ความคิดเห็นที่ 1   ก็คงใช่นะ ถ้าชอบหญิงด้วยชายด้วยน่าจะเป็น"ไบ" ตอบไม่ค่อยถูก อิอิ จากคุณ : iAm9a เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:28:34

ความคิดเห็นที่ 2   คนที่เป็นเกย์ก็น่าจะชอบผู้ชายด้วยไม่ใช่เหรอ จากคุณ : พนักงานออฟฟิศ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:31:26 A:125.24.199.71 X: TicketID:243941

ความคิดเห็นที่ 3 เดี๋ยวนี้มันไม่มีกฏเกณฑ์อะไรตายตัวแล้วจ้ะ แค่รู้สึกรักกัน คำว่าเพศอะไร มันก็ไม่สำคัญหรอก  ; ) จากคุณ : +KikKle+ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:31:41

ความคิดเห็นที่ 4 Bisexuality doesn't exist. It's just a layover to a gay way. ไบน่ะไม่มีร้อก มันเป็นแค่ทางผ่านไปสู่เส้นทางฟามเป็นเกย์ เจ้าแม่ SJP เอ๊ย แครี่ แบรดชอว์ เคยว่าไว้ใน sex and the city ค่ะ 555 ก็ เราเองก็ไม่ได้เชื่อประโยคนี้นะคะ แต่เชื่อว่าคนที่รักเพศเดียวกันได้น่าจะมีความโน้มเอียงที่จะชอบทางเพศเดียวกันมากกว่า - prefer เพราะไม่งั้น มันไม่น่าจะคิดหรือจะชอบขึ้นมาได้เลยแต่ต้น ถ้าจะชอบเพศตรงข้ามได้ด้วย เพศตรงข้ามน่าจะเป็นของแถมมากกว่า คิดว่าประมาณนั้น ยังไงต้องรอปากคำของเกย์ค่ะ 5555 เราตอบไปก็งงๆ จากคุณ : =p o o k p u i= เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:33:15

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไมเราชอบเกย์ -*- ทอมกับผู้ชาย นี้ แหวะมาก ส่วนผู้หญิง ก็เรียบร้อยไป เกย์นี่ สเป็ก ตกลงฉ้านเป็นอาร้ายยยยย จากคุณ : ธารวรี เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:34:58

ความคิดเห็นที่ 6   แต่ก่อนเกย์จะชอบผู้ชายที่ไม่ใช่เกย์ด้วย แต่เดี๋ยวนี้เกย์มักหันมาชอบเกย์ด้วยกันเอง แต่ถ้าได้ทั้ง ญ/ช ก็คือ ไบ ถ้าเป็นรุกแท้ ก็คงไม่ชอบผู้หญิง (อันนี้ไม่แน่ใจนะเพราะเดี๋ยวมีเป็นกันหลายแบบ) แต่คุณพีร์อาจจะเป็นรุกอย่างเดียว หรือไบก็ได้ แต่ดูจากตามบทที่เล่นน่าจะเข้าแนวอย่างแรกมากกว่า จากคุณ : B เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:40:04 A:125.27.144.111 X: TicketID:241780

ความคิดเห็นที่ 7 เอ๊า..แล้วจะเรียกเกย์ ทำไมละเนี๊ย มีเกย์อีกประเภทหนึ่ง ที่ชอบทั้งชายและหญิง เรียกว่า ไบ แต่มีอีกพวกหนึ่งเป็นเกย์ แต่แอ๊บ ว่าชอบและแอบคบหญิง เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ...แต่เค้าให้เหตุผลว่าเค้ารักคนที่นิสัย และพฤติกรรมของคนคนนั้น ไม่ได้ดูว่าคนคนนั้นเป็นเพศอะไร ...>> เป็นเหตุผลเพื่อความสวยงามมากกว่า ไม่งั้น เกย์เจอผู้หญิงที่นิสัยและพฤติกรรม ที่เกย์คนนั้นชอบ ก็คงเปลี่ยนไปรักผู้หญิงได้แล้วน่ะซิ จากคุณ : vitay@ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:43:31

ความคิดเห็นที่ 8 งงอ่ะคับ  เอาเป็นว่ายังไงๆ ณ เวลานี้ เค้าก็ชอบปู๋ชาย ก็เป็นเกย์หล่ะกัน ถึงแม้ว่าจะแบ่งเกย์ไว้หลากหลายก็เถอะนะ จากคุณ : ก้างติดคอ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:50:59

ความคิดเห็นที่ 9 คนที่ชอบได้ทั้งหญิงและชาย น่าจะ "ไบ" มากกว่าเป็น "เกย์" นะคะ เคยดูซีรียส์ฝรั่งเรื่อง  Bones จะมีตัวละครหญิงอยู่คนหนึ่ง เธอเคยมีคนรักเป็นผู้หญิง และเคยมีคนรักเป็นผู้ชาย ขึ้นอยู่กับว่านิสัยใจคอ ของคนคนนั้น ตรงกันหรือเปล่า ส่วนเกย์นี่ ไม่เคยเห็นใครจะชอบผู้หญิงได้เลย เว้นแต่ทำไปเพื่อปกปิด จากคุณ : magarita30 เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:51:22

ความคิดเห็นที่ 10 มันเป็นนิยามของเกย์ ไม่ต่างกับถามว่าชายแท้จะชอบผู้หญิงเท่านั้นหรอ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 11:53:37 จากคุณ : Terngeniuz เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:52:57

ความคิดเห็นที่ 11 เกย์ ชอบผู้ชาย อย่างเดียวครับ และก็ชอบทั้งชายแท้ และเกย์ด้วยกันเอง เกย์ก็จะแบ่งออกไปอีกเป็น    - เกย์รุก พวกนี้ ทำเค้าอย่างเดียว ไม่ชอบการถูกกระทำ    - เกย์รับ พวกนี้ ชอบการถูกกระทำ อาจด้วยว่า เข้เกียจทำเอง หรือไม่ก็ทำเองไม่เป็น    - เกย์ โบท พวกนี้ สนุกสนาน ทั้งการเป็นผู้กระทำ และถูกกระทำอะคับ ส่วนไบ พวกนี้ จะเน้นเรื่องเซ็กเป็นหลัก แต่ถ้าคบออกหน้าก็คบผู้หญิง จะคบผู้ชายเป็นตัวเป็นตนก็ต่อเมื่อ คนนั้นใช่มากๆ และกำลังเบื่อผู้หญิง เพราะรำำคาญนิสัย ส่วนพี ผมว่า เป็นเกย์ แต่แบบเกย์แมนอะ เพราะฉะนั้นคิดว่า เป็นเกย์ รุก เพราะ เจอหน้าก้องครั้งแรก ก็ตาค้าง ชอบขึ้นมาทันที และทุกครั้งที่ทะเลาะกัน พีก็จะเป็นคนง้อตลอด  อีกอย่าง พี ไม่มีทีท่าว่าจะมองผู้หญิงเลยแม้แต่หางตาอะ ดังนั้น ฟังธง พีเป็นเกย์ ชัวร์ป๊าบ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องตามกรรมที่ได้ทำมา พวกนี้ล้วนแต่เกิดจากกรรมที่ได้ทำไว้ในอดีต คือ ผิดศีลข้อ 3 กาเมสุมิจฉา แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 11:56:34 จากคุณ : เหลืองเลย เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:53:40

ความคิดเห็นที่ 12 คนเรารักเพศเดียวกันได้ครับ รักได้มากๆด้วย แต่เมื่อไหร่ที่ความรักนั้นมีความรู้สึกทางเพศมาเกี่ยวข้อง อยากมีความสัมพันธ์ทางเพศด้วย นั่นคือเริ่มก้าวสู่ความเป็นเกย์แล้ว จากคุณ : I'm wu เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:03:22

ความคิดเห็นที่ 13   ทำไมไม่ไปถามห้องสวนลุมฯ น่าจะได้คำตอบที่ดีกว่า จากคุณ : ผิดห้องป่าวเธอ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:11:11 A:124.157.234.8 X: TicketID:245468

