ความคิดเห็นที่ 1 จำได้ว่าสนุกดี แต่จำเนื้อเรื่องไม่ได้ รอคนต่อไปมาตอบละกันนะคะ ขออภัย จากคุณ : besuto เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 13:34:18

ความคิดเห็นที่ 2 ดูอีกรอบดีกว่าครับ จากคุณ : Kadaj17 เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 13:38:23

ความคิดเห็นที่ 3 ผมพูดได้เพียงแค่ว่า "ชื่อของเขาคือ โรเบิร์ต พอลเซ่น!!" จากคุณ : ไทยมุงหรรษา เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 13:51:41

ความคิดเห็นที่ 4 ต่อต้านกระแสหลักในโลก ต่อยเพื่อทำความรู้จักกันก่อน ร่วมกันทำงานใหญ่ อันที่จริงชื่อคลับนี้ เราไม่ควรเอ่ยถึงมันด้วยซ้ำ จากคุณ : นาเม็ก เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 14:09:54

ความคิดเห็นที่ 5 ไปดูอีกรอบแล้วกันครับ เพราะเขาห้ามพูดถึง Fight Club "เราทำประกันของทุกอย่างที่เราซื้อมา จนเหมือนว่าพวกมันกลายเป็นเจ้าของเรา"  (แอบใบ้) จากคุณ : navagan เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 14:10:20

ความคิดเห็นที่ 6 ตีกันแล้วไม่ต้องติดคุก เป็นที่รวมกันของพวกรักความรุนแรงแต่แสดงออกไม่ได้ อย่างเช่นสมาชิกคลับมีตำรวจมีพนักงานดับเพลิงอยู่ด้วย หนังมันดังเพราะหักมุม เพราะกลายเป็นหนังพวกหลายบุคลิกที่เกิดจากความผิดปกติทางสมอง ตัวที่กดเอาไว้โผล่มา พ่อรูปหล่อแบรดพิตต์ไม่มีจริง เพราะแท้จริงแล้วพ่อพิตต์ก็คือพ่อเอ็ดนั่นแหละ จากคุณ : แม่ค้าลูกชิ้นนึ่ง เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 14:17:28

ความคิดเห็นที่ 7 ผมมองว่าเมื่อคนเราใช้ชีวิตปกติธรรมดาซ้ำซากจำเจ ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย ด้านมืดของตัวเราเองจะคอยกระตุ้นให้คนเราทำอะไรที่ร้ายกาจขึ้นมาครับ ในที่นี้ ตัวแทนของคนธรรมดา เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน ทำงานปกติเหมือนชีวิตมนุษย์เงินเดือนทั่ว ๆ ไป ส่วนตัวแทนด้านมืดของ เอ็ดเวิร์ด  นอร์ตัน คือ เบรด พิตต์  ที่ใช้ชีวิตไม่ยึดติดในกรอบ อยากทำอะไรก็ทำ เมื่อเขาโดนด้านมืดครอบงำ ทำให้เกิดอย่างที่หนังต้องการจะสื่อนั่นแหละครับ จากคุณ : red_devil เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 14:50:23

ความคิดเห็นที่ 8 มาใบ้เพิ่มเติม พระเอกอยู่ในโลกที่อะไรเป็นใหญ่ครับ? แล้วสิ่งที่พระเอกระเบิดในตอนท้าย คือ "ตึก" ที่เกี่ยวกับบริษัทประเภทไหน ? กับประโยคนี้ "ไขมันที่คนอ้วนรีดออกมา เอาไปทำสบู่ขายคนพวกนี้อีกที" ความจริงจะตอบแบบตรงๆเลยก็ได้ครับ แต่ผมเป็นแฟนหนังเรื่องนี้ครับ เลยอยากให้ทุกคนสัมผัสสิ่งที่หนังต้องการบอกกล่าวด้วยตัวเอง ซึ่งจะสนุกมากๆ และเมื่อคุณเข้าใจ คุณอาจเป็นแฟนเรื่องนี้แบบผมทันที  (ออกแนวหาพวก ) ส่วนเรื่องหักมุมนี่อึ้งครับ แต่จริงๆแล้วหนังมีดีมากกว่านั้นเยอะ ปล. หนังก็ดักทางไม่ให้ผู้ชมเล่าไปในตัวด้วย มุขที่ว่า "ห้ามพูดถึงFight Club" ซึ่งเป็นลูกเล่นที่เจ๋งดี เพราะ Fight Club มี 2 ความหมายคือ "ชื่อหนัง" และ "คลับในเรื่อง" จากคุณ : navagan เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 15:06:56

