ความคิดเห็นที่ 1   เมื่อก่อนชอบมาก แต่พอพยายามจะจุดกระแสแนวๆ ทำตลาดๆๆๆๆๆๆๆๆ เราก็เลิกซื้ออ้ะ ... ไม่ชอบ และไม่ศรัทธาที่จะเชื่ออีก เห็นด้วยว่าเนื้อหาดีๆ หายไป เอาเรื่องเทรนดี้มาใส่จน .... มันไม่มีควมเป็น a day และเห็นว่า a day เป็นเด็กสยามเหมือน จขกท. สวย ใส แต่ไม่น่าศึกษา ตอนนี้อ่าน way กับ happening จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 08:35:50

ความคิดเห็นที่ 2   HAMBURGER ขายวิญญาณไปให้ซาตานเรียบร้อยแล้วครับ ทำใจไม่ได้เลยนับตั้งแต่รีแบรนด์ เลิกติดตามตั้งแต่เปลี่ยนมาไสกาวปกไปเลย a day นี่จะโทษใครดีหว่า วิญญาณอาจโดนขายไปให้ซาตานแล้วเหมือนกัน ไม่ใช่ผมเป็นพวกไม่ยอมรับสิ่งใหม่ ผมพยายามไม่ยึดติดในสิ่งเก่า(ทั้งที่เวอร์ชั่นเก่า เล่มใหญ่ จะดีมากมาก)แล้วนะครับ แต่อ่านไม่เคยจบเล่มทุกคอลัมน์สักที สงสัยต้องโทษทีมงาน กับ บ.ก. ล่ะมั้งครับ จากคุณ : แก้วกระโดด เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 08:40:47

ความคิดเห็นที่ 3   ตอนนี้ชอบ way มากกว่าค่ะ เล่มเล็กแต่เนื้อหาเพียบ อ่านได้แทบทุกหน้า จากคุณ : ใบนท เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 08:46:58

ความคิดเห็นที่ 4   อ่าน ฮิกาซีน เอาได้ความรู้สึกแบบ a day เล่มแรกๆ จากคุณ : ridermao เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 08:54:37

ความคิดเห็นที่ 5   A day ช่วง 40-50 เล่มแรก ก็โอเคอยู่นะครับ ผมชอบมากโดยเฉพาะปกที่เป็นขนมฮ็อกกี้ (เลียนแบบป๊อกกี้) ตอนนั้นอยากจะบอกรับเป็นสมาชิกเลยด้วยซ้ำไป และแทบจะรอวันแรกที่วางแผงไม่ไหว โดยเฉพาะบางเล่ม หมดเร็วมากครับ หลังๆ เริ่มพยายามจะ "อาร์ท" มากไป มันดูเป็นการ "ปรุงแต่ง" เพื่อจะให้มันอาร์ท มากกว่าที่จะเป็นอาร์ทด้วยตัวมันเองนะครับ อาจจะเพราะ บก. คนหลังๆ มือไม่ถึงหรืออะไรก็ไม่รู้ละ แต่ผมก็เลิกซื้อ เลิกสนใจไปนานแล้วเหมือนกัน จากคุณ : Alessandro เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 08:56:19

ความคิดเห็นที่ 6   หนังสือสองหัวนี้ ผมเคยซื้อตั้งแต่เล่ม 1 A DAY มาหยุดซื้อเอาเมื่อประมาณเล่ม 60 เมื่อรู้สึกว่าอะไรมันเปลี่ยนไป ทั้งตัวหนังสือ และตัวผมเอง ที่โตขึ้น เบื่อกับโฆษณาที่เปิดมาจากที่หน้าขาว มากกว่าเนื้อหา ก็เข้าใจว่ามันขายได้แพง ส่วน HAMM เลิกซื้อตั้งแต่ ไสปกกาว เลิกเย็บมุงหลังคา อย่างที่ จขกท. ว่าจริงๆครับ ไม่เหมือนเดิม รสชาติไม่อร่อย เหมือนเก่า กลายเป็นเพียงแค่ หนังสือ แฟชั่นทั่วไป ไม่โดดเด่น เมื่ออยู่บนแผง แต่อย่างว่าละครับ คนทำหนังสือก็ต้องกินต้องใช้ จากคุณ : whutzy เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 08:56:35

ความคิดเห็นที่ 7   ผมว่าถ้าจะรีแบรนด์ดิ้ง สู้ออกนิตยสารตัวใหม่ไปเลยดีกว่า แต่ก็เข้าใจว่าสู้ขายชื่อเดิมไม่ได้ แต่พอเปลี่ยนไปแบบนี้แฟนที่เคยรัก ก็รับไม่ได้เหมือนกัน แล้วเรื่องความเก่งของคุณ วงทนงค์ ผมยอมรับ ผมชอบความแรงเค้ามาก แต่ก็เข้าใจว่าอยากให้คนรุ่นใหม่ได้บริหารบ้าง ก็นะ เอาเหอะ... แค่รู้สึกเสียดายไอเดียและจุดยืน คนเราก็ต้องกินต้องใช้ พนักงานก็เยอะ อุดมการณ์มันกินไม่ได้... ปก แฮมเบอร์เกอร์รุ่นแรกๆ เรียบ แต่คลาสสิค โปสเตอร์ แตงโมที่แถมมาในเล่มนี้ ผมยังแปะอยู่ที่หน้าห้องน้ำอยู่เลย 5555+ v v v v แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 09:08:15 จากคุณ : Travel Dev เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 09:07:02

ความคิดเห็นที่ 8   หยุดเสื้อตั้งแต่เปลี่ยน บก จากพี่โหน่งนี่แหละ ตอนนั้นมีหลายๆคนเขียน จม.ไปทักว่า อะเดย์ เปลี่ยนไปนะ aday without war จากคุณ : pteamb เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 09:08:32

ความคิดเห็นที่ 9   เลิกอ่านตั้งกะมันเริ่มกลืนๆ ไปกับนิตยสารอื่นๆ ที่หาได้ในท้องตลาดแล้วอ่ะครับ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 09:24:36

ความคิดเห็นที่ 10   ผมว่ามันดังเพราะกระแส ช่วง a day ออกมาใหม่ๆ มันพอดีกับกระแสอินดี้ และงานด้านครีเอทีพกำลังบูม วัยรุ่นหลายคนที่ชอบทางนี้ แต่หนังสือที่จะมารองรับความต้องการตรงนี้มันไม่มี จน a day โผล่มา เป็นหนังสือที่ให้มุมมองแปลกๆ ไอเดียวแจ่มๆ เอาเก็บไปคิดเอาไปต่อยอดได้แยอะ สำรับคนทำงานทางนี้ แต่อย่างว่าปจุบันเหมือเขาจะลืมจุดเหล่านี้ไปแล้ว กลายเป็นเหมือนแค่นิตยสารวัยรุ่นธรรมดาๆทั่วไปซึ่งมีดาดดื่นไม่มีอะไรน่าสนใจ อย่างว่า โลกมันเป็นเป็นโลกทุนนิยม การที่ใครคนนึงจะลุกขึ้นมาทำตามอุดมการณ์อย่างเดียว โดยที่ยังต้องอาศัยปัจจัยของระบอบทุนนิยม ในการหาเงินหมุนเวียนมาใช้จ่ายในการทำธุรกิจ มันเป็นไปได้ยากครับ จากคุณ : D DAY เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 09:26:26 A:124.121.71.144 X: TicketID:221887

ความคิดเห็นที่ 11   a day ผมติดตามตั้งแต่เล่ม 1 เหมือนกัน ก็พยายามเข้าใจความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ยังไงก็ตาม โดยภาพรวมผมยังถือว่า a day ก็ยังเป็น a day ผมยังซื้ออยู่จนถึงทุกวันนี้นะครับ ชอบหลายเล่มมาก เล่มเก่าๆ เริ่มลืมๆไป เล่มใหม่หน่อย ที่ชอบก็คือ เล่ม เชียงใหม่ กับ เล่มมุสลิมครับ ชอบมาก ส่วน ham นั่น no comment จริงๆ ตั้งแต่มีสันปั๊บ ผมก็เลิกซื้อเลย เสียดายมากๆ เลยครับ ทุกวันนี้ก็ยังมีบ้างที่หยิบเล่มเก่าๆของ ham มาอ่าน จากคุณ : [C]haruru เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 09:27:55

