ความคิดเห็นที่ 1   เฮียสอแกชอบเปิดประเด็นอยู่แล้วครับ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 08:06:44 จากคุณ : vacuum_car เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 08:05:06

ความคิดเห็นที่ 2   คราวนี้เลยรู้เลย ทำไมคนโง่ๆถึงสอบได้ แล้วก็รู้ว่าทำไมคนที่เอ็นท์ไม่ติดถึงโดนตึก เพราะออกข้อสอบแบบนี้ไง เด็กถึงโดดตึก คนออกคิดได้ไง หน้าเขกกบาลจริงๆ จากคุณ : +สำนัก_พิทักษ์ธรรม+ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 08:25:58

ความคิดเห็นที่ 3   ออกจากห้องสอบกลายเป็นไอสไตน์ไปเลยครับ เฮียสอรับมุขเปิดระเบิดขำ แต่เด็กสอบทั่วดินแดนแสนระกำ สุดชอกช้ำ... โอ้ คุณป้ามหาภัย สู้ต่อไป อย่าท้อ เด็กนักเรียนแห่งสยามประเทศ จากคุณ : ทุ่งหัวช้าง เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 08:27:03

ความคิดเห็นที่ 4   ข้อสอบแบบนี้ไม่สามารรถที่จะแยก เด็กที่รู้กับที่ไม่รู้ออกจากกันแทบไม่ได้เลย การพินิจตัวเลือกทุกตัวยิ่งทำให้เสีย เวลาในการทำ้ข้อสอบแต่ละข้อเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว เนื่องจากต้องหาตัวที่ถูกแล้ว ยังต้องหาตัวที่ผิดอีก ต่างกับการที่จะต้องหาตัวที่ถูกเพียง 1-2 ข้อแล้วตอบเลยเหมือนสมัยก่อนๆ มากโข ถ้าอยากให้มันแยกออกนักก็ให้เด็กเขียนปรนัยอาจารย์เอาไปอ่านตรวจเองเลยไป๊ จากคุณ : บุรี เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 08:34:10

ความคิดเห็นที่ 5   สู้ สู้นะค่ะ น้องๆ ม.6 เมื่อเช้าดูรายการเฮียสอ เห็นระบบการสอบของบ้านเราเป็นแบบนี้ อืมมมมมมม.....อยากเห็นหน้าไอ้คนคิดข้อสอบ ลองให้ลูกเขา หรือตัวเขามาทำบ้างดูมั้ย อยากรู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า ส่วนคลิปเพลงนี้ ....อยากหัวเราะทั้งน้ำตาจริงๆ เซ็งแทนน้องม.6 ทำไมต้องมาเจอระบบการสอบแย่ๆแบบนี้ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 08:52:07 แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 08:43:49 จากคุณ : Pipo-Pookka เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 08:40:27

ความคิดเห็นที่ 6   บ้ามากโดยเฉพาะข้อสอบเทนนิสกับบัลเล่ต์ จากคุณ : caltz เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 08:43:12

ความคิดเห็นที่ 7   อยากดูคลิปครับ ใครก็ได้ช่วยแปะหน่อย อยากดูคลิปครับ ใครก็ได้ช่วยแปะหน่อย อยากดูคลิปครับ ใครก็ได้ช่วยแปะหน่อย อยากดูคลิปครับ ใครก็ได้ช่วยแปะหน่อย จากคุณ : giant_muangsiri เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 08:43:59

ความคิดเห็นที่ 8   เครดิต----gigcode จากคุณ : kamonsan เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 08:49:08

ความคิดเห็นที่ 9   เครดิต----gigcode  . จากคุณ : kamonsan เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 08:49:35

ความคิดเห็นที่ 10   เมื่อเช้าได้ดูข่าวแล้วปวดหัวกับข้อสอบมาก สงสัยคนออกข้อสอบเค้าคงออกข้อสอบแบบป้องกันการเดาคำตอบ แต่เปลี่ยนมาออกข้อสอบแบบให้เดาใจคนออกข้อสอบว่าจะให้ตอบแบบใด จากคุณ : I'm Markuss เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 08:52:01

ความคิดเห็นที่ 11   ThaiPBS ก็เคยนำเสนอ นำเสนอก่อนด้วย ทำไมจึงไม่พูดถึง จากคุณ : NatPhaew เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 08:55:26

ความคิดเห็นที่ 12   #8 ไม่ได้เปิดคลิปหรอกนะ แต่หน้าคลิปขึ้นคำถามบัลเล่ต์ช่วยแก้ไขเรื่องใด ถ้าใช้ common sense ตอบ เราว่ามันแก้ได้ทุกข้อเลยนะ แล้วจะตอบอะไรล่ะเนี่ย อีกครั้งที่รู้สึกดีว่าตัวเองแก่แล้ว ไม่ต้องไปเผชิญกับคำถามพิลึกๆพวกนี้ จากคุณ : i love summer rain เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 08:55:55

ความคิดเห็นที่ 13   อีกหน่อยเด็ก ๆ คงจะกลายเป็นบ้าไปหมด จากคุณ : the hulk เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:01:06

ความคิดเห็นที่ 14   หลังจากกล่าวคำขอบคุณแล้ว ก็สมควรมากล่าวคำขอโทษ ..คุณ คห.ที่11 ที่ตกข่าวไม่ได้ดู จากThaiPBS เอาเป็นว่า ไม่ว่าสื่อใด ที่หันมาสนใจในประเด็นนี้กันอย่างจริงจัง ผมก็จะเป็นตัวแทนลูกศิษย์และนักเรียน ม.6 ทั้งมวล กล่าวคำขอบคุณ น้ำตาของนักเรียน ที่ทั้งท่วมในและไหลออกมา มันบ่งให้เห็นความอึดอัด ขัดเคือง เพราะเมื่อสอบตรงไม่ได้ ก็หันมาหวังใช้ คะแนน ONET ซึ่งมีน้ำหนักคะแนนถึงร้อยละ 30 ในการยื่นเข้าระบบแอดมิดชั่น แต่พอมาเจอข้อสอบรูปแบบใหม่ ที่อ้างว่า ลดการเดา กาเอาเป็นพวง(พลาดข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้คะแนน) แถมแต่ละเรื่อง ครอบจักรวาล เป็นใครก็แทบคลั่งทั้งนั้นแหละครับ จากคุณ : ฝุ่นชอล์ก เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:08:45

ความคิดเห็นที่ 15   ขอบคุณจริงๆครับ จากคุณ : โลโซแมน เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:11:55

ความคิดเห็นที่ 16   ดีใจที่เกิดมาทันเอนทรานซ์รุ่นสุดท้าย น่าสงสารน้องๆ ม.6 อะ ถามหน่วยงานที่ออกข้อสอบหน่อยว่า ข้อสอบเป็นกลางแล้วหรือ อย่างข้อเทนนิสถ้าโรงเรียนไหนไม่มีสอนเทนนิส นักเรียนจะรู้มั้ย (เพราะมันไม่ได้อยู่ในหลักสูตรของโรงเรียน) แล้วมาบอกว่าออกข้อสอบเป็นกลาง ข้อสอบแบบนี้ไม่ต้องอ่านหนังสือก็ได้มั้ง เพราะเหมือนว่าเป็นตรรกะให้เด็กๆ คิดอ่ะ แล้วตรรกะของเด็ก กับมันสมองที่ใกล้จะตายของหน่วยงานที่ออกมันต่างกันนะคะ ถ้าสอบกัยเสร็จสิ้นช่วยทำเฉลยข้อสอบและบอกเหตุผลด้วยนะคะว่า ทำไมถึงตอบข้อนี้แบบละเอียด จะซื้อมานั่งอ่าน หากการศึกษาไทยเป็นแบบนี้อย่าสอบมันเลย O-Net, A-Net อะไรเนี่ย กลับไปเอนทรานซ์เหมือนเดิมดีกว่า ได้ใช้ความรู้เน้นๆ ปล. น้องๆ สู้ๆ นะคะอย่าเครียด ก็แค่การสอบ สอบได้ไม่ได้หรือไม่ได้ มันไม่ได้เป็นตัวตัดสินอนาคตของเรา อยู่ที่ตัวเราเลือกเดินมากกว่า สู้กัยต่อไปเด็กไทยเอ๋ย จากคุณ : สะใภ้เล็ก เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:12:09

ความคิดเห็นที่ 17   จากสายตาคนนอกที่ผ่านการสอบแบบเก่ามาก ปวดหัวแทนและมองไม่เห็นประโยชน์ของข้อสอบแบบนี้ มันชี้วัดอะไรได้ตรงไหน ยิ่งเรื่องน้องนกเนี่ย ถามหน่อยให้บทความที่ไม่เกี่ยวกับคำถามมาทำไมคะ เกิดมาไม่เคยเห็นประเทศไหนในโลกเค้าออกข้อสอบแบบนี้ ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกำลังพยายามทำอะไรกันอยู่ จะคิดข้อสอบเอาโล่ห์กันหรอคะ ทำเพราะอยากได้ผลงานกันรึเปล่า ขอโทษนะ พิมพ์แรงหน่อย ดูคลิปจบแล้วอารมณ์ขึ้นอ่ะ ไม่คิดว่าการศึกษาไทยจะกลายมาเป็นแบบนี้ แบบเก่ามันก็ไม่ได้ดีเลิศหรอกค่ะ แต่แบบนี้ดีกว่าตรงไหน เราไม่ชอบใจตรงที่อ้างว่าไม่บอกก่อนว่าจะมาแนวนี้ เพราะคิดว่ายังไงก็ถือว่าไม่มีใครรู้เท่าๆกันนั่นแหละ อ้าว...แล้วครั้งนึงในชีวิตเด็ก เค้าไม่มีสิทธิ์เตรียมตัวอะไรเลยหรอ สรุปสุดท้ายหวยก็ไปออกที่โรงเรียน ว่าเด็กที่ทำไม่ได้และบอกยาก เพราะโรงเรียนสอนไม่ตรงแกนกลางของหลักสูตร จะบ้าหรอ...โรงเรียนไหนเค้าจะมานั่งสอนวิธีการซักผ้าแบบละเอียดยิบ แล้วถามหน่อยในโลกนี้ เคยมีใครบัญญัติกฎการซักผ้าหรอคะ ว่าต้องทำแบบนี้ๆถึงจะเรียกว่าถูก ต้องแช่ผ้ากี่นาทีถึงเรียกว่าตรงตามกฎ แล้วถ้าทำตรงตามกฎแล้วมันจะยังไง ถ้าเราซักผ้าไม่ตรงตามกฎ แล้วผ้าเรามันจะเน่า ชีวิตเรามันจะแย่หรอคะเนี่ย โอว้...อึ้งจริงๆ พยายามทำอะไรกันอยู่คะเนี่ย ไม่เข้าใจเลยจริงๆค่ะ คาดหวังอะไรจากเด็กอายุสิบแปดกันอยู่คะ น้องเค้าบอกว่าจะเป็นไอสไตน์กันหมดแล้วเนี่ย ได้ยินเด็กประชดแล้วสะท้อนใจกันบ้างมั้ยคะ ทำแบบนี้มันไม่ช่วยลดกวดวิชาหรอกนะคะ แต่มันจะทำให้เด็กไทยกลายเป็นบ้าค่ะ คอยดูนะ อีกไม่นานจะมีโรงเรียนกวดวิชาวิชาสุขศึกษาและพละศึกษา เด็กลงเรียนกันแน่นเอียดแบบต้องแย่งแน่นอน ถ้ายังออกข้อสอบแบบนี้! จากคุณ : ฝันฟุ้ง-ปรุงคำ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:15:38

ความคิดเห็นที่ 18   อยากเห็นหน้าคนสอบได้ที่หนึ่ง จากคุณ : Neat เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:18:45

ความคิดเห็นที่ 19   ผมก็ดีใจที่ทัน เอน รุ่นสุดท้าย *-* จากคุณ : isavajung เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:18:47

ความคิดเห็นที่ 20   คือถ้าออกข้อสอบแบบนี้ที่คณะผม(ผมเรียนต่างประเทศ) เตรียมรับคะแนนฟรีเละกันเลยทีเดียว เพราะถ้าแย้งมีเหตุผลก็เอาไปเลย ไม่มีหรอกมาบอกว่าโรงเรียนสอนไม่ตรงแกนกลางของกระทรวงศึกษาธิการเอง โอ๊ยปวดหัวแทน สงสัยคนไทยรุ่นต่อ ๆ ไปจะมีบุตรกันน้อยลงเนื่องจากกลัวว่าบุตรหลานจะได้รับผลกระทบจากการจัดระบบของผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวง จากคุณ : arnata_first เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:19:09

