ความคิดเห็นที่ 1   Kyoto Animation "Blizzard แห่งวงการอนิเม"   เจ้าของอันดับอนิเมทำเงินถึงสามเรื่องในกระทู้ที่แล้ว และเจ้าของรางวัลเหรียญทองอนิเมชั่นจากฮารุฮิ Kyoto Animation ตั้งขึ้นโดยอดีตพนักงาน Mushi Production จึงถือได้ว่าเป็นพี่น้องของ Sunrise กับ SHAFT ยุุึคเริ่มแรกทำงาน outsource ด้านอนิเมชั่นเป็นหลัก ก็เข้ามามีส่วนมีโปรดัคชั่นอนิเมดังๆ หลายเรื่องในช่วงต้นยุค 2000 หนึ่งในนั้นที่แนะนำก็ Nurse Witch Komugi ที่เกียวอนิได้ทำร่วมกับ Tsunoko หลังจากชินโบทำ SoulTaker เจ๊งไป และเครย่อนชินจังซึ่งเกียวอนิรับทำอนิเมชั่นให้มาตั้งแต่ตอนแรกๆ (เซอร์ไพรส์!) อนิเมเรื่องแรกที่เกียวอนิโปรดัคชั่นเองคือ Munto OVA ซึ่งทำยอดขายไป 200 แผ่น DVD ในสมัยนั้น ตามมาด้วย Full Metal Panic? Fumoffu ที่แฟนๆ เกียวอนิชาวไทยในเกียวอนิอีเวนท์จำนวนมากตอบคำถามนี้ไม่ได้ หลังจากล้มลุกคลุกคลานอยู่สองปี เกียวอนิก็สร้างตำนานครั้งแรกด้วย AIR ซึ่งเป็นอนิเมซับไทยเรื่องแรกที่ผมได้ดู และชอบมากจนปาวารณาตัวเป็นแฟนสตูดิโอนี้นับแต่นั้น แล้วหลังจากนั้นชื่อเสียง(และยอดขาย) ของเกียวอนิก็พุ่งขึ้นถึงระดับพี๊คที่ Suzumiya Haruhi no Yuutsu ในปีต่อมา ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มยุคทองของเกียวอนิ เสริมจากอีกกระทู้ เพลงเรื่อง AIR มันเป็นเพลงชาติโอตาคุจริงๆ Anime Radio ที่ผมฟังอยู่เปิดทุกวันเลย แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 07:25:34 จากคุณ : SNE เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 03:23:05

ความคิดเห็นที่ 2   จุดเด่นของเกียวอนิอยู่ที่การดัดแปลงเรื่องต้นฉบับที่ทำออกมาได้ตรงใจแฟนๆ ทำให้สามารถดึงกลุ่มลูกค้าจากงานต้นฉบับไว้ได้และสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่จากเอกลักษณ์ด้านอนิเมชั่นของตัวเองที่มีรายละเอียดสูง และการกำกับที่ดึงอารมณ์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งฉากฮาและฉากซาบซึ้ง และ........การลงสีตาฟุ้งๆ กับการใช้สถานที่จริงเป็นต้นแบบฉากหลังในเรื่อง ว่าไปแล้วก็แทบไม่มีข้อเสียเลยครับ ในด้านงานอนิเมชั่น ส่วนฉากที่ชอบที่สุดของเกียวอนิสำหรับผมคือฉากรถชนใน Kanon ครับ บางทีก็ยังเอามาดูซ้ำอยู่เลย ที่ทำได้ขนาดนี้เพราะเกียวอนิไม่ outsource งานในส่วนอนิเมชั่นออกไปให้บริษัทอื่นทำเลย (ยกเว้นบริษัทลูก Animation Do. ซึ่งตั้งอยู่ในโอซาก้าที่ได้งานไปเยอะหน่อย) ทำให้สามารถควบคุมงานทั้งหมดให้ได้คุณภาพตามต้องการ แต่ด้วยวิธีการไม่เอาท์ซอร์สทำให้แต่ละครั้งเกียวอนิจะทำอนิเมเพียงแค่ทีละเรื่อง เพื่อให้คุณภาพงานออกมาดีที่สุด ด้วยฝีมือระดับนี้ ทำให้เกียวอนิเป็นสตูดิโอที่มีแฟนมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของวงการอนิเมในปัจจุบัน เรียกได้ว่าจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง (ยกเว้น Munto ที่ทำออกมาขายอีกรอบได้ 96 แผ่น.....) ใครดูมุนโตะจบช่วยบอกความรู้สึกหน่อยนะครับ...... จากคุณ : SNE เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 03:24:28

ความคิดเห็นที่ 3   ในเรื่องการตลาดเกียวอนิและคาโดคาว่าสปอนเซอร์คู่ขาสุดรักก็ไม่เป็นรองใครในด้านการสร้างตำนาน ถ้าฮารุฮิตอนฉายไม่สลับตอนหรือไมมีท่าเต้น ED เรื่องนี้จะสร้างกระแสได้แบบนี้หรือไม่ก็ไม่ทราบ? หรือถ้า Lucky Star ไม่มี Lucky Channel กับชิราอิชิแหกปากผมจะทนดูจบไหม? (สนุกกว่าตัวเรื่องต้นฉบับจริงๆ นะ แต่ผมไม่ชอบ) หรือถ้าไม่มีชามข้าวมิโอะคนในพันทิพจะออกมาด่าและปกป้องเคองมากขนาดตอนนั้นไหม? หรือถ้าไม่มี E8 ฮารุฮิฉายใหม่จะเป็นที่ถกเถียงจนเป็นกระแสขนาดนั้นหรือเปล่า? ที่แน่ๆ คือ กลุ่มลูกค้าและแฟนๆ ของเกียวอนิัมั่นคงกว่าสตูดิโออื่นๆ มาก จนแทบจะเป็นลัทธิทีเดียว จนถึงทุกวันนี้ผมเองในฐานะอีดตสาวกคนหนึ่งก็ยังไม่ทราบว่ามันเกิดขึ้นมาด้วยสาเหตุใดบ้างกันแน่ เท่าที่ทราบ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการสร้างกระแสของทีมโปรดิวซ์และแฟนๆ ที่ช่วยกันโหมโปรโมตจนเป็นที่รู้จักและหามาดูกันไปทั่ว รวมทั้งการขายแบบครบวงจรตั้งแต่นิยาย มังงะ อนิเม โฆษณานิตยสาร หนังสือพิมพ์ ฟิกเกอร์ คอนเสิร์ท และอื่นๆ ออกมาเลี้ยงกระแสดูดเงินแฟนๆ ไม่จบสิ้น จึงคาดว่าเกียวอนิน่าจะรวยมากจากการทำอนิเมแค่ไม่กี่เรื่องในไม่กี่ปีมานี้ (พี่ท่านถึงขนาดเปิด Kyoani Shop ขายแบบครบวงจร) เรียกว่าทำทีเดียวหากินจนคุ้มปานสตูดิโอเกม Blizzard เลยทีเดียว โดยเฉพาะฮารุฮิกับ Lucky Star แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 03:27:36 จากคุณ : SNE เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 03:25:38

