ความคิดเห็นที่ 1 ให้พ่อแม่ใช้วิจารณญาณของตัวเองดีกว่า ว่าลูกอยู่ในวัยไหน หนังที่จะไปดูเหมาะกับเค้าหรือเปล่า จากคุณ : ขอโทษนะ ที่สวยกว่า เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 23:57:33

ความคิดเห็นที่ 2 น่าจะกำหนดอายุของเด็กนะ เมื่อวานไปดูunder the sea ที่ IMAXของสิงคโปร์มา ขนาดมันไม่มีอะไรแค่เป็นสารคดีสัตว์ใต้น้ำ พอปลาที่ซ่อนอยู่ใต้ทรายตะครุบเหยื่อที่ผ่านมาอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยอายุประมาณ3ขวบที่นั่งข้างหน้าก็ร้องไห้แล้ว (แถมเวลานั่งยังเอาเท้าวางเหนือเบาะหน้าด้วย ไม่รู้ว่าคนนั่งรู้ตัวหรือเปล่าว่าน้องเค้าจะเหยียบหัวอยู่แล้ว พอดีโรงIMAXมันชันและที่ว่างข้างหน้ามันน้อย) จากคุณ : cheng (aristocrat) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 00:04:36

ความคิดเห็นที่ 3   ถ้าคนเป็นพ่อแม่ ไม่รู้ว่าหนังเรื่องไหนเหมาะกับลูกหรือไม่ ก็คงไม่มีใครรู้แหละ ขอแสดงความเห็นใจคุณ ขจกท ด้วยค่ะ จากคุณ : Schnuggy ชนุ๊กกี้ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 00:10:17

ความคิดเห็นที่ 4 เราไปดู avatar ของ imaxมา  แล้วนั่งข้างคู่พ่อลูก ซึ่งเรานั่งติดกับลูก เราว่าถึงเด็กอายุประมาณ 6-7 ปี แล้ว ก็ยังรบกวนการดูหนังอยู่ดีอ่ะค่ะ เพราะเด็กที่นั่งข้างเราถามพ่อตลอดเวลา แม้เสียงจะไม่ดังมาก แต่เราซึ่งนังติดกับน้องเค้าก็ได้ยิน ทำให้เสียสมาธิเหมือนกันค่ะ เราว่าผู้ปกครองควรมีวิจารณญานว่าพาลูกมาแล้ว จะรบกวนคนอื่นหรือไม่น่ะค่ะ จากคุณ : Pure Charmmy* เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 00:31:46

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้ามีลูกเล็กแบบไม่ถึง 4-5 ขวบก็อดใจรอแล้วดูที่บ้านเถอะค่ะ โรงหนังไม่ใช่บ้านอีกหลังที่จะมาเลี้ยงลูกค่ะ อย่างน้อย ถ้าไม่รู้จักการเกรงใจคนอื่น ก็น่าจะคิดถึงเรื่องสุขอนามัยลูกตัวเองนะคะ โรงหนังเชื้อโรคน่าจะเยอะสำหรับเด็กๆ ค่ะ ถ้าลูกโตแล้วและอยากพามาดู เช่น 6-10 ขวบเป็นต้น ก็ควรสอนมารยาทในการดูหนัง เทรนสิ่งที่ไม่ควรทำให้ลูกทราบค่ะ อ้อ หมายถึงอบรมมาจากบ้านจนซึมซับนะคะ ไม่ใช่มาสั่งสอน ดุว่ากันในโรงนะคะ มันสายเกินไปค่ะ กลายเป็นการสร้างความรำคาญให้คนอื่นค่ะ ยิ่งถ้าตามใจลูกซะเคย ไม่เคยสอนให้ลูกรู้จักมารยาททางสังคมนี่ แถมตัวพ่อแม่เองก็ไม่คิดจะรู้จัก รวมถึงถ้าลูกเป็นเด็กแสบ พ่อแม่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำห้องดูหนังที่บ้านเถอะค่ะ อย่าได้ไปรบกวนคนอื่นเค้าเลยนะคะ พลีส จากคุณ : By the sea เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 00:50:50

ความคิดเห็นที่ 6 เค้าก็มีเรตติ้งกำหนดไว้ให้แล้วนะคะ จึงไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเหล่านี้ค่ะ จากคุณ : Tai-Sarunya เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 00:57:39