ความคิดเห็นที่ 12   Hamberger ผมไม่ได้อ่านนะคัรบไม่ขอพูดถึงละกัน (ที่จริงเคยอ่านแค่เล่ม  สองเล่ม) ส่วน aday ดูจริงจังมากขึ้น ใส่ความเป็นศิลปิน เป็นอาร์ต (ที่เข้าใจยาก) มากขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าเพราะเหตุผลอะไร แต่เป็นช่วง ๆ ปก เบเกอรรี่ มิวสิค หรือ live in aday 2 ผมเริ่มอ่าน aday ยากขึ้น เป็นนิตยสารหนักสมองกว่าเก่า ไม่อินดี้ เหมือนเดิม ราวกับ aday โตขึ้นจริง ๆ ไม่ได้เป็นวัยรุ่นตลอดเวลา แต่... ไม่ดีเลย แล้วผมก็เลิกซื้อ aday ทั้งที่ซื้อเก็บไว้เป็นตั้งๆ ซื้อทุกเดือน เหมือนความคิดที่ 4 ตอนนี้อ่านฮิกาซีน รู้สึกคลายเครียดดี คล้าย ๆ aday ยุคแรก ๆ (แต่ aday ยังพอมีสาระกว่า ฮ่า ๆ)   ฮิกาซีน เหมือน ๆ adom ฮาดี จากคุณ : tolstoy เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 09:33:15

ความคิดเห็นที่ 13   เพื่อเงิน และความอยู่รอด  มันจำเป็นครับ หากคุณต้องลงทุน คุณจะทำยังไง จากคุณ : นิพยะ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 09:40:02

ความคิดเห็นที่ 14   ยอมรับตรงๆว่าทุกวันนี้ผมก็ยังซื้ออยู่นะ แต่เป็นบางเล่มที่ต้องเลือกว่า "เมน คอร์ส" นี่น่าสนใจจริงๆ บางเล่มนี่ก็รู้สึกว่ามันทำสุกเอาเผากินเกินไป นึกอะไรไม่ออกก็เอาเรื่องราวที่อยู่ใน A Day น่ะมาขาย วนๆไปๆมาๆเหมือนขี้เกียจไปค้นข้อมูลจากข้างนอก เชื่อมั้ยว่าเล่มหลังๆที่ซื้อมานี่ผมไม่เคยอ่านจบหมดเล่มเลย มันรู้สึกแปลกๆ ส่วน Hambueger นี่เปิดดูผ่านๆในร้านหนังสือครับ ไปหาซื้อเล่มเก่าๆกลับมาอ่านเป็นประจำ จากคุณ : เจ้าชายสายฝน เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:01:19

ความคิดเห็นที่ 15   เป็นเหมือน จขกท.  แต่เดี๋ยวนี้เลือกซื้อ บางเล่ม จากคุณ : ความรัก ไม่มีในโรค เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:03:50

ความคิดเห็นที่ 16   อีกเสียงแนะนำให้อ่านฮิกาซีน จากคุณ : GaMBiT เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:04:09

ความคิดเห็นที่ 17   ไม่เกี่ยวกับกระทู้ แต่อยากบอกว่า ... อยากอ่าน ฮิกาซีน ครับ ... จากคุณ : pocketclan เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:04:55

ความคิดเห็นที่ 18   ซื้อตั้งแต่เล่มแรก ที่ซื้อตอนแรกเพราะว่าหน้าปกเป็น พี่เรย์ a day ในช่วงนั้นเป็นหนังสือที่เราอ่านได้ทุกหน้าจริงๆ พอเล่มโตขึ้น ทั้งคนและหนังสือ เราว่ามันเปลี่ยนไปอะ เนื้อหาบางส่วนมันหาได้ตามหนังสือเล่มอื่น เริ่มแทรกโฆษณาเข้าในเนื้อหาละ แต่ก็ยังซื้ออยู่ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นหนังสือที่เหมือนๆกับหนังสือบนแผงแล้ว มองดูแค่หน้าปกแล้วก็ไม่ซื้อมานานละ ส่วนแฮมเบอร์เกอร์ ซื้อบ้างเป็นบางเล่ม จากคุณ : takwa เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:12:12

ความคิดเห็นที่ 19   a day เล่มสุดท้ายที่อ่านคือเล่มที่เกี่ยวกับคนตาบอด น่าจะเดือนมีนา ปี 08 ได้มั้ง จากคุณ : เทเลทับขี้ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:12:20

ความคิดเห็นที่ 20   หมดมุกแล้วมั้ง จากคุณ : ชูโฮ_มารู เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:12:54

ความคิดเห็นที่ 21   คิดถึง a day ในอดีตเหมือนกันค่ะ แม้ไม่ได้เป็นแฟนประจำ แต่ในยุคแรกก็ติดตามและซื้อเล่มที่มีเมนคอร์สที่เราสนใจอยู่เสมอ จนระยะหลังเราห่างหายไปมาก เพราะเห็นปกแล้วรู้สึกไม่น่าสนใจแบบเมื่อก่อน ส่วน hambergur เป็นนิตยสารบันเทิงไทยเล่มเดียวที่ซื้อเลย(ไม่นับหนังสือดาราจีน ^^) ซื้อตั้งแต่เล่มแรก และซื้อทุกเล่มต่อเนื่องมาระยะนึง จนซื้อบ้างไม่ซื้อบ้าง แล้วก็เลิกซื้อเด็ดขาดตอนที่เปลี่ยนรูปแบบของหนังสือ อาจเพราะเราเองที่โตขึ้นและตัวหนังสือเองที่เติบโตขึ้นด้วย ทำให้จากคนคุ้นเคย ตอนนี้กลายเป็นคนเคยรู้จักกันไปแล้ว -*- ป.ล. พูดถึงนิตยสารยุคนั้นแล้วคิดถึง ต้าเจียห่าว (大家好) สมัยแรกๆ เป็นหนังสืออีกเล่มที่เคยชอบมาก แต่ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าเลิกซื้อเลิกอ่านไปตั้งแต่เมื่อไหร่ -*- จากคุณ : AlwaysSmiles เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:25:27

ความคิดเห็นที่ 22   ซื้อมาตั้งแต่เล่มแรก.. ส่วน เล่มสุดท้ายที่ซื้อจำไม่ได้แล้วว่าเล่มไหน เล่มแรกๆ อ่าน เดือนนึงยังไม่หมดเลย มีแต่เรื่องดีๆ เดี๊ยวเก็บไว้อ่านวันหลัง เล่มหลังๆ อ่าน 3 เดือนก็ยังไม่หมดเล่ม เพราะ มันไม่มีอะไรน่าอ่านเลย หรือเพราะเราแก่ลง.... จากคุณ : Mr. Konga เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:26:47

ความคิดเห็นที่ 23   ยังซื้ออยู่ทุกเดือนครับ เริ่มตั้งแต่ปกแรกที่ซื้อคือ มานีมานะ และปกแรกที่รู้จัก คือเล่ม1 จะสิบปีแล้วนะครับ อะเดย์ สมัยนั้น ซื้ออะเดย์ และก็ซื้อ katch อ่าน สิบปีผ่านไป เรายังเปลี่ยนเลยครับ มีอะไรบ้างที่ไม่เปลี่ยน ไม่ปรับ ทัศนคติของตัวเราเองยังเปลี่ยนไปเลย จากช้วง 5-10ปี ที่แล้ว ผมคิดว่า มันยังเป็นหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจได้ ให้คนในวัยหนึ่งๆ แต่พออายุเราเพิ่มขึ้น ความสนใจในบางเรื่องของเราก็เปลี่ยนไป ทำให้คุณอ่านอะเดย์แล้วไม่รู้สึกประทับใจเหมือนก่อน ยังยืนยันครับ ว่า "อะเดย์ยังเป็นหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนในวัยหนึ่งๆได้" (ความคิดเห็นส่วนตัว) จากคุณ : yog_bf เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:34:11

ความคิดเห็นที่ 24   a day เมื่อก่อนซื้อเกือบทุกเล่ม  ตอนหลังเลือกซื้อเป็นบางเล่ม  แต่อ่านทุกเล่ม(เช่าเอา) อ่านอะเด เพราะ ติดตามงาน บ.ก.มาตั้งแต่ทำ Trendy Man ซึ่งสังเกตว่าช่วงหลังๆ อะเด main cause ไม่ค่อยเต็มอิ่ม  ไม่ลึก  ไม่ครอบคลุมเท่าไหร่ ส่วน Hamburger เคยปรามาสไว้ตั้งแต่บ.ก.คนเก่าออกไปว่า ไม่น่ารอด (เพราะเนื้อหาบางเบา เต็มไปด้วยคอลัมขยะ)   ก็ถือว่าเก่งที่ยังมีชื่อหัวหนังสือเล่มนี้อยู่บนแผงหนังสือในปัจจุบัน จุดเปลี่ยนอย่างหนึ่งที่สังเกตคือ เมื่อหนังสือทั้ง 2 เล่ม เริ่มเอาโฆษณามาขึ้นหน้าปก ก็เป็นนัยยะในการยอมแพ้ต่อทุน  ทั้งๆที่ หนังสือทุกหัวควรจะมีศักดิ์ศรี เอาเนื้อหา หรือตัวตนของตัวเองเป็นที่ตั้ง  นั่นแสดงว่า เงินซื้อได้ทุกอย่างแม้แต่อุดมการณ์ ปล.เดี๋ยวจะหาว่าเอาแต่ด่าเค๊า  จุดหนึงที่ผมชอบความคิดของบริษัทนี้ก็คือ เค๊าเปิดโอกาสให้นักเขียนหน้าใหม่ได้มีผลงานเป็นของตัวเอง Pocket Book หลายเล่มทำออกมาน่าอ่านดีครับ จากคุณ : -zzz- เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:41:26

