+++++ ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; “32 ธันวา” ... What do you want? , I want any love and much comedy. but NOT! +++++

เกรด A [A/A-] (27 คน)

เกรด B [B+/B/B-] (11 คน)

เกรด C [C+/C/C-] (6 คน)

เกรด D [D+/D] (1 คน)

	60.00%		เกรด A [A/A-] (27 คน)
	24.44%		เกรด B [B+/B/B-] (11 คน)
	13.33%		เกรด C [C+/C/C-] (6 คน)
	2.22%		เกรด D [D+/D] (1 คน)
จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 45 คน

สิ่งที่ผมคาดหวังกับ ผลงานชิ้นล่าสุดของผู้กำกับหนังตลกตระกูลส่ายหน้า ที่มาใหม่ในชื่อว่า “32 ธันวา” ก็เป็นดังที่ขึ้นต้นไว้ที่หัวกระทู้นั่นแล ..คือ ต้องการ ความรักเล็กๆน้อยๆ แต่อุดมไปด้วยความตลก อย่างที่น่าจะเป็นสำหรับ หนังโรแมนติก คอมเมดี้ สักเรื่อง หรือว่าจะเป็น คอมเมดี้ เลิฟ เลิฟ อย่างที่ผู้กำกับ “ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร” ได้นิยามเอาไว้กับหนังของเขาเอง

จากผลงานที่ผ่านๆมา หลายคนคงคุ้นเคยกับหนังตลกรสชาติไทยๆ ที่ล้วนแต่มีชื่อเรื่องว่า ส่ายหน้า ห้อยท้ายแทบทุกเรื่องไป ..มาจนถึงก่อนหน้าจะล่าสุด เมื่อต้นปีที่แล้ว กับการหลุดพ้นจากการส่ายหน้า กลายเป็น “โหดหน้าเหี่ยว” เพียวๆ แต่ก็มิวายยังเลือกจะใช้งาน ทีมตลกชุดเดิมครบเซ็ต และแถมพ่วงด้วยอีกหนึ่งสาวที่เคยช่วยพาให้ “แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า” ไปโลด อย่าง “วีเจ จ๋า”

ในเมื่ออะไรๆที่เคยเป็นความสำเร็จ มันย่อมต้องยกความสำมะคัญให้กับคนที่เคยอยู่ในจุดนั้นเหมือนๆกัน ..ก็ไม่แปลกอะไรที่ ผู้กำกับยอร์ช อยากจะหวนกลับไปคิดถึงวันวาน เมื่อครั้งแสบสนิทอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการชวนชักหนึ่งในคนคุ้นเคยอย่าง “แดน-วรเวช” ให้คืนจอในหนังของเขาอีกสักที ..และทีนี้ ก็ยังเป็นทีที่เขา ได้ปลดระวางการทำงานกับ ค่ายเพลงและหนังฝั่งลาดพร้าว ก้าวเข้าสู่การทำงานกับค่ายน้องใหม่ แรกคลอด แต่ไม่อ่อนในประสบการณ์




32 ธันวา ว่าด้วยเรื่องของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ ความหน้าตาดีไปวันๆของเขา ดลบันดาลให้กลายเป็นคนเจ้าชู้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ..แล้วในจู่ๆ ก็มีงานเข้า มีงานเข้า! เมื่อเขาต้องพบว่า ตัวเขาเอง กำลังเป็นคนที่มีปัญหาทางสมอง และปัญหานี้ ก็คือ สิ่งที่ทางการแพทย์ ไม่สามารถสรุปหาทางช่วยแก้ให้ได้ ...ฉะนั้นแล้ว เขาจึงต้องออกตามหาปัญหาที่แท้จริงด้วยตัวของเขาเอง จนเมื่อเขาได้พบสิ่งนั้น เขาก็จะรู้เอง ว่าจะแก้ปัญหาที่ว่าได้อย่างไร?

