 |
ความคิดเห็นที่ 32 |
|
ก้อบมาจากความเห็นตัวเองใน http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8910323/A8910323.html#139
อยากจะก๊อบไว้ทุก ๆ คนได้อ่านครับ กระทู้ก่อน ๆ หน้า ก็เริ่มด๋อยไปเรียบร้อย !
--------------------------------------------------------------------------------- แหะ ๆ ม.6 เหมือนกันครับ
ผมมีความเห็นทั้งในแง่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยครับ คือ
- ในแง่เห็นด้วย
ในบางวิชาที่ได้ทำการออกข้อสอบในรูปแบบใหม่ ผมมองว่า ดีขึ้นนะครับ ทำให้เด็กมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นในวิชา ภาษาอังกฤษ ใน part error ถ้าเป็นรูปแบบก่อน ๆ ก็คือหาว่าจุดผิดอยู่ตรงไหน แต่ในปีนี้ เพิ่มมาว่า ผิดที่ไหน แล้วควรแก้เป็นอะไร
ผมว่า เค้าก็วัดความรู้ของเด็กจริง ๆ เพราะคนที่ควรได้คะแนนก็คือคนที่รู้จริง ๆ ว่าตรงไหนผิดและผิดเพราะอะไร แต่ที่บ่นกันมากมาย ก็เพราะว่า จากที่มั่วได้ 4 ช้อย กลายเป็น มี 16 ช้อย ก็เลยมั่วยาก ถ้าเพราะสาเหตุนี้ผมว่าไม่ถูกต้องนะครับ
หรือแม้แต่ใน part บทสนทนา ก็แค่ ตั้งตอบถูก สองคำตอบในหนึ่งข้อ ถึงจะได้คะแนน ผมว่าก็เป็นการวัดความรู้ของเราจริง ๆ แหละครับ
หรือแม้แต่ในวิชา คณิตศาสตร์ ผมสังเกตว่า มีการเปลี่ยนแปลงข้อสอบเป็นแบบเติมตัวเลข มา 4 ข้อ แต่ไม่ค่อยมีคนบ่นมากนักเพราะส่วนมากมักจะทำกันได้ หมายความว่า ถ้าพอทำได้ ก็จะไม่ว่าอะไรงั้นหรือครับ ?
- ในส่วนไม่เห็นด้วย
ในการสอบวิชา สุขศึกษา ศิลปะครับ คือยอมรับว่า เรื่องเหล่านี้อาจจะอยู่ในหลักสูตรครับ แต่ผมพูดตรง ๆ นะ ผมไม่เคยเรียนเรื่องเหล่านี้ในโรงเรียน ข้อสอบวิชาศิลปะออกมาในรูปแบบที่ เป็นเชิงความจำมากกว่า เชิงคิดวิเคราะห์และความสร้างสรรค์ ข้อ สอบบางข้อออกมาถามว่า ถ้าจะประพันธ์บทเพลงพระพุทธศาสนา ต้องใช้ภาษาอะไร (ไทย บาลี สันสฤต และอีกประมาณ 6-7 ภาษา แต่ผมจำได้แค่นี้) นักร้องชายควรร้องแบบใด (Duet,trio,chorus,orchesta และรูปแบบอื่นอีก 5-6 แบบ ที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน) โดย ผมต้องตอบคำถามข้อย่อย ๆ ให้ถูกหมดถึงจะได้คะแนนในข้อนั้น ๆ โรงเรียนไม่เคยสอนแน่ ๆ ครับ ในเรื่องเหล่านี้ เด็กทั้งประเทศ จะมีใครตอบได้ครับ ถ้าไม่ได้เรียนด้านนี้โดยตรง
หรือแม้แต่วิชาการงาน ที่ให้เรียงลำดับวิธีการซักผ้าด้วยมือ โดยมีตัวเลือกจากสามหมวด เช่น i) แช่ผ้าทั้งคืน , แช้ผ้า 15-20 นาที , แช่ผ้า 1 ชั่วโมง ii) ซักเฉพาะจุดสกปรกแล้วจึงซักจุดอื่นให้สะอาด , ซักทุกจุดให้สะอาดเท่า ๆ กัน iii) ตากผ้า โดยบิดให้แห้งแล้วตาก , ตากโดยกลับตะเข็บออกด้านนอก , ตากโดยสะบัดผ้าหมาด แล้วตาก
ลองอ่านนะครับ แล้วคิดว่าเป็นตัวคุณจะตอบแบบไหน โดยโจทย์ไม่ได้ให้รายละเอียดมาเลย นอกจากให้เรียงลำดับการซักผ้าด้วยมือ ผมมองว่าทุก ๆ ตัวเลือกที่ให้มา สามารถเป็นคำตอบได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับผ้า หรือ จุดประสงค์ของเรา ถ้าผ้าโสโครก ก็ต้องแช่นานหน่อย หรือ สะอาด อยู่ ผมก็แช่ 15 นาที ก็พอ ใครจะบอกได้ละ ว่าการซักผ้าด้วยมือ มันมีหลักการยังไง เรื่องเหล่านี้ มันอยู่ในหลักสูตรมั้ยครับ