ความคิดเห็นที่ 25   a day เก่าก็มีเก็บ a day weekly ก็มี 3-4ปีให้หลังไม่ได้ซื้อเลยครับ จากคุณ : ตาชิโบ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:42:42

ความคิดเห็นที่ 26   A Day จะซื้อเฉพาะสกู๊ปหลักที่น่าสนใจอ่ะครับ อย่างดรากอนบอล,ซึบาสะ,โดเรมอน,ขายหัวเราะ Hamburger ตั้งแต่เปลี่ยนตัวเองใหม่นี่ไม่ซื้อแล้วครับ มันไม่ใช่เล่มเดิมที่ผมรู้จัก มีแต่แฟชั่นๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : bigdoxdakkass เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 11:08:17

ความคิดเห็นที่ 27   คิดแบบความเห็น 4 ครับ ฮิ maG,,, ตัวของตัวเองดี,,, กล้าล้อ,,,กล้ายกประเด็น ,,,แก้ไขข้อความ,,,, แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 11:13:27 จากคุณ : โกรงเกรง เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 11:11:08

ความคิดเห็นที่ 28   พี่โหน่งเป็น บ.ก. อะเดย์ ที่ดีที่สุดในโลก พอพี่เค้าไม่ได้มาทำเราก็เลิกซื้ออะ รำคาญโฆษนา เมื่อก่อนเป็นหนังสือที่อ่านแล้วต้องใช้ความคิดร่วม แต่ตอนนี้กลายเป็น พยายามยัดเยียดให้คิดอะ เลยเซง จากคุณ : โจรสลัดหนวดเทา เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 11:19:31

ความคิดเห็นที่ 29   แรกๆจะซื้อเกือบทุกเล่ม หลังๆเลือกเป็นบางเล่ม แต่ก็อ่านไม่เคยจบซักเล่ม เคยคิดว่า หรือเราแก่แล้ว เลยอ่านไม่รู้เรื่องหว่า จากคุณ : ohsci เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 11:25:50

ความคิดเห็นที่ 30   เป็นนิตสารที่เห็นแหล่งรวมของพวก  try to be เลิกอ่านไปพักใหญ่แล้วจ้า จากคุณ : yatiko เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 11:47:18

ความคิดเห็นที่ 31   อ่านเหมือนกัน A Day เมื่อก่อนซื้อทุกเดือน เดียวนี้ ไม่ค่อยได้ซื้อ หายาก 55+ จากคุณ : กรุณาใส่ชื่อนามแฝง เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 11:51:46

ความคิดเห็นที่ 32   aday เลือกซื้อแล้วแต่ธีมปก Ham เลิกซื้อตั้งแต่ใสกาว รู้แต่ว่า โฆษณาเหล้าเยอะมากๆ จากคุณ : akayutaka เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 12:01:02

ความคิดเห็นที่ 33   a day ยังซื้ออยู่ แต่เลิกธีมปก แต่ว่าโฆษณาเยอะมากจริงๆแหละ แต่บางทีก็ตามเก็บเล่มเก่าๆ ที่ธีมน่าสนใจ จากคุณ : pocky_jang เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 12:11:43

ความคิดเห็นที่ 34   "พยายามติสท์ แต่ไม่ใช่" ^^ เมื่อไม่กี่วันนี้ เพื่อนที่ทำงาน บ.หนังสือแห่งหนึ่ง มาบอกว่า "ลาออกแล้วนะแก" เลยถามว่าทำไม "โดนโกงค่าคอม โดนกันเกือบทุกคนล่ะ ค้างจ่ายมานานแล้ว นี่กำลังรวมตัวกันฟ้องศาลแรงงานอยู่" อืม...... อุดมการณ์ กับ การตลาด มันไปด้วยกันยากจริงๆ จากคุณ : ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 12:13:19

ความคิดเห็นที่ 35   ผมว่า  a day เป็นนิตยสารสำหรับพวกคุณหนูไฮโซที่อยากทำตัวเป็นเด็กแนวมากกว่า เบื่อครับ จากคุณ : i_saw_u_standing_alone เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 12:21:13

ความคิดเห็นที่ 36   เราก็เลิกซื้อนานแ้ล้วเหมือนกันค่ะ ตั้งแต่รู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิม แต่ยังเก็บเล่มเก่าๆไว้อยู่บ้าง (ส่วนใหญ่เป็น Hamburger) ไว้เป็นความทรงจำ^^ จากคุณ : XODA เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 12:28:31

ความคิดเห็นที่ 37   ผมก็นึกว่าผมเป็นคนเดียวซะอีก ที่คิดว่ามันไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะกับแฮมเบอเกอร์ จากคุณ : ต้นคุง ณ โดราเอมอน เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 12:29:11

ความคิดเห็นที่ 38   แฮมเบอร์เกอร์เปลี่ยนไปด้วยอะไรไม่แน่ใจ แต่ลองสังเกตสิครับ พอเปลี่ยน บก. หนังสือก็เปลี่ยนลุค ล่าสุด บก. เป็นผู้หญิง นั่นเพราะพี่โหน่งอาจจะอยากให้แฮมเบอร์เกอร์เปลี่ยนลุคให้แฮมเบอรืเกอร์มีความเป็นผู้หญิงมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามแฮมเบอร์เกอร์ถูกจัดอยู่ในหมวดหนังสือบันเทิงเชิงสาระ ถามหน่อยว่าหนังสือบันเทิงที่มีสาระน่ะ มันมีเยอะไหมล่ะ? ส่วนหากเทียบกับ เฮพเพนนิ่งน่ะมันคนล่ะกลุ่มเป้าหมายกันชัดๆครับ เพราะเฮพเพนนิ่งเป็นบันเทิงเชิงศิลปะ ส่วน a day ผมเองอ่านมาตลอดและรู้สึกว่ามันไม่ถูกใจเราเหมือนเมื่อก่อนนั่นเพราะอะไร เพราะเนื้อหาเปลี่ยนไปจริง เพราะความอินในเนื้อหาลดลง อย่างเล่ม แฟชั่น เล่มแบรนด์ไทย อันนั้นผมไม่อิน เลยไม่ชอบ วิธีการเล่าที่เปลี่ยนไปเป็นการสัมภาษณ์ๆๆ ยิ่งน่าเบื่อใหญ่ แต่เล่มอื่นๆ ก็พอรับได้บ้าง a day กลับมามีลุกเล่นในการเล่าเรื่องอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ที่สุดเหมือนเดิมอยู่ดี ผมลองมาคิดเล่นๆว่าทำไมถึงไม่รู้สึกเหมือนเดิม นอกจากเราไม่อิน และไม่สนใจในสิ่งที่ a day นำเสนอมันยังมีอะไรอีก น่าจะเป็นเพราะผมแก่ขึ้นล่ะมั้ง แต่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นแฟน a day อยู่ครับ แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 17:01:23 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 12:43:48 จากคุณ : กานดา หน้ามึน เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 12:42:52

ความคิดเห็นที่ 39   ซื้อ A Day และ Hamburger ตั้งแต่ฉบับแรกทั้ง 2 เล่ม เพราะเป็นสมาชิก อ่านมาตลอดและชอบมาก จนกระทั่งได้มีโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศ หนังสือสองหัวนี้คือสิ่งที่โหยหามากที่สุดอย่างหนึ่งในตอนนั้น แต่พอกลับมาเมืองไทยแล้ว และได้กลับมาอ่านหนังสือนั้นอีกครั้ง กลับรู้สึกเหมือนคนแปลกหน้า คุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่องแล้ว เพราะรสนิยมที่ไม่ตรงกัน เลยเหลือไว้แค่ความเป็นหนังสือที่เคยรัก แต่ปัจจุบันเป็นแค่คนรู้จัก ที่บางครั้งเห็นหน้าตามแผงหนังสือก็ยังพลิกๆดูบ้าง แต่แทบจะไม่เคยซื้ออีกเลย จากคุณ : I'm wu เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 12:59:30

ความคิดเห็นที่ 40   a day เคยเป็นเพื่อนที่ถูกใจ ถูกจริต แต่ 4-5 ปีให้หลัง พบว่า ... มันไม่ใช่เพื่อนที่เรารู้จักอีกแล้ว จากคุณ : สมาชิกห้องไหน เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 13:03:38

ความคิดเห็นที่ 41   หลังๆไม่ค่อยได้ซื้อแล้วครับ อ่านไม่กี่เรื่องในนั้นเอง จากคุณ : Don't try this at home. เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 13:34:39