ปัญหาของชายหนุ่มที่ว่า ก็คือ ปํญหาเดียวกันกับที่คนเรา เขามักเจอกันนั่นแหละ ..มันคือ เรื่องของความไม่แน่ใจในความรัก กับการต้องเลือกใครสักคน ที่เป็นคำตอบสุดท้ายของหัวใจ

ว่ากันที่พลอตเรื่องแล้ว 32 ธันวา ก็ยังคงเป็นหนังรอมคอมทั่วๆไป เรื่องหนึ่ง ที่มาพร้อมกับความไม่ซับซ้อน ยอกย้อน เล่าอะไรก็ไปแบบง่ายๆ ดูเอาเพลินๆเข้าว่า ..และยิ่งถ้าว่ากันในความเป็นหนังของ ผู้กำกับ ยอร์ช มันก็จะมีวิธีการนำเสนอ ในทางของหนังตลกแบบไทยๆ ที่มักจะไม่แตกต่างในส่วนของขนบ มุขที่เล่นก็จะเป็นอะไรที่ชาวบ้านเราๆจับต้องได้ หรือไม่ก็เคยๆคุ้นๆมาก่อน




แต่กระนั้น หนังของ คุณยอร์ช ก็ไม่ได้ดูว่ามักง่าย เหมือนกัน... เพราะในบรรดาคนทำหนังตลกรสชาติไทยๆด้วยกันแล้ว มีไม่กี่คนหรอกที่แคร์เรื่องของบท ..แม้ไอ้ความแคร์ที่ว่า จะไม่ได้หมายถึง ความสมจริง หรืออะไรที่มันดูมีเหตุมีผล ก็ตามทีเถอะ

ซึ่งจากการที่ผมผ่านตา แสบสนิท โหดหน้าเหี่ยว และมาถึง 32 ธันวา ..ผมก็พบว่า ผู้กำกับคนนี้ ค่อนข้างไว้ใจได้ ในเรื่องของการทำให้หนังตัวเองดูมีอะไร ไม่ใช่ไก่กาอาราเล่ จบแล้วเซ็งเลย จับสาระอะไรก็ไม่มี

โดยเฉพาะเรื่องล่าสุดด้วยแล้ว... ผมสามารถนับได้เลยว่า 32 ธันวา คือหนังไทยอีกเรื่องที่พูดประเด็นของความรักได้ถูกใจผมอย่างจัง

จากที่หวังกับความรักพอเป็นกระษัย ขอรับความตลกจัดเข้าไปเป็นจานหลัก ..ผมดู 32 ธันวา จบออกมาจากโรง ในอีกอารมณ์ที่กลับกันเลย

ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าหนังเรื่องล่าของ คุณยอร์ช จะหาไม่มีความตลกใดๆเกิดขึ้นเลยหรอก.. แต่ดูเหมือนว่าความเด่นแบบก้าวกระโดด ในส่วนที่ว่าด้วยฝีมือ การเล่าที่เนียน และกลมกลืนกับความเป็นจริง มากขึ้นด้วยนี่แหละหนา มันคือสิ่งที่พรากความตลกให้หายไปพอตัว




ผมรู้สึกชื่นชม 32 ธันวา ตรงที่นี่เป็นหนัง ที่พูดเรื่องของความรัก สำหรับคนยุคปัจจุบันเราๆ ได้อย่างเข้าใจ ..แม้จะไม่ถึงกับลึกซึ้ง จนน้ำตาต้องไหลพราก อาจไม่เข้มข้นเช่นที่หนังเรื่องหนึ่งจะทำให้ตัวเองมีสิทธิ์ไปเข้าชิงรางวัลได้เลย ...แต่ 32 ธันวา ก็ทำหน้าที่บอกเล่าความโรแมนซ์ของมันได้ดี โดยที่แทบไม่จำเป็นต้องมีเลิฟซีนสักกะฉาก

มันก็น่าให้มองว่า งานนี้ ผู้กำกับ ยอร์ช คงตั้งใจทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ..ได้ทำการศึกษา ความรักในแง่มุมที่หลากหลายของคนในพ.ศ.นี้มาแล้ว ก่อนจะตีความให้มันออกมาเป็นภาษาหนังที่ดูจริงใจ ...ก็อาจไม่ถึงกับจริงจังในตัวเองเกินเหตุ แต่ก็ไม่ได้มาในทางทีเล่นทีจริง จนดูผิดธรรมชาติไปเสียหมด

ในความเป็นธรรมชาติของ 32 ธันวา ไม่ได้พยายามทำให้ตัวเองดูรันทดน้ำเน่า หรือสักแต่จะให้พระนางไม่เข้าใจกันไปยันตอนจบ ..มันกลับเล่าเรื่องของคนทั่วๆไป ที่อาจจะรู้ว่าความรักคืออะไร แต่ก็ต้องประสบปัญหาที่ไม่เข้าใจว่าตัวเองต้องการอะไรจากมันกันแน่ อยากจะมีแฟนแบบไหน อยากจะให้เนื้อคู่ของตัวเองเพอร์เฟกต์หรือไม่ ..หรือเอาเข้าจริง สุดท้าย คนที่เราคิดว่า ‘ดีพอ’ จะกลายเป็นคนที่ ‘พอดี’ กับเรา ได้ไหม