ความคิดเห็นที่ 21   เด็กมันไม่ใช่หนูทดลองน่ะครับ เกินไปจริงๆ เอาอนาคตของเด็กมาผูกติดกับเรื่องแบบนี้ได้อย่างไง บ้าป่ะว่ะ เด็กมันไม่ได้จบแค่ตรงนี้น่ะ เขาต้องไปต่ออีก กลับไปใช้ระบบเอ็นเหอะครับ สงสารเด็กจริงๆ สงสัยต้องให้มีโดดตึกกันก่อนถึงจะสำนึก ปล.ข้อสอบที่ออกมาช่วยลูกหลานของพวกท่านหรือปล่าว จากคุณ : Torpad เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:19:38

ความคิดเห็นที่ 22   ตลกว่ะ ออกข้อสอบมาได้แสดงถึงสมองของคนออกข้อสอบมากเลยเหอะ -"- ดีใจที่เป็นรุ่นสุดท้ายที่ทันสอบเอ็นท์แบบเก่า แล้วก็เสียใจกับเด็กๆสมัยนี้ด้วยที่ต้องเจออะไร ป ญ อ แบบนี้ หึหึ จากคุณ : ~ButaชอบกินOkashi~ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:20:30

ความคิดเห็นที่ 23   อ่อ ที่บอกว่าข้อไหนที่ยากๆ ลึกๆ แล้วตอบไม่ได้ก็เพราะโรงเรียนสอนไม่ตรงแกน... ....ทำไมโบ้ยงั้นละค้าาาาาาาา ถามหน่อย ถ้าโรงเรียนแบบต่างจังหวัด เขาจะมาสอนระบำอินเดีย สอนบัลเล่ห์ สอนตีเทนนิสไหม -*- ไอ้ข้อสอบน้องนกเทนนิส ตีลูกวอลเล่ห์เนี้ยยยย (ตอนแกรก็งงว่าอะไรหว่าลูกเทนนิสแต่ไหงเป็นวอลเล่ห์ได้) ไม่ไหวจะเคลียร์นะคะ แต่ละข้อเอามานี่ เฮ้อ ปวดหัว อยากบอกว่า ทุเรศ ค่ะ แก้ไข - เขียนให้ถูกต้องค่ะ ตะกี้รีบพิมพ์ไปหน่อย แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 11:17:32 จากคุณ : ตั๊กจัง เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:35:04

ความคิดเห็นที่ 24   เห็นข้อสอบแล้วปวดตับ จากคุณ : WSquare เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:40:06

ความคิดเห็นที่ 25   ดีใจที่ยังทันสอบเอ็นแบบเก่า *คนออกข้อสอบ อยากโชว์ภูมิว่า เก่ง มั๊ง เลยออกข้อสอบง่าวๆ แบบนี้ เฮ้อ นักวิชาการไทย แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 09:40:39 จากคุณ : ทุเรียนสีชมพู เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:40:16

ความคิดเห็นที่ 26   ถ้าจะออกข้อสอบแบบนี้มาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องเด็กเดาข้อสอบ ผมว่าแก้ผิดจุดอย่างแรงครับ ในชีวิตคนเรา การเดาเป็นเหมือนพรสวรรค์อย่างนึงเหมือนกันนะครับ เพราะเราก็ไม่ได้รู้ไปเสียหมดทุกเรื่อง เดินเข้าห้างอยากได้เครื่องเสียงดีๆ เสื้อผ้าสวยๆ เครื่องสำอางค์เริ่ดๆ ก็ต้องเดาอยู่ดี เพียงแต่ว่าถ้าก่อนเราจะเดาเลือก/ตัดสินใจอะไรลงไป มีการหาข้อมูลมาในระดับหนึ่งเพื่อประกอบการตัดสินใจ/เดา ผมว่านั่นก็น่าจะเพียงพอแล้วมั้งครับ เทียบกับวิทยาศาสตร์ก็อาจเป็นการเดาอย่างมีหลักการ หรือการทดลองเพื่อหาผลลัพธ์ด้วยตนเองผ่านประสบการณ์ตรง (เหมือนไม่รู้ว่าไฟร้อนมาก่อน ไม่รู้ว่ามันลวกมือได้ จนกระทั่งเอามือไปถูกมันไปอังมัน ถึงได้รู้ว่าไฟร้อนนั่นเอง) สรุป อย่าคิดมากเลยเรื่องเด็กจะเดาข้อสอบเลยครับ ขนาดเครื่อง GT200 ที่ใช้ระบบให้คนเดา (โดยมีประสบการณ์ในการทำงานจริงและผลลัพธ์จากการฝึกฝน) ยังเป็นเหตุการณ์ระดับชาติที่เิกิดขึ้นจริงมาแล้วเลย แล้วจะเอาอะไรกับเด็กที่เดาข้อสอบล่ะครับ..มันก็แค่เรื่องธรรมดาเท่านั้นเอง จากคุณ : Liverpool_BigFan เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:42:26

ความคิดเห็นที่ 27   น่าสงสารเด็กรุ่นนี้ครับ  มันโหดไปไหม     ผมมาคิดดูแล้วนะครับ  คนที่จะได้เปรียบในเรื่องนี้นะครับ คือพวกพวกรุ่นพี่อย่างพวกเราที่ คิดจะซิ่วปีนี้เป็นปีที่ เปิดโอกาสให้พวกท่านมากเลยครับ คิดดูนะครับ คะแนน น้องรุ่นนี้ดรอปลงไปเยอะมากแน่นอน เพราถ้าถูกไม่ครบ คือ  0   ซึ่งรุ่นเก่าๆไม่มีอย่างนั้น    ปีนี้เด็กซิวสบายครับ คอนเฟิร์ม จากคุณ : MR_ANT เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:44:19

ความคิดเห็นที่ 28   สงสารลูกที่กำลังจะเป็น "เหยื่อ" ระบบห่วยๆนี่จริงๆ สมควรแล้วที่บางมหาลัยเค้าจะไม่เชื่อในระบบของสทศ.  ไม่เอาคะแนนแกท -แพทไปพิจารณา   สทศ.นับวันจะหากินกับเด็กและผู้ปกครอง - รังแกเด็กเพิ่มขึ้นมากขึ้นทุกวัน อยากรู้จริงๆ  รร.ไหนจัดหลักสูตรตามที่ข้อสอบออกมาบ้างฮึ.. เราหมดศรัทธากับคุณจริงๆ   เด็กที่กำลังจะจบม. 6 เข้าเรียนต่อระดับอุดุมศึกษา  เป็นปัญญาชน เป็นกำลังมาพัฒนาบ้านเมือง  โดนคุณยำซะเละเลย ขอร้องไห้และไว้อาลัยให้กับอนาคตของประเทศไทยจริงๆ จากคุณ : กู่ก้อง เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:51:26

ความคิดเห็นที่ 29   มาถอนหายใจ ตั้งแต่ทบวงมหาวิทยาลัย ย้ายมาอยู่กับกระทรวงศึกษาธิการ รู้สึกว่าจะแปลกประหลาดเข้าทุกที ให้ทบวงมหาวิทยาลัย เป็นอิสระเหมือนเดิมดีไหม เพราะไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จะให้มหาวิทยาลัยเป็นอิสระในการบริหาร ให้เขามีอิสระในการสอบคัดเลือกไปเลย ไม่งั้นนะ ทุกมหาวิทยาลัยต้องแก้ปัญหานี้ด้วยการรับตรง 100% แหง ปีนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับตรงร้อยเปอร์เซ็นต์ในบางคณะ รับตรง 80% ในบางคณะ เพราะว่าอะไร   ปัญหาเด็กสอบเข้าได้แต่เรียนไม่ได้มีแต่จะหนักขึ้นทุกวัน แทนที่กระทรวงจะแก้ป้ญหาให้มหาวิทยาลัย กลับบอกให้มหาวิทยาลัยไปติวเด็กเอง กระทรวงคงลืมไปว่า หลายมหาวิทยาลัยนั้น ใช้การตัดเกรดแบบอิงกลุ่ม ไม่ใช่อิงเกณฑ์ ดังนั้น ได้ 60-70 คะแนนเต็มร้อยไม่ได้การันตีว่าจะได้เกรดซี  บางสาขาวิชา (ที่เคยเจอมา) 80 คะแนนเต็มร้อยยังได้ ซีอยู่เลย ยิ่งถ้าความห่างระหว่างความสามารถของเด็กที่ได้จากการสอบตรงและสอบกลางมากเท่าไร ยิ่งเป็นปัญหามากขึ้นเท่านั้น สมัยก่อนเราปัญหานี้ไม่เห็นได้ชัดเพราะเด็กที่เข้าไปเรียนในแต่ละคณะได้มักจะมีความสามารถใกล้เคียงกัน ที่ฟลุคหลุดเข้าไปจริงๆ อย่างมากก็ปีละไม่กี่คน แต่ตอนนี้ละอะไรมันเกิดขึ้น ขอเสนอว่าให้มหาวิทยาลัยกลับมาเป็นทบวงอย่างเดิมและดูแลการสอบเข้าเองอย่างอิสระ ส่วนเรื่องที่จะคิดแก้ปัญหาเรื่องกวดวิชา อันนี้ก็ขอถอนใจแรงๆ อีกครั้ง สมัยก่อนเอ็นทรานต์ครั้งเดียวรู้เรื่องกันไปเลย ยังกวดกันแค่อย่างมากม.4-6 แต่ส่วนใหญ่กวดม.6 กันมากกว่า เดี๋ยวนี้ประถมก็เรียนพิเศษกันหมดแล้ว จากคุณ : jai_ya (Jai_ya) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:52:20

ความคิดเห็นที่ 30   จะให้ดีเฮียสอเชิญคุณป้า....จามร"มาร" มาคุยด้วยเลยดีกว่าครับ แถมไปว่า รร เขาสะงั้นว่าทำไมไม่สอน   โห่่่.... จากคุณ : princelove เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:52:32

ความคิดเห็นที่ 31   ดูแล้วแอบปรี๊ดดด เหมือนกันค่ะ ท่านว่าข้อสอบท่านมีมาตรฐาน... ขอโทษ.. มาตรฐานของใครเหรอคะ ???? ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าไปวัดโดยสำนักมาตรฐานการศึกษาที่ไหน ใครเป็นคน approve ????? ตามความเข้าใจของเรา มาตรฐานข้อสอบหมายความถึงความยากง่ายของข้อสอบในแต่ละครั้ง และความรู้ในข้อสอบที่เหมาะกับหลักสูตรที่นักเรียนเรียนมา รวมไปถึงความรู้ข้อสอบที่เหมาะแก่การนำไปใช้ได้จริงในอนาคต และความรู้ที่จะนำไปใช้ในสายอาชีพของบุคคลนั้นๆ แต่ข้อสอบนี้... เอิ่มมม ว่าง่ายๆ ตั้งแต่สอบ admission มาเนี่ย มาตรฐานในแต่ละครั้งเหมือนกันไหมคะ ??? นึกจะออกแบบไหนก็ออก นึกจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน ข้อสอบออกมาก็ผิดพลาดเยอะจนส่งผลเสียกับเด็ก แถมความรู้ด้านศิลปะการงาน โอเค มันเป็นความรู้รอบตัว แต่เวลาคนออกข้อสอบความรู้รอบตัว มันน่าจะเป็นอะไรที่สร้างสรรค์กว่านี้ไหม มันควรจะเป็นอะไรที่วัดความกระตือรือร้นของนักเรียนที่มีต่อสิ่งรอบตัวไม่ใช่หรือ แต่นี่มันเป็นคำถามที่ท่องจำลูกเดียวจริงๆ แถมไม่ได้เป็นคำถามแบบบูรณาการความคิดเด็กเลยสักนิด คุณว่าเด็กไทยไม่มีความคิดสร้างสรรค์ แล้วข้อสอบคุณมีความคิดสร้างสรรค์หรือไง ??? อยากรู้จริงว่าอย่างข้อคู่ฮันนีมูนนั่น การจัดอาหารเช้ามันมีความสำคัญกับชีวิตเด็กตรงไหน ?? ผ้าปูโต๊ะที่ใช้สีอะไร มันมีบรรทัดฐานที่ไหนวัด แล้วขอโทษ ถ้าบอกว่านี่เป็นข้อสอบวัดอีคิวเด็ก อยากบอกว่า ชื่อวิชามันคือการงานพื้นฐานอาชีพและศิลปะ มันไม่ใช่ชื่อวิชาวัดแวว หรือวัดทักษะความคิด นี่คุณออกข้อสอบผิดทักษะหรือเปล่า ??? ให้ตายยยย ไม่เข้าใจคนออกข้อสอบจริงๆ !! แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 09:57:51 จากคุณ : narujung เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:55:44