ความคิดเห็นที่ 7 เราก็มีแฟน ส่งน้ำ ส่งป๊อปคอร์นให้แฟนกิน แต่เราไปดูหนังนะเราไม่ได้ทำอะไรกัน ^^ จากคุณ : Alene_ink เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 01:17:53

ความคิดเห็นที่ 8 เรทติ้งดูไม่ศักสิทธิ์เลยนะครับ จริงๆๆ นะ ถ้าโรงหนังไม่บังคับใช้อย่างจริงจัง มีไปก็เท่านั้น จากคุณ : ไอ้วู่ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 01:54:56

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยค่ะ  ว่าเรตติ้งไม่ศักดิ์สิทธิ์อย่างแรง  จริงๆ หนัง Avatar ตามความคิดเรา  มันมีความรุนแรงอยู่มากนะคะ  แม้ว่าภาพจะสวยงาม  ออกแนวการ์ตูน  แต่มันมีความรุนแรง  มีสงคราม  มีการเสียเลือดเนื้อ  อย่าพาเด็กเล็กๆ มาดูเลยค่ะ  เราว่าเค้าไม่สามารถเข้าใจได้หรอก  และมันก็ดูรุนแรงจริงๆนะคะ เราเห็นว่า  โรงหนังนั่นแหละค่ะ  น่าจะมีมาตรการบางอย่างจัดการนะคะ  เพราะเห็นพูดกันมาหลายกระทู้แล้ว  ช่วยโหวตให้เป็นกระทู้แนะนำเลยดีไหมคะ  เผื่อเจ้าของโรงหนังเค้าจะมาอ่านบ้าง   คำว่า "พ่อแม่มีวิจารณญาณ" เห็นด้วยค่ะ  ว่าคงมี   แต่  "มีความเห็นแก่ตนเอง" หรือ "ความอยาก" มากกว่า  จึงทำให้เกิดปัญหาไม่จบสิ้นเหล่านี้นะคะ จากคุณ : Anamiga เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 02:00:37

ความคิดเห็นที่ 10 พ่อแม่ควรทำตามเรตไม่งั้นจะจัดเรททำไม  ส่วนคนดูก็ควรอะลุ่มอะล่วยในบางเรื่อง เช่นถ้าเป็นหนังพวกโดเรมอนหรือการ์ตูนพิกซาร์ก็ให้ทำใจว่ามันไม่ใช่ที่ของเรา ถ้าจะหลบเด็กก็ให้หนีไปรอบดึก  เด็ จากคุณ : drypoint เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 02:40:34

ความคิดเห็นที่ 11   เฮ้อเราก็ไม่เคยเจออ่ะ เวลาไปดูหนังในโรง (แอบโชคดี) แต่ขออย่าเจอเลย ส่วนใหญ่เราชอบเช่าหนังมาดูมากกว่า แล้วก็เรื่องไหนถูกใจก็จะซื้อของแท้เก็บไว้อ่ะค่ะ จากคุณ : KuNniiE เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 02:48:56 A:118.172.105.116 X: TicketID:248016

ความคิดเห็นที่ 12   จงเลือกหนังให้ลูกดู ไม่ใช่เลือกหนังให้ตัวเองดู เมื่อไหร่ที่เลือกหนังเพื่อตัวเองก็อย่าพาลูกไป หรือถ้าคิดว่าให้ดีก็เลือกหนังประเภท "ครอบครัว" ใครเขาก็ว่าอะไรไม่ได้ ผมก็เข้าใจดีถ้าหนังเรื่องนั้นมีเด็กเต็มโรง แต่ไม่ใช่หนังประเภททารุณโหดร้าย แล้วเห็นผู้ใหญ่กระเตงลูก เข้าไปดูด้วย แบบนั้นรับไม่ได้ อารมณ์จะประมาณ "ชักไม่สนุกแล้ว" จากคุณ : ขี้หมูราขี้หมาแห้ง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 03:15:54

ความคิดเห็นที่ 13 ดิฉันเป็นคนรักเด็กเห็นน้องน่ารักนั่งข้างหลังน่ารักดีก็ทำแอ๊บชมกับกิ๊ก แต่กลางเรื่องมันแหกปากร้องดิฉันอยากจะเอาเก้าอี้ฟาดมันยิ่งหนัก จากคุณ : วันๆเอาแต่เล่นเกมส์ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 03:28:38

