PANTIP.COM : A8723789 ---ในโอกาสครบรอบ 2 ปี ช่องทีวีไทยที่จะมาถึงนี้ อยากให้เสนอแนะแนวทางการทำงานและให้คะแนนกับช่องทีวีไทยหน่อย--- [วิทยุ-โทรทัศน์]

ความคิดเห็นที่ 12

ด้วยความที่ดูพัฒนาการของสถานีโทรทัศน์องนี้มาตลอด 2 ปี

จริงๆ ถามว่าคุณภาพแย่เกินไปมั้ย ก็คงไม่ แต่ถามว่าดีพอรึยัง ก็ตอบได้ว่ายังไม่พอแน่ๆครับ

1. เรื่องข่าวและรายการข่าว
ทีวีไทยเปลี่ยนการนำเสนอจากข่าวที่ตามกระแสและเหตุการณ์ประจำวัน ออกมาเป็นข่าวที่ส่วนใหญ่เป็นรายงานพิเศษ สกู๊ป เป็นข่าวที่เน้นในเรื่องของสิทธิ ความเท่าเทียม และคุณภาพชีวิตแบบเจาะลึกถึงแก่นมาได้เกือบปีแล้ว

ซึ่งข่าวแบบนี้ ไม่ค่อยใช่สถานการณ์ปัจจุบันครับ

แต่ทีวีไทยเลือกที่จะเจาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานานแล้วและมีผลกระทบต่อคนเป็นจำนวนมากๆ และค่อนข้างละทิ้งข่าวเหตุการณ์เล็กๆย่อยๆ ที่เกิดขึ้นในรอบวันไปเกือบหมด เช่น ข่าวอาชญากรรมเล็กๆน้อยๆ ยกเว้นข่าวที่มีผลกระทบต่อคนหมู่มาก อาทิ ข่าวความไม่สงบใน 3 จว.ใต้ หรือข่าวนโยบายรัฐ การเมือง ที่ยังคงเป็นข่าวตามเหตุการณ์ประจำวันที่ยังมีอยู่

ถามว่าการทำข่าวแบบนี้มีข้อดีข้อเสียมั้ย ตอบได้แน่นอนครับว่ามี ข้อดีก็คือผู้ชมจะได้เห็นมุมมองของข่าวที่เป็นมุมใหม่ๆ และไม่ตามกระแสแบบช่องฟรีทีวีหลักอื่นๆ ซึ่งจะได้ประโยชน์ในเรื่องการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในปัญหาต่างๆไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น

แต่ผมว่าข้อเสียมันก็พอสมควรครับ

ข้อเสียของข่าวแบบนี้ก็คือ ความไม่ทันสมัยและไม่โดนใจมากนัก ถ้าเทียบกับข่าวเหตุการณ์ประจำวันที่ช่องอื่นมีนำเสนอมากกว่า และนำเสนอได้ตรงใจชาวบ้านมากกว่า คงต้องยอมรับนะครับว่าเราคงไม่อยากเสพข่าวที่หนัก และออกแนววิชาการจนเกินไปมากนัก และจุดนี้เองที่ทำให้ทีวีไทยได้ลูกค้าในกลุ่มของคนที่ต้องการเป็น "ผู้สืบสวน" แต่เสียลูกค้าในกลุ่ม "คนธรรมดา" ไปโขทีเดียว

รวมทั้งการนำเสนอก็ไม่ได้ใช้ภาษาที่ดึงดูดผู้ชมมากกว่าช่องอื่นๆ ส่วนใหญ่เวลารายงานข่าวใช้ภาษากึ่งทางการ ซึ่งแม้ช่อง 7 จะมีการนำเสนอข่าวคล้ายๆกับทีวีไทย คือไม่เล่าข่าว แต่ช่อง 7 ก็สามารถสร้างความป็นกันเองให้เกิดขึ้นได้มากกว่าทีวีไทยหลายเท่าตัว (ตัวอย่างรายการข่าวของทีวีไทยที่ใช้ภาษาได้น่าฟัง คือทีวีไทยสุดสัปดาห์ และข่าวเช้า สังเกตว่าทั้ง 2 รายการนี้จะใช้ภาษาที่อ่อนกว่าข่าวช่วงอื่นๆ มากๆ)

ด้านเทคนิคการนำเสนอ ทีวีไทยใช้กราฟิกได้ดี เรียบง่าย สละสลวย เป็นสากล แต่ยังมีการผิดพลาดทางเทคนิคเกิดขึ้นเป็นประจำ ซึ่งไม่ควรจะเกิดบ่อยๆ อีกแล้วกับสถานีที่ต้องการเครดิตจากคนไทยทั้งประเทศนะครับ

ฉะนั้นถ้าทีวีไทยต้องการคนดูข่าวมากกว่านี้ ทีวีไทยต้องแก้ไขในเรื่องเหล่านี้ให้ได้ ผละออกจากการนำเสนอแบบสกู๊ปแล้วหันไปสนใจสถานการณ์ประจำวันให้มากขึ้นกว่านี้ (แต่ก็ไม่ได้ทิ้งสกู๊ปแบบเดิม แต่เอาให้มันสมดุลกัน) และจะต้องปรับการนำเสนอให้ดึงดูดและเป็นกันเองมากกว่านี้ด้วยนะครับ

ส่วนเรื่องความเป็นกลาง ในมุมมองส่วนตัวของผม ทีวีไทยเป็นกลางได้พอสมควรแล้วครับในช่วงนี้ แต่จะให้ดีก็เอากลางๆเที่ยงๆไปเลยครับ