ความคิดเห็นที่ 32   สงสารเด็ก อยากให้สื่อ หรือมีกลุ่มคนเรียกร้อง ให้กลับมาใช้ระบบเอนทรานซ์แบบปีเราได้ไหมอ่ะ คือ สอบ 2 ครั้ง และ เก็บคะแนน 10 % จากเกรดเฉลี่ย เราว่าแฟร์ที่สุดแล้ว ถ้ามีต้องลงชื่ออะไร เด๋วเราไปร่วมลงชื่อเลย เห็นแล้วสงสารเด็ก ปล. ไอ้พวกออกข้อสอบ มันน่าโดนสอบแบบนี้มั่งนะ แบบว่า มีการออกข้อสอบการเลื่อนขั้นของข้าราชการกระทรวงศึกษา ให้พวกข้าราชการมานั่งทำข้อสอบแบบนี้มั่ง ถ้าสอบผ่าน เออ เชิญขึ้นเลื่อนตำแหน่ง อยู่ในตำแหน่งต่อไปได้เลย แต่ถ้าสอบตก อดเลื่อนขั้น ไม่ก็ออกจากตำแหน่ง มั่ง ดีมะ  พวกดีแต่ยัดเยียดให้คนอื่น ทีตัวเองอะ ไม่กล้า ชิห์ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 10:13:04 จากคุณ : chosen เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:00:33

ความคิดเห็นที่ 33   ขอบคุณสื่อทุกช่องทุกรายการที่ออกมาประชาสัมพันธ์ครั้งนี้ค่ะ ดีใจที่ความพยายามไม่สูญเปล่า จากคุณ : Ganadores เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:01:45

ความคิดเห็นที่ 34   ข้อสอบเข้า ม.ศรีธัญญา หรือเปล่าเนี่ย ? จากคุณ : bayou เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:07:28

ความคิดเห็นที่ 35   ดูอยู่เมื่อเช้า ยังนั่งหัวเราะเลยน่าเห็นใจน้องๆ ที่ได้สอบมากๆ ข้อสอบถามสีผ้าปูโต๊ะ วิธีการซักผ้า การเลือกดอกไม้ เหอๆ เอาใจช่วยขอให้ได้คะแนนฟรีในวิชานั้น เพราะดูจากข้อสอบตอบข้อไหนก็น่าจะถูกได้เหมือนกัน จากคุณ : Miss perjer_123 เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:07:59

ความคิดเห็นที่ 36   ในอนาคตจะขยันทำงานเก็บเงินเยอะๆค่ะ ส่งลูกไปเรียนมหาลัยที่เมืองนอก เอาแบบที่มีมาตรฐาน สร้างคนเป็นคน ไม่ใช่ออกข้อสอบสร้างคน "เป็นอะไร" แบบนี้ เพราะถ้าข้อสอบยังออกแบบนี้ ก็คงมีแต่ลูกหลานคนออกอ่ะค่ะที่จะรู้ว่าเขาอยากจะตอบข้อไหน  เฮ้ออนาจจิต จากคุณ : natta_naree@hotmail.com (nattanaree) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:08:31

ความคิดเห็นที่ 37   คิดถึงตอน ลูกตัวเองสอบจัง เฮ้อ ถึงจะอีกหลายปี แต่ก็ น่าเป็นห่วงแล้วซิเนี่ย จากคุณ : Dreams Catcher เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:10:06

ความคิดเห็นที่ 38   เห็นข่าวแล้ว อึ้งกิมกี่ไปเลย รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ตัวเองทันใช้เอ็นสะท้านแบบเก่า แม้ว่ามันจะทำให้สะท้านหนาวๆ ร้อนๆ แต่ก็....ไม่ถึงกับทำให้สติกระเจิงแบบนี้ จากคุณ : s_solar เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:13:16

ความคิดเห็นที่ 39   นั่งดูเหมือนกัน ทำไมข้อสอบมันแย่อย่างนี้..... ถามอะไร.....มันถูกไปซะหมด.... เอาพื้อนฐานจิตใจของคนออกข้อสอบมาเป็นเกณฑ์เหรอ ไม่ยุติธรรม.... จากคุณ : น.ส.ใจดี เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:15:11

ความคิดเห็นที่ 40   เห็นคำถามหลายๆข้อแล้วถึงกับอยากเห็นหน้าคนคิดข้อสอบกันเลยทีเดียว แนวทางการออกข้อสอบที่กล่าวมามันดูดีนะ แต่ทำไมข้อสอบมันไม่เห็นดูดีเหมือนคำพูดเลย **แก้ไข พิมพ์ตัวสะกดผิด** แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 10:39:13 จากคุณ : ยัยเซ่อซ่าส์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:38:22

ความคิดเห็นที่ 41   มันเป็นแนวเดียวกับข้อสอบ กพ. น่ะค่ะ ผู้ใหญ่ที่เคยสอบกพ.มาก่อน เห็นแล้วคงร้องอ๋อกันเลยสินะคะ อันนี้ง่ายกว่าพอสมควรเลย เราว่าท้าทายดีนะคะ น้องๆสู้ๆ ค่ะ จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:39:14

ความคิดเห็นที่ 42   คห 41 แต่เด็กเขาไม่ได้สอบ กพน่ะครับ เขาสอบวิชาที่เขาต้องไปเรียนศึกษาในมหาวิทยาลัย ควรจะออกตามที่เขาเรียนมา ที่อ่านมาด้วย ไม่ใช่นึกจะออกก็ออก แบบนี้ ก็แยสิครับ จากคุณ : Torpad เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:47:31

ความคิดเห็นที่ 43   น่าจะกลับไปใช่ระบบเอนทรานส์แบบเดิม - - จากคุณ : PPalone เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:50:22

ความคิดเห็นที่ 44   อีกหน่อยคงถาม "พรุ่งนี้เพื่อนบ้านจะกินข้าวกับอะไร" "กินอะไรถึงตดหอม" "ทำไมมาช่าไม่หลับไม่นอน" "พี่เบิร์ดใช้ครีมอะไร หน้าถึงเด้ง" "ฉันสวยไหม" "ยายเช็งใช้ส่วนผสมของอะไรทำน้ำหมัก ใช้ถังสีอะไร ผมหงอกกี่เส้น" อย่ามาหวังดีกับเด็กแบบผิดๆ อีกเลย หยุดทำร้ายเด็กเสียที จ๋าขอ จากคุณ : nong_france11 เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:54:07

ความคิดเห็นที่ 45   นี่ข้อสอบจริงๆ หรอคะเนี่ย นึกว่า quiz ใน facebook แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 10:56:19 จากคุณ : ทรายล้อมมุข เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:55:17

ความคิดเห็นที่ 46   กพ. ที่เคยสอบมันก็ไม่แบบนี้นะ เพราะนั่นคือข้อสอบวัดคนเข้าทำงาน มันก็เป็นข้อสอบที่มีแนวโน้มในเรื่องเกี่ยวกับการวิเคราะห์ตัดสินใจในการทำงาน เหนื่อยกว่าแค่สอบหลายภาคหลายหนเท่านเอง แต่นี่มันสอบคัดคนเข้าเรียนต่อนะ คนละวัตถุประสงค์เลย จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:55:21

ความคิดเห็นที่ 47   สงสารน้องสาวจริง จริ๊งงงงง T T จากคุณ : สะใภ้แห่งอาราธอร์น เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 10:56:50

ความคิดเห็นที่ 48   "ที่บอกว่าข้อไหนตอบไม่ได้เพราะไม่ได้สอน ก็เพราะโรงเรียน... " ผม ว่าให้กระทรวงศึกษาทำให้ได้ก่อนเหอะ ที่จะให้ทุกโรงเรียนมีการสอนเทนนิส มีการสอนบัลเลต์ มีการสอนการแสดงของอินเดีย มีการสอนการจัดฉากการแสดงสุดสาคร มีการสอนการจัดโต๊ะอาหาร (ข้อคู่แต่งงานนั่นมันถูกได้ทั้งนั้นอ่ะครับ เอาอะไรมาวัดว่าฝรั่งจะชอบกินผัดไทย) มีการสอนจัดโต๊ะวันแม่ให้ตรงใจแม่ทุกคน หลักสูตรการสอนแต่ละโรงเรียน มันต้องผ่านจากกระทรวงศึกษา หรือหน่วยงานการศึกษาต่าง ๆ ของกระทรวงนี่ครับ ดังนั้นเมื่อไอ้หน่วยงานนั้น ๆ ให้ผ่านก็แสดงว่ามันตรงตามกระทรวงแล้ว แล้วทางเจ้าหน้าที่กระทรวงจะมาบอกได้อย่างไรว่าข้อสอบที่ออกมานั้นแล้วทำไม่ ได้ เพราะโรงเรียนไม่ได้สอน   ไม่เข้าใจจริง ๆ และผมว่าไม่ใช่ทุกโรงเรียนที่มีสอน บัลเลต์ สอนเทนนิส ถึง โรงเรียนนี้จะสอนบัลเลต์ (คงจะมีโรงเรียนนานาชาติ) แต่ผมเข้าใจว่ามันคงจะแบ่งหญิงแบ่งชาย นัก เรียนชายคงจะมีส่วนน้อยมาก ๆ ที่ได้เรียนบัลเลต์กันครับ ซึ่งในที่ผมเคยผ่านมา ก็จะเรียนแยกกันหญิงชาย ที่จะเรียนรวมกันคือกิจกรรมเข้าจังหวะ (เต้นรำ) กันเท่านั้นเองครับ ก็อยากให้กระทรวงศึกษาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาข้อนี้ไว้ด้วยครับ แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 11:08:45 จากคุณ : Labura เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:00:55

ความคิดเห็นที่ 49   ไม่ได้ดูรายการนี้  พลาด  แต่ตามเข้ามาอ่านคร่าวๆ  เจอคำถามแปลกแบบนี้ในการสอบระดับประเทศจริงๆเหรอ  กรรม อนาถคนตั้งข้อสอบจังเลย  สงสารเด็กๆ น้องๆ ที่เจอคำถามแบบนี้  เมื่อก่อนสอบเอนฯ  ทำได้ทำไม่ได้เพราะข้อสอบมันยากเกินหรือไม่ก็ตอบพลาดเอง เจอคำถามแบบ  แม่อยากได้ผ้าปูโต๊ะสีอะไร  สีแม่(ป้า)นั่นป่าวนาาาา  -*-  ปวดตับแทนจริงๆ  เสียเวลาเด็กนั่งอ่านหนังสือเป็นปี  เตรียมตัวกับข้อสอบแบบนี้จริงๆ  เค้าเรียก  กำปั้นทุบดิน  จริงๆ   ให้คนตั้งคำถามมาทำดูเองบ้างไหม  สอบให้ผ่านดูหน่อย  เอาบรรทัดฐานความเป็นกลางของสังคม  ของการเรียนการสอนระดับประเทศเป็นเกณฑ์หน่อย  ไม่ใช่มาตั้งสีอะไร  อาหารอะไร  พิลึกจริงๆ ถ้าอย่างสอบเข้าแต่ละโรงเรียนจะไม่ว่า  เกณฑ์ความรู้ที่จะเข้าแต่ละโรงเรียนยากหรือง่ายต่างกัน  เด็กต้องเตรียมพร้อมกับข้อสอบที่ยากตามหลักสูตรของแต่ละโรงเรียน เมื่อก่อนตอนม.ปลายจำได้ว่า พวกวิทย์ แสงสี อะไรเนี่ยเล่มบางแต่ยาก  ก็ยังอยู่ในเล่ม  เพียงแต่เราไม่แตกฉาน  และพวกการทดลองเท่านั้น จากคุณ : galaga เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:11:10