ความคิดเห็นที่ 42   อ่าน WAY เล่มเดียวก็พออ่านได้ทั้งเดือนแล้วครับ คิดถึง OPEN เหมือนกัน จากคุณ : cosmonaut เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 13:37:17 A:58.10.198.118 X: TicketID:005266

ความคิดเห็นที่ 43   ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ อ่านแล้วอย่างน้อยที่สุดก้ยังดีใจที่ยังมีคนจดจำพวกเราได้ ส่วนปัจจุบันและอนาคตเราจะพัฒนาปรับเปลี่ยนไปทางไหน เชื่อเป้นอย่างยิ่งครับว่าทีมงานทุกคนตั้งใจจริงๆ อาจจะถูกปากบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง ก็ติชมกันเข้ามาแบบนี้แหระครับ ทีมงาน จากคุณ : องค์ชายน้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 13:46:22

ความคิดเห็นที่ 44   แฮมเบอร์เกอร์กลายเป็นหนังสือแฟชั่นเต็มสูบไปแล้ว ถ้าเป็นคนทำศัลยกรรมเรียกได้ว่าเปลี่ยนทั้งอวัยวะภายใน ดึงทั้งอวัยวะภายนอก เพื่อนเก่าๆมาเจอคงจำไม่ได้ เหลืออย่างเดียวที่ยังไม่ได้เปลี่ยน และควรจะเปลี่ยน คือชื่อหนังสือ เพราะมันไม่เหลือความเป็นแฮมเบอร์เกอร์อีกแล้ว แต่คงไม่เปลี่ยน เพราะแบรนด์มันขายเอเจนซี่ได้ จากคุณ : เพื่อ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 13:47:39 A:192.168.1.21 X:58.8.197.210 TicketID:242544

ความคิดเห็นที่ 45   อ่านทุกหน้า ไม่เว้นโฆษณา แต่ก็แปลกใจตัวเอง  พอโตขึ้น กลับมีความรู้สึกว่า เราห่างกันมากขึ้น จากที่เคยอ่านได้ทุกหน้า ก็น้อยลงๆ ๆ ๆ จนเลิกอ่าน ก่อนหน้านี้ก็มีแอบไปเปิดดูตามแผงหนังสือว่าจะเป็นยังไงนะตอนนี้ แต่ก็ดูได้ไม่นาน อยากจะบอกว่่า อะเดย์ คือแรงบันดาลใจในช่วงชีวิตหนึ่ง ทำให้ผมมีความสุข มีความคิดมากขึ้น ได้เรียนรู้สิ่งที่เรียกว่าศรัทธา ก่อนหน้านี้ ผมเฝ้ามองทุกฝีก้าวที่อะเดย์กำลังเดิน และอีกนิดเดียวก็เกือบจะได้สัมผัสบรรยากาศในซอยเอกมัยแล้ว แต่่ตอนนี้ เมื่อเราต่างโตขึ้น เราก็คงต้องแยกย้ายกันไปทำในสิ่งที่ตัวเองฝัน และต้องการ ผมเชื่อว่า เด็กรุ่นใหม่ ก็ยังคงเฝ้าติดตามผลงานของคุณอยู่ เหมือนกับตอนที่ผมเฝ้ามองคุณ แต่อาจจะแตกต่างกันไปตามเวลาและความเปลี่ยนแปลง แม้วันนี้จะไม่ได้เจอกัน แต่ขอให้คุณภูมิใจไว้นะ ว่ากาลครั้งหนึ่ง เราเคยพบกัน และผมรักคุณมากเพียงใด . จากคุณ : เถียร เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 13:57:09

ความคิดเห็นที่ 46   ส่วนตัวชอบบก.คนนี้อ่ะค่ะ อาจจะเคยได้ร่วมกิจกรรมกันมาตั้งแต่สมัยพี่เค้ายังเรียน เลยรู้สึกว่าเค้าเป็นคนที่มีความคิดดีนะ คืออยากจะบอกว่าไอเดียต่างๆมันเป็นธรรมชาติของเค้าอ่ะค่ะ ไม่ได้ดัดจริตหรือปรุงแต่งหรือพยายามจะแนวอะไร เราก็ไม่ได้เป็นแฟนอะเดย์แบบซื้อทุกเล่ม ซื้อเฉพาะเล่มที่สนใจ แต่บางเล่มเนื้อหามันก็ดีจริงๆนะคะ อย่างเล่มญี่ปุ่นเล่มก่อนหน้าเล่มนี้ ข้อมูลมันก็ละเอียดและน่าสนใจจริงๆ คือมันออกมาสองสามปีแล้วอ่ะค่ะ ตอนอยู่ไทยเราก็อ่านผ่านๆไม่ค่อยเข้าใจ แต่พอมาอยู่นี่ก็เลยแบบว่า เออ ไอ้ที่เค้าเอาลงมันก็เจ๋งจริงๆนะ ไอเดียหรือสถานที่บางอย่างที่มันยังไม่ดังตอนนั้น ตอนนี้ก็ฮิตเป็นกระแสกันไปแล้ว แต่ก็ต่างจิตต่างใจนะคะ บางคนอาจจะไม่ชอบก็ได้ ส่วนเรื่องว่าคนอ่านอะเดย์คือคนที่ "พยายามแนว" โอยย อันนี้ด่าเจ็บ คือจะบอกว่ามีหลายคนที่อ่านโดยไม่ได้คิดอย่างนั้น คนทำก็ไม่ได้คิดยังงั้น ส่วนตัวเราคิดว่าให้กำลังใจกันดีกว่าค่ะ ธุรกิจนิตยสารมันอยู่ลำบากจะตาย มีอะไรที่หลากหลายอ่านน่าจะดี อย่าอคติกับหนังสือบางเล่มเพราะว่าคุณหมั่นไส้ความแนว ความติสต์ของคนบางกลุ่มเลยค่า ^-^ อย่างตอนนี้เราก็อ่าน เวย์(ทุกเล่ม) ค.คน กับอะเดย์ (บางเล่ม) ไบโอสโคป บางเล่ม แต่ก่อนอ่านมติชนสุด ด้วย ส่วนหนังสืออื่นๆก็อ่านนะคะ ขึ้นกับว่าเล่มนั้นน่าสนใจแค่ไหน จากคุณ : Lunar_moon (Lunar_moon) เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 14:13:56

ความคิดเห็นที่ 47   ขอเสริมอีกนิดนะครับ ว่าผมเกิดมาทันในยุคอะเดย์เพิ่งเริ่มต้น อยู่ในช่วง ปี 2543 กำลังวัยรุ่นพลุ่งพล่านเชียว ปวสปี2 ยุคที่ค่ารถเมล์แดงยัง 3บาท 50 ค่ารถตู้15 บาท สถานการณ์การเมืองที่ไม่ตึงเครียด วันที่อะเดย์ฉบับแรกวางแผง คือ.... a day ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 เดือนกันยายน 2543 (อ้างอิง http://www.daypoets.com/aday2/?cat=6&paged=19) (แสดงความคิดเห็นส่วนตัว) จากคุณ : yog_bf เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 14:33:53

ความคิดเห็นที่ 48   ตั้งแต่ขายบริษัทให้ทราฟฟิค คอนเนอร์ ก็เหมือนเขา "หักหลัง" กลุ่มคนที่ร่วมลงขันก่อตั้ง a day เพราะนับแต่นั้น a day ก็ไม่เหมือนเดิม a day weekly ที่กำลังดีวันดีคืน วงศ์ทนงก็เลิกทำซะดื้อๆ เพราะ "ไม่ได้กำไร" และ "พูดเรื่องการเมืองแล้วขัดใจนายทุน" ไม่รู้ตอนนี้บริษัทยังอยู่ในเครือทราฟฟิคฯรึเปล่า เพราะไม่ได้ตามแล้ว แต่เห็นโฆษณาแล้วเกิดรู้สึก "ยี้" ขึ้นมา จากคุณ : Meursault เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 14:35:26

ความคิดเห็นที่ 49   ปัจจุบันนี้ ก็ยังมองหาอะเดย์บนแผงทุกเดือน บางทีก็มาช้า บางทีก็มาไว บางทีก็อ้วนมาก บางทีก็ผอมไปเยอะ เป็นเหมือนเพื่อนไปแล้ว แม้เพื่อนไม่มีอะไรจะพูด เพื่อนพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ แต่เราก็ยังสนใจฟังเขาอยู่ ดูความเปลี่ยนแปลง ดูเขาโตขึ้น มีเด็กกลุ่มใหม่ๆที่ยังสนับสนุนเขา เพราะโตมาในยุคใหม่พร้อมเขา เราเพื่อนเก่า ก็ยินดีเสมอ เพื่อนอย่างไรก็คือเพื่อน แม้ว่าเขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เราก็เปลี่ยนเช่นกัน เราก็มีเพื่อนใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีก สังคมเพิ่มขึ้น บรรยายภาพ อะเดย์ยุคที่ยังเย็บมุงอยู่ 29เล่ม แต่ละปก ผมก็ยังพอจำได้บางเล่มว่า เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเราในช่วงนั้น สาเหตุที่เย็บ เพราะว่า เมื่อจำนวนหน้าเยอะขึ้น มันหนาขึ้น การเย็บมุงแบบนี้ ไม่แข็งแรงเท่าไสกาวสัน (แสดงความคิดเห็นส่วนตัว) จากคุณ : yog_bf เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 14:41:00