ความคิดเห็นที่ 4   หากพูดถึงเกียวอนิคงขาด"เทพปากดี ยามาโมโต้ ยูทากะ"ไม่ได้ ผกก.คนนี้เป็นเจ้าของไอเดียท่าเต้นใน ED และฉากร้องเพลงที่มีส่วนในการสร้างกระแสให้ฮารุฮิอย่างมาก แต่กลับถูกไล่ออกหลังจากมากำกับ Lucky Star ได้แค่สี่ตอน และเหตุการณ์ครั้งนี้เองทำให้ความมั่นคงของเกียวอนิสั่นคลอน เมื่อยามะคันพาสต๊าฟส่วนหนึ่งของ Animation do. ซึ่งเป็นสาขาโอซาก้าของเกียวอนิแยกตัวไปตั้งสตูดิโอ Ordet ของตัวเอง หากใครที่ติดตามงานของเกียวอนิด้วยสายตาเป็นกลาง จะเห็นได้ว่าใน Clannad After Story คุณภาพอนิเมชั่นซึ่งเป็นจุดเด่นกลับด้อยลง จนกระทั่งสามารถรู้สึกถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนได้ใน K-ON! เป็นต้นมา สิ่งเหล่านี้เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงภายในของเกียวอนิครับ เกร็ด - มีข่าวเล่าข่าวลือในวงการเพลงญี่ปุ่นอยู่บ้างเหมือนกันสำหรับ K-ON! ว่าในวงการเพลงเงียบมาก จึงเห็นได้ชัดว่ายอดขายระดับท๊อปโอริคอนนั้นมาจากกลุ่มนอกวงการเพลงปกติอย่างแน่นอน รวมทั้งข่าวของเจ้าของบริษัทเกม Overdrive ที่ทำ Kira Kira วิชวลโนเวลเกี่ยวกับวงดนตรีหญิงล้วนในโรงเรียนมัทยมปลายซึ่งเป็นคนในวงการดนตรีออกมาบอกว่าไม่ชอบ K-ON! เพราะทำให้เกมของตนถูกเหมารวมว่าลอกเลียนเคอง (ทั้งที่ออกมาก่อนนานแล้ว) จนมีดราม่าเล็กๆ เมื่อ K-ON! ตอนพิเศษได้ใช้ไลฟ์เฮาส์ Bamboo เป็นต้นแบบฉาก เกียวอนิได้ถูกโจมตีโดยเจ้าของบริษัท Overdrive ที่เป็นเพื่อนกับเจ้าของไลฟ์เฮาส์ว่าเกียวอนินำสถานที่ไปใช้โดยไม่ได้ขออนุญาต แต่เรื่องก็จบลงด้วยดีเมื่อเกียวอนิแจ้งว่าได้มีการขอกับต้นสังกัดของไลฟ์เฮาส์แล้ว และทางเจ้าของ ทว่าคะแนนสะสมและความดีด้านอื่นๆ ของเกียวอนิมีมากจนดราม่าภายในเป็นเรื่องสิวๆ เพราะ K-ON! ที่เส้นเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดกลับทำยอดขายสูงที่สุดแห่งปี 2009 ก่อนจะโดน Bakemonogatari ของสตูโอพี่น้องร่วมพ่อฉกตำแหน่งไปในซีซั่นต่อมาอย่างน่าเสียดาย (เรื่องนี้ต้องทำใจ เพราะบาเกะเขาขึ้นแท่นอนิเมทีวีฉายดึกที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ไปแล้ว) ด้านยอดขายส่วนหนึ่งเป็นเพราะการตลาดและแฟนๆ ที่เหนียวแน่นช่วยหนุนเอาไว้ครับ เพราะกระแสตกเร็วมากจริงๆ แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 03:31:12 จากคุณ : SNE เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 03:30:14

ความคิดเห็นที่ 5   แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความสำเร็จของ K-ON! จึงทำให้มีการตัดสินใจทำฮารุฮิตอน Endless 8 ซ้ำถึงแปดรอบเพื่อให้คนดูอย่างพวกเราซาบซึ้งถึงความเบื่อหน่ายของนากาโตะ ยูกิหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ซึ่งนี่น่าจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายระหว่างผมกับเกียวอนิจริงๆ เพราะในช่วงนั้นผมได้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับฮารุฮิอย่างเป็นทางการคนหนึ่ง และโจมตีเหตุการณ์ E8 อย่างรุนแรงมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน ถึงตอนนี้ก็ยังยืนยันว่า E8 ไม่ใช่การสร้างความแปลกใหม่เพื่อความสนุกของผู้ชม แต่เป็นการทำเพื่อการตลาด ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการยืนยันแล้วโดยภาพยนต์อนิเม Suzumiya Haruhi no Shōshitsu ที่เพิ่งเข้าโรงไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วซึ่งคาโดกาว่าประกาศว่ากวาดรายได้จากแฟนๆ ไปประมาณสองร้อยล้านเยนเป็นที่เรียบร้อย ถ้าเป็นแฟนบอยแล้วจะต้องมาทำความเข้าใจกับความรู้สึกของยูกิ ผมขอเลิกดีกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 03:34:16 จากคุณ : SNE เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 03:33:32

ความคิดเห็นที่ 6   ขออภัยครับ นึกว่าเสร็จแล้ว แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 04:53:28 แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 03:42:01 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 03:37:33

