 |
[Bakemonogatari] บทวิเคราะห์: ทำไมเรื่องนี้จึงขายได้{แตกประเด็นจาก A8611090}
|
|
กลับมาถึงกรุงเทพแล้วครับ แต่เดี๋ยวดึกๆ ก็จะไปแม่สอดแล้วครับ เลยรีบมาทำก่อน เพราะมีข่าวใหม่เข้ามาอีก คือ
บาเกะโมโนกาตาริ แผ่นนาเดโกะและแผ่นต่อๆ ไป จะเลื่อนออกไปหนึ่งเดือนครับ คาดว่าน่าจะเกิดจากที่ทำตอน 14 - 15 ไม่ทัน ทำให้ตารางงานผิดพลาดจนไม่สามารถแก้งานได้ทันด้วย
กำหนดวันขายใหม่ Nadeko Snake -> 2010/01/27 Tsubasa Cat 1 -> 2010/02/24 Tsubasa Cat 2 -> 2010/03/24
หลายคนคงเสียใจเพราะต้องรอไปอีกเดือน แต่หลายคนแน่ๆ ที่จะดีใจ เพราะสามแผ่นแรกรวมค่าส่งและหากโดนภาษีหนักก็พอจะซื้อ PS3 ได้เครื่องนึงแล้วครับ เรียกได้ว่าพอหายใจไปได้อีกเดือน
ถ้าแก้นาเดโกะกับทำตอน 14 - 15 ออกมาได้ดีก็พอให้อภัยได้นะ
ต่อไปเป็นส่วนบทวิเคราะห์ครับ จากที่มีความสงสัยมากมายว่าทำไม Bakemonogatari จึงสามารถขายได้ทั้งที่ไม่ใช่อนิเมกระแสหลัก เรื่องนี้มีการวิเคราะห์ไปหลายทิศทาง ผมจึงขอรวบรวมและสรุปมาไว้ ณ ที่นี้ครับ
คำเตือน บทความนี้เป็นการวิเคราะห์จากทั้งสถิติ บทวิเคราะห์และคอมเมนท์จากเว็บบอร์ดต่างๆ ทั้งไทย ญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ และการคาดเดาของผู้เขียน จึงโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และน้อมรับทุกคำวิจารณ์
สำหรับ Bakemonogatari ดวงของ SHAFT นั้นมีมาตั้งแต่ก่อนเริ่มฉายเลย
สเต็บจั่วเทพของเรื่อง Bakemonogatari - ได้งานต้นฉบับที่ดี เพราะความที่โปรดิวเซอร์ของ Aniplex ชอบเรื่องนี้ จึงพยายามขอถึงสามปีกว่าจะได้เป็นอนิเม ถ้าไม่ตื้อสุดๆ คงไม่มีโอกาสได้รับอนุญาตจาก บ.ก. Kodansha Box ที่ไม่อยากให้นิยายในหมวดหนังสือนี้เป็นสื่ออื่น - งานมาตกกับ SHAFT ข้อนี้สำคัญมาก เพราะงานนี้ Aniplex เป็นหัวเรือหลัก ซึ่งสตูดิโอที่ใกล้ชิดกับ Aniplex มีมากมาย ตั้งแต่ BONES, P.A.Works, Ordet หรือลูกในไส้อย่าง A-1 แต่ SHAFT กลับได้งานไป (ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ SHAFT ค่อนข้างแนบแน่นกับทางโคดันฉะ) - ได้คาแรคเตอร์ดีไซน์ที่ดี Akio Watanabe ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหู แต่เขาคือผู้ออกแบบตัวละครของ Nurse Witch Komugi และนักวาดโดจินนาม Poyoyon Rock ซึ่งทำคาแรคเคอร์ดีไซน์ของเรื่องนี้ออกมาได้เด่นชัดมาก รวมทั้งเป็น Animation Director เองด้วย จึงสามารถควบคุมภาพให้เหมือนกับที่ตัวเองดีไซน์ไว้ได้ทุกฉาก - ได้เพลงประกอบที่ดี Satoru Kousaki