ความคิดเห็นที่ 50   อะเดย์เล่มพิิเศษ ที่อิงตามสปอนเซอร์ วันทูคอล - มูฟวี่ (เย็บมุม วางแนวขวาง) ดนตรี - ไฮเนเก้น ยุคที่พี่เล็ก พราว ทำเพลงของไฮเนเก้นหน่ะครับ สยามสแควร์ อันนี้จำไม่ได้ แต่ครบรอบกี่ปีของสยามฯ เนี่ยแหละ จากคุณ : yog_bf เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 14:47:14

ความคิดเห็นที่ 51   พิมพ์ไปแล้วขอเอามาแปะ ขอเพิ่มเติม พวกเรา (ดูจากสภาพทุกคนเคยเป็นวัยรุ่น ยุคนั้น และตอนนี้ก็..อิอิ) โตขึ้นมากแล้วนะครับจริงๆหนังสืออาจจะไม่ได้เปลี่ยนไปมาก แต่เราโตขึ้นมาอีกวัยนึง attitude ประสบการณ์ชีวิต ความเปลี่ยนไปของโลก ต่างๆนานา ก็ทำให้เราเปลี่ยนไปนะครับ เราเลยมองว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ตอบโจทย์เราแล้ว จากคุณ : [C]haruru เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 14:57:42

ความคิดเห็นที่ 52   พี่ๆ ครับ พี่ๆ เคยอ่าน "หมาเน่าลอยน้ำ"  ของ ชาติ กอบจิตติ ไม๊ครับ อารมณ์ประมาณนั้นเลย จากคุณ : คุณหน่อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 15:04:09

ความคิดเห็นที่ 53   ของแถมที่ได้จากอะเดย์ จากเล่มต่างๆ ช่วงเวลาดีๆ ทีาน่าจดจำช่วงหนึ่งของชีวิตครับ ขออภัยเจ้าของกระทู้ครับ ประเด็นกระทู้พูดถึง เนื้อหาปัจจุบัน แต่ผมเขียนถึงอดีตไปซะแยะเลย บ.ก. คนที่สามของอะเดย์ อยู่ยาวมากเลยครับ ปรกติ สองปีจะเปลี่ยนหนึ่งคน แต่คุณทรงกลด คงคุมได้ลงตัวอยู่แล้ว อืม.... ก็ยังไม่เห็นใครใหม่นะ กำลังรอดูอยู่ว่า บ.ก. รุ่นที่4 จะเป็นใคร เพราะ ครบ10ปี คงมีเปลี่ยนอะไรอีกรอบ หรือเปล่า อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ คนคนหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นที่รัก ที่นับถือ พอถึงวันหนึ่ง ก็กลายเป็นความคลางแคลง ไม่ชอบ เราคาดหวังอะไรกับคนที่เรารักกันครับ เรารักในสิ่งที่เขาเป็น หรือรักในสิ่งที่เราอยากเขาให้เป็น (แสดงความคิดเห็นส่วนตัว) จากคุณ : yog_bf เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 15:04:59

ความคิดเห็นที่ 54   .... แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 15:13:05 จากคุณ : พะยูนรักการอ่าน (เรียกข้าว่าพะยูน) เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 15:08:07

ความคิดเห็นที่ 55   เเก้ไข... เผลอกดค้างทำให้กระทู้ซ้ำกันขอโทษครับ แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 15:14:28 จากคุณ : พะยูนรักการอ่าน (เรียกข้าว่าพะยูน) เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 15:09:32

ความคิดเห็นที่ 56   เลือกอ่านเป็นบางเล่ม เฉพาะที่มีเรื่องน่าสนใจ เพราะแฟนซื้อ แต่ไม่ได้ชอบอะไรมากมาย แนวเราเป็นพวก "ต่วยตูน" มากกว่า จากคุณ : เมี๊ยวหง่าว เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 15:10:23

ความคิดเห็นที่ 57   ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่มีความรู้สึกว่ามันเปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าเป็นที่ตัวเราหรืออะเดย์ สมัยก่อนนี่ซื้อเก็บเองแทบทุกเล่ม(มีบางเล่มที่ซื้อไม่ทันเพราะร้านเเถวบ้านขายหมดก่อน) เเล้วพอขึ้นมหาลัยก็หยุดซื้อมาช่วงนึง เเล้วพอมาอ่านดูอีกที...เอ๊ะ ทำไมความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิมวะ จะว่าเราโตขึ้นก็ไม่ใช่นะ...ก็ยังอ่านนิตยสารเล่มอื่นๆที่เคยอ่านสนุกอยู่เหมือนเดิมนี่หว่า เเต่สำหรับอะเดย์นี่ทำไม...??? ตอนเเรกนึกว่าคิดไปเองคนเดียวซะอีก..เเต่นี่มีคนคิดเหมือนเราหลายคนด้วย แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 15:13:30 จากคุณ : พะยูนรักการอ่าน (เรียกข้าว่าพะยูน) เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 15:10:28

ความคิดเห็นที่ 58   วงศ์ทนงเค้าตกผลึกแล้ว จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 16:13:27 A:112.142.85.89 X: TicketID:111849

ความคิดเห็นที่ 59   ชอบความเห็นของ # 46 มากก "อย่าอคติกับหนังสือบางเล่มเพราะว่าคุณหมั่นไส้ความแนว ความติสต์ของคนบางกลุ่มเลย" จากคุณ : fand G - ro เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 16:16:03

ความคิดเห็นที่ 60   กลับมาอ่านกระทู้ อีกรอบ รู้สึกดีนะ ยิ่งเห็นรูป ของ yog_bf ยิ่งรู้สึกดี เหมือนได้เห็นอดีต good old days ถ้า ว่างๆ คงได้ "รื้อ a day" ออกมาอ่าน ความแน่นอนที่สุดของชีวิต ก็คือ ความเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง a day ก็เปลี่ยน ผมก็เปลี่ยน ทุกๆคนเปลี่ยน แต่ละคนมีทางเดินของตัวเอง ตอนนี้ a day อาจจะกำลังเดินไปทางซ้าย ส่วนผมเดินไปทางขวา แต่ไม่แน่นะ ซักวันเราอาจจะเจอกันตรงกลางอีกครั้งก็ได้ ป.ล. ผมยังเป็นวัยรุ่น ใครมาว่าผมผ่านวัยรุ่นมาแล้วผมไม่ยอม ^^ จากคุณ : Mr. Konga เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 16:18:30

ความคิดเห็นที่ 61   ความรู้สึกเรากะ a day เหมือนคนเคยเป็นเพื่อน แล้วอยู่ๆก็ห่างๆกันโดยไม่ทราบสาเหตุอ่ะค่ะ ช่วงแรกของ a day เราซื้อทุกเล่ม ไม่ใช่เพราะพยายามติสต์ แต่เพราะอ่านแล้วติด อ่านแล้วคลิกจริงๆ ส่งข้อเขียนไป ก็ได้ของตอบแทนมาพอกระชุ่มกระชวย (แต่แคนโต้อันหลังสุดที่ส่งไปหัวข้อ นกอินทรี [นานมากแล้ว] ยังไม่เห็นส่งของมาให้เลยนะคะ โทรไปทวงแล้วอายเองค่ะ ไม่ทวงดีกว่า) อยู่ๆช่วงนึง ช่วงที่เปลี่ยน บก ช่วงที่ a day เป็นที่รู้จักในวงการเด็ก(ที่เรียกตัวเองว่า)อินดี้มากขึ้น ก็เริ่มรู้สึกว่าไม่คลิก เนื้อหาแอบเปลี่ยนไป จนรู้สึกว่า ถ้าเราพยายามอ่านต่อ ก็คงเพราะพยายามติสต์ซะมากกว่า เลยเลิกซื้ออ่านดีกว่า ทุกวันนี้ก็ เฉยๆอ่ะค่ะ เจอกันตามแผงก็แอบมองบ้าง แต่ไม่ค่อยกล้าทัก (ซื้อ) กลัวคุยกันไม่รู้เรื่อง จากคุณ : อุริ อุริ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 16:55:23

ความคิดเห็นที่ 62   ตามมาอีกที อยากใช้คำว่าอะไรดีนะ เวลาเราได้อยู่ท่ามกลางคนที่ชอบ หรือ เคย ชอบ อะไรเหมือนๆกัน ปิติ ใช้คำนี้ได้มั้ยคะ ^^ จากคุณ : minnymin เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 17:07:54

