ความคิดเห็นที่ 1 เปิดตัว Season 6 เรารู้และเห็นอะไรบ้าง ช่วงต้นของตอนที่ 1 เราได้เห็นว่าซีซั่นนี้เล่นกับ 2 timeline ที่วิ่งคู่ขนานกัน แต่ก็ยังมีการเชื่อมเกี่ยวพันกันบ้างเล็กน้อย เพราะมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป หลังจากเหตุการณ์ที่จูเลียตทุบระเบิดในซีซั่น 5 เราได้เห็นว่าบนเครื่องบินมีเหตุการณ์ที่แตกต่างไปจากที่เราเคยเห็นในซีซั่นก่อนหน้า เราเห็นว่าแชลนอนไม่ได้ขึ้นเครื่องมากับบูน เธอเลือกที่จะอยู่ออสเตรเลียต่อไป เราเห็น Hugo บอกว่าเขาเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก ทั้งๆ ที่ก่อนนั้นเราได้ยินมาตลอด ว่าเขาต้องคำสาป มีแต่เรื่องแย่ๆ เกิดขึ้นกับเขาหลังจากถูกหวย เราเห็นเดสมอนขึ้นมาบนเครื่อง ทั้งๆ ที่เขาควรจะอยู่ที่เกาะ คอยกดปุ่มอยู่ และสุดท้ายเราได้เห็นว่าเกาะจมอยู่ใต้น้ำ แทนที่จะลอยอยู่อย่างที่มันควรจะเป็น อ้อ... เห็นปลาฉลามที่มีตราขององค์กรณ์ dharma ติดอยู่ที่ตัวด้วย  ฮ่าๆๆ และนี่คือคำถามที่เกิดขึ้นหลังจากที่เราได้ดูฉากเหล่านี้ผ่านไป ตกลงระเบิดมันระเบิดไหมเนี่ย หรือแสงขาวๆ ที่เราเห็นเป็นเพียงแค่การ Flash ทำให้ตัวละครกลับมายังช่วงเวลาเดียวกันกับ John และซันอีกครั้งเพียงเท่านั้น ที่เกาะจมลงไปนี่มันจมตอนไหน  จมทันทีหลังจากที่ระเบิดมันระเบิดหรือเปล่า หรือว่าจมหลังจากนั้น เพราะเหตุการณ์อื่น ตอนนี้ทฤษฎี whatever happened, happen ยังใช้ได้อยู่ไหม อดีตเกิดการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว อย่างที่เจ้าของทฤษฎีอย่างฟาราเดย์ ย้อนกลับมาที่เกาะเพื่อทุบทฤษฎีของตัวเองหรือเปล่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินแสดงให้เห็นว่ามีโลกคู่ขนานเกิดขึ้นใช่ไหม อะไรบ้างที่เป็น loop ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ และอะไรบ้างที่เกิดการเปลี่ยนแปลง จนทำเกิดโลกคู่ขนานขึ้น จูเลียตบอกว่า “It worked” หมายความว่าอะไร  อะไร worked ทำไมล็อคต้องตาย เพราะอะไร เพื่อสาเหตุไหน ทำไมซายิดฟื้นขึ้นมา แนวทางของเรื่องในซีซั่นนี้จะเกี่ยวข้องกับอะไร และเป็นไปในแนวทางไหน เอาล่ะ.... ประเด็นเหล่านี้ ใครสนใจอยากรู้ และพร้อมจะอ่านอะไรยาวๆ มามะ.... มาเข้าสู่โลกแห่ง Lost พร้อมๆ กัน... จากคุณ : Mr. Forever เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 13:58:02

ความคิดเห็นที่ 2 ความเชื่อของสองผู้เฒ่า “They come. They fight. They destroy. They corrupt. It always ends the same.” นี่คือคำพูดของลุงมืดเสื้อดำ หรือที่เราน่าจะพอเข้าใจกันแล้วว่าคือเจ้าหมอกสีดำนั่นเอง ตรงนี้แสดงให้เห็นว่าเขาเชื่อว่าสิ่งที่เกิดรอบๆ ตัวเขาตลอดเวลามันเป็นวังวน หรือ Loop ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่า Jacob จะเอาใครเข้ามาในเกาะหรือไม่ก็ตาม สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเขารู้สึกว่าเบื่อหน่ายมาก จนอยากจะหนีและไปให้พ้น จากวังวนซ้ำไปซ้ำมาตรงนี้ ซึ่งทางเดียวที่เขาจะไปให้พ้นๆ มันได้ ก็คือฆ่า Jacob ซะ แล้วทุกๆ อย่างจะเปลี่ยนไปเอง.... ดังนั้นการฆ่า Jacob ก็คือสิ่งที่เรียกว่า Loop Hole  หรือรอยโหว่ที่จะทำให้ Loop นี้หายไป ก็ได้แค่คิดคิดแต่ทำไม่ได้ เพราะด้วยเงื่อนไขบางอย่าง ทำให้เขาไม่สามารถฆ่า Jacob ด้วยตัวของเขาเองได้  ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องหาก็คือใครสักคน มาฆ่า Jacob แทนเขา และเกิดสิ่งที่เรียกว่า Loop Hole ขึ้นนั่นเอง It only ends once. Anything that happens before that is just progress. นี่คือคำพูดของ Jacob  ซึ่งเชื่อว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปแบบ Loop ที่หมุนวนไปมา ทุกอย่างมีจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุดของมันเสมอ เพียงแต่ว่ามันจำเป็นต้องมีขั้นตอนบางอย่าง ระหว่างทางอยู่บ้าง ก่อนที่จะไปถึงจุดสิ้นสุดนั้น แม้ว่าเรื่องบางเรื่องจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ตามที แต่มันก็เป็นแค่ขั้นตอนหนึ่งเท่านั้นก่อนไปถึงจุดหมาย ประหนึ่งกับเอดิสันที่ประดิษฐ์หลอดไฟ ที่ต้องทำการทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลายต่อหลายรอบเพื่อจะพบว่า สุดท้ายมันก็ล้มเหลว ซึ่งถ้าหากว่าเอดิสันคิดเหมือนลุงหมอกดำ เขาก็คงเบื่อและยุติการทดลองไปทุกอย่างคงเปลี่ยนแปลง แต่โชคดีที่เอดิสันคิดแบบ Jacob ว่าความล้มเหลวที่ผ่านมาของเขา เป็นแค่ขั้นตอนหนึ่งของการเดินทาง ไปสู่เป้าหมาย เขาจึงไม่หยุด และประสบความสำเร็จในที่สุด Jacob เองก็เช่นกัน เขาเชื่อว่าทุกอย่างมีจุดสิ้นสุด เพียงแต่เรายังไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดที่เขาหมายถึงนั้น มันคืออะไร และจะนำพาทิศทางของซีซั่นนี้นั้นให้เป็นไปอย่างไร จากคุณ : Mr. Forever เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 13:59:02