ความคิดเห็นที่ 7   เนื่องจากเกียวอนิทำอนิเมไม่มาก จึงสามารถนำมาไล่เรียงแนะนำได้ทุกเรื่อง แบ่งตามเจ้าของงานต้นฉบับเพื่อความเข้าใจง่าย Kadokawa: FMP? Fumoffu - ฮาแตกแบบได้ใจมาก ดูซ้ำได้ไม่เบื่อหน่าย FMP!:TSR - ภาคต่อเรท R-16 เรื่องเข้าโหมดซีเรียส แต่รู้สึกว่าสนุกสู้ตอนซีเรียสของภาคแรก(GONZO) ไม่ได้ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะโซสุเกะมันอีโมเอง Suzumiya Haruhi - เป็นอนิเมที่ชอบมากครับ ในแง่เรื่องต้นฉบับและงานภาพอนิเม (ในส่วนตัวละครผมชอบแต่เคียน) ถ้าไม่มี E8 จะดีมาก Lucky Star - ขำๆ เรื่อยๆ แป๊กบ้าง จืดบ้าง ทำเอาเอียนมุกโอตาคุไปเลย ถึงจะไม่ค่อยชอบแต่ก็ดูจนจบซะงั้น พลังแฟนบอยดูเหมือนจะยังแรงกล้าอยู่ KEY Air - อิ่มเอมและซาบซึ้งกับความรักอันยาวนาน และเปโกะ Kanon - ฉากฮาก็ฮา ช่วงท้ายซึ้งได้น้ำตาซึมหลายรอบ ชอบตอนจบมาก Clannad - ยังจำตอน 14 ได้ติดตา ส่วนภาค After ทนดูไม่จบด้วยสาเหตุหลายอย่าง ส่วนหนึ่งเพราะรู้สึกว่ามันยาวไปแล้ว Kirara(Houbunsha) K-ON! - อนิเมชมรมดนตรีแต่ไม่ได้เน้นดนตรี ย้ำ ไม่ได้เน้นดนตรี แต่เป็นชีวิตของสาวๆ ในชมรมดนตรีนะครับ อย่าเข้าใจผิดเชียว เดี๋ยวจะตั้งความหวัง Original Munto - ใครเคยดูช่วยบรรยายที ผมบรรยายไม่ถูก แม้ปัจจุบันความสำพันธ์ของเกียวอนิกับ Key จะยังไม่แน่ชัดเพราะงานใหม่อย่าง Angel Beats! ค่าย P.A. Works และได้โปรดัคชั่นโดย Aniplex เลยไม่รู้ว่าจะได้ดูอนิเม Key จากเกียวอนิอีกไหม ฮารุฮิที่ช้ำเพราะพิษ E8 ไปก็ฟื้นกลับมาด้วยยอดจากหนังแต่จะคุ้มระยะยาวไหมเมื่อเหลือแต่กลุ่มแฟนพันธุ์แท้ FMP ที่เงียบกริบเพราะเจ้าของนิยายไปอยู่กับ Gonzo ที่เพิ่งเจ๊งไป เมื่อซีรีส์เก่าๆ ประสพปัญหาแบบนี้ ตอนนี้จึงเป็นไปได้สูงว่า Kyoani จะปั้นซีรีส์ใหม่นอกเหนือจาก K-ON! ขึ้นมาอีก มากกว่าจะหากินกับความสำเร็จเดิมๆ ต่อไป เห็นได้จากที่ปีที่แล้วทางเกียวอนิจัดประกวดผู้เขียนบทอนิเมขึ้น น่าจะเพื่อหาคนมาเสริมในส่วนออริจินัลซึ่งเป็นจุดอ่อนของเกียวอนิ ทำให้พวกเราทั้งหลายคงคิดจะตั้งความหวังกันอีกครั้งสำหรับงานในอนาคตของเกียวอนิ ว่าไปก็อยากให้เกียวอนิลองกลับมาทำแนวแอคชั่นอีกบ้างนะ หวังว่าเกียวอนิจะก้าวไปถูกทางซะที ซีซั่นหน้าเจอกันสำหรับ K-ON! 2 แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 03:58:25 แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 03:54:10 จากคุณ : SNE เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 03:37:44

ความคิดเห็นที่ 8   อยากอ่านแบบ Director's cut ครับ   เนื้อหากัดจิก ด่า ที่ตัดไป อยากอ่านมาก ๆ เขียนได้เจ็บดี แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 03:40:33 จากคุณ : Shoompon เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 03:40:11

ความคิดเห็นที่ 9   สำหรับตอนนี้ค่อนข้างยาวและไม่ฮา ยากมากสำหรับการเขียนเรื่องเกี่ยวกับสตูดิโอที่เป็นที่รู้จักดีอยู่แล้ว เพราะไม่รู้จะเล่าอย่างไรให้ดูแตกต่างและต้องคอยระวังอะไรหลายอย่าง สำหรับการเขียนเรื่องสตูดิโอดังๆ ใครมีไอเดียอะไรขอไว้ก็ดีนะครับ ตอนหน้าจะกลับมาเป็นแบบปกติ และจะเขียนถึง Tsunoko Production แน่นอน แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 03:43:20 จากคุณ : SNE เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 03:40:16

ความคิดเห็นที่ 10   ผมไม่เข้าใจ คห. 6 ใครก็ได้ช่วยแปลอังกฤษเป็นอังกฤษหน่อย จากคุณ : wachira2k เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 03:57:31

ความคิดเห็นที่ 11   #10 จากคุณ : Reina Uguu~ เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 04:06:16

ความคิดเห็นที่ 12   ... เข้ามาดู จากคุณ : Caramelman#21 เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 04:12:01

ความคิดเห็นที่ 13   ช่วยแปล คห 6 ครับ Sorry, I think it has finished. V V sorry, think it's finished. V V sorry, think its finished ป.ล. ผมเดา ป.ล. 2 แต่ผมก็เข้าใจที่จะสื่อแหละครับ ป.ล. 3 ผมเดาจริงๆน่อ /me กลิ้งออกจากกระทู้ จากคุณ : วัวน้อยในไร่หญ้า เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 04:27:43

ความคิดเห็นที่ 14   ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : Ryu_jin_maru เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 04:48:16

ความคิดเห็นที่ 15   ถ้าเห็นก่อน #6 edit จะเข้าใจไม่ยากเลย จากคุณ : Shoompon เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 04:55:19

ความคิดเห็นที่ 16   ^ ^ ตาม 13 เลยครับ  ตอนแรกที่ทำงานไม่มี keyboard thai  เลยรีบๆพิมพ์ ไม่มีมาม่าก็ดีแล้วนิครับผม    (ขออภัยที่คห ตัวเองพาไปทะเลสะงั้น ^^) V V V แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 06:37:12 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 04:55:28

ความคิดเห็นที่ 17   ^ ^ ^ ^ พอดีเขียนเสร็จลงแล้วก็ไปเห็นว่ามีดราม่าในบะตันครับ เลยหวั่นๆ ว่าจะลามมานี่ด้วย + ไม่มีคนอ่านปรู๊ฟ เลยกลัวว่าจะพลาดเรื่องข้อมูลบ้าง ตื่นเช้ามาก็ออกทะเลไปแล้ว อุตส่าห์เตรียมใจดราม่าแท้ๆ :-( แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 07:07:55 จากคุณ : SNE เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 06:06:13

ความคิดเห็นที่ 18   เขียน ๆ มาผมเห็นด้วยหมดเลยน่ะ  แต่ก่อนดูฮารุฮิแล้วอวยมาก ๆ เลยค่ายนี้ พอมาเจอ E8 หมดศรัทธาทันที  พาลเอาไม่ค่อยอยากดูงานของเกี๊ยวอนิเลยช่วงหลัง ๆ (แต่ก็แอบดูอยู่ดี) จากคุณ : Shoompon เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 06:36:26

ความคิดเห็นที่ 19   มาติดตามต่อครับ :D สำหรับผม ก่อนหน้านี้สตูไหนทำอะไรไม่เคยสนใจเป็นพิเศษ ชื่อเกียวอนินี่แหละที่ได้ยินคนพูดถึงบ่อยๆ ขึ้นมาเป็นชื่อแรก (น่าจะช่วงฉายฮารุฮิ-ลัคกี้มั้ง) ดูงานเกียวอนิมาก็หลายเรื่องแต่ส่วนตัวที่ชอบที่สุดคงจะเป็น K-On! รอของ Shaft อยู่ครับ เพราะคงเป็นสตูแรกและสตูเดียวที่ผมดูปุ๊บแล้วเดาได้เลยว่าเป็นสตูไหนทำ :P จากคุณ : Mukiki เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 07:15:24

ความคิดเห็นที่ 20   แปะๆ จากคุณ : Kul-ChaN เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 07:25:16

