ความคิดเห็นที่ 1 เพราะท่านรักประชาชน จากคุณ : ทุ่งหัวช้าง เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 23:53:26

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะท่านทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ตั้งอยู่ในทศพิราชธรรม และ ท่านทรงเป็นเทวดาที่จุติบนโลกใบนี้ คุณความดีทั้งหลายไม่ได้เกิดแก่ปวงชนชาวไทย แต่ยังแผ่ไปยังชาวโลกอีกด้วย จากคุณ : ลอบแทง (GMX) เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 23:54:23

ความคิดเห็นที่ 3 เราต้องทำสิ่งต่างๆให้ดีขึ้นเท่าที่เราจะทำได้ เพื่อให้ท่านมีความสุข จากคุณ : ทุ่งหัวช้าง เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 23:54:55

ความคิดเห็นที่ 4 จากคุณ : มิสพรหล้า เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 23:56:18

ความคิดเห็นที่ 5 เพราะท่านทรงงานด้วยใจ จากคุณ : LifetimeWarranty เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 00:02:30

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นกระทู้กระตุ้นจิตสำนึกที่ดีครับ แต่ประโยคนี้ ไม่เหมาะสมเลยครับ "หรือพระเจ้าอยู่หัวของเราต้องการมากเกินไป" จากคุณ : Fluorine เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 00:02:32

ความคิดเห็นที่ 7 ก็ทรงห่วงประชาชน เลยมีโครงการต่างๆทำเขื่อน ทำฝาย ทำฝนเทียม ตลอดเวลา เราเกิดทันในสมัยที่ท่านยังมีเรี่ยวแรง ท่านทรงงานทุกวันจริงๆ จากคุณ : ปลายเทียน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 00:02:53

ความคิดเห็นที่ 8   ทำให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญทำง่ายมากค่ะ แค่เราทุกคนไม่ทำให้บ้านเมืองเดือดร้อน ไม่ก่อความวุ่นวาย ถ้าทุกคนทำได้....นี่ก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดให้พระองค์แล้วค่ะ (ไม่อยากวกเข้าเรื่องการเมืองบ้านเราเดี๋ยวจะยาว เขียนเป็นพอนัยๆ) แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 00:12:28 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 00:05:10 จากคุณ : Pipo-Pookka เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 00:04:45

ความคิดเห็นที่ 9 พระองค์เคยตรัสไว้ว่า " ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือ การได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง" เเต่ทุกวันนี้เเตกเเยกกันเหลือเกิน พระองค์ท่าน คงไม่อยากจะอยู่ท่ามกลางประชาชนคนไทยที่มีเเต่ทะเลาะกัน กับการเเค่ความเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน ก็ตีกันเเล้ว  อยากให้คนไทยคิดก่อนทำ เห็นต่างกัน ไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนเเรง เหมือนคนไม่มีสมอง รักในหลวง ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ จากคุณ : Visby เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 00:05:54

ความคิดเห็นที่ 10 เพราะพระเจ้าอยู่ทรงต้องการให้ราษฎรของพระองค์ มีความเป็นอยู่ที่ดี เพราะพระเจ้าอยู่ทรงต้องการให้ราษฎรของพระองค์ ไม่อดอยาก เพราะพระเจ้าอยู่ไม่เคยนึกถึงความสุขสบายของพระองค์เลย แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 10:00:53 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 00:07:23 จากคุณ : จิงดิ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 00:07:02

ความคิดเห็นที่ 11 เป็นกระทู้กระตุ้นจิตสำนึกที่ดีครับ แต่ประโยคนี้ ไม่เหมาะสมเลยครับ "หรือพระเจ้าอยู่หัวของเราต้องการมากเกินไป" จากคุณ : Fluorine   ===================== ขอบคุณค่ะ พอดีอารมณ์มันพาไป อิอิ จากคุณ : Miss perjer_123 เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 00:15:33

ความคิดเห็นที่ 12   ประโยคข้างล่างนี้น่าจะเป็นคำตอบให้จขกทได้นะค่ะ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามว่า เคยทรงเหนื่อยทรงท้อบ้างหรือไม่ ในหลวงตอบว่า     “ความจริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ” เอามาฝากอีกเรื่องว่าพระองค์ทรงนึกถึงแต่ประชาชนของพระองค์อย่างไร แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสันหลังในอีก 5 ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยังทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์ เดินสายออนไลน์ไว้ เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้ดูมอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน แค่นี้กระจ่างไหมค่ะคุณจขกท........ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 01:24:18 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 00:43:37 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 00:33:22 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 00:32:39 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 00:28:40 จากคุณ : Pipo-Pookka เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 00:28:06

ความคิดเห็นที่ 13 ในขณะที่ท่านทรงงานได้ไม่เหมือนเมื่อก่อน บ้านเมืองก็วุ่นวาย คนยุคก่อนคงจะมีความสุขกว่าตอนนี้ จากคุณ : hydrophobia เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 00:38:02

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ ^ ทำให้นึกถึงคำว่า สมัยบ้านเมืองยังดีอยู่ ....ฟังดูนานมาแล้วนะ จากคุณ : Book&Beer เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 00:56:41

ความคิดเห็นที่ 15   Thank ka. From... จึงขอให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญอยู่ในสถาบันหลักของประเทศ และชาวไทยทุกคน หมู่เหล่า ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วทำตั้งจิต ตั้งใจ ให้เที่ยงตรงหนักแน่น ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมอันไพบูลย์ คือ ชาติ บ้านเมือง อันเป็นถิ่นที่อยู่ที่ทำกินของเรา มีความเจริญ มั่นคง ยั่งยืนไป I plan to go back Thailand next month and I will do my best. จากคุณ : seakatt เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 01:04:30 A:24.138.11.97 X: TicketID:191410

ความคิดเห็นที่ 16 เพราะถ้าประชาชนไม่ทิ้งท่าน ท่านก็จะไม่ทิ้งประชาชน จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 01:12:43

ความคิดเห็นที่ 17 เพราะพระองค์ท่านรักประชาชน จากคุณ : ลูกนกหลงทาง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 01:16:41

ความคิดเห็นที่ 18 อ้อ อีกอย่าง  ขอให้ทุกคห.ที่โพสต์ติง จขกท. ให้ลบคำไหน คนที่ติงก็ช่วยลบของตัวเองด้วยน่ะค่ะ ไม่งั้นมันไม่ต่างกันเลย เหมือนไปย้ำ ก็ไม่เหมาะเช่นกัน  เพราะ จขกท.เขาไม่มีประโยคนั้นแล้ว ช่วยกลับมาลบประโยคนั้นกันด้วยก็จะดีมากเลยน่ะค่ะ จากคุณ : ลูกนกหลงทาง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 01:22:40

ความคิดเห็นที่ 19   รักในหลวงเหลือเกิน ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : Graph เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 01:40:44 A:58.64.110.229 X: TicketID:163677

ความคิดเห็นที่ 20   พระมหากษัตริย์พระองค์นี้  คือพระมหาราชันย์ผู้ซึ่้งไม่เคยหยุดทรงงานเพื่อประชาชน แม้กระทั่งในขณะี้ที่พระวรกายของพระองค์ท่านไม่ค่อยแข็งแรง แต่พระองค์ไม่เคยหยุดคิดถึงประชาชนของพระองค์ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : คอยเธอที่มุมตึก เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 02:02:27

ความคิดเห็นที่ 21 อยากให้อ่าน ดร.สุเมธเล่าเกี่ยวกับการทรงงานของในหลวง(อยู่ตรงท่อนท้ายๆ) http://www.thaipost.net/news/141209/14927 จากคุณ : ลูกนกหลงทาง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 02:10:40

ความคิดเห็นที่ 22 เพราะคนไทยขี้เกียจ มักง่าย และไม่รู้จักหน้าที่ของตนเอง รอแต่ฟ้าบรรดาล ทำให้พระองค์ต้องทรงงานหนัก เพื่อเปลี่ยนแปลงให้ประเทศ เจริญขึ้น เทียบเคียงนานาประเทศ ไม่ให้ต่างชาติดูถูกเราได้ ถ้าคนไทยรู้จักรับผิดชอบและทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี พระองค์คงไม่เหน้ด เหนื่อยมาจนทุกวันนี้หรอกครับ .....ระบบ เด็กเส้น เด็กฝาก เด็กนาย ญาติเมีย ควรจะหมดไปได้แล้ว รับทำงานตามความสามารถที่แท้จริง .....รักษากฏหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มี ส่วยหรือใต้โต๊ะ ............................................. ลองคิดดู ถ้าคนไทยทุกคน ซื่อสัตย์ขยันอดทน และทำตามหน้าที่ของตัวเองในแต่ละอาชีพ อย่างยอดเยี่ยม (ไม่ใช่เช้าชามเย็นชาม) ประเทศชาติจะเจริญ จนแซง ญี่ปุ่น ได้ ตั้งแต่อดีตมาเลยเชียวนะ และพระองค์จะมีความสุขสบาย เมื่อคนไทยไม่ขี้เกียจ และรักกัน แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 04:29:02 จากคุณ : ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน (A-DASH) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 04:28:01

ความคิดเห็นที่ 23 ทิ้งขยะให้ลงถัง ใช้ภาษาไทยให้ถูก (คะกับค่ะ นะกับน่ะ แยกกันออกยังบางคนอ่ะ) รู้หน้าที่และทำหน้าที่ของตัวเองในแต่ละวันให้เต็มที่ บางทีเรื่องง่ายๆ คนที่บอกว่ารักพ่อๆยังไม่ค่อยทำกันเลยอ่ะ คิดๆกันไป ใครที่ทำให้พระองค์ทรงงานหนัก เราเองเอาความสะดวกตัวเองเข้าว่า แต่พ่อของพวกเราเอาความสุขของลูกทุกคนเป็นที่ตั้ง จากคุณ : ทรงพระเจริญ (otaruhuhu) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 06:44:18