ความคิดเห็นที่ 3 They’re coming เป็นอีกหนึ่งประโยคเจ้าปัญหาในซีซั่นที่แล้ว ว่า Jacob หมายถึงอะไร ใครคือ They ที่เขาหมายถึง  คือกลุ่มคนที่ Jacob รวบรวมให้มาที่เกาะ พร้อมกับโลงศพของล็อคหรือเปล่า  หรือหมายถึงกลุ่มของ Jack ตอนนี้ก็คงพอเดากันได้แล้ว ว่าน่าจะหมายถึงทั้งสองกลุ่มนั่นแหละ กลุ่มแรกจะมาแฉให้ทุกคนได้เห็นว่าจริงๆ แล้วล็อคนะตายไปแล้ว ศพอยู่ในโลงนั่นไงไม่เห็นเหรอ  ส่วนไอ้ที่เห็นกันตอนนี้มันคือตัวปลอม ในส่วนของกลุ่ม Jack ผมเชื่อว่าการที่กลุ่มนี้มายังปัจจุบัน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกัน กับที่ล็อคตัวปลอม, ซัน และพวกริชาร์ตอยู่ จะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญ ที่ทำให้ Loop เดิมๆ เปลี่ยนไป และนี่คือขั้นตอนสุดท้ายที่จะเดินทางไปสู่จุดสิ้นสุด เรายังไม่รู้ว่า Jacob มีแผนจะใช้งานคนสองกลุ่มนี้อย่างไร แต่ที่แน่ๆ คือกลุ่มสองกลุ่มนี้คือจุดเปลี่ยนที่ Jacob จะใช้พลิกเกมส์นี้แน่นอน อะไรคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และอะไรที่เกิดขึ้นใหม่ สองตอนแรกทำให้เรารู้แน่ชัดแล้วว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจนแยกออกเป็น 2 timeline ซึ่ง timeline แรกก็คือที่เราเห็นกลุ่มแจ๊คอยู่บนเกาะด้วยจิตตกสุดๆ ว่าสิ่งที่เขาทำนั้น ไม่สำเร็จ ในขณะที่ timeline ที่สองก็คือ timeline ที่เกาะจมอยู่ใต้น้ำ  และเครื่องบินไม่ตก ซึ่งใน timeline ที่สองนั้น เราจะเห็นว่ามีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงอดีต ซึ่งตรงนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าตกลงอะไรคือ loop ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และอะไรคือสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่กันแน่ สรุปคร่าวๆ ดังนี้ว่า การที่เครื่องบินของกลุ่ม jack ตกในซีซั่นแรกนั้น เกิดขึ้นซ้ำจนเป็น loop และเหตุการณ์ที่เราเห็น ในซีซั่น 1 – 5 คือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็น loop เช่นกัน อาทิเช่น การที่ฟาราเดย์กลับมาที่เกาะ แล้วบอกกับ jack ว่าจะสามารถทำให้พลังงานแม่เหล็กสูญสลายไปได้ และจะทำให้ไม่มีสนามแม่เหล็กที่เกาะแห่งนี้อีกต่อไป นั่นหมายถึงว่าเครื่องบินของพวก jack ก็จะไม่ตกที่เกาะแห่งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งสร้างความหวังใหม่ให้กับแจ๊คอย่างเหลือล้น การกลับมาของฟาราเดย์ด้วยความเชื่อเช่นนั้นก็อาจจะเป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้เกิด incident ซึ่งจะเห็นว่าถ้าฟาราเดย์ไม่กลับมาบอกเรื่องนี้ ดร.ซางก็จะไม่ไปห้ามการขุดเจาะที่ไซต์ เพราะเขาไม่ได้มีหน้าที่ตรงนั้น และเขาก็จะไม่ต้องเสียแขนไปในอุบัติเหตุครั้งนั้นด้วย แต่ในวีดีโออบรมของ DI เราจะเห็นว่าช่วงแรกๆ แขนทั้งสองข้างของเขายังใช้งานได้ปกติ ในขณะที่วีดีโออบรมของสถานีหลังๆ แขนเขาพิการไปแล้ว มันจึงเป็นข้อยืนยันว่า เหตุการณ์ข้างต้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในอดีตนั่นเอง นอกจากนี้การที่ฟาราเดย์ถูกแม่ของตัวเองยิงตาย ก็เป็น loop ด้วยเช่นกัน เพราะอิลูอิสรู้อยู่ตลอดเวลาว่าสุดท้ายเธอจะเป็นคนยิงลูกตัวเองตาย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการที่ฟาราเดย์กลับมาหากลุ่มแจ๊คเพื่อบอกให้เอาระเบิดนิวเคลียร์ ไปทิ้งลงไปในหลุมที่กำลังขุดเจาะนั้น คือสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่านั่นเอง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน loop ปกตินับตั้งแต่ที่หย่อนระเบิดลงไปอาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราเห็น ใน seasons 6 ก็เป็นไปได้  บางทีระเบิดอาจจะไม่ระเบิด ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่คาดหวัง สุดท้ายพวก jack ที่ตอนนี้กลุ่ม DI รู้แล้วว่ามีใครบ้างเป็นสมาชิก ก็อาจจะถูกกลุ่ม DI ตามฆ่าจนตายหมด หรืออาจจะตายด้วยวิธีอื่นอย่างที่ริชาร์ตบอกซันไว้ ว่าเขารู้จักทุกคนในรูป และเขาก็ได้เห็นพวกนี้ตายกันหมดกับตาของเขาเอง นั่นอาจจะเป็น  loop ที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาในอดีต เพียงแต่ว่าเราไม่ได้รับรู้ในซีซั่น 6 เท่านั้นเอง จากคุณ : Mr. Forever เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 14:00:33

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วอะไรบ้างที่ไม่เป็น loop นั่นก็คือการที่เบนฆ่า Jacob นั่นเอง และอาจจะส่งผลกระทบให้จูเลียตดันไม่ตายตอนตกหลุมไป จนสามารถเอาหินทุบระเบิดในท้ายซีซั่น 5   เหตุการณ์นี้อาจจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ และเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจนแตกออกเป็น 2 timeline อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ในส่วนของ timeline ใหม่นั้น เราจะเห็นว่ามีอะไรแปลกๆ หลายอย่าง เช่น เดสมอนไม่ได้อยู่บนเกาะ  นั่นเพราะเกาะจมไปแล้ว ซึ่งหากสมมติฐานที่ว่าระเบิดนิวเคลียร์ (ซึ่งเหลือแค่ใส้แกนกลาง) เกิดระเบิดขึ้นจริงๆ จนทำให้พลังงานแม่เหล็กบนเกาะสูญหายไป จนกลายเป็นทำให้เกาะจมน้ำลงไปในปี 1977 นั่นก็หมายความว่าทุกคนที่อยู่บนเกาะนั้นก็คงจะตายหมด ทั้งวิลมอร์ทั้งอิลูอิส นั่นหมายความว่าเพนนีก็ไม่เกิด  ฟาราเดย์ก็ไม่ได้เกิด ดังนั้นเพนนีกับเดสมอนจึงไม่เคยพบกัน ใน timeline อันใหม่  ดังนั้นเดสมอนจึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องไปล่องเรือรอบโลก เขาจึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะไปซ้อมและฟิตร่างกาย จนทำให้ไปเจอ Jack ที่สนามกีฬาเหมือนใน Timeline ที่เป็น loop แสดงให้เราเห็นก่อนหน้านั้น  ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไร ที่เขาจะจำ jack ไม่ได้ เพราะการเจอกันระหว่างคนทั้งคู่ไม่เคยเกิดขึ้นนั่นเอง แต่ทำไม jack ถึงคุ้นหน้าเดสมอน ทำไมเขาถึงมีแผลที่คอ  สิ่งต่างๆ เหล่านี้อาจจะชี้ว่าบางที อาจจะยังมีความเชื่อมโยงบางอย่างระหว่างสอง timeline นี้  และ Jack ก็คือหนึ่งในคนที่ ยังสามารถรับสื่อบางอย่างจากทั้งสอง timeline นี้ได้ก็เป็นไปได้เช่นกัน ดังนั้นแนวทางของซีซั่นนี้ที่เรารอดูก็คือเราได้จะได้เห็นผลของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จากการพยายามเปลี่ยนแปลงอดีต  และเราจะได้ลุ้นกันต่อไปว่า Timeline ทั้งสองช่วงนี้ จะเป็นอย่างไรต่อไป จะเดินแบบทางใครทางมัน หรือว่าจะกลับมาเชื่อมโยงกันด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในซีซั่น 6 นี้นี่เอง แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 53 14:01:23 จากคุณ : Mr. Forever เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 14:00:52