ความคิดเห็นที่ 14 #11 ขอข้อมูลเรื่องการเป็นเกย์ มาจากชาติก่อนๆ ผิดศีลข้อ 3 ค่ะ ตัวเราเองไม่เชื่อเช่นนั้น รู้สึกว่าการเป็นเกย์ไม่ได้ผิดอะไร หากการเป็นเกย์ เกิดจากชาติผ่านๆ มาผิดศีลข้อ 3 จริง เราว่าเหตุผลที่น่าเชื่อได้คือ ตัวตนและความรักของชาตินี้ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม ทำให้ต้องหลบซ่อน ปิดบัง ทนทุกข์ทรมานใจ แต่ถ้าเค้าก็มีความสุข ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรล่ะ? ที่ถาม เพราะสงสัยจริงๆ ค่ะ  เพราะรุ่นพี่คนหนึ่งก็เคยบอกเช่นนี้ วันนั้น discuss กันเรื่องนี้นานมาก 555+  คือเราไม่เข้าใจค่ะว่า ศาสนาพุทธกล่าวไว้เช่นนั้นจริงๆ หรือ? ขอโทษ จขกท. ที่นอกเรื่องค่ะ จากคุณ : YaiSerSar เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:19:19

ความคิดเห็นที่ 15 #14 ศาสนาพุทธ ไม่ได้กล่าวไว้คร้าบ จากคุณ : หนูหงอย เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:32:17

ความคิดเห็นที่ 16 เกย์ก็คือผู้ชายชอบผู้ชายอย่างเดียวเท่านั้นแหละ ไอ้ที่ว่าชอบเพราะนิสัยโดยไม่คิดเรื่องเพศ คงมีแต่ในละคร (หญิงปลอมเป็นชาย ชายปลอมเป็นหญิง)  ชีวิตจริงไม่มีหรอกครับ อีกอย่างภาพ พี-ก้อง ที่สื่อออกมาในละครถือว่าสวยงามมาก แต่เป็นเพียงด้านที่สวยงามด้านเดียวเท่านั้น อีกด้านที่แฝงอยู่และไม่เปิดเผยคือเรื่องเซ็กส์ สำหรับเกย์แล้วเรื่องเซ็กส์ถือว่าค่อนข้างสำคัญนะ จากคุณ : Lucky Bull เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:33:13