ความคิดเห็นที่ 24 เพราะพระองค์ทำทุกอย่างเพื่อประชาชนของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงคิดอยู่เสมอว่า  ที่นี่ คือ ประเทศของพระองค์  และประชาชนของพระองค์ โชคดีที่เกิดมาในแผ่นดินของพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : lilacaeng เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 06:46:54

ความคิดเห็นที่ 25 ผมรักในหลวง ครับ ใครที่เคย เข้ามาใน วังสวนจิตรลดา จะรุ้ว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในนี้ ท่านเป็นคนริเริ่ม ครับ ผมภูมิใจ ที่ได้ทำงาน รับใช้ท่าน ครับ ทรงพระเจริญ จากคุณ : manmomin เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 06:54:17

ความคิดเห็นที่ 27 ทำไม...การเป็นพระราชาต้องทรงงานหนักขนาดนั้นด้วย...ทำไม -----------------------------------------------------------   ‘ความรัก’ ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย การเป็นพระเจ้าอยู่หัวนั้น ต้องเป็น 24 ชั่วโมง พระองค์ทรงอยู่บนยอดปิรามิดของสังคม แต่ปิรามิดในประเทศไทยนั้นเป็นปิรามิดหัวกลับ หมายความว่า พระองค์ท่านทรงอยู่ด้านล่าง เพื่อรองรับปัญหาทุกๆ อย่างของประชาชน   และทรงตักเตือนบรรดาบุคคลทีททำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทในโครงการอันเนื่องมาจกพระราชดำริต่างๆ อยู่เสมอว่า “ความทุกข์ของประชาชนนั้นรอไม่ได้” สมเด็จพระรเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานสัมภาษณ์ในหนังสือ “ในหลวงของเรา” ว่า เวลาที่ทรงพระสำราญคือ เวลาที่เสด็จฯออกวางโครงการพัฒนประเทศ และเห็นว่าพระราชดำริคงจะมีประโยชน์ต่อประชาชน ในเวลาที่เห็นผลจากโครงการต่างๆ อีกประการหนึ่งสิ่งที่ทำให้ทรงพระสำราญ คือการได้ทอดพระเนตรเห็นประชาชนมีน้ำใจต่อท่าน และประชาชนด้วยกัน ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินจะมีส่วนช่วยพระองค์ท่านได้โดยการช่วยเพื่อนร่วมชาติคนอื่ นๆ มีความรักความสามัคคีกัน ทำตนเป็นเป็นพลเมืองดี เห็นแก่ชาติบ้านเมือง   วันที่ 19 สิงหาคม พุทธศักราช 2489 วันที่เราจะต้องจก พอถึงเวลาก็ลงจากรถพระที่นั่งพร้อมกับแม่ ลาเจ้านายฝ่ายใน ณ พระที่นั่งชั้นล่าง แล้วก็ไปยังวัดพระแก้วเพื่อนมัสการลาพระแก้วมรกตและพระภิกษุสงฆ์ ลาเจ้านายฝ่ายหน้า ลาข้าราชการทั้งไทยและฝรั่ง แล้วก็ไปขึ้นรถยนต์ พอรถแล่นออกไปได้ไม่ถึง 200 เมตร มีหญิงคนหนึ่งเข้ามาหยุดรถแล้วส่งกระป๋องให้เราคนละใบ ราชองครักษ์ไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรอยู่ในนั้น บางทีจะเป็นลูกระเบิด ! เมื่อมาเปิดดูภายหลังปรากฎว่าเป็นทอฟฟี่อร่อยมาก ตามถนนผู้คนช่างมากมายเสียจริงๆ ที่ถนนราชดำเนินกลาง ราษฎรเข้ามาใกล้ชิดรถที่เรานั่ง กลัวเหลือเกินว่าล้อรถของเราจะไปทับแข้งขาใครเขาบ้าง รถแล่นฝ่าฝูงชนไปได้อย่างช้าที่สุด ถึงวัดเบญจมบพิตรรถแล่นเร็วขึ้นได้บ้าง ตามทางที่ผ่านได้ยินเสียงใครคนหนึ่งร้องขึ้นมาดังๆ ว่า “อย่าละทิ้งประชาชน” อยากจะร้องบอกเขาไปว่า “ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะละทิ้งอย่างไร่ได้” ความตอนหนึ่งจาก บทพระราชนิพนธ์  “เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิตเซอร์แลนด์” “เมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนในยุโรป ข้าพเจ้าไม่เคยตระหนักว่าประเทศของข้าพเจ้าคืออะไร และเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าแค่ไหน ไม่ทราบตราบจนกระทั่งข้าพเจ้าได้เรียนรู้ที่จะรักประชาชนของข้าพเจ้า เมื่อได้ติดต่อกับเขาเหล่านั้น ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าสำนึกในความรักอันมีค่ายิ่ง ข้าพเจ้าไม่เป็นโรคคิดถึงบ้านที่จริงจังอะไรนัก แต่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้โดยการทำงานที่นี่ว่า ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือการที่ได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง” ความตอนหนึ่งจาก พระราชหัตถเลขาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ทรงมีไปถึงพระสหายในต่างประเทศ ภายหลังจากที่เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ ปี 2528 น้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ทำให้ปรระชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปวดพระทนต์ ทันตแพทย์จะถวายการรักษา แต่พระองค์ทรงตรัสว่า“รอไว้ก่อนนะ ฉันทนได้ วันนี้ขอไปดูราษฎร ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมก่อน” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงานหนักมากที่สุดพระองค์หนึ่งในโลก พระราชกรณียกิจของพระองค์มีมากมายทั้งในด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมช าติและสิ่งแวดล้อม ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านศาสนา ด้านความมั่นคงของประเทศ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านศิลปวัฒนธรรม และอื่นๆ อีกมากมาย แต่พระราชกรณียกิจหลักของพระองค์ คือการยกระดับสถานภาพความเป็นอยู่และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน พระองค์ทรงตั้งพระราชหฤทัยอย่างแน่วแน่ที่จะทรงปฏิบัติพระราชภารกิจเพื่อควา มสุขของประชาชนชาวไทย และความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ ทรงลำบากตรากตรำ เสด็จฯไปทั่วทุกหนแห่งในพื้นที่ทุรกันดารท่ามกลางแสงแดดและสายฝนที่ตกลงมาอย ่างไม่ขาดสาย เพื่อทรงหาทางช่วยเหลือประชานที่ยากจนได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  ‘ความรักของพ่อ’ความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าแผ่นดิน โครงการคนไทยหัวใจภักดี ได้จัดพิมพ์หนังสือ “ความรักของพ่อ” ถ่ายทอดเรื่องราวและพระราชจริยวัตรอันงดงาม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรักในบริบทต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนพระมหากรุณธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย หากเราพิจารณพระราชจริยวัตรอันงงดามของพระองค์ เราจะพบแนวคิดในการดำเนินชีวิตที่ซ่อนอยู่มากมาย ซึ่งสามารถนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต แนวหน้าสุดสัปดาห์ ขออนุญาตนำความรักในบริบทที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย ซึ่งเรียงร้อยไว้ในหนังสือ “ความรักของพ่อ” มาถ่ายทอดให้พสกนิกรชาวไทยได้ตะหนักรู้ว่า พระองค์ทรงเป็นมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลกเพื่อพสกนิกรของพระองค์อ ย่างแท้จริง  ...พ่อ สอนเราด้วยการปฏิบัติให้เห็นเป็นตัวอย่าง ขึ้นอยู่กับเรา ว่าจะปฏิบัติตามหรือไม่เท่านั้น... วันที่ 5/12/2009 http://www.naewna.com/news.asp?ID=190122 จากคุณ : An.mkII เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 07:19:42

ความคิดเห็นที่ 28   เรารักพระเจ้าอยุ่หัว จากคุณ : ยำใบเบบี้ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 07:27:38

ความคิดเห็นที่ 29 ฉันรักพระเจ้าอยู่หัว จากคุณ : หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 07:34:57

ความคิดเห็นที่ 30 ที่พระราชาของพวกเราทรงทำงานหนักตลอดเวลา เพราะ... พระองค์รักประชาชนและไม่ทอดทิ้งประชาชน ภาพจากซีดีพระราชทานของงานเมื่อคืน(13/12/52) ค่ะ จากคุณ : แจ๋ว ริมคอมพ์ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 07:42:30

ความคิดเห็นที่ 31 ขอพระองค์ทรงพระเจริญ จากคุณ : wisunsaya เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 07:47:04

ความคิดเห็นที่ 32 เรารักในหลวง ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:09:43

ความคิดเห็นที่ 33 พระองค์ท่านมีบารมียิ่งใหญ่ ความดีงาม ที่ยิ่งใหญ๋อย่างแท้จริง จากคุณ : mama_papaloveyan เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:15:19

ความคิดเห็นที่ 34   เรารักในหลวง... ขอพระองค์ทรงพระเจริญ จากคุณ : น้ำค้างเดือนหก เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:20:01

ความคิดเห็นที่ 35 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : แม่น้องตั้น (0870) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:27:40

ความคิดเห็นที่ 36 ขอพระองค์ทรงพระเจริญ จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:29:01

ความคิดเห็นที่ 37 สิ่งที่พูดกับใครก็ได้ในโลกใบนี้ที่ไม่ใช่คนไทย  ได้อย่างเต็มปาก " ฉันมีพระมหากษัตริย์ที่พวกคุณไม่อาจจะมีได้ " เรารักในหลวง... ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : jstation (starjoke20) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:46:01

ความคิดเห็นที่ 38   ขอพระองค์ทรงพระเจริญคะ จากคุณ : Vermouth เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:49:41 A:10.0.1.124 X:124.157.141.30 TicketID:226522

ความคิดเห็นที่ 39 ขอพระองค์ทรงพระเจริญ จากคุณ : มักกะโรนีกะหมากเก็บ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:50:18

ความคิดเห็นที่ 40 ทรงพระเจริญ จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:55:13

ความคิดเห็นที่ 41 อยากให้มันซึมเข้าสมองไอเลวพวกนั้นบ้าง จากคุณ : Batty_Bounce เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:56:32