ความคิดเห็นที่ 21   มาอวยในฐานะแฟนบอยนิด ๆ เพราะ Haruhi นั่นแหละครับ ทำให้ผมกลับมาดูอนิเมะอีกครั้งหลังจากอายุเกิน 15 ชาบู ชาบู ^^" จากคุณ : WarHammer เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 07:50:39

ความคิดเห็นที่ 22   -quote นะจ๊ะ- ที่แน่ๆ คือ กลุ่มลูกค้าและแฟนๆ ของเกียวอนิัมั่นคงกว่าสตูดิโออื่นๆ มาก จนแทบจะเป็นลัทธิทีเดียว จนถึงทุกวันนี้ผมเองในฐานะอีดตสาวกคนหนึ่ง ก็ยังไม่ทราบว่ามันเกิดขึ้นมาด้วย สาเหตุใดบ้างกันแน่ - เรื่องความแน่นแฟ้นของแฟนในวงการอนิเม เหนือกว่าเกี่ยวอนิก็มีแต่ Type-Moon ล่ะครับ แถมแฟน Type-Moon จะไม่ค่อยมีปากมีเสียง จ่ายแต่สตางค์อย่างเดียว เคองเป็นอนิมเกี่ยวกับของว่างที่มีชมดนตรีเป็น Background ครับ จากคุณ : โทมาเระ เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 08:06:52

ความคิดเห็นที่ 23   เรื่องความแน่นแฟ้นของแฟนในวงการอนิเม เหนือกว่าเกี่ยวอนิก็มีแต่ Type-Moon ล่ะครับ แถมแฟน Type-Moon จะไม่ค่อยมีปากมีเสียง จ่ายแต่สตางค์อย่างเดียว ^ ^ ^ แฟนๆไม่กล้าเถียงครับ  เดี๋ยว tsukihime2 จะยิ่งห่างไกลออกไปอีก แต่ผมว่าเรื่องปริมาณแฟนๆของพิมพ์จันทร์มีน้อยกว่าเกี้ยวอนิ เยอะครับผม จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 08:19:13

ความคิดเห็นที่ 24   ขอเสริมข้อด้อยของเกียวอนิจากความรู้สึกของผมคือในส่วนของ BGM ที่ไม่ว่ากี่เรื่องต่อกี่เรื่องก็มักใช้เสียงสังเคราะห์เป็นหลัก ยกเว้นบางช่วงในฮารุฮิอาจได้ยินซิมโฟนี ซึ่งมาจากเพลงคลาสสิกอยู่แล้ว (ไม่ทราบว่าเกียวอนิจ้างวงซิมโฟนีมาอัดใหม่หรือใช้ของเดิมจากวงไหน) ส่วนเพลงที่แต่งขึ้นใหม่จะเป็นเสียงสังเคราะห์แทบทั้งหมด ซึ่งจะยิ่งขัดใจมากหากเป็นอนิเมแนวซาบซึ้งอย่าง Air Kanon Clannad เนื่องจาก Key แต่งดนตรีประกอบไว้ดีอยู่แล้ว ถึงแม้เพลงออริจินัลจะเป็น midi มันก็ยังพอรับได้ เพราะเป็นเพลงที่อยู่ในเกม แต่พอเอามาทำอนิเม ก็น่าจะลงทุนบันทึกเสียงใหม่ด้วยเครื่องดนตรีจริงให้เพลงมันซาบซึ้ง อลังการยิ่งขึ้น หรือไม่ก็ใช้แซมเพลอร์ (การนำตัวอย่างเสียงจากเครื่องดนตรีจริงมาใส่ทำนองให้เป็นเพลง เป็นหลักการต้นแบบของโวคัลลอยด์) ก็ไม่ทำ น่าเสียดายจริงๆ ล่ะนะ แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 08:41:41 จากคุณ : ส้มซ่าน้อยตัวใหญ่ เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 08:24:48

ความคิดเห็นที่ 25   Munto ผมออกจะชอบเพลงก็เพราะดีแถมฉากเวลาใช้เวทย์มนมันแนวไม่เหมือนใครดีด้วยอะผมว่า เศร้ายอดขายแค่นี้คงไม่มี Munto ภาคต่อสินะเพราะ ภาคTv มันจบเหมือนต้องไปหาภาคต่ออะ จากคุณ : hahihaman เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 09:07:03 A:110.164.98.197 X: TicketID:253241

ความคิดเห็นที่ 26   ถ้าดู CLANNAD After Story ไม่จบก็น่าเสียดายนะครับ เพราะตอนเด็ดของเรื่องนี้คือตอน 18 ทุ่งดอกไม้กับสองพ่อลูก >_< จากคุณ : Sakiel เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 09:16:11

ความคิดเห็นที่ 27   "Blizzard แห่งวงการอนิเม" เวอร์ไปครับ....... เพราะทุกเกมของ Blizzard เป็นเกมระดับตำนานครับ เพราะว่าได้สร้างมาตรฐานให้กับวงการณ์ แต่ kyoto ani หลังๆ ชักจะ............. ปล.ขออนุญาตแสดงความเห็นต่างครับ หากไม่พอใจ ขออภัยด้วยครับ จากคุณ : Alphanet เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 09:28:54

ความคิดเห็นที่ 28   เข้ามาไว้อาลัยเกียวอนิ  อ่านจบเหมือนรู้สึกว่า  กำลังเข้าสู่ยุคล่มสลายแล้วสินะ  น่าเป็นห่วงจริงๆ ปล. คนเกลียดเกียวอนิเยอะกว่าที่คิดไว้แฮะ จากคุณ : NineGame เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 10:02:56

ความคิดเห็นที่ 29   1. ถ้าดูจากแนวเรื่อง ผมว่า Kyoani ออกจะคล้ายๆ GTH มากกว่า Blizzard นะ 2. มายกมือด้วยคนว่า E8 นี่ทำเอาผมเสียศรัทธากับค่ายนี้ไปเป็นกองเลยทีเดียว 3. ผมว่า Clannad After ดีกว่า Clannad ภาคปกติ ควรหามาดูให้จบครับผม 4. Munto ผมว่าฉาก action ทำออกมาดีทีเดียว แต่เนื้อเรื่องและตัวละครจืดมาก ก็เลยเจ๊ง 5. อยากเห็นค่ายนี้ทำ action เหมือนกัน 6. คราวหน้าขอ Toei ด้วยครับ จากคุณ : the scholar เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 10:04:05