ความคิดเห็นที่ 17   ลองอ่านดูอาจจะยาวแต่ได้ความกระจ่าง เกย์ คำที่กลุ่มคนที่มีรสนิยมทางเพศในเพศเดียวกันใช้เรียกในเมืองไทยนี้ แตกต่างจากคำว่ากะเทย ตุ๊ดและแต๋วนะครับ...เกย์ก็คือผู้ชายปกติเหมือนผู้ชายทั่วไปแหละฮะ ชอบและทำกิจกรรมต่างๆ เหมือนผู้ชายทั่วไป มีความต่างจากผู้ชายจริงๆ ก็แค่รสนิยมทางเพศเท่านั้น...เกย์ เวลามี Sex บางคนก็ชอบเป็นฝ่ายรับ บางคนก็ชอบเป็นฝ่ายรุก ถ้าเวลาปกติเราก็จะไม่รู้หรอกฮะ ว่าเขาชอบแบบไหนถ้าไม่บอกกันก่อน พอโดดขึ้นเตียงถึงจะรู้...ฉะนั้นผู้ชายที่เป็นเกย์ ผู้หญิงถึงดูไม่ออก แม้แต่เกย์ด้วยกันยังดูไม่ออกเลยฮะ ถ้าพวกเขาไม่เปิดเผยหรือไม่รู้ความลับของเขา ถ้าอยากรู้ว่าคนนี้เป็นเกย์หรือเปล่า พวกเราใช้วิธีมองสบตาฮะ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงไปมองสบตาคนที่เป็นเกย์ พวกคุณก็จะไม่รู้หรอกฮะ เกย์กับเกย์ด้วยกันเท่านั้นมันถึงจะสื่อถึงกันได้(แต่ก็ไม่แน่เสมอไปนะครับ ไม่สามารถวัดได้ถึง 100% ว่างั้นเถอะ)...เวลามี Sex คนกลุ่มนี้จะชอบมีกับเกย์ด้วยกันมากกว่าฮะ...แต่ถ้ามีโอกาส ผู้ชายแท้ๆ คนกลุ่มนี้ก็ไม่รังเกียจครับ... ส่วนคนที่เป็น กะเทย ก็คือพวกที่ไม่พอใจในเพศของตนและรังเกียจอวัยวะเพศของตัวเองครับ..อยากเป็นผู้หญิงว่างั้นเถอะ พวกนี้ถึงได้พยายามเลียนแบบกิริยาท่าทางและการแต่งตัวของผู้หญิง และถ้ามีโอกาสและมีปัจจัยเอื้อ พวกนี้จะตัดสินใจแปลงเพศทันที...คนกลุ่มนี้จะไม่ชอบมี Sex กับเกย์ฮะ จะชอบผู้ชายแท้ๆเท่านั้น และเวลามี Sex ก็ไม่อยากให้ผู้ชายเห็นอวัยวะเพศของตนด้วย... สำหรับ ตุ๊ด นั้น เป็นคำเรียกคนที่มีกิริยาท่าทางเลียนแบบผู้หญิงเหมือนกัน แต่พวกนี้จะไม่รังเกียจอวัยวะเพศของตนและไม่คิดที่จะแปลงเพศ คนกลุ่มนี้เวลามี Sex บางคนชอบเป็นฝ่ายรุก(คิง)ก็ยังมีเลยฮะ...คนกลุ่มนี้เวลามี Sex ก็ไม่เลือกหรอกฮะ จะชายจริงหรือเกย์ก็ได้ทั้งนั้น ขอให้ตรงกับรสนิยมของตนเป็นพอ...แต่ถ้าเลือกได้ คนกลุ่มนี้ก็อยากได้ผู้ชายแท้ๆ เหมือนกันครับ...คนกลุ่มนี้ก็จะพยายามเหมารวมว่าผู้ชายที่เป็นเกย์คือพวกเดียวกับตน และชอบเรียกจิกด่าผู้ชายที่เป็นเกย์ว่า อีแอบ และก็อยากให้ใครๆ เรียกตนว่า เกย์ครับ โดยอ้างว่าพวกตนเป็นเกย์ สว่างจิต... คนที่เป็นเกย์ ไม่ได้ Born to be เสมอไปนะครับ และมีเปอร์เซนต์สูงฮะที่มาเบี่ยงเบนทีหลัง พวกที่เบี่ยงเบนส่วนใหญ่ก็มาจากเคยมีประสบการณ์ทางเพศกับเพศเดียวกันฮะ คือลองแล้วติดใจว่างั้นเถอะ และอีกสาเหตุหนึ่งก็คือเผลอไปตกหลุมรักเพศเดียวกันครับ ตัวอย่างก็มีมากมายจากเรื่องที่อ่าน ยกตัวอย่างเช่น อิท จากยอดรักนักเลง... นัท คิม โม จากที่นายทำ... ฯลฯ ไงฮะ...พวกที่ติดใจแล้วไม่มีความรู้สึกทางเพศกับผู้หญิงอีกต่อไปนี่ ก็เรียกอาจว่าเป็นเกย์เต็มตัว ส่วนพวกที่ยังชอบทั้งสองอย่างอยู่ก็เรียกว่า ไบ ไงฮะ...การมี Sex กับผู้หญิงได้กับการชอบผู้หญิงนี่ไม่เหมือนกันนะฮะ...คนที่เป็นเกย์และตุ๊ด สามารถนอนกับผู้หญิงได้ครับถ้าถูกกระตุ้น.....คนที่เป็นกะเทยกับตุ๊ด..เกือบ 100% ฮะที่ Born to be.... เกย์ ไบ และชายแท้ที่มีแฟนเป็นเกย์ กะเทย ตุ๊ด ต่างกันอย่างไร...ทำไม ทั้งๆที่ผู้ชายบางคนมีแฟนเป็นเพศชายด้วยกัน แต่ทำไมผมถึงบอกว่าไม่เป็นเกย์ หรือ ไบ...ก็เพราะว่าเขามี Sex ได้กับผู้ชายแค่คนๆ เดียวไงครับ ก็เฉพาะคนที่เขารักหรือคนที่เขาอยู่ด้วย(จากเหตุผลทางด้านการเงิน)เท่านั้น ยกตัวอย่าง พี่นัท จากที่นายทำฯ ไงฮะ...พวกนี้จะไม่มีอารมณ์ทางเพศกับผู้ชายคนอื่นเลยฮะ นอกจากแฟนเขา(ที่อยู่ด้วยเพราะรัก ไม่ใช่เพื่อเงิน)...ส่วนพวกที่เรียกว่าเป็น ไบ นี่ คือคนที่เกิดอารมณ์ทางเพศกับใครหรือเพศไหนก็ได้ ขอให้ถูกสเป็นพอ...นี่คือความแตกต่างของชายแท้และพวก เกย์ ไบ ครับ... ทีนี้เรามารู้จักคำที่ใช้เรียกผู้ชายที่ชอบเพศเดียวกันโดยแยกตามรสนิยมดังนี้ 1. ผู้ชายที่เป็นเกย์ เวลามี Sex ชอบรุกอย่างเดียว พวกนี้เรียกว่า เกย์คิง ครับ(พวกที่บอกว่าตัวเองเป็น คิงรับ นั้น คือพวกเกย์ที่สับสนทางเพศฮะ 5555 ) 2. ผู้ชายที่เป็นเกย์ เวลามี Sex ชอบรับอย่างเดียว พวกนี้เรียกว่า เกย์ควีน ครับ (พวกเกย์ คิง กะ ควีน นี่ ขึ้นอยู่กับความสุขเวลามีเพศสัมพันธ์ฮะ ว่ารับบทไหนแล้วมีความสุขก็จะชอบแบบนั้น เกย์คิงที่กลายพันธุ์มาจากชายแท้บางคน จะไม่ยอมเป็นฝ่ายรับเด็ดขาดฮะ คือเป็นทัศนคติส่วนตัวฮะ ถ้าเป็นฝ่ายรับแล้วจะทำให้ความเป็นชายของเขาลดลง ชาตินี้เขาจะเป็นผัวเพียงอย่างเดียว จะไม่ยอมเป็นเมียใครว่างั้นเถอะ) 3. ผู้ชายที่สามารถมี Sex ได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง(ด้วยความชอบ ไม่ใช่แบบจำเป็นต้องมีอย่างเช่นพวกที่แต่งงานเพื่อปกปิดสังคม) แต่เวลามี Sex กับผู้ชายด้วยกัน จะชอบเป็นฝ่ายรุกเพียงอย่างเดียว พวกนี้เรียกว่า ไบรุก ครับ 4. ผู้ชายที่สามารถมี Sex ได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง(ด้วยความชอบ) แต่เวลามี Sex กับผู้ชายด้วยกัน จะชอบเป็นฝ่ายรับเพียงอย่างเดียว พวกนี้เรียกว่า ไบรับ ครับ 5. ผู้ชายที่เป็นเกย์ เมื่อเวลามี Sex แล้ว รับก็ได้รุกก็ได้ คือสามารถเปลี่ยนสถานะได้ ขึ้นอยู่กับคู่ขาว่าชอบแบบไหน พวกนี้เรียกว่า โบท ครับ 6. ผู้ชายที่มีกิริยาเลียนแบบผู้หญิง ที่เรียกว่าพวกแสดงออกหรือตุ๊ดนั่นแหละฮะ แต่เวลามี Sex แล้วชอบเป็นฝ่ายรุก พวกนี้เราเรียกกันว่า สาวเสียบ ครับ(พวกสาวเสียบนี่ ก็คือพวกที่เป็นฝ่ายรับแล้วไม่มีความสุขฮะ ก็เลยจำเป็นต้องเปลี่ยนสถานะเพื่อให้ตนเองมีความสุขเวลาที่มีเพศสัมพันธ์) สำหรับกระเทยที่มีนมผมยาวและแต่งหญิงแต่ยังไม่แปลงเพศ เวลามี Sex แล้ว สามารถเป็นฝ่ายเสียบได้ พวกนี้เป็นพวก สปีซี่ส์พิเศษฮะ (ผมเคยเห็นในหนัง X ฮะ...ทำเอาผมสยอง เซ็กส์เสื่อมไปหลายวัน 5555 ) เรามาจำแนกว่า คนประเภทไหนเรียกเป็นพวก อีแอบ หรือ แอ๊บแมน...ประเภทไหนที่ไม่ได้แอ๊บกันบ้างนะครับ 1. พวกแอ๊บแมน ก็คือ ผู้ชายที่มีกิริยาตุ้งติ้ง แต่เวลาอยู่ในสังคมข้างนอกก็จะพยายามทำกิริยาท่าทาง คำพูดและน้ำเสียงให้เหมือนผู้ชายทั่วไป เพื่อปกปิดธรรมชาติของตน จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่...แต่พอเผลอก็จะหลุดทันที...ตัวอย่างเช่น โฆษณาน้ำมันพืชนั่นไงฮะ หรือยกตัวอย่างดารานักร้องบางคน เช่น นักร้องซูเปอร์สตาร์ดาวค้างฟ้าที่มีชื่อบินได้ หรือ นักร้องชายที่เคยออกอัลบั้มคู่กับปานไงครับ...พวกนี้ที่แต่งงานก็มีนะฮะ ตัวอย่างเช่น พ่อของพระเอกช่อง 3 ไงฮะ ซึ่งเมื่อก่อนไม่รู้ว่าแอ๊บหรือเปล่าเพราะผมเกิดไม่ทัน แต่ปัจจุบันนี้ไม่แอ๊บแล้ว 2. พวกที่ไม่ได้แอ๊บ ก็คือ ผู้ชายที่ดูแมนๆ ที่เราดูไม่ออกว่าเขาเป็นเกย์ ก็เพราะธรรมชาติเขาเป็นแบบนั้น ไม่ว่าตอนเผลอหรือไม่เผลอเขาก็จะไม่มีกิริยาท่าทางตุ้งติ้งให้เห็น...พวกนี้ จะเป็นพวกที่ผู้หญิงดูไม่ออก กว่าจะรู้ก็เผลอไปมีลูกด้วยแล้วว่างั้นเถอะ...พวกนี้จะเป็นพวกที่แต่งงานมาก ที่สุด ที่แต่งบางคนก็รักผู้หญิงนะฮะ เพราะส่วนมากพวกนี้จะเป็น ไบ กัน...ถ้าเป็น ไบรับ ก็จะตรงกับคำพูดที่ว่า 'สามีของฉันไปเป็นเมียเขา' อะไรทำนองนั้น....ส่วนใหญ่พอแต่งงานแล้วก็ไม่สามารถเลิกชอบผู้ชายด้วยกันได้ ...ตัวอย่าง พวกที่แต่งงาน เช่น หนังเรื่อง Brokeback Mountain ไงฮะ หรือดาราที่เป็นข่าว เช่น พระเอกรุ่นใหญ่ช่อง 3 กะพระเอกไฟไหม้ไงฮะ(จริงไม่จริงไม่รู้นะฮะ แค่ยกมาพูดเพื่อให้เห็นภาพเฉยๆ).....พวกที่ยังไม่แต่งงานก็ เช่น ดาราที่ไปทำงานที่สิงคโปร์ไงฮะ หรือดาราหนุ่มใหญ่อีกสองสามคนที่ตอนนี้ยังไม่แต่งงานและมีข่าวเกี่ยวกับผู้ชายด้วยกันบ่อยๆ ...คนพวกนี้เองที่พวกตุ๊ดชอบกระแนะกระแหนว่าเป็น อีแอบ...ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไม...พวกเขาแค่แอบปกปิดจิตใจที่ชอบผู้ชายด้วยกันเอาไว้ไม่อยากให้ใครๆรู้เท่านั้น...ในใบปิดหนังเรื่อง แก๊งชะนีกับอีแอบ ที่บอกถึงวิธีจับผิดเกย์นั่น ใช่ไม่ได้กับพวกนี้หรอกฮะ ใช้ได้แต่กับพวกประเภทที่ 1 เท่านั้น.... และผมขอยกตัวอย่างคนที่เรียกว่าเกย์ กะเทย และเป็นตุ๊ด มาให้ดูครับ 1. เกย์คิงและเกย์ควีน เช่น จอนกะที ในละครเรื่อง รักแปดพันเก้า และดาราที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีข่าวกับผู้ชายได้ เป็นต้น 2. กะเทย เช่น พี่ม้าอรนภา พี่เจินเจิน พี่ทิศนา และนางงามประเภทสองทั้งหลาย เป็นต้น 3. ตุ๊ด(ทั้งไม่แอ๊บและที่พยายามแอ๊บ) เช่น พี่โหน่ง พี่ไก่วรายุท พี่ก้องปิยะ พี่นักร้องมีปีก พี่นักร้องเคยร้องคู่กับปาน และนักร้องชายที่กำลังดังอยู่ในตอนนี้(หลายคน) เป็นต้น จากคุณ : เกย์คนหนึ่ง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:36:17 A:10.1.104.141 X:115.31.137.133 TicketID:245556