ความคิดเห็นที่ 50   อยากบอกน้องๆ ม.6 ว่า การเอ็นท์ติดไม่ได้หมายถึงชีวิตน้องต้องประสบความสำเร็จแน่นอนนะคะ นานมาแล้ว พี่เอ็นท์ไม่ติดปีแรกเข้าไปเรียนเอกชน 1 ปี ปีต่อไปออกมาสอบใหม่ได้เข้ารัฐบาลคณะก็พอถูไถแต่ไม่ได้ชอบมาก ตอนนั้นดูดีเชียว พ่อแม่ภูมิใจที่เอ็นท์ติด แต่ถึงวันนี้ให้ย้อนเวลากลับได้ พี่อยากเรียนเอกชนคณะนั้นต่อ เพราะรู้สึกว่าจะทำให้ตัวเราก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากกว่านี้ ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลไม่ดีนะคะ แต่ถ้าเรียนเอกชนแล้วได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบจริงๆ กับเรียนรัฐบาลคณะอะไรก็ได้ที่ขอให้เข้าได้ไว้ก่อน เลือกเรียนในสิ่งที่ตัวเองรักดีกว่า และถึงวันนี้ เวลาพี่สัมภาษณ์คนที่มาสมัครงาน พี่รู้สึกว่าเด็กจากเอกชนไม่ได้เก่งน้อยกว่ารัฐบาลเลย ออกจะเด่นกว่าด้วยซ้ำ จากคุณ : adidasist เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:13:49

ความคิดเห็นที่ 51   เป็นบุญครับ ที่สอบ เอ็น รุ่นสุดท้าย.... ข้อสอบแบบใหม่วัดมาตรฐาน ชะเรี่ย อะไรกันวะครับ... เด็กที่เข้ามหาลัยตอนนี้ บ้างคน ยังไม่รู้จักคำว่า "education" แปลว่าไรเลย... นี่คือ มาตรฐานบ้านแป๊ะ ของพวกผู้ออกข้อสอบ ใช่ไหมครับ... เจริญละเมิงงงงงงงงงง.... จากใจจริง แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 11:17:35 จากคุณ : PB ลูกพ่อ Kahn เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:16:28

ความคิดเห็นที่ 52   ขอบคุณสื่อมากๆค่ะ ทุกๆสื่อเลย ข้อสอบสังคม... มีคำตอบ 2-4คำตอบ.. เวร แล้วข้อนึงมันจะเท่าไหร่ว่ะ? ตอบเกินหัก 1 ตอบขาดหัก 1 จากคุณ : Thegrim เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:18:48

ความคิดเห็นที่ 53   คำถามปัญญาอ่อนมากเลยค่ะ ที่คุณสรยุทธ์เอามาให้ดู คำถามแนวนี้ น่าจะให้มีการอธิบายค่ะว่าทำไมเด็กถึงตอบแบบนี้ คือเหมือนคำถาม ระดมความคิดเห็นมากกว่า ไม่ใช่คำถามที่เป็นแนวให้ตอบข้อใดข้อหนึ่ง เท่านั้น เป็นเราก็เลือกไม่ถูกหรอกค่ะว่าจะตอบข้อไหน ให้ถูกใจคนออก ข้อสอบและคนตรวจ และแล้วก็แก้ที่ปลายเหตุอีกแล้วค่ะท่าน ทำไมเวลาออกข้อสอบไม่มีคน ตรวจอีกรอบเหรอคะ ว่าคำถามเหมาะสมมั้ย หรือทำมันอยู่คนเดียว ถึงได้ ออกมาปัญญาอ่อนแบบนี้ คำถามแบบนี้ ต้องการอะไรจากผู้มาสอบเหรอคะ คนที่สอบได้คะแนนมาก คงไม่ใช่เด็กฉลาดและเด็กขยันแล้วมั้งคะ คงได้เด็กที่เดาเก่งและมั่วเก่ง มากกว่า หรือว่าต้องใช้ไสยศาสตร์ช่วยในการสอบ ถึงจะผ่านได้ หุหุ จากคุณ : คุณป้าจำเป็น เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:20:04

ความคิดเห็นที่ 54   ผมว่านะ แต่ไหนแต่ไรมา คนสอนคืออาจารย์โรงเรียนมัธยม แต่คนออกข้อสอบคืออาจารย์ที่อยู่ในมหาวิทยาลัย ตามหลักการว่าคนสอนเป็นคนเลือกเด็กเข้ามา มันก็เลยไม่สอดคล้องกัน ทางแก้ อาจารย์มหาวิทยาลัยเองต้องมีส่วนปรับหลักสูตรม.ปลายให้เข้ากับหลักสูตรอุดมศึกษา หรือให้อาจารย์มัธยมและมหาวิทยาลัยออกข้อสอบร่วมกัน จะดีกว่าไหมครับ (ถ้าตกข่าวว่าเขาเปลี่ยนแล้วก็ขออภัยนะครับ) ตามในคลิป ข้อสอบเอง กำกวมครับ ไม่รู้ว่าออกแล้วเอาไป test ทางด้านภาษาก่อนหรือเปล่า เพราะทำให้คิดได้หลายทาง ข้อสอบที่กำกวมจะทำให้ความแม่นยำของตัววัดลดลง จะอ้างว่าหลอก แต่ถ้าข้อสอบไม่ผ่านการ test ก่อน ก็เอาไปใช้ไม่ได้นะครับ คิดว่า ด๊อก-เตอร์ ทั้งหลายก็น่าจะรู้นี่ เพราะเป็นหลักการสถิติง่ายๆ ที่ใช้ในงานวิจัยอยู่แล้ว จริงไหมครับ จากคุณ : buddhi เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:24:48

ความคิดเห็นที่ 55   พึ่งรู้สึกว่า เราโชคดีที่เกิดก่อน และทันการเอนทรานต์รุ่นสุดท้าย คำถามครอบจักรวาล จะตอบยังไงคำตอบที่ถูกที่สุดก็เป็นไปได้ทุกข้อ แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน เช่น คำถามที่ว่า "นักเรียนอยากคบเพื่อนแบบใด" ตัวเลือก 4 ข้อ โอ้...แม่เจ้า เป็นเราจะกาเลือกมันทุกข้อเลย คำถามบ้าอะไร มันกว้างซะขนาดนั้น เฮ้อ...ระบบการสอบของไทย ทำไมถอยหลังลงคลองเข้าไปทุกวันๆ แล้วอนาคตเด็กไทยจะเป็นไงต่อไปเนี่ย เข้าใจเลยว่า ทำไมเด็ก ม.6 น้องๆเราทั้งหลายถึงเครียดกันจัง เดชะบุญที่เราแก่แล้ว เฮ้อ...อๆๆ จากคุณ : คุณยายตะบันหมาก เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:25:25

ความคิดเห็นที่ 56   ข้อสอบเยี่ยม สงสัยจะหยิบผิดไปให้น้องๆทำ O-Net ช่วยเอาไปให้พวกข้าราชการระดับบริหาร รวมถึงนักการเมือง ทำแล้วเอาคะแนน"สัก"ไว้ที่หน้าผากของทุกคนด้วย จะได้รู้ว่าใครระดับไหน จากคุณ : POT BLACK เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:27:38

ความคิดเห็นที่ 57   มันง่ายกว่า กพ อ่ะค่ะ วิธีตอบข้อสอบแนวนี้คือ hint ง่ายๆของมันก็คือ norm เป็นตัวกำหนดคำตอบค่ะ หากมโนไม่ได้ปรุงแต่ง คำตอบแรกที่ออกมาจากจิตใต้สำนึก (ที่ถูกปลูกฝังด้วย norm ของสังคม) จะเป็นคำตอบที่ถูกค่ะ ไม่ใช่การเดาใจคนออกข้อสอบนะคะ คำตอบกำหนดด้วย norm จริงๆ เช่น ดอกไม้จัดแจกันให้คุณแม่ในวันแม่ แม่เป็นโรคประจำตัวอะไร ควรจะเสริ์ฟอาหารอะไร  คิดมากไปจะผิดค่ะ เพราะ norm มาจาก normal ซึ่งมโนปกติจะทราบคำตอบค่ะ ยกเว้นถูกปลูกฝังตั้งแต่เล็กว่า แม่ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ให้รีบฆ่าทิ้งด้วยการเสริ์ฟปาท่องโก๋ทอดในน้ำมันชุ่มๆ เอาดอกไม้จันทน์จัดแจกัน เราจะได้รับมรดกไวๆ  ถ้าคำตอบเหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวเป็นอันดับแรก เอ่อ...อันนี้ไม่ใช่ norm อ่ะค่ะ เพราะมันผิดปกติ ... พอจะเก็ตไอเดียไหมคะ เราว่ามันมีประโยชน์กับน้องๆในอนาคตมากน่ะค่ะ คือ อาจจะยังไม่เห็นหรอกตอนนี้ ว่าตอบข้อสอบแบบนี้แล้วจะมีประโยชน์อะไร แต่ถ้าอนาคตต้องการรับทุนศึกษาต่อ หรือสอบเข้าทำงาน มันจะเป็นพื้นฐานในการเรียงลำดับความคิด และการเพิ่ม "ใจใส่" ต่อสิ่งรอบข้าง น่ะค่ะ ขอเป็น 1 เสียงที่เห็นต่างนะคะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 11:34:45 จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:32:58

ความคิดเห็นที่ 58   กลายเป็นกระทู้เช็คอายุกันไปเลย 555 ตอนนั่งทำข้อสอบเอ็นรุ้นสุดท้าย อารมณ์ขลังมากๆ อะ (หรือว่าเราสอบที่โรงยิมของมหาลัย นั่งสอบห้องเดียวรวมกับคนเป็นพันๆ) ข้อสอบตอนนั้นเป็นที่เรียนมาทั้งนั้น นอกจากข้อสอบวัดแววความเป็นครูที่ออกเชิงตรรกะ สงสารน้องๆ จัง สู้ๆ เน้อ ก็แค่สอบเข้ามหาลัยไม่ได้เป็นตัวกำหนดชีวิต (เราสอบไม่ติด ซิ่วก็ไม่ติด) ยังจบมาทำงานได้เลย ชีวิตเราเลือกเอง ขอให้แค่เลือกทำในสิ่งที่ชอบเป็นพอ สู้ๆ จากคุณ : สะใภ้เล็ก เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:33:20

ความคิดเห็นที่ 59   สงสารเด็กรุ่นนี้จริงๆ ตอนเราเรียนม ปลายเคยโดนข้อสอบใน รร ประมาณว่า ให้เรียงลำดับวิธีทำส้มตำ (ข้อสอบภาษาอังกฤษ) เีรายังว่าข้อสอบงี่เง่า เพราะใครมันจะไปรู้ล่ะ เราไม่เคยยืนดูเค้าตำส้มตำซักหน่อย มาเจอข้อสอบนี้ ของเราเนี่ยเด็กๆ ไปเลย จากคุณ : Rurujung เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:33:44

ความคิดเห็นที่ 60   ค่าสอบไม่คุ้มกะข้อสอบเลย เห็นแล้วปวดตับมากมาย คำถามงี่เง่ามาก อย่าเอามาตรฐานของเค้าเองมาบอกว่ามาตรฐานเลย ต้องใช้คนอื่นมาตัดสินละ เพราะกลุ่มผู้จัดอาจจะป่วยอยู่ ยังกะคำถาม เฟสบุ๊คขำๆ แต่กลับเอาคำถามแบบนี้มาตัดสินอนาคตเด็ก ออกไปเถอะป้า เบื่อมาก เห็นแล้ว รำคาญลูกตาจริงๆ พ่นความคิดออกมาแต่ละอย่าง มันไม่ได้เรื่องเลย คนแบบนี้ต้องจับมาตั้งเวทีดีเบทกันจะๆ เอาสองฝ่ายมาคุยกัน แบบรายการถึงลูกถึงคนแต่ก่อน ไม่งั้นเค้าไม่ยอมรับหรอกครับ จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:54:05