ความคิดเห็นที่ 14 ถูกทุกข้ออออออออออออออออออออออออออ จากคุณ : isiss12 เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 07:13:01

ความคิดเห็นที่ 15 แต่ก่อนไม่เคยดูหนังในทีวีเลย  เข้าโรงทุกเรื่อง บางวันก็ดูหนังโรงวันละ สองสามเรื่อง ติดๆกัน ถ้าพลาดเรื่องนั้นเรื่องนี้ในโรงก็ต้องฟูมฟายว่า เป็นบาปมหันต์ แต่พอมีลูก...ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด..... ทุกวันนี้การชมภาพยนตร์สนุกๆในแผ่นดีวีดี ...ก็ไม่ทำให้เราตาย จากคุณ : โตมิโต กูโชว์ดะ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 07:58:24

ความคิดเห็นที่ 16 ขึ้นอยู่กับความคิดของพ่อแม่ เท่านั้นเลยค่ะ เมื่อไหร่คิดซะที ว่าโรงภาพยนตร์ไม่เหมาะกับเด็กเล็ก เมื่อไหร่จะเลิกคิดซะที  "ไม่เป็นไรแก ลูกฉันมันอยู่ได้" "ไม่เป็นไรแก ลูกฉันมันชินแล้ว" ถ้าไม่มีใครดูลูกให้ แนะนำว่า รอ DVD จากคุณ : lingaor เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 09:31:38

ความคิดเห็นที่ 17 ฮา กับ 13 555555555555555555555555 จากคุณ : แม่ลูกหมู เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 09:59:27

ความคิดเห็นที่ 18 ขอเสนอความเห็นให้โรงหนังปรับปรุงการวางตำแหน่งเก้าอี้ในโรงหนังค่ะ คือ แยกไปเลย เหมือนจัดโต๊ะสอบ รับรองว่าจะหมดปัญหาการรบกวนกันอย่างแน่นอน ปัญหาโลกแตกเนาะ มารยาทในโรงหนังเนี่ย ทางโรงเค้าเอาสื่อ เอาโฆษณามาเตือนก็แล้ว มันก็ยังมีเล็ดรอด เรื่องเด็กก็เหมือนกัน ผู้ปกครองบางคนก็คิดอะไรแปลกๆ พาลูกไปดูหนังบางเรื่องที่มันไม่น่าจะพาไปดู แต่ถ้าไปดูการ์ตูนแล้วเจอเด็กเยอะๆ อันนี้แนะนำนะคะ เราเคยไปดูอยู่การ์ตูนอยู่เรื่องนึง เด็กเต็มโรง คิดในใจ เอาแล้วตู จะดูยังไงเนี่ย ผิดคาดค่ะ รอบนั้นสนุกมาก คือเด็กตลก ก็จะหัวเราะดังมาก ฉากตื่นเต้นแกก็จะ โอ๊ อ๊า เหออออออออออออ สนุกดีค่ะ จากคุณ : pagee3324 (Pagee3324) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 10:02:53

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับความคิดเห็นทั้งหมดนะคะ แต่แอบเสริมความคิดตัวเองว่าคงจะดีหากโรงหนังมีห้องเล็กๆซักหนึ่งห้อง บริการดูแลเด็กที่พ่อแม่จะเข้าดูหนัง มีพี่เลี้ยงมีขนมของว่าง มีกิจกรรมให้เด็กๆทำ โรงหนังก็คิดค่าบริการไป จะดีหรือป่าวไม่รู้นะคะ  เป็นอีกหนึ่งความคิดเห็นค่ะ จากคุณ : pukapae เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 10:33:02

ความคิดเห็นที่ 20 สมัยเป็นเด็ก เวลาร้องขอคุณพ่อคุณแม่ให้พาไปดูหนัง ท่านจะกำชับก่อนอ่ะค่ะว่าต้องเงียบนะ ต้องนิ่งนะ ถ้าไม่นิ่งจะกลับบ้านทันที ก็ได้ไปดูค่ะ แล้วจำได้เลย ตอนนั้นไปดู "กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์" แล้วช่วงแรกๆมันจะเนือยๆๆๆๆ ก็เบื่ออ่ะค่ะ ก็เป็นเด็ก ก็งอแง ก็เลยได้กลับบ้านค่ะ ก่อนที่อีกสองวันท่านจะพาไปดูใหม่ คราวนี้อิชั้นก็เลยนั่งนิ่งดูได้จนจบ และไม่งอแงอีกเลยในหนังเรื่องต่อๆมา จากคุณ : มายูมะ (Auriquelle de Lasniere) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 11:42:30