ความคิดเห็นที่ 18 อุ แม่จ้าวววววววววววววววววววววววววววววววววววววว *-* จากคุณ : O_o (ขนมไข่หวาน) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:39:38

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าเรื่องพระพุทธเจ้าทรงตรัสเรื่องนี้ไว้หรือเปล่า อันนี้ผมชักไม่แน่ใจแล้วอะครับ เพราะพระไตรปิฎกที่เราเห็นๆ กัันอยู่ทุกวันนี้ จริงๆ แล้วก็เกิดขึ้นหลังจากพุทธปรินิพพาน  ซึ่งเราก็ไม่อาจรู้ได้ แต่จริงๆ แล้ว การเกิดมาแล้วต้องมานั่งเสียใจจากความรัก ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม ผมก็ว่ามันเป็นผลมาจากศีลข้อ 3 นี่แหละ ส่วนจะเกิดเป็นเพศไหนอย่างไรนี่ ม่ายรู้ง่ะ #17  ข้อมุลแน่นสุดๆ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 12:45:27 จากคุณ : เหลืองเลย เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:42:26

ความคิดเห็นที่ 20 เดาว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะคำพูดที่มีความหมายที่สุดจากคนหนึ่งที่เรารักคือถ้าเค้าเลือกรักผู้หญิงได้เค้าจะเลือกเรา สำหรับเรานี่คือคำบอกรักที่มีค่าที่สุดครั้งหนึ่งค่ะ เพราะงั้นเราว่าก็คงเป็นอย่างนั้นหล่ะค่ะ ความรักที่ดีไม่ได้แยกด้วยเพศซะที่ไหน จากคุณ : powerploy เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:44:53

ความคิดเห็นที่ 21   ส่วนในเรื่องพรุ่งนี้ก็รักเธอ ถ้าวิเคราะห์แล้ว พีน่าจะแมนกว่าก้อง เพราะทั้งเกเรในอดีต ทั้งแข่งรถ ส่วนก้องนั้นเป็นคนเรียบร้อย ส่วนในเรื่องนี้ถ้าจะให้คิดแบบพระเอกนางเอก พีเป็นรุกก้องเป็นรับ ส่วนชีวิตจริงเดี่ยวนี้มันเอาแน่นอนไม่ได้ รุกชอบกับรุก เป็นรุกแต่สาว..มาก แมนมาก..แต่ชอบรับ และยังมีอีกมากกว่านี้ โอ๊ยวุ่นวาย .. จากคุณ : เกย์คนหนึ่ง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:50:05 A:10.1.104.141 X:115.31.137.133 TicketID:245556

ความคิดเห็นที่ 22   ถ้างั้น ขอถามแบบอยากรู้จริง ๆ ครับ อย่าว่าลามกนะครับ เกย์ที่เริ่มรู้ว่าตัวเองเป็น พออยากมีเพศสัมพันธ์ มีความรู้สึกตรงก้นเลยเหรอครับ แล้วครั้งแรกที่จะมี.......... รู้ได้ยังไง ว่าต้องมีกันทางด้านหลังครับ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเกย์มีอะไรกันยังไง แต่อยากรู้การรับรู้ทางเพศสัมพันธ์ ในครั้งแรกของการเรียนรู้ เพราะถ้าเป็นชายหญิงปกติ คงพอเข้าใจได้ว่า ต้อง...ทางไหน แต่ครั้งแรก ๆ ของพวกนี้ เค้ารับรู้ยังไงอ่ะ มีเพื่อนเป็นเยอะ แต่ไม่เคยถามเลยว่า ครั้งแรก เค้ารับรู้ยังไง จากคุณ : ขอบคุณล่วงหน้า เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:51:47 A:118.172.39.22 X: TicketID:202545

ความคิดเห็นที่ 23   ชีวิตเรานี่..ต้องเรียนรู้อีกเยอะจริงๆ จะยังไงก็เหอะ..ถ้านิสัยดีไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครมากนัก ก็ยอมรับได้คะ... จากคุณ : PAT@CM เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:53:21

ความคิดเห็นที่ 24 ตอบ #22 เรื่องอารมณ์นี่ ผมว่า แค่อีกคน ถูกตัวอีกคน ด้วยอาการที่ไม่ปกติ พร้อมกับส่งแววตาไปให้ อันนี้ต่อให้ ช ช, ช ญ, ญ ญ ก็ต้องรู้แหละ ว่าอยากมีอะไรด้วย อีกนิดๆ ส่วนใหญ่คนที่เริ่มก่อน จะเป็นคนที่ช่ำชองกว่ามากๆ เหมือนพีที่ ปล่อยสเต๊ปเทพใส่อีกฝ่าย ยังไงก็เสร็จ การที่จะรู้ว่า จะมีอะไรกันทางไหน ผมว่า ก็คงเคยผ่านหูผ่านตามาบ้างแหละ ไหนจะ DVD CVD อินเตอร์เน็ต ฯลฯ มันทำให้รู้ได้ว่า ต้องมีกันทางนี้แหละ อีกอย่าง มันมี รูเดียว (ติดเรท ป่าวเนี่ยะ) ก็คงตัดสินใจได้ว่าทางไหน รุ่นพี่ที่เค้าเป็นเกย์ ก่อนที่เค้าจะมาเป็นแบบนี้ เค้าก็เคยเล่าให้ฟังว่า เค้าก็มีอะไรกับผู้หญิง คบกับผู้หญิงปกติ ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นเกย์ จนแล้ววันนึงได้มาเจอกุ๊ก (คนทำอาหารอ่านะ) เค้ามาจีบ แล้วไปๆ มาๆ ก็เลยกลายเป็นว่ามีอะไรกัน เค้าก็บอกว่า เค้าชอบทางนี้อะ แล้วเค้าก็ยืนยันด้วยว่า ต่อให้ชายแท้ๆ กุก็ทำให้เป็นเกย์ได้ (ฟังแล้วอึ้ง) แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 13:02:10 จากคุณ : เหลืองเลย เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:00:25

ความคิดเห็นที่ 25 ตอบ #14 ค่ะ ตัวเราเองไม่ได้มีความรู้มากพอที่จะยกตัวอย่างจากพระสูตรหรือพระไตรปิฎกมาอ้าง แต่เราเชื่อค่ะ เพราะเคยฟังหลวงพ่อที่เคารพนับถือท่านเทศน์เล่าเรื่องพระอานนท์ในอดีตชาติ ท่านว่าพระอานนท์ถือศีลบริสุทธิ์และตั้งจิตอธิษฐานขอให้เกิดมาหล่อทุกชาติๆ พอเกิดมาอีกชาติก็รูปหล่อมากและรวยด้วย แต่ก็เพราะหลงในรูปและทรัพย์ที่ตัวเองมี ทำให้เกิดไปเป็นชู้กับภรรยาคนอื่นเข้า หลังจากชาตินั้น ท่านต้องไปตกนรกอยู่หลายชาติ แล้วกลับมาเกิดเป็นวัวรูปหล่อ ก็โดนเจ้าของเอาไปตอนอีก พอได้เกิดมาเป็นคน ก็เป็นคนที่รักแต่เพศเดียวกัน จนในที่สุดชาติสุดท้าย มาเกิดเป็นพระอานนท์ สาวกของพระพุทธเจ้า ภาวนาจนสำเร็จมรรคผล ถึงนิพพานในชาตินั้น ใช่ค่ะ คงไม่ใช่เกย์ทุกคนที่จะเกิดมาแล้วเป็นทุกข์กับสภาพของตัวเอง เราก็เคยเห็นบางคนที่มีความสุขดี แต่กลุ่มนี้ก็มักจะเป็นพวกที่ไม่ติดยึดหรือหลงใหลในเรื่องเพศรสมากนัก บางคนกลับฝักใฝ่ทางธรรมด้วยซ้ำไป แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่านี่เป็นจำนวนน้อยมาก เมื่อเทียบกับเกย์ส่วนใหญ่ในสังคม --------------------- ตอบ จขกท. ค่ะ การรักชอบคนเพศเดียวกัน จากนิสัย พฤติกรรม สามารถเป็นไปได้ค่ะ และไม่ผิดปกติอะไร แต่ความรักนั้นจะไม่เป็นไปในแง่ชู้สาว หรือมีความรู้สึกทางเพศเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด นอกเสียจากว่าคนๆนั้นจะเป็นเกย์เท่านั้นค่ะ จากคุณ : ปัณฑา เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:00:48