ความคิดเห็นที่ 9 สำหรับผมหนังต้องการสื่อว่าการใช้ชีวิตตามแบบแผนจะทำให้คนเราไหลไปตามกระแสสังคม ขาดความเป็นตัวของตัวเองที่อยากเป็นจริงๆ ต่อยกันเพื่อดึงสิ่งที่มนุษย์ควรจะเป็น ใช้ชีวิตแบบธรรมชาติ ตัดสินกันด้วยร่างกายทุกคนเท่าเทียมกัน หมัดล้วนๆไม่เอารัดเอาเปรียบด้วยตำแหน่งหน้าที่ แล้วมิตรภาพจะตามมา สุดท้ายจะมองเห็นศัตรูที่แท้จริงคือกระแสทุนนิยมที่ขับเคลื่อนสังคม ต้องทำลายทิ้งให้สิ้นซาก จากคุณ : ผีฟรีคิก เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 15:15:43

ความคิดเห็นที่ 10 เฉลยหน่อยสิครับ คห.8 pm มาก็ได้ แบบว่าเคยดูมาแล้วก็ยัง งงๆ  รู้แต่ว่ามันหักมุมเท่านั้นเอง จากคุณ : กุลิลิ เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 15:19:18

ความคิดเห็นที่ 11 เรื่องหักมุมนี่ทำให้หนังดูน่าตื่นเต้นในครั้งแรกที่ดู แต่เราชอบสิ่งที่หนังต้องการสื่อออกมามากกว่า ความเห็น 8 เปิดประเด็นไว้อย่างน่าสน จขกท. ลองไปดูใหม่แบบตั้งอกตั้งใจ แล้วจะสัมผัสได้ถึงความซี้ดดดด... ความรุนแรงในหนังเป็นแค่คาราเมลหวานๆ ที่ห่อหุ้มสารอาหารชั้นเลิศไว้เท่านั้น เราทุกคนล้วนมี ไทเลอร์ ซ่อนอยู่ในตัว จากคุณ : waanjorjae เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 15:23:27

ความคิดเห็นที่ 12 หลังไมค์ไปแล้วครับ  คุณ กุลิลิ จากคุณ : navagan เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 15:33:45

ความคิดเห็นที่ 13 แปลกใจนะ นึกว่าจะถามว่ามีเพนกวินไว้ทำไมวะ555 สไลด์ ตอนผมดูจบใหม่ๆเพื่อนมันบอกว่าผมบ้าอ่ะ เมื่อเขาตาย เขาจะได้ชื่อกลับคืนมา ชื่อเค้าคือโรเบิร์ต พอลเซน จากคุณ : ผีฟรีคิก เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 15:34:35

ความคิดเห็นที่ 14 คิดเหมือน คคห.7 จากคุณ : FREEDOM^-^ เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 16:01:21

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นหนังที่เราดูสามรอบก็ยังหาอะไรใหม่ๆที่ซ่อนอยู่เจอ อยากให้คนเมืองได้ดูแล้วพยายามทำความเข้าใจกับหนังเรื่องนี้ แต่ก่อนเราเป็นคนบ้าแฟชั่น บ้าแบรนด์ ทำอะไรต้องดูดีต้องสวยตลอด พอมาดูหนังเรื่องนี้ได้สามรอบ เปลี่ยนเลย เดี๋ยวนี้ง่ายๆ อะไรก็ได้ มันรู้สึกเหมือนโดนหนังตบหน้าอ่ะค่ะ "Things you own end up owning you" จากคุณ : ลูกข้าราชการ เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 17:00:59