ความคิดเห็นที่ 42 ... ขอพระองค์ทรงพระเจริญ  เกษมสำราญ และขอสาปแช่ง  พวกบ้าที่แสวงหาความสุขจากความโลภของตนบนความทุกข์ของประชาชนและในหลวง จากคุณ : ดาราวิปลาส เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:59:24

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าท่านไม่ทำ แล้วใครจะทำ ขนาดพวกที่มีอำนาจทุกวันนี้ ยังใช้อำนาจเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อบ้านเมืองกันเลย เราน่าถะถามตัวเองนะ ว่าทุกวันนี้เราทำให้พระองค์ท่านเหนื่อยไม่พออีกเหรอ เราทำไมไม่ทำให้พระองค์ท่านเหนื่อยน้อยลง รักสามัคคีกัน แค่นี้ทำไม่ได้ใช่ไหม แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 16:51:07 จากคุณ : น้ำใสใบตอง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:03:39

ความคิดเห็นที่ 44 แต่ concept นี้ผมชอบกว่าที่เอามาพูดๆว่าทำไมเราถึงรักในหลวงนะ ขอจงทรงพระเจริญ จากคุณ : Trisha Foster เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:08:59

ความคิดเห็นที่ 45 คนไทยโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์ที่รักประชาชนของพระองค์อย่างแท้จริง   ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : Gigolina เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:15:34

ความคิดเห็นที่ 46 พูดไม่ออก มันน้ำตาปริ่มตลอดเลย จากคุณ : บุรี เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:17:21

ความคิดเห็นที่ 47 พอฟังเพลงของพี่ดี้ที่มีเนื้อร้องท่อนที่ว่า "ท่านเป็นเทวดาที่มีลมหายใจ" นี่แหละในหลวงของคนไทยทุกคน จากคุณ : เชิญ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:20:27

ความคิดเห็นที่ 48 ขอพระองค์ทรงพระเจริญ จากคุณ : noisoi เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:26:47

ความคิดเห็นที่ 49 เวลาที่ทำงานของตัวเองไม่เต็มหน้าที่ เต็มความสามารถ อาจด้วยความขี้เกียจ เบื่อหน่าย หรือน้อยเนื้อต่ำใจอะไรบางอย่าง เวลาที่พอจะทำอะไรเพื่อคนอื่น เพื่อสังคม เพื่อบ้านเมืองได้ แล้วกลับชะงักด้วยความสงสัยว่าทำไมฉันต้องทำ ทั้งที่คนอื่นยังเฉยๆ ได้ จะนึกถึงพระองค์ท่านเสมอ.... ...ก็พระองค์ยังทำ จะว่าเป็นหน้าที่ ที่ทรงทำก็เกินคำนั้นมากมาย เมื่อพระมหากษัตริย์ยังทรงยอมเหน็ดเหนื่อยด้วยพระองค์เอง ทั้งที่ใช้ใครทำก็ได้ เมื่อพระมหากษัตริย์ยังทรงยอมตรากตรำเพื่อความสุขของประชาชนได้ เมื่อพระมหากษัตริย์ยังทรงตรัสว่าความสุขของพระองค์คือการได้เห็นประชาชน ของพระองค์มีความสุข ได้เห็นบ้านเมืองสงบร่มเย็น แล้วข้ารองบาทอย่างเรา..  แค่ทำงานเต็มหน้าที่ เต็มความสามารถ แค่ช่วยเหลือผู้อื่น ทำอะไรเพื่อสังคม เพื่อบ้านเมืองบ้างเท่าที่พอมีกำลัง เสียสละความสบายเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้คนอื่นได้รับมันบ้าง แล้วสุดท้าย เมื่อบ้านเมืองสงบร่มเย็น เจริญก้าวหน้า มันก็ย้อนกลับมาเป็นประโยชน์ ต่อตัวเราเองที่เป็นคนในบ้านเมืองนี้ทั้งนั้น ... แค่นี้จะทำไม่ได้เชียวหรือ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 09:33:18 จากคุณ : จิตรางคทา เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:31:14

ความคิดเห็นที่ 50 เพราะประชาชนคือลูกของท่าน จากคุณ : ตุ๊กตาดิน *_* เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:35:12

ความคิดเห็นที่ 51 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : j-said เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:35:30

ความคิดเห็นที่ 52 ภาพจากวันที่ 5 ธันวาคมค่ะ ..... จากคุณ : ความสุขอยู่ที่ใจ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:35:47

ความคิดเห็นที่ 53 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 09:36:38 จากคุณ : ความสุขอยู่ที่ใจ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:36:23

ความคิดเห็นที่ 54 สงสารพระองค์ๆทรงงานหนักเหลือเกิน อยากให้พระองค์มีความสุข สบายพระทัย อยากให้พระองค์หายจากอาการพระประชวรไวๆ จากคุณ : swatch เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:39:20

ความคิดเห็นที่ 55 ต้นแบบที่ยิ่งใหญ่ในเรื่องของความเพียร . . ขอพระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรในเร็ววันค่ะ จากคุณ : ความสุขอยู่ที่ใจ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:42:49

ความคิดเห็นที่ 56   ขอพระองค์มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง .. ทรงพระเจริญ จากคุณ : ประณมกร เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:44:38

ความคิดเห็นที่ 57 อ่านหระทู้เกี่ยวกับในหลวงทีไรน้ำตาคลอด้วยความตื้นตันทุกทีเลยค่ะ ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : KS_SK เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:50:43

ความคิดเห็นที่ 58 ### คห. 26 Ultrataro การโพสแบบนั้นมีวัตถุประสงค์แบบไหน... ขยายให้กระจ่าง ด้วยค่ะ หน้าที่ของการเป็นคนดี ทำได้ไม่ยากใช่หรือไม่ ควรเริ่มจาก ไม่โพสอะไรที่เบียดเบียนความรูสึกคนอื่น แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 09:55:30 จากคุณ : ไขว่คว้าหาดาวดวงนั้น เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:53:42

ความคิดเห็นที่ 59 คห 58 ผมว่า คห 26 เค้าก็ไม่ได้พูดอะไรผิด นี่หน่า คุณทำอะไรอยู่เหรอ ผมเองก็มีหน้าที่ต้องทำ ทุกคนก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ คนที่ไม่ทำอะไรเลย คือคนที่ตายไปแล้วเท่านั้น อ้างอิงจาก คำสอนท่านพุทธทาส แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 10:10:10 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 10:08:45 จากคุณ : visioboy เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:06:01

ความคิดเห็นที่ 60 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : tete-a-tete เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:07:41

ความคิดเห็นที่ 61 จากคุณ : ศรีธนา เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:08:47

ความคิดเห็นที่ 62   ตอนนี้ในฐานะคนไทย ผมละอายเหลือเกินที่เห็นท่านต้องทรงงานหนักเพื่อพวกเรา แต่พวกเราบางกลุ่มกับทำให้ท่านต้องทุกข์พระทัย ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ //เรารักในหลวง จากคุณ : ดาวินชี เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:10:48 A:124.157.152.17 X: TicketID:228946

ความคิดเห็นที่ 63 ท่านทรงงานหนักเพราะท่านรักประชาชนและประเทศชาติไงคะ ^ ^ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : Jankenpyon เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:10:49

ความคิดเห็นที่ 64 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : huntress เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:18:04

ความคิดเห็นที่ 65 ไม่มีคำพูดใดๆ ที่จะเพียงพอกับ พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน  ขอทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน จากคุณ : i ... G r e e n s e A เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:25:07

ความคิดเห็นที่ 66 ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เรารักพระเจ้าอยู่หัว จากคุณ : วันที่สวยงาม เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:26:55

ความคิดเห็นที่ 67 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน..............   (-/\-) จากคุณ : ฟาฬ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:29:20

ความคิดเห็นที่ 68 ขออนุญาต "คิดต่อ" จาก #26 #58 #59 ใช่ค่ะ.. จะคิดว่าเป็นหน้าที่ก็ได้ แต่...  คุณเคยคิดมั้ยว่า หน้าที่ของพระเจ้าแผ่นดินมีขอบเขตแค่ไหน ต้องทำ(ลงมือเอง)แค่ไหน ต้องทรงเสด็จไปถึงพื้นที่ ทุกๆ แห่งหรือเปล่า สั่งคนอื่นไปดูมารายงานได้หรือไม่ ต้องทรงห่วงใย หักโหมทรงงานทั้งที่ทรงประชวรหรือไม่ (อ้างอิงจาก #12 และอีกหลายเหตุการณ์) ต้องทรงศึกษาเรื่องต่างๆ เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาเองหรือไม่ ในเมื่อผู้เชี่ยวชาญก็มี สั่งให้เขาหาวิธีมาให้ ก็น่าจะได้  แต่พระองค์ก็ทรงศึกษาเพื่อจะได้ทรงรู้กระจ่างในปัญหานั้นๆ ด้วย ...หลายครั้งที่ทรงพระราชทานพระราชดำริที่แก้ปัญหาได้ตรงจุด ที่ผู้เชี่ยวชาญเองก็นึกไม่ถึงด้วยซ้ำ ..... คนอื่นๆ เขาเชี่ยวชาญกันเรื่องเดียว เรื่องอื่นก็แบ่งให้คนอื่นไปทำ แต่พระองค์ทรงศึกษาทุกเรื่อง ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์สุขของประชาชน พระองค์ทรงรู้ และทรงลงมือเองบ่อยๆ ถ้าพูดกันภาษาชาวบ้าน ในความรู้สึกเรา  "ถ้านั่นคือหน้าที่  พระองค์ทรงทำเกินหน้าที่มากๆ" สำหรับคนทำงานอื่นๆ หลายคนทำแค่งานในหน้าที่ (ที่ได้เงินเดือนตอบแทน ไม่ได้ทำฟรีด้วย) ยังบ่นแล้วบ่นอีก  อู้ได้เป็นอู้  หาประโยชน์เข้าตัวได้เป็นหา ..ส่วนที่ไม่ใช่หน้าที่ ไม่เคยคิดแตะ งานประเภททำเป็นการกุศล อย่าหวังว่าฉันจะยอมลงแรง  ...คนแบบนี้มีมากมายในสังคม ... อย่างเราเองเวลาทำงาน ถ้ามันมีปัญหาไม่หยุดหย่อน เรายังเหนื่อย ยังท้อ สารภาพเลยว่า บางครั้งก็แอบพาลวางมือ ปล่อยตามบุญตามกรรมประชดชีวิตไปเลยก็มี แต่พระเจ้าอยู่หัวไม่เคยทรงท้อ   ทั้งที่... “ความจริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพัน ของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ” ..(อ้างอิง #12) "ถ้านั่นคือหน้าที่  ที่ทรงทำก็เกินคำนั้นมากมายนัก" จากคุณ : จิตรางคทา เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:34:17