เป็นผู้ทำเพลงประกอบให้ทั้งฮารุฮิและคันนากิ ซึ่งต่างมีเพลงประกอบติดหู ซึ่งผมเห็นว่าเป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อบาเกะไม่น้อยกว่าผู้กำกับ เพราะหลายฉาก หากไม่ได้เพลงประกอบ จะไม่ได้อารมณ์เท่านี้เลย - ได้นักพากย์ที่ดี ทีมพากย์เรื่องนี้ถือเป็นทีมที่ลงตัวที่สุดครับ ข่าวเบื้องหลังคือแคสติ้งกันเป็นปี แถมมีปลดนักพากย์กลางอากาศด้วย (เดิมคนพากย์พระนางไม่ใช่คู่นี้) ทั้งฮิตากิและโคโยมิเป็นตัวละครที่ต้องใช้ความสามารถสูงมาก ที่สำคัญ Kamiya Hiroshi และ Chiwa Saito มีความสัมพันธ์เกินเพื่อนกันนอกจอด้วย จึงเข้าขากันได้อย่างสุดๆ ส่วนตัวละครอื่นก็ได้นักพากย์ที่เข้ากับบทมากทุกตัว (เกร็ด - เดิมแล้วจิวะ ไซโตะ มาแคสติ้งพากย์มาโยย) โดยเฉพาะ Horie Yui ที่ผมรู้สึกกังขาในตัวสึบาสะเหลือเกิน จนกระทั่งถึงตอน 11 นั่นแหละถึงคิดว่าเธอเหมาะกับบทนี้จริงๆ - ได้ผู้กำกับที่ดี ด้วยชื่อ Akiyuki Shinbo ที่คิดจะทำงานแหวกแนวอยู่เสมอ (จนเจ๊ง) และผู้กำกับย่อยของแต่ละตอนที่มีฝีมือเข้าขั้นทั้งนั้น รวมทั้งเป็น ผกก.คนในทั้งหมด จึงทำงานเข้าขากับชินโบได้อย่างดี รวมทั้งอาการย้ำคิดย้ำทำของ ผกก.ฃอย่าง Oishi Tetsuya ที่จะไม่หยุดแก้งานจนกว่าจะพอใจได้ส่งผลต่อคุณภาพของงานฉบับ DVD/BD อย่างมาก - ได้ฝ่าย Production Committee ที่ดี Aniplex ไม่เข้ามาก้าวก่ายการทำงานแม้แต่น้อย - ประธาน SHAFT เห็นแววของเรื่อง จึงลงทุนให้เพิ่มจากที่ Aniplex และ Kodansha ให้มา (งบมากขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น) - และไม่มีใครคิดว่ามันจะดัง จึงไม่ถูกคาดหวัง แม้แต่แฟนๆ ของค่ายนี้เองยังเฉยๆ เพราะไม่ใช่แนวที่ชาฟต์ทำตามปกติ
ส่วนผสมเหล่านี้เป็นไปได้ยากมากที่จะลงตัวกันได้พอดี แต่มันเกิดขึ้นโดยบังเอิญ และทำให้ Bakemonogatari กลายเป็นอนิเมระดับคุณภาพเยี่ยม (ยกเว้นเรื่องการเผา)
แต่แค่คุณภาพก็ยังไม่พอจะทำให้คนชอบได้ อนิเมคุณภาพเยี่ยมแต่ไม่มีคนดูก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ในวงการที่เต็มไปด้วยการแข่งขันแย่งชิงมวลชนกันอย่างดุเดือดเช่นนี้
แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 52 21:34:16
แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 52 20:05:45
แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 52 18:36:55
แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 52 18:26:25
จากคุณ |
:
SNE
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ธ.ค. 52 18:21:24
|
|
|
|  |