ความคิดเห็นที่ 61   ถ้าหากเป็นแบบ re 57 บอกจริงก็ต้องปรับการสอนคุยกันให้เรียบร้อย หใดกรู้วิธีการตอบคำถามประเภทนี้ มีการสอนเด็ก มันอนาคตเด็กเลยนะครับ ไม่ใช่เอาเด็กมาทดลองในห้องสอบครับ ผมไม่มีความรู้ทางสายศิลป์มาก เรียนวิทย์มาตลอด รู้สึกไม่ชอบใจที่เค้าทำตามใจแบบนี้ หากมีมุมดีๆของข้อสอบ ก็ควรรู้จังหวะในการนำมาใช้ มีการแนะนแนวชี้แจง เค้าพยายามปรับแต่ข้อสอบ แต่มันไม่สอดคล้องกะการเรียนการสอน แล้วมันจะได้เรื่องอะไรกันล่ะ ปัญหาตกอยู่กะเด็ก มันแปลกๆตั้งแต่เอาเอกชน มาจัดสอบแล้ว ค่าสอบบานทะลักมากเดี๋ยวนี้ มันควรเป็นภาครัฐจัดไม่ใช่หรอ แบบระบบเอ้นแต่ก่อนอ่ะ ก็มันเป็นข้อสอบคัดเข้ามหารัฐนี่ การปรับ ข้อสอบให้สอดคล้องกะการเรียนการสอนมันจะได้ทำได้ แก้ไปได้ พร้อมๆกันพเระเป็นองค์กรภาคเดียวกัน แบบนี้ก็โยนไปโยนมาแบบนี้ แย่มากครับ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 12:01:58 จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:59:39

ความคิดเห็นที่ 62   เข้าใจว่าตอนนี้ น้องๆกำลังโกรธ ที่อาจจะทำข้อสอบไม่ได้ หรือกำลังงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ลองนั่งทบทวนว่า วันนั้น คำตอบอะไรบ้างที่ผุดขึ้นมาในสมองครั้งแรกโดยปราศจากอคติ ส่วนมาก มันจะเกิดที่ข้อแรก แล้วพอเริ่มทำไม่ได้ จะเริ่มมีความโกรธเกรี้ยว ทำให้ข้อหลังๆ น้องๆพยายามคิดให้มันผิดไปจาก norm (นัยว่าประชดสังคม) ซึ่งมันจะไม่เกิดผลดีต่อคำตอบค่ะ ย้อนไปถึงคำตอบแรกที่ปิ๊งขึ้นมาตอนที่ยังไม่โกรธนะคะ แล้วน้องจะพบว่า น้องก็ยังคงอยู่ใน norm ของสังคมค่ะ ถูกที่ว่า ข้อสอบแบบนี้ ไม่เห็นจะบอกอะไรได้เลยว่า จะเป็นหมอ หรือเป็นวิศวกรมือฉมัง แต่ข้อสอบบอกได้ว่า ว่าที่คุณหมอคนนี้จะเป็นคุณหมอแบบไหน เป็นคุณหมอที่มีแนวคิดแบบปกติของสังคมไม๊ ว่าที่คุณหมอคนนี้ ถ้าทำข้อสอบแนวคิด และแนววิเคราะห์บริบทได้สบายๆแล้ว เตรียมตัวอ่าน text ที่จำเป็นต้องใช้อีกนิด หาความรู้รอบตัวเพิ่มอีกหน่อย ใส่ใจกับข้อมูลข่าวสารและสิ่งรอบข้าง ว่าที่คุณหมอคนนี้พร้อมจะสอบขอทุนแล้วค่ะ ยินดีด้วย เราไม่ใช่คนเรียนเก่งนะคะ เป็นคนเรียนกลางๆ แต่เรียนได้เรื่อยๆค่ะ ถือว่าความรู้ไม่มีวันหมด   สู้ต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้ จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:28:30

ความคิดเห็นที่ 63   #57,62 ข้อสอบแบบนี้มีประโยชน์ครับ แต่จะเกิดประโยชน์อันใด หากตลอดเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ถูกสอนหรือปลูกฝังให้เข้าใจวิธีการคิดวิเคราะห์ตามที่คุณอธิบาย หลังจากนี้ไปเด็กที่สอบไปแล้วก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี   เพราะข้อสอบออกมาแล้ว เด็กก็ทำไปแล้ว เรียนก็จบม.6 แล้ว ใครจะกลับมาอธิบายให้ฟังละครับว่าวัตถุประสงค์ของข้อสอบจะวัดอะไร หรือต้องใช้ norm ในการตอบอย่างไร จากคุณ : POT BLACK เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:36:58

ความคิดเห็นที่ 64   น่าสงสารอนาคตของชาติจริง แค่ตัวอย่างข้อสอบก็ทำเอางงแล้ว มันถูกทุกข้อแล้วอย่างนี้ก็ต้องเดาใจคนออกข้อสอบว่าเค้าออกแบบมายังไง ก็ต้องเดาอยู่ดีข้อสอบตามใจคนออก ถ้ารู้เฉลยแล้วโต้แย้งได้แบบสอบในมหาวิทยาลัยก็ว่าไปอย่าง ฟังจากท่านผู้ใหญ่ตอบเรื่องความเลื่อมล้ำของความรู้เทนนิสกับบัลเลย์แล้วได้แต่ถอนใจ ว่าจะแก้ไข อ้าวแล้วเด็กปีนี้ล่ะ มันอนาคตเค้าเลยนะ ดีใจที่เกิดเร็วก็ตอนนี้ล่ะ จากคุณ : นฤบาลบรรเทิง เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:38:25

ความคิดเห็นที่ 65   #57 แต่ nom มันวัดถูกผิดได้เหรอครับ อย่างข้อ นักเรียนอยากคบเพื่อนแบบใดเนี่ย ถ้าถาม nom ผม ผมก็จะเลือกมีน้ำใจ แต่มันตรงกับ nom ของคนออกหรือเปล่า เกิดเขาคิดว่าเอาใจเขามาใส่ใจเราล่ะ จากคุณ : Good night my dearest เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:45:02

ความคิดเห็นที่ 66   อืม เข้าใจว่าคงอยากให้เด็กคิดแบบมีตรรกะ แต่...คนออกข้อสอบน่ะมีตรรกะรึยัง คิดแบบรอบด้านรึยัง หือออออออ ไอ้ข้อที่ถามว่าอยากคบเพื่อนแบบไหนนี่ มันมีตรรกะว่าอย่างไร อยากรู้จริงๆค่ะอาจารย์ จากคุณ : Pampang เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:50:03

ความคิดเห็นที่ 67   ความรู้สึกแรกหลังจากที่ดูจบ คือ สงสารน้องๆที่ต่อไปคงจะเครียดกันมากขึ้นๆ เรียกว่าเครียดกันตั้งแต่ขึ้นชั้นมัธยมเลยทีเดียว ขนาดเราเรียนจบมาตั้งนานแล้วยังตอบไม่ได้เลย ไม่เข้าใจหรอกนะคะ ว่าสีของผ้าปูโต๊ะมันสำคัญยังไง แต่ถามจริงๆ เด็กจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยมันต้องอะไรกันขนาดนี้เลยเหรอ เพราะว่าต้องเครียดกัน 4-5 ปี ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยแบบนี้ไง บางคนพอเข้าได้ก็เลยปล่อยผีไปเลย เพราะกลายเป็นว่า มหาวิทยาลัยเหมือนสวรรค์ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างนรกของการสอบเข้ากับนรกของการทำงานที่รออยู่ เฮ้อ...เอาเป็นว่า ขอเป็นกำลังใจให้เด็กๆทุกคนด้วยก็แล้วกัน จากคุณ : JinJu เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:51:26

ความคิดเห็นที่ 68   จะว่ายังไงดีหว่า... เพราะนี่เป็นสิ่งที่สอนโดย text ไม่ได้น่ะค่ะ norm เกิดจากการเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆในสังคม หรือการสังเกตการที่ผู้อื่นมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆรอบตัว สิ่งที่ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองว่านี่ผิด นั่นถูก จะไม่ใช่คำตอบแรกที่เกิดจากมโนสำนึกในการตอบข้อสอบ เช่น เมื่อเห็นคนถูกรถชน แล้วคุณหัวเราะ คนรอบข้างมองคุณด้วยสายตาประหลาดๆ สมองจะเกิดการเรียนรู้ว่า เราไม่ควรหัวเราะถ้าเห็นคนอื่นเดือดร้อน   ถ้ามันสอนกันได้ หรือเขียนใส่ textได้ อนาคตอาจจะได้เห็นติวเตอร์เปิดสอน social norms, cultural norms เพื่อท่องจำก่อนการสอบเข้า เพื่อท่องจำก่อนการสอบ กพ. แน่เลย จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:51:47

ความคิดเห็นที่ 69   ดูข้อสอบแล้ว ทั้งขำทั้งสมเพชคนออกข้อสอบ ก็เพราะมีอาจารย์แบบนี้ ประเทศชาติถึงได้มีสี ไม่ว่าจะเลือกข้อไหน มันก็ไม่ถูกทั้งนั้น ที่ไม่ถูกน่ะ คือไม่ถูกใจ เอาอารมณ์ตัวเองเป็นที่ตั้ง แล้วให้เดาว่า ข้อไหน แบบนี้ บ้า เปล่าวะ สงสารเด็กนักเรียนที่สอบ พอสอบออกมาแล้ว ต้องโง่แน่ๆเลย เพราะไม่รู้ เหตุและผลของข้อสอบ ไม่เคยเขียนอะไรที่รุนแรงแบบนี้ แต่อยากเขียนที่รุนแรงคือ คนที่สามารถออกข้อสอบได้แบบนี้ ไปตายซะไป๊.... จากคุณ : หนอนสายตายาว เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:56:10

ความคิดเห็นที่ 70   ข้อชี้แจงเพิ่มเติมสักเล็กน้อยนะครับ คุณ Dek[N]a[R]o[K] โดยส่วนตัวไม่มีอะไรจะว่าอะไรครับ จะบอกแค่ว่าโดยส่วนตัวผมเอง ไม่ใช่เด็กที่ไปสอบครับ จบนานแล้วตั้งแต่สมัยยังใช้ระบบเอ็นน่ะครับ เวลาพิมพ์ไปรู้สึกว่ามีอารมณ์โมโหครับ เป็นธรรมดาเลย เพราะปัญหามีมานานมากแล้ว ไม่ได้รับการแก้ไขในทางที่มันดูดีขึ้น มีแต่ปัญหาใหม่ๆขึ้นมา ไม่ว่าข้อสอบจะดีหรือไม่นะครับ อย่างเราเตรียมสอบกพ. เราก็ยังทราบแนวว่า กพ.สอบแบบนี้นะ ต้องเตรียมแบบนี้ แต่เด็กๆรุ่นนี้แทบจะไม่ทราบอะไรเลย เปลี่ยนฉับพลันเสมอๆ อย่างรูปแบบกระดาษคำตอบ ก็บอกมาก่อนสอบเพียงไม่กี่เดือน ในทุกการสอบต้องมีการเตรียมตัวน่ะครับ เด็กควรได้รับสิ่งที่สมควรกับการเตรียมตัว หากมองว่าทุกคนรุ่นเดียวก็เจอเหมือนกัน มันก็มีปัญหาอีกว่าแล้วเด็กรุ่นก่อนๆก็ซิ่วมา มันมีความเหลื่อมล้ำในการพิจารณาน่ะครับ สารพัดปัญหาเลย ยังไงก็แล้วแต่โดยส่วนตัวก็เห็นว่าข้อสอบแบบนี้ไม่เหมาะเลย อย่าข้อเลือกเพื่อนผมเองก็คิดไม่ออกจริงๆว่าเพื่อนแบบไหนที่ควรเลือกกา หรือสีของผ้าปูโต๊ะ ผมว่ามันจะออกแนวตีกรอบความคิดมากไปนิดนึง แล้วเค้าต้องทำให้ถูกทั้งหมดในข้อนั้นแม้เลือกผ้าปูผิด อาหารดอกไม้ถูกเค้าก็ได้ 0 คงต้องแล้วแต่วิจารณาญาณน่ะครับ คิดต่างกันได้ ควรไม่ควรคงต้องดูกันหลายๆฝ่ายหลายๆมุม แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรและไม่ดีด้วยประการทั้งปวง แม้ไม่ใช่เด็กรุ่นนี้แต่รู้สึกไม่พอใจที่ข้อสอบระดับชาติเป็นแบบนี้ครับ จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:56:34

ความคิดเห็นที่ 71   ข้อสอบออกได้ เเบบว่า.... เห้ออออ อนาคตประเทศไทยยยย จากคุณ : prun poa เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:57:23

