Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มงกุฎแสงจันทร์…Understanding the Masterpiece  

ได้อ่านข้อความนี้จากเว็บเป่าจินจงค่ะ

http://www.paujinjong.com/webboard/show.php?Category=paujinjongclub&No=8046

ผู้เขียนเป็นแฟนละครคนหนึ่งที่ดูละครได้ละเอียดมากกกกกกกกก

และแสดงความคิดเห็นได้น่าสนใจ  

จขกท. จึงขออนุญาตมาแปะให้อ่านที่นี่นะคะ
_________________________



มงกุฎแสงจันทร์…Understanding the Masterpiece


ฉบับนี้ เปิดมิติการชมมงกุฎแสงจันทร์ให้สนุกขึ้น เมื่อดูไปเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกว่า กำลังใช้ระบบคิดที่ผิดในการชมเรื่องนี้ ละครเรื่องนี้มีตรรกะที่แก้ไม่ได้ถ้าใช้สูตรเดิม

ด้วยความที่มงกุฎแสงจันทร์ไม่ได้ใช้สูตรฮอลลิวูด แต่มีศิลปะแนวเอเชียอยู่มาก เน้นความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างมนุษย์ ความศรัทธาที่ไม่ต้องตั้งคำถาม
การกลับไปสู่ธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น เสื้อผ้านักแสดง อาจจะไม่กระฉับกระเฉง แต่เน้นความเป็นพื้นบ้าน ความเรียบง่าย และผ้าบางชนิดที่เป็นสีธรรมชาติ นี่คือหนึ่งในหลายประเด็นที่พาเราออกไปจากความคุ้นชินด้านความงามที่เราถูกปลูกฝังจากละครแนวเดิม


มงกุฎแสงจันทร์ มีรอยต่อของงานโรแมนติกและ
เรียลลิสติก เรียลลิสติก ในที่นี้คือแง่ที่คนดูอย่างเราๆช่างถามถึงความสมจริงต่างๆนานา ส่วนแนวโรแมนติก เน้นความประทับใจด้านอารมณ์ความรู้สึก เป็นการปลดปล่อยกล่องดวงใจของคนดูให้เป็นอิสระ ในที่นี้ หมายถึงทุกอารมณ์ของคำว่าที่สุดในรัก โลภ เศร้า แค้น ฯลฯ มิติที่สามเป็นตัวชูรสคืองานในเชิงสืบสวนสอบสวน ชิงไหวชิงชิงพริบ บู๊สู้ฟัด ซึ่งการทำให้ความมั่งคั่งของรสชาติทั้งสามรวมอยู่ในมหากาพย์จานเดียวกันนั้นไม่ง่าย

ย้อนกลับไปถึงตอนชิงบัลลังก์ จริงๆแล้ว เหตุการณ์ตอนนี้ มีภาษาละคร โดยใช้ฉากท้องพระโรงเป็นพื้นที่เชิงอำนาจ ซึ่งถูกแทนที่ด้วยอำนาจใหม่ที่ไม่เหมาะสม สิ่งที่ตัวละครกำลังทำคือการล้อเลียน การพึงใจในสิ่งที่ไม่คู่ควร ขณะเดียวกัน ระบบคิดที่สมจริงของผู้ชมก็ยังมีอยู่ว่า บ้านเมืองระส่ำระสายขนาดนี้ เหตุใดห้องสำคัญนี้จึงไม่มีทหาร เว้นแต่จะมีคำพูดจากบุคคลที่สามว่า กำลังมีการเตรียมการอื่นอยู่ภายนอก

เช่นเดียวกัน การแทนที่อำนาจสตรีในห้องปักไหม ที่ละครเน้นย้ำว่าเมื่อผลัดแผ่นดิน ผู้ที่มีอำนาจใหม่เข้ามาแทนที่ ฉากนี้มีความละเมียดนับตั้งแต่การก้าวย่างของสินาตีเพื่อสั่งการเจ้าหญิง บอกให้ทราบว่าห้องปักไหมและผ้าอาภรณ์ไม่ใช่พื้นที่ของผู้หญิงแห่งราชวงศ์จันทราภาอีกต่อไป

บัลลังก์ซึ่งเป็นฉากหลังไม่เพียงแต่ทำหน้าที่สื่อภาพอำนาจ แต่ยังรวมถึงการเสนอด้านมืดของมนุษย์ที่บางครั้งเติบโตจนยากจะควบคุม เช่น ตอนที่มาณสิงห์ สั่งการให้ลอบสังหารด้วยความรักที่มีต่อเจ้าหญิง ฉากหลังของเขาก็คือบัลลังก์ที่เรืองแสงในความมืดสลัว