ความคิดเห็นที่ 69 แฟนเราต่างชาติ เค้าไม่เข้าใจว่าทำไม ทุกครั้งแค่ เราเห็นข่าวของพระองค์ท่าน แล้วเราจะต้องน้ำตาไหลทำไม  เราก็ได้แต่บอกเค้าตลอดว่า ฉันรักพระมหากษัตริย์ของฉัน เพราะพระองค์เป็น KING ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จากคุณ : ต้นไม้ในบ้านหลังเก่า เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:34:59

ความคิดเห็นที่ 70 ขอเอาประโยคใน คห ที่ 37 ไปใช้ต่อนะครับ ^^ จากคุณ : ::Dominamia:: เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:35:35

ความคิดเห็นที่ 71 ทุกคนรักพระองค์ แต่ถึงจะรักยังไง หลาย ๆ คนก็ยังไม่สามารถก้าวข้ามเส้นแบ่งในใจของตนเองให้พ้นออกจากสีเหลือง - สีแดงได้ หลายคนยังไม่สามารถ "ละ" ความคิดว่า "ฉันถูก" "ฉันรักชาติ" แล้วยอมลดอัตตาลงมาเพื่อทำให้พระองค์มีความสุขได้ เป็นเรื่องน่าเศร้า ที่มหาบุรุษซึ่งทำทุกอย่างเพื่อเราโดยไม่ทรงห่วงพระองค์เองมาตลอดกว่า 60 ปี พระผู้ซึ่งไม่เคยทรงเรียกร้องแก้วแหวนเงินทองใด ๆ จากเราเลย พระผู้ซึ่งไม่เคยแม้แต่จะเบียดบังผลประโยชน์ชาติเข้าหาองค์เองและพวกพ้องเลย กลับไม่สามารถได้รับการตอบแทนจากประชาชนผู้อ้างว่ารักพระองค์จนยอมสละชีวิตแทนได้ด้วยของขวัญเพียงแค่ "การยอม" ให้แก่กัน เพราะอัตตาของทุกคนมันบังใจอยู่ เลิกแบ่งเขา แบ่งเราแล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิมซักที ชาตินี้จะได้เห็นมั้ย เข้ามาแก้คำผิดและขอบคุณสำหรับ give ค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 52 15:53:48 จากคุณ : jadecut เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:38:23

ความคิดเห็นที่ 72   เรานั่งฟังพระบรมราชโชวาทของท่านเมื่อวันเฉลิมฯ แล้วก็คิดว่า ทำไมนะ ท่านอายุมากขนาดนี้แล้ว ยังต้องมานั่งปากเปียกปากแฉะบอกให้ลูก ๆ ของท่านรักกัน อย่าทะเลาะกัน สามัคคีกัน คนที่ได้นั่งดูอยู่ ที่กัดกัน ที่ทำลายบ้านเมืองกันอยู่ทุกวัน ไม่สำเหนียกเลยเหรอว่าต้องหยุดได้แล้ว ท่านทำเพื่อประชาชน เพื่อประเทศชาติมามาก จนตอนนี้ท่านอายุมากแล้ว ไม่คิดบ้างเหรอ ว่าท่านควรได้พักและมีความสุขเพราะประเทศชาติเราร่มเย็น คนไทยรักกัน เมื่อไหร่ท่านจะได้เห็นภาพนั้นซะที อยากเห็นในหลวงยิ้มแย้มเหมือนสมัยก่อน จำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นในหลวงยิ้มคือเมื่อไหร่ อยากเห็นอีกเร็ว ๆ จากคุณ : เกศ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:47:06 A:10.49.133.58 X:58.137.189.35 TicketID:245187

ความคิดเห็นที่ 73 เพราะท่านทรงรักพวกเราทุกคน เพราะเราเป็นประชาชนของพระองค์ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : เหมง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:51:08

ความคิดเห็นที่ 74 ท่านทรงงานหนักด้วยดวงตาเพียงข้างเดียวมาตลอด 60กว่าปี ที่ทรงครองราชย์ คิดแค่นี้เราก็น้ำตาจะไหลแล้วค่ะ ท่านทำเพื่อคนไทยมากมายจริงๆ จากคุณ : Baby_I Know_U Know เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:52:44

ความคิดเห็นที่ 75   คำต่อคำ อำมาตย์ ชื่อ "ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล" เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา บันทึกไว้ในแผ่นดิน...ตามเส้นทางเสด็จฯ ทุกคำ ทุกบรรทัด จากนี้ไป พสกนิกรไทยชาวไทยไม่อาจไม่อ่าน !! "ดร.สุเมธ" เล่าเรื่องอาการพระประชวร "พระองค์ท่าน พระชนมพรรษาตั้ง 80 พรรษากว่าแล้ว การที่ทรงพระประชวรก็เป็นเรื่องธรรมดา อีกทั้งพระวรกายของพระองค์ท่านก็ผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก ทรงเสด็จฯ เยี่ยมเยียนพสกนิกรอย่างมากมาย ผมได้มีโอกาสตามเสด็จมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 กว่าๆ เป็นต้นมา เห็นว่าพระองค์ท่านทรงงานเกินกว่าภาวะร่างกายมนุษย์จะพึงแบกรับได้ พระวรกายของพระองค์ท่านก็ต้องสึกหรอเป็นธรรมดา" "อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พระองค์ท่านทรงมีพระวรกายแข็งแรง ทรงมองปัญหา วางแผนการแก้ปัญหาไว้เรียบร้อยแล้ว ทรงตั้งองค์กรที่จะรับงานไปดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่น มูลนิธิโครงการหลวง มูลนิธิชัยพัฒนา และโครงการพระราชดำริ และมูลนิธิราชประชานุเคราะห์" ทำให้มีองค์กรที่สามารถทำให้งานเดินหน้าต่อไปได้ แม้ว่าระยะหลังพระองค์ท่านจะไม่ได้เสด็จออก แต่งานทั้งหลายก็ไม่ได้หยุดนิ่ง แต่มีกระแสรับสั่งผ่านสมเด็จพระเทพฯ ที่ทรงเข้าเฝ้าฯ บ่อยมากๆ และทรงรับพระราชกระแสรับสั่งมา ทำให้ในแง่งานไม่ได้หยุดลงเลย "ทรงงานตลอดเวลา...แม้ประทับอยู่โรงพยาบาล" แม้ว่าในขณะนี้ พระองค์จะประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช สมเด็จพระเทพฯ ก็ยังทรงเข้าเฝ้าฯ และกราบทูลฯ ถวายรายงาน บางงานพระองค์ท่านก็มีรับสั่งเพิ่มเติม ในฐานะพระองค์ท่านทรงเป็นประธานกิตติมศักดิ์ สถาบันน้ำ ท่านก็รับสั่งให้ข้อมูลตลอดเวลา ในโลกที่เทคโนโลยีสารสนเทศก้าวหน้า การสั่งราชการสมัยใหม่ สั่งงานที่ไหนก็ได้ และรูปแบบการถวายรายงานก็มีหลายช่องทาง ไม่จำเป็นต้องเสด็จฯ ให้เหนื่อยยากเหมือนสมัยก่อน และงานทุกอย่างพระองค์ท่านทรงหลับตาก็เห็นหมด มีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงโทรศัพท์สายตรงมาถึง ตอนนั้นก็ประมาณตีสอง ตีสาม ก็เคย แสดงให้เห็นว่าท่านทรงงานตลอดเวลา แต่ส่วนมากท่านจะทรงมีกระแสรับสั่งผ่านสมเด็จพระเทพฯ ตัวอย่างคำแนะนำของในหลวง ตอนนั้นมีเรื่องการตั้งโครงการเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงของหน่วยงานอื่น พระองค์ท่านทรงเห็นว่าไม่ควรดำเนินการ แต่ได้ทรงอธิบายว่าทำไมพระองค์ไม่เห็นด้วย ผมก็แจ้งให้หน่วยงานนั้นยุติเสีย "ทรงงานอย่างละเอียด...รอบคอบทุกพิกัด" ท่านมีพระกระแสรับสั่งงานได้เฉพาะเจาะจง บางครั้งงานที่เราถวายรายงานก็ทรงทราบรายละเอียดมากกว่าเราที่อยู่ในพื้นที่ มีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์จะเสด็จฯ ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เราไปนอนรออยู่ก่อนที่เวียงจันทน์ แล้วถวายรายงานเรื่องพิกัด ท่านก็มีพระกระแสรับสั่งผ่านศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัย กลับมาตอนสี่ทุ่ม ทรงมีรับสั่งว่า "พิกัดที่ส่งไป ผิดพลาดไปประมาณ 500 เมตร" เราซึ่งอยู่ในพื้นที่ยังถวายรายงานได้ไม่ครบ แต่พระองค์ท่านประทับอยู่ที่วังยังทราบได้ ทั้งๆ ที่คณะทำงานขนระบบ GPS ไปกันเพียบ พอรุ่งขึ้น...เข้าไปวัดใหม่ก็ปรากฏว่าผิดพลาดจริงๆ เมื่อพระองค์ท่านประทับลงจากรถ ก็ทรงรับสั่งว่า "เห็นมั้ย...บอกผิด" นี่เป็นตัวอย่างว่าท่านทรงงานละเอียดมาก งานทุกแห่งท่านต้องทรงไปทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง "ทรงพะวงกับงานโดยไม่คำนึงถึงพระวรกาย" การทรงงานทุกอย่าง ท่านคิดแต่เรื่องคนอื่นตลอดเวลา ทรงเกรงใจคน ไม่ต้องการให้คนอื่นลำบาก บางคราวเสด็จออกโดยไม่แจ้งหมายกำหนดการล่วงหน้า ทรงทราบว่าจะมีคนมาคอยเฝ้าฯ จะลำบาก พวกเราก็ต้องคอยเก็งเอาว่าท่านจะเสด็จฯ ไหน เมื่อเสด็จออกถึงได้รู้กันตอนนั้น บางครั้งก็เก็งถูก บางครั้งก็ผิด แต่เราก็ต้องเตรียมพร้อมเสมอ มีรถนำขบวนเตรียมไว้ทั้งซ้าย-ขวา ท่านเสด็จออกทางไหนก็พร้อม มีโอเปอเรชั่นวางไว้เลย ครั้งที่แล้วที่เสด็จฯ ประทับโรงพยาบาลเพราะต้องผ่าตัด อีก 5 ชั่วโมงจะเสด็จฯ ถึงโรงพยาบาลศิริราช ทรงมีรับสั่งให้ทีมงานติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อติดตามสถานการณ์พายุที่จะเข้าฝั่ง พระองค์ท่านทรงพะวงกับงาน โดยไม่คิดถึงพระวรกาย ไม่ใช่ว่าเมื่อทรงพระประชวรแล้วจะหยุดทรงงาน ขณะนี้ก็มีหนังสือราชการ มีการลงพระปรมาภิไธย มีพระบรมราชโองการตลอดเวลา "ผมคิดว่าเป็นเพราะความเกรงใจคนอื่น การประทับที่โรงพยาบาลศิริราช ขณะนี้ทราบว่าพระอาการทั่วไปหายดีหมดแล้ว เหลือเฉพาะต้องประทับต่อเพื่อทำกายภาพบำบัด หากท่านเสด็จฯ ออกจากโรงพยาบาล ก็เกรงใจทีมแพทย์ การประทับโรงพยาบาลต่อเพื่อจะทำให้ทีมแพทย์มีความสะดวก...นี่ผมเดาเอาเองนะ เพราะท่านทรงคิดถึงคนอื่นตลอดเวลา แม้จะเสด็จฯ ไปหัวหิน ก็ทรงรอให้ถึงวันเปิดเทอม เพราะจะได้มีคนน้อยๆ รถราไม่ติด ทุกเรื่องทรงคิดหมด" ฝนตก แดดออก ทรงเสด็จออก ไม่เคยยกเลิกหมายกำหนดการ มีอยู่ปีหนึ่งน้ำท่วม ท่านเสด็จออกโดนแมลงกัดจนมีแผลที่พระบาท ท่านก็ยังมีรับสั่งงานต่างๆ ต่อ งานทุกอย่างท่านต้องทอดพระเนตร ทุกงานพระองค์จะทรงห่วงตลอด พรุ่งนี้ต่อนะครับ มาอ่านต่อ "คำต่อคำ" ของอำมาตย์ ๑๐๐% ที่ชื่อ "ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล" ผมจะไม่ฉายหนังตัวอย่างของวันพรุ่งนี้ให้ท่านกระหายใคร่รู้หรอก แต่บอกได้ว่า อ่านจบ ๒ วันนี้แล้ว "ตัดเก็บ" ไว้เลย. ลอกมาให้อ่านจากไทยโพสต์ จากคุณ : รักในหลวง คนไทยในแคลิฟอร์เนีย เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:00:35 A:24.10.48.66 X: TicketID:020141