ความคิดเห็นที่ 63   เพื่อเงิน เพื่อความอยู่รอด เลยต้องปรัปปรุงแบบเอาใจสปอนเซอร์ แล้วแฟนเก่าๆที่เคยอ่านเคยชอบแบบเดิมล่ะ  ถ้าคิดว่าที่สำคัญที่สุดคือรายได้จากสปอนเซอร์ เงินที่ผมจ่ายเพื่อซื้อหนังสือของคุณราคาร่วมร้อยบาทเป็นแค่รายได้รอง ก็น่าจะหาสปอนเซอร์เยอะ ๆ แล้วแจกฟรีก็ดีนะครับ จากคุณ : a.thangsub เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 17:47:08

ความคิดเห็นที่ 64   เคยอ่านอะเดย์ เคยเขียนบทความแล้วได้ลงอะเดย์ แต่หลายปีมาแล้วค่ะ  ยังจำที่ผู้เขียนคนนึงเขียนมาถึงอะเดย์ได้ว่าอะเดย์เปลี่ยนไป ก็รู้สึกว่าเปลี่ยนไปจริงๆ ตอนนี้เลิกอ่านอย่างเป็นทางการละค่ะ จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 17:56:11

ความคิดเห็นที่ 65   เพื่อความอยู่รอดนั่นแหละครับ ส่วนตัวไม่ได้ซื้อแต่อ่านจากห้องสมุดในโรงบาลนะแต่ชอบอ่านเรื่องที่ชอบเท่านั้น จากคุณ : VEGA-ZERO เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 17:58:33

ความคิดเห็นที่ 66   ซื้อ a day ตั้งแต่เล่มแรก เพราะฟังพี่โหน่งพูดในfat radio ประกาศหาทุนทำหนังสือ แล้วเรารู้สึกว่าความคิดน่าสนใจมากหนังสือเล่มนี้ พอซื้อมาอ่านก็ชอบมากๆ ตามซื้อทุกเล่มและชอบทุกเล่มจริงๆ แต่พอเปลี่ยน บก. ก็หยุดซื้อเพราะมันไม่เหมือนเดิม ทรรศนะคติของเรากับหนังสือไม่เข้ากันค่ะ ส่วนhamไม่ได้อ่าน แก้คำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 20:34:35 จากคุณ : Teal Blue เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 20:32:02

ความคิดเห็นที่ 67   ชอบความคิดเห็นที่ 61 อ่ะ คิดตามว่า เหมือนเพื่อนที่สนิทแล้วก็ห่างกันไปตามเวลา ตามหนทางของแต่ละคน พอเรามาเจอเพื่อนอีกที เราก็จะเจอสิ่งที่เหมือนเดิมในตัวเค้า และสิ่งที่เปลียนไปในตัวเค้า อยู่ที่ว่าเรามองในมุมไหนมากกว่ากัน แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปยังไง ถ้าเป็นเพื่อนกัน ยังไงก็ลงนั่งคุยกันได้เหมือนเดิมนะ สำหรับเรา... ขนาดคนยังเปลี่ยนได้ หนังสือก็เปลี่ยนได้เหมือนกัน หนังสือ a day เดินทางมาได้สิบปี ผ่านทีมงานมาก็คงหลายรุ่น วิถีทางและความคิดของแต่ละคนก็คงไม่เหมือนพี่โหน่ง วงค์ทนง หรือทีมงานในยุคนั้นทั้งหมด แต่เราเชื่อว่า พวกเค้าก็ยังทำในงานที่รักนี้ของเค้าอยู่ งานบางทีอาจจะมีคนชอบเยอะ หรือมีคนไม่ชอบเยอะ สลับๆกันไป หนังสือหัวอื่นๆ เราก็คิดว่าเป็นเหมือนกัน ยิ่งเฉพาะหนังสือที่อยู่บนแผงหลายๆปี พอวัยเปลี่ยนจากเด็ก เป็นวัยรุ่น วัยทำงาน วัยกลางคน ความความคิดความชอบก็เปลี่ยน (ชอบการ์ตูน ชอบซีรีส์เกาหลี ชอบหนัง ชอบหนังสือ ชอบท่องเที่ยว ชอบธรรมะ) ความคิดของคนอ่านมันเปลี่ยนไปตลอด เราว่า a day ก็ยังเป็นหนึ่งในหนังสือบนแผงที่มีคุณค่า และควรจะยังคงมีอยู่ต่อไป เพราะเชื่อแน่ๆว่า มันยังเป็นหนังสือที่ให้แรงบันดาลใจในเรื่องต่างๆให้กับคนอีกหลายๆคน... แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 20:53:25 จากคุณ : The OaTTO เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 20:52:27

ความคิดเห็นที่ 68   ณ.ตอนนี้ ต้องWAY ครับ ขอแนะนำทุกท่านลองอ่านดู   ประมาณ A DAY WEEKLY ที่เติมฟองนม นุ่มขึ้นหน่อย จากคุณ : ativan เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 21:12:13

ความคิดเห็นที่ 69   เมื่อก่อนต้องตามซื้อทุกเล่มเลยไม่ว่าจะเป็นA day หรือ Hamberger เนื้อหาในเล่มเป็นอะไรที่ถูกจริตมากๆ แต่พอมีกระแสเด็กแนวขึ้นมา เราว่ามันเปลี่ยนไปอ่ะ พยายามจะ"แนว" อยู่ตลอดเวลา  เนื้อหาข้างในมันไม่ใช่อีกแล้ว Hamberger นี่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ทุกวันนี้กลายเป็นนิตยสารแฟชั่น บ้าแบรนด์เนม ล่าสุดซื้อที่ปกเป็น คริส หอวังมา เปิดอ่านได้ซักพักนึกว่าซื้อนิตยสาร Seven teen มา ไม่ไหวจริงๆ เลยตัดสินใจเลิกซื้อโดยเด็ดขาด สิ่งเดียวที่เราชอบในปุจจุบันของA day คือ คนสันปก!!! ปล. มีใครคิดถึงA day1-4และ A day Record เหมือนเรามั๊ย? จากคุณ : funkyguy เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 21:36:12

ความคิดเห็นที่ 70   เมื่อก่อนชอบมาก จนกระทั่งเปลี่ยนบ.ก.จากคุณโหน่งเป็นคนอื่นนั้นเเหละ เราก็อ่านน้อยลง รู้สึกว่าโฆษณาเยอะมาก เเละไม่สนุกเหมือนก่อน จะเข้ามากบอกอีกทีว่า แคนโตที่เราเขียนเคยได้ลงอะเดย์ด้วย ตอนนั้นดีใจมาก อิอิ ยังไงก็ตาม อะเดย์ก็ยังเป็นความทรงจำดีดีอันหนึ่งของเรา ในช่วงเวลาที่เรายังเต็มไปด้วยความฝัน ^^ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 00:19:53 จากคุณ : กอหญ้าพาฝัน เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 00:18:12

ความคิดเห็นที่ 71   เป็นแฟนแค่อะเดย์เลยไม่รู้ว่าด้าน Hamburger เป็นยังไง สมัยม.ปลายชอบอ่านมาก เก็บไว้เป็นตั้งๆแต่ตอนนี้เอาไปบริจาคซะหมด เก็บไว้แค่เล่มที่แคนโต้ได้ลง เคยส่งครั้งเดียวก็เลยเหลือเล่มเดียว 55 สามสี่ปีมานี้ เปลี่ยนขั้นการติดตามไปเป็นนานๆซื้อที จากที่เคยซื้อทุกเดือน ช่วงเข้ามหาวิทยาลัยพอดีล่ะมั้ง มีอะไรอื่นๆเยอะแยะแปลกๆใหม่ๆเข้ามา ไม่รู้ว่าเราเปลี่ยน อะเดย์เปลี่ยน หรือว่าทั้งสองอย่าง แต่อ่านแล้วไม่คลิ๊กเหมือนเดิมอ่ะ แอบแปลกใจที่มีแฟนอะเดย์รุ่นเดียวกันเป็นเหมือนกันเยอะขนาดนี้นะเนี่ย จากคุณ : hiyono เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 00:38:28

ความคิดเห็นที่ 72   ตกลงทุกคนก็จะมาบอกว่า ฉันไม่อ่านหรอกพวกพยายามแนว ต้องแบบฉัน ไม่ต้องพยายามเป็นธรรมชาติของตัวเอง :) ส่วนผมก็ไม่อ่านเหมือนกัน เพราะขี้เกียจอ่านหนังสือ ของค่ายนี้ผมนิยมknock knockครับ ถ่ายรูปเด็กสาวได้ดูดีมีสกุลรุนชาติที่สุดในหมู่หนังสือวัยรุ่นประเทศไทย โอเค บางคนถ่ายดีเกินไป ต้องถอยออกมาเพ่งอีกทีว่ามันแค่ขาวเฉยๆนี่หว่า จากคุณ : norm เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 01:20:36

