 |
ความคิดเห็นที่ 18 |
ที่แตกกระทู้นี้มาก่อนเพราะว่า เดี๋ยวถ้าโพสที่กระทู้เก่าเยอะๆ แล้วมันด๋อยหนักกว่าเดิม จะแตกลำบากน่ะค่ะ
จบนะคะ คุยเรื่องอื่นแล้ว อยากจะชื่นชมแทคมานานละ ขอชื่นชมแทคละนะคะ
แทคจ๋า....แทคเก่งมา หัวกระทิเลยนะเรา ถ้าแทคจะไปเป็นคุณหมอ เค้าก็จะตามไปเป็นคนไข้ให้รักษาล่ะ รักนะ 
...........................................................................
สัมภาษณ์จากหนังสือพิมพ์ Chosun Times: อ๊ก แทคยอน ชาวเกาหลีแห่ง G-Generation 02 Jan 2010 Credit: Kor-Eng Janne@2pm-online Eng-Thai by Kagetsu Crackerbaby K.@2pm-online/ Coordinator: Cassina@2pm-online.com
Oneday Roomชาว เกาหลีที่เป็น G-Generation จะเป็นผู้นำไปสู่ศตวรรษใหม่ ไม่ต้องการการประสบความสำเร็จที่ไร้ข้อผิดพลาด แต่มุ่งไปโลกพิเศษที่สร้างด้วยน้ำมือของตัวเอง
แทคยอนเข้าเรียนไฮสคู ลที่กรุง บอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 2005 และมีอนาคตที่อยู่บนเส้นทางมั่นคง เขาเป็นนักกีฬาและมีรูปร่างสมส่วนด้วยส่วนสูง 185 ซม. พร้อมน้ำหนัก 76 กก. และเกรดเฉลี่ยที่ทำให้เขาเป็น 5% แรกของนักเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีเกรดเฉลี่ยสูง รวมถึงยังเป็นสมาชิกของ National Honor Society ซี่งผู้ที่เข้าร่วมสมาคมนี้ได้ต้องเป็นนักเรียนระดับต้นและมีความประพฤติดี ในช่วงปีที่ 2 ของไอสคูลเข้าได้รับการตอบรับจาก University of Massachusetts เพื่อศึกษาต่อ อาชีพในฝันของเขา คือแพทย์หรือนักธุรกิจ
ชัว ิตของชายหนุ่มคนนี้ถูกสั่นคลอนเมื่อเข้าร่วมออดิชั่น ซึ่งจัดขึ้นโดยพัคจินยอง เพื่อหนุ่มสาวชาวเกาหลีที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ เขาร่วมการออดิชั่นนี้เพื่อความสุนกสนานล้วนๆ แต่กลับได้รับเลือกทันที ซึ่งทำให้เขาต้องเลือกทางเดินใดทางหนึ่ง ระหว่างชีวิตที่มั่นคงในดินแดนที่เขารู้จักดี หรือชีวิตที่แทบจะเหมือนการพนัน โดยการไปเกาหลีและหวังว่าจะคว้าดาว
“ความ ฝันของผมคือได้ใช้ชีวิตที่แตกต่างออกไป” สมาชิกของวงไอดอล อ๊ก แทคยอนต้อนรับการใช้ชีวิตแบบใหม่ที่ย่านธุรกิจใน Samsungdong กรุงโซล เขาเกิดในปี 1988 และเลือกที่จะเป็นเด็กฝึกที่ค่ายเพลงซึ่งปราศจากความมั่นคงในการประสบความ สำเร็จแทนการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยด้านแพทยศาสตร์ในอเมริกา นี่คือลักษณะทั่วไปของชาวเกาหลีที่เป็น G-Generation ซึ่งคนเหล่านี้จะมุ่งเน้นความพอใจส่วนตนมากกว่าความคิดเห็นของผู้อื่น / อี แทคยอง นักข่าว
เขาขึ้นเครื่องบินมุ่งหน้าสู่ประเทศเกาหลีโดยไม่ ลังเล และเลือกว่ามีวิถีชีวิตที่ไม่สามารถคาดเดาได้ในฐานะเด็กฝึก 4ปีผ่านจน จนกระทั่งเขาได้เป็นคนที่ชื่อเสียงผู้ที่ได้ความรักที่แสนร้อนแรงจากเหล่า วัยรุ่นชาวเกาหลี เขาคือแทคยอนแห่งวง 2PM