ความคิดเห็นที่ 76   พ่อหลวงของหัวใจคนไทยทั้งชาติ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : ciao_weezer เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:01:53

ความคิดเห็นที่ 77 พ่อรักเราทุกคนยิ่งกว่าตัวท่านเอง ท่านถึงทำงานหนักมากที่สุดเพื่อพวกเรา แต่มีลูกจำนวนไม่น้อยที่คิดทำร้ายพ่อ ไม่รู้มันเลวมาจากไหน พ่อทำเพื่อพวกเราทุกอย่าง แต่มันไม่รักพ่อ เพียงเพราะพ่อไม่ได้ให้เงินมันเป็นก้อนๆ แต่พ่อให้เป็นความรู้และอาชีพซึ่งจะติดตัวเราไปจนวันตาย แต่มันมองไม่เห็นค่า และลูกอีกหลายคน ปากบอกรักพ่อ ไม่คิดทำร้ายพ่อ แต่ไม่เคยทำตามคำสอนของพ่อ ไม่เคยทำตัวเป็นคนดีพอให้พ่อได้เบาใจและเบาแรง เมื่อพ่อถูกพวกคนเลวทำร้ายก็ไม่คิดปกป้อง ได้แต่มองดูอยู่เฉยๆ สำหรับลูก ลูกได้ทำตามคำที่พ่อสอนแล้ว อย่างน้อยลูกก็พูดได้เต็มปากว่าลูกเป็นคนดีคนหนึ่งของสังคม และอยากบอกว่าพ่อเป็นที่สุดของลูก ลูกยอมถวายชีวิตเพื่อพ่อได้ทุกเมื่อ และลูกขอเป็นข้ารองพระบาทของพ่อทุกชาติไป จากคุณ : นักแปลเท้าปุย เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:16:38

ความคิดเห็นที่ 78 บ้านเมืองเราแตกแยกวุ่นวายเหลือเกินคับ เพราะมีคนที่ต้องการประชาธิปไตยมาเอื้อตัวเอง   ผมอยากให้ประเทศไทยกลับไปปกครองแบบสมัยสุโขทัย มีพระเจ้าอยู่หัวทรงเป้นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เหมือนตอนนี้ และปกครองแบบ"พ่อปกครองลูก" ผมจะเป็นข้ารับใช้ คอยเฆี่ยนตีพวกขุนนาง(นักการเมืองในปัจจุบัน)ที่ฉ่อโกงให้รู้จักหลาบจำ  ถึงแม้ผมยังเด็กผมก็จะทำ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : -เครื่องรางยมทูต- เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:25:14

ความคิดเห็นที่ 79 เพราะบ้านเราเมืองทุกสมัย มีแต่"นักการเมืองเอี้ยๆ" มาบริหารครับ ท่านถึงต้องเหนื่อยขนาดนี้ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 12:29:34 จากคุณ : บุรุษผู้หยุดเวลา เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:36:12

ความคิดเห็นที่ 80 กลับมาอ่านกระทู้อีกทีน้ำตาไหลเลยค่ะ กระทู้นี้ตั้งขึ้นมาด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณธิคุณของพระเจ้าอยู่หัวของเรา และสะเทือนใจในความสงสัยของเด็กผู้หญิงในภาพยนต์ที่ถ่ายทอดสดงาน The Greatest of The King เมื่อคืน คำตอบของคำถามว่า ทำไมการเป็นพระราชาต้องทรงงานหนักขนาดนั้นด้วย หาคำตอบได้ง่ายมากเลยค่ะ ส่วนคำตอบของอีกคำถามที่ผุดขึ้นมากลางใจเราเมื่อคืน ว่าทำไมประชาชนของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ถึงไม่สามารถนำความความสุข ความสวัสดี ให้เกิดแด่พระองค์ท่านได้ ยากที่จะหาคำตอบได้ เพราะความรักของประชาชนที่มีต่อพระเจ้าอยู่หัวมีอยู่ท่วมท้นในหัวใจของเราทุกคน ธรรมดาของความรักใครๆ ก็ย่อมอยากเห็นคนที่เรารักมีความสุข แต่เราลืมนึกไปรึเปล่าว่าความรักของเราที่มีต่อพระเจ้าอยู่หัว นั้นเป็นแบบไหนกัน รักแบบมีสติ ที่จะนำพามาซึ่งปัญญา และสรรหาสารพัดวิธีที่จะทำให้คนที่เรารักมีความสุขที่สุด หรือ รักแบบขาดสติ ที่นำพาซึ่งสารพัดปัญหา มาให้คนที่เรารักต้องคอยแก้ไขแบบไม่มีที่สิ้นสุด อย่าลืมถามตัวเองนะคะว่าเรารักพระเจ้าอยู่หัวของเราแบบไหน ปล.เวลาเห็นเรื่องราวข้อความที่มันอ่อนไหวต่อจิตใจเกี่ยวกับบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งของเรา อย่าลืมใช้สติในการอ่านนะคะ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 11:55:07 จากคุณ : จขกท (Miss perjer_123) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:37:54