ความคิดเห็นที่ 26   เราว่าแล้วแต่อารมณ์และสถานการณ์ล่ะมั้ง ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับความรู้สึกนะ ...เราว่า แค่ "คนนี้ใช่" ...เรื่องอื่นคงตามมาทีหลังล่ะ ปล. เหมือนไม่ได้ช่วยอะไรเจ้าของกระทู้เลย -"- จากคุณ : limp_ryo_daisuki เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:03:31

ความคิดเห็นที่ 27 กระทู้พี+ก้องนี่ มีอะไรให้ถกกันทุกวันเลยเนอะ เมื่อวาน เรื่องมรดก วันนี้ว่าด้วยเรื่องการเป็นเกย์ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 13:06:16 จากคุณ : เหลืองเลย เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:05:18

ความคิดเห็นที่ 28   พระพุทธศาสนาสอนไว้ครับ กรรมที่ทำให้เป็นแบบนี้ครับเอาที่คุณดังตฤนตอบมาให้อ่าน "พระพุทธเจ้ามักตรัสถึงผลของการประพฤติผิดในกาม (คือนับตั้งแต่ข้อแรกเป็นต้นมา) ว่าจะทำให้เป็นผู้ประสบภัยเวร ซึ่งแน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับแง่มุมของศีลข้อหนึ่งๆ เช่นตรัสว่า บุคคล ผู้ประพฤติผิดในกาม ย่อมประสบภัยเวรในชาตินี้บ้าง ในชาติหน้าบ้าง ย่อมโทมนัสบ้าง ภัยเวรในที่นี้ย่อมเกี่ยวกับเรื่องทางเพศนั่นเอง ความอยู่ไม่สุข ความวิปริตผิดเพศทั้งหลาย โดยมากมักไหลมาจากเหตุคือทำกรรมว่าด้วยการประพฤติผิดในกามนี่แหละ แต่โทษานุโทษจะหนักเบา จะถูกร้อยรัดแน่นหนาแกะไม่ออกเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับระดับของการขาดความยับยั้งชั่งใจ ขอให้ดูตามจริง ผู้ลักลอบคบชู้มักมีอาการหมกมุ่นครุ่นคิด อัดอั้นตันใจ ไม่อิ่มไม่พอ อยากเลิกก็อยากเลิก อยากเสพต่อก็อยากเสพต่อ สองจิตสองใจแล้วๆเล่าๆอยู่อย่างนั้น นี่เรียกว่าเสวยทุกข์ มีความโทมนัส เป็นวิบากในชาติปัจจุบันเห็นทันตา ส่วนการประสบเวรภัยนั้น วันหนึ่งอาจเผลอลักลอบมีชู้ในจังหวะที่เจ้าของเขากลับมา แบบที่เรียกว่าจับได้คาหนังคาเขา ซึ่งเจ้าของก็จะบันดาลโทสะ ก่อให้เกิดการทำร้ายหรือการเข่นฆ่ากันดังที่เห็นข่าวเป็นประจำ พวกลักลอบเป็นชู้กันประจำมักไม่ค่อยรอด ทั้งที่นึกว่าหลบๆซ่อนๆกันรอบคอบเพียงใด ข่าวสารอาจเดินทางไกลในชั่วพริบตาได้ นี่เป็นวิบากในปัจจุบันเช่นกัน และเรื่องของหญิงชายนั้น แม้อยู่กินกันอย่างถูกต้องตามประเพณีก็ยังมีปากเสียงกันได้เรื่อยๆตาม ธรรมชาติของช่องว่างระหว่างเพศ แต่นี่ลักลอบได้เสียกันอย่างผิดๆ แน่นอนเมื่อโมโหโกรธามีปากเสียงขึ้นมาย่อมทำให้เกลียดชัง คิดจองเวรกันได้หนักกว่าปกติ เพราะพื้นฐานจะมองกันและกันในทางต่ำ จึงขาดความเคารพ ขาดความรู้สึกอยากให้เกียรติกันอยู่แล้ว การคบชู้กันอาจก่อให้เกิดสายใยผูกพัน เพราะร่วมทำผิดมาด้วยกัน พอเจอกันในชาติใหม่ถ้าหากเป็นมนุษย์ก็มักมีความกระสันใคร่อยากในทันทีที่ เห็นกัน แต่มักมีอาการขนลุกระคนอยู่ด้วย เพราะบาปเก่ามาเตือนว่าสัมพันธ์ระหว่างกันมีความดึงดูดเข้าหาเรื่องสกปรก อีกอย่างหนึ่งเวลาที่เจอกันมักอยู่ในจังหวะเวลาผิดๆ หรือมีเหตุการณ์ไม่ดีเป็นลางร้าย เมื่อทนความกำหนัดไม่ไหวแล้วสมสู่กัน ก็จะมีเหตุให้ต้องทะเลาะเบาะแว้ง มีเหตุให้เกลียดชังกันอย่างรุนแรง หรือกระทั่งอยากฆ่าแกงกันด้วยความทนไม่ได้ ตัวอย่างของการเคยร่วมผิดประเวณีกันมา ที่ชัดหน่อยได้แก่ฝ่ายชายกลายเป็นหญิง มาเจอคู่บาปเก่าที่ก็ยังคงเป็นหญิงอยู่ พบกันแล้วมีแรงดึงดูดให้พิศวาสกัน เกิดความใคร่อยากทันที กลายเป็นพวกหญิงรักหญิงชนิดจริงจัง รู้ทั้งรู้ว่าฝืนธรรมชาติ อยู่กันไปอยู่กันมาในที่สุดแรงกรรมเก่าย่อมผลักฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้คิดตีจาก ไปมีใหม่ และเมื่อนั้นเรื่องน่าเศร้าย่อมเกิดขึ้นได้ทุกรูปแบบ ความละอายต่อบาปมีมากน้อยเพียงใด ยังเป็นตัวกำหนดชี้ระดับความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย ประเด็นนี้เริ่มต้นจากกฎทางใจของมนุษย์ที่ว่าถ้าทำบาปก็สมควรจะเกิดความ ละอาย เพราะเป็นมนุษย์ได้ต้องมีความละอายต่อบาปเป็นพื้นฐาน ดังกล่าวแล้วในบทที่ ๒ ฉะนั้นนักเลงผู้หญิงที่ ลักกินขโมยกินของคนอื่นโดยปราศจากความละอาย ก็สมควรได้รับผลสะท้อนของความไม่ละอายเลยเป็นความน่าอับอายถึงขีดสุด นั่นคือชาติต่อไปหากได้รูปกายเป็นชายก็จะมีใจเป็นกะเทยตั้งแต่จำความได้ ไม่ใช่มาชอบใจเป็นกะเทยด้วยกรรมใหม่เช่นแกล้งทำกระตุ้งกระติ้งจนติด สำหรับพวกเจ้าชู้ยักษ์ลักลอบร่วมประเวณีไม่เลือกลูกเขาเมียใคร แต่ยังเกิดความรู้สึกผิดชอบชั่วดี หรือกล้าทำกล้ารับอยู่บ้าง ไม่ใช่แค่เอาสนุกชั่วแล่น พวกนี้มักเกิดใหม่มีใจเป็นชายแต่กายเป็นหญิง ขอให้สังเกตว่าผู้หญิงหน้าตาน่ารักที่ออกแนวทอมบอยจะชอบหว่านเสน่ห์เล่นไป ทั่ว นี่ก็เป็นนิสัยเก่าที่เคยเจ้าชู้มามากนั่นเอง แต่ชาติที่รับผลกรรมนั้นมักเป็นอยู่ด้วยความไม่พอใจในเพศตน และรู้สึกว่าตนถูกเอาเปรียบทางเพศอย่างน่าโมโหเสมอ ส่วนที่มักเป็นประเด็นถามไถ่กันเสมอๆในหมู่ชาวพุทธที่เริ่มถือศีล ๕ คือดูรูปโป๊หรือหนังโป๊ผิดศีลหรือไม่? อันนี้ถ้าจับหลักได้ว่ากาเมสุมิจฉาจารนับเอาการมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ มีเจ้าของเป็นสำคัญ ก็ต้องมองตามจริงว่าการเสพแค่ทางตานั้นไม่ผิด เพราะยังไม่ได้สมสู่ในหญิงผู้มีเจ้าของรักษา แต่ความหมกมุ่นในกามจนเกินเหตุย่อมทำให้สภาพวิญญาณเหมือนจมอยู่ในบ่อน้ำกาม ชุ่มโชก และความหมกมุ่นในรูปสตรีจะทำให้จิตเคลื่อนไปอยู่ในภพของสตรีได้ เนื่องจากการมีราคะจัดเป็นตัวบั่นทอนกำลังกุศล ทำให้จิตวิญญาณปวกเปียก อีกอย่างสื่อลามกในปัจจุบันก็มีหลายประเภทหลายระดับความรุนแรง ดังที่เป็นข่าวน่ากลัดกลุ้มของผู้ปกครองเวลานี้คือมีเกมยั่วยุขนาดปลุกปั่น ให้เด็กกลายเป็นอาชญากรทางเพศ มีเกมวางแผนข่มขืนผู้หญิง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ตอนเสพเข้าไปอาจจะยังไม่เข้าข่ายผิดศีล แต่ได้กระตุ้นให้เกิดแนวโน้มที่จะก่อการร้ายยิ่งกว่าผิดศีลธรรมดาเป็นไหนๆใน อนาคต ทั้งหมดที่กล่าวมานี้อาจจำไว้ง่ายๆเพียงว่าเมื่อประพฤติผิดทางเพศ ย่อมมีแรงเหวี่ยงกลับมาเป็นเรื่องราวผิดๆทางเพศ และจะออกไปในทางภัยเวรรูปแบบต่างๆ เป็นสาเหตุหนึ่งของการเป็น ‘คู่เวร’ ที่แรกพบสบตาแล้วหวือหวาอยากกระทำการอันเป็นไปในทางด่วนได้ แล้วประสบอันตรายจากการอยู่ร่วมกันในภายหลัง หรืออย่างเบาที่สุดก็คือทำให้ตกที่นั่งเสียเปรียบทางเพศ ซึ่งก็คือการได้รูปหญิงอันง่ายต่อการถูกรังแกนั่นเอง" จาก เสียดาย...คนตายไม่ได้อ่าน เหตุใดจึงเป็นหญิงเป็นชาย? http://dungtrin.com/whatapity/04.htm จากคุณ : I'm waiting for u. เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:06:12

