| |
| | | กุมารทอง (2 คน) |
| | | ไกรทอง (5 คน) |
| | | เจ้าหญิงนกกระจาบ (5 คน) |
| | | พระอภัยมณี (3 คน) |
| | | กายเพชรกายสุวรรณ (2 คน) |
| | | แก้วนพเก้า (9 คน) |
| | | นิทานเวตาล (18 คน) |
| | | อิเหนา (10 คน) |
| | | ศรีธนญชัย (5 คน) |
| | | ไชยเชษฐ์ (0 คน) |
| |
จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 59 คน |
แบบว่าเท่าทีทราบมาว่าเรื่องต่อไปคือเรื่องอะไร แต่ไม่ชัวร์นะ
พอรู้แล้วแบบวาถ้าทำเรื่องนี้จริงๆ จะมีคนดูไหมเนี่ย
ก็เลย ขอชวนแฟนละครพื้นบ้าน มาร่วมโหวตกัน เผื่อว่าอาจจะมีอะไรเปลี่ยน
แปลง 5555 แต่คงยาก ......และอาจจะเป็นแนวทางที่จะอยู่ในตัวเลือกที่จะ
ทำต่อไปในอนาคตค่ะ
++++++++++++++++++++++++
สำหรับเรื่อง "แก้วนพเก้า" เป็นนิยาย จักรๆวงศ์ๆ ที่แต่งขึ้นใหม่นะคะ
เผื่อหลายคนจะงง ว่าทำไมมีเรื่องนี้ โผล่มาในตัวเลือกด้วย
และขออนุญาต ลงเรื่องย่อ เพื่อกันไว้ก่อน เพราะก่อนหน้านี้เคยลง
ประกาศหา คนวาดการ์ตูน เรื่องนี้ให้ แต่ เอามาแค่คาแร็กเตอร์ ตัวละคร
เลย โดนหาว่าไปลอก พล็อต มณีนพเก้า หรือ เทพสังวาลย์มา ก็เลยขอลง
เรื่องย่อ คร่าวๆ ไว้ก่อน เพื่อตัดปัญหา
++++++++++++++++++
เรื่องย่อ ทรีทเม้นภาคแรก
แก้วนพเก้า เรื่องย่อ
ผู้แต่ง : นานะจัง,กาฬรหัสย์,HpJ,bobenz
แก้วนพเก้าเป็นนวนิยายแนวจักรๆ วงศ์ๆ ที่อ้างอิงเรื่องราวและตำนานเทพต่างๆ ไว้มากมายผสานกับการผจญภัยในการตามหาสิ่งสำคัญเพื่อให้ผู้อ่านเกิดความสนุกและได้รู้เกร็ดความรู้ในความเชื่อและตำนานที่มีมาแต่โบราณ
แก้วนพเก้ากล่าวถึงการกำเนิดของพระอังคาร ที่กำเนิดมาเพื่อปราบยักษ์ทาระกะ อันเป็นอสูรที่เกิดมาจากความชั่วและกิเลสของเหล่าเทวดาที่ทิ้งลงไปยังเกลสมหานทีเพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ พระอังคารสามารถปราบยักษ์ทาระกะลงได้จนเหลือเพียงดวงจิตแห่งความชั่ว จึงใช้อัญมณีของเทพนพเคราะห์ทั้งเก้า ได้แก่ เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน นิล มุกดา เพทาย ไพฑูรย์ ผนึกกำลังกักขังดวงจิตแห่งความชั่วร้ายของยักษ์ทาระกะไว้ในปราสาททรกาชิต
หมื่นปีต่อมา ด้วยความคะนองของพระอังคารที่แข่งขันกับพระอินทร์วนรอบจักรวาล พระอังคารดึงเพทายอัญมณีประจำตัวของตนออกมาแข่งขันในเวลาที่เกิดสุริยคราสพอดี พลังความชั่วร้ายจึงแกร่งกล้าในวันอาทิตย์ดับ อัญมณีอีกแปดดวงไม่สามารถต้านพลังความชั่วร้ายจึงแตกออกกระเด็นตกลงไปยังโลกมนุษย์ พร้อมเพทายของพระอังคาร องค์พระศิวะจึงทรงลงทัณฑ์ให้พระอังคารจุติลงไปยังโลกมนุษย์เพื่อตามหาแก้วนพเก้ากลับมาผนึกต้านทานพลังของยักษ์ทาระกะก่อนที่อำนาจของมันจะมากขึ้นจนควบคุมโลกทั้งสี่ คือ สวรรค์ โลกมนุษย์ นรก และบาดาล
