สำหรับข่าวกรณีบ้านครูน้อย อยากให้ลงความเห็นว่า ควรยุบบ้านหลังนี้หรือไม่ และแนะนำแนวคิดการแก้ไขจัดการปัญหานี้
|
|
| ควรยุบบ้าน เพื่อปัญหาที่คาราคาซังมาเนิ่นนานหลายปีจะได้จบๆสิ้นๆไป (100 คน) |
|
| | | ไม่ควรยุบบ้าน เพราะ ยังมีเด็กที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่และคิดว่าอยากให้โอกาสครูน้อยอีกครั้ง (12 คน) |
|
| |
| | | | | ควรยุบบ้าน เพื่อปัญหาที่คาราคาซังมาเนิ่นนานหลายปีจะได้จบๆสิ้นๆไป (100 คน) | | | | ไม่ควรยุบบ้าน เพราะ ยังมีเด็กที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่และคิดว่าอยากให้โอกาสครูน้อยอีกครั้ง (12 คน) | | | จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 112 คน |
สำหรับเรา เราคิดว่า มันถึงเวลาแล้วที่ต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงซักทีกับระบบการจัดการด้านการเงินของครูน้อยที่เป็นปัญหาคาราคาซังมาหลายปี และ จนถึงปัจจุบัน และดูทีท่าว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตหากครูน้อยยังคิดที่จะบริหารบ้านนี้เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง และไม่เคยคิดว่าตัวเองทำอะไรผิด
อยากรู้ ความเห็นของคนอื่นว่าควรจะแก้ไขกับปัญหานี้อย่างไร เพื่อที่ครูน้อยจะได้นำไปแก้ไข ปรับปรุง ไม่ใช่ปล่อยให้คนอื่นมาช่วยแก้ปัญหาอย่างนี้อยู่ตลอดไป เหมือนเด็กที่ไม่ยอมโต
เราขอแนะนำนะ ไม่ว่าแกจะเอาเงินไปใช้ส่วนตัวเองหรือว่าให้เด็กก็จริง
กรุณาเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ เพราะถ้าทำอย่างนี้ต่อไปรังแต่จะเพาะเชื้อปัญหา
1.เกิดปัญหาเด็กที่โตมาไม่รู้จักคุณค่าของเงิน กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้สังคมฟุ้มเฟ้อใช้จ่ายสุร่ายสุร่าย เห็นเงินเป็นเบี้ย เกิดเป็นปัญหาสังคม ปัญหาในแง่ของกระบวนการคิด ความเชื่อ ซึ่งแก้ได้ยาก
2.ปัญหาเรื่องการสูญเสียเงินจำนวนมาก เพื่อเอาไปซื้อของที่เกินความจำเป็น ทั้งๆที่ช่วงนี้ควรประหยัดเพราะเศรษฐกิจประเทศชาติไม่ดี นำเงินที่ได้มาไปเป็นทุนในการทำการค้าต่างๆ เพื่อจะได้ยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง แต่กลับทำเงินที่ได้มาจำนวนมากจากผู้ใจบุญ ไปซื่อสิ้นค้าฟุ่มเฟือย ที่เหมาะสำหรับให้ครอบครัวที่มีเงินเหลือใช้เท่านั้น
ขอแนะนำวิธีการแก้ปัญหาอีกว่า คนไหนที่เรียนจบแล้ว ให้ทำงานแล้วส่งเงินให้กับทางบ้านครูน้อยเพื่อทดแทนบุญคุณและเลี้ยงน้องๆต่อไปเป็นทอดๆ ส่วนคนที่เรียนปริญญาตรีแนะนำให้ทำงานพิเศษเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายกับเด็กวัยที่ยังไม่สามารถหาเงินได้ด้วยตัวเอง ส่วนเด็กที่พอมีความรู้ความสามารถให้นำความรู้ที่มีผลิตสิ่งของชำร่วยหรืออะไรต่างๆเพื่อเป็นอีกทางให้มีรายรับเข้ามาในบ้าน
และถ้าจำเป็น สั่งสอนอะไรที่นอกเหนือจากการแค่มานั่งๆนอนๆเล่นๆกินๆ ให้สอนวิธีการดำเนินชิวิตที่ถูกต้อง(ไม่รู้จะสอนได้หรือเปล่า ตัวเองก็ยังแทบเอาตัวไม่รอด) คุณค่าของเงิน บุญคุณของผู้บริจาคและผู้เลี้ยงดู(เหมือนพระคุณของพ่อแม่) และ ทักษะทางด้านต่างๆที่จะช่วยส่งเสริมให้เด็กๆนำไปประกอบอาชีพในอนาคตได้ เช่น สอนสานตะกร้า หรือ เย็บเสื้อ จะได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ดีกว่า หายใจทิ้งไปวันๆ
และที่สำคัญ ครูเองต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก ๆ เพราะเมื่อเด็กๆเห็นต้นแบบที่ดีเด็กก็จะทำดีตาม แต่เมื่อมีต้นแบบที่ไม่ดี เด็กก็ทำสิ่งที่ไม่ดีตามไปด้วย ฉะนั้นก็ต้องคัดเลือกครูที่เป็นแบบอย่างที่ดี รวมถึงครูน้อยเองด้วย ไม่ใช่ว่าจะใจบุญสงสารเด็กอย่างเดียว แต่เลี้ยงเด็กไม่เป็น สปอยล์เกินเหตุ เคยเห็นผลลัพธ์ของเด็กเหล่านี้ไหม โตมาก็ใช้แต่เงินแก้ปัญหา คิดอะไรเองไม่เป็น เกิดเป็นปัญหาสังคม เพราะถูกปลูกฝังมาแต่เด็ก
ถ้าหากทำไม่ได้ กรุณายุบบ้านนี้ไปซะ หรือ ยกให้คนอื่นดูแลจัดการต่อ ส่วนตัวครูที่เหมือนจะหวังดีแต่ประสงค์ร้ายนั้นแนะนำให้กลับไปดูแลลูกชายของตัวเองให้เป็นคนดีมีหัวคิดซะก่อน ก่อนที่จะมามีน้ำใจเลี้ยงดูคนอื่น เพราะ มันจะเน่าไปทั้งฝูง
จากคุณ |
:
dfh
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.พ. 53 12:00:41
|
|
|
|