ความคิดเห็นที่ 30   เพิ่งรู้ว่ามีดราม่าระหว่าง OverDrive กับเคียวอนิ อ่านแล้วก็ฮา XD e8 ถึงกับทำเข้าสู่ยุคล่มสลายเลยเหรอ จะไม่ดูยอดขาย K-ON! กับฮาราฮิ ภาคหนังโรงสักหน่อยหรือไง "Blizzard แห่งวงการอนิเม" ขอเถียงเหมือนกัน มันต้อง.. "SQEN แห่งวงการอนิเม" นี่แหละถูกต้องที่สุด ทำอะไรออกมาก็มีคนพร้อมที่จะด่า ไม่ว่าจะเรื่องที่มันวอนโดนด่าอยู่แล้ว อย่างวนลูป 8 รอบ  หรือ RPG ออกมาเป็นเส้นตรงไม่มีชาวบ้านให้คุยด้วย แต่หลายๆเรื่องก็ไม่รู้ว่าจะไปด่าทำไม อย่างเช่น ชมรมที่ไม่ค่อยจะตั้งใจทำกิจกรรมชมรม ( เรื่องปกติแท้ๆ )หรือ ใช้มูวี่ CG จึงไม่สามารถเปลี่ยนชุดตัวละครในฉากคัตซีนได้ ( หา !? ) สะดุดนิดหน่อย กลับกลายเป็นกำลังจะล่มสลาย โอ้ว.. เหมือนกันไม่มีผิด XD จากคุณ : Renesis เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 10:51:53

ความคิดเห็นที่ 31   มาลงชื่อรออ่านของ ทสึโนโกะ โปรอย่างใจจดใจจ่อ ครับ ^_^ จากคุณ : mr robot เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 11:03:48 A:125.25.24.78 X: TicketID:250053

ความคิดเห็นที่ 32   +100 กับตารุยเลย SQEN ชัด ๆ ตีเต่า ๆ ๆ จากคุณ : Shoompon เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 11:14:27

ความคิดเห็นที่ 33   #27 คุณ Alphanet ธีมในตอนที่เขียนครั้งแรกคือ "Apple แห่งวงการอนิเม" ครับ แต่แรงไป และเน้นเรื่องของผู้ชมมากกว่าตัวสตูดิโออนิเม จึงแก้ไขครับ ส่วนเกียวอนิที่ผ่านมาเขาก็พิถีพิถันและสร้างปรากฎการณ์ได้เหมือน Blizzard จริงๆ รวมทั้งเรื่องการขายสินค้าชิ้นเดียวในระยะยาวเหมือนกันด้วย จึงตัดสินใจใช้ Blizzard แทน #30 คุณ Renesis ผมไม่ได้บอกเลยนะครับว่าล่มสลาย เรื่องยอดขาย K-ON! ผมก็เชียนถึงใน #4 เรื่องรายได้ภาพยนต์ก็เขียนถึงใน #5 เพียงแต่ย้ำว่าไม่ชอบ E8 เท่านั้นเอง และอาการเสียศรัทธานี้ไม่ได้เกิดกับผมคนเดียว ยังมีอีกหลายคนมาแสดงความเห็นว่าเกิดกับตัวเองเช่นกัน ส่วนท้าย #7 ถึงจะใส่ความเห็นส่วนตัวลงไปมาก ผมก็พูดถึงแนวโน้มที่ดีของเกียวอนิในอนาคตเหมือนกัน โดยปกติผมจะมีแนวทางว่าไม่ชอบต้องบ่นออกมาตรงๆ ไม่หลอกตัวเอง แต่คราวหน้าจะลดความเห็นส่วนตัวลงครับ   เรื่องฮารุฮิภาพยนต์ผมมองในแง่ลบเพราะมันเป็นการทำเพื่อตัดมาขายในโรงจริงๆ ครับ แน่นอน ถ้าไม่เสียศรัทธากับเกียวอนิก็ควรแสดงความเห็นแย้งครับ แต่ที่ตีความว่าผมสื่อถึงขนาดว่าเกียวอนิกำลังล่มสลายเนี่ย ตีความแง่ลบไปเองหรือเปล่าครับ (ที่สำคัญไอ้ที่กำลังจะวอดจริงๆ ตอนนี้คือญาติเกียวอนิอย่าง SHAFT ต่างหาก เริ่มทำงานฉายทีวีไม่ทันอีกแล้ว)   ส่วนเรื่องตีเต่าเนี่ยเข้าท่า  เอาไปเป็นแนวเขียนคงแรงน่าดู โดนทั้งแฟนบอยทั้งเฮทเตอร์ ถ้าใส่ไปจริงๆ ผมว่าดราม่าสองทางแหงๆ (ฮา) แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 12:20:45 แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 12:19:55 จากคุณ : SNE เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 12:15:34

ความคิดเห็นที่ 34   SHAFT ไม่น่าจะล่มในเร็ววันมั้งครับ เพราะยอดขายน้องงู ก็ทำเมะทิ้งๆ ขว้างๆ ได้ไปอีก 3 ชั่วโคตรเลย 555 (เวอร์ไป.....) ที่บอกว่าไม่เหมาะเปรียบให้เหมือน Blizzard เพราะผมมองในส่วนของการโฆษณาครับ kyoani นั้นชอบโหมโฆษณาสร้างกระแส บางครั้งผมคิดว่า มูลค่าของสื่อสูงกว่าคุณภาพ เพราะเค้าโฆษณาดีครับ ส่วน Blizzard ผมว่าเค้าเงียบมากเลยครับ เงียบโคตรๆ ถ้าเทียบกับเป็นเกมภาคต่อที่คนรอเล่นมา 10 กว่าปี พอมันออกมาคาดว่าน่าจะมีประเทศนึงปิดประเทศฉลองเลยทีเดียว (เวอร์อีกแล้ว....) จากคุณ : Alphanet เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 13:03:38

ความคิดเห็นที่ 35   SQEN อืมจะว่าไปมันก็เหมือนแฮะ ^_^ เคียวอนิ จริงๆก็เป็นสตูดิโอที่งานดีเสมอต้นเสมอปลายดีนะครับ ค่อนข้างจะเคารพต้นฉบับด้วย มาเสียเอาตอนเดือน 8 ไม่สิ้นสุดจริงๆ จากแฟนบอยก็กลายเป็นเฮทเตอร์ ไปเลยก็มี ข้อเสียอีกอย่างก็คือ อนิเมออริจินัล ของเคียวอนิมันไม่น่าติดตามจริงๆ แต่สำหรับผม เคียวอนิ ก็ยังโอเคอยู่นะ จากคุณ : Arata เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 13:12:08

ความคิดเห็นที่ 36   แย้งมั้ง น้ำแข็งมันก็ไม่เห็นจะเงียบเลยนี่ครับ เทลเลอร์ก็ออกมาหลายอัน ในไทยอาจจะคิดว่าเงียบเพราะเกม พีชี หลายเกมมันใช้เวลาทำนานกว่าคอนโชล จะให้โฆษณากันต่อเนื่อง4-5ปีคงหมดงบหลายสิบล้านล่ะครับ เขาจะโหมโรงโฆษณากันหนักช่วงเปิดตัวเกม กับเมื่อเกมใกล้ออก เวบบอร์ดต่างประเทศก็ยังคุยกันอยู่นะครับไม่ใช่จมหายไปเลย แต่เหมือน SQEN มากกว่านั่นแหละมีคนไม่ชอบแต่ก็มีคนซื้อเยอะอยู่ดี แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 13:21:53 จากคุณ : phichai2002 เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 13:20:54