ความคิดเห็นที่ 72   เห็นข้อสอบแล้วอึ้งค่ะ..คนคิดคิดได้ยังไง จากคุณ : sweet_mu เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:58:01

ความคิดเห็นที่ 73   ใครอยากดูการชี้แจงข้อสอบจาก สทศ. ดูได้ที่นี่ครับ http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1605964&pageno=1 แต่ส่วนตัวอยากเห็นเฉลยมากกว่า อยากรู้ว่าเค้าจะตอบยังไง อธิบายยังไง แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 13:13:09 จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:11:10

ความคิดเห็นที่ 74   ตรงนี้ขอดูข้อสอบฉบับจริงน่ะค่ะ  มันน่าจะมีรายละเอียดปลีกย่อย มากกว่าที่น้องๆจำออกมา   ข้อไหนทำไม่ได้ ข้ามมันไปค่ะ choose the big rock พอมีเวลาเหลือ กลับมาดูมันอีกครั้งก็ได้ * Edit เห็นแล้วค่ะ ขอบคุณมาก หัวข้อบอกว่า เลือกให้ครบทั้ง 3 หมวด มิฉะนั้นจะไม่ได้คะแนน ไม่ได้บอกว่า เลือกให้ ถูก ทั้ง 3 หมวด มิฉะนั้นจะไม่ได้คะแนน ลองทำข้อ 27 เล่นๆนะคะ 1 มะละกอ << เบต้าแคโรทีนสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทั้งหมด 2 มะลิ << สัญลักษณ์วันแม่ 3 สีฟ้า << คุณแม่เกิดวันศุกร์ เหล่านี้คือคำตอบที่เราปิ๊งออกมาหลังจากอ่านโจทย์ในครั้งแรกค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 13:41:53 จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:21:11

ความคิดเห็นที่ 75   เข้าไปดูได้บางส่วนใน link  73 เลยครับผม ถ้ามีเวลาลองช่วยวิเคราะห์ดูก็ดีนะครับ ช่วยๆกันดู แล้วเดี่ยวว่างๆผมจะลองกลับมาอ่านดูครับ เป็นตัวข้อสอบจริงเลยครับ(บางส่วน) จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:27:02

ความคิดเห็นที่ 76   ถ้าจะออกข้อสอบแบบนี้ก็ควรปฏิวัติระบบการเรียนการสอนทั้งระบบตั้งแต่สมัยอนุบาลมาเลยครับ ไมช่สอนกันมาอย่างหรึ่ง แต่ตอนจะคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย ใช้วิธีการ กระบวนการคิดอีกแบบหนึ่ง แบบนี้มันเข้าข่ายรังแกเด็กครับ จากคุณ : นายเบียร์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:29:37

ความคิดเห็นที่ 77   ใครหาข้อสอบตัวจริงได้เอามาให้ดูในกระทู้ด้วยนะครับ ผมอยากเห็น set ของพวกการเลือกเพื่อนน่ะครับ ว่าเค้าให้อะไรมามากกว่านั้นไหม ส่วนพวกดนตรี ศิลปะ อะไรนี่เห็นข้อสอบก็คงทำไม่ได้อยู่ดี ไม่มีความรู้ ^^" จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:39:22

ความคิดเห็นที่ 78   "หัวข้อบอกว่า เลือกให้ครบทั้ง 3 หมวด มิฉะนั้นจะไม่ได้คะแนน ไม่ได้บอกว่า เลือกให้ ถูก ทั้ง 3 หมวด มิฉะนั้นจะไม่ได้คะแนน" อ่ะจริงสิครับ เค้าจะคิดแบบนั้นจริงๆหรอครับ ข้อแรกผมก็ตอบแบบคุณนะ ถ้าให้ผมตอบ ข้อสองยากขึ้น ไม่รู้จะให้เค้ากินไรดี ข้อสาม ข้อสี่ นี่ช่วยลองเฉลยหน่อยนะครับ ยากกว่าสองข้อแรก แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 13:49:29 จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:49:02

ความคิดเห็นที่ 79   งงกับข้อสอบของเด็กสมัยนี้ ถึงว่าสิเด็กไทยถึงฉลาดลงๆซักวันคงต้องวัดไอคิวเทียบกับลิงว่าใครฉลาดกว่ากันแหงๆ จากคุณ : สายลมปุยเมฆกับฟ้าสีคราม เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:53:29

ความคิดเห็นที่ 80   ดู link จาก 73 ตกลงเป็นแบบ   หลายตัวเลือก  หลายคำตอบ ใช่ไหม คือ ตอบให้มีเหตุผล 1. ผัดไทกุ้งสด << นอกจากต้มยำกุ้ง ฝรั่งน่าจะรู้จักนี่แหละ กุ้งสองตัว 2. ดอกกุหลาบ << ฮันนีมูน คู่รัก   จะดอกรักก็กะไร ฝรั่งคงไม่รู้จัก 3. ชมพู << เดา ไม่รู้ความรักฝรั่งจะสีชมพูรึเปล่า แต่ไม่รู้ตอบแบบนี้จะได้คะแนนเท่าไหร่ หรือเปล่า ?? T-T  มันน่าจะเป็นข้อสอบอธิบายเนาะ แก้ไข :: เลื่อนมาเห็นข้อ 29 ตะโก้ สังเกตนะ ว่ามีคำว่า น่ารับประทานยิ่งขึ้น ... แสดงว่า แบบเก่า ที่โรยกลีบกุหลาบมอญ ใบตอง แบบเก่า ยังน่ารับประทานไม่พอ นะ .... จ๊ะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 14:00:39 แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 13:59:48 จากคุณ : เคยแต่เอ็นสะท้่าน (สกุล ยินดี) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:55:58

ความคิดเห็นที่ 81   ^ คิดเหมือนผมเลย เลือกผัดไทกุ้งสดเหมือนกัน มันใช้ senseๆ เอา มันเป็นข้อสอบที่ดีจริงๆหรอครับแบบนี้ ถ้ามีให้อธิบาย ผมเชื่อว่าคนเลือกข้ออื่นเค้าก็อธิบายให้คล้อยตามเค้าได้นะ อาจจะมี เหตุผลที่ดีด้วยก็ได้ แม้ถ้าผมสอบและผมจะทำถูกตามเฉลยนะ ผมก็มองว่าข้อสอบแบบนี้ไม่เหมาะกะการจำนำมาใช้เป็นคะแนนเพื่อพิจารณา คัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยอยู่ดีน่ะครับ ใครคิดข้อสามข้อสี่แล้วมาตอบด้วยนะครับ ใครเห้นต่างในข้อ 1- 2 ก็บอกกันบ้างนะ ใช้ไปหลายรีพลายละ เกรงใจ ไว้จะมาแอบอ่านครับ จะได้ prove กันเลย เหมือนเด็กเข้าไปทำข้อสอบ ดูเรือ่งเวลา เรื่องการให้คะแนนในการทำด้วยนะครับ จะได้ดูหลายๆด้านว่ามันเหมาะที่จะนำมาใช้สอบกะเด็กเข้ามหาลัยไหมน่ะครับ จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:03:37

ความคิดเห็นที่ 82   คำอธิบายข้อสอบจะไม่เล่นแง่กับคนสอบนะคะ เพราะงั้น ถ้าคะแนนออกมาแล้ว มั่นใจว่าคุณทำครบ และตรงตามหมวดที่เค้าให้เลือกจริงๆ  ถึงเวลานั้นแล้ว คะแนนคุณมีปัญหา เราว่าฟ้องได้เลยค่ะ ยิ่งคนจัดเป็นเอกชนแล้วยิ่งง่ายต่อการฟ้องร้องด้วย ผิด 1 ใน 3 ไม่มีคะแนนเลยนี่ เราว่าทำร้ายจิตใจมาก (แต่ถ้าเป็นกพ. สอบแนวที่เป็น deontic logic ต้องถูกทั้งหมดค่ะ)   แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 14:22:47 จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:12:07

ความคิดเห็นที่ 83   แม่อิชั้นเกลียดมะละกอค่ะ ถ้าจัดมะม่วงให้แม่ทาน จะผิดมั้ย -*- จากคุณ : lovelypam เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:24:53

ความคิดเห็นที่ 84   เอาเรื่อง O-net ให้เจ้านายอ่าน เจ้านายบอกว่ามันก็เป็นการสอบที่ใช้ตรรกะที่ดี แต่มันเกี่ยวกับสิ่งที่เรียนมาหรือไง เจ้านายเมลไปจัดการ สทศ. เรียบร้อย (เจ้านายเป็นอเมริกัน) หนูไม่ได้ต้องการให้เจ้านายโวยวายน๊า 555 GM แซวว่า ระวังทางนั้นเค้าจะอ่าน Eng ไม่ออกนะ 555 ฮากันเข้าไป จากคุณ : สะใภ้เล็ก เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:32:26

ความคิดเห็นที่ 85   83 อ่านโจทย์ผิดค่ะ เค้าถามถึงคุณแม่ของ พัชรภรณ์ จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:36:11

ความคิดเห็นที่ 86   เรื่องของเรื่องคือ ข้อสอบ ควรมีกติกากำหนดชัดเจนว่าจะแนวไหน มันไม่เกี่ยวกับว่าข้อสอบมันมีประโยชน์เหมือนที่คุณ Dek[N]a[R]o[K] ว่าไว้หรือเปล่า แต่มันเกี่ยวกับการรับรู้ของเด็ก และการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เด็กได้เตรียมตัว ไม่ใช่สอนเด็กให้เล่นฟุตบอล พอเข้าห้องสอบดันบอกให้เด็กเต้นโคโยตี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องใช่มั๊ยครับ แม้ว่าจะอ้างว่า เต้นโคโยตี้มันก็มีประโยชน์นะ มันก็ไม่ใช่เรื่องอยู่ดี จากคุณ : คนดี มีคุณธรรม ค้ำจุนโลก เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:36:56

ความคิดเห็นที่ 87   ง่า ก็เห็นตอนต้นบอกว่า ออกข้อสอบ เอาอะไรคิด ข้อสอบไม่มีประโยชน์ ข้อสอบไม่เมคเซนส์ เราก็เลยหาประโยชน์ให้ไงคะ กลายเป็นมีประโยชน์ก็ไม่เกี่ยวแล้วเหรอ orz จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:41:40

ความคิดเห็นที่ 88   ^^^^ โอ๋ ตกลง ไม่มีใครผิด มันแค่ผิดที่ ผิดเวลา = ='' จากคุณ : สกุล ยินดี เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:44:40

ความคิดเห็นที่ 89   คุณ Dek[N]a[R]o[K] คะ เราแอบมีข้อสงสัยค่ะ แหะแหะ เราไม่ได้สอบเองหรอกค่ะ เลยวัยสอบมานานแล้ว แต่ก็สงสัย คือ เท่าที่อ่านข้อชี้แจงของทาง สทศ. เค้าบอกว่าที่เค้าให้ตอบหลายๆ ตัวเลือกนั้น เพราะป้องกันการเดาสุ่มของนักเรียน ดังนั้น หากบอกว่าป้องกันการเดาสุ่มของนักเรียน ถ้าเพียงตอบให้ครบเท่านั้น มันก็ยังเดาสุ่มได้ ในขณะที่หากต้องตอบให้ถูกทุกข้อ นั่นจึงจะทำให้เด็กไม่สามารถเดาสุ่มได้ เราเลยแอบสับสนเล็กน้อยค่ะ ว่าจะแค่ครบเท่านั้น หรือว่าจะต้องถูกด้วย ??? แต่ว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ยังคิดว่าการออกข้อสอบแบบนี้ไม่เหมาะสมค่ะ เราคิดว่าการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม มันต้องเปลี่ยนแปลงจากรากฐาน ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงที่ปลายเหตุค่ะ รากฐานการศึกษาคือการเรียนการสอนในโรงเรียนตั้งแต่อนุบาล ดังนั้น หากรัฐต้องการสอบข้อสอบแบบนี้กับเด็ก ก็ควรจะเปลี่ยนการเรียนการสอนในห้องของเด็กเล็กๆ ก่อน เด็กโตน่ะ จะเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยนยากแล้วค่ะ แล้วข้อสอบน่ะ ค่อยไปสอบเด็กๆ เหล่านั้นมีถูกฝึกมาแล้วในทิศทางที่ถูกต้อง อีกอย่าง หากจะออกข้อสอบแนวนี้ เราคิดว่าชื่อวิชาสอบก็ควรจะเป็นอีกหนึ่งชื่อค่ะ ให้เข้าใจกันไปเลยว่าคนสอบอยากจะวัดอะไร ไม่ใช่ว่าสอบการงานอาชีพ ศิลปะ เพื่อวัดความรู้ที่เรียนมา แต่กลับสอบเพื่อวัดทักษะอีกอย่างหนึ่งของเด็ก แบบนี้มันไม่แฟร์อ่ะค่ะ ในความคิดเรานะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 14:59:09 แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 14:55:06 จากคุณ : narujung เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:50:41

