 |
ศาลเจ้ายะสุคุนิ....พิธีกรรมของศาสนาชินโต
|
|
ได้อ่านบทความนี้จึงนำมาฝาก สำหรับผมช่วยมันทำให้เข้าใจวัฒนธรรมประเพณีฯลฯ ของญี่ปุ่นมากขึ้น เราดูซีรี่ย์บ้านเขาอยู่ครับ มันช่วยเพิ่มความเข้าใจของซีรี่ย๋ในบางมุมมองมากขึ้น . . . ทำไมนายกฯ ญี่ปุ่น ต้องไปศาลเจ้ายะสุคุนิ?
พุธ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
คำถามจากผู้อ่านท่านหนึ่ง ถามถึงกรณีที่ผู้นำญี่ปุ่นหลายคนเดินทางไปบูชาศาลเจ้ายะสุคุนิในกรุงโตเกียว ทั้งที่ทราบว่า หลายประเทศที่เคยมีปัญหาถูกญี่ปุ่นรุกรานไม่ชอบการกระทำอย่างนี้ ทำไมถึงยังทำ นิติภูมิมีคำอธิบายอะไรไหม?
ตอบ อันนี้เป็นพิธีกรรมของศาสนาชินโต ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติญี่ปุ่นครับ คำว่าชินโตแปลว่า วิถีเทพเจ้า ศาสนาเดิมของคนญี่ปุ่นไม่มีชื่อเรียก เป็นแต่เพียงพวกลัทธิต่างๆ ส่วนใหญ่ถือเวทมนต์คาถาบ้าง เป็นลัทธิเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหารบ้าง เป็นการบูชาธรรมชาติบ้าง หรือเป็นการบูชาบรรพบุรุษบ้าง
ต่อมา อิทธิพลของหลายศาสนาจากจีนแผ่ขยายกระจายเข้ามาในญี่ปุ่น มีทั้งขงจื้อ เต๋า และพระพุทธศาสนา คนญี่ปุ่นจึงปรับปรุงวิถีปฏิบัติให้เป็นแบบของตัวเอง เป็นศาสนาของตัวเอง และตั้งชื่อว่า ศาสนาชินโต และเพื่อให้มีความแตกต่างไปจากศาสนาอื่น ชินโตจึงเป็นศาสนาที่ไม่มีศาสดา
ชินโตเป็นศาสนาที่ไม่มีคำสอนเรื่องโลกหน้า ไม่มีเรื่องชีวิตหลังความตาย และไม่พูดถึงเรื่องการติดต่อกับวิญญาณของผู้ตาย คำสอนของชินโตเป็นเรื่องที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับชีวิตครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องเป็นชีวิตในโลกนี้เท่านั้น
ชินโตถือว่าวิญญาณเป็นอมตะ เมื่อมนุษย์ตายแล้ว วิญญาณก็จะไปหาร่างใหม่ เหมือนเป็นการเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่ ส่วนดวงวิญญาณของบรรพบุรุษที่ไม่ได้ไปเกิดในร่างใหม่จะวนเวียนอยู่กับญาติมิตร คอยร่วมสุข ร่วมทุกข์อยู่ด้วยกันในครัวเรือน ถ้าต้องการให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นมีความสุข ญาติมิตรที่ยังไม่ตายจะต้องทำความดี และผลแห่งความดีก็จะส่งถึงดวงวิญญาณนั้น การทำอย่างนี้ คนที่ปฏิบัติจะได้รับพรจากดวงวิญญาณเป็นการตอบแทน แต่คนที่ยังไม่ตายทำความชั่ว ผลแห่งความชั่วก็จะส่งถึงดวงวิญญาณ และดวงวิญญาณก็จะลงโทษ