แต่ในขณะที่พระอังคารกำลังจะจุติดวงจิตก็เกิดแยกเป็นสองดวงเพราะความไม่มั่นคงของจิตใจ ดวงจิตทั้งสองลงไปเกิดเป็นโอรสฝาแฝดของราชาศักรินทร์และมเหสีมณีกานต์แห่งคีรีรัตน์นครมีนามว่า ธีรวงศ์มีสัญลักษณ์เป็นปานทองรูปพระขรรค์ที่ตำแหน่งหัวใจ และคีรีจักรมีสัญลักษณ์คือปานดำรูปกงจักรตำแหน่งเดียวกัน โหราธิบดีได้ทำนายว่าโอรสที่มีปานรูปกงจักรจะสังขารราชาศักรินทร์และนำภัยมาสู่คีรีรัตน์นคร ราชาศักรินทร์คิดจะสังหารคีรีจักรตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม แต่เพราะสายใยของบุตรและบิดานั้นไม่อาจทำได้ จึงหาทางป้องกันด้วยการไม่ให้คีรีจักรได้เรียนศิลปศาสตร์การต่อสู้
โอรสทั้งสองแอบสลับตัวกันเรียนวิชาเสมอโดยไม่มีใครจับได้ เนื่องจากทั้งสองเหมือนกันมากจนยากจะแยกออก คืนหนึ่งธีรวงศ์และคีรีจักรแอบออกไปเที่ยวนอกเมืองไกลถึงนครมณฑิราลัย พระธิดาบุษยมาสได้ยินเสียงขลุ่ยที่ธีรวงศ์เป่าได้ไพเราะจึงออกมาฟัง แต่เข้าใจผิดคิดว่าคีรีจักรเป็นคนเป่าขลุ่ย ในขณะที่ธีรวงศ์ได้พบกับจอมนารี ธิดาแห่งวังน้ำแข็งมีนกยูงทองเป็นพาหนะ ธีรวงศ์คิดว่าจอมนารีเป็นเทพธิดายูงทองจึงขอพรขอให้บิดารักและไม่เฉยชากับอนุชาโดยแลกกับสร้อยมณีลวนะอันเป็นสิ่งแสดงฐานะองค์รัชทายาท จอมนารีสวมรอยเป็นเทพธิดายูงทองเพราะอยากได้มณีลวนะ และหลอกว่าจะให้พรตามที่ธีรวงศ์ขอ
หลังจากคืนนั้นโอรสฝาแฝดก็ไม่ได้พบจอมนารีและบุษยมาสอีกเลย เพราะถูกพระบิดาจับได้ว่าออกไปเที่ยวนอกเมือง จึงถูกกักบริเวณด้วยม่านมนตรา เมื่อเวลาผ่านไปนานทั้งสองก็เริ่มจะลืมเรื่องเด็กหญิงที่ได้พบ ธีรวงศ์และคีรีจักรยังคงซุกซนจนไปทำไออุษณะอันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยควบคุมความสมดุลของอากาศในเมืองแตก ราชาศักรินทร์เข้าใจผิดคิดว่าคีรีจักรเป็นคนทำแตกจึงทำโทษจนคีรีจักรน้อยใจบิดามากขึ้น
ธีรวงศ์สารภาพว่าตนเป็นคนทำไออุษณะแตก และอาสาจะออกเดินทางไปตามหาไออุษณะจากที่อื่นมาทดแทนของเดิม ธีรวงศ์เดินทางไปหาพระดาบสที่เทือกเขาอินทาเพื่อร่ำเรียนวิชาเตรียมตัวไปตามหาไออุษณะ ก่อนออกเดินทางโอรสฝาแฝดแลกสิ่งของกันเพื่อเป็นของดูต่างหน้า ธีรวงศ์ให้กริชสัตตบงกชแก่อนุชา คีรีจักรให้ขลุ่ยแก้วของตนแก่เชษฐา
เรือสำเภาของธีรวงศ์ถูกพายุพัดล่มกลางทะเล ธีรวงศ์ได้รับการช่วยเหลือจากโอรสมโนพัศแห่งมัณฑรนครที่มาขอเป็นศิษย์พระดาบสเช่นกัน พระดาบสให้ทั้งสองแข่งขันกันไปเก็บดอกบุษบงทิพย์จากยอดเขาปราษาณมาให้ได้ก่อนคืนวันเพ็ญในอีกสามวันข้างหน้า ธีรวงศ์และมโนพัศต้องฝ่าฟันด่านต่างๆ เพื่อพิสูจน์ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสาของตนเอง แต่ภายในสามวันที่ร่วมผจญภัยด้วยกันนั้นก็ทำให้ทั้งสองกลายเป็นมิตรแท้ซึ่งกันและกัน พระดาบสจึงรับทั้งสองเป็นศิษย์