ผมว่า เอาแค่ประเด็น ดีพอ กับ พอดี ที่หนังเรื่องนีเน้นย้ำมาแต่คำโปรยในโปสเตอร์ มันก็ถือว่าสำคัญยิ่งๆ สำหรับหนังเรื่องนี้เป็นที่สุดแล้ว ..แต่พอมันมีมากไปกว่านั้น และ ถูกหยิบยกออกมาเล่าในมุมมองที่ดูจริง ไม่มีอะไรที่เพ้อฝัน หรือไกลเกินที่เราจะสัมผัสได้ ...32 ธันวา ก็ใช้ความมากเหล่านั้น ส่งให้เกิดประโยชน์ไม่น้อยกับคนที่เข้ามาดูหนังเรื่องนี้ พร้อมด้วยความรู้สึกที่กำลังสับสนในเรื่องของความรัก

แม้สุดท้าย 32 ธันวา จะไม่ได้ทำให้เราบรรลุในเรื่องความรักขั้นสูงสุด ..แต่ หนังเรื่องนี้ ก็ได้ทำให้เรารู้จักสิ่งที่เป็นพื้นฐาน อันคือ หัวใจของเรา ...เราสามารถเลือกได้แล้วว่า เราจะรักคนที่ ดีพอ จนต้องเป็นที่สุด หรือจะเอาแค่คนที่ พอดี ก็ถือว่าเกินพอแล้ว

เอาแค่พิ้นๆ อย่างนี้ 32 ธันวา ก็จัดว่า มีเรื่องให้เข้าตัวผมเยอะแยะเหมือนกันนะนั่น ..ได้ดูไป ก็คิดไป พงักหน้าหงึกๆไป เห็นด้วยว่า แดนในเรื่อง มันคลับคล้ายคลับคลา กับตัวเราเองชัดๆ




ในส่วนของความตลก ..โดยส่วนตัว รู้สึกไม่แป้ก กับหนังเรื่องนี้ ...แม้อาจจะไม่ได้ถึงกับหัวเราะร่าน้ำตาริน แต่ก็ค่อนข้างเรียกรอยยิ้มน้อยๆ หรือหนักๆเข้าหน่อยก็คือ เสียงขำขัน ที่เอาผมสนุกไปกับหนังได้ตลอดต่อเนื่อง ...ถึงบางห้วง จะสะดุดๆ ให้รู้สึกได้ถึงความเป็นหนังมุขต่อมุข ซึ่งฉากบางฉากใส่เข้ามาแล้วมีประโยชน์กับเรื่องราวอยู่น้อย แต่ถ้าวัดกันกับผลงานที่ผ่านๆมาของผู้กำกับส่ายหน้าเจ้านี้ เรื่องใหม่เรื่องนี้ ก็ยังมีเส้นเรื่องที่ดูจะหนากว่าก่อนเก่าอย่างเห็นได้ชัด

เพียงแต่ถ้าเอาเฉพาะความขำแล้ว อาจจะยังเปรียบให้เท่าไม่ได้กับ แสบสนิท ..ที่ต้องยอมรับว่าเรื่องนั้น มันเจิดได้ เพราะดาราตลกที่เล่นกันเข้าขา และยังแยกออกมามีฉากที่ได้เด่นเข้าตัว กันแทบทุกๆคน




ว่ากันที่เรื่องดาราใน 32 ธันวา ..เรื่องใหม่ เรื่องล่า ได้ลองลด ละ การใช้บริการดาวตลกหน้าคุ้น (แต่ก็มิวายให้ออกมารับเชิญ เป็นธรรมเนียมว่าต้องมี ไปเสียแล้ว) และเริ่มจะผลักดันผลิต ตลกหน้าใหม่ ที่มาพร้อมกับหน้าตาอันดูดี มีเทรนด์ เข้ายุคเข้าสมัยกันแทนเสีย ..ซึ่งในงานนี้ ผู้กำกับ ยอร์ช ก็ไม่เสียชื่อในการกำกับนักแสดงให้เล่นเป็นตัวละครนั้นๆได้อย่างสนุก ถึงแม้คนๆนั้นจะมีภาพลักษณ์ภายนอก ที่ดูไม่น่าจะทำตลกได้เป็นซะทีเดียว

