเสือ้ผ้านักเรียนจำนวนหนึ่งทุกปีค่ะ(เท่าไหร่นั้นต่างไปตามแต่ละรัฐ) ส่วนค่าอื่นๆ ก็จะเป็นค่าลดหย่อนภาษีมากกว่าในกรณีที่มีลูกจะได้รับลดหย่อนภาษีเยอะมากๆ และถ้ามีลูกแต่ยังเช่าบ้านรัฐก็จะจ่ายให้ด้วยค่ะ แต่ถ้าไม่มีลูกก็ไม่ได้ในส่วนนี้ และถ้ามีลูกแต่พ่อแม่ไม่มีงานทำก็จะได้รับเงินช่วยเหลือจิปาถะโน่นนี่เยอะแยะ ละเอียดยิบย่อยเยอะมาก ต้องเข้าไปอ่านดูเฉพาะว่าตรงกับตัวเองนั้นมีอะไรบ้าง ถ้าอ่านทั้งหมดตาลายไม่ไหวค่ะ ส่วนคคหที่บอกว่าสังคมฝรั่งเห็นแก่ตัวนั้น ดิฉันขอแย้ง(ในเฉพาะประเทศออสเตรเลีย) ว่าไม่จริงค่ะ จากประสบการณ์ที่อยู่ในออสเตรเลียมานานกว่าสิบปี แต่เพราะที่นี่สอนให้คนพึ่งตนเองมากกว่า พ่อแม่นั้นแม้จะให้ลูกไปอยู่ข้างนอกเพื่อฝึกให้ลูกพึ่งตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ขับใสไล่ส่ง แต่ด้วยความสมัครใจของตัวลูกๆ มากกว่า แต่เมื่อลูกๆ มีปัญหาก็พร้อมจะรับฟัง แต่พ่อแม่อาจจะไม่ได้ให้เป็นตัวเงินเหมือนพ่อแม่คนไทย เพราะตัวพ่อแม่เองต้องเก็บหอมรอบริบเพื่อไว้ใช้จ่ายเวลาที่ตัวเองเกษียณ ค่ารักษาพยาบาล(ที่รัฐฯหรือประกันไม่ได้ครอบคลุม) ค่ากิน ค่าอยู่ และค่างานศพและหลุมศพ(ซึ่งแพงมาก) เพราะพ่อแม่ฝรั่งไม่ได้ต้องการให้ลูกๆ ต้องมามีภาระดูแลตัวเอในยามแก่เฒ่าค่ะ เพราะด้วยตระหนักว่าชีวิตลูกๆ ก็ต้องมีไว้สำหรับครอบครัวของลูก แม่สามีดิฉันเคยมาบ่นๆ ให้พวกเราฟังว่า คนรู้จัก(ฝรั่ง) ลูกชายต้องออกเงินให้แม่เพื่อนั่งเครื่องบินไปเที่ยว แม่สามีใช้คำว่า disgusting เพราะฝรั่งมีความเชื่อว่าพ่อแม่ต้องเลี้ยงดูลูกจนถึงจุดๆ หนึ่งเท่านั้น แต่ลูกๆ ไม่จำเป็นต้องมาเลี้ยงดูพ่อแม่ แต่ควรจะเลี้ยงดูครอบครัวของตัวเองมากกว่า ดิฉันเองกลับคิดว่าสังคมฝรั่งนั้นเอื้อเฟื้อในหมู่ครอบครัว ญาติพี่น้องมากกว่าสังคมไทยเสียอีก เวลามีอะไร เช่น ซ่อมรั้ว ทาสี ญาติพี่น้องเต็มใจมาช่วย ขอให้บอก แต่ถ้าเป็นคนไทยขนาดเป็นญาติแบบสนิทกันสุดๆ ก็ต้องจ้างเป็นเงินค่ะ (ขอโทษนะคะที่อาจตรงๆ บางคนอาจโชคดีมีญาติดี แต่ดิฉันประสบมากับตัวเอง เปรียบเทียบญาติฝั่งไทย กับฝั่งฝรั่งค่ะทำให้หมดศรัทธา) จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 15:14:06 A:115.128.63.161 X: TicketID:166806