ความคิดเห็นที่ 5 You’re free นี่คือคำพูดที่หมอกสีดำในร่างล็อคบอกกับกลุ่มบอดี้การ์ดของ Jacob ที่บุกเข้าไปในรูปปั้น แล้วพบว่า Jacob ตายแล้ว คำพูดนี้สื่อให้เห็นว่าหมอกสีดำเชื่อว่าความตายของ Jacob ทำให้ Loop ต่างๆ ที่หมุนวนเข้ามาสู่เกาะแห่งนี้ เช่นการนำเอากลุ่มคนใหม่ๆ เข้ามา เพื่อจะพบกับจุดจบเดิมๆ นั้นจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว สีหน้าที่สื่อออกมาผ่านใบหน้าของล็อคนั้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าหมอกสีดำคิดว่ามันจบแล้ว และเขาก็กำลังจะมีอิสระเช่นกัน ไม่ต้องมาคอยดูอะไรเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกต่อไป แต่ก็อย่างที่รู้ว่าทีมของ Jacob ไม่พอใจก็เลยสู้ และเราก็เห็นล็อคแปลงร่างเป็นหมอกสีดำ จากนั้นเจ้าหมอกสีดำก็ฆ่าทั้งกลุ่มตายหมดแบบง่ายดาย เราได้เห็นว่าเถ้าถ่านสีดำที่ Bram เอามาโรยเป็นวงกลมไว้นั้น มีผลบางอย่างกับหมอกสีดำทำให้เจ้าหมอกเข้าไปในรัศมีนั้นไม่ได้ แต่หมอกดำก็ไม่ได้โง่  กลับกลายเป็น Bram ที่ตายแบบโง่ๆ แทน สรุปตายกันง่ายๆ ทั้งกลุ่ม จากนั้นล็อคก็พูดกับเบนเกี่ยวกับ John lock ว่าความรู้สึกสุดท้ายก่อนตายที่ฝังอยู่ในหัวนั้นคืออะไร ตรงนี้เราไม่แน่ใจว่าเจ้าหมอกสีดำรู้จริงหรือเปล่า หรือว่าแค่ปั่นหัวเบนเล่น แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับคำพูด ที่เขาบอกกับเบนว่า เข้าต้องการจะกลับบ้าน ตรงนี้นอกจากเราจะสงสัยว่าบ้านที่ว่านี่ของเจ้าหมอกมันคือที่ไหน  คือวัดที่อยู่บนเกาะนี้หรือเปล่า หรือว่าเป็นสถานที่อื่นนอกเกาะ ตรงนี้คงต้องการข้อมูลต่อไปว่ามันคืออะไร แต่ที่เรารู้ก็คือการอยู่ใน Loop เดิมๆ ซ้ำๆ ทำให้เจ้าหมอกดำเบื่อ และอยากให้ทุกอย่างจบลงเสียที นั่นก็คือการฆ่า Jacob ซึ่งเขาเชื่อว่ามันจะทำให้เขาพบกับอิสระ ซึ่งเขาเองก็กล่าวยินดีกับคนอื่นๆ เช่นกลุ่มของ Bram ที่เข้าไปในรูปปั้น แต่กลับพบว่า Bram พยายามจะฆ่าเขา นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่เขาพูดตอนออกมาจากรูปปั้นว่าเขาผิดหวังในตัวทุกคนก็เป็นไปได้ นั่นเพราะเขาเชื่อว่าการฆ่า Jacob คือสิ่งที่ถูกต้อง และทุกคนจะได้เป็นอิสระไม่ต้องมามีชีวิต อยู่ใน loop แบบนี้อีก  แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือสายตาแปลกๆ ที่มองมาที่เขา และนั่น น่าจะเป็นที่มาของความผิดหวังที่เขาพูดถึง แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 53 13:22:47 จากคุณ : Mr. Forever เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 14:03:21

ความคิดเห็นที่ 6 It's good to see you out of those chains. อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือบทสนทนาระหว่างหมอกสีดำกับริชาร์ตหลังจากออกมา จากรูปปั้นแล้ว เขาพูดว่า Hello, Richard. It's good to see you out of those chains. ประโยคนี้ถูกตีความไว้เยอะ แต่ผมเชื่อว่าหลักๆ ที่จะสื่อก็คือโซ่ในที่นี้น่าจะเป็นตัวแทน ของการกักขังอิสรภาพ เช่นพวกทาสที่ถูกโซ่ลามในเรือ Black Rock ซึ่งไม่แน่ว่าบางที ริชาร์ตอาจจะเป็นหนึ่งในลูกเรือ หรือหนึ่งในทาสที่ถูกเกณฑ์ขึ้นมาใช้แรงงานบนเรือก็เป็นไปได้ และเมื่อเรือมาติดที่เกาะ ริชาร์ตอาจจะถูก Jacob ดึงตัวให้มาช่วยงาน และด้วยเหตุผลบางอย่าง Jacob ทำให้เขากลายเป็นอมตะ เพื่อที่จะคอยทำหน้าที่เสนาธิการ และเป็นตัวเชื่อมระหว่าง กลุ่มคนที่เขาดึงเข้ามาในเกาะ อย่าง The Others กับตัว Jacob เอง ซึ่งเราก็ได้เห็นว่า ริชาร์ตมาทำหน้าที่ตรงนี้ได้นานแสนนาน โดยที่เราก็ไม่รู้ว่ามันหลักสิบปี หรือหลักร้อยปีมาแล้ว ดังนั้นเมื่อโซ่หมายถึงการเป็นทาสรับใช้ใครสักคน การที่ล็อคพูดประโยคนั้นออกไปก็คือจะสื่อ ให้ริชาร์ตเข้าใจว่าเขาเป็นอิสระแล้ว ไม่ต้องรับใช้ใครอีกแล้ว นั่นเพราะ Jacob ตายแล้วนั่นเอง พอได้ฟังอย่างนั้นริชาร์ตเองก็ตาโตขึ้นมาทันทีพร้อมกับถามกลับไปสั้นๆ ว่า “You?”  ซึ่งตรงนี้น่าจะสื่อให้เห็นว่าริชาร์ตรู้แล้วว่าร่างที่อยู่ตรงหน้าเขาคือเจ้าหมอกสีดำนั่นเอง “Me” ตอบเสร็จ เข้าใจตรงกันแล้ว ริชาร์ตก็โดนอัดหมอบสลบไปตามระเบียบ ส่วนเจ้าหมอกสีดำจะพาริชาร์ตไปไหน ผมเดาว่าน่าจะพาไปที่วัดแหละ แต่จะทำอย่างไร ให้สามารถเข้าไปในวัดที่เป็นเขตปกป้องนั้นก็ต้องรอดูกันต่อไป จากคุณ : Mr. Forever เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 14:03:53