ความคิดเห็นที่ 21 จริง รำคาญมากเลยอะ me/โหวตข้อ2 จากคุณ : Strawberry Fields Forever เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 11:58:24

ความคิดเห็นที่ 22 ส่วนตัวนะ คิดว่าเป็นพ่อเป็นแม่คนแล้วน่าจะคิดได้ค่ะว่าอะไรสมควรหรือไม่สมควร นอกซะจากพ่อแม่เป็นแวนท์บอย สก๊อยเกิลล์ ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ การตัดสินใจอาจไม่ดีพอ แต่ถ้าให้โหวตตามโพลกดเบอร์๓ ไปค่ะ จากคุณ : ฆาตกรตัวจริงคือคุณหมีหูห์ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 12:18:26

ความคิดเห็นที่ 23 ตามหลักการณ์ทำตาม #1 ง่ายสุด และมีประสิทธิภาพสุด แต่ในทางปฏิบัติปัญหาที่เกิดคือคนที่มีลูก แตไม่มีวิจารณญาณเยอะมาก  มันถึงได้เป็นแบบนี้ คงต้องเอากฏหมายมาบังคับใช้ จากคุณ : นีโม่จัง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 12:59:56

ความคิดเห็นที่ 24 ความเห็นของคุณ  pukapae เข้าท่านะครับ ถ้าค่าบริการไม่แพงก็น่าสนใจครับ กลับมาที่ประเด็นเจ้าของกระทู้ ถ้าหากว่าผู้ปกครอง ดูแลลูกให้เงียบสงบ ไม่รบกวนคนอื่นได้ตลอดเวลาของหนังฉาย อยากถามว่า แล้วคุณจะถือสิทธิอะไรมาริดรอน สิทธิของคนอื่นล่ะครับ ? โรงหนังเป็นของคุณหรือก็ไม่ใช่ ถ้าเป็นของคุณ คุณก็ตั้งกฏเกณฑ์อะไรต่างๆของคุณได้ครับ แล้วเชือใหมครับ ที่ตอบกันแสนดีในกระทู้เนี่ยนะ มีกี่คนที่มีบุตรหลานแล้วครับ ขอถามหน่อย ? พูดตรงๆผมประหลาดใจเหมือนกัน ในเน็ทเนี่ย คนที่ยังไม่เคยมีครอบครัว ไม่เคยมีลูก แต่ไหง๋เก่งกล้า สอนวิธีการเลี้ยงลูกให้คนที่เขามีครอบครัวกันแล้วได้หนอ ? เอาความเก่งกล้ามาจากใหนครับ อยากรู้จริงๆ ... อ้อ เอ อ่านกระทู้นี้แล้วไม่แน่ใจว่า จขกท ต้องการ " ความเห็น " หรือต้องการ " ความเห็นด้วย " กันแน่ครับ ??? จากคุณ : joblovenuk เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 13:36:05

ความคิดเห็นที่ 25 คนพวกนั้น คงยังไม่พร้อมที่จะมีลูกมั้งครับ เลยไม่สามารถที่จะรับผิดชอบลูกหลานของตนได้ ถ้าเป็นผม และผมเคยทำแล้ว (ไม่ใช่ลูกผมนะ แต่ผมรับผิดชอบอยู่ ณ ขณะนั้น) ผมพาออกจากโรงเลย เกรงใจคนอื่นเค้า จากคุณ : SuperTee (itCrazy) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 13:48:37