ความคิดเห็นที่ 73   ... เข้าใจว่าการทำหนังสือที่ดี กับหนังสือที่อยู่ได้มันต่างกันนะครับ... พูดตรงประเด็น เสียดายที่สุดตรงอะเดย์วันนี้ไม่รับฟังคำติแล้วนะ...พูดจากใจ ถึงตอนนี้ผมยังเสียใจอยู่ตลอดที่เอาอะเดย์ปกพีทให้เพื่อนไปเพราะเค้าชอบพีทมาก อะเดย์ 2 ปีแรก คืออะไรที่ผมรู้สึกว่ามันเหนือกาลเวลามาก สมชื่ออะเดย์และทิศทางตอนนั้น ให้ความรู้สึกว่าอยากให้ลูกได้อ่าน และเนื้อหาเราไม่เก่าเลยจริงๆ ตอนนี้ก็นะ ธุรกิจนำหน้า บริษัทมันต้องใหญ่ขึ้น เป็นผลของการเดิมพันที่แพ้นะผมว่า พี่โหน่งเค้าก็คงรู้ดีว่า ถ้าอยากสร้างคนหนุ่มทีละเยอะๆ เราก็หนีธุรกิจไม่ได้ เด็ดเดี่ยวแบบเดิมไม่ดี แต่บังเอิญว่า คนรุ่นใหม่ไม่เก่งเท่าพี่เค้า พอพี่วางมือจะกลับมาหยิบก็ยากแล้ว คนทำงานคงเข้าใจกันดี มันหยุดแล้ว ในด้านสร้างเค้าก่อประโยชน์จริงๆ ตอนนี้ผมก็ยังซื้ออยู่เกือบทุกเล่ม แต่ไม่ได้อ่านเท่าไหร่ คอลัมน์วาไรตี้เอาใจตลาดกว้างขึ้นทำให้เนื้อหาหลวมไม่มีทิศทาง ปวดร้าวที่ Main ดันหลวมอีก!! เลวร้ายสุดในชีวิตคือตอนลองจัดนักแสดงไทยเล่นหนังดราก้อนบอล...ปกดราก้อนบอล Main มีเล่นเรื่องนี้อะนะ!!! ผมอ่านพันทิพย์ยังบรรเจิดจิตกว่าจริงๆ ตอนนั้นน้ำตาแทบไหล ไม่มีประโยชน์แถมขยะอีก -*- ทำให้นึกถึงความกล้าเล่นเล่มขาวดำในเล่ม ชาติ กอบจิตติ หรือสารคดี พระเทพฯ ซึ่งทำผมน้ำตาไหล ทั้งที่ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักพระองค์เลย แต่เล่มนั้นอ่านวนไปมาหลายเดือนมาก รู้สึกอิ่มจนจุก ในด้านทิศทางที่เปลี่ยนไป ผมคิดว่า... อะเดย์คาดหวังว่าตัวเองจะพยายามผลิตบุคลากรออกมาในวงการให้มากขึ้น คิดว่าโอกาสมันหายาก แต่ความจริงกลับลืมไปว่า ทุกยุคทุกสมัย คนเก่งเกิดจากการฝึกฝน ไม่ใช่ผลักดันทางลัด อะเดย์ยิ่งเสริมเด็กรุ่นใหม่ คนเก่าก็ตายเร็ว+คุณภาพน้อย อายุสั้น แล้วผลก็คือนิตยสารระบบทุนนิยม สร้างมากๆ แล้วคัดเพชรจากทราย มันก็มีดี แต่ฆ่าทรัพยากรทิ้งไปเยอะยิ่งกว่า คนที่จบวิชาจากอะเดย์เบรนไป มีกี่คนที่ไปาสู่ฝันแบบตัวจริง เมื่อเทียบกับจำนวนที่ตายไปบนทางนี้ เราเห้นหลายคนดังเพราะอะเดย์ ได้ถูกค้นพบ ได้โอกาส และอีกหลายสิบหลงทางเพราะอะเดย์ โอกาสที่มากเกินไป โลกอุดมคติที่พี่โหน่งเคยพูด บางทีมันก็โหดร้ายกว่าโลกทั่วๆไปนะ ด้านเนื้อหาตอนนี้... โลกเดี๋ยวนี้มีอินเตอร์เน็ต สื่อหนังสือก็ควรจะตายได้แล้วถ้าทำเนื้อหาจากเซิร์จกูเกิ้ล อะเดย์เก่งในหลายๆด้าน ยอมรับ แค่ด้านความเป็นอะเดย์ ผมว่ามันตายไปกับพี่โหน่งแล้ว ชื่อหนังสือไม่ใช่สร้างเพื่อครีเอทีพ แต่มันสร้างเพื่อเนื้อหาตอนนั้น ซึ่งตอนนี้ไม่มีเนื้อหาแบบนั้นเลย ในโฆษณาไม่เคืองเลย พี่เค้าเก่งจริง ถ้าพี่เค้าพูดผมก็อยากฟัง รู้สึกว่ามันดี และเชื่อมั่นได้ในความสามารถ แต่ถ้าอะเดย์ เสียใจด้วยจริงๆ ผมซ์ื้อ ปล.สำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่ประทับใจอะเดย์และกำลังมีความคิดค้านในใจ อยากให้เปิดในอ่านกระทู้นี้มากๆ คนจะติดของบางอย่าง ถ้าไม่ เกลียด ก็ต้อง รัก สิ่งนั้นๆ มากทีเดียว สังเกตุดีๆสิ...ถ้าได้ลองอ่านหนังสือมามาก แล้วได้กลับไปอ่านอะเดย์ปีทอง ก็จะเข้าใจความรู้สึกเองว่า อะเดย์ปีทองมีบางอย่างที่พิเศษ กล้าและโดดเด่น ไม่แปลกที่พุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว อะเดย์ไม่ได้เกิดจากตลอด โฆษณา หรือเพื่อเด็กไทยทุกคน แต่มันเกิดจากพี่โหน่งเขียนบางอย่าง แล้วมีคนบ้าๆกลุ่มหนึ่งควักตักลงขันกันจำนวนมหาศาลมาก ในยุคนั้น ควักง่ายๆ เพียงเพื่อให้พี่โหน่งเขียนและทำบางอย่างนั้นต่อไป โดยพวกเค้าเฝ้ามองอย่างมั่นใจ เฝ้ารออย่างรอคอย มันเป็นความอมตะมาก จนอยากให้ช่วงเวลาดีๆ ไม่หยุดลง จึงบ่นเช่นนี้แล~ ปล2.Knock Knock ผมละช๊อบชอบ อาร์ตสวยน่ารักดูดีมากๆ แค่มันแพงเลยไม่ได้ซื้อ 555  เนื้อหาก็สาวอยากจะอ่านก็รู้สึกอายุเกิน แค่อยากนับถือ บก. ว่าเด่นในแนวทางจริงๆ ยอมๆ จากคุณ : The White Man เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 04:27:36

ความคิดเห็นที่ 74   เอ่อ... ใครที่บอกว่าคนที่ชอบอ่าน a day (เมื่อก่อน) คือพวกที่พยายามแนว ผมว่าคุณคงไม่เคยอ่านนิตยสารเล่มนี้อย่างจริงๆจังๆ และจับเนื้อหาสาระจากหนังสือไม่ได้มากกว่า คงเป็นพวกที่คิดว่าตัวเองหัวสูงกว่าคนอื่น และมองการกระทำของวัยรุ่นที่ทำตัวแหวกจากกระแสจริตที่สังคมวางเอาไว้ว่าเป็นพวกไร้สาระ เพราะผม(เคย)ชอบ ผมจึงอยากติ ถ้าผมไม่ชอบนิตยสารเล่มนี้ ผมจะไม่เหลียวแลมันเลยด้วยซ้ำ จากคุณ : Travel Dev เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 07:00:49

ความคิดเห็นที่ 75   เมื่อนานมาแล้ว ยังจำสมัย มีจดหมาย ขอเงินจากคนอ่าน เพื่อทำหนังสือฉบับหนึ่ง หนังสือคุณภาพ ได้ไหม ............................ ผมจำไม่ได้ด้วยสิว่าหนังสือเล่มนี้ชื่ออะไร จากคุณ : moojiw เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 07:35:57

ความคิดเห็นที่ 76   a day ผมไม่ค่อยได้อ่านน่ะครับ เพราะมาจับอีกทีก็เป็นสมัย a day เล่มอ้วนๆแบบตอนนี้แล้ว ส่วน Hamburger ผมชอบมากเลย แต่.. ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เล่มบวมมาก ไสกาวอีกตังหาก  ที่สำคัญ ดวงมันไม่แม่นเหมือนเดิมเลย คนอ่าน Hamburger สมัยเก่าๆคงจะจำกันได้นะครับ ว่าหน้าดูดวงของหนังสือเล่มนี้ แม่นแค่ไหน จากคุณ : ชอบตอนนี้ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 09:36:59