ความคิดเห็นที่ 81 จขกท.อยากรู้หรอคะ เล่ายาวน้า ^^ ที่ท่านต้องทรงงานหนักตั้งแต่ 60 กว่าปีที่แล้วและ 60 กว่าปีที่ผ่านมาก็เพราะ ตอนนั้นประเทศไทยยังไม่มีอะไรเลยไงคะ โดยเฉพาะถิ่นทุรกันดาร ในหลวงทรงดูแลประเทศไทยตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของระบอบประชาธิปไตย (เรามีประชาธิปไตยปี 2475 ในหลวงทรงครองราชย์ปี 2489) เมื่อประเทศกำลังจะเปิดออก ขณะเดียวกันพระองค์เองก็ทรงมีหน้าที่ปกครองแผ่นดิน ถ้าคนไทยยังลำบากยังไม่แกร่งพอ ฐานก็ไม่แน่น แล้วเราจะเอาอะไรไปต่อสู้ในระดับสากลได้ ประกอบกับประเทศไทยคนไทยโชคดีมากๆ ที่ในหลวงทรงได้รับการปลูกฝังจากสมเด็จย่าเสมอมาว่า ให้ทรงเป็นกำลังของแผ่นดิน ให้อยู่กับประชาชนและทำประโยชน์ให้กับประเทศ และคนไทยก็โชคดีมากๆ ที่ในหลวงของเราทรงมีพระอัจฉริยภาพและพระวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลมากๆ ท่านก็เลยมีพระราชภาระที่ใหญ่หลวงมากคือการทำให้ราษฎรอยู่ดีกินดี และสามารถพึ่งพาตัวเองได้แบบยั่งยืนทั้งในระดับครัวเรือนและประเทศชาติ และถึงประเทศไทยจะมีสถาบันทางการเมืองที่จริงๆ แล้ว สถาบันการเมืองนี่แหละที่ต้องทำหน้าที่"โดยตรง" ในการดูแลให้คนไทยอยู่ดีกินดีและนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญ แต่ในหลวงก็ยังคงทรงมีพระราชภาระ ยังทรงงานหนักเพื่อประชาชนเหมือนเดิม เพราะท่านทรงไม่สามารถทรงนิ่งดูดายปล่อยให้ประชาชนประเทศชาติมีความทุกข์เรื้อรังได้ โดยที่ไม่มีใครมาช่วยบรรเทาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนนั้น มันน่าแปลกเหลือเกินที่ทำไมหลายสิ่งหลายอย่างในเมืองไทย นักการเมืองที่ทั้งรับปากกับประชาชน ให้คำสัตย์ปฏิญาณ มีการศึกษาพร้อม แต่เมื่อเข้าทำงานจริงกลับไม่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนประเทศชาติได้ แต่ในหลวงกลับทรงมองเห็นปัญหาของประชาชนประเทศชาติด้วยพระเนตรเพียงข้างเดียวมา 63 ปี และทรงแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ ภาพบุกป่าฝ่าดง ลุยน้ำ ตากแดดตากฝน การแก้ไขปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะความแห้งแล้ง น้ำท่วม รถติด หรืออะไรก็ตามแต่ จริงๆ แล้วคนที่อยู่ในภาพนั้นต้องเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ ที่อาสาเข้ามาทำงานให้ชาติไม่ใช่หรือคะ ... ในความเป็นจริงแล้วไม่แปลกหรอกค่ะที่ทำไมในหลวงถึงทรงแก้ไขปัญหานานัปการได้ มีหลักอยู่นิดเดียวเอง ก็เพราะท่าน "ทรงเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา" "อย่างแท้จริง" ... ทรงยึดหลักการและ step นี้เลยจริงๆ ค่ะ และเพราะท่านไม่ได้ทรงมุ่งหวังผลประโยชน์ใดๆ กลับเข้าสู่พระองค์เอง มีแต่ความรัก ความหวังดีเท่านั้นที่เป็นพระกำลังที่ทำให้ท่านทรงทำสิ่งต่างๆ เพื่อคนไทย ดังนั้นเมื่อไม่มีผลประโยชน์ส่วนพระองค์มาเป็นเงื่อนไข สิ่งที่ท่านทรงทำเลยเป็นสิ่งที่ "ดีจริงและยั่งยืนจริง" เพราะเป้าหมายของพระองค์คือทำเพื่อแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานั้นขึ้นอีกอย่างถาวรไงคะ และบ้านเมืองตอนนี้ถึงได้มีคำถามให้คนได้ตรองดูไงคะว่า ในยุคสมัยของประชาธิปไตย 77 ปีที่มีระบอบประชาธิปไตย  กับ 63 ปีที่ทรงครองราชย์ในยุคสมัยของประชาธิปไตย ระหว่างนักการเมืองมากหน้าหลายตากี่ร้อยคน ที่ปากบอกว่าอาสา ขอรับใช้ ขอทุ่มเทชีวิตการงานหน้าที่ของตัวเองเหล่านั้นทำอะไรให้ประเทศชาติบ้าง และในหลวงทรงทุ่มเทหน้าที่และชีวิตของพระองค์เองทรงทำอะไรให้ประเทศชาติบ้าง .................................. ได้คำตอบกันแล้วใช่มั้ยคะ และเมื่อตอบคำถามได้แล้ว ก็ต้องกลับมาถามตัวเองว่าขณะนี้เราได้ทำอะไรให้ประเทศชาติให้คนไทยด้วยกันบ้าง ถ้าทำแล้ว สิ่งที่ทำอยู่นั้นเป็นสิ่ง "ดีและถูกต้อง" รึเปล่า : ) แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 11:55:40 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 11:45:39 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 11:45:07 จากคุณ : By the sea เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:43:44

ความคิดเห็นที่ 82 คุณ By the sea ตอบได้ตรงใจผมทุกอย่างเลยครับ จากคุณ : จ้องจนปวด เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:56:14

ความคิดเห็นที่ 83 คุณ : By the sea ตอบคำถามได้โดนใจจริงๆ ค่ะ เพราะพระเจ้าอยู่หัวรักประชาชนของพระองค์แบบมีสติ และไม่ได้มุ่งหวังผลประโยชน์ใดๆ ท่านจึง "ทรงเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา" "อย่างแท้จริง" แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 12:05:56 จากคุณ : Miss perjer_123 เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:04:17

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณสำหรับหลายๆ เรื่องที่ไม่เคยรู้ค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:17:15

ความคิดเห็นที่ 85 . แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 12:23:58 จากคุณ : freepark เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:18:19

ความคิดเห็นที่ 86 คห.81  คุณทำเอาเราน้ำตาไหลเลยค่ะ  ใช่ทุกอย่างที่เขียนมา ไม่ใช่แค่คิดว่าเป็นหน้าที่  แต่ทรงทำเพราะท่านรักประชาชนของท่าน จากคุณ : เพลงพันทาง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:21:43

ความคิดเห็นที่ 87 เพราะท่านไม่เคยทิ้งประชาชน แล้วประชาชนก็ไม่มีวันเลิกรักท่าน แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 12:26:22 จากคุณ : xbeai เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:25:25

ความคิดเห็นที่ 88   อ่านไปน้ำตาจะไหลไป ซึ้งในสิ้งที่พระองค์ทรงทำให้เราค่ะ คุณ By The Sea โดนใจจริงๆค่ะ จากคุณ : Gw~IFT. เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:32:27

ความคิดเห็นที่ 89 ทรงพระเจริญ.. จากคุณ : ไอเลิฟคาราบาว เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:39:30

ความคิดเห็นที่ 90 ขออนุญาตคิดต่อจาก #26 #58 #59 และ #68 ครับ ตามที่ #26 ว่ามานั้น ผมก็ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ "เพราะว่าทุก ๆ คนเกิดมามีหน้าที่ของแต่ละคนที่ต้องรับผิดชอบแตกต่างกันไปมั๊งครับ" ประโยคนี้ผมว่าไม่ถูกครับ ในเมื่อเราเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งหมายความว่าพระองค์ทรงต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเช่นกัน เราจึงต้องไปพิจารณาหน้าที่ของพระองค์จากรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 ระบุว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นผ่าน รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล แสดงว่าพระองค์เป็นเพียงศูนย์รวมอำนาจอธิปไตยเพื่อผ่านไปยัง 3 สถาบัน การที่คุณบอกว่าสิ่งพระองค์ทำเป็นหน้าที่ จึงไม่ถูกต้อง ในขณะที่พิจารณาไปที่มาตรา 8 พระมหากษัตริย์อยู่ในฐานะควรเคารพสักการะ ผู้ใดจะล่วงละเมิดหรือกล่าวหาฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆมิได้ อยู่บนพื้นฐานของ The king can do no wrong because the king cannot do everything นั่นคือที่บางคนแวะมากระแนะกระแหนว่ากษัตริย์ทำอะไรไม่เคยผิด จริงๆแล้วบทบัญญัติต้องการให้เป็นเช่นนั้น คือไม่กำหนดหน้าที่ให้ ดังนั้นสิ่งที่ทำจึงไม่ผิด เพราะไม่ผิดต่อหน้าที่ที่บัญญัติไว้ ดังนั้นตามความเห็น #26 จึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผมอยากให้ #26 ลองปรับทัศนคติตรงนี้ดูใหม่ครับ ส่วนใน #68 ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งในหลายๆประเด็น ว่าทำไมต้องทรงงานหนักขนาดนั้น นอกจากนี้ ทำไมทรงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมาได้เป็นอันดับแรกของโลกอยู่เสมอ ทำไมทรงชี้แนะแนวทางแก้ปัญหาได้อยู่ตลอดเวลา ไม่มีนายกพระราชทาน การแนะนำให้ใช้ศาลเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาการเมือง ทั้งหมดนี้ไม่ใช่หน้าที่ของพระองค์ ดังนั้นใน #68 จึงไม่ถูกต้องนัก ที่บอกว่าพระองค์ทรงทำเกินหน้าที่ คำนี้ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ สิ่งที่พระองค์ทำลงไป เราคนไทยที่มีใจยึดมั่น ศรัทธาในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รู้ดี รู้ว่าพระองค์ไม่ได้ทำเพราะเป็นหน้าที่ แต่เราก็รู้ได้ว่าพระองค์ทำเพื่ออะไร จากคุณ : Sansarith เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:40:07

ความคิดเห็นที่ 91 ทำไมต้องทรงงานหนักขนาดนี้...เพราะพระองค์ท่านทรงเปี่ยมไปด้วยทศพิธราชธรรม และทรงมีขัตติยมานะอย่างประเสริฐสุด เคยคุยกับหลวงพ่อท่านหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว หลวงพ่อบอกว่า ในโลกนี้ จะหาผู้ใดประเสริฐกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพวกเราชวไทย ไม่มีอีกแล้ว ในเวลาที่พระชนมายุล่วงเลยมาถึงปีที่ 82 ก็ยังทรงงาน แม้บนพระแท่นที่โรงพยาบาล คนไทยสำนึกกันได้หรือยัง....จะทะเลาะกัน จะคิดถึงแต่ตัวเองไปจนถึงเมื่อไหร่?? สำหรับเราถึงเป็นแค่ประชาชนตัวเล็กๆ แต่ก็จะพยายามเต็มที่ ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด อยากให้ประชาชนคนไทย คิดได้แล้ว สิ่งใดดี สิ่งใดประเสริฐ สิ่งใดคือสิ่งเลวร้าย อย่ามัวแต่ิคิดถึงแต่เรื่องของตัว ว่าฉันมีสิทธินู่นนี่ แต่ไม่เคยมองหน้าี่ที่ของตัวเอง ที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยเลย ว่าคุณมีหน้าที่อะไร คุณเกิดมาในแผ่นดินนี้ ต้องแทนคุณแผ่นดินด้วยการทำความดี คิดถึงผู้อื่น ส่วนรวม มิใช่เพียงตัวเอง! ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : Norikoจัง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:57:48