ความคิดเห็นที่ 37   #34 ถ้าเขียนถึงเกียวอนิในแนว Apple ก็จะออกมาประมาณนั้นล่ะครับ เน้นเรื่องการโหมโฆษณามากกว่านี้ ส่วน SHAFT ถึงไม่ล่มแต่ถ้าเผาออกมาตอนนี้ก็จะเสียเครดิตกับทางสปอนเซอร์ครับ เรื่องฮิดามาริมีสัญญาใจกับ TBS อยู่ เพราะโดนไปเจ็บมากตอนกรณีฟูจิซัง (ฮิดามาริภาคแรกที่เอาสตอรี่บอร์ดมาแปะสไลด์โชว์ เป็นคำว่าฟูจิซังแทนภูเขาไฟฟูจิ) ส่วน vampire bund มีอนิเมเตอร์ออกมาบ่นในบล็อกแล้วว่าตอน 7 ยังทำไม่เสร็จเลย lol ส่วนรายได้จากบาเกะ หักส่วนของสปอนเซอร์และภาษีแล้ว น่าจะทำอนิเมออกมาเจ๊งได้ไม่ถึงสามชั่วโคตรหรอกครับ แค่ 20 เรื่อง #35 แฟนบอยที่กลายเป็นเฮตเตอร์เพราะ E8 -  -/ #36 คนที่ซื้อคือคนที่ชอบครับ ไม่ใช่คนที่ไม่ชอบก็ยังซื้อ น่าจะต่างจาก SQEN ตรงนี้ (ฮา) แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 13:25:21 จากคุณ : SNE เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 13:22:56

ความคิดเห็นที่ 38   ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับ E8 หน่อยน่ะ ผมไม่ได้ชอบ E8 หรอก แต่คงไม่เลวร้ายถึ้งขั้นที่ว่าสิ่งดี ๆ ที่เคยทำให้ ฮารุฮิ มามันหายไปหมด หรือสิ่งเคยทำให้ Air Kanon Clannad มันหายไปหมด ชอบประโยคที่ว่า "E8 ไม่ใช่การสร้างความแปลกใหม่เพื่อความสนุกของผู้ชม แต่เป็นการทำเพื่อการตลาด" มาก ๆ เลยครับคุณ SNE แต่ถึงขั้นเกลียด เคียวอนิ เพราะ E8 ไปเลยผมว่าใจแคบไปหน่อยอ่ะครับ ในความเห็นส่วนตัว ผมไม่ชอบ K-ON มากกว่า E8 ซะอีก ถึงแม้จะขายได้ก้อเหอะ จากคุณ : BANKBOOT เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 13:50:53

ความคิดเห็นที่ 39   เปล่าๆ ผมไม่ได้หมายถึงความเห็นคุณ SNE ผมหมายถึงความเห็น #28 ต่างหากครับ จากคุณ : Renesis เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 13:52:20

ความคิดเห็นที่ 40   SQEN "หนุ่มสาวเอย พวกเธอ(ว์)จงตีเต่า" Kyoani " หนุ่มสาวเอย พวกเธอ(ว์)จงวนลูป" อย่าเพิ่งล่มสลายเลย มีหลาย ๆ ค่าย อนิเมจะได้ออกมาให้เลือกได้เยอะ ๆ และหลาย ๆ แนวนะ เรื่องไหนคนอวยเยอะแต่ดูแล้วไม่ชอบก็ไม่ดู เรื่องไหนมีแต่คนสวดแต่ดูแล้วสนุกก็ดูได้นะเธอ(ว์) จากคุณ : Autumn2reason เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 13:55:39

ความคิดเห็นที่ 41   #38 ช่วง E8 ขัดหูขัดตาไปหมดเลยครับ อะไรก็ไม่ชอบไปหมด จริงๆ มันสะสมมาตั้งแต่เทศกาลขายโมเอะของเคองที่ผมเริ่มไม่เห็นด้วยกับแฟนบอยอีกกลุ่มแล้ว ตอนนี้พยายามมองเกียวอนิด้วยสายตาของคนนอกเหมือนที่มองสตูดิโออื่นๆ ครับ #39 ขอโทษครับ พอดีอ่านข้ามไป ถ้าแบบนั้นก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน สถานการณ์เกียวอนิตอนนี้เรียกได้ว่าดีกว่า I.G ซะอีก จากคุณ : SNE เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 14:12:22

ความคิดเห็นที่ 42   lucky star ผมกลับไม่ได้ชอบ ช่วง lucky channel สักเท่าไหร่ แต่ชอบบรรยากาศ คาเรคเตอร์ และเนื้อเรื่องมากกว่า ส่วนฮารุฮิ ดูแล้วก็เฉยๆ ชอบพิเศษก้ เพลง God knows จากคุณ : nemoatlantis (NemoAtlantis) เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 14:14:31

ความคิดเห็นที่ 43   มาเป็นอีกคนที่ความศัทธาในเกียวอนิและHaruhi หายไปเพราะ E8 ด้วยคน จนพาลไม่ดูHaruhiตอนต่อจากนั้นเลย ส่วนK-on นี้ผมถือว่าโอเคอยู่ ไม่ถึงกะอวย แต่ ss2 ขอให้เล่นเพลงเยอะๆหน่อยน่ะเกียวอนิ มันจะดีขึ้นจมบ่อเลย ปล. ที่จริงก็เหมือนกะ SQEN จริงๆตามที่ท่านรุยว่าไว้ ขายของเก่า ได้นานๆ เช่น ตระกูล FF7 ยาวนานจริงๆ จากคุณ : st.ZERO (MooMoTo) เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 14:33:48

ความคิดเห็นที่ 44   ผมล่ะสงสัยจริง ๆ ทำไม FFXIII ต้องตีเต่าด้วย - - นั่งดูแต่ CG 127 ตอนจบ เนื้อเรื่องมันก็เหมือนจะใช้ได้ แต่ gameplay มันห่วยแตกขนาดนั้นเลยเหรอ จากคุณ : WarHammer เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 15:19:18

ความคิดเห็นที่ 45   ขอนอกเรื่องหน่อย :P #44 คนที่ตีเต่า ก็เพื่อใช้ในการเก็บถ้วยน่ะครับ ( ถ้วย = AP หรือของรางวัลที่บ่งบอกว่าปลดความลับ หรือเคลียร์เงื่อนไขของเกมได้  ไม่เกี่ยวกับในส่วนเนื้อเรื่อง / เกมเพลใดๆทั้งสิ้น ) เพราะฉะนั้น คนที่บอกเกลียดๆ FFXIII แทบเป็นแทบตาย แต่กลับมานั่งตีเต่า ซึ่งไในความคิดของผมน่ะนะ มันหาความสมเหตุสมผลไม่ได้จริงๆ ในเมื่อไม่ชอบถึงขนาดนั้น แล้วจะมานั่งทนเล่นหลังจากจบเกม เพื่อเก็บถ้วยแพล็ตตินั่มไปเพื่ออะไร.. ???? แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ตีเต่าไม่น่าเบื่อหรอกนะ แต่เพราะมันน่าเบื่อนี่แหละ ถึงได้งงๆว่าคนที่ไม่ชอบมากๆ สามารถทนเล่นได้ยังไง รวมทั้งเนื้อเรื่องแถสดท้ายเกม อันนี้ผมก็ไม่คิดจะปกป้องเลยแม้แต่นิดเดียว เนื้อเรื่องหลัง CH11 ไปแล้ว มันไม่ค่อยที่จะได้เรื่องได้ราวจริงๆนั่นแหละ แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 15:49:26 แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 15:48:18 จากคุณ : Renesis เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 15:31:38