ความคิดเห็นที่ 26 จริงๆเราว่าถ้าไม่เจอกับตัว จะไม่รู้สึกนะ คำถามนี้ นอกจากถามคนที่ไม่มีลูก สามารถไปดูหนังได้อย่างอิสระ ยังควรยังควรถามความรู้สึกคนที่มีลูกแล้ว แต่ไม่สามารถปลีกตัวจากลูกไปได้ แล้วถ้าเค้าอยากดูหนังละ ถ้าดู DVD สนุกเหมือนดูโรงหนัง... แล้วเราจะเสียเงินต่อคนเพื่อเข้าไปดูทำไม แต่ก่อนยังไม่มีลูกก็ไม่เคยรู้สึกนะ แต่พอมีลูกแล้ว จะให้ทำยังไงละ เราก็อยากดู ฝากใครก็ไม่ได้ ลูกเราออกจะน่ารัก ใครๆก็มองว่าลูกเราเป็นภาระ จนน้อยใจ และเลิกฝาก แต่เป็นคนไม่ใช่คอหนังอยู่แล้ว ที่ติดตาม ต้องดูให้ได้ก็มีแต่ harry potter อะค่ะ ปกติไปดูหนังเราซื้อขนมให้ลูกกิน กินเสร็จลูกก็หลับ ไม่เคยโวยวายให้ใครๆเก็บมาด่า ไม่เคยถีบคนข้างหน้าด้วยนะค่ะ สอนมาอย่างดี ลูกเรามีมารยาทตั้งแต่ยังไม่เข้าอนุบาล เลยค่อนข้างได้ใจ ล่าสุดนี่เข็ดมาก พาลูกไปเที่ยวหัวหิน1คืนกลับมาแฟนอยากดูอวตารมาก เราก็บอกแล้วว่าวันนี้ไม่เหมาะนะ ลูกๆเหนื่อยกลัวจะงอแง แต่แฟนอยากดูสุดๆ ถ้าวันนี้ไมได้ดูมีงอนแน่นอน สุดท้ายเราต้องย้ายที่จากแถวJ ไปอยุ่แถวหลังสุด(ยิ่งกว่า top late) ก็คือ หลังม่านดำ เลยค่ะ เพราะลูกไม่ยอม ตอนที่ลูกร้องนี่เราก็หิ้วออกนอกโรงเลย หยุดแล้วค่อยเข้ามาดู เราก็เป็น หนึ่งที่พาลูกไปดูหนังนะ แต่รับรองว่าไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร และมีสามัญสำนึกพอ มีความเกรงใจเท่าที่คนๆนึงจะมีได้ ไม่งั้นจะไปยืนดูหนัง 3ชั่วโมงที่หลังม่านดำหรอ - - ปล.ขณะดูอวตารลูกสาวคนเล็กก็คอยตบแว่นสามมิติของแม่มัน ทรหดจริงๆ - - จากคุณ : กระต่ายเป้าหลง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 14:44:23

ความคิดเห็นที่ 27 จะไปกำหนดกฎเกณฑ์ คงลำบากเพราะบางครั้งเด็กยังเล็กแต่ถ้าพ่อแม่สอนมาดี ไม่ได้รบกวนก็คงไม่มีอะไร ส่วนจะให้อิงจากวิจารณญาณพ่อแม่คงลำบากเนื่องจากแต่ละคน คิดต่างกัน ไม่งั้นคงจะไม่มีคนมาบ่นเรื่องนี้ซ้ำไปมาแบบทุกวันนี้ ส่วนตัวถ้ามีเด็กไปด้วย เค้าทำเสียงดังเราเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องตักเตือนถ้าไม่ฟังก็ต้องพา ออกไปด้านนอกแทน เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่น ที่เคยเจอมาไม่รู้ว่าอาจจะเตือนแต่ลูกไม่ฟัง ก็ไม่รู้จะทำไงแล้ว ปล่อย ส่วนพ่อแม่ดูหนังต่อ เข้าใจว่าผู้ปกครองบางท่าน อาจจะมีเหตุจำเป็นที่จะต้องพาลูกมาด้วย แต่เราเองก็ต้อง เคารพสังคมรอบข้างด้วยใช่มั้ยคะ ส่วนตัวคิดว่า ถ้าโรงหนังสามารถแยก หรือจัดโซนสำหรับ คนที่พาลูกมาด้วยได้ก็จะดี อาจจะมีฉากหรืออะไรที่ปิดกั้นเสียงได้ แต่สำหรับปัจจุบัน คิดว่าน่าจะมีกฎสำหรับเสียงรบกวน เตือน ปรับ อันนี้น่าจะรวมถึง คนที่คุย โทรศัพท์ในโรงหนังด้วยนะคะ ไปดู Avatar มาเหมือนกันค่ะ และก็เจอผู้ปกครองที่พาลูกมาเสียงดังตลอดครึ่งเรื่องหลัง เค้านั่งชั้นบนก็เลยได้ยินกันทั่วทั้งโรงค่ะ จากคุณ : Kraft WerK เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 14:52:45