ความคิดเห็นที่ 22 อยู่เมืองไทยตลอด แต่ก็ออกจากบ้านตอนอายุ 17 รู้สึกเบื่อระบบการศึกษาของไทยอย่างไรพิกล ( ความบ้าส่วนตัวนะ ) เคยขอพ่อกับแม่ไปทำงาน ก็ไม่ยอมให้ทำ ตอนอายุ 11 เดินหางานจนรองเท้าสึก เพราะไม่มีใครอยากรับเด็กทำงาน หลังจากเราออกจากบ้าน แม่ก็ไม่ได้บังคับอะไรมาก เพราะเราซัพพอร์ตตัวเอง แถมมีตังค์ส่งให้ที่บ้านอีก งานโน่นงานนี่ทำหมด ปัจจุบัน เพื่อนที่ๆเคยเรียนด้วยกันก็จบไปครึ่งนึงแล้ว เงินเดือนสตาร์ท 8000 บวกลบ 2000 สำหรับปริญญาตรี โอเว่อร์ทามอีกนิดหน่อย เงินเดือนเค้าเท่ากับที่เราให้แม่เราทุกเดือน บางที สำหรับกรณีของเรา ประสบการณ์ ความกล้า ก็สำคัญมากกว่าความรู้ ฉะนั้น เด็กฝรั่งจะไปทำงาน ออกจากบ้านอย่างไรก็ไม่แปลกสำหรับเรา เพราะเค้าต้องโต และโตเร็วมากพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้ ไม่เป็นภาระให้คนอื่นมากมาย เพียงแต่เรื่องความสัมพํนธ์ในครอบครัของเค้าจะไม่แน่นแฟ้นเท่าบ้านเราเท่านั้น จากคุณ : ทิโมธี เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 15:57:47

ความคิดเห็นที่ 23 เป็นค่านิยม และวัฒนธรรมของเค้าน่ะครับ เราที่ไม่เคยเจอ อาจจะตกใจ หรือแปลกใจบ้างเล็กน้อย เค้าเรียกว่า Culture Shock ครับ อย่าไปพยายามคิดแทนเค้ามากนะ เรื่องอย่างนี้ เพราะมันอธิบาย แล้วก็เถียงกันได้เป็นวัน จากคุณ : มะนาวต่างดุ๊ดvPT เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 16:37:30

ความคิดเห็นที่ 24 สังคมไทยนี่พิลึกครับ ตามความเห็นของผมนะ พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกช่วยเหลือตัวเอง สอนอะไรผิดอะไรถูก อะไรชั่วอะไรดี เอากันเรื่องง่ายๆ ในห้องนี้ มีบ่อยๆ พ่อแม่พาลูกตัวเล็กๆ ไปดูหนังสยองขวัญ ผมเห็นจนชิน ผมเห็นด้วยกับฝรั่งในเรื่องนี้นะ โตแล้วก็ต้องหาเลี้ยงตัวเอง ซึ่งพ่อแม่ต้องฝึกให้ช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่เด็ก ปลูกฝังความรู้สึกผิดชอบชั่วดีให้ ไม่ใช่โตเป็นควายแล้วยังแบเงินขอพ่อแม่อีก จากคุณ : เปล่า เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 17:10:57