ความคิดเห็นที่ 90   ...ขอไว้อาลัยให้กับคณะกรรมการผู้ออกข้อสอบในครั้งนี้....ผู้ซึ่งทำให้เราเห็นว่า...คุณคือ " จุดอ่อน " ...เชิญกลับไปดื่ม วีต้า ...แล้วไปนอนซะ.. จากคุณ : กีวี่สีเขียว เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:09:16

ความคิดเห็นที่ 91   สั้นๆเลยนะ เราจะรู้ได้ไงว่าอะไรคือ norm? norm ของเรากับ normของคนออกข้อสอบตรงกันหรือไม่? พิจารณาจากตัวเลือกแล้ว ทุกๆข้อมีnormชัดเจนตัวเดียวรีเปล่า? การวัดความรู้เข้ามหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาต่อในแผนกการศึกษาที่ผู้เข้าสอบสนใจ normของผ้าปูโต๊ะจำเป็นแค่ไหน? ป.ล. โดนย้ายมานอกเรื่องอีกละ เซ็ง ข้อสอบมันกำกวมเกินไป จะวัดระดับวัดกึ๋นมันก็ไม่ได้ผิด แต่ความสามารถระดับเด็กมัธยมที่เตรียมความพร้อมมาอีกแบบหนึ่ง กลับทำการวัดระดับกันอีกแบบหนึ่ง มันสมควรและถูกต้องแล้วหรือ ป.ล. normคืออะไร เหมือน นอ มั้ย -_-" จากคุณ : doxday เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:26:24

ความคิดเห็นที่ 92   คุณ Dek[N]a[R]o[K]  อย่าลืมมาทำข้อที่เหลือด้วยนะครับ หากว่ามีเวลา จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:59:00

ความคิดเห็นที่ 93   เราก็เลยวัยสอบมาสักพักแล้วค่ะ แต่ยังเป็นวัยเรียนอยู่ (เรียนด้วยตัวเอง แฮะๆ) เรื่องการตอบ เราว่าแค่ครบ ค่ะ เพราะปกติของข้อสอบ คำแนะนำจะบอกว่า "จงเลือกข้อที่ถูกต้องเพียง 1 ข้อ" "จงเลือกข้อที่ถูกต้องมา 3 ข้อ" คราวนี้บอกว่า จงเลือกให้ครบ 3 หมวด ไม่งั้นจะไม่มีคะแนน แบบนี้อ่ะค่ะ อ้อ มีอีกข้อแม้นึงนะคะ คือคำว่า ใช้ร่วมกัน ตามลำดับ แต่เราสังเกตเห็น รหัส 0-9 ซ้ำกัน 4 หมวด A-G ซ้ำกัน 2 หมวด น่ะค่ะ คำตอบของทั้ง 4 ข้อ จะเรียงแบบนี้ค่ะ เลข - เลข - อักษร เลข - เลข - อักษร เลข - เลข - อักษร เลข - เลข - อักษร คนที่คิดจะเดานี่ ห่อเหี่ยวเลยนะคะ ถ้าผลออกมาบอกว่าน้องต้องตอบให้ถูกทั้ง 3 ช๊อยส์จะได้ 1 คะแนน เอาจุดนี้ไปฟ้องเลยค่ะ บอกว่า คำสั่งไม่ชัดเจน ใครที่ทำถูกตามคำสั่งแล้ว เคสนี้ต้องยกผลประโยชน์ให้ผู้สอบเท่านั้น แต่อย่างที่บอกค่ะ ถ้าข้อสอบ กพ.ถ้าเอ แล้วบี แล้วซี แบบนี้ต้องถูกทั้งหมดจึงจะได้คะแนนค่ะ ในคำสั่งก็เขียนชัดเจนดี จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 16:13:55

ความคิดเห็นที่ 94   เอาเป็นว่าถ้าคำสั่งแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว จะตอบอะไรครับ เอาจุดนี้ดีกว่า ยังไงผมก็เห็นว่าคงเป็นไปได้ยากที่เค้าจะยกประโยชน์ให้ผู้สอบทั้งหมด เพราะโจทย์บอกให้ตอบให้ครบไม่ได้สั่งว่าให้ตอบให้ถูกกรณีเป็นไปได้ยากครับ ข้อสอบกพ.ยกไว้ก่อนนะครับ อยากให้ลองดูมาตรฐานข้อสอบในกรอบที่ คำสั่งข้อสอบนั้นถูกต้องชัดเจนแล้ว อยากทราบความเห็นน่ะครับว่าจะตอบอะไรบ้าง ด้วย norm อะไร ยังไงช่วยอธิบายด้วยนะครับ จะได้ทราบว่าข้อสอบมีมาตรฐานไหมจริงๆ ยกเรื่องค่ำสั่งโจทย์ไว้ก่อน ยกเรื่องการเทียบกะข้อสอบ กพ.ไว้ก่อน เอาข้อสอบ o-net ซึ่งวัดเด็กโดยรวมทั้งวิทย์และศิลป์นี่แหละครับ มาคุยกัน แล้วจะเขามาดูครับ ขอบคุณที่สละเวลาครับ จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 16:25:15

ความคิดเห็นที่ 95   จัดไปค่ะ 28 ) 1 ผัดไทยกุ้งสด < อาหาร*บางชนิด* เป็นที่นิยมของต่างชาติ 2 ดอกรัก < ฮันนีมูน + วัฒนธรรมไทย 3 แดง < ความหมายของสีในเชิงศิลปะที่ได้รับการยอมรับ และบรรจุลงในแบบเรียนศิลปะในบทเรียนของสี การรับรู้ และคอมโพส   29) 1 มะลิ < ไทย+กลิ่นหอม 2 กรวยแหลม < จะใช้ใบเตยทำห่อ คงทำได้แค่ทรงกรวย 3 ใบเตย < กลิ่นหอม 30) 1 ข้าวห่อหมกปลาช่อน < ปลูกผักและมีแหล่งน้ำ 2 ห่อทรงสูงมีเตี่ยว < ถ้าห่อหมกเฉยๆคงใช้กระทง แต่พอดีมีข้าวด้วย 3 ใบตองสด < ห่อทรงสูงมีเตี่ยว คงต้องใช้ใบตอง ทุกอย่างเป็นคำตอบแรกที่เข้ามาในหัวอ่ะค่ะ แต่ก็อย่างที่บอก รอดูเค้าคิดคะแนน 4 ข้อนี้ ถ้าไม่ตามคำสั่ง เค้าต้องยกผลประโยชน์ให้ผู้สอบค่ะ จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 16:40:56

ความคิดเห็นที่ 96   ขอบคุณที่สละเวลามาตอบนะครับ แต่ผมบอกเลยนะตามความเห็นผม มันเป็นไปได้ยากมากครับที่เค้าจะตีความคำสั่งเค้าแบบนั้น ยังไงก็แล้วแต่คงต้องรอดูทาง สทศ.เฉลยนะครับ ว่า norm เค้าจะตรงกะ norm ของแต่ละคนไหม ขอบคุณมากนะครับ เชื่อว่าหลายๆท่านอาจมีคำตอบที่ต่างกันไป และคงมีเหตุผลที่ดีต่างๆกันไปเช่นกัน อย่างเช่นผม ผมคงเลือกดอกกุหลาบ เพราะแสดงความรักที่ฝรั่งเค้าเองเข้าใจความหมายได้ เป็นต้นครับ มาแว้บแรกเหมือนกันครับ ^-^ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 16:52:47 แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 16:50:25 จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 16:47:29

ความคิดเห็นที่ 97   ง่า ต้องรื้อฟื้นความจำวิชาสังคมสมัยมัธยมเลย Norm คือ...  บรรยายไม่ถูกอ่ะค่ะ แต่มันคือความปกติ คือสิ่งที่ทำให้สังคมดำเนินไปอย่างปกติ ประกอบด้วย วิถีประชา => ผิดวิถีประชา (การกระทำอย่างที่ไม่เป็นที่ยอมรับจากประชาชนในถิ่นนั้นๆ เช่น ใส่ชุดแดงไปงานศพ ใส่ชุดดำไปงานแต่งงาน) โดนมองด้วยหางตา ซุบซิบนินทา จารีต => คือศีลธรรม ผิดจารีต โดนชาวบ้านประนาม  โดนพาดหัวข่าว ดารา ก. แย่งแฟน ดารา ข. กฎหมาย => ข้อบังคับใช้ในสังคมนั้นๆ มีบทลงโทษที่ชัดเจน เช่น จำคุก ถูกปรับ   คำตอบข้อสอบที่ถามแนวนี้ คือตอบแล้วไม่ผิดปกติ สมเหตุและสมผล(เช่น บ้านนาย ข.ปลูกผักสวนครัว  ถามว่า พรุ่งนี้นายข.กินอะไรดี คนตอบเลยนึกถึงตัวเองว่าเป็นคนขี้เกียจ ตอบว่าโทรสั่งพิซซ่าก็แล้วกัน ทั้งๆที่โจทย์ถามเรื่องนาย ข. คำตอบมันก็เลยกระไรอยู่...) จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 17:10:57

ความคิดเห็นที่ 98   แล้วค่อยมาลุ้นอีกทีนะครับคุณDek[N]a[R]o[K] ว่าคำตอบที่ได้ตอบไปนั้น ฝืน วีถีประชา ฝืนจารีต ตามสายตาของคณะผู้ออกข้อสอบไหม ^^ ถ้าหากไม่ตรงกันมันก็ต้องมีปัญหาที่ไหนสักที่แล้วจริงไหมครับ ตรงนี้แหละครับที่เด็กๆเค้ากังวลกัน อันนี้ต้องรอดูเฉลยก่อนน่ะครับ ดูสิว่าความคิดความเห็น เราจะผิดวิถีประชาหรือว่าจารีตไหม ขอตัวก่อนะครับ ใครสนใจอย่าลืมดูเรื่องเด่นเย็นนี้กะข่าวสามมิติคืนนี้นะครับ จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 17:16:19

ความคิดเห็นที่ 99   อ.จุฬาท่านเฉลยดอกกุหลาบแหละครับ แต่ก็ไม่รู้นะสทศ.จะว่าไง อาจจะเป็นมะลิก็ได้ครับ จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 18:50:09

ความคิดเห็นที่ 100   คุณ Dek[N]a[R]o[K] ครับ แล้วคำตอบผมล่ะ ข้อ 28 1 ผัดไทกุ้งสด - ผัดไทเป็นอาหารขึ้นชื่อสำหรับชาวต่างชาติ 2 ดอกกุหลาบ - ดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก 3 สีชมพู - สีแห่งความรัก ข้อ 29 1 ดอกกุหลาบ - เพราะเป็นดอกไม้ที่กินได้ ขนมไทยบางอย่างก็นำมาเป็นส่วนประกอบ 2 ใบเตย - โจทย์ต้องการวัสดุมีกลิ่นหอม 3 กระทง 4 มุม - เพราะเอามาใส่ตะโก ข้อ 30 1 ห่อหมกปลาช่อน - ใช้ทั้งผักและปลา 2 ใบตองสด - ขนาดใหญ่และเหนียวมากพอจะมาใส่อาหารคาว 3 ถาดใบตองกลีบกุหลาบ - เพราะเลือกเอาใบตองเป็นวัสดุ เป็นยังไงบ้างครับ จากที่เห็น norm ของคุณกับผมก็มีทั้งจุดที่ตรงกันและไม่ตรงกัน ซึ่งเราก็ต่างมีเหตุผลของตัวเอง แล้วแบบนี้จะวัดกันยังไงล่ะครับ อย่างข้อ 27 ในหมวดดอกไม้ ถ้าคำตอบเป็นดอกรัก แล้วดอกกุหลาบของผมมันผิดตรงไหน ในเมื่อวาเลนไทร์เราก็ให้ดอกกุหลาบกัน ในหมวดผ้าปูโตะ ถ้าคำตอบเป็นสีชมพู แล้วสีแดงของคุณล่ะ มันผิดยังไงกัน คำถามที่ให้มา มันไม่มีหลักอะไรเลยอ่ะครับ ไม่มีตัวแปรตัวไหนที่ทำให้เราเห็นแล้วเลือกดอกไม้ดอกนั้น แล้วนี่มันจะใช้วัดผลได้ไงอ่ะครับ จากคุณ : Good night my dearest เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 19:49:43