ความคิดเห็นที่ 7 สาเหตุที่ล็อคต้องตาย ในซีซั่นมีแต่คนสงสัยว่าทำไม Lock กับซันถึงไม่ไปอยู่ในปี 1977 ด้วยกันกับคนอื่นๆ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะเกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้นใน Loophole ก็เป็นไปได้ นั่นเพราะบางที Lock อาจจะไม่ตายใน Loop ก่อนหน้านี้ หรือบางทีอาจจะไม่เคย ออกไปจากเกาะเลยก็เป็นไปได้ เพราะเราจะเห็นว่าการออกไปนอกเกาะของ Lock ก็ไม่ได้มีผลอะไรมากมายอยู่แล้ว แต่คำอธิบายตรงนี้คงต้องรอข้อมูลให้มากขึ้นกว่านี้อีกนิด หมอกดำที่แปลงร่างเป็นล็อค วางแผนให้ล็อคตายตั้งแต่ต้น เพราะรู้ดีว่าการจะอาศัยเบน ให้กลายเป็น Loophole เพื่อฆ่า Jacob นั้น จำเป็นต้องใช้ร่างของล็อค และวิธีที่ดีที่สุด ที่จะไม่เกิดปัญหาว่าระหว่างที่เดินไปเดินมาบนเกาะ จะดันไปเจอล็อคตัวจริงเข้าให้พอดี นั่นก็คือการฆ่าล็อคเสีย หมอกดำใช้วิธีไซโคเบนในซีซั่น 5 เพื่อให้เบนเกลียดล็อคที่เข้ามามีความสำคัญบนเกาะแทนเขา และยิ่งเมื่อได้ยินที่ล็อคบอกว่าวิธีที่จะพาให้ทุกคนกลับไปที่เกาะได้นั้น คือเขาต้องตาย หลายๆ อย่างรวมกันเป็นคำตอบเดียว เพียงเท่านั้นก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะโน้มน้าวให้เบน ตัดสินใจฆ่าล็อคได้ในที่สุด ย้อนกลับมาว่าใครเป็นคนบอกล็อคว่าการที่เขาจะพาพวกคนอื่นๆ กลับมาที่เกาะได้นั้น เขาต้องตายก่อน  ใครกันล่ะ... ใช่แล้วก็เจ้าหมอกสีดำที่ปลอมตัวมาเป็นล็อคนั่นเอง หรือกระทั่งร่างของพ่อของแจ็คที่โผล่ไปแนะนำให้ล็อคหมุนวงล้อเพื่อจะออกไปตายนอกเกาะ นั่นก็น่าจะเป็นร่างแปลงของหมอกสีดำอีกเช่นกัน เพราะหมอกสีดำเวลาปลอมเป็นร่างอื่น แล้วไปให้คำแนะนำกับคนที่เขาจะปั่นหัวนั้น จะเป็นการใช้คำสั่งให้ทำนู่นทำนี่เสียมากกว่า ในขณะที่ร่างแปลงอย่างหมอกสีขาวของ Jacob นั้น จะให้ทุกคนมีทางเลือกที่จะทำหรือไม่ทำ ให้เลือกเอง แต่จริงๆ แล้วก็ปั่นหัวด้วยเทคนิคทางจิตวิทยาอย่างหนึ่งเช่นกัน ที่ทำให้คนที่ถูกปั่นหัว เชื่อว่าตัวเองกำลังทำมันด้วย Free Will ของตัวเอง เช่นในกรณี Hugo ตอนออกมาจากคุก ซึ่งก่อนนั้นมีคนพยายามบังคับให้เขากลับไปที่เกาะ แต่เขาก็ไม่กลับไป  ในขณะที่ Jacob ทำในทางตรงกันข้าม เขาบอกว่าควรจะกลับไปที่เกาะ แต่จะไปไหม เลือกเอาเองละกัน ว่าแล้วก็ยัดกล่องกีต้าร์ แล้วก็ตั๋วเครื่องบินใส่มือแล้วลงรถไป สรุปว่าเป็น free will แบบ 100% ของคนที่ตัดสินใจไหม ก็ไม่ใช่ มันแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายแล้วก็คือการควบคุมจิตใจให้คนที่เรากำลังปั่นหัว ทำในสิ่งที่เราต้องการนั่นแหละ กลับมาที่ล็อค เราจะเห็นว่านี่คือแผนที่ถูกวางไว้ตั้งแต่ต้น เพื่อจะให้ไปสู่ปลายทางก็คือ การใช้ร่างของล็อคที่เบนถูกหลอกให้เข้าใจว่าตายแล้วกลับมาเกิดใหม่ได้ และยังถูกลูกสาวซึ่งก็คือหมอกดำ หลอกให้ทำตามที่ล็อคบอกทุกประการด้วยแล้ว มันก็ยิ่งทำให้การใช้เบนเป็น loophole เพื่อที่จะฆ่า Jacob นั้น สดใสและเป็นไปได้ง่ายขึ้นกว่าการปลอมตัวเป็นคนอื่นมากนัก การใช้รูปร่างล็อคมีข้อดีหลายอย่างคือ สามารถบังคับให้ริชาร์ดพาเขาไปพบกับ Jacob ได้ สามารถในอำนาจของการเป็นผู้นำกลุ่ม The Others ในการหว่านล้อมให้คนอื่นๆ อยากไปเจอ Jacob ได้เช่นกัน และที่สำคัญคือมไต้องกลัวว่าล็อคตัวจริงจะโผล่มาเพ่นพ่านบนเกาะ ผลสุดท้ายคือที่ล็อคต้องตายก็เพื่อให้ Jacob ถูกเบนฆ่าตายนั่นเอง ถามว่า Jacob รู้ตรงนี้ไหม ผมว่าน่าจะรู้หรือไม่ก็ตระหงิดๆ อยู่บ้างแหละ ถึงได้ออกจากเกาะไปขอความช่วยเหลือกับทีมอีกทีมหนึ่ง ให้ช่วยพาเอาศพของจอห์น กลับมาที่เกาะให้ได้ และยังไปหา Hugo เพื่อจะเอากล่องกีต้าร์มาให้เขาซึ่งในนั้น มีสารลับฝากถึงกลุ่มคนที่อยู่ในวัด ซึ่งแน่นอนว่าตรงนี้ Jacob เองก็มีแผนเช่นกัน ไม่งั้นคงไม่ยอมโดนฆ่าตายง่ายๆ อย่างนั้นแน่ๆ จากคุณ : Mr. Forever เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 14:08:21