ความคิดเห็นที่ 28 บอกตรงๆ เรารู้สึกกับ"คนประเภทนั้น"ว่า เห็นแก่ตัวค่ะ อาจเพราะประสบการณ์ตรง เด็กที่เข้าโรงที่เราเคยเจอ ย้ำนะคะ ที่เราเคยเจอ ประมาณ 7-8 ครั้ง สร้างปัญหา "ทุกครั้ง" ค่ะ ไม่ว่าจะงอแง โวยวาย วิ่งเล่น คร่ำครวญ ที่เราโกรธที่สุดคือ เราไว้ผมยาวค่ะ นั่งทับผมตัวเองเป็นเรื่องปกติ เวลาดูหนังเราจะรวบมาพาดบ่าไว้ข้างหน้า มีครั้งนึงโดนเด็กน่าจะ 3-4 ขวบได้ แอบล้วงมาดึงผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่รู้ตอนโดนดึงกระชากหน้าหงาย คาดว่า "มัน" คงเอามือซนๆของมันล้วงมาข้างเบาะเล่นซักพักแล้ว พอหันไปเจอพ่อแม่เค้า กลับบอกว่า เด็กมันไม่รู้เรื่อง จะให้ทำยังไง เหตุผลน่าขึ้นโรงพักมั๊ยหล่ะคะ แต่พอดีไปกับพี่ พี่เค้าบอกว่า ถึงขนาดเอา"สิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้" เข้ามารบกวนคนอื่น คงพูดแบบคนมีการศึกษาไม่รู้เรื่องหรอก เราเลย calm down ลงมา เออ เรามันยังไม่มีลูก ทุกวันนี้ดูแลแต่น้องอายุ ขวบ1เดือน ตั้งแต่ได้รับมอบหมาย ขนาดพี่เคน เรายังต้องรอแผ่น ขับรถยังต้องใช้baby seat  งดเที่ยว จะทำอะไรได้ก็ตอนเอาไปส่งnurseryแล้ว เพราะนั่นคือความรับผิดชอบของเรา อย่ามาว่าเรื่องไม่มีลูกเลยค่ะ นี่เป็นคำถามสดๆร้อนๆที่ไปสัมภาษณ์มา คำถาม ตอนมีลูกเล็กแล้วอยากไปดูหนังโรง คุณจะทำอย่างไร? คุณแม่ "ไม่ได้ดูตั้งแต่คลอดหนูจนหนูโต กลับไปดูหนังอีกทีตอนมนุษย์หินฟลิ้นสโตนฺ์ เพราหนูดูรู้เรื่องแล้ว" คุณพ่อ "แอบไปดูก่อนกลับบ้าน" -*- พี่แม่บ้าน(เขมรพูดไทยได้) "จะเอาลูกพี่เข้าไปได้ไง เกิดมันร้องขึ้นมา คนเค้าด่ากัน จะดูก็ให้ย่ามันเลี้ยง" เราถามต่อ "ถ้าย่าเค้าไม่ว่างอ่ะ แล้วพี่ก็อยากดูมากๆ" พี่แม่บ้าน"ก็อดดู จะเอาเด็กเล็กๆไปให้คนอื่นด่าได้ยังไง" ก๋ง "ไม่ดูแล้วมันจะตายมั๊ยหล่ะ" (- -" หนูถามเฉยๆ) ขอนอกประเด็นนิดนะคะ สงสัยแต่ไม่เคยได้ถาม ทำไมเวลาดูหนังที่ต่างประเทศ (lakewood CA) ฝรั่งเค้าถึงจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้านเวลาตัวเองอยากออกไปข้างนอกทั้งคู่หล่ะคะ เค้ามีจิตสำนึกมากกว่า หรือเค้ามีกฏหมายเข้มข้นกว่า เพราะไม่เคยเจอเด็กก่อกวนในโรงแม้แต่ครั้งเดียว ปล.เกลียดโคตรๆ ไอ่พวกเอาความสะดวกสบายของตัวเองไปเบียดเบียนความสุขคนอื่น แก้ไขเพิ่มเติม อาจจะแรงไปนิสนะคะ แต่อ่านแล้วนึกถึงตัวเอง ทำไมทีเราเกรงใจคนรอบตัว ไม่อยากสร้างความรำคาญให้ใคร กลับถูกเอาเปรียบจากพวกรักสบายแล้วไม่รู้จักสำนึกหล่ะคะ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 53 17:25:24 จากคุณ : kenjeena เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 17:17:24