ความคิดเห็นที่ 77   ซื้อตั้งแต่เล่มแรก เล่มไม่หนามาก เพราะชอบพี่โหน่งตั้งแต่เค้ามาขายหุ้นทำหนังสือเล่มนี้แล้ว ตอนนี้ไม่ได้ซื้อแล้ว แต่ชอบบก.พี่ก้อง ทรงกลดนะ ตอนนี้มาสนับสนุนหนังสือ pocket book ของสำนักพิมพ์ A Book เครือ A Day แทน แล้วก็ตามอ่าน A Day Bulletin หนังสือพิมพ์แจกฟรีออกทุกวันศุกร์ ชอบบทบรรณาธิการของคุณวิไลรัตน์ เอมเอี่ยมมาก ๆ จากคุณ : ยัยลีลี เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 19:41:16

ความคิดเห็นที่ 78   ดีใจจังมีคนอ่านฮิกาซีนเหมือนเราด้วย ^^ จากคุณ : LostprophetZ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 00:49:03

ความคิดเห็นที่ 79   ขอเพิ่มเติม knock knock ด้วยได้ปะครับ เห็นว่าอยู่ในเครือเดียวกัน แบบว่าอ่านมาตั้งแต่ยุคแรกๆ ยังอยู่ม.ปลายอยู่เลย ชอบ theme ของแต่ละเล่มมากๆ มันมีอะไรที่เป็นสาระในรูปแบบอ่านง่ายๆ แบบเรื่องรับน้อง สาขาวิชาเรียนแปลกๆ วิธีแก้เบื่อตอนปิดเทอมไรงี้ ต้องลุ้นทุกเดือนว่า theme แต่ละเล่มจะออกมาเกี่ยวกับอะไร ชอบหมดทุกเล่ม พอมายุคหลังก็เริ่มเปลี่ยนไปนะ พอช่วงเปลี่ยน บ.ก. นี่แหล่ะ เปลี่ยนไปแทบเกือบหมดเลย มีแต่เรื่องฟุ้งเฟ้อ ใช้เครื่องสำอางแพงๆ theme บิกินี่ บ้างไรบ้าง หนักสุดก็ตอน theme เกี่ยวกับกระเป๋าเนี่ยแหล่ะ สัมภาษณ์แต่ละคน อยู่มัธยมอยู่เลย ใช้กระเป๋าใบเป็นหมื่นเป็นแสน โห มากไปละ เล่มล่าสุดนี่เกี่ยวกับอนุรักษ์ไรสักอย่างปะ น่าเบื่อมาก อ่านไม่จบด้วยซ้ำ เป็นอะไรกันไปหมดกับนิตยสารค่ายนี้ a day ยุคแรกซื้อตลอดอะครับ แต่ยุคหลังนี่จะซื้อเฉพาะเล่มที่เราอยากอ่าน จากคุณ : เด็กแว่น เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 01:28:59

ความคิดเห็นที่ 80   ผมไม่ประทับใจ ตรงที่หลังๆ เริ่มมีโฆษณาพรรคการเมือง มาแจมด้วย บ่อยมาก พูดได้คำเดียวว่า ไม่น่าเลย........... คุณควรจะวางตัวเป็นกลางนะ ถ้าอยากทำอะไรที่เกี่ยวกับการเมือง ออกเล่มพิเศษมาเลยดีกว่า (ไม่ยุ่งเลยจะดีกว่า) เห็นแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ ไม่ใช่อะกิ๊บบบบบบบ -*- จากคุณ : Primary Colours เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 22:02:33

ความคิดเห็นที่ 81   เคยเป็นคนเดียวในคณะ ที่ได้รับเลือกให้ร่วมกิจกรรมกับ a day  ในสมัยแรกๆ     เรากลายเป็นคนดังของคณะในชั่วข้ามคืน จากคุณ : Keepfresh เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 00:04:21

ความคิดเห็นที่ 82   ซื้อ a day ตั้งแต่เล่มแรกเหมือนกัน หลังจากนั้นก็กลายเป็น1ในผู้ลงขัน ลงไม่มาก ผลตอบแทนดี กำไรอย่างเดียวแล้ว แต่ตั้งแต่เปลี่ยนปกเป็นไสกาว ก้อไม่ได้ซื้ออีกเลย.............. จากคุณ : ของมีคม เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 09:34:45

ความคิดเห็นที่ 83   ว่าจะอ่านเฉยๆละ แต่เจอ 76 เข้าไปแล้วตกใจมาก ไม่ิคิดว่าจะมีคนคิดเหมือนกันเลยว่าคอมลัมภ์ดูดวงของ Hamburger นี่แม่นมากๆ แบบว่าแม่นจริงๆนะ ตามอ่านประจำเลย 555 ไหนๆก็ไหนๆละ ขอพูดในฐานะคนอ่าน Hamburger แต่ไม่ได้อ่าน A day บ้างละกัน แฮมเป็นหนังสือแนวนิตยสารเล่มเดียวเลยนะ ที่ผมตามอ่านมานานมาก ตั้งแต่เล่มแรกๆเลย แล้วอ่านมาทุกเล่มจริงๆ ผมเป็นคนอ่านแบบที่คงอยู่ตรงกลางๆนะ ไม่ได้ชอบสาระมาก ไม่ชอบแนวมาก ชอบอ่านอะไรง่ายๆ สนุกๆ แต่ก็ต้องไม่กลวงโบ๋เกินไป ซึ่งแฮมเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ผมได้หมด ทั้งความแนวแบบพอประมาณ มีเนื้อหาอ่านสนุก มีผักเป็นสารประโยชน์แทรกอยู่เป็นหย่อมๆพองาม คอลัมภ์ต่างๆก็น่าสนใจดี เป็นอาหารที่กินแล้ว รู้สึกอิ่มและอร่อย เดือนละสองครั้งก็ไม่ต้องไปหาอย่างอื่นมาทานเพิ่มแล้ว จนมาเมื่อตอนเปลี่ยนรูปแบบนั่นล่ะ โหย นี่มัน"อาหารขยะ"ชัดๆเลยนี่นา กระเดือกไม่ลงเลย ไม่คิดว่ารู้สึกแบบนี้เพราะวัยเปลี่ยนไป หรือทัศนคติเปลี่ยนไปหรอกนะ แต่เพราะหนังสือมันเปลี่ยนตัวเองไปเองต่างหากล่ะ จากคุณ : Berserk Rabbit เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 19:25:20

ความคิดเห็นที่ 84   อ่านแต่ A Day สมัยเล่มแรกๆ ชอบมาก แต่พอหลังๆ เนื้อหาเริ่มเปลี่ยนไปอ่ะ เลยไม่ได้อ่านหลายปี พอกลับมาอ่าน เล่มเจ้าหนูอะตอม...อ่านไม่จบค่ะ ยังทิ้งไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานอยู่เลย มันยังไงล่ะ อ่านไม่ค่อยเข้าใจ หรือ อ่านแล้วไม่บันเทิงเหมือนเดิม อ่านยาก (หรืออาจเป็นเพราะเราไม่โตตามหนังสือก็ได้นะ) โฆษณาเกือบทุกหน้าเลย เบื่อ เอา A Day แบบเก่ากลับคืนมา ตอนนี้เพิ่งค้นพบ ฮิ ชอบนะ มุมมองกวนดี แบบนี้แหละที่วัยโจ๋อย่างเราชอบมั่กมาก ตามซื้อไม่หวาดไม่ไหว อย่าเปลี่ยนไปนะฮิ เปลี่ยนไป ไม่ซื้อจริงๆด้วย จากคุณ : Piterek เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 16:56:34

ความคิดเห็นที่ 85   A Day ครับ เอาคุณวินทร์ คืนมาก่อนครับ ผมถึงจะรับพิจารณา 555 จากคุณ : คิมบ๊อก เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 11:28:24

ความคิดเห็นที่ 86   เอาน่า เค้าคงเลี้ยงปากท้องตัวเองให้รอดก่อน เศรษฐกิจดีขึ้นอาจกลับมาแนวเดิมๆก็ได้  รัฐบาลเค้าการัยตีอยู่ รออีกนิดละกัน อิอิ จากคุณ : โอเอซิสแมน เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 22:12:19

ความคิดเห็นที่ 87   a day  อาจจะเลือกธีมนะ แต่ว่าหนังสือ ของ a book ก็เก็บตังส์เรา จากในงานหนังสือไปได้เป็นกอบเป็นกำ อยากอ่านแบบเต็มๆ อะ  ลำคาญโฆษณา แต่ชอบชอบคุณวิททร์ คุณนิ้วกลม ฯลฯ (อยากจะอ่านๆ) ชอบคอลัมธ์ประจำ บางคอลัมธ์ จากคุณ : pocky_jang เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 17:04:09