ความคิดเห็นที่ 8 แผนของ Jacob ความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งของ Jacob ที่เราเห็นกันบ่อยๆ นั่นก็คือ ความสามารถในการรักษาคนที่อาการบาดเจ็บหนัก ให้ทุเลาขึ้นได้ เช่นตอนที่ล็อคตกตึก และดูเหมือนว่าจะแน่นิ่งไปแล้ว (ก็คือน่าจะเกือบตายแล้วนะแหละ) แต่พอ Jacob เอามือไปแตะที่ตัวสักพัก John ก็ได้สติ และดูเหมือนว่าจะไม่สาหัสมาก อย่างที่ควรจะเป็น แต่ก็แน่นอนว่าไม่ถึงกับหายปกติทุกอย่าง แต่อย่างน้อยก็ไม่ตาย หรือฉากที่เขาไปหาหัวหน้ากลุ่มที่เป็นผู้หญิง เราจะเห็นว่าทีมที่ Jacob ขอให้มาช่วยนั้น ส่วนใหญ่โดนเจ้าหมอกสีดำฆ่าตายเกือบหมด นั่นหมายความว่าทีมของ Jacob แพ้แล้วเหรอ เพราะขนาด Jacob ยังตายเลย อันนี้ก็ไม่แน่หรอก เพราะแผนของ Jacob ก็มีแผนซ่อนไว้อีกชั้นหนึ่งเช่นกัน นั่นก็คือ หลอกให้หมอกสีดำคิดว่าทีมที่จะมาช่วย Jacob ไม่มีความหมายใดๆ อีกแล้ว แต่ในขณะเดียวกันแผนอีกทางหนึ่งก็คือการให้ Hugo พาซายิดไปยังถ้ำนั่นเอง เราได้เห็นว่า Jacob มาคุยกับ Hugo เพื่อบอกให้พาซายิดไปรักษาตัวในถ้ำ แววตาของ Jacob กับท่าทีครุ่นคิดของเขาจนไม่มีเวลาตอบคำถามของ Hugo นั้น สื่อให้เห็นว่าขณะนั้นเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ อาจจะคิดว่าซายิดคงรอดยาก หรือรู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นเช่นนี้ และแผนนี้ก็ถูกดำเนินต่อไป เขาบอกให้ Hugo พาซายิดไปรักษาที่วัด และพาเพื่อนคนอื่นๆ ไปด้วย และยืนยันว่าทุกคนจะปลอดภัยที่นั่น ต่อมาเราได้เห็นว่าซายิดไม่ได้ถูกรักษาในทันทีที่แช่น้ำ สาเหตุอาจจะมาจากน้ำเริ่มขุ่น จนทำให้การรักษาบาดแผลไม่เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น  เราเห็นคนญี่ปุ่นปาดมือตัวเอง แล้วเอามือแช่ไปในน้ำ แต่กลับพบว่าบาดแผลไม่หาย เลือดยังไหลอยู่ นั่นเป็นสาเหตุ ที่เขาบอกกับแจ็คว่า มันมีความเสี่ยงที่จะรักษาไม่หาย จากนั้นซายิดถูกนำลงไปแช่น้ำตามที่ควรจะเป็น แต่เนื่องจากน้ำขุ่นอิทธิฤทธิ์เลยไม่บังเกิด ซายิดตาย พร้อมกับทุกคนที่สลดหดหู่ไปทันตา แต่ในฉากจบเรากลับพบว่าซายิดฟื้นขึ้นมาจากความตาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น บนเกาะแห่งนี้มาก่อน ตรงนี้มีความเป็นไปได้หลายอย่าง บางทีเขาอาจจะถูกวิญญาณของ Jacobเข้าไปใช้ร่าง เพื่อใช้ซายิดเป็น Loophole เพื่อสู้กับหมอกสีดำ  หรือบางทีเขาอาจจะเข้าไปหา Sayid ในโลกแห่งความตายแล้วบอกอะไรบางอย่าง แล้วดึงซายิดกลับมาเพื่อรับใช้เขาก็เป็นไปได้ ซึ่งตรงนี้เราจะคุยกันในรายละเอียดอีกทีตอนพูดกันเรื่องของโปสเตอร์   Last Supper กันอีกที ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่สรุปได้ว่า นี่คือแผนของ Jacob ที่จะกำจัดหมอกสีดำนั่นเอง ถึงตอนนี้เราคงได้เห็นว่าสงครามกำลังจะเกิดขึ้น และเราก็ยังไม่รู้ว่าใครดี ใครเลว แล้ววิทมอร์ล่ะ จะมาร่วมสงครามครั้งนี้เมื่อไหร่ และเขาจะอยู่ฝ่ายไหน เชื่อว่าเราคงได้คำตอบนี้เร็วๆ นี้แน่ๆ จากคุณ : Mr. Forever เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 14:20:14

ความคิดเห็นที่ 9 ชักยาววันนี้ขอโพสแค่นี้ก่อนเนอะ  เดี๋ยวพรุ่งนี้มาโพสใหม่ในกระทู้นี้แหละ เพราะยังมีประเด็นอื่นๆ ให้พูดถึงอีกเยอะมากๆ สำหรับสองตอนแรกนี้ ว่าแล้วใครสงสัยประเด็นไหน เปิดหัวข้อคุยกันได้เลยจ้า จากคุณ : Mr. Forever เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 14:21:29

ความคิดเห็นที่ 10 เลิศ !! แต่งงานกัน "พร้อมกับร่างของแมลงตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่ Bram หนึ่งในทีมบอดี้การ์ดของ Jacob หยิบขึ้นมาจากพื้น" เค้านึกว่ามันคือกระสุนที่ยิงไปโดนล๊อคซะอีก แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 53 14:49:06 แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 53 14:48:37 จากคุณ : supatpit เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 14:34:56

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับ เข้ามา bookmark ไว้ก่อนครับ แว๊บไปดูเรื่องที่ onair วันนี้ก่อน จากคุณ : attribute เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 14:37:44

ความคิดเห็นที่ 12 ตายและ กระทู้นี้อ่านๆไป มาสะดุดฉากขอแต่งงานนี่แหละ 5555 จากคุณ : Nick_Survive เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 14:40:43

ความคิดเห็นที่ 13 คั่นเอาไว้แบบมีสิทธิหน้าแหกได้อย่างมาก ว่า "แล้ว Walt จะกลับมา" จากคุณ : Mo_EcHO เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 15:14:17

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมาก ๆ ครับ รบกวนขอถามว่า ตอนนี้ทั้งสองกลุ่ม อยู่ในเวลาเดียวกันใช่ไหมครับ ปีไหนเอ่ย และพวกที่อยู่ในวัด อยู่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ รวมทั้งคุณแอร์ปริศนาด้วยครับ มาร่วมตอนไหน จากคุณ : rachai.com เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 15:24:45

ความคิดเห็นที่ 16 ที่น่างงที่สุดคือซีรีย์เรื่องนี้ควรจะจัดหมวดไปไว้หมวดใหนดี เพราะอย่างเรื่องอื่นๆ เช่น Heroes นั่นก็เป็นเรื่องของคนมีพลังเหนือโลกจริงๆ แต่ LOST ละ เอาเป็นหมวดใหนดี ผีสางเทวดา ผู้มีพลังวิเศษ ศาสนา ความเชื่อ ลัทธิ หรืออะไรดี หลังจากที่ LOST Season 1 ทำความหน้าแตกให้คนแปลชื่อเป็นภาษาไทยมาแล้วว่า สรุรกายดงดิบ พอดูต่อไปเรื่อยๆ มันไกลเกินกว่าจะเป็นคำว่าอสุรกายแล้ว ??? หรือใช้กับควันดำดี ดูเข้าเค้าที่สุด #15 สองกลุ่มหมายถึงกลุ่ม แจ๊ค-เคท-เจมส์ กับซัน-นักบิน-ล็อค คงอยู่ในเวลาเดียวกันหละครับ ดูตอนที่ในวิหารจุดพลุ ที่ชายหาดก็เห็นพลุเหมือนกัน #13 วอล์ทกลับมานี่เป็นอะไรที่ท้าทายมาก เพราะตัวมันคงไม่เท่าเดิมแน่ๆ เด็กฝรั่งโตไว้ขนาด จากคุณ : ichioini เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 16:30:34

ความคิดเห็นที่ 17 คิดเหมือน คห.10เลย เข้าใจว่าเป็นกระสุน - -* จากคุณ : Buy 1 Get 1 Free เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 16:34:28

ความคิดเห็นที่ 18 ยาย แอร์ คนนี้ มัน ไป รวมกลุ่ม ฮิปปี้ เปิด บ่อ สปา ได้ ยังไง  ...  เจ้ งง . จากคุณ : Fendi เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 16:43:43

ความคิดเห็นที่ 19 ตกลงสรุปกันแล้วหรือว่าไงครับ ว่าปีที่แจ๊ค-ล็อคอยู่ที่ปี 2007 ดูจากตรงใหนอ่ะครับ จากคุณ : ichioini เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 16:51:55