ที่ผู้อ่านท่านถามมาเรื่องทำไมนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นต้องไปสักการะศาลเจ้ายะสุคุนิ? ขอตอบว่า เพราะศาลนี้เป็นศาลเจ้าที่สร้างเพื่ออุทิศแก่วีรชนเป็นจำนวนมาก และคนญี่ปุ่นต้องทำพิธีกรรมตามหลักของศาสนาชินโตหลายอย่าง อย่างแรกเลยต้องบูชาธรรมชาติ ประชาชนคนญี่ปุ่นเชื่อว่าธรรมชาติทั้งหลายที่เทพเจ้าทรงสร้างขึ้นมานั้น ล้วนมีคะมิซึ่งเป็นวิญญาณของเทพเจ้าสถิตย์อยู่ด้วย ญี่ปุ่นจึงบูชาธรรมชาติและปรากฏการณ์ของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ลม พายุ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ภูเขา แม่น้ำ ทะเล น้ำตก ต้นไม้ ต้นหญ้า ก้อนหิน และสัตว์ต่างๆ แม้แต่เครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพนี่ คนญี่ปุ่นก็ยังบูชาด้วย
นอกจากบูชาเทพเจ้าแล้ว พวกญี่ปุ่นยังบูชาบรรพบุรุษ บรรพบุรุษที่คนญี่ปุ่นบูชาเป็นสุริยเทพีที่มีพระนามว่าอะมะเตระสุ พระจักรพรรดิยิมมูซึ่งเป็นจักรพรรดิพระองค์แรก และจักรพรรดิองค์ต่อๆ มาทุกพระองค์
คนญี่ปุ่นต้องบูชาวีรชนคนที่ทำความดีทั้งหลาย ใครก็ตามที่ประกอบอาชีพซื่อสัตย์ ไม่หลอกลวงประชาชน ไม่คดโกงประชาชน คนญี่ปุ่นถือว่าเป็นคนดีที่ควรยกย่องและเป็นเทพเหมือนกันหมด ด้วยเหตุผลนี้นี่ยังไงละครับ คนญี่ปุ่นจึงสร้างศาลเจ้าที่อุทิศแก่วีรชนเป็นจำนวนมาก
ญี่ปุ่นเชื่อว่าพระจักรพรรดิและคนญี่ปุ่นทั้งหมดสืบเชื้อสายมาจากสุริยเทพี คนชาตินี้จึงถือว่าพวกตนเป็นเผ่าพันธุ์ของสวรรค์ และแผ่นดินของตัวเองเป็นแผ่นดินที่เทพเจ้าทรงสร้างประทานให้ ความเชื่ออย่างนี้เหมือนกับพวกยิวนะครับ ทำให้ทั้งยิวและญี่ปุ่นเป็นพวกรักชนชาติ รักแผ่นดิน ส่วนญี่ปุ่นนั้นก็จงรักภักดีต่อจักรพรรดิสูงมาก ศูนย์กลางของการบูชาในศาสนาชินโตได้แก่ศาลเจ้าอิซุโมะที่ชายทะเลญี่ปุ่นใกล้แหลมเกาหลี และศาลเจ้าที่เมืองอีเสะซึ่งเป็นศาลแห่งสุริยเทพี
ศาลเจ้าของญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษก็คือ shrine ออกเสียงว่า ฌไรน ศาลทำด้วยไม้ มักจะมีห้องเดี่ยว หรือบางทีก็มีห้องโถงอยู่ห้องหนึ่ง เป็นห้องที่ยกพื้นสูงและมีขั้นบันไดเข้าทางด้านข้าง หรือด้านหน้า ในห้องนี้จะมีกระจกเงา กระจกเงาคือเครื่องหมายแห่งปัญญาของสุริยเทพี มีดาบซึ่งเป็นอาวุธของเทพซูซาโนะโอะ ทั้งกระจกและดาบนี่แหละครับ เป็นเครื่องหมายสำคัญของศาสนาชินโต
คนสำคัญของญี่ปุ่นจำเป็นต้องไปสักการะศาลเจ้า "ยะสุคุนิ" เพราะเป็นสุสานทหารผ่านศึกที่เสียชีวิตตั้งแต่ก่อนและหลังสมัย "เมจิ" เรื่อยมาเป็นเวลากว่า 100 ปี จนกระทั่งถึงยุคสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง จำนวนทหารและผู้เสียชีวิตอื่นๆ ที่ถูกฝังอยู่ในสุสานแห่งนี้นับรวมได้กว่า 2,500,000 คน รวมทั้งบรรดา "อาชญากรสงคราม" ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองด้วยครับ
. . . ที่มา http://www.nitipoom.com/th/article1.asp?idOpenSky=3442&ipagenum=
จากคุณ |
:
ด่างดำ
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ก.พ. 53 06:39:43
|
|
|
|  |