ในขณะนั้นบนสวรรค์ เพลิงประลัยได้ถือกำเนิดขึ้นจากพระเพลิงและนางฟ้าทิพย์อาภานางฟ้าในพระอุมาเทวีที่แอบมีใจให้กัน แต่เพราะอำนาจที่รุนแรงตอนถือกำเนิดจึงทำให้นางฟ้าทิพย์อาภาผู้เป็นมารดาต้องดับสูญ พระศิวะและพระอุมาจึงให้เลี้ยงดูเพลิงประลัยไว้ในวิมานเล็กๆ ไม่ให้ออกไปไหนเพราะเกรงว่าพลังอำนาจของเพลิงประลัยจะเผาผลาญทุกอย่าง เพลิงประลัยเข้าใจว่าชาวสวรรค์รังเกียจตน มีเพียงนิศาเทวีนางฟ้าผู้งดงามเท่านั้นที่รักและจริงใจกับตน จึงยอมเชื่อฟังแต่นิศาเทวีเพียงนางเดียว แต่เพราะนิศาเทวีมีหน้าที่ดูแลคุ้มครองพระอังคารที่จุติลงไปเกิดเป็นมนุษย์ทำให้เพลิงประลัยยิ่งเคียดแค้นชาวสวรรค์ เพราะคิดว่าทุกคนพรากนิศาเทวีไปจึงอาละวาดสวรรค์ พระอุมาจึงกักขังเพลิงประลัยไว้ในปรางค์ทอง
เวลาที่ผ่านไปนับสิบปีมนุษย์ พลังความชั่วร้ายของยักษ์ทาระกะหลุดรอดออกมาจากปราสาททรกาชิตกลับไปหายักษ์บริวารของตน ท้าวหริทัศว์ราชายักษ์แห่งหิรัญนครได้รับคำสั่งจากยักษ์ทาระกะจึงให้อธิศผู้เป็นหลานชายและเป็นคู่หมั้นกับแก้วเกศินีธิดาของตนแปลงเป็นมนุษย์นำของบรรณาการซึ่งหนึ่งในนั้นคือปิลันธโมราที่หลอมรวมความชั่วร้ายของยักษ์ทาระกะไว้ไปยังคีรีรัตน์นคร คีรีจักรหลงกลและได้ปิลันธโมราไปครอบครอง ความชั่วร้ายของยักษ์ทาระกะเริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์ด้วยการสร้างโมรากาฬ ตัวตนที่อ่านความคิดของคีรีจักรขึ้นมาหลอกล่อและชักจูงให้คีรีจักรเข้าใจทุกคนผิด รวมถึงธีรวงศ์ผู้เป็นเชษฐาด้วย คีรีจักรเสียใจและเจ็บแค้นที่ตนไม่เป็นที่ต้องการของใคร จึงเลือกหาทางเดินชีวิตของตนเองที่ไม่ต้องอยู่ภายใต้เงาของใคร โดยไม่รู้ว่ากำลังถูกความชั่วร้ายของยักษ์ทาระกะหลอกใช้
ตลอดเวลากว่าเก้าปีที่คีรีจักรถูกโมรากาฬจากปิลันธโมราชักจูงปลูกฝังความคิดอันชั่วร้ายต่างๆ ทำให้คีรีจักรเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่นั่นก็ยังไม่เลวร้ายจนกระทั่งคีรีจักรรู้ข่าวว่าธีรวงศ์กำลังจะกลับมา เขาจึงพยายามหาหนทางที่จะพิสูจน์ตัวเองให้ได้ก่อนที่ธีรวงศ์จะกลับมา แต่ยิ่งทำทุกอย่างก็ยิ่งเลวร้ายเมื่อคีรีจักรเริ่มสังหารรามเสนอาจารย์ผู้สอนศิลปศาสตร์การต่อสู้ให้ธีรวงศ์และโหราธิบดี
ฝ่ายธีรวงศ์ได้ร่ำเรียนวิชาจากพระดาบสจนเติบโตพอที่จะออกไปตามหาไออุษณะได้ จึงเดินทางไปยังเทือกเขาอัศราถิ่นที่ยังคงมีแร่ภูเขาไฟและยังมีไออุษณะหลงเหลืออยู่พร้อมกับมโนพัศ ทั้งสองต้องต่อสู้กับภาพมายาและอันตรายต่างๆ ที่ขัดขวางจนกระทั่งได้ไออุษณะกลับมา ธีรวงศ์รีบเดินทางกลับคีรีรัตน์นครด้วยความหวังที่จะได้กลับไปพบบิดามารดาและอนุชา