ความคิดเห็นที่ 92 คห. 90และ 68 ขอถามหน่อยนะครับ ถ้าคำว่าหน้าที่ในที่นี้ คือ สิ่งที่ต้องปฏิบัติ และยึดถึอเป็นหลัก สิ่งที่พระมหากษัตริย์ ต้องยึดถือและปฏิบัติในการปกครองบ้านเมืองคือ "ทศพิธราชธรรม " ซึ่งทศพิธราชธรรม มีดังนี้   1. ทาน (ทานํ) การให้ หมายถึงการให้ การเสียสละ นอกจากเสียสละทรัพย์สิ่งของแล้ว ยังหมายถึงการให้น้ำใจแก่ผู้อื่นด้วย   2. ศีล (ศีลํ) คือความประพฤติที่ดีงาม ทั้ง กาย วาจา และใจ ให้ปราศจากโทษ ทั้งในการปกครอง อันได้แก่ กฎหมายและนิติราชประเพณี และในทางศาสนา   3. บริจาค (ปริจาคํ) คือ การเสียสละความสุขส่วนตน เพื่อความสุขส่วนรวม   4. ความซื่อตรง (อาชชวํ) คือ ความซื่อตรงในฐานะที่เป็นผู้ปกครอง ดำรงอยู่ในสัตย์สุจริต   5. ความอ่อนโยน (มัททวํ) คือ การมีอัธยาศัยอ่อนโยน เคารพในเหตุผลที่ควร มีสัมมาคารวะต่อผู้อาวุโสและอ่อนโยนต่อบุคคลที่ เสมอกันและต่ำกว่า   6. การข่มกิเลส (ตปํ) หรือความเพียร มีความอุตสาหะในการปฏิบัติงาน โดยปราศจากความเกียจคร้าน   7. ความไม่โกรธ (อกฺโกธ) หรือความไม่แสดงความโกรธให้ปรากฏ ไม่มุ่งร้ายผู้อื่นแม้จะลงโทษผู้ทำผิดก็ทำตามเหตุผล   8. ความไม่เบียดเบียน (อวีหึสา) การไม่เบียดเบียน หรือบีบคั้น ไม่ก่อทุกข์หรือเบียดเบียนผู้อื่น   9. ความอดทน (ขันติ) การมีความอดทนต่อสิ่งทั้งปวง รักษาอาการ กาย วาจา ใจให้เรียบร้อย  10. ความยุติธรรม (อวิโรธนํ) ความหนักแน่น ถือความถูกต้อง เที่ยงธรรมเป็นหลัก ไม่เอนเอียงหวั่นไหวด้วยคำพูด อารมณ์ หรือลาภสักการะใดๆ ดูที่ข้อหนึ่งและสามนะครับว่า คืออะไร ดังนั้นผมก็ยังคิดว่า "หน้าที่" คือคำที่ถูกต้องแล้ว ต่างกันแค่ทุกคนมีหน้าที่ไม่เหมือนกัน ปล.ทศพิธราชธรรมไม่จำเป็นว่ากษัตริย์เท่านั้นที่สามารถปฏิบัติ คนทั่วไปสามารถปฏิบัติได้จะเป็นมงคงชีวิตประการหนึ่ง น้อยคนจะปฏิบัติได้ทุกข้อ แต่พระองค์ทรงยึดปฏิบัติได้ทุกข้อ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 13:10:46 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 13:03:02 จากคุณ : visioboy เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:58:24

ความคิดเห็นที่ 93   ยังมีคนไทยบางกลุ่มที่ยังคิดว่าสิ่งที่ตนเองทำ  ทำเพื่อประเทศชาติ...โดยที่หารู้ไม่ว่าท่านกำลังทำร้ายประเทศชาติ  และพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของเราอยู่ ขอให้คิดและตรึกตรองให้ถี่ถ้วน... เพราะความสุขของในหลวง...คือเห็นคนไทยรักกัน...ไม่ใช่ทะเลาะเบาะแว้งกัน เพียงเพราะคนบางคนอยู่ี จากคุณ : Plus Size+ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:08:42

ความคิดเห็นที่ 94 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : toom-ss เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:09:03

ความคิดเห็นที่ 95 จากคุณ : jin leng เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:15:37

ความคิดเห็นที่ 96 ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ รักในหลวงมากมายค่ะ จากคุณ : MySmilely เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:32:44

ความคิดเห็นที่ 97 ทรงพระเจริญ จากคุณ : วิหคไร้รัง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:32:56

ความคิดเห็นที่ 98 ...  ตอบ #90 ก่อนนะคะ เราไม่ได้ตั้งใจจะหมายความว่า ... พระองค์ทำเกินหน้าที่ ... นะคะ เข้าใจค่ะ ว่าคำนั้นทำให้รู้สึกหรือฟังดูไม่ดีได้ยังไงบ้าง เราแค่จะบอกว่า หากใครสักคนจะพูดว่า "ที่ทรงทำเป็นหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้ว ทำเพราะเป็นหน้าที่" นันมันไม่ใช่... มันมากกว่านั้น สิ่งที่ทรงทำ เกินกว่าคำว่า ทำเพราะหน้าที่  ... แต่ไม่ใช่ ทรงทำเกินหน้าที่ ... ^ ^ ในความรู้สึกของเรา สองประโยคนั้นมันต่างกันนะคะ แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นๆ ที่อ่านจะรู้สึกว่ามันต่างเหมือนเรามั้ย ต้องขอบคุณคุณ Sansarith ที่ทักขึ้นมา ทำให้รู้ว่า อาจมีคนที่อ่านแล้วแปลความหมายเป็นอีกอย่างได้ เราถึงได้โอกาสมาชี้แจง :) ....สำหรับ #92 คุณ visioboy .. จะมองอย่างนั้นก็ได้ค่ะ แต่สมมติว่าเปรียบเทียบคนสองคน ที่มีสถานภาพเดียวกัน มีหน้าที่ที่เท่ากัน คนหนึ่ง.. ทำแต่ละอย่าง(หน้าที่แต่ละข้อ) แค่ 1 อย่าง ก็ถือว่า ได้ทำหน้าที่นั้นแล้ว เวลาที่เหลือเอาไปหาความสุขใส่ตัวบ้าง อะไรบ้าง พูดกันจริงๆ ก็ไม่ถือว่าผิดใช่มั้ย กับอีกคน... ทำแต่ละข้อ ไม่เพียงแค่หนึ่ง แต่ทำเป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพัน และก็ยังทำต่อไป ไม่มีวันหยุด ไม่มีคำว่าพักหรือพอแล้ว ทำอยู่ทุกลมหายใจ อย่างนั้นสำหรับเรามันคือ ทำด้วยใจรัก ไม่ใช่แค่เป็นหน้าที่แล้วล่ะ ......  นี่พูดถึงคนธรรมดานะคะ  อยากถามว่า สองคนนี้ไม่มีข้อแตกต่างกันเลยหรือ ถ้าเราจะขอบอกว่าเรานิยม ศรัทธาคนที่สองมากกว่าจะได้ไหม (แค่มากกว่า ไม่ได้หมายความว่าไม่นิยมคนแรก หรือคนแรกไม่ดีนะ) *************************************************** ....ขออนุญาตเพิ่มเติมอีกนิด.... บางสิ่งบางอย่างเราก็ไม่แน่ใจว่า ควรพูดมากน้อยแค่ไหน ยิ่งแค่คำพูดที่มาเป็นตัวอักษร พูดมากไปก็ตีความไปได้หลากหลาย.. หากผิดพลาด หรือทำให้เข้าใจไม่ตรงกัน ก็อาจเป็นเรื่องได้ ยิ่งในเรื่องที่ละเอียดอ่อน ยิ่งต้องระมัดระวัง หลายครั้งหลายคน เลยอาจคิดว่า ไม่พูดเลยดีกว่า... แต่หากพิจารณากันดีๆ ด้วยสติ การพูดจากัน อาจเป็นการขยายแนวคิดและแลกเปลี่ยน ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้  ผู้มีปัญญาย่อมจะรู้ว่า ควรเก็บสิ่งใดเป็นประโยชน์ เป็นแนวทางต่อชีวิต อีกบางอย่าง ต่อให้สรรหาคำพูดเป็นแสน เป็นล้าน ก็ไม่มีทางบรรยาย หรือสื่อได้ตรงใจ ...แต่ถ้าความรู้สึกในหัวใจตรงกัน  ไม่ได้เอ่ยเป็นคำพูดก็เข้าใจกันได้ไม่ยาก  ..จริงไหมคะ :) ขอบคุณทุกๆ ท่านค่ะ จากคุณ : จิตรางคทา เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:35:15

ความคิดเห็นที่ 99 เพราะ นักการเมืองไทยทุกยุคทุกสมัยและแทบทุกคนมันพึ่งพาไม่ได้เลย ทำอะไรก็ทำแบบขอไปที เพื่อหวังเอาหน้า เอาคะแนน ไม่ได้คิดจะทำอะไรที่มันยั่งยืนและมั่นคง ส่งเสริมความฟุ้งเฟ้อ ให้คนเห็นเงินเป็นใหญ่ ทั้งๆที่ความสามารถของประเทศและคนไทยมันไม่เอื้ออำนวย ในหลวงเลยต้องทรงมาทำเองทั้งในเรื่องของงาน โครงการต่างๆ รวมไปถึงตัวอย่างของแนวทางในการดำเนินชีวิต จากคุณ : สมพรปาก เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:45:15