ผม เคยมีความคิดว่า วิชา การงาน ก็คือ การงานพื้นฐานอาชีพ เรียนไปเพื่อนำไปเป็นพื้นฐานในชีวิตประจำวัน เรียนเพื่อรู้เป็นพื้นฐาน ข้อสอบก็ควรออกมาในรูปแบบที่เช็คพื้นฐานนักเรียนมากกว่านี้สิครับ
ยังไม่หมดครับ มีข้อสอบอีกชุดหนึ่ง ที่ออกมา โดยมีตัวเลือกจาก หลาย ๆ หมวดครับ และในแต่ละหมวดมีอีก 6-8 ตัวเลือก เช่น หมวด อาหารไทย จะมีตัวเลือกคือ ข้าวผัดทะเล , ผัดไทยกุ้งสด , ข้าวต้มปลากะพง , โจ๊กหมูใส่ไข่ ฯลฯ (ที่เหลือนึกไม่ออกแล้วครับ) หมวด ดอกไม้ มีตัวเลือกเช่น ดอกมะลิ ดอกคูณ ดอกรัก ฯลฯ (นึกไม่ออกอีกแล้วครับ) หมวด สีผ้าปูโต๊ะ มีตัวเลือก สีทุกสีครับ หมวด ภาชนะ มีตัวเลือกเช่น กะทงเย็บ 2 มุม กะทง เย็บ 3 มุม ฯลฯ หมวดผลไม้ ก็มีผลไม้ต่าง ๆ ครับ และ อีก 2 หรือ 3 หมวด ที่นึกไม่ออกแล้วครับ โดย ข้อสอบหนึ่งข้อ จะให้เราเลือกตัวเลือกจากสามหมวด ต้องถูกหมดจะได้คะแนน
โดยโจทย์จะเป็นในลักษณะที่ถามว่า ถ้าลูกสาว จะจัดอาหารให้แม่ในวันแม่ โดย แม่ชอบ แครอทีน(หรือเบต้าแคโรทีน) ให้เราจัดผลไม้ ผ้าปูโต๊ะ และดอกไม้ อย่าง ข้อนี้ยังไม่ค่อยยากครับ ผมก็เลือกผ้าปูโต๊ะสีฟ้า (เพราะวันแม่) เลือกดอกมะลิ (เพราะวันแม่) และเลือกผลไม้เป็นอะไรก็ไม่รู้ครับ ลืม ฮ่า ๆ แต่ในความเป็นจริง แม่ผมชอบสีชมพู ชอบดอกลีลาวดี ผมก็อาจจะจัดอีกอย่างก็ได้ ทำไมต้องเอาข้อสอบอย่างนี้ มาเป็นตัววัดเด็กด้วยครับ
โจทย์อีกข้อถามว่า ถ้ามีฝรั่งคนนึง มาฉลองวันครบรอบแต่งงานที่ไทย โดยชอบอาหารไทยมาก ให้จัดอาหารเช้าให้ฝรั่ง และ เลือก ดอกไม้ และผ้าปูโต๊ะ มา รายละเอียดมีแค่นี้ ผมจะจัดยังไง เลือกอาหารก็ไม่รู้จะเลือกอันไหน ถ้ามีต้มยำกุ้งในช้อย จะเลือกเลย แต่นี่ไม่มี แล้วอาหารไทยอะไรที่จะเอามาให้ฝรั่งที่มันฉลองครบรอบแต่งงานละ ผมเลยเลือก โจ๊กใส่ไข่ เพราะดูแล้วดหมาะเป็นอาหารเช้าที่สุด แล้วผ้าปูโต๊ะล่ะ ? จะเอ าสีชมพูดีมั้ย หรือ สีขาวดี มันเป็นสีอะไรก็ได้ในความเป็นจริง ข้อสอบกำลังวัดอะไรเราอยู่ ? หลักสูตรมันมีจริง ๆ มั้ย ที่ต้องสอบเราว่าจะจัดอาหารให้คนต่างชาติที่จะมาครบรอบแต่งงานยังไง อยากจะถาม ดร.อุทุมพร เหมือนกัน
พิมพ์ซะยาว นี่เป็นตัวอย่างข้อสอบที่ผมไม่เห็นด้วยนะครับ ไม่รู้ว่าเค้าคิดจะวัดอะไร เฮ้อ อนาคตผมเองละครับ
ส่วนที่ไม่เห็นด้วยอีกก็คือ จะมีใครกี่คนที่จะทราบ นอกจากเพื่อนร่วมรุ่น ADMISSION 53 ของผมครับ ว่า รุ่นของพวกเราคือรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงการรับเข้ามาตลอด ตั้งแต่ ป.6 ครับ อ่านไม่ผิดครับ ป.6 จริง ๆ รุ่นเรา เป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียว ที่เอาคะแนน NT [National test] (คล้ายๆ โอเน็ตสมัยนี้) ยื่นเข้า ม.1 ยื่นคะแนนไปในโรงเรียนที่อยากเข้า แล้วไม่ต้องมีการสอบเข้า ซึ่งวีธีนี้ทำในรุ่นผมครั้งเดียว แล้วไม่เคยใช้อีกเลย นั่นคือการเปลี่ยนแปลงครั้งแรก