ความคิดเห็นที่ 46   ส่วนตัว E8 เป็นอะไรที่เคืองเหมือนกัน เพราะปกติผมเองก็ไม่ได้เป็นสาวกเกียอนิอยู่แล้ว ถึงดูบ้างก็เหอะ ยิ่งพอคนบอกฮารุฮิแนวๆๆๆๆ แล้วดันกลายเป็นธรรมด๊า ธรรมดาก็เซ็งหน่อยๆ(แต่ยอมรับว่าสนุก...แต่ก็ผิดหวังไม่เห็นจะแนวตรงไหนเลย โมเอะแอนนิเมะชัดๆ เค-ออนยังแนวกว่าอีก) และพอมีแฟนๆ ฮารุฮิมาบอกว่า "ความสนุกที่แท้จริง จะเริ้มในภาคสอง ทั้งการหายไปของฮารุฮิ และเรื่องพระเจ้าคู่แข่ง" ซึ่งผมก็ตั้งตารอมาตลอด แต่กลายเป็นว่าได่ดูแอนนิเมะสนุกๆ แค่ตอนเดียว แล้วก็เจอลูปนรกยาวเลย กว่าจะกลับมาเข้าเรื่องก็ปาไปตอนสุดท้ายแล้ว และส่วนตัวเห็นการวนลูปให้ผู้ชมเข้าใจความรู้สึกยูกิเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะการ์ตูนเรื่องนี้ชื่อเรื่อง "ความเบื่อหน่ายของซุสุมิยะ ฮารุฮิ" ไม่ใช่"ความเบื่อหน่ายของนางาโตะ ยูกิ"นะ แต่8ลูปเล่นเอาฮารุฮิเป็นนางร้ายไปเลย กว่าจะกลับมาเป็นนางเอกก็เอาตอนสุดท้ายน่ะแหละ ปล.เที่ยวนี้ไม่ฮาเลยอ่ะ แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 18:31:41 จากคุณ : bloodsoap_cdaz เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 18:18:35

ความคิดเห็นที่ 47   E8 ทำผมเลิกดูไปนานโข หวังว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกนะ จากคุณ : Minamin เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 19:40:28

ความคิดเห็นที่ 48   #45 นี่สินะความหมายของคำว่า "ศรัทธา" ที่ได้ยินอยู่บ่อย ๆ ^^" เรื่องแถนี่ ผมว่ามันเริ่มแถตั้งแต่สโนว์โผล่หน้ามาแล้วล่ะ มันเกรียนเทพได้ถ้วยจริง ๆ แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 20:10:11 จากคุณ : WarHammer เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 20:08:56

ความคิดเห็นที่ 49   สรุปแล้วเค้าวนลูป 8 รอบให้คนดูเข้าใจความรู้สึกของ Nagato จริงๆ เหรอเนี่ย ผมนึกว่าพูดเล่นกันซะอีก จากคุณ : wachira2k เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 20:11:25

ความคิดเห็นที่ 50   #46 จริงๆแล้วเป็น "ความเบื่อหน่ายของ คนดู ค่ะ" แหะๆ อยากอ่านแบบ Un-Cut อ่ะค่ะ อยากได้เบื้องลึก มุมจิกๆ กัด ^^ จากคุณ : -:ราชินีแห่งรัตติกาล:- เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 21:25:21

ความคิดเห็นที่ 51   ซับไทยเรื่องแรกที่ดู air เหมือนกันเลยค่าย et'cetera ละมั้งยังจำติดตา ส่วน Munto ผมว่าก็โอเคดีโดยเฉพาะฉากบู้แต่เนื้อเรื่องบางช่วงก็ช้าไปบางช่วงก็เร็วไปแต่ทำไมขายได้แค่ 96 แผ่นกันหนอ - -" จากคุณ : o08neo เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 21:53:15

ความคิดเห็นที่ 52   ถือว่าเป็น Anime Studio ค่ายหนึ่ง ที่มีเรื่องให้คนพูดได้ตลอด ทำให้เกิดปรากฏการณ์หลายๆเรื่องที่ไม่เคยเกิด ทั้งในแง่ดี และแง่ร้าย เป็นค่ายที่มีความแนวเฉพาะตัวมิใช่น้อยๆ สำหรับค่ายนี้ เรื่องที่ชอบก็ เพลงรักสามฤดู (ชื่อยังกับหนังเกาหลี ก็เพลงเพราะไปซะทุกเพลง)  Haruhi chan แล้วก็ Nyorōn Churuya-san (2อันหลัง ฮา บวกน่ารัก แบบไม่โมเอะ แต่มันน่ารักเพราะน่ารัก ) ส่วนที่เหลือไม่เคยดู กับดูแล้วเฉยๆ แต่ก็ดูจนจบ ข้าพเจ้ายังไม่ดู Haruhi Season 2 เลย โหลดมาไว้ดอง แต่ฮาที่ E8 มาฉายเวลาใกล้ๆกับตอน 10 Bake เลยมีคนเอาไปเทียบกัน ระหว่างลูป 8 ตอนไม่เคยเผา กับ สไลด์โชว์ชุดว่ายน้ำโรงเรียน รอติดตามตอนต่อไป จากคุณ : Habiscus เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 23:42:42

ความคิดเห็นที่ 53   #45 ต่อให้ชอบก็ต้องไปตีเต่าบ้างนะผมว่า นี่นอนดูเพื่อนเล่นอยู่สองสามวัน ไม่ได้เก็บถ้วยแต่ก็ต้องตีเต่าเพราะไปต่อแล้วสู้ไม่ได้ เลยมาหาตัง #52 อีกส่วน ที่โดนเปรียบเทียบมากเพราะฉายวันเดียวกัน แต่บาเกะตอน 10 ไม่ได้ฉายชนฮารุฮิบท E8 นะครับ 3 กรกฎาคม 2009 - Bakemonogatari ตอน 1 ฉายชน Endless Eight ตอน 3 ซึ่งเริ่มมีประเด็นพอดี 31 สิงหาคม 2009 - Bakemonogatari ตอน 5 บทมาโยยที่มีฉากสารภาพรักฉายชน Endless Eight ตอน 7 ซึ่งยังไม่หลุดลูป 11 กันยายน 2009 - Bakemonogatari ตอน 10 ที่มีสไลด์โชว์กับ OP นาเดโกะ ฉายชน The Sigh ตอน 5 25 กันยายน 2009 - Bakemonogatari ตอน 12 ฉากดูดาว ฉายชน Live Alive re-air เนื่องฉายชนกันอย่างที่เห็น จึงโดนเปรียบเทียบมาก จนช่วงนั้นมีสงครามกันใน 2ch เลย ทั้ง fanboy ทั้ง hater ผสมโรงกันมากกว่าไทยหลายเท่านัก จากคุณ : SNE เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 00:29:59