ความคิดเห็นที่ 20   แอร์สาวคนนั้น คิดว่าคงโดนเอาตัวไปช่วงต้นของซีซั่นสองตอนพวกที่อยู่ส่วนท้ายของเครื่องเดิมทางมาที่หาดพร้อม กับพวก จิน ไมเคิล และซอเยอร์ นะครับ เพราะตอนนั้นมีคนหายไปนี่นา จากคุณ : ayatojo เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 17:36:17 A:61.90.5.53 X:

ความคิดเห็นที่ 21 กลุ่มฮิปปี้เปิดบ่อสปามหาบำบัด หมดกันความขลัง แต่อาจจะยังไม่ใช่ปี 2007 ก็ได้นะเจ๊ Fendi ตอนนี้ โมขอตั้งให้ว่าเป็น เวลา x ตั้งทดไว้ในสมการก่อน แต่ถ้าเรื่องมาถึง 2010 เจ๊แอร์อาจจะย้ายวิญญาณมาร่างป้าเช็ง จากคุณ : Mo_EcHO เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 17:50:41

ความคิดเห็นที่ 22 เจ๊แอร์ คือคนที่เดินป่าอยู่ดีๆแล้วหายไป โผล่มาอีกรอบ คือตอนที่มาดูแจ๊คในกรง (คาดว่าเป็น others ไปแล้ว) จากนั้นก็หายไปอีก มาโผล่อีกที เปิดสปาอย่างที่คุณ Fendi ว่าหนะแหละ ปริศนาเธอคนนี้น่าสนใจมากๆ หวังไว้สูงมากๆ ว่าจะมี Cindy Centric EP อะ จากคุณ : Nick_Survive เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 17:54:40

ความคิดเห็นที่ 23 Cindy โดนจับไปตอนที่ Ecko กับ Ana Lucia พาพวก Sawyer,Jin เดินทางพากลับไปหาพวก Jack ครับ โดนจับตัวไปตอนที่ กำลังช่วยกันยก Sawyer ที่ไข้ขึ้นสูงจนเป็นลมไปปีนหน้าผาขึ้นมา พอหันมาอีกที Cindy ก็หายตัวไปแล้ว Cindy โผล่มาอีกครั้งตอนที่ Sawyer,Jack,Kate โดนจับไปขัง มาพูดอะไรซักอย่างจำไม่ได้แล้ว ซึ่งตอนนั้น Cindy ก็อยู่กับพวกของBen แสดงว่า พวก Ben ทั้งหมดมาจากกลุ่มเดียวกับพวกที่ วิหาร รึเปล่าครับ? จากคุณ : PGT เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 18:10:24

ความคิดเห็นที่ 24 ผมว่าไม่น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันนะครับ เพราะดูจากการแต่งตัว เบนจะใส่รองเท้า ส่วนชาวสปา ไม่ใส่รองเท้า แต่เบนกับพวกก็เคยปลอมตัวเป็นเหมือนชาวสปา อันนี้งงมาก ทำไมต้องปลอมตัวด้วย จากคุณ : Sylar เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 18:13:02

ความคิดเห็นที่ 25 -นึกว่าเป็นกระสุนเหมือนกันอ่ะ -เห็นมีคอมเมนท์นึงในกระทู้คุยกันตอน1-2 บอกว่า น้ำในสปาใสขึ้นตอนหลังจากซายิดตายแล้ว (ฉากที่ฮิวโก้ไปบอกลาซายิด ที่บอกว่ามีอะไรให้มาคุยกันได้) พยายามเพ่งดูสุดฤทธิ์ จะว่าใสมันก็รู้สึกเหมือนไม่แดงเท่าตอนแรก หรือจะเป็นเพราะมุมกล้องหว่า จากคุณ : TSURUGI เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 18:53:28

ความคิดเห็นที่ 26 ได้ดู ตอน 00 แล้วก็ 01-02 แล้วครับ เอาเข้าไป ! สำหรับผมถ้าอ่านจากที่  Mr. Forever อุตส่าห์ หา ย่อ มาให้อ่านกันนี่ ผมรู้เรื่องไม่ถึงครึ่ง ! สงสัยจอที่บ้านมันจะเล็กไป (ขอร่วมเดาด่้วยคน  เอาเท่าที่คิดออกในทันทีนะครับ/ วอลท์ คงไม่กลับมาแล้วครับ เพราะเด็กมันโตเกินเรื่องไปแล้ว :-) หนังมันปี 6 ไปแล้ว เวลาในเรื่องมันไปได้สามปี ตอนที่โผล่มาหน่อยๆในปีห้านี่ก็ฝืนมากแล้วครับ / เหตุการณ์ที่ไม่เป็น loop อีกอย่างนึง คือ หมอแจ็ค ผมยาวครับ เซ็งเลย ดูไม่เท่อย่างแรง แถมตัวละครหลายตัว ผมเริ่มหงอกเอาดื้อๆ / เรื่องที่ต้องเฉลยแบบห้ามเสียฟอร์มคือ ผมว่า มี เรื่องตัวเลข + เรื่องอนุเสาวรีย์ยักษ์ + เรื่องริชาร์ดไม่แก่ / ตัวละครที่ไม่ตายแน่ๆผมให้ Hugo คนเดียวนะ ที่เหลือใครจะตายก็ไม่สนใจแล้ว / เรื่องนี้ถ้าสรุปว่าเป็นเรื่องมนุษย์ต่างดาว ผมจะนับว่าเข้าข่ายปาหมอน !  ) จากคุณ : รถเล็ก เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 21:55:33

ความคิดเห็นที่ 27 เอาง่ายสุดเลยครับ lax แปลว่าอะไร / จากคุณ : VET53 เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 23:26:32

ความคิดเห็นที่ 28 ขำอ่ะ 555 กลายเป็นบ่อสปากันไปซะแล้ว 555 ตกลงแมลงเหรอ นึกว่ากระสุนที่ยิงไม่เข้า จากคุณ : Bluedonut เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 23:34:12

ความคิดเห็นที่ 29 ได้ คห 22 Nicky มาขยาย เพิ่ง เก้ต และ เจ้ เชื่อ ว่า พวก ฮิปปี่สปา  ยิง พลุ ออกมา  มัน ไม่ข้ามเวลา มาให้ ริชารด์ เห็น นะ  หนู Mo_EcHO เจ้ว่า พวกสปา ตอนนี้ มัน อยู่ กัน ปี 2007 นะ . แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 53 00:40:29 จากคุณ : Fendi เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 00:39:57

ความคิดเห็นที่ 30 แก๊งฮิปปี้จุดพลุเริ่ดขนาด คห#29 เชียวหรอ จากคุณ : Mo_EcHO เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 00:53:40

ความคิดเห็นที่ 31 เฮอ เราว่าเรื่องนี้มันผสมผสาน ความเชื่อ ศาสนา วิทยาศาสตร์ได้มันส์จริงๆ เหมือนดูหนังเรื่อง matrix เลย เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเยอะดีชอบ เออ มีใครดูหรือ อ่าน lost experience บ้างอะ เป็นไซสตอรี่ที่เยอะจริงๆ จากคุณ : mary_kidz เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 00:58:50