ความคิดเห็นที่ 29 พ่อแม่อย่าเห็นแก่ตัวก็พอค่ะ ก็รู้อยู่ว่าลูกตัวเองยังเล็กและเขาไม่สามารถจะนั่งทนอยู่บนเก้าอี้นิ่ง 2 ชั่วโมงแบบผู้ใหญ่ได้หรอก ดังนั้นอดทนค่ะ รอให้ลูกโตก่อนค่อยพาเขามาดูหนัง(อันนี้กฏของพ่อแม่เรานะคะท่านทำแบบนั้น) แต่กรณีหนังการ์ตูนเด็กก็อีกเรื่องหนึ่ง ควรจำกัดอายุผู้ชมไว้ที่ 7 ขวบอัพอะไรก็ว่าไป แต่ยังไงก็ต้องรู้ว่าลูกตัวเองมีพฤติกรรมที่รบกวนคนอื่นไหม ทุกอย่างต้องเริ่มจากพ่อแม่ เด็กเขาจะไปรู้อะไร แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 53 18:44:49 จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 18:43:51

ความคิดเห็นที่ 30   ให้โรงหนังทำสนามเด็กเล่นให้เด็กแบบแมคโดนัลด์ แต่ต้องเก็บเสียง ด้วยนะครับ จ้างพนักงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก พอหนังเลิก พ่อแม่ก็มารับลูกตัวเอง แบบเดียวกับที่ต้องฝากกระเป๋า ฝากกล้องถ่ายรูปน่ะ จากคุณ : ขี้หมูราขี้หมาแห้ง เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 02:07:18

ความคิดเห็นที่ 31 ขอเบรกข้างบนนิดนึงนะครับ เอาเด็กเข้าโรงหนัง เด็กหลายคนอาจจะมีปัญหา อาจจะส่งเสียงรบกวน อาจจะก่อกวน แต่ไม่ใช่เด็กทุกคนที่เป็นแบบนั้นครับ !! อ่อ ฝรั่งพี่เลี้ยงเด็ก ตอนพ่อแม่ออกไปข้างนอก ? ประทานโทษครับ ในเมืองไทยมีอาชีพแบบนั้นใหมครับ คุณจะกล้าฝากเด็กกับพี่เลี้ยงพม่า หรือเพื่อนบ้าน หรือใครไม่รู้เหรอครับ ? เกิดเด็กเป็นอะไรไป บ้านโดนยกเค้า เด็กโดนทำร้าย ใครรับผิดชอบครับ ? อย่าคิดง่ายๆ แล้วที่สำคัญ คุณ kenjeena ถ้าคุณมีลูกซะเอง หวังว่าคงจะไม่เปลี่ยนคำพูด และทำตัว " เห็นแก่ตัว " ซะเอง อย่างที่คุณว่าคนอื่นนะครับ ส่วนที่คุณเสียงจากบ้านนา บอกว่า เด็กไม่สามารถทนนั่งนิ่งๆสองชั่วโมงในโรงหนังได้หรอก อยากถามว่า คุณเคยมีลูกหรือเปล่าครับ ? ถึงได้ทราบว่า เด็กเล็กทำแบบนั้นไม่ได้ ? จากคุณ : joblovenuk เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 12:53:38

ความคิดเห็นที่ 32 สร้างเนิสเซอรี่ที่ห้างเพื่อให้พ่อเเม่ผู้ปกครองสามารถฝากเด็กไปดูหนัง ช็อปปิ้งได้ตามสะดวก พอเสร็จธุระก็มารับกลับ วินๆทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ต้องกำหนดโทษหรอก เเค่ทางห้างหาทางออกหรูๆก็พอเเล้ว จากคุณ : fukaze เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 18:03:51