ความคิดเห็นที่ 54   เป็นค่ายแรกทีี่ทำให้ผมอึ้งในการนำเสนอและงานภาพขั้นเทพในฮารุฮิ และก็สิ้นศรัทธาเหมือนกับหลายๆคนในE8 โดยส่วนตัวเองก็ไม่ชอบที่ว่าวนแปดรอบคนจะได้เข้าใจความรู้สึกของยูกิแบบที่หลายๆคนพูดเพราะอนิเมทที่ดีมันควร"จะให้ผู้ชมรู้สึกได้เอง"มากกว่า"ยัดเยียดให้รู้สึก"แบบนี้ ผมรู้สึกว่าเกียวอานินี้มีความสามารถในการดึงเรื่องที่สูงนะครับ เข้าใจหาจุดขายใหม่ๆให้เรื่องอย่างฮารุฮิเองถ้าทำตามหนังสือแป๊ะๆไม่มีEDแบบนั่นไม่สลับตอนคงไม่เปรี้ยงปร้างเท่านี้หรอก จากที่อ่านนิยายทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่าฮารุฮินี้ถ้าเอามาทำเป็นอนิเมททำให้ดังยากจริงๆนะ เพราะรู้กันอยู่ว่าเรื่องนั่นใช้การบรรยายแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง และเน้นให้คนอ่านมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวเอกซึ่งพอมาทำเป็นอนิเมทแปลงเป็นบุคคลที่สามแล้วความรู้สึกอารมณ์ร่วมที่ว่าจะหายไปเยอะเกียวอานิเลยต้องหาจุดเด่นอื่นๆให้เรื่องก็เลยทำให้ดังประการฉะนี้ตรงนี้ผมขอนับถือเลยล่ะ(แต่ก็อย่างว่า แนวไปหน่อยทำE8มาทีสิ้นศรัทธา่) ป.ล คิดว่าลักกี้สตาร์กับเคออนก็คล้ายๆกันนะ ลักกี้เองต้นฉบับเน้นมุมขำๆแบบอมยิ้มประมาณเราก็เคยเจอมาแล้วนิหว่า แต่แบบอนิเมทดันใช้มุขโอตาคุล้อไปทั่วจนทำให้ต้องมานั่งดูว่ามันล้ออะไรบ้างหรือเคออนฉบับหนังสือ(ผมก็ยังไม่เคยอ่านผิดผลาดอะไรขออภัยด้วย)ก็น่าจะเน้นมุขแบบเดียวกับลักกี้สตาร์เกียวอานิก็เอามาขายโมเอะเพิ่มไปด้วยเลย ประการฉะนี้ จากคุณ : SrwKung เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 01:20:10

ความคิดเห็นที่ 55   ก่อนที่จะดราม่า (เพราะคุยเรื่องเกียวอนิทีไรดราม่าทุกที) ไปต่อกระทู้ถัดไปครับ Brain's Base Doume Tatsunoko Production ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ A8886430 จากคุณ : SNE เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 03:25:25

ความคิดเห็นที่ 56   โดยส่วนตัวผมว่างานเกียวอนิเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเข้ามาแล้ว ก็เลยต้องเกาะกระแสที่หากินได้อยู่อย่าง เค-อง(คงคิดจะทำแบบมินามิเกะ) (ส่วนตัวไม่ได้เกลียด เอ-อง เพราะการตบมุก สลับโมเอะ+คนสร้างแบรนด์ เขาทำการบ้านมาดีกว่า ตอนลักกี้ สตาร์จริงๆ) ส่วนเรื่องอื่นๆ ฮารุฮิก็ยังไม่พร้อมจะทำ (รู้สึกหลังๆจะกั๊กไปทำภาคหนังโรงแทนซะแล้วมั้ง) ลักกี้ สตาร์ ผลตอบรับยอดถล่มทลาย +โดนวิจารญ์แหลกลาญ+เบื่อขี้หน้านังมิโนรุรุน กันขนาดนั้น เป็นผมก็ไม่เลือกเสี่ยงภาคต่อ สู้ทำ ova หากินแทนดีกว่า (เรื่องนี้เกียวอนิ ทำให้คนจำตัวละครได้ 4 คนหลักในเรื่องแค่นั้นจริงๆ ท่าเต้นตอนนี้ ไปถามใครสงสัยต้องย้อนกลับไปดูอีกรอบ คนไม่จำแล้ว) งานจากเกมส์ ค่าย key ยิ่งไปใหญ่ แถม key ปันใจไปให้คู่แข่งคนอื่นในวงการด้วย งานต่างๆ ที่คนคิดว่าเกียวอนิ จะฉกไปทำ หลังๆรู้สึก จะโดน A-1 ตัดหน้าหมด (หรือมันจะเป็นนอมินีกันหว่า) รู้สึกเหมือนกันว่าตอนนี้ เงียบโคด กะเข้าวงการหนังโรงอย่างเดียวแล้ว? edit:พิมพ์ตกเยอะจริงๆ งงกะชีวิต กลัวครูภาษาไทยจับผิดเลยอิเิตหลายรอบหน่อย แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 53 12:42:11 แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 53 12:40:03 แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 53 12:22:07 แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 53 12:20:16 แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 53 12:18:52 จากคุณ : PJ_MAS เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 12:16:03

ความคิดเห็นที่ 57   #56 A-1 เป็นสตูดิโอของ Aniplex แห่งเครือโซนี่ครับ คนละค่ายเลย ผมว่า KEY เคืองที่โดนดองงานใหม่ๆ ไว้เพราะเกียวอนิติดคิวยาว + Clannad ช่วงหลังได้รับคำวิจารณ์ไม่ค่อยดี Little Busters! ก็ติดที่คาโดกาว่าร่วมโปรโมตไปแล้ว จะให้คนอื่นทำก็ไม่ได้ งานมันเลยคาอยู่ ไม่มีอนิเมมาหนุนเกมตามแผน ยอดเลยตกจนต้องกลับไปออกภาคเสริม KEY เลยงอน ไปทำออริ Angel Beats! ร่วมกับ Aniplex ซะเลย ต่อไปนี้เป็นวิเคราะห์นอกรอบบทความ จากที่เกียวอนิจัดประกวดหาคนเขียนบทออริ ผมคิดว่าเกียวอนิจะพยายามปั้นออริตัวเองขึ้นมาอีกครั้งครับ (ชงเองกินเองไม่แบ่งใคร) และจากที่มาจับ K-ON! ที่เป็นสื่อนอกเครือคาโดกาว่า ก็เป็นไปได้ว่าเกียวอนิจะหากินกับการ์ตูนสี่ชองเรื่องอื่นๆ ในคิราระต่อไปอีกก็เป็นได้ ซึ่งนิตยสารเล่มนี้ มีการ์ตูนสี่ช่องเป็นสิบเรื่องตีพิมพ์ทั้งเล่มนะครับ......(ที่ทำอนิเมแล้วก็มีโดจินเวิร์ค ฮิดามาริ เคอง!) แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 53 13:09:07 จากคุณ : SNE เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 13:04:42