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าตอนนี้คนดูกำลังถูกปั่นหัวโดยให้คิดว่า sideways บนเครื่องคือ 2004 แต่จริงๆแล้วมันคือ ปี X (ปีไหนก็ไม่รู้) หละ ให้เข้ากับ LA X (แอลเอ ปี X) ตามที่พี่โมเคยวิเคราะห์ไว้กระทู้ก่อน (คห 73) อันนี้สังเกตจากแจ๊คไม่ตัดสกินเฮด แชนนอนไม่ขึ้นเครื่อง แถมผังที่นั่งเปลี่ยนเยอะด้วย (อันนี้คิดว่า ไม่ใช่ความชุ่ยของทีมงาน แต่จงใจอะ) ตอนต่อๆไปฉากในเมืองของ sideways เราคงนั่งจับตามองสุดๆ ว่าเทคโนโลยีต่างๆมันบ่งบอกว่าเป็นปีไหน ถ้ามีอะไรไฮเทคกว่า 2004 (เช่นมีคนใช้ iPhone) ก็กรี๊ดเลย ไม่ใช่ 2004 แน่นอน จบซีรีย์เรื่องนี้เราจะหัวหงอก ผมร่วง ไรสูง มั้ยเนี่ย - -" จริงจังกับเรื่องนี้มากกว่าตอนเรียนมหาลัยอีก แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 53 01:05:18 จากคุณ : Nick_Survive เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 01:04:42

ความคิดเห็นที่ 33 #32 ผมแอบเห็นตอนซายิด หยิบรูปนาเดียมาดู ไม่แน่ใจว่าเป็นตั๋วเครื่องบินหรือเปล่าแต่เห็นลงวันที่ เป็นปี04ด้วย ลองดูนะครับผมก็ไม่ชัว นอกเรื่องหน่อย ตอนเคสถีบประตูห้องน้ำ ตกใจว่าเคสมีแรงเยอะขนาดถีบบานพับประตูพังเชียวเหรอ ที่แท้ประตูของเขามันเปิดออกด้านนอก แต่ส่วนใหญ่บ้านเราจะเปิดเข้าด้านใน แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 53 03:18:42 จากคุณ : attribute เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 01:42:06

ความคิดเห็นที่ 34   To Rep 27 LAX is the name of the Los Angeklis's Airport krub. จากคุณ : nonamesaur เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 02:04:57 A:128.104.94.201 X: TicketID:147080

ความคิดเห็นที่ 35 จาก คห.33 เราพยายามมองมาสองวันแล้วเหมือนกัน พยายามมองแม้กระทั่ง ตราปั๊มที่ ตม. ในพาสปอร์ตของเคทกับ marshall หมึกยังเลือนทั้งขาออกจาก Sydney และ ขาเข้า LA เลย และถ้าให้ช่วยกันกลับไปสังเกตุตรง นาทีที่ 49.39 - 49.41 จะเห็นเครื่องสีดำ ๆ เล็ก ๆ อยู่บนเคาเตอร์นั่น ข้อมูลตรงนี้อาจจะพอจะทำให้เห็นอะไรบางอย่างที่น่าตกใจ (แต่ไม่กล้ากระโตกกระตากแฮะ) "US-VISIT currently applies to all international visitors (with limited exemptions) entering the United States. This includes visitors traveling under the Visa Waiver Program (effective September 30, 2004). US-VISIT does not apply to U.S. citizens" credit : http://www.dhs.gov/files/programs/editorial_0527.shtm หรือหากถ้าใครรู้รุ่นเครื่องของ Fingerprint scanner ล่ะก็ อาจจะพอตีวงให้ range แคบได้ขึ้นอีก ..... OMG (อาจจะเพ้อ อาจจะผิด เพราะไม่รู้รายละเอียดของ regulation ที่แท้จริง) source 2 : http://en.wikipedia.org/wiki/US-VISIT แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 53 02:33:43 จากคุณ : Mo_EcHO เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 02:27:58

ความคิดเห็นที่ 36 ที่ผมวงไว้มันเป็นปี 04 นี่ครับ ไอ้ตรงข้างบนนี่น่าจะปีเกิดซายิดมากกว่า ที่น่าสนคือข้างล่าง แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 53 04:09:23 จากคุณ : ichioini เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 04:09:10

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่หลับ ไม่นอน กันหรือ Lostie ^ ^ จากคุณ : โอชิน77 เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 04:43:23

ความคิดเห็นที่ 38 เอ่ม ขอแก้ความเข้าใจผิดจากการแปลภาษาอังกฤษของ Mr. Forever หน่อย -------------------------------------------- "ดังนั้นการฆ่า Jacob ก็คือสิ่งที่เรียกว่า Loop Hole  หรือรอยโหว่ที่จะทำให้ Loop นี้หายไป ก็ได้แค่คิดคิดแต่ทำไม่ได้ เพราะด้วยเงื่อนไขบางอย่าง ทำให้เขาไม่สามารถฆ่า Jacob ด้วยตัวของเขาเองได้  ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องหาก็คือใครสักคน มาฆ่า Jacob แทนเขา และเกิดสิ่งที่เรียกว่า Loop Hole ขึ้นนั่นเอง" Loop hole ที่ MIB พูดกับ Jacob หมายถึงช่องโหว่ใน "กฎ" ที่ห้ามไม่ให้ MIB ฆ่า Jacob ได้ตะหาก ไม่ได้หมายถึง Hole ของ Loop เวลา ส่วนเรื่องที่ว่าเรื่องทั้งหมดนั้นวนเป็นวังวนไปเรื่อยๆ อันนี้ผมไม่มีความเห็น ไว้ดูต่อไปดีกว่า -------------------------------------------- "แต่ก็อย่างที่รู้ว่าทีมของ Jacob ไม่พอใจก็เลยสู้ และเราก็เห็นล็อคแปลงร่างเป็นหมอกสีดำ พร้อมกับร่างของแมลงตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่ Bram หนึ่งในทีมบอดี้การ์ดของ Jacob หยิบขึ้นมาจากพื้น ตรงนี้ทำให้เราคาดเดาได้ว่าบางทีเจ้าหมอกสีดำอาจจะเข้าสิงร่างแมลงตัวนี้ เพื่อใช้พลังชีวิตของมัน ในการแปลงร่างเป็นล็อคอีกต่อหนึ่งก็เป็นไปได้ ไม่งั้นคงไม่มีแมลงโผล่มาตรงจุดนั้น" ไม่ใช่แมลง แต่เป็นกระสุน ผมดูว่าเป็นกระสุนและในเวบ Lostpedia ก็บอกว่าเป็นกระสุนเหมือนกัน http://lostpedia.wikia.com/wiki/LA_X,_Parts_1_%26_2 ส่วนชื่อตอน "LA X" มาจากการเล่นคำสองคำ 1) "LAX" - ชื่อย่อของสนามบินที่ LA (ที่อเมริกาทุกสนามบินจะมีชื่อย่อเป็นตัวอักษรสามตัว) 2) LA "X" - ตัว X ในที่นี้นำเสนอ alternate reality ถ้าใครเคยอ่าน comic อย่างของ DC/Marvels จะมีเนื้อเรื่องบางตอนพูดถึงโลกอื่นใน alternate reality โดยมีการเรียกว่า "Earth X" หรือ "Earth-X" ในที่นี้หมายถึง alternate reality of LA -------------------------------------------- ส่วนอันอื่นๆ Mr. Forever ก็อธิบายไว้ได้ดีแล้วครับ บางอย่างก็เห็นด้วย บางอย่างก็ไม่เห็นด้วย แต่อธิบายไม่ได้เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 53 06:50:11 จากคุณ : Iron-Spider เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 06:49:36

ความคิดเห็นที่ 39 ผมก็ว่ามันต้องเป็นกระุสุน ถ้ามันเป็นแมลง มันไม่ make sense ที่จะหยิบขึ้นมาดู ในระหว่างหน้าสิวหน้าขวาน ขนาดนั้น เพราะแมลงก็บินไปได้ทุกที่อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไร ผมชอบ Mr.Forever ครับ ^^ จากคุณ : Killing Me Softly เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 08:13:54

