 |
ความคิดเห็นที่ 109 |
บ้านครูน้อยนับเป็นบ้านที่เปิดขั้นเพื่อช่วยเหลือสงเคราะห์และให้การศึกษา ให้ชีวิตที่ดีขึ้นแก่กลุ่มลูกกรรมกรแบกข้าวสาร และเด็กทั่วไปที่ประสบปัญหา... ยากจน ครอบครัวแตกแยก พ่อหรือแม่ต้องโทษจำคุก พ่อแม่ทอดทิ้ง พิการทางสมอง
เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ในระยะ ๖ ปีแรก ตั้งแต่ปี ๒๕๒๓-๒๕๒๙ ด้วยทุนของตนเอง ระยะต่อมาจนถึงปัจจุบัน ได้รับความช่วยเหลือทุนในการดำเนินงาน จากสังคมทั่วไปที่ทราบเรื่องราว ปัจจุบันมีเด็กอยู่ในอุปการะ ๙๗ คนเป็นเด็กพิการทางสมอง ๗ คน ส่งออกไปเรียนภายนอก ๗๕ คน ตั้งแต่ประถม – อาชีวะศึกษา เรียนอาชีพระยะสั้น ๕ คน มีบุคคลากร ๕ คน
---------- ค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ ๖๐,๐๐๐ บาท ----------- มีรายได้ประจำจาก ๑๘ ท่านผู้บริจาค ---------- เดือนละ ๓๖,๘๐๐ บาท ----------- นอกจากนั้น จากการบริจาคไม่จำประจำ ก็พอมีบ้าง ไม่พอบ้าง...
“ครูน้อย” บอกว่า การบริจาคในขณะนี้มีเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ค่าใช้จ่ายเราก็มีมากขึ้น เพราะเด็กมากขึ้น ทำให้บางทีการบริจาคกับค่าใช้จ่ายไม่สมดุลกัน ยิ่งช่วงเปิดเทอมยิ่งหนัก เพราะต้องเตรียมเงินไว้วันละ ๓,๓๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าขนมเด็กไปกินโรงเรียน ซึ่งในความเป็นจริงวันหนึ่งมีคนบริจาคไม่ถึง ๓,๓๐๐ บาทหรอก ทุกวันนี้เดือนหนึ่งเรามีค่าใช้จ่าย ๑๒๐.๐๐๐ บาท แต่มีคนบริจาคเข้ามาประมาณ ๘๐,๐๐๐ บาท เดือนไหนที่เงินขาด ถ้าโชคดีเงินใน “กองทุนบ้านครูน้อย” ยังเหลือก็เอามาโปะกันก่อน แต่ถ้าวันไหนเงินในกองทุนชะงักลงเราก็คงมีหนี้สินเพิ่มขึ้น
“ครูคงทำงานต่อไปตราบที่ยังมีลมหายใจ ท่ามกลางความฝันที่ว่าวันใดวันหนึ่งคงจะมีใครสักคนที่ใจบุญมาช่วยเหลือเรา ไม่ได้ฝันให้เขามารับช่วงต่อเพราะเป็นไปไม่ได้ แต่ฝันว่าเขาจะมาให้เงินก้อนใหญ่ ๆ สักก้อนหนึ่ง จำนวนเงินที่ต้องการตอนนี้อยากได้สัก ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อนำมาใช้ดำเนินงานให้คล่องตัวและเพื่อให้เด็กพวกนี้มีชีวิตที่ดีไปได้ตลอดรอดฝั่ง ครูน้อยกล่าว
มกราคม 2550 http://74.125.153.132/search?q=cache:2TuERm6h_poJ:mce4.megainfo.co.th/pr_info/pr5.doc
จากคุณ |
:
หนึ่งในใต้หล้า
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ก.พ. 53 01:26:14
|
|
|
|
 |