ครั้งต่อมา ในอีก 6 ปีผ่านไป เค้าก็ให้เราสอบ GAT และ PAT เป็นรุ่นแรก เพื่อใช้ในการเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งค่าสอบมหาโหด วิชาละ 200 สมัครทีเดียว สามครั้ง ผมจำได้นะครั้งนะผมเสียไป 3200 แล้วมีเด็กเป็นแสนนะครับ สมัครไป เงินที่ได้แปรผลมาเป็นข้อสอบ เลว ๆ อย่างงี้เหรอครับ ซึ่งข้อสอบสอบมา 3 ครั้ง ไม่มีมาตรฐานความยากง่ายเหมือนกันสักครั้ง บางครั้งมีเติมคำ บางครั้งไม่มีเติมคำ ข้อสอบความถนัดวิศวะ วันดีคืนดี ก็ไปเอาข้อสอบเก่า มาออกเกินครึ่ง แถมข้อสอบเก่าในปีเดียวกันทั้งหมด !!!! แต่ ดร.อุทุมพร ก็ยังยืนยันครับว่า ค่าสถิติออกมา ความยากง่ายยังเหมือนเดิม (ครับ เค้าเป็นถึงดอกเตอร์ เราก็คงเถียงอะไรไม่ได้ครับ) นี่ยังไม่รวมการเฉลยที่ผิด อีกมากมายนะครับ (เฉลยผิดจริง ๆ ครับ)
ทำให้ มหาลัยต่าง ๆ เล็งเห็นว่ามาตรฐานไม่มี เลยเปิดรับตรงเป็นจำนวนมากกว่าทุก ๆ ปี เป็นเท่าตัว ความซวยคือนักเรียน ที่ต้องตามสอบ ในทุก ๆ มหาลัย เพราะทุกคนก็อยากมีที่เรียนทั้งนั้น และการสอบทุกที่ ก็ต้องจ่ายตังค์ค่าสอบ มีตั้งแต่ 200-1200 เด็กมีฐานะ ปานกลาง ถึง ดี ยังไม่เป็นไร แล้วเด็กต่างจังหวัด หรือ คนในครอบครัวระดับล่างล่ะครับ เค้าต้องเสียโอกาสไปเท่าไหร่
และสุดท้ายเค้าก็ยังมาเปลี่ยนรูปแบบข้อสอบ O-NET อีก คิดว่าเด็กที่เกิดในรุ่นนี้คงเป็นที่เกลียดชังของผู้ใหญ่ใจร้ายมากเลยครับ ต้องคอยเป็นหนูทดลองให้เค้าเสมอ ๆ
ผู้ใหญ่เค้าชอบพูดว่า การเปลี่ยนแปลงจะเกิดได้ ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ปี แต่ขอโทษนะครับ ผมได้รู้ล่วงหน้า 3 สัปดาห์ก่อนสอบเองมั้ง ท่านอย่าดีแต่ปาก กันได้มั้ยครับ !
ยังไม่รวมถึงความไม่ได้มาตรฐานในการคุมสอบ ที่ทำให้เกิดการลอกกันมากขึ้นมาก ๆ คนคุมสอบบางคน เห็นแต่ทำปล่อยผ่าน ผมพูดจิง ๆ นะครับ แต่ชำเลืองก็เห็นแล้วว่าคนข้าง ๆ ตอบอะไร แล้วถ้ามีใครที่มีคนเก่ง ๆ อยู่ข้าง ๆ แล้วรูั้ว่าเก่ง หรือรู้จักกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่การลอกจะเกิดขึ้น เหตุการณ์ การทุจริต เกิดขึ้นจริง ๆ และเกิดขึ้นมาตั้งแต่การสอบ แกทแพท แต่มาตรการป้องกัน ยังคงมืดมน และมีจุดบอดเช่นเคย !
พิมพ์มานานมากนะครับ ก็แค่หวังว่า ความเห็นนี้จะทำให้หลาย ๆ คนเข้าใจในระบบการศึกษาไทยมากขึ้น หลาย ๆ คนที่คิดว่า เด็กไทยด้อยประสิทธิภาพ แต่ ส่วนหนึ่ง ก็อาจจะมาจากผู้ใหญ่ที่มีความคิดไม่เหมาะสมจะเป็นผู้ใหญ่ก็ได้นะครับ
ขอบคุณสำหรับใครก็ตามที่อ่านมาจนจบ เฮ้อ นี่แหละ ชีวิต ม.6 ของผมครับ !
ปล. ดีที่ผมสามารถสอบตรงจนติดไปแล้ว มีใครเรียน ที่ TU มั่งครับ ^ ^ (บางคนอ่านมาถึงตรงนี้ คงคิดว่า แล้วเมิงงจะพิมพ์มาซะเครียดกับการสอบทำไม 55555)
จากคุณ |
:
Couldn't
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ก.พ. 53 19:59:00
|
|
|
|
 |