ความคิดเห็นที่ 33 คุณ kenjeena ถ้าคุณมีลูกซะเอง หวังว่าคงจะไม่เปลี่ยนคำพูด และทำตัว " เห็นแก่ตัว " ซะเอง อย่างที่คุณว่าคนอื่นนะครับ กะแล้วว่าจะต้องโดน เรื่องจิตสำนึกมันอยู่ที่การเลี้ยงดูค่ะ ทุกวันนี้ก็ดูแลเด็กอยู่ แต่ด้วยจิตสำนึกที่คุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังมาตั่งแต่เด็ก เลยทำให้เป็นคนเกรงใจชาวบ้านค่ะ แล้วตอนอยู่เมืองนอกเราก็ไม่ได้ประกอบอาชีพนั้นค่ะ เวลาเพื่อนคุณอาไปข้างนอก เค้าก็จะโทรมาถามว่าเราว่างไปดูลูกเค้ามั๊ย ถ้าเราไม่ว่าง เค้าก็จะหาคนอื่น ใช่ค่ะ มันมีอชีพคนรับเลี้ยง แต่ส่วนใหญ่เค้าจะไหว้วานคนรู้จักก่อนโนดยให้ค่าตอบแทนบ้าง แหม ใส่อารมณ์ซะเห็นขนาดของโลกทัศน์ทีเดียวเลยเชียว อย่าเอาพื้นแพเดิมของจิตใจตัวเองตัดสินคนอื่นค่ะ เพราะมันจะยิ่งทำให้คนอื่นเห็นธาตุแท้ ที่แม้ว่าหลายคนจะรู้ๆกันอยู่ของคุณมากยิ่งขึ้น สมคำร่ำลือจริงๆ ขออีกทีนะ ปล.เกลียดโคตรๆ ไอ่พวกเอาความสะดวกสบายของตัวเองไปเบียดเบียนความสุขคนอื่น ปล.๒ ถ้าคุณไม่ใช่คนที่สร้างปัญหา จะมาเดือดร้อนกับหัวข้อที่เค้าถกกันถึงเด็กที่ชอบสร้างปัญหาในโรงทำไม ทำยังกะเคยเอาลูกเข้าโรงหนังแล้วโดนคนอื่นต่อว่า ปล.๓ น่าจะให้มีการตรวจสุขภาพจิตก่อนมีลูกนะเนี่ย ออกเป็นกฎหมายไปเลย ไม่งั้นคงได้ดูหนังเรื่อง::: I D I O C R A C Y ::: กันสดๆแน่ จากคุณ : kenjeena เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 15:55:38

ความคิดเห็นที่ 34 *33 ให้ 3 แต้มแบบไม่ลังเลเลยค่ะ คนไม่มีลูก ไม่มีสิทธิรำคาญลูกคนอื่นที่มาทำความเดือดร้อน ให้เราเนอะ จากคุณ : lingaor เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 17:13:39

ความคิดเห็นที่ 35 ความเห็นส่วนตัวของคุณ สิทธิของคุณครับ เพราะดูจากหน้าตาแล้ว คุณน่าจะมีอายุไม่มากเท่าไหร่ ผมจะยกให้แล้วกัน ตรงนี้เข้าใจ ติดใจอย่างเดียว คำพูดนี้ครับ ถ้าคุณไม่ใช่คนที่สร้างปัญหา จะมาเดือดร้อนกับหัวข้อที่เค้าถกกันถึงเด็กที่ชอบสร้างปัญหาในโรงทำไม ทำยังกะเคยเอาลูกเข้าโรงหนังแล้วโดนคนอื่นต่อว่า ผมไม่เคยสร้างปัญหา และคนที่รู้จักครอบครัวผมดี ก็จะเข้าใจ แต่มีพวกเด็กวุฒิภาวะต่ำแถวนี้บางคน .... ด่าครอบครัวผมเช็ดเม็ด ที่พาเด็กเข้าโรงหนัง ทั้งๆที่ลูกผม ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครเลยสักนิด ทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักผม ไม่ได้เคยเลี้ยงเด็ก ไม่ได้มีประสบการณ์ชีวิตอะไรเลยด้วยซ้ำ ดันจะมาสอนวิธีการเลี้ยงลูก ก็อยากจะบอกว่า ไว้ให้มีเอง แล้วทำให้ได้อย่างที่พูด แค่นี้แหละครับ ... ขอบคุณ .... แถมท้าย อย่าเอาพื้นแพเดิมของจิตใจตัวเองตัดสินคนอื่นค่ะ < == ระวังมันเข้าตัวนะครับ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 53 18:31:04 จากคุณ : joblovenuk เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 18:29:07