ความคิดเห็นที่ 29   โลกเราช่างกว้างไกลนัก คห.17 ดีมากเลย เราได้รู้อะไรหลายอย่าง เช่นกระเทยกับตุ๊ดไม่เหมือนกัน =[]= จากคุณ : rainnykimki เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:46:43

ความคิดเห็นที่ 30   โอ๊ยเพลีย... จากคุณ : Khun Aerin เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:03:55

ความคิดเห็นที่ 31   #14 เอาเท่าที่จำได้นะครับ เคยอ่านจากพระไตรปิฏกนานมากแล้ว ในทางพุทธศาสนา ถือว่าเพศหญิง มีกรรมหนักกว่าเพศชายครับ เพราะ หญิงต้องมีระดูทุกเดือน ต้องตั้งท้อง ต้องได้รับความเจ็บปวดจากการคลอด ถูกจำกัดสิทธิและเสรีภาพมากกว่า (โดยเฉพาะในอินเดีย) โทษของการละเมิดศีลข้อสามหลังใช้กรรมในนรกหมดแล้ว เศษกรรมจะทำให้เกิดเป็นหญิง 500 ชาติ แล้วเกิดเป็นกระเทยอีก 500 ชาติ จึงจะได้กลับมาเป็นชาย ไม่ต้องสนใจตัวเลข 500 ครับ ปราชญ์ทางพุทธบอกว่าเป็นเหมือนคำว่า มาก ไม่ได้แปลว่า 500 จริงๆ ถ้าดูอย่างนี้แล้วเหมือนสถานะของเกย์หรือกระเทยจะดีกว่าเพศหญิงมากกว่า ก็อย่างที่บอกอ่ะครับ ไม่ต้องตั้งท้อง ไม่ต้องมีประจำเดือน แล้วมีผู้หญิงที่ไม่ได้มีกรรม แต่ปรารถนาจะเกิดเป็นหญิงมีไหม ตอบว่ามีครับ อย่างผู้ที่ตั้งความประสงค์จะเป็นพุทธมารดา ก็จะเกิดเป็นหญิงชาติที่ให้กำเนิดพระพุทธเจ้า แต่พอตายแล้วก็จะกลับไปเกิดเป็นเทวดาผู้ชายอีก เหมือนพระนางสิริมหามายาหลังจากสิ้นพระชนม์แล้วก็ไปเกิดเป็นเทพบุตรในสวรรค์ชั้นดุสิต (ชั้น๔) หรือพระโพธิสัตว์ที่ต้องการบำเพ็ญบารมีตั้งอธิฐานจิตขอเกิดเป็นหญิง แล้วเคยมีเกย์ในพระพุทธศาสนามั้๊ย มีครับ แต่ในไตรปิฎกไม่ได้พูดออกมาตรงๆ เป็นพระอรหัตถ์ที่เป็นอสีติ คือมีความชำนาญเป็นเลิศเฉพาะทางที่พระพุทธเจ้ายกย่อง ผมจำชื่อท่านไม่ได้ซะด้วย ถ้าอยากทราบจะไปค้นมาให้ จากคุณ : NuwaraEliya เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:07:35

ความคิดเห็นที่ 32 เกย์เนี่ย ใช้อธิบายคนที่มีรสนิยมทางเพศชอบเพศเดียวกันมากกว่านะครับ ส่วนที่ว่าโอกาสที่ชอบคนต่างเพศนี่ก็เป็นไปได้ครับ เพราะความรักไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับเซ็กซ์เสมอไป เกย์อาจจะรักผู้หญิงคนนึงได้ ถ้านิสัยหรืออะไรต่างๆ มันเป๊ะมากๆ แต่ในเมื่อความรักมันก็คู่กับเซ็กซ์ บางทีแค่รักอย่างเดียวมันไปไม่รอดหรอกครับ สุดท้ายความสุขทางเพศที่แท้จริงของเกย์ก็ต้องเป็นจากเพศเดียวกัน (เกย์เนี่ย ส่วนใหญ่น่าจะมีอะไรกับผู้หญิงได้ เพราะยังไงก็ยังเป็นผู้ชาย) ถึงได้เกิดกรณีที่เกย์แต่งงานไปแล้วมาออกลายทีหลัง จริงๆ แล้วเขาอาจจะรักกันจริงๆ ก็ได้ ผูกพันกันจริงๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะไปมีอะไร กับคนเพศเดียวกันอีก ซึ่งผู้หญิงก็ต้องรับไม่ได้อยู่แล้ว สรุปง่ายๆ คือ เกย์รักผู้หญิงได้ครับ แต่จะรักในระดับเดียวกับคนรักคงยากมาก เพราะส่วนใหญ่จะเลือกวางผู้หญิงไว้เป็นเพื่อน ฝ่ายหญิงเองก็ใช่ว่าจะต้องการ แต่ความรัก ยังไงเซ็กซ์มันก็ต้องเกี่ยวข้องกันบ้าง (แล้วแต่คน) ซึ่งคนเป็นเกย์ตอบสนองตรงส่วนนี้ให้ทั้งกับตัวเองและผู้หญิงไม่ได้อยู่แล้ว สุดท้ายก็จะกลายเป็นนอกลู่นอกทางอยู่ดี (อ่อ แต่เกย์ที่แต่งงานกับผู้หญิงปกติแล้วอยู่กันรอดก็มีนะครับ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะ) มันกรณีเดียวกันกับผู้หญิงธรรมดารักผู้หญิงด้วยกันได้หรือเปล่า คำตอบคือได้ บางคนเป็นเพื่อนที่รักกันยิ่งกว่าคนรักซะอีก แต่ไม่ถือว่าเป็นคนรัก เพราะไม่ได้มีเรื่องเซ็กซ์มาเกี่ยวข้อง ยังไงผู้หญิงก็ยังอยากมีอะไรกับผู้ชาย เลยกลายเป็นว่า อาจจะมีเกย์ที่รักผู้หญิงอยู่จริง แต่เพราะมันเป็นความรักล้วนๆ เลยไม่ได้วางผู้หญิงคนนั้นไว้เป็นคนรัก ใช้คำว่าเพื่อนรักน่าจะตรงกว่า ยังไงเกย์ก็ยังเป็นผู้ชาย เห็นเรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ อยู่แล้ว คนที่สามารถตอบสนองได้ทั้งความรักและเซ็กซ์นี่แหละ ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนรักได้ จริงๆ พูดไปพูดมามันก็สับสนเหมือนกัน แต่ผมคิดว่าแนวคิดของมันน่าจะเป็นแนวๆ นี้ล่ะครับ จากคุณ : เจเล่ไลท์ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:09:49