มงกุฎแสงจันทร์จึงเป็นละครที่มีมิติของความลึก ทั้งจากศิลปะการแสดง การใช้ฉากสื่อความ พลังทางภาษา “น้ำค้างกลางใจ” “จะเป็นดินที่เฝ้ารอเธอทุกวัน” “แสงจันทร์ดังอาภรณ์แห่งรักนิรันดร์” “จันทราภา ราชวงศ์ที่ให้ความรุ่งโรจน์ สุขสงบ” “น้ำหน้านกแร้งอยากแปลงเป็นหงส์” “ชั้นมันแค่หมอนอิงใบเก่าๆ...” “หอนางโลมถึงไม่ใช่สถานที่ที่ดีนักสำหรับคนระดับเจ้าหญิง แต่ถ้าเป็นผู้หญิงที่ใจสลายคนนึง ที่นี่ยังมีคนที่เข้าใจซึ่งกันและกัน” ฯลฯ ฟังแล้วเกิดความวาวในความรู้สึก ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะมาจากนวนิยาย แต่คนทำละครทั่วไปมักจะมองข้าม ที่จะเล่าประเด็นทางปรัชญา และความรู้สึกที่นับไม่ได้ในนิยายไม่ให้ตกหล่น

การทำงานด้านตัวละคร ถือว่าเป็นจุดแข็งของ
เป่า จิน จง “ตาถึง”มากที่จะชี้ขาดว่า บทนี้ น่าจะเอาใครมาเล่น มีสายตายาวไกลไปถึงคุณยอดมณู คุณรัชนู คุณรอน ซึ่งเล่นแล้วเราเชื่อ รู้สึกว่าใช่จริงๆ รวมทั้งให้รายละเอียดตัวละครย่อยด้านเงื่อนไขในใจที่ซ่อนอยู่ และการสร้างบุคลิกทางการแสดงของตัวละครทั้งหมดให้เด่นเป็นที่จดจำ


ฝีมือการเล่น ถือว่าเล่นกันละเอียดจริงๆ ยกตัวอย่างซีนง่ายๆ อย่างซีนห่มผ้า ซึ่งเราก็เห็นกันมานักต่อนักเกือบทุกเรื่อง แต่แอนดริวนั้นเล่นด้วยสายตา ไม่ว่าเขาจะสุข เศร้า แค้น หรือแดกดัน ล้วนทำปฎิกริยา(เคมี)กับหัวใจคนดู ส่วนศรีริต้า อย่างที่หลายคนๆบอก สวยแบบมีชีวิตชีวา เล่นด้วยท่วงท่า อิริยาบถ มีอารมณ์ “อิน” กับบทบาท จนคนดูเรียกเธอว่าจันทร์เจ้า พระพาย นิลพัตรา อุมารังสี และเรื่องนี้ ได้เวลาที่แสงส่องผ่านสเปคตรัมเต็มๆเสียที ถ้าสังเกตดีๆ ทั้งคู่มีความน่าเอ็นดูเวลาเล่นเป็นลูก
ส่วนเลิฟซีน ไม่รู้ว่าพี่ปรียานุชมาติวด้วยตัวเองหรือเปล่า คนดูพลอยเคลิ้มกันได้ทุกตอน ตั้งแต่ต้นจน
“เจ้าหญิงเรียบร้อยโรงเรียนทีฑายุ” อย่างที่คุณหมาขี้เมาใน Pantip บอก


ด้วยความที่ละครเรื่องนี้คับคั่งไปด้วยดาวจรัสแสง สร้างความฮือฮาให้กับคนดูมาตั้งแต่แถลงข่าวเปิดกล้อง ทั้งดาวรุ่นเก๋า ดาวสวยล้านปี (เพ็ญพักตร์ – สาวิตรี) ดาวร้ายเสน่ห์แรง ดาวพระรอง และดาวอภิพระ-นางที่โคจรมาพบกัน จึงเปิดพื้นที่ท้องฟ้าให้ดาวดวงใหม่ๆได้ร่วมเปล่งประกาย ทั้งส้มเสี้ยว นักดนตรีหนุ่ม จราตี (โสเภณีเด็ดสวยดุ) มือสังหารหนุ่มน้อย (หล่อเหลือเกินพ่อคุณ)

ซีรี่ไทยไม่ได้ด้อยไปกว่าของชาติใด เพียงแต่อาจจะต้องเจียรนัยต่อไปในบางมุม เชื่อว่าไม่เกินความสามารถที่จะผลิตงานดีๆออกมาแข่งกับงานละครของชาติอื่น เรื่องนี้ ถือว่าดูแล้วชื่นใจ มีการลงทุนด้านสติปัญญา ความสร้างสรรค์ ขอบคุณที่พยายามให้ในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดกับคนดู และนั่นคือเหตุผลที่คนดูมากมายยืนหยัดส่งแรงเชียร์ บางคนถึงกับบอกว่า “ไม่ได้ดูละครมาสิบปี เพิ่งมีเรื่องนี้ที่ดู”


ต้องขอโทษที่ตอนต่อไปไม่ได้เขียนอีกแล้ว เพราะมีภารกิจเดินทาง กลับมาดูอีกทีเรื่องนี้น่าจะอวสารแล้ว แต่มั่นใจว่าตอนที่เหลือต้องสนุกแน่ๆ จากความรักกระจุ๋มกระจิ๋ม รักในไฟแค้น รักในอำนาจและการครอบครอง รักแบบที่ไม่เคยได้เป็นเจ้าของ รักลึกซึ้งมั่นคง ไปจนถึงรักประเทศชาติ รักแผ่นดิน มีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของละครกระแสแรงแห่งปีเช่นเดียวกับทุกคน


โดยคุณ Mook

_____________

love  love  love

จากคุณ : HeATheR
เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 11:53:07




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com