 |
ความคิดเห็นที่ 43 |
ขออนุญาตรำลึกความหลัง..
ที่อิฉันไปปายครั้งแรกเมื่อเกือบสิบปีก่อน มันไม่มีอะไรเลย ก็แค่ทุ่งนา กับหมู่บ้านเล็กๆ ไปอยู่เงียบๆ เรื่อยๆ รู้สึกเวลามันเดินช้าลงไปโข
ถามว่าทำไมไม่ไปที่อื่น เงียบๆ เหมือนปายมีเยอะ เหตุผลของตัวเองเพราะ...
1. ที่ปาย ตอนนั้นมันพอมีที่พักบ้าง เกสต์เฮ้าส์เล็กๆ ห้องน้ำรวม ราคาคืนละร้อยสองร้อย อยู่หลายคืนมีลดด้วย เคยนอนคืนละ 50 บาทมาแล้ว (ถ้าไม่มีที่พักเลย หรือมีแต่ที่แพงๆ ก็ไม่รู้จะไปอยู่ไหนอ่ะค่ะ หรือเป็นโรงแรมที่คนพักไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวเท่านั้น บางทีก็ไม่สะดวกใจที่จะพัก)
2. ที่ปาย มีที่เที่ยวเล็กๆ น้อยๆ ที่พอจะขี่จักรยานไปเองได้ ซอกซอยในปายเองก็เหมาะสำหรับจักรยานเอามากๆ เพราะอยากขี่ๆ จอดๆ จูงๆ ตรงไหน ยังไงก็สะดวกสุดๆ (สมัยนั้นมีร้านเช่าจักรยานไม่กี่ร้าน มี จยย. นับคันได้ รถยนต์ยิ่งแทบไม่เห็น อ้อ.. ยังไม่มีไฟแดงที่สี่แยกด้วยนะ ไฟแดงมาทีหลัง ตอนที่เริ่มมี จยย. ให้เช่าเยอะ เขาว่าฝรั่งขี่ จยย. ชนกัน เลยต้องมีไฟสัญญาณ - -")
3. ภูมิประเทศที่เหมาะสม... ปายอากาศเย็น ต่อให้หน้าร้อน กลางวันอาจร้อนบ้าง แต่เช้าๆ ค่ำๆ และกลางคืน ยังไงก็หายใจได้อากาศเย็นฉ่ำปอด ไปจนถึงหนาวสะท้านทรวง ข้อสำคัญเสน่ห์ของปายที่เคยจับใจอิฉัน.. คือแม่น้ำปาย.. ลำน้ำสายเล็ก แต่ไหลแรง ช่วงแคบๆ ของปายแถวที่ไหลผ่านตัวอำเภอบางช่วงกว้างไม่เกิน 5-6 เมตร ได้นอนเล่นผูกเปลริมน้ำฟังเสียงแม่น้ำคุยกับตลิ่ง กับเสาสะพานไม้ไผ่ มีความสุขที่ซู้ด..
4. มีนักท่องเที่ยวบ้าง ให้ได้จับกลุ่มคุยกันตอนกินข้าว แลกเปลี่ยนเรื่องราวที่ติดเป้มา, ล้อมวงรอบกองไฟริมน้ำฟังใครบางคนเกากีต้าร์ที่ยืมมาจาก GH คลอไปกับเสียงน้ำไหล และเสียงร้องเพลงภาษาอะไรก็ไม่รู้ -*- หรือยืนล้อมรถเข็นมันปิ้ง ข้าวโพดปิ้ง กินไปคุยไป ผิงไฟไป ฯลฯ พอไม่เหงา แต่ก็ไม่ถึงกับอึกทึกขนาดแถวฟูลมูน
5. ตลาดเช้า ณ เวลานั้น คือตลาดชาวบ้านจริงๆ ขายกับข้าว ผักผลไม้ ของสดของแห้ง อาหารปรุงสำเร็จแบบที่ขายให้ชาวบ้านจริงๆ มีทั้งคนเมือง ชาวเขา มุสลิม นทท.ผมทอง ผมแดง ผมดำ เดินสวนกันไปมาน่าเอ็นดู ^ ^"
มีร้านที่ดูเป็นการตั้งใจขาย นทท. พวกโจ๊ก-น้ำเต้าหู้-ปาท่องโก๋ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง สัก 2-3 ร้านเท่านั้น (แต่จริงๆ เขาอาจไม่ได้ตั้งใจขายแต่ นทท. หรอก เพราะก็เห็นชาวบ้านซื้อเยอะแยะ นทท.ขี้ตู่ไปเอง :p) (ร้านอาหารสำหรับ นทท. โดยเฉพาะจริงๆ, ร้านขนมปัง, ร้านกาแฟ, ผับ, คลับ, ร้านเหล้า, ร้านโปสการ์ด อาร์ตแกลลอรี่ ฯลฯ รวมๆ กันทั้งอำเภอน่าจะ ประมาณสิบกว่าๆ ถึงยี่สิบต้นๆ ไม่เกินนั้น)
6. ถนนคนเดิน... นอกจากของชิลๆ อาร์ทๆ ของพ่อค้าแม่ค้าจากเมืองกรุง ก็มีแผงชาวเขามั้งที่คึกคักหน่อย แล้วก็ของกินของใช้เล็กน้อย กับที่เป็นสีสันเวียนๆ กันไป คือบางทีมีพวกการแสดงแบบเปิดหมวกบ้าง ที่ก็นักท่องเที่ยวนั่นแหละ บางคนมีความสามารถอะไรก็เอามาเล่น มาแสดงกัน (หลังๆ พอถนนคนเดินเริ่มแน่นด้วยร้าน การแสดงพวกนี้ก็หลบๆ ไปรวมกลุ่มกันที่อื่น ตามร้านอาหาร, หรือสถานที่อื่นๆ ตามแต่จะ "รู้กัน")
....ทั้งหมดนี่คือบรรยากาศก่อนที่ปายจะมี 7-11 หลายปี (บางอย่างอาจฟังเวอร์ๆ บางทีอิฉันอาจเพ้อไป เพราะโรคคร่ำครวญถึงอดีตกำเริบหนัก)
ปีที่ 7-11 เปิดคือหนก่อนสุดท้ายที่อิฉันไปปาย แค่รู้สึกแปลกๆ นิดๆ แต่ยังไม่หนักหนาอะไร จากนั้นไม่ได้ไปพักหนึ่ง หนถัดมา เจอชุมชนธนาคารเข้าไป เลยต้องบอกศาลา ....
ขอเก็บปาย ไว้อย่างที่เคยเห็นในความทรงจำดีกว่า
(เพื่อนฝูงคนปายที่เคยรู้จักเมื่อไปครั้งแรกๆ ไม่มีใครยังอยู่ในอำเภอนั้นอีกแล้วด้วย เลยไม่รู้จะไปให้เศร้าทำไม)
แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 52 20:58:25
แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 52 20:53:20
จากคุณ |
:
จิตรางคทา
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ธ.ค. 52 20:52:01
|
|
|
|
 |