ความคิดเห็นที่ 33 #28 กับ #31 ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งทำให้ต่อมสิทธิเสรีภาพของเราเริ่มทำงานอีกแล้วค่ะ -_-" จะให้หายสงสัยจริงๆ เราคงต้องไปศึกษาด้วยตนเองซะแล้ว เพราะเกิดคำถามขึ้นในใจมากมาย ขอบคุณทุกท่านที่มาให้ข้อมูลนะคะ จากคุณ : YaiSerSar เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:15:32

ความคิดเห็นที่ 34 #17 อ่านซะตาลายเลย รู้ละ ว่ามันเป้นยังไง 555+ จากคุณ : บอมเบย์คุง (bombay0123) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:20:53

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าเป็นทุกข์เพราะรัก ผมว่าคนคงผิดศีลข้อ 3 เยอะมากกกกกก ไม่ว่าใครก็น่าจะเคยเป็นทุกข์เพราะรักบ้าง มาก-น้อยต่างกันไป คนที่โชคดี เกิดมาแล้วเจอคนที่ใช่ได้ึคนที่รักและเคยมีทุกข์เพราะเรื่องนี้เลย ผมว่ามีหล่ะ .. แต้น้อย .. เพระคนส่วนมากก็น่าจะเคยเศร้ามาทั้นั้น ไม่งั้นเพลงอกหักมันไม่ฮิตเยบอะขนาดนี้หรอก ส่วนคนที่ไม่เคยทุกข์เรื่องคนรัก เพระาไม่เคยมีใครผ่านมาในชีวิต .. อันนี้เข้าข่ายไหนอ่ะครับ จากคุณ : Boy4Boyz เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:23:15

ความคิดเห็นที่ 36 กดลบทำไมอะ พวกนิสัย จากคุณ : วันๆเอาแต่เล่นเกมส์ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:41:39

ความคิดเห็นที่ 37 คนที่เป็นเกย์ เค้าจะชอบคนเพศเดียวกันเท่านั้นเหรอคะ คนที่ชอบเพศเดียวกัน รักเพศเดียวกัน มีอารมณ์กับเพศเดียวกัน เรียกว่า เกย์ ครับ ในความหมายของฝรั่งนะ ถ้าของไทยนี่มันก็แยกย่อยไปอีก ทอม ดี้ เลสเบี้ยน ไบ กะเทย เกย์ คือ ผู้ชายที่ชอบผู้ชาย ด้วยกันเท่านั้น ถ้าชอบทั้งผู้ชายผู้หญิง เรียกว่า ไบ ไม่ว่าจะชอบด้วยนิสัย หรือ พฤติกรรม ถ้าคุณชอบเพศเดียวกัน หรือ มีอารมณ์ทางเพศกับเพศเดียวกัน เค้าเรียกว่า เกย์ ครับ เลิกเพ้อฝัน หรือ จิตนาการ หานิยามฉีกออกไปเลยครับ จะหาเหตุผลอะไมาอ้างมันก็ได้ครับแต่นี่คือคำนิยามจากสังคมโลกครับ ปล คนเราถ้ามันไม่รู้สึกว่าเกย์เป้นอะไรที่มันลบ ที่มันไม่ดี ก็คงยอมรับ และ เฉยๆ กับคำว่าเกย์นะ ที่คนเราพยายามหานิยามอย่างอื่่นมารองรับ ก้เพราะว่าไม่อยากเป็นเกย์หรอ คุณก็เป็นในสิ่งที่คุณเป็น สังคมจะนิยามยังไงก็ไม่เห้นจะเป้นไรเลย เพราะยังไงคุณก็คือคุณ แค่คำพูดเองมันไม่ตายหรอก ไม่เข้าใจผู้หญิงเดี๋ยวนี้ ไม่อยากให้ผู้ชายที่ตัวเองชอบที่ชอบผู้ชายด้วยกันถูกเรียกว่าเกย์หรือยังไง ถึงพยายามหาเหตุผลปวดตับมาอ้างอยู่ได้ จะชอบเค้าทั้งทียังรังเกียจเค้าอีก จากคุณ : infernaldevilking เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:53:45

ความคิดเห็นที่ 38 ในพุทธศาสนาบอกไว้แค่ว่า การผิดศีลข้อกาเมสุมิฉาจาร จะส่งผลให้ตกนรกขุมสิมพลีนรก(นรกต้นงิ้ว) ที่เป็นขุมบริวาร แต่ผลในชาติปัจจุบัน หรือเศษกรรมที่ให้ผลในขณะที่อยู่ในภพภูมิมนุษย์นั้น จะทำให้คนในบังคับบัญชา(บริวารทั้งหลาย ลูกเมีย คนในปกครอง) ไม่ให้ความเคารพนับถือครับ ส่วนเรื่องจะเกิดมาเป็นเกย์หรือเปล่า พระท่านไม่ได้กล่าวถึงครับ อาจจะเป็นเพราะเหตุปัจจัยเนื่องจากอกุศลกรรมอื่นร่วมด้วยก็ได้ เพราะในชาติหนึ่งๆ คนเราไม่ได้ทำกรรมแค่อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่แล้ว ยิ่งกรรมแต่ละชาติสะสมกันมาทุกภพทุกชาติ ทำให้ผลของกรรมนั้นซับซ้อนเอามากๆ (เพราะไม่รู้ว่ากรรมตัวไหนจะให้ผลตอนไหน ก่อนหลังอย่างไร) ผลของกรรม ท่านจึงว่าเป็นเรื่องอจินไตย ไม่ควรคิด คิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ ครับ จากคุณ : plankton เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 15:30:54

ความคิดเห็นที่ 39   เจ้าของกระทู้ไม่ได้รังเกียจเกย์นะคะ ยอมรับได้ แต่ก็ไม่ถึงกับสนับสนุนอะไร ที่ตั้งเป็นกระทู้เพราะสงสัยจากเรื่องที่ได้อ่าน และละครที่ดู ก็เลยเอามาตั้งเป็นประเด็นค่ะ ตอนตั้งกระทู้ไม่ได้คิดว่าจะได้ความรู้มากมายขนาดนี้ ได้ทั้งความรู้เรื่องเกย์ เรื่องพุทธศาสนาด้วย .ขอบคุณผู้รู้ทุกท่านที่มาชี้แนะนะคะ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 15:48:43 A:203.185.131.233 X: TicketID:037982

ความคิดเห็นที่ 40 #38 เราก็คิดในประเด็นนี้เหมือนกันค่ะ ที่บอกว่า "ในชาติหนึ่งๆ คนเราไม่ได้ทำกรรมแค่อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่แล้ว ยิ่งกรรมแต่ละชาติสะสมกันมาทุกภพทุกชาติ ทำให้ผลของกรรมนั้นซับซ้อนเอามากๆ (เพราะไม่รู้ว่ากรรมตัวไหนจะให้ผลตอนไหน ก่อนหลังอย่างไร) ..." ค่อยหายปวดหัวขึ้นมาหน่อย  ไว้มีโอกาสจะลองศึกษาให้มากกว่าเดิม ขอบคุณค่ะ จากคุณ : YaiSerSar เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 16:25:23

