สลด! ลูกนกแสกทนพิษบาดแผลไม่ไหวตายแล้ว 2 ตัว
|
|
สลด! ลูกนกแสกทนพิษบาดแผลไม่ไหวตายแล้ว 2 ตัว
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เดินทางเป็นประธานเปิดงานวันคุ้มครองสัตว์ป่า ประจำปี 2552 ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จัดขึ้นที่บริเวณสนามหญ้าภายในกรมป่าไม้ ถ.พหลโยธิน โดยมีประชาชนและเยาวชนเข้าร่วมงาน ทั้งนี้นายสุวิทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์สัตว์ป่าของไทยยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากยังคงมีการล่าสัตว์ป่า และค้าสัตว์ป่าอยู่อย่างต่อเนื่องซึ่งเกิดจากความต้องการของคนบางกลุ่มที่ยังนิยมบริโภคสัตว์ป่าอยู่ รวมทั้งปัญหาอื่น ๆ ของสัตว์ป่าที่ยังคงแก้ไม่ได้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายหันมาให้ความสนใจสัตว์ป่ามากขึ้น ทั้งนี้หลังจากกล่าวเปิดงานแล้วนายสุวิทย์ยังได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวนกแสกที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกาวดักหนูด้วย โดยกำชับให้สัตวแพทย์ดูแลอาการของนกทั้งหมดอย่างดีที่สุด
ด้านนายสัตวแพทย์บุรฉัตร ตันประดิษฐ์ นายสัตวแพทย์ ประจำกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยความคืบหน้าอาการครอบครัวนกแสกที่ติดกาวดักหนูจนได้รับบาดเจ็บ ว่า ขณะนี้อาการของครอบครัวนกแสกตัวที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด เนื่องจากขนและผิวหนังหลุด และถลอกซึ่งเกิดจากการที่มันพยายามดิ้นรนหนีกาวดักหนู มีอาการดีขึ้น หลังจากที่สัตวแพทย์ใช้โลชั่นสำหรับเด็กค่อยๆ เช็ดเอากาวออก และใส่ยาที่แผล ร่วมกับการรักษาอาการอื่นๆ จนตอนนี้สามารถที่จะพยุงตัวเองลุกขึ้นยืนได้บ้างแล้ว
อย่างไรก็ตามสำหรับลูกนกแสก ซึ่งก่อนหน้าที่มีข่าวว่ามีแค่ 5 ตัวนั้น จริงๆ แล้วมีอยู่ถึง 7 ตัว ซึ่งมีลูกนก 2 ตัวซึ่งอ่อนแอ และตัวเล็กมากไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้ ทำให้ตายไป 2 ตัว ส่วนอีกหนึ่งตัวสัตวแพทย์ต้องจับแยกออกจากกรงที่เลี้ยงลูกนกด้วยกันเนื่องจากตัวเล็กมากอาจจะถูกตัวใหญ่ทับได้ ทั้งนี้จากการติดตามดูอาการของนกทั้งหมดพบว่ามีอาการดีขึ้น แต่การดูแลนกทั้งหมดค่อนข้างยากโดยเฉพาะลูกนกแสกเพราะลูกนกเริ่มรู้ตัวว่าถูกแยกออกจากพ่อแม่ ไม่เหมือนกับที่เคยอยู่ตามธรรมชาติทำให้มีอาการตื่นกลัว อย่างไรก็ตามจะพยามช่วยชีวิตลูกนกอย่างดีที่สุด
"หลังจากที่มีข่าวของนกแสกออกไป มีประชาชนโทรศัพท์มาแสดงความห่วงใยครอบครัวนกแสกจำนวนมาก รวมทั้งยังมีบางคนแสดงความจำนงจะขอนกทั้งหมดไปเลี้ยงที่บ้าน สัตว์แพทย์ต้องแจ้งว่า คงไม่สามารถจะมอบให้ได้ เพราะว่านกแสกเป็นสัตว์คุ้มครอง หากนำไปเลี้ยงจะถือว่าผิดกฎหมาย สำหรับผู้ที่ต้องการจะช่วยเหลือสัตว์ป่าจริงๆ ก็สามารถติดต่อบริจาค หรือ เข้าร่วมโครงการพ่อแม่อุปภัมภ์สัตว์ป่า ของกรมอุทยานฯ จะดีกว่า เพราะนอกจากจะไม่เป็นการทำผิดกฎหมายแล้วยังเป็นการช่วยสัตว์ได้หลายชนิดอีกด้วย" นายสัตวแพทย์บุรฉัตรกล่าว
จากเว็บกระปุก
จากคุณ |
:
ซูรากัน
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ธ.ค. 52 17:04:39
|
|
|
|