ความคิดเห็นที่ 100 ทรงพระเจริญ ข้าพระพุทธเจ้าจะเป็นส่วนหนึ่งที่เจริญรอยตามพระบาท  เพื่อให้เมืองไทยเจริญ จากคุณ : ต้อมMRP เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:47:42

ความคิดเห็นที่ 101 ขอให้คนที่คิดร้ายต่อบ้านเมืองและพระเจ้าอยู่หัวของเรา มีอันเป็นไปแบบไม่มีชิ้นดี และได้รับความทุกข์ทรมานทุกอย่างด้วยประการทั้งปวง จากคุณ : AMIYAMA เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:56:23

ความคิดเห็นที่ 102 ประทับใจ ข้อความในคห. 81 มากค่ะ ในความเป็นจริงแล้วไม่แปลกหรอกค่ะที่ทำไมในหลวงถึงทรงแก้ไขปัญหานานัปการได้ มีหลักอยู่นิดเดียวเอง ก็เพราะท่าน "ทรงเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา" "อย่างแท้จริง" ... ทรงยึดหลักการและ step นี้เลยจริงๆ ค่ะ และเพราะท่านไม่ได้ทรงมุ่งหวังผลประโยชน์ใดๆ กลับเข้าสู่พระองค์เอง มีแต่ความรัก ความหวังดีเท่านั้นที่เป็นพระกำลังที่ทำให้ท่านทรงทำสิ่งต่างๆ เพื่อคนไทย ดังนั้นเมื่อไม่มีผลประโยชน์ส่วนพระองค์มาเป็นเงื่อนไข สิ่งที่ท่านทรงทำเลยเป็นสิ่งที่ "ดีจริงและยั่งยืนจริง" เพราะเป้าหมายของพระองค์คือทำเพื่อแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานั้นขึ้นอีกอย่างถาวรไงคะ เห็นภาพและเข้าใจชัดเจนมาก ขอบคุณนะคะ จากคุณ : amnok เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:03:55

ความคิดเห็นที่ 103   อ่านพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านทีไร น้ำตามันตื้น ซึมออกมา ทุกที เวลาเจอปัญหาอุปสรรคอะไรเข้ามาในชีวิต เราจะคิดถึงคำสอนของพ่อหลวงก่อนเลย รวมถึงภาระหน้าที่ที่พระองค์ท่านทรงทำเพื่อประชาชนด้วย แล้วก็จะมีพลังใจขับเคลื่อนแก้ไขปัญหานั้นต่อไป ทรงพระเจริญค่ะ จากคุณ : สวย ให้ชายห่วยเสียดายเล่น เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:23:02

ความคิดเห็นที่ 104 ขอจงทรงพระเจริญ จากคุณ : ITs. เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:31:54

ความคิดเห็นที่ 105 ขอพระองค์ทรงพระเจริญ จากคุณ : แม่น้องมน (interlaw) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:51:21

ความคิดเห็นที่ 106 พระองค์ทรงงานหนักตลอดเวลากว่า 60 ปี เพื่อความอยู่ดีของพสกนิกรในแผ่นดินไทย จากคุณ : Come2Z เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:55:51

ความคิดเห็นที่ 107 ทรงยืนอยู่ในที่ๆทอดพระเนตรเห็นพวกเราชาวไทยทุกคน แต่ชาวไทยหลายคนยืนอยู่ในที่ๆมองเห็นแต่ตัวเอง จากคุณ : จะอยู่ยังไงถ้าไม่มีหัวใจ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 15:31:55

ความคิดเห็นที่ 108 คุณ By the sea ตอบ  ไม่ตรงใจผมเลยดีกว่าครับ ตลอดช่วงชีวิตที่เกิดมา   สิ่งที่ผมเห็น และถึงประเทศไทยจะมีสถาบันทางการเมืองที่จริงๆ แล้ว สถาบันการเมืองนี่แหละที่ต้องทำหน้าที่"โดยตรง" ในการดูแลให้คนไทยอยู่ดีกินดีและนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญ ถูกต้อง  คุณ เห็นไปแล้วไม่ใช่เหรอ แต่ในหลวงก็ยังคงทรงมีพระราชภาระ ยังทรงงานหนักเพื่อประชาชนเหมือนเดิม เพราะท่านทรงไม่สามารถทรงนิ่งดูดายปล่อยให้ประชาชนประเทศชาติมีความทุกข์เรื้อรังได้ โดยที่ไม่มีใครมาช่วยบรรเทาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนนั้น กี่ยุคกี่สมัย  นายกบ้าอะไร ครองอำนาจยาวนานตั้ง 8 ปี  แต่ผมงานไม่มีอะไรเทียบพระองค์ได้เลย มันน่าแปลกเหลือเกินที่ทำไมหลายสิ่งหลายอย่างในเมืองไทย นักการเมืองที่ทั้งรับปากกับประชาชน ให้คำสัตย์ปฏิญาณ มีการศึกษาพร้อม แต่เมื่อเข้าทำงานจริงกลับไม่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนประเทศชาติได้ คนที่ทำโดน คนไม่กี่คนอ้างเข้าใจผิด ปฏิวัติ ไปแล้ว แต่ในหลวงกลับทรงมองเห็นปัญหาของประชาชนประเทศชาติด้วยพระเนตรเพียงข้างเดียวมา 63 ปี และทรงแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ ภาพบุกป่าฝ่าดง ลุยน้ำ ตากแดดตากฝน การแก้ไขปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะความแห้งแล้ง น้ำท่วม รถติด หรืออะไรก็ตามแต่ จริงๆ แล้วคนที่อยู่ในภาพนั้นต้องเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ ที่อาสาเข้ามาทำงานให้ชาติไม่ใช่หรือคะ ... ในรอบ ไม่ถึง 5 ปี ที่ผ่านมา สมอง และตาคุณ มองออกไปบ้างไหม อะไรมันเสื่อมลงเพราะอะไร ข้อหายอดฮิต  ไม่จงรักภักดี ไหนจะ ทำตนเสมอเจ้า ไหนจะ สื่อบอก ตูไม่ชอบ ไหนจะ ชุมนุม ไล่   ไหนจะ ไม่ลงเลือกตั้ง ตามระบบ ไม่ผิดเพี้ยนพอใช่ไหม หูตา ไม่มอง มองอะไรอยุ่ทครับ พ่อเหนื่อยขนาดไหน มองไม่เห็นหรือ พอมีคนทำหน้าที่ตามที่คุณบอกให้ ตามที่ควรจะเป้น แล้วเป้นอย่างไร ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ อย่าลืมมองไปข้างหน้า อีก 10 ปี 20 ปีข้างหน้าก็ดีนะครับ แผ่นดินไทยจะเป็นอย่างไร วันนี้ พ่อห้ามได้  แต่พ่อไม่ห้าม  เพราะอะไร เราไม่อาจคิดแทนพระองค์ท่านได้ แต่สิ่งที่ผมคิดคือ ท่านกำลังสอนเราว่า เราต้องยืนด้วยตัวของเราให้ได้  ไม่ใช่อะไรก็ต้องพ่อทำให้ พ่อ กำลังสอนให้เราเติบโต ต่างหาก  เติบโต จากสิ่งผิดพลาด นี่แหละ และนั่นผมเชื่อว่า พระองค์ จะมีความสุขที่สุด  ไม่ว่าภายหน้าจะเปนอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมเห้นคือสิ่งที่ผมเชื่อ  และผมเชื่อว่า รัฐบาลต่อๆไปจะทำได้  แม้อุปสรรค์จะมากขนาดไหนก็ตาม เพราะ สิ่งที่รัฐบาลก่อนหน้า ทำไว้เป้นมารตฐาน  มันทำให้ เราได้เรียนรุ้ด้วยตัวเองว่า ประเทศไทย  ไม่ใช่มีแค่  กรุงเทพมหานคร  และยังมีคนที่รอคอยโอกาสอีกมาก ที่คิดว่าตัวเองไม่มีโอกาส  แต่เขาก็ทำกันได้แล้ว   และเขาเหล่านั้นจะไม่ยอมกลับไปอดมื้อกินมื้ออีก จากคุณ : Night_Angel เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 15:55:57

ความคิดเห็นที่ 109 ถ้าคนไทยทุกคนร่วมมือกัน พระองค์ท่านคงไม่ต้องทรงงานด้วยความเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งชีวิตของพระองค์ท่าน...หากแต่เราพร่ำพูดกันแต่ปากว่ารักพระองค์แต่มิได้กระทำตนให้เป็นประโยช น์พระองค์ท่านก็มิอาจจะวางพระหัตถ์ที่จะดูแลลูกๆของพระองค์ท่านได้เลย.... จากคุณ : Captain's Auntie เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 16:04:33

ความคิดเห็นที่ 110 ขอทรงพระเจริญ กราบ จากคุณ : Bkim เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 16:05:53

ความคิดเห็นที่ 111 ท่านเป็นคนดีถึงที่สุด และท่านอยู่ในฐานะและโอกาสที่จะทำเพื่อผู้อื่นได้ นั่นคือการเป็น "พระราชา" นี่คือ 2 องค์ประกอบที่จะขาดไปไม่ได้ นั่นคือ "ความดี" และ "โอกาส" หากเป็นคนดี แต่ไม่มีโอกาส ก็ยากที่จะทำเพื่อผู้อื่นได้เช่นนี้ หากมีโอกาส แต่ไม่ใช่คนดี ยิ่งไม่มีทางทำได้ ดังนั้นการที่ฟ้าได้ประทานพระองค์ท่านที่มีทั้งความดี และมีทั้งโอกาส ฐานะ เรียกได้ว่า เหมือนพระผู้เป็นเจ้าได้ทำการ  put the right man on the right job นั่นเอง เราจึงได้พระราชาที่เป็นที่รักยิ่งมาปกครองแผ่นดิน จากคุณ : คนดี มีคุณธรรม ค้ำจุนโลก เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 16:10:35