ความคิดเห็นที่ 41 ตอนนี้ แนวคิดเรื่องความรัก Universal กำลังมาแรงมากกกกกค่ะ คนในทางโฆษณาหรือกราฟฟิคคงทราบ ตอนนี้ขอให้มีความรัก ไม่จำเป็นต้องคิดว่าเป็นเพศอะไรก็รักได้ค่ะ เราไม่รู้นะว่า คิดอย่างนี้ผิดหรือถูก และไม่รู้ว่าถ้าเป็นตัวเองจะคิดอย่างไร เพียงแต่เราเองไม่ได้คิดว่าที่รักเพศเดียวกันผิดปรกติค่ะ จากคุณ : พฤหัส เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 18:01:44

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยกับ 41 นะคะ ตรงที่ความรักไม่ควรแบ่งเพศ แต่ก็ควรจะเจาะจงลงไปด้วย ว่ารักที่ว่าเนี่ย ควรจะเป็นรักในแบบที่ปรารถนาดีต่อกัน อยากจะให้คนที่รักมีความสุข.. เป็นรักที่อยากจะให้มากกว่ารับ เป็นรักที่อยากจะดูแลมากกว่าครอบครองเป็นเจ้าของ อาจจะฟังเหมือนอยู่ในโลกจินตนาการมากไป แต่อยากให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ ลองคิดดูว่า.. ถ้าความรักไม่มีข้อจำกัดใดๆเลย อิสระเสรีกันเต็มที่ แถมยังปนเปื้อนไปด้วยกามารมณ์ โลกนี้จะวุ่นวายซักแค่ไหนกัน จากคุณ : ปัณฑา เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 18:21:30

ความคิดเห็นที่ 43 กลับมาเรื่องความรักของเกย์อีกครั้ง หุหุ เอาที่ จขกท ถามนะครับว่าเกย์ต้องรักเพศเดียวกันใช่หรือไม่ ตอบง่ายๆ ครับว่าใช่ ไม่งั้นไม่เรียกว่าเกย์ (อ้าว ก็มันจริง) แล้วเกย์จะรักที่นิสัยหรือเปล่า? ผมเปรียบเทียบให้ฟังอย่างนี้ ถ้าเปรียบคนเราว่าเป็นอาหาร ผู้หญิงเป็นข้าวผัด ผู้ชายเป็นบะหมี่เกี้ยว ถ้าผมไม่เป็นเกย์ ผมก็จะเลือกทานข้าวผัด เพราะเป็นของชอบของผม ถึงจะอร่อยหรือไม่อร่อยก็กิน แต่ถ้าอร่อยก็กินได้นาน แล้วถ้าผมเป็นเกย์ หรือคนที่ชอบเพศเดียวกัน ผมก็ต้องเลือกที่จะกินบะหมี่เกี้ยว แน่นอนว่าเป็นของชอบเหมือนกัน ถ้าเอามาวางสองจาน ผมเลือกได้ ผมก็จะเลือกบะหมี่เกี้ยว หากไม่มีบะหมี่เกี้ยวเลย ผมก็จะยอมอดไม่กินเลย ส่วนนิสัย มันก็เหมือนรสชาติของอาหารนั้นๆ ต้องลองคบลองชิมดูก่อนถึงจะรู้ว่ารสดีหรือไม่ดี ดังนั้นการที่เกย์สักคนนึงจะเลือกคบใคร มันไม่ใช่อยู่ที่นิสัยของเราอย่างเดียว ความต้องการพื้นฐานของเกย์คนนึงก็เหมือนคนทั่วๆไป ถ้าไม่ใช่ของที่กินได้ ก็ไม่กินครับ ถึงแม้จะอร่อยมากแค่ไหนก็ตาม อ่านแล้วงงตัวเองเหมือนกันนิ พิมพ์อะไรไปหว่า จากคุณ : txaxt เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 18:32:01

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่ได้อ่านด้านบน ยาวๆ หรอกนะคะ แต่คิดว่าคงจะคิดเหมือนกัน ตอบให้สั้นๆ เลยว่า เกย์ ที่คนที่ชอบผู้ชายด้วยกัน แต่ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงนะคะ(คือ ภายใจจิตใจไม่ได้เป็นผู้หญิงน่ะ) จากคุณ : moonshine19 เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 18:46:26

ความคิดเห็นที่ 45 อ่านคห.17แล้วเก็ตในสิ่งที่เราคิดมาตลอดเลยค่ะ แล้วก็คิดว่าเข้าใจในระดับที่พอใจซะที ^^ ยังไงเราก็เชื่อว่าคนที่ชอบคนๆนึง อย่างผู้หญิงแท้ที่ชอบผู้หญิงแท้ๆด้วยกัน หรือผู้ชายแท้ที่ชอบผู้ชายแท้ด้วยกัน แต่เป็นกับแค่คนนี้คนเดียว ถ้าเป็นคนอื่นที่เป็นเพศเดียวกันคือไร้ความรู้สึกเลยนี่เราก็ไม่เรียกว่าเกย์หรือเลสเบี้ยนนะคะ เหมือนถ้าไม่ใช่กับคนๆนั้นของเค้า เค้าก็จะเป็นคนปกติที่รักเพศตรงข้ามได้ (แต่ก็คิดว่ามีเปอร์เซ็นต์สูงที่ทั้งชีวิตจะรักคนๆนี้คนเดียวเลย รึเปล่า? เพราะเหมือนมันข้ามเส้นมายังไงชอบกล อืม..เริ่มงงเอง==:;) ตอบๆ แฮะๆ ถ้าเป็นเกย์จริงๆก็ต้องชอบเพศเดียวกันอย่างเดียวค่ะ เกย์ไม่ใช่ตุ๊ดหรือกระเทยแน่นอน ส่วนก้องพี อันนี้เราแอบสงสัยว่าเค้าชอบกันแค่สองคน คือตั้งแต่เกิดมาไม่เคยชอบเพศเดียวกันเลยรึเปล่า เพราะคิดว่าก้องน่าจะไม่รู้ตัวว่าชอบผู้ชาย ตั้งแต่เกิดมาก้องไม่เคยมีแฟนใช่ป่ะคะ ส่วนพี เราก็ยังสงสัยว่าตลอดมาพีชอบผู้หญิง หรือชอบผู้ชายมาตลอด เอิ่ม...ถามซะหยั่งกะเป็นคนจริงๆ เหอๆๆๆๆ ไปถามคุณบอยจะได้คำตอบมั๊ย ฮา~ จากคุณ : [นู๋][เ][บ][น]^^~ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 20:05:38

ความคิดเห็นที่ 46 กระทู้นี้ แต่ละคห. ยาวเฟื้อยเลย โดยเฉพาะ คห.17 สุดยอดดดดดดด จากคุณ : god_junki เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 20:39:24

ความคิดเห็นที่ 47 ศีลข้อ3ไม่เกี่ยวมั้งครับ  แค่พูดกันมากๆจนก่อเกิดเป็นความเชื่อเท่านั้น (เหมือนข่าวลือ ลือมากๆจนกลายเป็นข่าวจริงขึ้นมาไงล่ะ) ฝรั่งไม่มีศีลข้อ3 ความเชื่อเกิดชาติเดียวจบ ก็ยังมีเกย์เต็มบ้านเต็มเมืองเลยน่ะ มันเป็นแค่ความเชื่อส่วนหนึ่งอย่าเอาไปตัดสินทั้งหมดละกัน ส่วนตัวคิดว่าเป็นที่มนุษย์เปลี่ยนแปลงไปมากกว่า เป็นการลดปัญหาประชากรล้นโลก  แม่เหล็กโลกเลยสร้างสมดุลย์ด้วยตัวเองก่อนที่โลกจะแย่ไปกว่านี้ ว่าไปยังกะทฤษฎีGaia เลยน่ะ ส่งท้าย  แล้วงี้พวกที่มาเป็นตอนแก่  นี่คงเป็นกรรมสะสมเหรอครับ คือมีเพื่อนที่ตอนแรกมันก็เป็นผู้ชายดีๆ  มีเมีย  อยู่ๆมันก็เป็นว่ะ   แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 21:41:58 จากคุณ : Kyosuke เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 21:24:58

ความคิดเห็นที่ 48 ความรักคือสิ่งที่สร้งโลก รักแบบไหนก็ย่อมก่อให้เกิดความงดงามในตัวของมันเอง อย่าไปกำหนดเลย รักแบบที่เราเป็นเรา จากคุณ : NaNoMho เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 23:08:09