2. รายการทั่วไป
คงต้องยอมรับนะครับว่า แทบทุกรายการของทีวีไทยเป็นรายการที่มีสาระให้คุณค่าข้อคิดแก่ผู้ชมดีมาก ทั้งรายการสาระบันเทิง สาระประโยชน์ และรายการเด็ก แต่ทีวีไทยอาจจะลืมไปในจุดที่ว่า การที่จะดึงดูดผู้ชมได้ จะต้องมีการโปรโมต หรือประชาสัมพันธ์ และการหยั่งกระแสตอบรับจากผู้ชมให้มากกว่านี้

ทุกวันนี้รายการของทีวีไทยไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายนัก เพราะไม่เกิดกระแสในหมู่ผู้ชม ไม่มีการโปรโมตที่เด่นชัดเท่าที่ควร มันคงจะน่าเสียดายนะครับถ้ารายการน้ำดีแบบนี้ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ชม

แต่บางรายการก็ยังต้องมีข้อปรีบปรุงอยู่นะครับ ก็คือการทำรายการให้น่าสนใจ น่าดึงดูดมากกว่านี้ แม้จะเป็นสาระ แต่ถ้าเป็นสาระที่น่าเบื่อก็เสียลูกค้าได้เช่นกันครับ ถ้าทีวีไทยปรับปรุงได้จะมีผู้ชมเพิ่มขึ้นอีกมากโขมากๆ เลยทีเดียวครับ

3. การบริหารของ สสท.
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในปีนี้ ทีวีไทยเสียคนข่าวชื่อดังไปถึง 2 คน ได้แก่คุณกรุณา บัวคำศรี (เสียไปให้กับช่อง 3) และคุณธีรัตถ์ รัตนเสวี (ซึ่งตอนแรกบอกว่าย้ายไปทำงานในสำนักโทรทัศน์ของ สสท. แต่ทำไปทำมาก็ลาออกจริงๆ จนได้ และปัจจุบันไม่รู้ว่าพี่เก๋จะไปอยู่กับช่องไหนต่อ) แต่ไม่ว่าทั้ง 2 ท่านจะลาออกไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม นั่นหมายถึงรอยรั่วและมีปัญหาเกิดขึ้นในการบริหารภายในขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือสสท. เจ้าของสถานีทีวีไทยอย่างแน่นอน เพราะหากไม่มีปัญหาและการบริหารราบรื่นแล้ว ย่อมไม่เกิดเหตุการณ์เสีย 2 คนข่าวเช่นนี้เกิดขึ้น (และดูเหมือนรายหลังจะจากไปแบบช้ำๆด้วย)

แม้จะไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในสสท. แต่ปัญหาเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ สสท.ต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุด เพราะนั่นสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารของบอร์ด สสท. และความไม่มีเสถียรภาพของระบบการบริหารแบบ "องค์การ" ที่ไม่เหมือนกับแบบระบบบริษัทเหมือนไอทีวี และอาจส่งผลถึงความมั่นคงของทีวีที่เพิ่งเกิดใหม่อย่างทีวีไทย ถ้ารากฐานไม่ดี หรือข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง ก็มีสิทธิ์ล้มจบเห่ได้เหมือนกันนะครับ เราคงไม่อยากเห็นทีวีไทยต้องเสียคุณประวีณมัย คุณชัยรัตน์ คุณกมลวรรณ คุณณัฎฐาหรือคุณอรชุนให้ช่องอื่นๆเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้น เพราะนั่นหมายถึงทีมข่าวทีวีไทยจะไม่เหลือใครไว้ให้เป็นตัวยืน หรือเป็นที่เชิดหน้าชูตาของทีวีไทยได้อีกเลย และคงจะต้องสร้างเครดิตขึ้นมาใหม่กันอีกยาวล่ะครับ สำหรับทีมข่าวที่ไร้ตัวยืนเรียกเรตติ้งจากผู้ชม

นั่นคือสิ่งที่ผมอยากฝากให้ผู้บริหารของสสท. ได้รับฟังแล้วนำไปพิจารณาในโอกาสครบรอบ 2 ปีของทีวีไทยและของ สสท.นะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างพูดออกมาจากใจปรารถนาดีที่เห็นความล้มลุกคลุกคลานของคลื่นความถี่ช่องนี้ และแอบเป็นกำลังเอาใจช่วยมาตั้งแต่ยุคไอทีวี ทีไอทีวี ทีพีบีเอส ไทยพีบีเอส ทีวีไทยทีวีสาธารณะ และทีวีไทยในปัจจุบันครับ ผมอยากเห็นทีวีไทยใช้เงินภาษีของประชาชนให้คุ้มค่า และเป็นเสาหลักของวงการสื่อสารมวลชนไทยในอนาคตแบบนี้ ซึ่งจากตรงนี้ก็คงต้องแก้ปัญหาและเดินหน้าต่ออีกหลายก้าวนะครับกว่าจะถึงจุดนั้นได้ ยังไงเสียก็ขอเป้นกำลังใจให้ทีมข่าว ทีมงานรายการ พนักงานทุกฝ่ายของทีวีไทย ตลอดจนบอร์ดของสสท. เช่นกันครับ ขอให้ตั้งใจพัฒนาสื่อสาธารณะช่องนี้ให้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริงตลอดไปนะครับ

ทีวีไทยจะเป็นทีวีสาธารณะที่ทรงคุณค่าสำหรับสังคมไทย ถ้ามีการพัฒนาที่ยั่งยืนมากกว่านี้ สุขสันต์วันเกิด 2 ปีทีวีไทยครับ

จากคุณ : PSK

เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 21:54:13 A:58.64.93.133 X: TicketID:214877