ความคิดเห็นที่ 25 วัฒนธรรมมันต่างกันน่ะครับ วัฒนธรรมฝรั่งเขามองว่าโตแล้วก็ต้องออกไปสร้างครอบครัว ไปใช้ชีวิตของตัวเอง (เหมือนหมาแมวเลยแฮะ) แต่ของไทย(หรือจีน) เป็นครอบครัวใหญ่ ลูกหลานต้องดูแลบุพการี ผู้สูงอายุน่ะครับ ถ้าออกไปอยู่คนเดียวจะถูกมองว่าเนรคุณแทนน่ะสิ ผมเองอายุปาเข้าไปสามสิบกลางๆ แล้วยังอยู่กับพ่อแม่อยู่เลย จะออกไปอยู่คนเดียวก็ไม่ได้ด้วย เพราะเป็นลูกคนเดียว ถ้าไม่อยู่ดูแลก็จะกลายเป็นอกตัญญูไม่เลี้ยงดูพ่อแม่แทนน่ะ ^_^" จากคุณ : plankton เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 18:24:26

ความคิดเห็นที่ 26 ที่จริงตามต่างจังหวัด เด็กไทยก็ทำงานส่งตัวเองเหมือนฝรั่งนะ แถมส่งช่วยที่บ้านอีกตังหาก  ลองดูชีวิตพวกนักมวยไทยซิ เป็นแบบนี้ทั้งนั้น จากคุณ : Ninjax เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 20:09:21

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่มีอันไหนดีอันไหนไม่ดีหรอกครับ ทุกวัฒนธรรมมีข้อดีข้อเสียในตัวของมัน อย่างถ้าเป็นฝรั่ง ความสนิทสนม และความผูกพันระหว่างครอบครัวจะน้อยลงแน่นอน  แต่ทำให้เด็กมีความเข้มแข็ง เป็นผู้ใหญ่เร็ว แต่ถ้ามองอีกด้าน เด็กอาจจะชิงสุกก่อนห่ามได้ ส่วนของไทย ให้พูดกันตามตรง คนไทยความรับผิดชอบต่ำ การจะให้ไปแยกตัวอยู่คนเดียวมีแต่จะเพิ่มปริมาณประชากรที่ด้อยคุณภาพเพิ่มมากขึ้น เพราะไม่มีคนควบคุมดูแล แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องการทำงาน เด็กวัยรุ่นจะไปทำอะไรได้นอกจากรับจ้างทำงานโน่นงานนี่ อย่างมากให้เต็มที่เลยอ่ะ 300ต่อวัน ฟังดูก็โอนะครับ แต่ลองนึกถึงค่าครองชีพสิ หากต้องอยู่คนเดียว รับผิดชอบตัวเองอ่ะนะ เหรียญมันมีสองด้าน ดาบมันมีสองคม จากคุณ : Loacker Vanilla เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 01:57:24

ความคิดเห็นที่ 28 สังคมไทยไม่เหมือนสังคมฝรั่ง สังคมฝรั่ง เขาถือว่าถ้าพอดูเลตัวเองได้ ควรจะดูแลตัวเอง ออกไปผจญภัย ไทยหรือเอเชียส่วนใหญ๋ไม่ได้เป็นแบบนั้น อันไหนถูกอันไหนผิด แล้วแต่คนมอง แต่อย่าลืมว่าคุณมองก็มองด้วยมุมของคุณ ไม่ใช่ของคนอื่นเขา หมายถึงคนอื่นก็มีมุมมองของเขา จากคุณ : น้ำใส เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 14:31:09

ความคิดเห็นที่ 29 อย่าลืมครับ ประเทศไทยทำงาน Part time แบบไม่มีวุฒิการศึกษา ได้ เฉลี่ยๆ ชม.ละ 25-30บาท แต่ฝรั่ง(อย่างอเมริกา)ได้ เฉลี่ย ชม.ละ300 แล้ว อีกอย่าง ระบบการศึกษาไทย ถ้าคุณเอาเวลาทำงานไปด้วย ยังไงคุณก็เรียน ไม่ทันเพื่อน ไม่มากก็น้อย เผลอๆจะโดนเพื่อนๆล้อและดูถูกเอาด้วย เป็น ปัญหาสังคมอีก จากคุณ : PPJNY เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 13:53:16