ความคิดเห็นที่ 16   เสียดสี ทุนนิยม จากคุณ : อั้ม ติ่งเหลือม เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 18:10:06

ความคิดเห็นที่ 17 ไอ้พวกนี้ มาสุมหัวทำห่าอะไรกัน.. The first rule of Fight Club is: you do not talk about Fight Club. The second rule of Fight Club is: you DO NOT talk about Fight Club! จากคุณ : ทุ่งหัวช้าง เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 19:50:50

ความคิดเห็นที่ 18 เค้าห้ามพูดอ่ะนะ เอาเป็นว่า - คุณเคยรู้สึกมั้ยว่ากำลังทำงานที่ไม่ได้ชอบ เพื่อเอาเงินไปซื้อสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการ - คุณรู้ได้ยังไงว่าเฟอร์นิเจอร์แบบไหนเข้ากับรสนิยมของคุณ - ทำไมคุณต้องมีแบล็กเบอรี่ ทำไมต้องมีไอโฟน ทำไมต้องเล่นทวิตเตอร์ ทำไมต้องเล่นเฟซบุ๊ค - สิ่งที่คุณเป็นเจ้าของ สุดท้ายมันจะเป็นเจ้าของคุณเอง คุณต้องอัพเดทตัวเองให้ทันสมัย คุณต้องหามือถือรุ่นใหม่ๆมาใช้ ต้องหารถใหม่ๆมาขับ ต้องใส่เสื้อผ้าที่มีขื่อคนอื่นเขียนอยู่ ต้องเข้ายิมออกกำลังกายเพื่อมีหุ่นดีๆ - คุณไม่มีทางรู้จักใครได้ดีจนกว่าจะได้สู้กับคนๆนั้น (บางครั้งคนๆนั้นคือตัวคุณเอง) - คุณเคยอยากกลายเป็นคนที่กล้ากว่า ฉลาดกว่า เก่งกว่า มั่นใจกว่าเดิมใช่มั้ย - คุณเคยบ่นใช่มั้ยว่า เป็นคนดีแล้วไม่มีใคร เลิกเป็นคนดีได้แล้ว เลิกพึ่งพาพระเจ้า เลิกคิดว่าพระเจ้ารักคุณ จริงๆแล้วพระเจ้าเกลียดคุณ คุณไม่ใช่คนที่น่ายกย่อง คุณเป็นแค่ฟันเฟืองตัวนึงเท่านั้น คุณมันก็แค่อะไรบางอย่างที่ขับเคลื่อนองค์กรไป ลองมองดูมด ปลวก พวกมันไม่เห็นต้องมีชื่อ พวกมันทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานก็เพื่ออาณาจักรของมัน ไม่เห็นมีตัวไหนออกมาเรียกร้องความเป็นตัวเอง - สบู่ที่ดีที่สุด ทำมาจากไขมันของคนอ้วนๆ เอากลับไปขายคืนคนพวกนั้นเองได้ตั้งก้อนละ 20 ดอลล่าร์ - ผสมโซเดียมคลอไรด์ลงไป จะได้ระเบิด จริงๆแล้วระเบิดทำลายล้าง ผลิตขึ้นได้จากวัสดุในครัวเรือน แต่น้อยคนนักที่รู้วิธี ปล. สังเกตอีกอย่างว่าเรื่องนี้พระเอกไม่มีชื่อจริงนะครับ  มีแต่ชื่อปลอม 3-4 ชื่อ สุดท้ายสิ่งที่มีจริงและเป็นไอดอลของใครๆก็คือ ไทเลอร์ เดอร์เด้น! (จะโดนยึดอมยิ้มมั้ยเนี่ยตู) จากคุณ : CARAGIO เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 23:57:23

ความคิดเห็นที่ 19 ดูเป็นร้อยรอบ บอกได้ประโยคเดียว ดุ้นใหญ่ซะด้วย จากคุณ : มาร่า ซิงเกอร์ (กองหน้าตัวรับ) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 03:40:07