“ผมเป็นแค่นักเรียนธรรมดา คนหนึ่ง แต่ทันใดนั้นก็ได้รับโอกาสที่จะได้มีชีวิตที่แตกต่างออกไป ซึ่งมันทำให้ใจผมเต้นแรงมาก มันหมายถึงการก้าวกระโดดไปอีกโลกที่ผมไม่รู้จัก แต่ไม่ก็ไม่ได้หวาดกลัวอะไร คนทั่วไปไม่ใช่หรือที่กล่าวว่าคนหนุ่มสาวพบความท้าทายมากมาย ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรก็ตาม”
ประชากรมากกว่า 6,000,000 ล้านคนที่เป็นคนในยุค G-Generation เกิดขึ้นมาในช่วงปี1988 (ปีจัดกีฬาโอลิมปิคที่กรุงโซล) และถูกเลี้ยงดูขึ้นมาในยุคโลกาภิวัตน์ เติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นทุกปี คนเหล่านี้จะแตกต่างจากรุ่นก่อน ที่ไหลไปตามกระแสสังคมอย่างเงียบๆ โดยมีคติประจำใจว่า “ฉันใช้ชีวิตแบบคนอื่นไม่ได้”
อ๊ก แทคยอนเป็นหนึ่งในคนพวกนี้ เขาเกิดในปี 1988และย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับผู้ปกครองตั้งแต่ประถม 6 “อีก 6 ปีต่อมา เมื่อผมกลับมาและพบเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน ก็รู้สึกแปลกใจที่พวกเขามีความตั้งใจเดียวกับผม คนรุ่นราวคราวเดียวกันที่มีจุดมุ่งหมายที่กระตือรืนร้นและมุ่งมั่นที่จะ สร้างโลกพิเศษของตัวเอง”
ศาสตราจารย์ ฮวาง ซังมินแห่งภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยยอนเซ กล่าวว่า “หน่มสาวในรุ่นก่อนๆได้ลิ้มรสความสำเร็จโดยการทำตามความต้องการของครอบครัว และผู้ที่อยู่รอบกายพวกเขา แต่คนที่อยู่ใน G-generation จะทำตัวเป็นอิสระจากความมุ่งหวังของคน และในช่วงที่ไต่เต้าไปสู่สิ่งที่ต้องการนั้น พวกเขาจะประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมทีเดียว”
ศาสตราจารย์ คิม โฮซบประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ประจำมหาวิทยาลัยการเกษครแห่งประเทศจีน กล่าวว่า “เมือเทียบกับคนในรุ่น Baby boom หรือรุ่น 386 ซึ่งใช้เวลาจำนวนมากในการคิดว่าตัวเองจะดูเป็นเช่นไรในสายตาผู้อื่น คนใน G-generation ที่เกิดมากับความพร้อมสรรพ จะยึดถือความเป็นตัวของตัวเองและความสุขส่วนตัวมากกว่า”
ดังที่ได้ ทราบว่า คนใน G-generation มองอนาคตของตัวเองในแง่ดี ก็ก่อให้เกิดความกงัวลขึ้นมาท่ามกลางผู้เชี่ยวชาญเช่นกัน ศาสตราจารย์ ฮา จีฮยอนแห่งภาควิชาจิตเวช มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ กอนกุก พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “เนื่องจากพวก G-generation เกิดมากับความร่ำรวยทางทรัพยากร เมื่อพวกเผชิญหน้ากับ การอกหักหรือผลงานที่ไม่ดี พวกเขาจะอยู่ในสภาวะหดหู่มาก ซึ่งแตกต่างกับคนรุ่นก่อนที่จะคิดเรื่องนี้แค่เพียง 2-3 วัน
รวม ถึงพวกเขาจะคิดว่าการเข้าฝึกเป็นทหารยากกว่า ที่คนรุ่นเก่าคิดอีกด้วย” ซึ่งนี่ก็หมายความว่าแม้การรับใช่ในฐานะทหารอาจจะไม่ร้ายแรงหรือกดดันเท่าใน อดีต แต่พวกเขาก็จะรู้สึกเครียดเนื่องจากการใช้ชีวิตที่ปกติได้รับประทานอาหาร นอน ออกสังคมอย่างเต็มที่
จากคุณ |
:
Nookheng
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ม.ค. 53 22:40:09
|
|
|
|
 |