ใน 32 ธันวา หน้าใหม่ที่เกิดกับหนังเรื่องนี้ไปเต็มๆ คงจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ “สายป่าน” ..ถึง เธอคนนี้ จะเคยผ่านการเล่นหนังตลกใน “บุญชู 9” (ส่วน “หอแต๋วแตก 2” ..ตัดออกไปได้ เพราะมีบทบาทน้อยจนแทบไม่จำเป็น) แต่เอาเข้าจริง การจะทำให้ตัวเองดูน่ารักน่าชังได้ตามที่บทควรจะเป็น กลับเป็นสิ่งที่เราเพิ่งได้เห็นกันในหนังตลกเรื่องนี้ ..แม้ภาพของสาวผมสั้น เต่อๆเด๋อๆ มันจะช่างดูขัดตาผมเหลือขนาด แต่ถ้าไม่พูดถึงปัญหาที่เกะกะระรานสองนัยน์ตา(ด้วยจริตส่วนตัว..ที่ชอบหญิงผมยาว) ก็จัดว่า ทรงผม มันบ่งบอกถึงคาแรกเตอร์ของเธอในเรื่องได้เป็นอย่างดี ..และจากที่เป็นคนที่อยุ่นอกสายตาแต่ต้น ในที่สุด เธอก็ทำให้เราได้รู้(ไปพร้อมๆกับพระเอก)ว่า เส้นผมบังภูเขา มันมีอยู่จริง




นอกเหนือจากความน่ารักล้นๆของ สายป่าน และบวกด้วยคำตอบของหัวใจ ที่หล่อเลือกได้อย่างผม (แหวะ!) อยากจะเลือก น้องนางสาวเหนือ เป็นรักที่พอดี (พอดีว่า ผมชอบภาษาเหนือน่ะ ..ฟังทีไร แล้วอ่อนไหวทู้กที) ...อีกคนหนึ่งที่เข้าตาผม ก็คือ พี่ “โหน่ง สามช่า” มาแว้ววว! ที่ทำเอาขำไปกับหลายฉากที่เขาออก ..ยิ่งถ้าเทียบกับ ชิงร้อยชิงล้าน(ในตอนนี้) หรือรายการของเสี่ยตาที่เขาเคารพรัก(และเลีย)แล้ว พี่โหน่งก็ดูน่าจะไปได้ดีกับการกลับมาเล่นหนังให้ ผู้กำกับยอร์ช ได้อีกเรื่อยๆ เสียมากกว่าด้วยซ้ำ

แถมความชอบ ให้กับอีกคนที่มาขำๆแบบฟรีๆ แล้วยังอุตส่าห์ขโมยซีนได้เด็ดขาด ..ก็คือ "โก๊ะตี๋" ที่ดูจะขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาดในเฉพาะหนังวงศ์วานนามสกุล ส่ายหน้าทุกเรื่องไปเลยจริงๆ

หัวกระทู้ที่ถามว่า "What do you want?" ..ก็ได้แรงบันดาลใจจากตัวละครของเขา เอ้ย! เธอ ในเรื่องนี่นี่แหละหนา




ถึงจุดนี้ ก็พูดได้ว่า “32 ธันวา” เป็นหนังไทยที่น่าพอใจมากๆอีกเรื่องหนึ่ง กับการดูเพื่อความบันเทิง ..แม้ในความน่าพอใจที่ว่า จะไม่ได้ให้ความอิ่มอกอิ่มใจอย่างเต็มปรี่ ซะทีเดียว แต่ส่วนตัว ก็คุ้มค่า และมีความจริงที่แอบโดนตัวเองเป็นหลายๆหย่อม ...เป็นผลงานของผู้กำกับหนังส่ายหน้า ที่อยากพงักหน้า เชิงเห็นด้วยว่า มันคือ หนังที่ดีที่สุดของเขาเลยล่ะ


ขอแนะนำ...ครับ

เกรด A- ->

ขอบคุณครับ รักคนอ่าน

Follow Me @ http://twitter.com/once_upon_a_man

จากคุณ	: OncE UPoN'-'a MaN
เขียนเมื่อ	: 5 ม.ค. 53 09:37:03