ความคิดเห็นที่ 40 ไปดูดีๆ อีกทีมันเป็นกระสุนจริงๆ อะแหละครับ จากคุณ : Mr. Forever เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 08:31:43

ความคิดเห็นที่ 41 อ้าว คืดว่าเป็นแมลงกันเหรอ ผมดูก็คิดว่าเป้นกระสุน แบบว่ายิงโดนแต่ไม่เข้า กระสุนบี้เลย ประมาณนี้ ดูแบบไม่คิดมากจริงๆเรา จากคุณ : VET53 เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 08:52:31

ความคิดเห็นที่ 42 วันนี้มาต่อด้วยนะคร้าบ Mr.Forever รอ ๆ ^^ จากคุณ : Killing Me Softly (Killing Me Softly) เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 09:00:36

ความคิดเห็นที่ 43 Edit เรื่องแมลงหน่อยก็ดีนะ คนอ่านใหม่จะได้ไม่มึน จากคุณ : supatpit เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 09:32:06

ความคิดเห็นที่ 44 กดเก็บเข้าคลังกระทู้ให้ก่อนค่ะ เดี๋ยวจะค่อย ๆ ไล่ตามอ่านนะคะ จากคุณ : verify by me เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 10:58:11

ความคิดเห็นที่ 45 รูป 36 วันที่กับเดือน ขมุกขมัวมาก แต่ปีเป็น 04 แฮะ (มองเป็น 07 ได้มั้ยอะ) รู้สึกตัวเองเพ้อไปแล้ว 555 เมื่อไรจะถึงวันพุธซะที อยากได้ข้อมูลเพิ่ม จากคุณ : Nick_Survive เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 11:37:47

ความคิดเห็นที่ 46 รูป ที่ 36 มันเหมือนในเข้า ตม รึเปล่า เหตุการณ์บนเครื่องบินก็ปี 2004 อยู่แล้วนิ จากคุณ : klangvespa เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 13:56:16

ความคิดเห็นที่ 47   เพิ่งดูจบไปมาดๆ สงสัยมาก ถ้าหากว่าฉากบนเครื่องบนที่ลง LA อย่างปลอดภัย ที่แทบจะมีแต่ตัวละครสำคัญๆ ครบทุกตัว แต่... ทำไมถึงไม่มี "วอลท์" กับ "ไมเคิล" ละ ทั้งๆ ที่ตอน Season 1 ก็ให้ความสำคัญอยู่ ก็เข้าใจว่าอาจจะคู่ขนานใช้ไหม? แม้แต่บูน ชาลี หรืออจ.ตัวประกอบที่โดนระเบิดตาย ยังอยู่บนเครื่องได้เลย แต่ไหง 2 พ่อ-ลูกนั้น ก็ติดเกาะเหมือนกัน ทำไมถึงไม่อยู่? หรือจะต้องรอลุ้นว่าจะเอามาเสริมตรงไหนอีกหรือจะตัดบทเค้าออกไปซะดื้อๆ เลยเนี่ย สงสัย+งง จากคุณ : ก็ดูเหมือนกันอะ เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 14:23:36 A:113.53.141.165 X: TicketID:237840

ความคิดเห็นที่ 48 รู้สึกเหนื่อยมาก เวลา Lost ฉาย เพราะตอนดูต้องมานั่งอึ้ง อ้าปากค้าง ใช้สมองคิดตามแล้ว หลังดูจบแต่ละตอน ต้องมานั่งหากระทู้อ่าน วิเคราะห์จากหลายเว็บ เฮ้อ เหนื่อย...แต่สนุกนะ :) จากคุณ : Wisther เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 14:24:21

ความคิดเห็นที่ 49 lost = หลอน ผมว่าจบซีชั่นนี้คงต้องกลับไปหยิบ 1-5 มาดูกันเป็นแถว จากคุณ : VET53 เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 20:08:47

ความคิดเห็นที่ 50 ผมดูในสัมภาษณ์ เค้าบอกว่า ซีซั่นนี้จะตอบปริศนาทั้งหมด 70 กว่า (70เท่าไหร่จำไม่ได้ครับ) และที่แชนน่อนไม่ขึ้นเครื่อง เพราะนักแสดงไม่ว่างครับ ติดถ่ายหนังหลายเรื่อง จากคุณ : Sylar เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 20:18:26

ความคิดเห็นที่ 51 หลอนด้วย ไมเคิลกะวอล์ทคงกลับมาบนเครื่องไม่ได้แล้ว วอลท์โตล่วงหน้าไป 6-7 ปีแล้วง่ะ จากคุณ : . (บางเวลา) เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 12:21:36

ความคิดเห็นที่ 52 ผมคิดว่า การตายของซายิด กับ การฟื้นขึ้น มันน่าจะมีอะไรแปลกๆนะครับ เพราะ ตอนที่ ฮิวโก กำลังบอกลาะกับศพซายิด พี่ไมลส์เค้าก็นั่งครุ่นคิด ทำหน้ามีเงื่อนงำสุดๆ จนฮิวโก้ต้องถามว่า มีไร แล้วพี่แกตอบว่า ไม่มี น่ะ แล้วพี่ไมลส์แกเป็นคนมีญาณเรื่องนี้อยู่ เพราะงั้นผมว่าน่าจะมีอะไรซักอย่างแหละ -.- จากคุณ : ปูเทียมไก่ชุบ เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 01:48:40

ความคิดเห็นที่ 53 ^ ^ สงสัยเหมือนกันเลยคับ! ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ไมลล์ไม่สามารถสื่อสารกับวิญญาณได้มากกว่า แสดงให้เห็นว่าซายิดไม่ได้ตายจริงๆหรือไม่ก็กำลังจะถูกใครใช้ร่างอยู่ก็เป็นได้ จากคุณ : เจ้าชายน้อย @ บางกอก เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 08:21:38

ความคิดเห็นที่ 54   ก็เป็นไปได้ที่ เจค็อบ จะไปสิงร่างซายิดอยู่นะผมว่า จากคุณ : tanbali เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 09:30:13

ความคิดเห็นที่ 55 แล้วแอรอนล่ะครับ จะมีบทอยู่รึเปล่า จากคุณ : TEsPatA เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 16:44:50

ความคิดเห็นที่ 56 ดูจากตัวอย่างของ EP03 ซายิด จะถูกคนญี่ปุ่นเอาเหล็กปลายแหลมร้อนๆ จิ้มไปที่แผล ซายิดร้องดังลั่นเลย ถ้าเป็น Jacob สิงอยู่ ผมว่าเสียฟอร์มน่าดูนะ ดังนั้นจึงไม่คิดว่าเป็น Jacob สิงครับ จากคุณ : ซากุระงิ เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 23:08:42

ความคิดเห็นที่ 57 5555 จากคุณ : -APEM เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 15:26:33

ความคิดเห็นที่ 58 แล้วตอนที่แชนน่อนจะตายแล้ววอลท์โผล่มาหา พูดภาษาแปลกๆตัวเปียกๆล่ะ อะไรๆๆๆ เฉลยรึยัง อยากรู้มากอันนี้ จากคุณ : ล็อกอินนี้เป็นฮิปปี้ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 00:10:38

ความคิดเห็นที่ 59 เรื่องทั้งหมดเกิดจาก ดร.วอลเตอร์ บิช็อป จากเรือง finge ทำการทดลองเรื่องโลกคู่ขนานครับ ล้อเล่นนะครับ ติดตามดู lost เหมือนกันงงดี จากคุณ : วุ้นเต้ว (วุ้นเต้ว) เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 02:19:13