เพลิงประลัยถูกกักขังอยู่ในปรางค์ทองรับรู้ได้ด้วยกระแสจิตที่ฝึกฝนมาหลายปีว่านิศาเทวีคอยดูแลพระอังคารอยู่ก็โกรธแค้นจนระเบิดปรางค์ทองอาละวาดจนสวรรค์ลุกเป็นไฟ แม้แต่พระเพลิงผู้เป็นบิดาก็ไม่สามารถยับยั้งได้ พระศิวะจึงสาปให้เพลิงประลัยตายด้วยน้ำมือของพระอังคาร เพลิงประลัยโกรธแค้นสาบานว่าจะฆ่าพระอังคารให้ได้ สร้างความทุกข์ใจให้แก่นิศาเทวีที่สงสารเพลิงประลัยเป็นอย่างมาก
เพลิงประลัยลงจากสวรรค์มาสถิตยังดงไพรีมารซึ่งเป็นที่อาศัยของภูติผีและออกตามหาพระอังคารจนมาทันที่คีรีรัตน์นครและต่อสู้กัน แต่ธีรวงศ์ไม่สามารถทำอะไรเพลิงประลัยได้เพราะอีกฝ่ายมีเชื้อสายเป็นเทพที่มีความเป็นทิพยะ เพลิงประลัยชิงไออุษณะไปได้ ในขณะเดียวกันราชาศักรินทร์ก็จับได้ว่าคีรีจักรสังหารอาจารย์รามเสนและโหราธิบดี เพราะความผิดพลาดและน้อยเนื้อต่ำใจของคีรีจักรทำให้เขาพลาดพลั้งซัดพลังใส่ราชาศักรินทร์จนสิ้นใจ ธีรวงศ์เข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี ทั้งเสียใจและผิดหวังโกรธแค้นที่อนุชาของตนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน สองพี่น้องต่อสู้กันโดยไม่สนใจเสียงห้ามของมเหสีมณีกานต์และมโนพัศ จนกระทั่งมเหสีมณีกานต์เอาตัวเข้าบังคมดาบจากคีรีจักรที่จะแทงธีรวงศ์จนนางสิ้นใจตายไปอีกคน
คีรีจักรเสียใจที่สังหารบิดามารดาจนไม่มีสติแต่ก็ถูกโมรากาฬนำตัวไปยังหิรัญนครเพื่อปลูกฝังให้แข่งขันและฆ่าธีรวงศ์ให้ได้
ฝ่ายธีรวงศ์เมื่อเสียบิดามารดาและอนุชา รวมทั้งคีรีรัตน์นครทั้งเมืองก็จมอยู่ใต้น้ำแข็งเพราะไม่มีไออุษณะมารักษาเมืองไว้ได้ ก็ท้อแท้หมดอาลัยตายอยากแม้มโนพัศจะเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่เป็นผล นิศาเทวีปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าธีรวงศ์เพื่อบอกให้ธีรวงศ์ไปทำหน้าหน้าที่ที่พระอังคารต้องจุติลงมา คือตามหาผู้ครอบครองอัญมณีทั้งเก้า และหยุดยั้งพลังความชั่วร้ายของยักษ์ทาระกะที่บัดนี้กำลังครอบงำจิตใจของคีรีจักรอยู่ ธีรวงศ์ตัดสินใจออกตามหาแก้วนพเก้าเพราะหวังว่าจะได้อนุชากลับคืนมา โดยหารู้ไม่ว่าคีรีจักรก็กำลังจะตามหาแก้วนพเก้าเพื่อมาถ่วงดุลและต่อสู้กับธีรวงศ์เช่นกัน
........................................
แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 53 16:37:41
แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 53 16:34:12
แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 53 16:31:39