ความคิดเห็นที่ 101   อย่าเพิ่งมั่นใจในตัวเองมากไปนะครับคุณ Dek[N]a[R]o[K] จากคุณ : POT BLACK เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 20:46:31

ความคิดเห็นที่ 102   ข้อสอบอะไรวะ จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 21:21:24

ความคิดเห็นที่ 103   ถ้าไม่มีคลิปมาให้ดูนี่นึกว่าล้อกันเล่นนะที่ออกข้อสอบแบบนี้ แต่จะว่าไป ถ้าจะบอกว่าเพื่อป้องกันการเดา เราว่านี่ล่ะใช้การเดา(ใจ)ล้วนๆเลยว่าเค้าจะให้เหตุผลอะไรมาสนับสนุนเฉลยตัวเอง * อีกไม่นานอาจมีสถาบันติวกฎแห่งการซักผ้า (ที่ใครไม่รู้บัญญัติขึ้น)ก็เป็นได้ จากคุณ : ชบา (Chababerry) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 23:40:28

ความคิดเห็นที่ 104   หากระทู้ไม่เจอค่ะ ไม่รู้ว่าอยู่นอกเรื่อง ก่อนหน้านั้นเล่นที่ทำงานเลยบุคมาร์คไว้ (ตอบช้าไปบ้างคือทำงานอยู่ด้วยอ่ะค่ะ) ขออภัยๆ orz ว่าแต่คุณ gnmd ถามอะไรเหรอคะ?  ถ้าหมายถึงถามว่าคุณผิด norm ไหม เราว่าคุณปกติและตั้งใจอ่านโจทย์ดีค่ะ บางข้อสำหรับเราเป็นชอยส์คัดทิ้งไปเลย เพราะเราไม่รู้จักว่ามันคืออะไร เช่น ถาดใบตองกลีบกุหลาบ เราจินตนาการไม่ถึงอ่ะค่ะ มันเลยไม่ปรากฏเป็นคำตอบแรกในหัว เห็นบางคนบอกว่าคนตั้งข้อสอบออกมาเฉลยแล้ว (รึป่าวคะ?) เค้าแจ้งวิธีการคิดคะแนนไหมคะ? ส่วนตัว เรื่องข้อสอบเราเฉยๆอ่ะค่ะ อย่างที่แจ้งไว้ตอนต้นเลยว่า เรามองว่าการสอบแนวนี้มีการใช้ลำดับความคิด และการใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคม (ที่เฉยคือ เราอาจจะสอบจนตายด้าน orz) พอเราเห็นหัวข้อสอบจริงๆ สิ่งเราสนใจกลับเป็นเรื่องวิธีการคิดคะแนนมากกว่า (คงเพราะเจอมาหลายข้อสอบเหมือนกัน พอเห็นหัวข้อสอบคลุมเคลือประหลาดๆ ไม่เคยพบมาก่อน เลยลองถามเรื่องการคิดคะแนนดู) (พอคุ้นเคยกับการออกข้อสอบบ้างนิดๆน่ะค่ะ แล้วค่อนข้างจะต้องเป๊ะกับคำแนะนำในการทำข้อสอบด้วย) แค่ความเห็นธรรมดาค่ะ เราไม่ใช่คนออกข้อสอบอวตารมานะ (สารภาพมา ว่าใครคิดว่าเราเป็นหน้าห้องคนออกข้อสอบบ้าง เอิ๊ก) ปกติไม่ค่อยตอบอะไรที่มีสาระอ่ะค่ะ ถือว่าทบทวนวิชาสังคมม.ปลายกันก็แล้วกัน (ส่วนวิชาคหกรรม ไม่อยากจะบอกว่าตอนเรียน...แม่ทำชิ้นงานให้หมดเลย ช่างเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ไม่แปลกที่เราจะไม่รู้จักกระทงลักษณะต่างๆค่ะ)   ปล. เราไม่ได้มั่นใจอะไรขนาดนั้นหรอกนะคะ เรากำลังผิด วิถีประชาของพันทิบอยู่ แห่ะๆ ก็แค่โดนด่าแล้วคิดว่า Eนี่บ่นบ้าอะไรของมันนะ ไว้ให้โครตเหง้ามาสอบเองสิ อะไรประมาณนั้น จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 01:03:29

ความคิดเห็นที่ 105   ระบบห่วยๆ คนที่ซวยคือเด็กตาดำๆ เดินตามผู้ใหญ่ที่คิดได้แค่นี้ โดนสุนัขกัดแน่ จากคุณ : ดำ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 01:43:48 A:125.25.83.111 X: TicketID:155125

ความคิดเห็นที่ 106   อ้อ ความหมายของผมก็คือ ผมคิดว่าข้อสอบชุดนี้ใช้ norm วัดไม่ได้ เพราะข้อสอบที่จะใช้ norm วัด ควรเป็นข้อสอบที่มีโจทย์ให้คนทำคิด norm ไปในทางเดียวกัน ไม่ใช่แบบนี้ ส่วนเฉลย รู้สึกว่ายังครับ มีแค่เพียงคุณอุทุมพรออกมาตอบข้อท้องในวันเรียน โดยเธอเลือกข้อดร๊อบเรียนไปคลอดลูกก่อน แต่เธอก็ไม่ใช่คนออกข้อสอบ และเหตุผลที่เธอเลือกข้อนี้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้คนคล้อยตาม จากคุณ : Good night my dearest เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 08:47:43

ความคิดเห็นที่ 107   ได้ฟังจากคุณสรยุทธ เรื่องการให้คะแนน ประมาณว่าต้องถูกต้องทั้ง 3 หมวดตัวเลือกด้วยถึงจะได้คะแนนข้อนั้นครับ ที่พวกเราพยายามทำๆกันในนี้ บางคนอาจจะไม่ได้คะแนนเลยนะ ขนาดแค่ 3 ข้อ นะเนี่ย จากคุณ : POT BLACK เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 10:10:24

ความคิดเห็นที่ 108   ส่วนเรื่องสีแดงของคุณ Dek[N]a[R]o[K] จริงๆแล้วสีแดงมีหลายความหมาย แต่หนึ่งในนั้นอาจหมายถึงความรักก็ได้ แต่จะเป็นรักแบบ hot passion ผมคิดว่าที่ถูกควรจะเป็นชมพู เพราะมีความหมายว่ารักแบบ romantic and charming ยังไงก็ยังคิดว่าบางข้อใช้วัดอะไรไม่ค่อยได้ หากวิธีการให้คะแนนเป็นแบบที่คุณสรยุทธบอก จากคุณ : POT BLACK เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 10:18:48

ความคิดเห็นที่ 109   ถ้าระบบคิดคะแนนเป็นอย่างที่เฮีย ส. ว่า น้องๆฟ้องเลยดีกว่า โหว่มากๆ มันโหว่มาก คำแนะนำอ่ะค่ะ ส่วนเรื่อง Symbolic ของสี มีการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวาง (รวมทั้งการใช้สีและความหมายของสีในหลายๆวัฒนธรรม) และบรรจุในแบบเรียนค่ะ (สมัยเรามีนะคะ เป็นพวกการใช้สี เส้น รูปทรง ในการสื่อความหมาย แดงคือ passionate love ส่วน ชมพู คือ innocent love คู่รักแต่งงาน จัดอยู่หมวด passion ได้แล้วน่ะค่ะ เราคิดว่าว่าข้อสอบชุดนี้คงไม่มีผลกระทบมากกับน้องๆสายวิทย์ เพราะยังไง ในจำนวนเด็กสายวิทย์ก็คงไม่มีใครตอบเรื่องพวกนี้ได้ 100 เต็ม แต่จะไปทำคะแนนตรงส่วนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือกระทั่งภาษาได้ (ลองคิดถึงการคิดคะแนนแบบมีนน่ะค่ะ) ส่วนเด็กสายศิลป์จะต้องขับเคี่ยวกันในส่วนของข้อสอบประเภทภาษา สังคม (ซึ่งยังไงคะแนนวิชาวิทย์คงสู้เด็กสายวิทย์ไม่ได้อยู่แล้ว)   ถ้าข้อสอบทั้งชุด เป็นแบบนี้หมด เราคงอึ้งอ่ะค่ะ แต่ถ้านี่คือ 10% ของข้อสอบ เราก็คงนิ่งๆ  choose the big rock ค่ะ อีก 90% ทำได้ ก็ผ่านอยู่แล้ว ส่วนไอ้ 10% นี้ เราทำไม่ได้ มีหรือ เพื่อนจะทำได้ (คิดบวกกกก คิดบวกกก) ปัญหาของข้อสอบเอนทรานซ์เดิมที่เราเจอมาก็คือ... นร. ได้เต็มและเกือบเต็มเยอะมากค่ะ คิดว่าหลายๆคนที่ผ่านการสอบแบบเก่า คงมีคนรู้จัก หรือตัวเอง ได้คะแนน 90 up บ้าง ส่วนนร.ที่อ่อนมากก็ดึงมีนกระจุย ยกตัวอย่างง่ายๆ ตอนนั้นเราลงสอบวิชาภาษาฝรั่งเศส ทั้งๆที่ไม่เคยเรียนเลย ไม่รู้เรื่องอะไรซักนิด (เราเรียนศิลป์-คำนวน) เข้าไปนั่งสอบเป็นเพื่อน ยังได้มาตั้ง 42 คะแนน ทั้งๆที่ความรู้วิชาภาษาฝรั่งเศสเราเป็น 0 เราเลยคิดว่ามันวัดอะไรแทบไม่ได้เลยอ่ะค่ะ ไม่เคยภูมิใจกับคะแนนฟลุ๊กๆของตัวเองด้วย แต่เอาไปโม้กับเพื่อนได้ว่า เราก็เดาเก่งนะ ให้คนที่เรียนฝรั่งเศสมาช้ำใจเล่นๆ (เรียกว่าเกรียนนั่นเอง) จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 12:56:07

ความคิดเห็นที่ 110   ไม่จริงครับ เอาข้อมูลมาโชว์เลยนะครับ ถ้าบอกว่าข้อสบสมัยเอ็นเต็มกันเยอะ จะมีเฉพาะสายคำนวนพวกเลข ฟิสิกส์ที่มีเต็มบ้าง ภาษาบ้าง แต่ชีวะ เคมี ไทย สังคมนี่แทบจะไม่มีเลยนะครับ เกิน 90 ก็ยากแล้ว บางทีสูงสุดยังแค่ 80 กว่าๆครับ ตรงนี้ยืนยันได้ครับ แล้วเรื่องของ 10% มันมองข้ามได้อะไรแบบนี้ ยิ่งไม่เห็นด้วยครับ ข้อสอบไม่ดีก็คือไม่ดีครับ จะ 10 % หรือ 5% ไม่ดีไม่เป็นธรรมก็คือตามนั้น มันไม่ควรมีครับ แต่ละคะแนนมีผลต่อนาคตเด็กเค้าครับ แล้วที่ว่าไม่มีผลกระทบต่อเด็กสายวิทย์เท่าไหร่ ไม่จริงอ่ะครับ แต่ขี้เกียจอธิบายน่ะครับ ขอโทษทีที่เสียมารยาทนะครับ แต่รู้สึกเหนื่อยละ กลับเข้ามาพิพม์คห.สุดท้ายครับ คงไม่มาคุยต่อละนะครับ รู้สึกเหนื่อยจริงๆกะการตามอ่านเรื่องนี้ ท้อแทนน้องๆทั้งๆที่ไม่ได้ไปสอบเอง มันไม่เป็นะรรมและมีปัญหาเยอะจริงๆในหลายๆมุม แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 53 14:12:35 จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 14:10:12